ลืมรหัสผ่าน
 สมัครเข้าเรียน
ค้นหา
ดู: 907|ตอบกลับ: 13

“My life cycle” วัฏจักรชีวิตของผม... บทที่ 5 "เนรคุณ"

[คัดลอกลิงก์]

มหาลัยซีเนียร์

กระทู้
35
พลังน้ำใจ
1087
Zenny
1670
ออนไลน์
111 ชั่วโมง
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย INPUT เมื่อ 2019-6-2 20:15

สวัสดีผู้อ่านทุกท่านสบายดีกันใช่ไหมครับ ช่วงเวลาที่ผ่านมาของแต่ละคนนั้นคงเจอทั้งสุขและทุกข์และเชื่อเถอะว่าสิ่งเหล่านั้นมันอยู่กับเราไม่นาน เพราะทุกสิ่ง “เกิดขึ้น ตั้งอยู่ดับไป” ร่างกายเรานี้ก็เช่นกัน เอาหละผมไม่ได้หายไปไหนนะครับเพียงแต่ว่าช่วงนี้ผมฝึกสอนงานที่วิทยาลัยจึงเยอะมาก บวกกับช่วงเดือน เม.ย.ที่ผ่านมาผมได้มีโอกาสบวชเพื่อทดแทนพระคุณพ่อแม่แต่อันที่จริงเราทำความดีอะไรก็ได้นะเพื่อตอบแทนท่าน ไม่จำเป็นต้องบวชเสมอไป ส่วนตัวที่บวชก็เพราะเหตุปัจจัยผมพร้อมและครั้งหนึ่งในชีวิตได้เกิดในพระพุทธศาสนาแล้วก็อยากจะบวชสักครั้ง

เมื่อสึกออกมาผมก็มีเป้าหมายที่ยิ่งใหญ่อยู่คือรีบฝึกสอนให้จบจะได้ทำงานหาเลี้ยงตน และผู้มีพระคุณและอีกสิ่งก็คือเรื่องของความรัก การสร้างครอบครัวที่อบอุ่นและมีความสุขบางคนอ่านแล้วอาจจะงงว่าผมพูดเหมือนผู้ชายเลยอันที่จริงมันมีเหตุปัจจัยที่ทำให้ผมเปลี่ยนไปซึ่งจะเขียนให้ทุกท่านได้อ่านกันแต่ไม่ใช่เร็ว ๆ นี้ เพราะชีวิตผมก็ผ่าน “คน” มามากเหมือนกัน แต่ละคนที่ผ่านเข้ามาได้ฝากบทเรียนที่แสนเจ็บปวดไว้ทุกคนและมันทำให้ผมเติบโตขึ้นถึกขึ้นเหมือนฮีโร่สายแท๊งค์ใน “Rov” แต่บอกได้เลยว่าทุกสิ่งที่ประสบพบเจอนั้นไม่มีคำว่าบังเอิญทุกสิ่งถูกกำหนดเอาไว้แล้ว และ ณ ตอนนี้ผมเป็นชายไปแล้ว (นานแล้วด้วย)เอาหละเพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลาผมขอนำทุกท่านเข้าสู่เรื่องราวของผมต่อเลยนะครับ

บทที่ 5 “เนรคุณ”

[วันอาทิตย์ที่ 10 มิ.ย. 2555]

ณ ศูนย์ฝึกอบรมตำรวจภูธรภาค 2

“แม่ทำไมคนที่มาสอบเขาใส่ชุดวอมกันเต็มไปหมดเลยครับ” ผมถามแม่ขณะที่พ่อกำลังจะเลี้ยวรถเข้าศูนย์ฝึกภูธรภาค2

“ไม่รู้สิ เขามีสอบวิ่งแล้วมั้ง” แม่ตอบ

“ฮึ้ยบ้าน่า ไม่มีหรอก เขาแต่งกันมาแบบนั้นเองมั้ง”พ่อเสริม พูดจบก็จอดรถที่หน้าทางเข้าแล้วให้ผมกับแม่ลง ส่วนแก
จะเอารถไปหาที่จอด

“คุณตำรวจคะ เขาใส่ชุดวอมกันทำไมหรือค่ะ”แม่ผมถามตำรวจคนหนึ่งที่นั่งพุงยื่นพร้อมกับดึงปากเล่นไปมา

“อ๋อ เป็นกฎครับพี่ อย่างน้องคนนี้เนี่ยผิดกฎระเบียบการสอบนะครับรีบไปเปลี่ยนก่อนที่จะถึงเวลาเข้าสอบนะครับ” ตำรวจตอบ หน้าผมนี่ชาเลยครับตัวเองใส่ชุดนักเรียนเทคนิคมาสอบ

“ไหนมึงบอกว่าอ่านระเบียบมาเรียบร้อยแล้วไม่ใช่หรอ!!!”แม่หันมาพูดกับผมด้วยเสียงที่แหบแห้ง แต่รู้สึกได้ถึงจิตสังหาร!!!

“แฮ่ แฮ่” ผมขำแห้งๆ

“ยังจะมา แฮ่อีกไปหาชุดเปลี่ยนเลยนู้นตรงนู้นเขามีขาย” แม่บ่นพร้อมกับพาผมไปหาซื้อชุดสอบมาเปลี่ยน

คือวันนี้เป็นวันสอบตำรวจครับพ่อผมเขาให้ผมลองสมัครสอบเล่น ๆ ดู ถ้าได้ก็ดีไม่ได้ก็ไม่เป็นไรแต่ในใจมนั้นไม่อยากเป็นเลย จำได้ว่าวันนั้นเข้าห้องสอบตอนเที่ยงและเริ่มทำข้อสอบตอนเวลาบ่ายสองโมง สอบ ๆอยู่ก็มีกลุ่มตำรวจชุดหนึ่งเดินเข้ามาตรวจภายในห้องเป็นระยะเหมือนกับว่ามาตรวจดูความเรียบร้อยละมั้งครับ สอบเสร็จในเวลาห้าโมงเย็นโยประมาณ กลับไปถึงบ้านในช่วงค่ำมีข่าวรายงานว่าพบผู้ทุจริตในการสอบตำรวจการสอบจึงถือเป็นโมคะและจะแจ้งวันสอบในภายหลังที่แรกผมก็นึกว่าจะจบแล้วทีไหนได้มีคนโกงข้อสอบต้องไปนั่งสอบใหม่อีก เฮ้อ~ ช่วงนั้นเพื่อน ๆ ล้อกันใหญ่เลย บางคนก้มีมากล่าวคำล่ำลาทำอย่างกับว่าผมจะสอบติดจริง ๆ เสียอย่างนั้นแหละ

