ลืมรหัสผ่าน
 สมัครเข้าเรียน
ค้นหา
ดู: 956|ตอบกลับ: 4

สารฉีดผิวขาว

[คัดลอกลิงก์]

มาเฟียนักศึกษา

กระทู้
38
พลังน้ำใจ
9056
Zenny
25574
ออนไลน์
181 ชั่วโมง

สมาชิกจีโฟกาย 100%สมาชิกระดับแพลตตินั่ม

ขความจริงเกี่ยวกับสารฉีดผิวขาว "กลูต้าไธโอน"  
สูตรโครงสร้างทางเคมีของกลูต้าไธโอน (ภาพจาก wikipedia.org)
เชื่อว่าหลายๆ คนคงเคยได้ยินข่าวเกี่ยวกับการฉีดสารกลูต้าไธโอน (Glutathione) ที่ทำให้เกิดผลพลอยได้คือทำให้ผิวขาวขึ้นกันมาบ้างแล้ว  แต่ทราบหรือไม่ว่าสารกลูต้าไธโอนเป็นสารที่มีอยู่แล้วในร่างกายของเราทุกคน  และเป็นสารที่มีความจำเป็นต่อร่างกาย  แต่การฉีดสารดังกล่าวเข้าไปอาจทำให้ร่างกายมีปริมาณกลูต้าไธโอนสูงเกินไปและอาจเป็นอันตรายต่อร่างกายได้  จริงอยู่ที่สารกลูต้าไธโอนทำให้ผิวขาวขึ้นได้ แต่ก็มีโทษอยู่หลายประการเช่นกัน และจะยิ่งเป็นอันตรายหากทำการฉีดสารกลูต้าไธโอนด้วยตัวเอง

กลูต้าไธโอนคืออะไร จำเป็นต่อร่างกายหรือไม่?

กลูต้าไธโอนเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่สำคัญชนิดหนึ่งที่ร่างกายสามารถสร้างขึ้นเองได้จากอาหารประเภทโปรตีน ไข่ และ นม รวมถึงผักผลไม้ประเภทหน่อไม้ฝรั่ง อะโวคาโด และวอลนัท  ร่างกายจะเก็บกลูต้าไธโอนที่สร้างขึ้นไว้ที่ตับ สามารถพบกลูตาไธโอนได้ในทุกเซลล์ของร่างกาย

กลูต้าไธโอนมีความจำเป็นต่อร่างกาย  โดยช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระ ต่างๆ ช่วยให้ร่างกายดูดซึมวิตามินซีและอีได้มากขึ้น  เป็นตัวกระตุ้นภูมิคุ้มกันของร่างกาย  ช่วยสร้างและซ่อมแซม DNA   นอกจากนี้ยังช่วยขับสารพิษออกจากร่างกายอีกด้วย  โดยผ่านการสร้างเอนไซม์ชนิดต่างๆ และช่วยป้องกันตับจากการถูกทำลายโดยแอลกอฮอล์

กลูต้าไธโอนใช้ในทางการแพทย์อย่างไร ช่วยให้ผิวขาวจริงหรือไม่?

มีรายงานการใช้กลูต้าไธโอนในรูปแบบของการฉีดอยู่หลายกรณี  ทั้งใช้ในกรณีฉุกเฉิน เช่น ฉีดเพื่อเพิ่มการไหลเวียนของเลือดระหว่างการผ่าตัด การรักษาโรคทางระบบประสาท การขับพิษจากโลหะหนัก สารระเหย ยาฆ่าแมลง ยาพาราเซตามอลเกินขนาด และใช้ในการเพิ่มภูมิต้านทานให้กับผู้ป่วยเอดส์และมะเร็ง เป็นต้น  ในบางประเทศได้ขึ้นทะเบียนกลูต้าไธโอนเป็นยา  บางประเทศอนุญาตให้ใช้เป็นอาหาร เสริมได้  แต่สำหรับในประเทศไทย สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ยังไม่ได้ขึ้นทะเบียนกลูต้าไธโอนเป็นยาและไม่อนุมัติให้ใช้สารชนิดนี้ในรูป แบบฉีด
เซลล์เมลาโนไซต์ (melanocyte) ซึ่งเป็นเซลล์ที่พบได้ในชั้นล่างสุดของผิวหนังชั้นนอก (epidermis) ทำหน้าที่ผลิตเม็ดสีชนิดเมลานิน (melanin) และส่งกระจายไปยังผิวหนังชั้นนอก ผลิตภัณฑ์ที่ต่างๆ ที่มุ่งเน้นให้หน้าขาวหรือทำให้ผิวขาวจะมีส่วนผสมที่สามารถยับยั้งกระบวนการสร้างสารเม็ดสีของเซลล์เมลาโนไซต์นี้ (ภาพประกอบจาก wikipedia.org)

