ผมรีบบึ่งรถไปสนามบินทันทีหลังได้รับโทรศัพท์จากพี่ชายว่าพ่อล้มเข้าโรงพยาบาลที่อ.ฝาง ก่อนที่จะทรุดและต้องส่งตัวด่วนมาที่ตัวเมืองเชียงใหม่ พ่อเจ็บออดๆแอดๆอยู่แล้วจากโรคเส้นเลือดในสมองตีบ ยิ่งหน้าหนาวแบบนี้ เหมือนอาการจะยิ่งแย่ ผมร้อนรน ทิ้งงานทั้งหมดและบินไปเชียงใหม่...
เล้าจน์หรูของสายการบินไม่ค่อยมีคนมากนัก คงเป็นเพราะห้องนี้สำหรับลูกค้าวีไอพีเท่านั้น นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติสองราย นักธุรกิจใส่สูทผูกไทเต็มยศอีก 1 คน ผม และผู้โดยสารอีกคนที่นอนเอานิตยสารปิดหน้าไว้ ไฟลท์เช้าๆแบบนี้ถ้ารีบออกมาก่อน เราจะมีเวลาได้นั่งพัก ผมบินไปกลับกับสายการบินนี้เป็นประจำจนมีไมล์สะสมบินไปทั่วโลกได้แล้วกระมัง
“สวัสดีค่ะ” พนักงานต้อนรับเสียงหวาน “จะรับอาหารเช้าเลยมั้ยคะ”
ผมพลิกเมนูไปมา เลือกเมนูโปรด “ขอเกี๊ยวน้ำที่นึงครับ”
“รับกาแฟเพิ่มมั้ยคะ”
“ดีครับ ขอบคุณมากครับ...อ้อ ขอบะหมี่เป็ดด้วยครับ” พนักงานพยักหน้ารับคำ ผมเดินมาตักของกินเล่น
วันนี้มีขนมมากหน้าหลายตา ทั้งเค้ก แซนวิช ข้าวต้มมัด ผมตักมานิดๆหน่อยๆ พออิ่ม
พอนั่งในเครื่องคงหลับยาวเลยแหละ...
ลืมแนะนำตัว ผมชื่อเมย์ครับอายุ 27 ปี เป็นชาวเชียงใหม่แต่กำเนิด ตอนนี้ทำงานที่กรุงเทพ ก็แค่รับส่งผลไม้จากสวนพ่อมาขายต่อ ผมมีหน้าที่ดูแลเรื่องกระแสเงินสด การกระจายของและหาสินค้ามาขายไม่ให้ขาดตลาด ส่วนใหญ่ก็เอามาจากสวนตัวเองทั้งนั้น แต่ดีหน่อยตรงที่ผมไม่ต้องไปลงมือทำเอง เพราะที่สวนมีพี่ชายผมอยู่แล้ว พี่มาก(แกชอบให้เรียกมาร์ค ตามเพื่อนๆที่อังกฤษเรียก) เป็นคนดูแลอยู่ แกเรียนจบอินเตอร์บิสซิเนสจากอังกฤษ แต่สุดท้ายก็มาลงหลักปักฐานทำสวนช่วยที่บ้าน ก่อนกลับก็พ่วงแหม่มออสเตรียมา 1 คนหน้าตาสละสวยพร้อมกับลูกน้อยในท้องนั่นเป็นครั้งแรกที่พ่อผมเป็นลม และก็เป็นครั้งแรกที่เรารู้ว่าสุขภาพของท่านไม่แข็งแรง จากวันที่พี่มากกลับมาจนวันนี้ก็เกือบ 10 ปีแล้วนะครับ ตอนนี้แกก็อายุ 33 แล้ว น้องไมร่าก็เริ่มโตเป็นสาวสวยซะด้วย ผมเพิ่งรู้ข่าวไม่นานนี้เองว่าพี่สะใภ้ก็กำลังจะมีลูกชายให้แกอีกคน แฮปปี้แฟมมิลี่จริงๆ
ส่วนผมน่ะเหรอ ผมน่ะ เกย์ทั้งแท่งครับ รู้ตัวเองมาตั้งแต่เด็กว่ามีเมียเป็นเพศตรงข้ามไม่ได้ ผมหลงไหลในสรีระร่างกายของผู้ชายมาโดยตลอด สมัยก่อนสื่อต่างๆยังไม่เยอะเท่านี้ ชายรักชายสมัยก่อนต้องเก็บเงียบ แต่ผมปล่าถึงแม้สื่อจะน้อย แต่ผมก็มีสิ่งยั่วยุตั้งแต่เด็ก สวนติดกับผมมีลูกชายคนนึงครับ เป็นลูกชายหัวแก้วหัวแหวนเลยชื่อว่า ภิวัฒน์ ชื่อเล่นว่า พีท (จริงๆชื่อว่า พีซที่มาจากคำว่า มาสเตอร์พีซ เพราะเป็นลูกชายคนเดียวของบ้าน เจ้าตัวไม่ชอบ เลยให้เรียกว่าพีทแทน) ครอบครัวเราเขม่นกันตั้งแต่ผมจำความได้ แต่เราสองคนก็เป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน จนวันหนึ่งเมื่อตอนผมอายุ 10 ขวบ พีทก็หนีออกจากบ้านมาเพราะทนเสียงทะเลาะของพ่อกับแม่ไม่ไหว ผมให้เขามานอนด้วย...