ในเวลาต่อมาผมก็ใช้ชีวิตปกติ เรียน เล่นไปวัน ๆ สนุกกับชีวิตวัยเรียนที่ไม่สนใจความรู้ สนใจแต่เพื่อนช่วงค่ำก็คุยโทรศัพท์กับกรเกือบทุกคืน กรสอนผมให้เล่น “Skype” เพราะเขาจะได้ไม่ต้องเสียเงินเวลาที่โทรหาผมกรมักโทรมาชวนคุยเล่นชนิดที่ว่าหาสาระของเรื่องที่คุยไม่ได้เลยแต่เราก็สนุกและมีความสุขไปกับมันทุกคืนเพราะอย่างน้อยมันก็ทำให้ลืมความรู้สึกที่มีต่อตันไปได้ในช่วงเวลาหนึ่ง

เวลาที่อยู่ในรั่วเทคนิคนั้นทุกคนต่างชินกับสิ่งที่ผมเป็นและไม่มีใครที่รู้สึกรังเกลียดเลยแม้งสักคนเดียวจึงทำให้ผมรู้สึกเป็นตัวของตัวเองมากเวลาที่ได้อยู่เทคนิค แต่อย่างว่าแหละครับคนเราทุกคนเวลาได้อะไรแล้วก็มักจะ “ได้คืบจะเอาศอก” แล้วผมก็เป็นเช่นนั้นจริง ๆผมมีความรู้สึกว่าการที่เพื่อน ๆ ทุกคนรู้ว่าผมเป็นอะไรนั่นมันยังไม่พอผมอยากเป็นตัวของตัวเองให้มากกว่านั้นในทุก ๆ ที่อย่างสบายใจ แม้งกระทั้งที่ “บ้าน”

[วันพุธที่ 11 ก.ค. 2555]

เวลา 11.30 น. บริเวณหน้าแผนก

วันนี้เรียนวิชาอะไรก็ไม่รู้ครับผมลืมไปแล้วผู้อ่านคงไม่นึกตำหนิกันนะครับ 555+

“ใครจะไปบางแสนบ้าง”

แบล็คเพื่อนกลุ่ม 2 เอ่ยปากชวนทุกคนเพราะจำได้ว่าคาบบ่ายอาจารย์ไม่อยู่ไปราชการ ดังนั้นคนส่วนใหญ่จึงลงความเห็นกันว่าจะไปบางแสนเว้นเสียแต่บางคนเท่านั้นที่ขอตัวกลับบ้าน

“อินจะกลับบ้านหรือไปบางแสนอะ” กรทักถามผม

“ไม่รู้เหมือนกันว่ะ เอาไงดี” ผมตอบอย่างลังเลส่วนกรทำสีหน้ากังวล

“ไปร้านคลาสสิกกับนี่ไหม นี่ไปกับชิต” คนชวนรายงานพร้อมกับรอคำตอบอย่างมีความหวัง

“โอเค ๆ ไปก็ไปเพราะกูก็ไม่ชอบไปทะเลร้อนด้วย” ผมตอบ กรทำสีหน้าดีใจแล้วก็เดินไปรายงานชิตที่ยืนคุยอยู่กับเพื่อนอีกกลุ่ม

ขณะที่กรเดินไปรายงานชิตผมก็กวาดสายตาไปมองดูกลุ่มเพื่อนที่เขาคุยกันเรื่องที่จะไปบางแสนขณะนั้นก็ไปสะดุดตาคนหนึ่งเข้าเขายิ้มพร้อมกับทักผมว่า

“อินไปบางแสนป่าว” ตันชวน

“เอ่อ...คือ” คราวนี้ผมลังเลอีกครั้งด้วยรู้สึกเหมือนถูกคนที่มีอิทธิพลมากกว่าทัก

“ไม่ต้องคิดแล้ว ไปนะ” ตันเดินมากอดคอผมแล้วพูด

“โอเค โอเค” ผมตอบอย่างไม่มีสติ ด้วยจิตใจที่ยังรักใคร่ห่วงหาอาทรคนคนนี้อยู่ขณะนั้นกรและชิตก็เดินมาพอดี

“ปะอิน” กรเดินมากับชิตพร้อมคำพูดชวนออกเดินทาง

“เดี๋ยวก่อนกร” ผมทักขึ้น

“ว่า” กรหันหลังมาหาผม

“คือถ้ากูจะบอกว่าไม่ไปแล้วมึงจะว่ากูไหม” ผมถาม ในใจตอนนั้นรู้สึกผิดต่อกรอยู่เหมือนกัน

“อ๋อไม่เป็นไร อินจะไปบางแสนละสิใช่ไหม” กรตอบพร้อมกับขยิบตาส่งสัญญาณประมาณเหมือนรู้ว่าผมไปเพราะเหตุอะไร

“โทษทีนะมึง คราวหน้าจะไม่เบี้ยวจริง ๆ” ผมตอบ

“ไม่เป็นไรๆ แล้วจะกินเพื่อละกัน” กรพูดและเดินไปรอรถหน้าวิทยาลัยพร้อมชิตและกลุ่มเพื่อน 2 – 3 คน ที่ไม่ไปไหนแต่จะกลับบ้าน

“ปะอินไปเอารถใหญ่เป็นเพื่อนตันที่บ้านหน่อยดิ” ตันชวน เพราะตอนนี้มีรถของแบล็ค 1 คันรถไม่พอที่จะพาเพื่อนไป ตันจึงอาสากลับไปเอารถที่บ้านอีก 1 คัน เพื่อเอาเพื่อน ๆไปบางส่วน

“โอเค” ผมรับคำอย่างง่ายดายพร้อมกับส่งสายตาไปที่กิ๊ฟซึ่งกำลังส่งสายตากวนส้นตีนใส่ผมเช่นกัน