หากถามว่ากลูต้าไธโอนช่วยทำให้ผิวขาวได้จริงหรือไม่  ต้องบอกว่าเดิมทีกลูต้าไธโอนถูกผลิตขึ้นมาเพื่อใช้ในการฉีดเพิ่มภูมิต้านทาน เพื่อรักษาผู้ป่วยโรคมะเร็งระยะสุดท้าย  แต่กลับพบว่าผู้ป่วยมีผิวขาวขึ้นและมีสีผมอ่อนลงหลังฉีดยา  จึงอาจเป็นสาเหตุที่ทำให้มีการนำกลูต้าไธโอนมาฉีดเพื่อทำให้ผิวขาวกันมาก ขึ้น  ซึ่งความเป็นจริงแล้วหากร่างกายได้รับกลูตาไธโอนมากเกินไป ก็จะไปกดการสร้างเม็ดสีของผิวทำให้ผิวขาว ซึ่งอธิบายได้จากการที่ปกติในร่างกายของคนเราจะมีเซลล์สร้างเม็ดสี (Melanocyte) ซึ่งจะผลิตเม็ดสีเมลานินอยู่ 2 ชนิด  คนที่มีผิวคล้ำแบบคนเอเชียหรือคนไทยจะมีเม็ดสีขนาดใหญ่ เรียกว่า "ยูเมลานิน" (Eumelanin)  ส่วนคนที่ผิวขาวแบบฝรั่งจะมีเม็ดสีขนาดเล็กกว่า เรียกว่า "ฟีโอเมลานิน" (Pheomelanin)   เมื่อร่างกายเราได้รับกลูต้าไธโอนในปริมาณมาก จะไปกดการสร้างยูเมลานินตามปกติให้ลดน้อยลงและเปลี่ยนเป็นการสร้างฟีโอเมลา นินในปริมาณที่เพิ่มขึ้นชั่วขณะ  ดังนั้นจึงทำให้ผิวดูขาวขึ้น  แต่เนื่องจากกลูต้าไธโอนไม่สามารถปรับเปลี่ยนโครงสร้างทางพันธุกรรมของเซลล์ สร้างเม็ดสีได้  ดังนั้นเมื่อเวลาผ่านไปเซลล์สร้างเม็ดสีก็กลับไปสร้างเม็ดสียูเมลานินมากตาม ปกติเหมือนเดิม  ดังนั้นผู้ที่ฉีดกลูต้าไธโอนเพื่อให้ผิวขาวขึ้น จึงจำเป็นต้องฉีดในปริมาณมากกว่าขนาดที่ใช้ในการรักษาตามปกติหลายเท่าตัว เป็นเวลาต่อเนื่องกันนาน จึงไม่จัดเป็นการดีท็อกซ์ และอาจมีอันตรายต่อสุขภาพในระยะยาวได้

การใช้กลูต้าไธโอนมีอันตรายหรือมีผลต่อชีวิตอย่างไรบ้าง?
ผลข้างเคียงที่น่ากลัวคือการฉีดยาใดๆก็ตามเข้าเส้นเลือดดำ ล้วนมีโอกาสที่จะแพ้ได้ทั้งนั้น  ไม่ว่าจะเป็นการแพ้ตัวยาเอง หรืออาจจะแพ้สารฆ่าเชื้อ สารกันเสีย สารปนเปื้อน ซึ่งจากรายงานในต่างประเทศพบว่าผู้ที่ได้รับการฉีดกลูต้าไธโอนในปริมาณสูงมี อาการช็อก ความดันต่ำ หายใจไม่ออก และเสียชีวิตได้หากไม่ได้รับการช่วยเหลืออย่างทันท่วงที  