เรานอนด้วยกันตามประสาเด็กๆครับ แต่ไม่นาน พีทก็มากอดผม แล้วถามผมว่า
“เมย์อยากรู้มั้ย ว่าผู้ใหญ่เค้าทำอะไรกันในตอนกลางคืน”
“ไม่รู้ เค้าทำอะไรกันเหรอ” ผมก็ซื่อๆใสๆอะครับ ก็คนมันไม่รู้จริงๆนี่นา
“อยากรู้มั้ย”
“อืม” ผมรับคำ
“งั้นเราจะโชว์ให้ดู เมย์ห้ามขัดนะ” แล้วเค้าก็เลิกเสื้อผมขึ้น โลมเลียที่หน้าอกเล็กๆของผม
“อ๊ะ พีท ทำอะไรน่ะ” ลิ้นน้อยๆบรรเลง ขบและดูดเหมือนอมลูกกวาด
“กำลังโชว์ให้ดูไง”
“แล้วพีทไปรู้มาจากไหน” ผมถาม
“เราแอบเห็นคนงานที่บ้านเค้าทำกันแบบนี้ พอเสร็จก็หัวเราะคิกคักเลย”
“มันสนุกเหรอ”
“คงจะสนุกแหละ ไม่อย่างนั้นเค้าจะหัวเราะทำไม” พีทดึงกางเกงผมออก แล้วครอบจู๋น้อยผมไว้
“อา...ดีจัง” ผมคราง
“เมย์ทำให้เราด้วยสิ” แล้วเค้าก็ยืนแท่งกระจุ๋มกระจิ๋มมา ผมอ้าปากรับ เราผลัดทำให้กันจนเหนื่อย...
“เมย์ สนุกมั้ย”
“เหนื่อย แต่สนุกดี มันรู้สึกแปลกๆ ขนลุก” ผมตอบ
“ยังมีสนุกกว่านี้อีกนะ”
“ยังไงอะ” ผมตาลุกวาว
“เมย์นอนคว่ำลงก่อน” ผมทำตาม “ยกตูดขึ้นมา...แยกๆขาหน่อย”
พีทน้อยๆค่อยๆดันเข้ามาในตัวผมครับ มันไม่เจ็บเลย กลับรู้สึกแปลบๆเสียวๆ
“อ๊ะ เจ็บ...” กลับเป็นพีทซะอีกที่บ่นว่าเจ็บ (มานึกตอนนี้ว่าทำไม....สงสัยเพราะตอนแทรกเข้ามันโดยไม่มีอะไรหล่อลื่นมันจะถูกเสียดสี ของฝ่ายรุกจะโดนเต็มๆ มันเลยทำให้เจ็บ)
“พีท พอก่อนก็ได้” ผมปราม
“ไม่เป็นไรหรอก ไม่เจ็บแล้ว ดูสิ มันเข้าไปหมดทั้งอันเลย”
“สนุกดีจัง” ผมบอก
“เดี๋ยวเราลองขยับดูนะ” แล้วพีทก็ขยับบั้นท้ายเด้งเข้าออก ผมรู้สึกตื่นเต้นกับสัมผัสแปลกใหม่นี้มาก...
