เรื่อง ดีดีในวาเลนไทน์ copy
วันวาเลนไทน์ปีนี้สำหรับผมก็คงเหมือนกับปีที่ผ่านมา ไม่มีดอกกุหลาบจากคนพิเศษ ไม่มีของขวัญบอกรักจากใจของใครบางคน จริงๆแล้วผมก็ไม่ได้คิดน้อยใจอะไร เพราะว่าคนพิเศษของผมคนนั้นเขาสละเวลามาพบผมเพื่อที่เราจะได้มีเวลาให้กันบ้าง แม้จะเป็นช่วงสั้นๆเพียงไม่กี่ชั่วโมงก็ตามผมอาจจะเป็นคนที่ประสพความสำเร็จในเรื่องของความรัก ผมมีคนรักที่รักและเข้าใจผมแต่กลับโชคร้ายที่ผมไม่ประสพความสำเร็จในการใช้ชีวิตคู่เพราะผมไม่เคยมีโอกาสได้อยู่ร่วมกับคนที่ผมรักเลย บางครั้งเพราะความเหงา การที่ต้องอยู่คนเดียวตามลำพังมันก็เลยกลายเป็นกระแสแรงผลักดันให้ผมต้องแสวงหาใครสักคนมาเป็นเพื่อนคลายเหงา.... เหมือนอย่างเวลานี้
เกือบสามทุ่มแล้ว ผมเดินทอดน่องอยู่บนถนนสุรวงศ์ที่แออัดและคับคั่งไปด้วยผู้คนรถรา วันนี้เป็นวันวาเลนไทน์และบังเอิญเป็นวันหยุดสุดสัปดาห์เสียด้วย ถนนแห่งโลกีย์สายนี้จึงดูคับคั่งและครึกครื้นเป็นพิเศษ ผมจำได้ว่าเมื่อประมาณสักยี่สิบปีก่อนชีวิตผมก็วนเวียนอยู่บนถนนสายนี้ ผมเคยทำงานและคุ้นเคยกับชีวิตในรูปแบบของคนกลางคืนมานานหลายปี จนถึงทุกวันนี้วิถีชีวิตของผมเปลี่ยนไป แต่บางครั้งผมก็นึกอยากกลับไปสัมผัสชีวิตและกลิ่นอายของอดีตเก่าๆที่ผมเหินห่างไปเนินนานนับเป็นแรมปี
จำได้ว่าบนถนนสุรวงศ์ช่วงที่เลยจากถนนพัฒนพงศ์มีบาร์เกย์เก่าแก่อยู่แห่งหนึ่ง บาร์แห่งนี้เป็นที่แรกและที่เดียวที่มีเด็กในสังกัดเป็นหนุ่มหุ่นล่ำบึ้กที่คัดมาโดยเฉพาะ สำหรับบาร์อื่นๆนั้นพนักงานในบาร์ส่วนมากจะเป็นเด็กวัยรุ่น แต่สำหรับที่นี่พนักงานหรือเด็กที่มีเอาไว้บริการลูกค้าส่วนใหญ่จะค่อนข้างเป็นผู้ใหญ่ บางคนอายุ 30 กว่าก็มี สำหรับตัวผมเองนั้นผมไม่นิยมอ๊อฟเด็กบาร์อยู่แล้ว คิดว่าถ้าไปเปิดหูเปิดตาดูอะไรสวยงามๆที่เราชอบบ้างก็คงจะดี
ผมเดินมาถึงหน้าบาร์ เจ้าของบาร์เป็นเกย์หนุ่มใหญ่วัยกลางคนที่ใครๆเรียกแกว่า"อาจารย์" บาร์แห่งนี้มีชื่อเสียงมาเนิ่นนานในด้านการบริการ เด็กๆในบาร์ทุกคนไว้ใจได้และไม่"รุมทึ้ง"แขกเหมือนบาร์บางแห่ง ผมทักทาย"อาจารย์"สองสามคำแล้วผลักประตูกระจกเข้าไปข้างใน บริกรที่เป็นหนุ่มหน้าตาดีเดินนำผมเข้าไปแล้วถามผมว่า