การ ฉีดกลูต้าไธโอน มักให้ร่วมกับวิตามินซีขนาดสูง เพื่อกระตุ้นให้ออกฤทธิ์ได้ชัดเจนขึ้น ซึ่งการฉีดวิตามินซีในขนาดที่สูงและเร็วเกินไปอาจทำให้เกิดอาการมึนศีรษะ คล้ายจะเป็นลมได้  หากใช้กลูต้าไธโอนในผู้ป่วยมะเร็ง อาจทำให้ประสิทธิภาพของเคมีบำบัดลดลง  การได้รับสารกลูต้าไธโอนในปริมาณมากมีผลทำให้กระบวนการต้านอนุมูลอิสระของร่างกายเสียสมดุล กลายเป็นอนุมูลอิสระ กลับมาทำร้ายร่างกายได้

นอกจากนี้ก็ยังพบว่ามีการนำสารกลูต้าไธโอน ที่ไม่ผ่านการรับรองจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) รวมทั้งยาปลอมที่ผลิตที่เวียดนาม และ จีน มาจำหน่ายและใช้อย่างผิดกฎหมาย  แต่ที่น่าเป็นห่วงมากที่สุดคือ ปัจจุบันมีการ โฆษณาขายกลูต้าไธโอนอย่างแพร่หลายทางอินเทอร์เน็ตราคาตั้งแต่หลักร้อยไปจน ถึงเป็นหมื่นบาท ที่มีการแนะนำวิธีฉีดและอวดอ้างสรรพคุณจนทำให้คนที่อยากขาว เกิดความสนใจและซื้อหาไปทดลองฉีดกันเอง ซึ่งอาจทำให้เกิดการแพ้ ติดเชื้อ และปัญหาอื่นๆ ตามมาอีกมาก

มีข่าวว่าการใช้สารกลูต้าไธโอนจะทำให้ตาบอดและเป็นมะเร็ง จริงหรือไม่?


สำหรับข่าวการใช้สารกลูต้าไธโอนแล้วทำให้ตาบอดและเป็นมะเร็ง สามารถอธิบายได้ว่า  การที่ร่างกายได้รับสารกลูต้าไธโอนเป็นเวลานานๆ จะทำให้เม็ดสีเมลานินบริเวณผิวหนังและที่จอตามีปริมาณลดลง  ทำให้จอตารับแสงได้น้อยลงและเสี่ยงต่อการมองเห็นได้ในอนาคต  ทางวารสารทางการแพทย์ของประเทศสหรัฐอเมริกาจึงได้จัดว่ากลูต้าไธโอนเป็นสารที่อาจก่อให้เกิดผลข้างเคียงทางตา   ส่วนเม็ดสีเมลานินที่ผิวหนังจะทำหน้าที่เหมือนฟิล์มกรองแสงที่ผิวหนัง หากเม็ดสีที่ผิวหนังมีปริมาณลดลง ร่างกายก็จะขาดเกราะป้องกันแสงอัลตราไวโอเลต (UV) ทำให้ผิวเหี่ยวย่นเร็วและแก่เร็วขึ้น  รวมทั้งเพิ่มความเสี่ยงของการเกิดโรคมะเร็งผิวหนังอีกด้วย   ดังนั้น ถึงแม้ตัวสารกลูต้าไธโอนเองจะเป็นสารต่อต้านอนุมูลอิสระ แต่การได้รับแสงอัลตราไวโอเลตในปริมาณมากกลับอันตรายยิ่งกว่าอนุมูลอิสระ เสียอีก

เหตุใดการฉีดกลูต้าไธโอนจึงต้องฉีดเข้ากล้ามเนื้อหรือเส้นเลือดโดยตรง?