สุดท้ายพีทก็กระตุกและล้มพับลงไป ไม่มีน้ำใดๆออกมา พวกเราหอบทั้งคู่...
“เมย์ทำให้เราบ้างสิ” ผมจัดท่าพีทแบบที่เขาทำ สอดแทรกของตัวเองเข้าไป
“เจ็บ..เมย์ไม่ทำแล้ว” ผมดึงออก นอนกอดเค้า...ตั้งแต่นั้นมาผมก็ไม่คิดที่จะรุกใครอีกเลย
นับจากวันนั้นพีทก็แอบมานอนค้างกับผมบ่อยๆ ผลัดกันนั่ง ผลัดกันนอนจนกลายเป็นเรื่องปกติของพวกเรา
“ความลับของเราสองคนนะ...” พีทบอก “เมย์ห้ามบอกใครนะ ไม่อย่างนั้นเราจะเล่นแบบนี้กันอีกไม่ได้” ผมพยักหน้า
ตอนนั้นผมไม่อยากให้เราสองคนหยุดการละเล่นแบบนี้เลย...
จนกระทั่งเราอยู่ม.ต้น ครอบครัวพีทเริ่มมีปัญหาหนักข้อขึ้น พ่อมีเมียน้อยและพาเข้าบ้าน ไม่นานพีทก็มีน้องชายคนใหม่ พีทเริ่มเกเรตามประสาวัยรุ่น ไม่มาหาผมเหมือนเดิม พอม.2 พีทก็มีแฟนเป็นสาวสวยของโรงเรียน ตอนนั้นพีทเป็นนักกีฬาด้วย ทั้งหล่อและเล่นกีฬา ถึงแม้การเรียนของพีทจะไม่ดี แต่ก็ไม่ทำให้ความนิยมในตัวเขาลดลง ผิดกับผม หน้าตาผมธรรมดามากๆ เป็นแบบชาวเหนือขนานแท้ หน้าขาวๆเคราเยอะ คิ้วหนาเป็นปื้น ตาโตคมเข้ม ถ้ามองแยกเป็นส่วนๆจะดูดีมากๆ แต่พอประกอบลงหน้าผมแล้ว...ทำไมไม่หล่อเลยวะ แต่ผมเรียนเก่ง ผมถีบตัวเองให้อยู่จุดสูงสุดทางด้านนี้ เพื่อประชดพีท เพื่อให้เขารู้ว่า เราอยู่คนละขั้วกันแล้ว
ผมเสียใจได้ไม่นาน คืนฝนตกคืนหนึ่งตอนที่เราอยู่ ม.3 พีทก็มาหาที่ห้องด้วยสภาพเปียกโชก
“เห้ย...พีท มาได้ไง” ผมตกใจ แต่ผมรู้อยู่แล้วว่าเขามาได้
บ้านผมเป็นบ้านไม้ทรงไทย แต่ด้วยพื้นที่เปิดโล่ง ชั้นบนจึงแม่ห้องแค่ 2 ห้อง คือห้องพ่อแม่กับห้องพี่ แต่ก่อนผมจะนอนห้องพี่มาก เพราะแกเป็นโรคขี้กลัว นอนคนเดียวไม่ได้เลยนอนกับพ่อแม่ พอโตหน่อยก็มาแย่งห้องผม พ่อเลยเทพื้นด้านล่างและทำเป็นห้องใหม่ 2 ห้อง 1 ในนั้นคือห้องนอนผม...
นี่ถ้าพีทมันเดินขึ้นด้านบน แล้วเจอพี่ผมล่ะ...
“เมย์...” มันทำหน้านิ่ว เหมือนพยายามกลั้นอะไรบางอย่าง
“อย่าเพิ่งพูดอะไร เช็ดตัวก่อน” ผมยื่นผ้าเช็ดตัวให้ “เปลี่ยนเสื้อผ้าด้วย เดี๋ยวไม่สบาย”
เสียงลมและฝนกรรโชกด้านนอกกลบเสียงต่างๆมิด แต่ผมได้ยินเสียงมันร้องไห้โฮอย่างชัดเจน
“เห้ย พีท เป็นอะไรไปวะ” ผมละล่ำละลักถาม
“เมย์ กูจะไม่ได้อยู่ที่นี่แล้วนะ...พ่อกับแม่กูจะหย่ากัน กูต้องไปอยู่ขอนแก่นกับแม่”
ผมตกใจแกมใจหายแว้บ มันไม่ได้มาบ้านผม 3 ปีได้ และครั้งนี้เหมือนจะมาบอกลา...