"พี่มาคนเดียวใช่ใหมครับ งั้นเชิญตรงนี้เลยครับ"
ผมทรุดตัวลงนั่งตรงเก้าอี้ที่มีโต๊ะตัวเล็กวางอยู่ตรงกลาง ครู่เดียวก็มีพนักงานในชุดเสื้อเชิ้ตแขนสั้นสีเหลืองเดินตรงมาถามผมว่าจะสั่งเครื่องดื่มอะไรดี
พนักงานคนนี้รูปร่างหน้าตาดีทีเดียวครับ อายุประมาณ 36-37 ปี เห็นจะได้ มีหนวด หุ่นล่ำๆ ท่าทางทะมัดทะแมง ดูดีมากในสายตาผม
"ขอเป็นน้ำอัดลมก็แล้วกันครับ" ผมบอก วูบหนึ่งของความคิดผมเสียดายที่เขาไม่ได้เป็นเด็กขายบริการเหมือนเด็กหนุ่มๆที่ยืนโชว์ส่วนสัดอยู่บนฟลอร์
ผมกวาดสายตาไปรอบๆ พนักงานที่เป็นเด็กขายบริการในนี้มีมากเกือบ 50 คน แต่ที่สะดุดตาผมมีอยู่เพียงสองคนคือพนักงานหมายเลข 46 กับหนุ่มหุ่นล่ำหนวดดกคนนั้น
"พี่อยากจะเรียกน้องๆมานั่งเป็นเพื่อนสักคนใหมครับ" หนุ่มหุ่นล่ำหนวดงามที่ผมยังไม่รู้จักชื่อเอ่ยถาม ปรกติแล้วถ้าแขกเรียกเด็กมานั่งคุยก็จะต้องสั่งเครื่องดื่มให้เด็กด้วย อาจจะเป็นน้ำอัดลมหรือเครื่องดื่มผสมแอลกอฮอล์ เด็กอ๊อฟจะมีรายได้จากเครื่องดื่มที่เราสั่งให้เขาโดยทางบาร์จะหักเปอร์เซ็นต์ให้
"ก็ดีเหมือนกันครับ น้องเบอร์ 46 เขาน่ารักดี คุณช่วยเรียกเขามานั่งก็แล้วกัน" ผมตอบ คู่สนทนาของผมเดินออกไปครู่เดียวก็เดินกลับมาพร้อมกับหนุ่มหน้าตาดีคนนั้น
"สวัสดีครับพี่ พี่อยากคุยกับผมหรือครับ" เขาถามพลางยกมือพนมไหว้ ผมรับไหว้แล้วตอบว่า
"ครับ เหงาๆ มาคนเดียวเลยอยากหาเพื่อนคุย" ผมพูดพลางปรายตามองไปรอบๆ
"วันนี้แขกเยอะเหมือนกันนะครับ"
"ที่จริงก็ไม่เยอะเท่าไหร่หรอกครับ วันนี้เป็นวันเทศกาลด้วย ที่จริงแขกน่าจะมากกว่านี้ หรือบางทีเขาอาจไปฉลองกันที่อื่นก็ได้ครับ" หนุ่มเบอร์ 46 ตอบ ผมพยักหน้าพลางพินิจพิจารณาคู่สนทนาของผม หนุ่มคนนี้หน้าตาดีทีเดียวครับ มีหนวดแต่ไม่ดกมาก รูปร่างสูงใหญ่ ผิวขาว อายุน่าจะราวสัก 28-29 ปี ถ้าจะเทียบกันแล้วผมชอบหนุ่มคนแรกมากกว่าเพราะดูเป็นผู้ใหญ่และหน้าตาคมเข้มกว่า เราสนทนากันถึงเรื่องต่างๆ เรื่องรายได้ ชีวิตความเป็นอยู่และเรื่องส่วนตัวของเขา เขาบอกผมว่าเขาชื่อ"สาธิต" มีครอบครัวแล้ว มีลูก 1 คน ทางบ้านของเขารู้หมดว่าเขาทำงานอะไร ผมรู้สึกแปลกใจในสิ่งที่ได้รู้
"ไม่แปลกหรอกครับพี่ เพื่อนๆผมที่ทำงานที่นี่หลายคนก็มีครอบครัวแล้ว บางคนกลางวันทำงาน กลางคืนมาหาลำไพ่พิเศษที่นี่ก็มี"
