ในโลกนี้ประกอบไปด้วยชนชาติหลายหลาย ทั้งภาษา วัฒนธรรมซึ่งสิ่งหนึ่งที่สะท้อนเอกลักษณ์ของวัฒนธรรมชาตินั้นได้ดี คือการกิน ซึ่งในแต่ละวัฒนธรรมก็มีการกินที่แตกต่างกันออกไปซึ่งของกินบางอย่างนั้นก็ได้มีการแพร่หลายกระจายไปทั่วโลก แต่อาหารบางอย่างก็ทำให้เรานั้นอ้าปากหวอได้เหมือนกันว่าและอาจจะสงสัยว่า เฮ้ย! กินไปได้ไงวะนั่น เอาล่ะ เอาล่ะ เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา Ladies and Gentlemen, Please welcome to The world's strangest delicacies.
อันดับแรก เริ่มด้วย ตาปลาทูน่า (Tuna Eyeball)
ข้อมูลได้บอกมาว่าสามารถหากินได้ที่ : ประเทศญี่ปุ่นหรือจีน เขาว่ากันว่า อาหารจานนี้สามารถหาได้ทั่วไปตามซุปเปอร์มาร์เกตของญี่ปุ่นและว่าอีกว่ารสชาติของมันนั้นเหมือนกับปลาหมึก ! และหลายคนอาจจะสงสัยว่าได้มาจากส่วนไหนของทูน่า ก็ตามันแหล่ะครับ เขาจะเฉือนแงะออกมาพร้อมเนื้อรอบ ๆ ตาครับเขาบอกว่านี่แหล่ะ อร่อยดีนักแลวิธีปรุงก็เพียงแค่เอามาต้มในน้ำเดือดปรุงรส แค่นี้ก็ Umai desu. (แปลว่าอร่อยสุด ๆ ครับ)
อันดับที่สอง ไข่ปลาแซลมอน (Salmon Roe)
ข้อมูลที่ได้มาบอกว่าสามารถหากินได้ : แถบยุโรปตะวันออกหรือรัสเซีย หลายคนอาจจะสงสัยว่ามันแปลกยังไง ฉันก็เคยกินนะ แต่สำหรับบางคนมันแปลกนะเรามักเห็นไข่ปลาแซลมอนแบบแยกเม็ดออกมาแล้วซึ่งไข่ปลาแซลมอนนี่ก็ถือว่าเป็นคาร์เวียร์อีกประเภทหนึ่ง ซึ่งหลายคนอาจจะชินว่าไข่ปลาคาร์เวียร์นั้นจะต้องสีดำ จริง ๆแล้วไข่ปลาคาร์เวียร์คือไข่ของปลาสเตอร์เจียนซึ่งมีมากในทะเลสาบแคสเปี้ยนหรือทะเลแถบรัสเซีย ไข่ปลาคาร์เวียร์ทเกรดดีสุดไม่ใช่สีดำอย่างที่เราคิดเกรดดีสุดต้องสีเหลืองทอง ซึ่งเป็น Golden Carviar เป็น Premium gradeมียี่ห้อหนึ่งมีขายเฉพาะในลอนดอนชื่อว่า ยี่ห้อ ALMAS บรรจุในตลับทองคำ 24K ตลับละ 875,000 บาท อิอิ ลองไปหามากินกันนะครับ อร่อยไม่อร่อยบอกผมด้วย
อันดับที่สาม ชีส Casu Marzu
ข้อมูลที่ได้บอกมาว่าสามารถหากินได้ที่ : แคว้นซาร์ดิเนีย ประเทศอิตาลี ชีสดังกล่าวเป็นชีสที่ผลิตขึ้นกันในแคว้นซาร์ดีเนีย ประเทศอิตาลีชีสนี้แตกต่างจากชีสทั่วไปไงเหรอ ชีสนี้มันมีชีวิตอ่ะดิครับวัตถุและกรรมวิธีการผลิตชีสดังกล่าวคือ ได้มาจากนมแกะหรือแพะและที่แปลกคือ มีการใส่ตัวอ่อนของแมลง (Larvae)ลงไปด้วย ไม่ได้ระบุนะครับว่าแมลงประเภทไหนแมลงอะไร แล้วก็จะบ่มชีสทิ้งไว้เป็นเดือนเพื่อให้ตัวอ่อนเริ่มกลายเป็นแมลง เขาบอกกันว่าการบริโภคชีสนี้จะต้องกินตอนที่ตัวอ่อนของแมลงยังเป็น ๆ อยู่ซึ่งตัวอ่อนที่ว่านั้นจะพบในรูปแบบหนอนกระดึ๊บ ๆ ยั๊วะเยี้ย ๆ เพราะถ้าหากเรากินตอนตัวอ่อนมันตายแล้ว ชีสนั้นจะกลายเป็นอาหารมีพิษทันทีบางประเทศในยุโรปมีกฎหมายห้ามจำหน่ายหรือบริโภคชีสประเภทนี้ พูดง่าย ๆ คือมันผิดกฎหมายครับ พ่อแม่พี่น้อง อิอิ แปลกไหมอ่าจานนี้ อิอิ เออหาซื้อได้ตามตลาดมืดทั่วไปในอิตาลีนะครับผม