ผมซ้อนรถเครื่องตันไปที่บ้านขณะซ้อนอยู่ผมนั่งปกติ พยายามที่จะไม่เอามือทั้ง 2 ข้างของตัวเองไปวุ่นวายกับหน้าขาของตันแต่แล้วสุดท้ายตันก็ขับรถเครื่องออกตัวแรงขึ้นเรื่อย ๆผมจึงอาศัยโอกาสช่วงนี้ในการเอามือไปวางไว้บนหน้าขาของต้นส่วนตันก็ไม่ว่าอะไรขับรถเครื่องไปเฉย ๆบางทีผมก็คิดนะว่าตกลงแล้วตันเป็นคนอย่างไร คือหมายถึงว่าเขาชอบผู้หญิงหรือผู้ชายกันแน่ เพราะผมทำแบบนี้เขาก็ไม่เห็นจะขัดขืนเลยแม้แต่นิดเดียว

ขับไปสักพักก็ถึงบ้านตันนี่เป็นครั้งแรกที่ผมได้เหยียบบ้านตัน บ้านตันนั้นเป็นพื้นที่กว้างล้อมด้วยรั้วไม้และมีบ้านหลาย ๆ หลัง อยู่รวมกันในรั้วพูดง่าย ๆคือตระกูลตันก็น่าจะใหญ่พอสมควรและอยู่รวมกันเพียงแค่แยกเรือนเท่านั้นไปถึงตันก็คว้ากุญแจแล้วเอารถฟอจูนเนอร์ออกมาขับ แล้วมุ่งหน้าสู่เทคนิคเพื่อรับเพื่อนๆ ทันที แต่ในระหว่างทางกิ๊ฟโทรมาหาผมบอกว่า “ไม่ต้องแวะรับแล้ว ให้ไปบางแสนเลยทุกคนอัดกันอยู่ในรถแบล็กหมดแล้วจำนวน 10 กว่าชีวิต” ผมนึกในใจมึงอัดกันเข้าไปได้อย่างไรเยอะฉิบหายสรุปผมก็มากับตัน 2 คน จนถึงบางแสน จอดรถลงมาก็พบเพื่อน ๆ กระโดดเล่นน้ำกันบางส่วนก็ซื้อเบียร์มานั่งกิน ผมยืนดูเพื่อน ๆ เล่นน้ำกันสนุกสนาน ส่วนตันพอถึงบางแสนก็ไม่สนใจอะไรผมเลยเขาวิ่งลงน้ำไปเล่นกับเพื่อน ๆ และก็แกล้งภีมเพื่อนที่เป็นเกย์คนหนึ่งในน้ำผมมองดูก็เกิดความรู้สึกไม่พอใจที่ตันไม่สนใจผมเลยทั้งที่ชวนผมมาแท้ ๆ

ยืนมองดูนานในใจก็เกิดโทสะแต่ก็ทำอะไรไม่ได้แท้จริงแล้วผมลืมตัวตนของตัวเองว่าเราเป็นใครส่วนตันจะเล่นกับใครมันก็เป็นเรื่องของเขา เพราะทุกคนเป็นเพื่อนกันแต่ในตอนนั้นผมไม่คิดแบบนั้นเลย ในใจมีแต่ความร้อนรน หวนนึกถึงกรขึ้นมาทันทีหากเราไปกับกรคงมีความสุขกว่านี้มากมาย สุดท้ายผมก็ทำอะไรไม่ได้เช่นเคยได้แต่ยืนมองดูเขาเล่นน้ำกันอย่างสนุกสนาน สุดท้ายผมจึงตัดสินใจลงเล่นน้ำบ้างแต่พอลงไปเล่น ตันกลับขึ้นมาบนฝั่ง ทำให้ผมใจเสียมากตันเดินขึ้นฝั่งแทบไม่มองหน้าผมเลย ผมก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าตันเป็นอะไรหรือเพราะผมคิดมากไปเองก็ไม่รู้สุดท้ายผมก็ลงไปเล่นกับเพื่อนอย่างไม่เต็มใจเท่าไหร่

เล่นไปจนถึง 16.00 น. ทุกคนก็กลับบ้านตันขับรถไปส่งผมกับบาสที่บ้าน ลงมาตัวก็เกือบแห้งหมดแล้วเหลือบางที่ที่ชื้น ๆเพราะแอร์ในรถตันเย็นมาก จึงทำให้เสื้อหาแห้งไวแต่ไม่ใช่แห้งสนิทนะครับเพราะมันไม่ใช่แดดมันคือแอร์จึงแห้งแบบชื้นๆ

“ขอบใจมากตัน”

“ไม่เป็นไร ๆ พรุ่งนี้เจอกัน ฝากสวัสดีแม่ด้วยนะ”ตันพูดจบก็ขับรถออกเพื่อไปส่งบาสต่อ

“แม่สวัสดีครับ” ผมกล่าวสวัสดีแม่ขณะถอดรองเท้าไว้หลังบ้าน กำลังเตรียมตัวจะเข้าในบ้านคือหน้าบ้านเปิดเป็นร้าน
ตัดผม วันนี้เป็นวันพุธร้านจึงปิด ผมจึงมาเข้าหลังบ้านแทน

“ครับ” แม่ตอบออกมาจากข้างในบ้าน

“กลิ่นหอมจังแม่ วันนี้แกงอะไร”

“แกงหมูใส่ฟังทอง” แม่พูดขณะกินข้าว หากไม่ได้หันมามองผมเพราะดูทีวีข่าวช่อง 3 ช่วงเย็นอยู่

“โห ของโปรดเลย” ผมพูดพร้อมกับเดินไปเปิดฝาหม้อออกแล้วก้มลงไปดมกลิ่มแกงที่ผมชอบกิน

“กินเลยลูกๆ” แม่พูดผมจึงรีบเก้บกระเป๋าและไปตักข้าวมานั่งกินกับแม่

ผมนั่งกินข้าวไปคุยกับแม่ไปอย่างอารมณ์ดีตามประสาแม่ลูกจังหวะหยุดคุยผมก็ตักข้าวเข้าปากแล้วมองใบหน้าของแม่ผู้ให้กำเนิด ท่านกำลังกินข้าวดูทีวีไปด้วยความสุขตามประสาคนทำงานที่มีวันหยุดพักผ่อนเหมือนกับคนอื่นเขา เห็นดังนั้นผมจึงพูดในสิ่งที่ตนปรารถนาแล้วคิดว่าถึงเวลาอันสมควรแล้ว