"แสดงว่ารายได้ดี ? " ผมออกความเห็น สาธิตส่ายหน้า
"มันก็แล้วแต่ดวงครับ พวกผมไม่มีเงินเดือน รายได้ก็มาจากที่แขกสั่งดริ้งค์แล้วก็อ๊อฟออกไปข้างนอก บางวันก็ไม่ได้เลย แต่บางวันได้เป็นพันก็มี"
"แล้วอย่างคุณล่ะ ปรกติแล้วคุณคิดค่าบริการเท่าไหร่?" ผมถามไปอย่างนั้นเอง ไม่ได้คิดจะอ๊อฟเด็กคนนี้หรอกถ้าจะอ๊อฟผมอยากอ๊อฟหนุ่มเสื้อเหลืองคนนั้นมากกว่า
"พันห้าครับ พี่สนใจใหม?" สาธิตบอก ผมยิ้ม
"ไม่หรอกครับ ผมอยากจะมาดูโชว์มากกว่าน่ะ ขอบคุณ" ผมปฏิเสธ คิดในใจว่าสำหรับสาธิตผมสั่งดื่มให้เขาสองดื่มก็มากเพียงพอแล้ว
"แล้วพนักงานคนที่ใส่เสื้อสีเหลืองๆคนนั้นล่ะครับ เขาเป็นกัปตันใช่ใหม ผมจะเรียกเขามานั่งคุยด้วยได้หรือเปล่า" ผมถามสาธิต
"อ๋อ เขาเป็นพนักงานเสริฟครับไม่ใช่กัปตัน กัปตันยืนอยู่ที่หน้าเคาน์เตอร์บาร์ครับ ใส่สูทสีดำ ถ้าพี่อยากคุยกับเขาเดี๋ยวผมไปเรียกให้" สาธิตตอบแล้วเดินผละออกไป ครู่เดียวคนที่ผมอยากสนทนาด้วยก็เดินเข้ามาหา
"พี่อยากคุยกับผมหรือครับ" คู่สนทนาที่ผมยังไม่รู้จักชื่อเอ่ยถามพลางทรุดตัวลงนั่งที่เก้าอี้ข้างๆผม
"ครับ ผมสนใจคุณนะ ไม่รู้สิ รู้สึกถูกชะตากับคุณยังไงไม่รู้" ผมตอบตามความรู้สึก ถ้าเป็นไปได้ผมก็อยากรู้จักเขามากกว่านี้ แต่มันจะเป็นไปได้หรือ......
"คุณเป็นคนรูปร่างหน้าตาดี ผมชอบคนลักษณะอย่างคุณนี่แหละครับ ทำไมคุณถึงคิดมาทำงานแบบนี้ล่ะครับ" ผมถาม
"ผมความรู้น้อยครับ จะไปหางานอย่างอื่นทำก็ไม่รู้จะไปทำอะไร ผมทำงานเป็นพนักงานเสริฟอยู่ที่นี่รายได้ถึงไม่มากก็นักก็จริงแต่ก็พออยู่ได้ครับ"
"ที่นี่เขาให้เงินเดือนคุณเท่าไหร่" ผมถามต่อ
"ผมไม่มีเงินเดือนหรอกครับ พนักงานเสริฟที่นี่มีอยู่สามคน รายได้ส่วนใหญ่ก็มาจากทิปที่แขกให้ บางวันก็มาก บางวันก็น้อย ถ้าแขกเยอะบางทีได้ 300-400 บาทก็มี แต่บางวันแขกน้อยได้ไม่ถึงสองร้อยก็มีครับ" ผมรับคำเบาๆในลำคอ
"นี่เราคุยกันอยู่ตั้งนานผมยังไม่รู้จักชื่อคุณเลย คุณชื่ออะไรครับ" ผมถามอีก คู่สนทนาของผมยิ้มยิงฟันขาว ตอบผมว่า