กลูต้าไธโอนมีทั้งชนิดฉีด ชนิดพ่น และชนิดรับประทาน ซึ่งอย่างที่ทราบกันอยู่แล้วว่าสารชนิดนี้หากรับประทานจะถูกย่อยไปก่อนการดูดซึม  จึงมีผู้พยายามลองใช้ในปริมาณสูงๆ เพื่อหวังว่าจะดูดซึมได้บ้าง แต่จนถึงปัจจุบัน ยังไม่มีการศึกษาใดบอกว่าต้องกินมากแค่ไหนจึงจะดูดซึมได้ แล้วก็ไม่มีใครรู้ว่าปริมาณที่กินมากๆนั้นจริงๆแล้วดูดซึมได้หรือเปล่า และผลข้างเคียงระยะยาวมีอะไรบ้าง
      
ส่วนยาชนิดฉีดเข้ากล้ามเนื้อหรือเข้าเส้นเลือดโดยตรงน่าจะเพิ่มขนาดยาได้แน่ นอนกว่า  แต่ผลข้างเคียงที่น่ากลัว คือการฉีดยาเข้าเส้นเลือดดำมีโอกาสที่จะแพ้ได้ กลูต้าไธโอนชนิดฉีดมีใช้ในคลินิกเอกชนมานานแล้ว แต่ยังไม่มีการใช้ในโรงพยาบาลรัฐหรือโรงเรียนแพทย์  เพราะไม่มีการศึกษาถึงประสิทธิภาพและความปลอดภัยในระยะยาว   นอกจากนี้การฉีดยังเป็นการเพิ่มสารกลูต้าไธโอนได้เพียงชั่วคราวเท่านั้น  อาจทำให้ผิวขาวขึ้นได้ในเวลาสั้นๆ หลังจากนั้นสีผิวก็จะกลับเป็นเหมือนเดิม จึงต้องทำให้ฉีดต่อไปเรื่อยๆไม่มีที่สิ้นสุด

สุดท้ายนี้ ผู้บริโภคไม่ควรตกเป็นเหยื่อของคำโฆษณาใดๆ ที่อวดอ้างว่าจะสามารถช่วยทำให้ผิวขาวขึ้นได้ เพราะในความเป็นจริงแล้วไม่มีผลิตภัณฑ์ไหนที่จะทำให้ผิวขาวขึ้นได้อย่าง ถาวร  ผลิตภัณฑ์หรือยาที่ใช้อาจช่วยได้เพียงชั่วคราว  แต่เมื่อหมดฤทธิ์ร่างกายก็กลับไปผลิตเม็ดสีตามปกติ  ทั้งนี้การที่ประชาชนในแถบเอเชียหรือประเทศเขตร้อน มีผิวคล้ำถือเป็นเรื่องที่มีประโยชน์ เพราะสามารถป้องกันแสงอัลตราไวโอเลตจากแสงอาทิตย์ได้ ทำให้โอกาสการเกิดมะเร็งผิวหนังของเราน้อยกว่าคนผิวขาว จึงไม่ควรมีค่านิยมที่ผิดในการเปลี่ยนสีผิวให้ผิดธรรมชาติ

ที่มา:
บทความโดย
อ.พญ.ชนิตว์วัณณ์ ตรีวิทยาภูมิ
หน่วยโรคผิวหนัง ภาควิชาอายุรศาสตร์
คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี
มหาวิทยาลัยมหิดล
 นักศึกษาภาคพิเศษ (M.D.A)
ปริญญากิตติมศักดิ์
โพสต์ 2011-5-5 17:40:31 | ดูโพสต์ทั้งหมด
คิดถึงคนไกล นานนักรู้ไหมที่ไกลห่าง หัวใจดวงนี้ช่างอ้างว้าง รอคอยอย่า

มาเฟียนักศึกษา

กระทู้
154
พลังน้ำใจ
4700
Zenny
39036
ออนไลน์
345 ชั่วโมง

สมาชิกจีโฟกาย 100%สมาชิกระดับแพลตตินั่มสมาชิกระดับทับทิมสมาชิกระดับไพลินสมาชิกระดับมรกตสมาชิกระดับเพชรสมาชิกระดับเพชรบริหารสมาชิกระดับเพชรคู่สมาชิกระดับตรีเพชรสมาชิกระดับมงกุฎ