“แม่”

“อืม...” แม่ตอบทั้งที่ตามองดูทีวี

“แม่รักผมไหมอะ”

“รักสิ เอ๊งถามทำไม” แม่ตอบพร้อมกับหันมามองอย่างแปลกใจ ด้วยคิดว่าลูกคนนี้บ้าไปหรือเปล่า

“แม่จำวันเสาร์ที่แล้วได้ไหมที่เราดูทีวีสกู๊ปชีวิตของครอบครัวหนึ่งที่น่าสงสารอะแม่”

“อืม ทำไม”

“ที่ผมถามแม่ว่า ไม่ว่าผมจะเป็นอะไรแม่ก็ยังรักผมใช่ไหมครับ” ผมพูดพร้อมกับพกความตื่นเต้นไปด้วย

เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมาเรานั่งกินข้าวกัน4 คน พ่อ แม่ น้อง และผม เราก็ดูสกู๊ปชีวิตของครอบครัวหนึ่งลูกเขาน่าสงสารมากพิการ ผมจึงถามแม่ว่า “ไม่ว่าผมจะเป็นอย่างไรแม่ก็จะรักผมใช่ไหม” แล้วแม่ก็ตอบว่า “รักหมดแหละลูกทุกคนอะไม่งั้นจะเลี้ยงจนโตถึงทุกวันนี้หรือ” ด้วยเหตุนี้ผมจึงเอาเหตุการณ์คืนนั้นมาเป็นตัวชี้วัดว่าวันนี้ถึงเวลาที่ผมต้องบอกความในใจที่เก็บไว้กับแม่ผู้ให้กำเนิดของผม

“อืม...ทำไมวันนี้แปลกจังมีอะไรก็พูดมาเลย ไปทำอะไรผิดมาหรือเปล่าลูก” แม่พูดอย่างปราณีทำให้ผมรู้สึกว่าสมควรที่จะบอกได้แล้วละ เพราะตอนนี้แม่อารมณ์ดี

“เปล่าครับแม่ ไม่ได้ทำอะไรผิดหรอกผมแค่จะบอกแม่ว่า....”

“ว่าอะไรละ พูดมา”

“ถ้าผมบอกไปแม่จะโกรธผมไหม”

“เอะ ไอ่นี่หนิ มีอะไรก็ว่ามา” แม่เริ่มลำคาน

“อ่าว พูดมาเร็วๆอิน” แม่เห็นผมเงียบไปจึงทักถามต่อ ผมรวบรวมความกล้าทั้งหมดพร้อมกับพูดออกไป

“ผมก็ไม่รู้ว่ามันเกิดขึ้นเมื่อไหร่และตอนไหน แต่ผมอยากจะบอกแม่ว่าผมชอบผู้ชายอะแม่”

สิ้นคำแม่ผมมองหน้าผมอย่างเดาอารมณ์ไม่ออก แล้วจึงพูดว่า

“เอ๊งจะมาเล่นตลกอะไรอีก” แม่ถามด้วยคิดว่าผมพูดเล่น

“ผมพูดจริงครับแม่”

ครั้งนี้สีหน้าแม่ผมนิ่งไร้อารมณ์เหมือนไม่มีความรู้สึก แม่จ้องมองหน้าผมนานเหมือนกันสักพักก็ค่อย ๆลุกจากโต๊ะอาหารแล้วสาดจานข้าวที่ยังกินไม่หมดลงถังขยะ แล้วค่อย ๆ เดินเข้าไปในบ้านเหมือนคนป่วยผมนั่งนิ่งอยู่นานในใจรู้สึกตื่นตระหนก ไม่รู้ว่าแม่คิดอย่างไรแต่สิ่งที่แม่แสดงออกมาเมื่อครู่ก็สามารถตอบคำถามในใจของผมได้เลยว่า
“แม่ใจสลาย” ผมค่อย ๆเดินเข้าไปในบ้านพบแม่นอนอยู่บนโซฟาไม้หน้าทีวีในบ้าน ผมจึงเดินเข้าไปค่อย ๆจับแขนแม่ที่อ่อนระทวยแล้วพูดว่า

“แม่ไหวหรือเปล่า”

“ถ้าบอกว่าไม่ไหวมึงจะว่าอย่างไร”แม่ตอบด้วยเสียงที่แผ่วเบาแต่ทำให้คนฟังรู้สึกใจสั่นสะท้าน

“กรรมของกูมีลูกก็ไม่ปกติเหมือนชาวบ้านเขา” แม่พูดด้วยเสียงที่แผ่วเบาคำนี้ทำให้ผมรู้สึกโกรธขึ้น

“มันผิดด้วยหรอแม่กับสิ่งที่ผมเป็น....คนเราเลือกเกิดไม่ได้แต่เลือกที่จะเป็นคนดีได้ ไม่ใช่เพราะแม่หรอครับ ที่ห้ามไม่ให้ผมมีแฟนตอน ม.ต้น จึงทำให้ผมเป็นแบบนี้วันนั้นแม่ก็บอกผมแล้วไม่ใช่หรอครับ ไม่ว่าผมจะเป็นอย่างไรแม่จะยังรักผม” ผมเถียงอย่างไม่มีเหตุผล พร้อมกับยกความผิดกับผู้ให้กำเนิด

“เนรคุณ”

แม่พูดพร้อมกับจ้องหน้าผม น้ำใส ๆ ในตาของแม่ค่อยๆ ไหลผ่านแว่นตาออกมา แม่ค่อย ๆ สะบัดมือของผมที่จับแขนแม่อยู่ออก แล้วพูดด้วยเสียงที่แผ่วเบาว่า

“ขึ้นไปบนบ้านแล้วไม่ต้องลงมาให้เห็นหน้าอีก”