น้ำตาพาลจะไหล...
“เออ อย่าพูดอะไรมากเลย เช็ดหัวให้แห้ง” ผมขยี้ผ้าเช็ดตัวกับผมหนาๆของมัน
มันเงยหน้ามา ดวงตาดำขลับนั้นหม่นหมอง ใบหน้าขาวซีดสะท้อนแสงฟ้าแลบในความมืด
“เมย์ กูขออะไรมึงหน่อยได้มั้ย” ผมสบตามัน ใบหน้าเรียวยาวรับกับจมูกที่โด่งเป็นสัน
“อะไรวะ”
มันไม่ตอบ แต่คว้ามือผมไว้ โยนผ้าเช็ดตัวทิ้ง...แล้วก็จูบผม
รสจูบที่เคยค้างคาในความทรงจำกลับมาหาผมอีกครา คราวนี้มันเศร้าสร้อย อ้อยอิ่งและวาบหวาม...
มันปลดกระดุมชุดนอนผมออกทีละเม็ด ดึงกางเกงผมออกและขว้างมันทิ้ง...
“เมย์...กูไม่เคยลืมมึง...กูลืมมึงไม่ได้” มันพร่ำเพ้อ ผมนอนราบลงกับพื้น ในใจก็ร่ำร้องหารสสัมผัสจากมันมาโดยตลอด
“พีท...มึงมีแฟนแล้วนะ”
“กูรู้...แต่กูก็หยุดคิดถึงมึงไม่ได้” มันพรมจูบใบหน้า ซอกคอผม ลงลิ้นกับหน้าอก เม็ดไตสีชมพูของผมสะดุ้งรับรสสัมผัสนั้น สองมือผมกระชากเสื้อของมันออก กล้ามเนื้อวัยรุ่นนักกีฬาเกร็งกระชับเมื่อผมลูบไล้หน้า รักแร้และหน้าอกของมัน...
“แล้วมึงหายไปไหนมา” ผมถาม
มันดึงกางเกงในผมออก ใช้ปากทำอย่างอื่นแทนการตอบคำถาม
“อา พะ พีท...เสียวววว” ผมร้องคราง มันได้ใจดูดหนักกว่าเดิม
“ทำให้กูด้วยสิ” มันกลับตัวจ่อเจ้าโลกของมันตรงหน้า
ผมจ้องมันด้วยความโหยหา...นี่คือสิ่งที่อยู่กับผมมาตลอด 3 ปี...และมันก็จากผมไป 3 ปีจนกระทั่งวันนี้ มันใหญ่ขึ้น แกร่งขึ้น ความดุดันตามประสาวันรุ่นทำให้มันแปลกตาไปบ้าง แต่มันก็คืออันเดิมที่ผมคุ้นเคยเป็นอย่างดี ผมใช้ปลายลิ้นแตะตรงหัวบาน มันผงกรับดั่งกับรู้ว่าได้กลับบ้าน ก่อนที่พีทจะดันเข้ามาทั้งหมด... ดุ้นดุนดันเข้าออกตามแรงกระเด้งของเจ้าตัว พีทขยับสะโพกเป็นจังหวะ ปากของเราเคลื่อนไหวขึ้นลง... เขาดูดแน่นขึ้น ทึ้งมันราวกับว่าจะให้มันหลุดออกจากตัวผม
“พีท อ๊า เสียว...อย่า อย่าแรงแบบนั้น โอว๊ ... อะ อะ...อ๊าๆๆๆ” ผมทนต่อไปไม่ไหวหลั่งออกมาในปากเขาจนหมด
และยิ่งแปลกใจที่พีทไม่ถอนปากออก แต่ครอบไว้ดูดดื่มจนเกลี้ยง...ผมหมดแรง
“เมย์...” มันเรียกผม
“หืม..”
“กูขอทำแบบเดิมนะ” มันบอก ผมรู้ว่าแบบเดิมคืออะไร เพราะมันเป็นความลับของเรา
“อืม...”