"ผมชื่อแสวงครับ พี่ครับเดี๋ยวผมต้องขอตัวนิดหนึ่งนะครับ มีแขกเข้าผมต้องไปดูแลแขกเดี๋ยวว่างแล้วจะกลับมานั่งคุยด้วยนะครับ" แสวงพูดแล้วเดินผละจากไป ผมมองตาม ผู้ชายคนนี้ดูดีไปหมด ท่วงท่าของเขาทะมัดทะแมง ใบหน้าเข้มๆนั้นเจือด้วยรอยยิ้มอยู่เสมอ นี่ผมหลงเสน่ห์เขาเข้าแล้วหรือนี่
ผมก้มลงมองนาฬิกาที่ข้อมือ เกือบสี่ทุ่มครึ่งแล้ว เวลาช่างผ่านไปรวดเร็วเหลือเกิน ผมยังไม่อยากกลับ แต่จะมีประโยชน์อะไรในเมื่อสิ่งที่ผมคาดหวังมันคงไม่อาจเป็นไปได้ ผมอยากจะใช้เวลาของค่ำคืนนี้อยู่กับแสวง แต่ผมไม่รู้ว่าเขาคิดอะไร ถ้าผมจะลองเสี่ยงดูมันก็คงไม่เสียหาย ผมคิด
แสวงเดินกลับมามาหาผม ผมตั้งใจจะสั่งดื่มให้เขาแต่แสวงปฏิเสธอ้างว่าเวลาทำงานเขาไม่อยากดื่ม แต่ถ้าผมจะชวนเขาออกไปข้างนอกหลังบาร์เลิกเขาก็เต็มใจ ผมใจชื้นขึ้นมาทันที
"แล้วถ้าผมจะขอมากกว่านั้นล่ะ หมายถึงถ้าผมอยากจะพาคุณไปโรงแรมหรือไปที่ไหน...." ผมกลั้นใจถาม แสวงมองหน้าผม
"ผมไม่รังเกียจพี่หรอกครับ พี่ก็ดูเป็นผู้ชายดีไม่ออกสาว ถ้าจะให้ผมไปกับพี่ก็ได้แต่พี่จะรอผมได้ใหมล่ะครับ บาร์ปิดตีสอง"แสวงตอบ
"ที่จริงผมไม่อยากกลับดึกมากหรอกครับ คืนนี้ผมพักที่บ้านเพื่อนถ้ากลับดึกมากก็เกรงใจเขา แล้วเราออกไปก่อนบาร์เลิกไม่ได้หรือ"
"ถ้าออกไปตอนนี้พนักงานเสริฟก็จะขาดไปหนึ่งคนแล้วผมก็จะไม่ได้ทิป พี่ก็ต้องเสียค่าชาร์จให้บาร์ด้วย แต่ถ้าพี่ต้องการอย่างนั้นเดี๋ยวผมจะไปบอกกัปตันให้ วันนี้แขกไม่เยอะคงไม่เป็นไร" ผมพยักหน้า แสวงเดินออกไปครู่เดียวก็เดินกลับมาบอกว่า
"ผมบอกกัปตันแล้วครับ เดี๋ยวผมขอตัวไปเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อน พี่เช็คบิลเลยนะครับ" แสวงบอก ผมยื่นธนบัตรฉบับละพันให้เป็นค่าเครื่องดื่มและค่าธรรมเนียมที่พาพนักงานของบาร์ออกไปข้างนอก พลางบอก
"ที่เหลือไม่ต้องทอนผมก็ได้ คุณเก็บเอาไว้เองก็แล้วกัน ผมจะรอที่หน้าบาร์นะครับ"
* * * * * * * * * * * * * * *
ผมพาแสวงมาที่โรงแรมม่านรูดย่านถนนสุรวงศ์ แสวงออกตัวก่อนหน้าที่จะออกมากับผมว่าเขามีลูกมีเมียแล้ว บางอย่างเขาก็อาจสนองตอบให้ผมไม่ได้ การมีอะไรกับผู้ชายด้วยกันมันเป็นเรื่องธรรมดาสำหรับเขาก็จริง แต่เขากลัวว่าผมอาจไม่ประทับใจและอาจผิดหวังในตัวเขา ผมบอกแสวงว่า
"เรื่องนั้นมันไม่สำคัญหรอกครับ ถ้าเราพอใจกัน ผมพอใจคุณ เรื่องอื่นๆมันไม่สำคัญสำหรับผมหรอก ผมยังไงก็ได้ ไม่บังคับหรือฝืนใจคุณหรอกนะ"