สิ้นคำ ผมจึงเดินขึ้นห้องไปเข้ามาในห้องผมนั่งร้องไห้เสียใจกับสิ่งที่ตัวเองได้กระทำ โดยที่ไม่คิดหน้าคิดหลังให้ดีเสียก่อนผมโทรหาเมย์เล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้เมย์ฟัง เมย์ก็ได้แต่ถอนหายใจแล้วบอกว่า “มันเกิดขึ้นแล้ว ที่หลังทำอะไรปรึกษากูก่อน ไม่ต้องคิดมากเดี๋ยวแม่มึงก็ดีขึ้นเอง”จากนั้นผมก็โทรหาเจ็สี่เพื่อนสนิท ม.ต้น ของผมซึ่งตอนนี้เธอไปเรียนต่อ “วิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนีกรุงเทพ เธอก็ให้กำลังใจในเชิงเดียวกับเมย์และคนสุดท้ายที่ผมไม่ลืมคือกร ผมส่งข้อความทางเฟสบุ๊คไปหาเขาว่า “แกเราบอกเรื่องที่เราเป็นกับแม่ไปแล้วแม่เราโกรธมาก” กรก็ปลอบใจเหมือนอย่างเพื่อนทั้ง 2 คน ที่ผ่านมา (ผมจำข้อความไม่ได้ว่าคุยอะไรกับกรบ้างเพราะได้ทำการล้างแชทไปหมดแล้ว แต่อาจจะจำได้ในบางส่วนบางเหตุการณ์เท่านั้นครับ)

คืนนั้นผมเก็บตัวอยู่แต่ในห้องไม่กล้าออกมาข้างนอกเพราะระอายต่อสิ่งที่ตนได้กระทำลงไป
เช้าวันต่อมาผมลุกอาบน้ำแต่งตัวออกจากบ้านโดยที่สวัสดีแม่อย่างเคยแต่แม่ไม่รับไหว้แต่ทำเหมือนผมไม่มีตัวตน เมื่อผมขึ้นรถพ่อก็ขับออกจากบ้านไปขณะขับพ่อก็เหลือบไปเจอสาวโรงงานเดินอยู่ข้าง ๆ รถ พ่อจึงพูดขึ้น

“ดูนี่สิลูก เอ๊งว่าผู้หญิงคนนี้สวยไหม”พ่อถาม ซึ่งปกติพ่อไม่เคยพูดเรื่องแบบนี้กับผมเลย

“เฉย ๆ ครับ” ผมตอบด้วยความรู้สึกที่ไม่อยากจะตอบเพราะผมใจเสียตั้งแต่เมื่อคืนนี้แล้ว

“ทำไมวันนี้กระเป๋าดูตุงจังลูก”พ่อถาม อันที่จริงกระเป๋าผมตุงทุกวัน แต่พ่ออาจจะไม่ได้สนใจ

“ก็ไม่มีอะไรนี่ครับ นอกจากหนังสือและอุปกรณ์การเรียน”

“มีเครื่องสำอางด้วยหรือเปล่า” พ่อพูดคำนี้ ผมถึงกับหน้าชา มันเป็นความรู้สึกที่บอกไม่ถูกจริง ๆ ครับทั้งโมโห เสียใจ และทำอะไรไม่ถูกรวมกันเข้ามาผมอยากจะร้องไห้แต่ก็ไม่มีน้ำตาสักหยดคงเป็นเพราะความรู้สึกภายในมันกำลังประกาศความโศกเศร้าของตนอยู่ ผมได้แต่นั่งเงียบหันหน้าออกทางกระจกข้าง จนกระทั่งลงรถที่หน้าปากซอย

ผมนั่งรถสองแถวเพื่อไปสมทบกับเพื่อน ๆที่รอผมที่คิวรถเหลือง มาถึงผมก็ไม่พูดไม่จากับใครตลอดทาง แม้กระทั่งกรผมก็ไม่พูดด้วยเพราะผมไม่มีอารมณ์ที่จะพูดกับใครและไม่รู้ด้วยว่าตัวเองจะต้องทำอย่างไรต่อ กระทั่งช่วงเข้าเรียน เพื่อน ๆทุกคนเค้นถามผมด้วยความเป็นห่วงผมจึงต้องเล่าให้ทุกคนฟังทุกคนต่างก็เห็นใจแต่ก็ทำได้เพียงแค่ปลอบใจเท่านั้นขณะเรียนอยู่เสียงโทรศัพท์ของผมก็ดังขึ้นผมจึงออกไปรับสายข้างนอก

“ฮาโหลดครับแม่”

“อยู่ไหนเนี่ย” แม่ถามด้วยเสียงเหมือนไม่ค่อยสบาย

“เรียนอยู่ครับ แม่เป็นอะไรหรือเปล่า”

“เป็นสิ แม่กินยาไปเกือบ 10 เม็ด แล้วสวดมนต์ขอพรพระอย่าให้เอ๊งเป็นแบบนี้”แม่พูดยังไม่ทันจบก็ร้องไห้ออกมา

"นี่ถ้าพ่อใหญ่แม่ใหญ่ ปู่ย่ารู้เข้าไม่ตายกันเลยรึว่าหลาดชายคนโปรดที่เป็นความหวังของคนที่บ้านเป็นพวกผิดเพศ!!!"แม่พูดไปร้องไห้ไป

“แม่จะพาเอ๊งไปหาหมอจิตแพทย์เพื่อให้เขาช่วยรักษาสิ่งที่เอ๊งเป็น” แม่พูดไปร้องไห้ไป จากนั้นแกก็วางสายไป
เมื่อผมกลับเข้าไปในห้องเรียนได้สักพักก็มีเสียงโทรศัพท์ดังขึ้นอีก ผมจึงขอตัวออกมารับสาย คราวหน้าเบญเพื่อนกลุ่ม 2เดินตามออกมาด้วยคงเป็นห่วงผม

“ฮาโหลดครับน้า”

“อยู่ไหนเนี่ยลูก” น้าสาวคนสุดท้องถามผม

“อยู่วิทยาลัย เรียนอยู่ครับน้ามีอะไรหรอครับ”

“น้ารู้เรื่องทั้งหมดจากแม่แล้วนะ อินรักใครชอบใครในโรงเรียนหรือเปล่าลูก”

“ไม่มีครับ” ผมโกหกน้าตัวเอง

“แม่เขาแย่เลยนะตอนนี้ไม่สบายอ้วกเป็นเลือดด้วย ตอนนี้พ่อเขากำลังพาแม่ไปฉีดยาที่โรงพยาบาลเอกชล 2”น้าพูด