พีทนอนหงาย ผมชอบให้มันนอนท่านี้ที่สุด
ฝ่ามือของมันประสานช้อนหนุนหัว ชาชันพอประมาณและเผยเห็นให้ตัวมันทั้งหมด
“กูขอทำแบบเดิมนะ” ผมบอกมัน...ผมมองดูความเข้มแข็งที่ใหญ่โตขึ้นกว่าเดิม มันแกร่งและพร้อมแล้ว
“เดี๋ยว อย่าเพิ่ง มึงวาสลีนมั้ย” มันทัก
“มีๆ กูเอาไว้ทากันปากแตก” ผมลุกไปที่โต๊ะ เปิดลิ้นชักและค้นหา...ในที่สุดผมก็เจอ...
“เอามาทำอะไร” ผมถาม
“ทามันตรงนั้น” มันชี้ที่ท่อนเอ็นของตัวเอง “ทาให้ชุ่มเลยนะ”
ผมป้ายวาสลีน ชะโลมทั่วลำ “พอแล้ว ลงมาเถอะ”
ปรกติสมัยเป็นเด็ก เราจะทำกันแบบนี้เป็นปกติ ไม่ต้องหล่อลื่น แต่ทำกันสนุกๆ ต่างก็ไม่คิดอะไร
แค่มันนอนหงาย ผมก็นั่งลงไป มันจะกัดฟันกรอดด้วยความเจ็บจากการเสียดสี แต่ผมกลับรู้สึกดี...
ผมหย่อนบั้นท้ายตัวเอง ให้ท่อนเนื้อมันประชิดรู
แล้วผมก็นั่งทับไปสุดแรง
“โอ๊ยยยยยยยยยยย!!” ผมตกใจร้องลั่น เชี่ย!! ทำไมมันเจ็บอย่างนี้วะ น้ำตาคลอเลย
ผมยกสะโพกขึ้น ก่อนที่จะสุดทั้งลำ ไอ้พีทก็คว้าเอวผมไว้ แล้วดึงมันลงจนสุดอีกที
“อ๊ากกกกก ไอ้พีท กูเจ็บ” ผมประท้วง “เชี่ย ทำไมไม่เหมือนเดิมวะ ทุกทีไม่เห็นเจ็บ”
“อย่าเพิ่งดิ้น อยู่เฉยๆก่อน” มันบอก “จะไม่เจ็บได้ยังไง เล่นนั่งทับทีเดียวมิดลำ” ผมสูดปากด้วยความเจ็บ
“แล้วของกูก็ใหญ่ขึ้น ของมึงยังใหญ่ขึ้นเลย” มันเอื้อมมือมาจับคลึงน้องชายที่แห้งเหี่ยวของผม
สงสัยมันหดตอนสัมผัสแรกเสียบ...
“กะ กูเจ็บ...เอาออกก่อนได้ไหม” ผมพยายามขยับ แต่มันไหวตัวตาม “อ๊ะ อย่าเพิ่งขยับ เชี่ย อวู๊!!”
ไอ้พีทดึงตัวผมไปจูบ คราวนี้มันสอดลิ้นเข้ามา ริมฝีปากบดกัน เสียงดูดลิ้นจ๊วบจ๊าบ
ประสาทสัมผัสผมตื่นตัว ขนลุกสะท้าน น้องชายเริ่มพองและเสียดสีกับหน้าท้องมัน
สองมือมันจับที่สะโพกผมไว้ ค่อยๆยกขึ้นและกดลงช้าๆ บั้นเอวเด้งสอดใส่เบาๆ
ผมได้แต่ครางอู้อี้ เพราะปากถูกประกบไว้...จนผมทนไม่ไหว ถอนปากออกเพื่อควานหาอากาศ
“กูขยับล่ะนะ” มันบอก แต่ไม่ปล่อยให้ผมเตรียมตัว เมื่อมันยกตูดผมขึ้น รูคับรูดเสียดสีกับท่อนแข็ง
มันเด้งเอวใส่ประกบกับกระชากเอวผมลง ตึบ! ตับ!!