โพสต์ 2011-5-7 20:43:50 | ดูโพสต์ทั้งหมด
ขอบคุณครับ

พี่ว้ากตัวร้าย

กระทู้
0
พลังน้ำใจ
987
Zenny
7015
ออนไลน์
125 ชั่วโมง
โพสต์ 2011-6-28 20:22:56 | ดูโพสต์ทั้งหมด
ขอบคุณครับ

มาเฟียนักศึกษา

กระทู้
11
พลังน้ำใจ
3205
Zenny
36160
ออนไลน์
262 ชั่วโมง
โพสต์ 2011-6-29 08:47:09 | ดูโพสต์ทั้งหมด
ขอบคุณมากครับสำหรับสาระดี ๆ
ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง เข้าสู่ระบบ | สมัครเข้าเรียน

รายละเอียดเครดิต

A Touch of Friendship: สังคมจะน่าอยู่ เมื่อมีผู้ให้แบ่งปัน ฝากไวเป็นข้อคิดด้วยนะคะชาวจีโฟกายทุกท่าน
!!!!!โปรดหยุด!!!!! : พฤติกรรมการโพสมั่วๆ / โพสแต่อีโมโดยไม่มีข้อความประกอบการโพส / โพสลากอักษรยาว เช่น ครับบบบบบบบบ, ชอบบบบบบบบ, thxxxxxxxx, และอื่นๆที่ดูแล้วน่ารำคาญสายตา เพราะถ้าท่านไม่หยุดทีมงานจะหยุดท่านเอง
ขอความร่วมมือสมาชิกทุกท่านโปรดโพสตอบอย่างอื่นนอกเหนือจากคำว่า ขอบคุณ, thanks, thank you, หรืออื่นๆที่สื่อความหมายว่าขอบคุณเพียงอย่างเดียวด้วยนะคะ เพื่อสื่อถึงความจริงใจในการโพสตอบกระทู้ และไม่ดูเป็นโพสขยะ
กระทู้ไหนที่ไม่ใช่กระทู้ในลักษณะที่ต้องโพสตอบโดยใช้คำว่าขอบคุณ เช่นกระทู้โพล, กระทู้ถามความเห็น, หรืออื่นๆที่ทีมงานอ่านแล้วเข้าข่ายว่า โพสขอบคุณไร้สาระ ทีมงานขอดำเนินการตัดคะแนน และ/หรือให้ใบเตือนสมาชิกที่โพสขอบคุณทันทีที่เจอนะคะ

รูปแบบข้อความล้วน|โทรศัพท์มือถือ|ติดต่อลงโฆษณา|จีโฟกายดอทคอม

ข้อความที่ท่านได้อ่านในเว็บจีโฟกายดอทคอมนี้ เกิดจากการเขียนโดยสาธารณชน และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ หากท่านพบเห็นข้อความใดๆ ที่ขัดต่อกฎหมาย และศิลธรรม ไม่เหมาะสมที่จะเผยแพร่ ท่านสามารถแจ้งลบข้อความได้ที่ Link “แจ้งลบโพสนี้” ที่มีอยู่ใต้ข้อความทุกข้อความ หรือ ลืมพาสเวิดล๊อกอิน/ลืมชื่อที่ใช้สมัคร หรือข้อสงสัยใดๆแจ้งมาที่ G4GuysTeam[at]yahoo.com ขอขอบพระคุณที่ให้ความร่วมมือ

กรณีที่ข้อความ/รูปภาพในกระทู้นี้จัดสร้างโดยผู้ลงข้อมูลเอง ลิขสิทธิ์จะเป็นของผู้ลงข้อมูลโดยตรง หากจะทำการคัดลอก/เผยแพร่ ต้องได้รับอนุญาตจากผู้ลงข้อมูลก่อนนะคะ หรือลงที่มาไว้ด้วยค่ะ

©ขอสงวนสิทธิ์คอนเซ็ปต์,คำอธิบาย,หัวข้อ/หมวดหมู่เว็บ ห้ามลอกเลียนแบบ คิดเอาเองนะคะอย่าเอาแต่ลอก

GMT+7, 2024-11-24 19:17 , Processed in 0.089985 second(s), 27 queries .

Powered by Discuz! X3.5, Rev.8

© 2001-2024 Discuz! Team.

ตอบกระทู้ ขึ้นไปด้านบน ไปที่หน้ารายการกระทู้