“ครับน้าผมขอโทษครับที่ทำให้เป็นแบบนี้”

“ไม่เป็นไรลูกเอาเป็นว่ากลับบ้านไปขอโทษแม่เขาสะนะ แล้วคิดดี ๆกับสิ่งที่เราเป็นอยู่ทุกวันนี้มันดีหรือเปล่าถ้ามันดีครอบครัวเราจะเป็นแบบนี้หรอลูก น้าเป็นห่วงนะแค่นี้แหละลูก” น้าพูดจบแล้วก็วางสายไป
ผมทำอะไรไม่ถูก ในใจก็เสียใจมากส่วนเบญที่ตามออกมาก็เดินมากอดคอผมแล้วพาเข้าห้องไป
ช่วงพักกลางวันผมไม่ได้ไปกินข้าวกับเพื่อนที่โรงอาหารแต่ขึ้นมาหา อ.บุญทัน บนแผนกแทน

“อาจารย์ครับ ผมทำผิดไปแล้วครับ”

“อนิรุต มีอะไรค่อยๆพูดค่อยๆจานะใจเย็นๆมันเกิดอะไรขึ้น” อ.บุญทัน พูดอย่างปราณีผมจึงเล่าเรื่องทั้งหมดให้อาจารย์ฟัง

“อนิรุต เอ๊ยทีหลังจะทำอะไรคิดให้รอบคอบ หรือไม่ก็ปรึกษาครูก่อนก็ได้ กลับบ้านไปก็พูดกับเขาดีๆ”

“จะให้พูดอย่างไรครับอาจารย์”

“คงต้องโกหกเขาไปว่าเราไม่ได้คิดแบบนั้นแล้ว”

“อาจารย์ ผมทำแบบนั้นไม่ได้หรอกครับถึงจะโกหกแต่สุดท้ายผมก็ไม่ได้เป็นชายแท้อย่างที่ปากพูดวันหนึ่งแม่ก็ต้องรู้อยู่ดีครับ”

“อนิรุตครูไม่ได้ให้เธอปิดที่บ้านไปตลอดชีวิต แต่เธอคิดเอาระหว่างโกหกเพื่อให้เขาสบายใจหรือจะให้ทนต่อความจริงที่เป็นอยู่แล้วให้เขาตายลงไปต่อหน้า”

“ก็ได้ครับอาจารย์ผมจะทำตามที่อาจารย์แนะนำครับ”

“ผมมีเพื่อนอยู่ที่โรงพยาบาลชลบุรีเป็นหมอจิตแพทย์ อนิรุตลองจดชื่อและเบอร์โทรศัพท์เขาไปนะ เผื่อเขาจะช่วยได้”อ.บุญทัน แนะนำ พร้อมกับบอกข้อมูล ผมรับไว้แล้วเดินออกมาจากห้อง

จำได้ว่าบ่ายวันนั้นไม่มีเรียนหรืออาจารย์ไปราชการนี่แหละทุกคนจึงกลับบ้านกันมีแต่ผมที่ยังไม่กลับเพราะเครียดเรื่องนี้จึงไม่กล้าไปพบคนที่บ้านผมจึงนั่งอยู่ที่ม้านั่งระหว่างแผนกอิเล็กและแผนกไฟฟ้า พวกเพื่อน ๆที่กินข้าวเสร็จจากโรงอาหารก็กำลังเดินกลับบ้านไปกัน (กิ๊ฟกับภีมแต่กลับบ้านไปตั้งแต่เลิกเรียนวิชาช่วงเช้าแล้วเพราะต้องกลับไปช่วยที่บ้านขายของส่วนภีมอยู่บ้านใกล้กิ๊ฟ จึงต้องกลับไปพร้อมกัน)แล้วทางออกจากเทคนิคต้องผ่านแผนกอิเล็ก และแผนกไฟฟ้า เพื่อนทุกคนจึงต้องเดินผ่านผมทุกคนตันเดินผ่านผมไปผมก็มองตัน ในใจนึกหวังว่าเขาจะต้องเห็นใจเราและชวนเราไปนั่งที่บ้านเขาเหมือนอย่างสมัยเรียน ปวช. ครั้งที่ผมลืมจ่ายค่าเน็ตแล้วทะเลาะกับที่บ้านจนต้องไปอยู่บ้านที่ตันพักอยู่กับป้าคนนั้นแต่แล้วฝันก็สลายเมื่อตันหันมามองผมแล้วพูดว่า “อย่าไปคิดมากเดี่ยวก็ดีขึ้นเอง บายพรุ่งนี้เจอกัน” ผมมองตันที่เดินจากไปอย่างไม่เหมือนตันในตอนนั้นรู้สึกน้อยใจตันมากที่ตันทำกับผมเหมือนไม่มีเยื้อใยอย่างแต่ก่อนแต่ผมก็ทำอะไรไม่ได้อยู่ดี สักพักกร ชิต และอาม ก็เดินมา

“ปะอิน กลับบ้านกัน” กรพูด

“กูยังไม่อยากกลับว่ะ”

“กลับเถอะมึง อยู่ที่นี่ไม่มีเพื่อนนะ กลับคนเดียวเดี๋ยวเหงาอีก”ชิตเสริม

“ขอบใจมาก แต่กูยังไม่อยากกลับจริง ๆว่ะ”

“อะ เดี๋ยวนี่นั่งรอเป็นเพื่อนเอาไหม”กรพูดขึ้นพร้อมกับนั่งลงข้าง ๆ ผม

“ไม่ดีกว่า มึงกลับเถอะกูกลับเองได้ไม่ต้องเป็นห่วง” ผมพูดส่วนกรกับชิตก็นั่งอยู่กับผมสักพักใหญ่ ๆบรรยากาศเงียบมากเพราะไม่มีใครพูดอะไรกันเลย สักพักกรจึงพูดอีก

“ปะอิน กลับเถอะ”

“มึงกลับเลย กูขอร้อง” ผมพูดอย่างจริงจัง กรกับชิตมองหน้ากันแล้วจึงลากลับกรเดินนำหน้าส่วนชิตตบไหลผมเบา ๆ แล้วจึงเดินตามกรกับอามไป