เสียงลมด้านนอกกลบทุกอย่างได้หมด ยกเว้นเสียงป๊าบๆจากการกระทบกันของเรา
“อา เมย์ แน่นโคตร ฟิต...ตอดดีชิบ...” ผมหน้าเหยเก ความเจ็บในตอนแรกเริ่มหายไป กลับกลายเป็นความแปลกใหม่เข้ามา
“อา พีท เสียว โอยยยยย อา ช่วยกูด้วย กูจะขาดใจตายแล้ว ทำไมมันเสียวแบบนี้”
พีทกระเด้าถี่ๆ ซอยมิดลำถี่ๆเน้นๆ “กูขอแช่ในรูมึงนะ” มันกระซิบ
มันกระแทกตัวจังหวะสุดท้าย บั้นท้ายกระตุกและพ่นลาวาออกมาในตัวผมจนหมดสิ้น...
ผมชักของตัวเองต่อโดยที่ของมันยังแข็งคาอยู่ ไม่นานผมก็สุขสมไปกับมัน
เรานอนด้วยกันอีกสักพัก น้องชายของมันไม่มีทีท่าจะหดตัว
“เห้ย พีท...เอาออกก่อน กูเจ็บ”
“ขอคาไว้ก่อนได้มั้ยเมย์...ให้มันได้อยู่ในที่ของมันก่อน” มันอ้อน
“มึงจะไปวันไหน...” ผมถาม
“จบเทอมหน้าก็ไปเลย” มันบอก “กูจะไปต่อม.4 ที่ขอนแก่น”
ผมใจหายวาบ “เราจะได้เจอกันแบบนี้อีกไหม”
“กูไม่รู้ว่ะ”
“ไม่รู้ได้ไง บ้านมึงก็อยู่แค่นี้”
“กูกลัวว่ามึงจะไม่ต้อนรับกูอีกแล้ว...เมื่อกี้กูยืนตั้งนาน เกือบจะล้มเลิกความตั้งใจมาหามึง”
“แต่มึงก็มา...” ผมหันหน้าไปมองมัน “กูดีใจนะ” มันจูบผม
“เมย์...กูขออีกยกนะ” ผมไม่ตอบ นอกจากพลีกายให้มันเชยชมอีกหลายต่อหลายครั้ง...
จนใกล้เช้า..รอบที่เท่าไหร่แล้วผมก็จำไม่ได้ ฝนหยุดไปแล้ว เสียงผู้คนไกลๆเอะอะ
ผมหรี่ตา แต่ด้วยความง่วง ผมลืมตาไม่ขึ้น จนกระทั่ง...
ตัวผมถูกกระชากอย่างแรง เสียงผู้คนโหวกเหวก
“ไอ้ลูกชั่ว” พ่อไอ้พีท “ไอ้คนไม่รักดี” มันโดนจบหน้าฉาดใหญ่
“มึงจะคบใครกูไม่ว่า แต่อย่ามาเกลือกกลั้วกับคนในครอบครัวนี้”
เสียงแม่ไอ้พีทร่ำไห้หนัก เข้ามาโอบกอดลูกชายไว้ ผมจะพุ่งไปหา แต่ก็ถูกพ่อกับแม่ดึงไว้เหมือนกัน
“พวกมึงออกจากบ้านกูไปเลยนะ อย่าเอาความจัญไรมาปล่อยที่นี่อีก” พ่อผมตะโกนไล่
“ไอ้มาก มึงเอาที่นอนน้องมึงออกไปเผา อย่าให้หลงเหลือความอุบาทว์แถวนี้อีก”
“พ่อ!!”
“เงียบ! ไอ้ลูกไม่รักดี สมสู่กับผู้ชายก็ก็ช้ำใจพอแล้ว แต่นี่ดันเป็นลูกชายไอ้เชี่ยนี่...”
“ลูกกูแล้วเป็นไงวะ ลูกมึงวิเศษมาจากไหน”
“พอแล้ว!!” พีทตะโกน “พ่อจะด่าเค้าทำไม เมย์ไม่ผิด ผมเอง ผมเข้ามาหามันเอง ผมรักมัน..”
ฉาด!! มันโดนพ่อมันตบล้มกลิ้ง ถูกประเคนด้วยเท้าอีกนับไม่ไหว
“เพ็ญ เอาลูกมึงออกไปจากบ้านกูเดี๋ยวนี้” พ่อผมประกาศิต ลึกๆแล้วพ่อก็สงสารเด็กไม่อยากให้ถูกทำร้ายร่างกายแบบนี้
แล้วป้าเพ็ญก็พาไอ้พีทนั่งรถไปขอนแก่นในวันนั้นเลย...นั่นเป็นครั้งสุดท้ายที่เราได้เจอกัน...
|