ในท่ามกลางความสลัวของแสงไฟหัวเตียง ร่างของเราทั้งสองคนเปลือยเปล่า แสวงหุ่นดีมาก ร่างกายที่ล่ำสันแข็งแรงเหมือนคนทำงานหนักงดงามไม่มีที่ติในสายตาผม ผมอ้าปากขบหัวนม แสวงร้องครางเบาๆ
"อูย เสียวครับพี่" ผมเลื่อนใบหน้าลงมาตรงส่วนสำคัญของแสวง มันอวบใหญ่แข็งเป็นลำดูสมตัวเจ้าของ ผมใช้ลิ้นสากๆค่อยละเลียดขุมพลังแฝดสองลูกเบาๆ แล้วอ้าปากครอบท่อนเนื้อนั้นเข้าไปจนมิดลำ ผมทำอยู่เพียงครู่เดียวแสวงร้องบอก
"อูย... พี่ครับ หยุดก่อนเดี๋ยวผมน้ำออก...." ผมถอนปากออก แต่ยังใช้มือกำแท่งทวนเอาไว้ คราวนี้แสวงจับผมลงนอนหงายแล้วขึ้นมาคร่อมทับตัวผม ใช้ลิ้นขบติ่งหูแล้วเม้มหัวนมเบาๆ ผมรู้สึกเสียวซ่านจนต้องร้องครางออกมาอย่างลืมตัว
"พี่ครับ ผมขอเอาพี่ข้างหลังนะ..." แสวงพูดเสียงกระเส่า ความจริงนอกจากคนที่ผมรักแล้ว ผมก็ไม่อยากให้ใคร แต่ไม่รู้เป็นเพราะอะไรสำหรับแสวงผมยินดีและเต็มใจให้
แสวงหยิบถุงยางออกมาฉีกซอง ใช้น้ำลายทาหล่อลื่นแล้วจับผมนอนหงาย ค่อยๆดันแท่งทวนขนาดเขื่องเข้าไปช่องทางของมันทีละนิด ผมหลับตา มันซ่านเสียวอย่างบอกไม่ถูก แสวงค่อยๆขยับจากจังหวะเนิบนาบเป็นเร่งร้อนขึ้น มือก็จับอาวุธของผมสาวไปพร้อมๆกันด้วย
"พี่ครับผมจวนจะออกแล้วนะ..... จะออก ออกแล้วครับ...." แสวงเร่งเต็มที่ผมรู้สึกถึงสิ่งที่อยู่ในตัวผมมันเต้นตุบๆ ผมเองก็ทำนบทะลายไปในเวลาใกล้ๆกัน
เราเดินออกมาจากโรงแรม ผมหยิบธนบัตรฉบับละ 500 บาทยื่นให้แสวง
"เอาไปเป็นค่ารถกลับบ้านก็แล้วกันนะครับ ขอบคุณที่ทำให้ผมหายเหงาคืนนี้..." แสวงยกมือพนมไหว้
"ขอบคุณครับ วันหลังถ้าพี่คิดถึงผมพี่แวะไปหาผมที่บาร์ก็ได้นะครับ ถ้าพี่ไปวันธรรมดาแขกไม่เยอะผมจะได้นั่งคุยเป็นเพื่อนพี่ได้นานๆ" ผมยิ้ม คิดในใจว่าสักวันผมคงกลับไปที่นั่นอีก เพราะผมคงไม่มีวันลืมผู้ชายที่ชื่อ"แสวง"อย่างแน่นอน....
ขอบคุณครับผม{:5_130:}
ขอบคุณมากครับ
สนุกมากๆเลย
ขอบคุณครับ ขอบคุณมากครับ โชคดี เจอคนถูกใจ ขอบคุนนะคับ ขอบคุณมากๆ ครับ ชอบจัง ขอบคุณครับ ชอบมาก ขอบคุณครับ ขอบคุณครับ... สดยอด ขอบคุนครับ ดีจังคับ ขอบคุณครับ ขอบคุณครับ แปลกดีนะเริ่องแบบนี้
ขอบคุณครับ ชอบมาก
หน้า:
[1]
2