เย็นวันนั้นผมกลับไปที่บ้านแม่และพ่อก็เรียนผมคุย โดยที่ไม่ให้อุ้มเข้ามารับรู้เรื่องนี้เราคุยกันอยู่นานจนสุดท้ายผมจึงต้องโกหกพ่อแม่ไปว่า “เป็นเพียงอารมณ์ชั่ววูบเท่านั้น ตอนนี้ผมเข้าใจในสิ่งที่พ่อแม่บอกแล้วครับ”พูดจบสถานะการณ์ก็ดูผ่อนคลายมากขึ้น ผมเชื่อนะครับว่าพ่อแม่ไม่ปักใจเชื่อผม100 % หรอก อย่างน้อยต่อจากนี้เขาต้องจับตาดูผมเป็นพิเศษแน่นอน แต่แบบนี้ก็ดีแล้วครับดีกว่าให้ผมยื่นคำขาดในสิ่งที่เป็นเพราะนั้นอาจตามมาด้วยการสูญเสียบุคคลผู้ให้กำเนิดผมก็เป็นได้

[วันศุกร์ที่ 13 ก.ค. 2555]

เช้าวันนี้ห้อง 1 ของพวกผมเรียนวิชาของอ.ภคภูมิ ผู้ที่มีวิชาสอนแต่ไม่เคยสอนเลย 555+ ขณะที่ทุกคนกำลังนั่งเล่นกันในห้องอย่างเสียงดังอ.ภคภูมิ ก็เดินเข้ามาแล้วตะโกนว่า

“เฮ่ย มีข่าวด่วนว่ะ” อาจารย์ตะโกน

“มีอะไรค่ะอาจารย์” กิ๊ฟถาม

“งานกิจกรรมเขาแจ้งมาว่าให้แผนกเราส่งตัวแทนไปร่วมโครงการสัมมนาที่พัทยา5 วัน ใครพร้อมมั้งว่ะ”

“อ่าว แล้วประธานแผนกละค่ะอาจารย์”กิ๊ฟถามต่อ

“ไอ่ห่ามันไม่สบาย เร็ว ๆกูรีบใครก็ได้” อาจารย์เร่งต้องการคำตอบ ทุกคนไม่ออกความเห็นใดๆ

“ใครหัวหน้าห้องว่ะกูลืมละ” อาจารย์ถาม

“อีอินค่ะอาจารย์” กิ๊ฟพูดพร้อมกับชี้นิ้วมาที่ผมพร้อมกับเพื่อนๆทุกคน

“สัสเหยิน” ผมแอบด่ามันเบาๆ

“เออ งั้นอินไปนะ ช่วยครูที”

“แต่ผมต้องขาดเรียนนะครับอาจารย์”ผมพูด

“มึงจะกลัวอะไร กูใคร กูจัดการได้นี่มันงานสัมมนามึงคือตัวแทนของวิทยาลัยเลยหนะ เอาหละๆ ไปแล้วกัน”

อาจารย์พูดคนเดียวแบบไม่ให้เวลาผมตัดสินใจเลยแม้แต่น้อย พูดจบแกก็เดินออกนอกห้องเพื่อเอาชื่อมไปส่งที่งานกิจกรรมผมจึงเดินตามแกออกไป

“อาจารย์ครับ”

“ว่า”

“เอาเพื่อนไปด้วยได้ไหมครับไปคนเดียวมันแปลก ๆ อะครับ” ผมขอร้อง

“ได้สิ มึงจะเอาใครไปละ”

“อภินันท์ครับอาจารย์”

“ใครว่ะ อภินันท์”

“ตันไงครับอาจารย์”

“อ๋อ โอเค แล้วนี่มึงบอกมันหรือยังไม่บอกเดี๋ยวก็มีปัญหากันหรอก” อาจารย์พูดจบตันกับบาสก็เดินมาพอดี เมื่อกี้มันไม่
อยู่ในห้องเพราะออกไปกินข้าวที่โรงอาหารมาวิชา อ.ภคภูมิ เป็นวิชาที่ชิลล์มากใครจะทำอะไรแกไม่เคยสนใจเลย 555+

“คุยอะไรกันหรอครับอาจารย์” ตันถาม

“เออ มึงมาก็ดีละวันนี้มึงเตรียมตัวเก็บของเลยนะ พรุ่งนี้เตรียมตัวออกเดินทางไปพัทยากับอินไปงานสัมมนา” อาจารย์พูด

“เดี๋ยวนะครับอาจารย์ผมยังไม่ทันรู้เรื่องอะไรเลยนะครับ”

“เออ ก็รู้แล้วนี่ไงพอๆไม่ต้องมากมายมึงแหละไปเป็นเพื่อนกัน” พูดจบแกก็เดินดุ่มๆไปงานกิจกรรม

“อะไรว่ะเนี่ยงงไปหมด” ตันงง ส่วนบาสก็เดินเข้าห้องไป ผมจึงอธิบายให้ตันฟังตันก็โอเคไม่มีปัญหาอะไร
ผมรู้สึกดีใจมากที่ผมจะได้ใช้เวลา 5วันนี้อยู่กับตันคนที่ผมรัก
.
.
.
.
.
แค่นี้ก่อนนะครับ

นิสิตสัมพันธ์

กระทู้
0
พลังน้ำใจ
36948
Zenny
29484
ออนไลน์
1972 ชั่วโมง
โพสต์ 2019-6-2 21:20:01 | ดูโพสต์ทั้งหมด

นายกสโมสร

กระทู้
0
พลังน้ำใจ
234762
Zenny
95462
ออนไลน์
17360 ชั่วโมง
โพสต์ 2019-6-2 22:38:25 | ดูโพสต์ทั้งหมด
ขอบคุณครับ

ประธานนักศึกษา

กระทู้
0
พลังน้ำใจ
90141
Zenny
14369
ออนไลน์
4062 ชั่วโมง
โพสต์ 2019-6-3 05:58:19 | ดูโพสต์ทั้งหมด
ขอบคุณครับ

ประธานนักศึกษา

กระทู้
457
พลังน้ำใจ
79646
Zenny
202807
ออนไลน์
9900 ชั่วโมง
โพสต์ 2019-6-3 06:34:07 | ดูโพสต์ทั้งหมด
ขอบคุณครับ

ประธานนักศึกษา

กระทู้
457
พลังน้ำใจ
79646
Zenny
202807
ออนไลน์
9900 ชั่วโมง
โพสต์ 2019-6-3 06:34:07 | ดูโพสต์ทั้งหมด
ขอบคุณครับ

ประธานนักศึกษา

กระทู้
0
พลังน้ำใจ
77111
Zenny
16518
ออนไลน์
7954 ชั่วโมง
โพสต์ 2019-6-3 06:41:40 | ดูโพสต์ทั้งหมด

ประธานนักศึกษา

กระทู้
0
พลังน้ำใจ
83727
Zenny
75694
ออนไลน์
6898 ชั่วโมง
โพสต์ 2019-6-3 07:37:16 | ดูโพสต์ทั้งหมด

นิสิตสัมพันธ์

กระทู้
3
พลังน้ำใจ
45137
Zenny
25319
ออนไลน์
13697 ชั่วโมง
โพสต์ 2019-6-3 11:26:52 | ดูโพสต์ทั้งหมด
อ่านแล้วเศร้าจัง ยิ่งตอนเกริ่นเรื่อง ก็รู้แล้วว่าไม่มีทางสมหวังแหงๆ T^T
--ตี๋อ้วน--

นิสิตสัมพันธ์

กระทู้
0
พลังน้ำใจ
31912
Zenny
12977
ออนไลน์
9376 ชั่วโมง
โพสต์ 2019-6-3 14:10:17 | ดูโพสต์ทั้งหมด

นิสิตสัมพันธ์

กระทู้
3
พลังน้ำใจ
28731
Zenny
1376
ออนไลน์
2517 ชั่วโมง
โพสต์ 2019-6-4 15:00:05 | ดูโพสต์ทั้งหมด
ขอบคุณครับ

ประธานนักศึกษา

กระทู้
0
พลังน้ำใจ
51296
Zenny
46622
ออนไลน์
6143 ชั่วโมง
โพสต์ 2019-6-6 07:41:17 | ดูโพสต์ทั้งหมด
ขอบคุณครับ

นายกสโมสร

กระทู้
0
พลังน้ำใจ
234762
Zenny
95462
ออนไลน์
17360 ชั่วโมง
โพสต์ 2019-11-27 21:02:44 | ดูโพสต์ทั้งหมด

ประธานนักศึกษา

กระทู้
0
พลังน้ำใจ
67475
Zenny
60
ออนไลน์
5245 ชั่วโมง
โพสต์ 2020-10-14 22:14:45 | ดูโพสต์ทั้งหมด
ขอบคุณครับ
ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง เข้าสู่ระบบ | สมัครเข้าเรียน

รายละเอียดเครดิต

A Touch of Friendship: สังคมจะน่าอยู่ เมื่อมีผู้ให้แบ่งปัน ฝากไวเป็นข้อคิดด้วยนะคะชาวจีโฟกายทุกท่าน
!!!!!โปรดหยุด!!!!! : พฤติกรรมการโพสมั่วๆ / โพสแต่อีโมโดยไม่มีข้อความประกอบการโพส / โพสลากอักษรยาว เช่น ครับบบบบบบบบ, ชอบบบบบบบบ, thxxxxxxxx, และอื่นๆที่ดูแล้วน่ารำคาญสายตา เพราะถ้าท่านไม่หยุดทีมงานจะหยุดท่านเอง
ขอความร่วมมือสมาชิกทุกท่านโปรดโพสตอบอย่างอื่นนอกเหนือจากคำว่า ขอบคุณ, thanks, thank you, หรืออื่นๆที่สื่อความหมายว่าขอบคุณเพียงอย่างเดียวด้วยนะคะ เพื่อสื่อถึงความจริงใจในการโพสตอบกระทู้ และไม่ดูเป็นโพสขยะ
กระทู้ไหนที่ไม่ใช่กระทู้ในลักษณะที่ต้องโพสตอบโดยใช้คำว่าขอบคุณ เช่นกระทู้โพล, กระทู้ถามความเห็น, หรืออื่นๆที่ทีมงานอ่านแล้วเข้าข่ายว่า โพสขอบคุณไร้สาระ ทีมงานขอดำเนินการตัดคะแนน และ/หรือให้ใบเตือนสมาชิกที่โพสขอบคุณทันทีที่เจอนะคะ

รูปแบบข้อความล้วน|โทรศัพท์มือถือ|ติดต่อลงโฆษณา|จีโฟกายดอทคอม

ข้อความที่ท่านได้อ่านในเว็บจีโฟกายดอทคอมนี้ เกิดจากการเขียนโดยสาธารณชน และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ หากท่านพบเห็นข้อความใดๆ ที่ขัดต่อกฎหมาย และศิลธรรม ไม่เหมาะสมที่จะเผยแพร่ ท่านสามารถแจ้งลบข้อความได้ที่ Link “แจ้งลบโพสนี้” ที่มีอยู่ใต้ข้อความทุกข้อความ หรือ ลืมพาสเวิดล๊อกอิน/ลืมชื่อที่ใช้สมัคร หรือข้อสงสัยใดๆแจ้งมาที่ G4GuysTeam[at]yahoo.com ขอขอบพระคุณที่ให้ความร่วมมือ

กรณีที่ข้อความ/รูปภาพในกระทู้นี้จัดสร้างโดยผู้ลงข้อมูลเอง ลิขสิทธิ์จะเป็นของผู้ลงข้อมูลโดยตรง หากจะทำการคัดลอก/เผยแพร่ ต้องได้รับอนุญาตจากผู้ลงข้อมูลก่อนนะคะ หรือลงที่มาไว้ด้วยค่ะ

©ขอสงวนสิทธิ์คอนเซ็ปต์,คำอธิบาย,หัวข้อ/หมวดหมู่เว็บ ห้ามลอกเลียนแบบ คิดเอาเองนะคะอย่าเอาแต่ลอก

GMT+7, 2024-11-23 19:58 , Processed in 0.109346 second(s), 26 queries .

Powered by Discuz! X3.5, Rev.8

© 2001-2024 Discuz! Team.

ตอบกระทู้ ขึ้นไปด้านบน ไปที่หน้ารายการกระทู้