อันดับที่สี่ ถุงน้ำเชื้อปลาค้อด (Cod fish sperm or Cod milt)
ข้อมูลที่ได้บอกมาว่าสามารถหากินได้ที่ : ประเทศญี่ปุ่น หลายคนคงรู้จักปลาค้อดกันดี แต่ก็อาจจะงงว่านี่เป็นส่วนไหนของปลาค้อดน้า อิอิชื่อก็บอกอยู่แล้วว่า ถุงน้ำเชื้อ !!!! อย่าเพิ่งกรี๊ดฟังก่อนว่ามันเป็นอย่างไง เขาบอกกันว่ารสสัมผัสมันจะลื่น ๆนุ่มและละลายในปากคล้าย ๆเนย นี่ถือว่าเป็นของแพงและนิยมกินกันในฤดูหนาวของญี่ปุ่นซึ่งนิยมกินได้ทั้งดิบและสุก อ่า ลองดูครับ ลองกินของปลานะครับไม่ใช่ของคนมันคนละเรื่องกันเลยนะครับ อิอิ
อันดับที่ห้า ไข่บาลุต หรือ ไข่ข้าว
ข้อมูลที่ได้บอกมาว่าสามารถหากินได้ที่ : ประเทศฟิลิปปินส์ (ประเทศไทยก็มีนะตัวเธอ) อาหารจานนี้ถือว่าเป็น snack ของชาวปินอยเลยก็ว่าได้ หลายท่านถึงกับบอกว่าNo,please take it away from me. ไม่นะ เอามันออกไป แต่บางคนก็บอกว่า Yes,I was born for this. เหอะ ๆ ข้าเกิดมาเพื่อสิ่งนี้สำหรับกรรมวิธีการทำของชาวฟิลิปปินส์นั้นเขาจะเอาไข่ไปฝังดินจนไก่เริ่มเป็นตัวอ่อนและจากนั้นก็นำมาต้มแหล่งข้อมูลไม่ได้บอกว่าชนชาวปินอยกินกับอะไรนะครับ แต่สำหรับชนชาวสยามแล้วกินกับน้ำจิ้มไก่และก็มีแตงกวาแกล้มหน่อยแก้เลี่ยน ครับสำหรับผู้ที่ชอบก็เต็มที่ครับ แต่ถ้าใครไม่ปลื้มก็มาจานต่อไปดีกว่า
อ้นดับหก หัวแพะตุ๋น (Goat head)
ข้อมูลที่ได้มาบอกว่าสามารถหากินได้ที่ : แอฟริกาใต้ (South Africa)
เขาว่ามาว่า อาหารจานนี้มาแบบจัดเต็มสตรีม เหอะ ทั้งสมอง ลิ้นแถมหูด้วยนะอาหารจานนี้เป็นอาหารท้องถิ่นที่หาทานได้ที่แอฟริกาใต้ส่วนกรรมวิธีการทำสำหรับท่านที่ต้องการสูตรอาหารจานนี้คือเดินไปเลือกแพะที่คิดว่าน่ารักสำหรับเรา กอดมันซักทีสองสองทีแล้วบอกข้าขอเขมือบเองนะ เสร็จแล้วก็ตัดคอมันแล้วก็นำมาตุ๋นกับหอมใหญ่ กระเทียมมะเขือเทศ ขิงและพริก ปรุงรสตามใจชอบแล้วกันซึ่งเครื่องเทศเหล่านี้จะเป็นตัวเพิ่มกลิ่นและรสให้อร่อยขอโทษนะครับไม่ใช่เล่น ๆ นะครับจานนี้หากินได้ตามภัตตาคารมีระดับเท่านั้นนะครับถ้าโชคดีหน่อยตอนเสิร์ฟอาจจะเห็นตาแพะมาด้วยสำหรับแขกผู้มีเกียรติโดยเฉพาะ อิอิ สังเกตทีฟันดิ เหยินด้วยน่ากินใช่ไหมล่ะ เพื่อน ๆ ชาวโพสจัง
อันดับเจ็ด กุย เบียน (Cuy Bien)
ข้อมูลที่ได้มาบอกว่าสามารถหากินได้ที่ : ประเทศเปรู คงจะเป็นการทำใจยากหน่อยสำหรับเพื่อน ๆที่เป็นแฟนการ์ตูนเรื่องมิกกี้เม้าส์หรือราตาตุยเพราะพระเอกของเรื่องกลายมาเป็นอาหารที่อยู่ในจานนี้ซะแล้ว ขอบอกมาว่านี่เป็นอาหารไดเอตดี ๆ เลยนะ เพราะอาหารจานนี้ปรุงจากหนูตะเภาตัวกำลังพอดีๆ ซึ่งหนูประเภทนี้อุดมไปด้วยเนื้อและโปรตีนและไม่ค่อยมีไขมันและว่ากันว่ามันมีเนื้อที่เหมือนไก่ กระต่ายหรือแม้แต่หนูก็ใช่สิมันเป็นหนูเหมือนกันนี่ว่าไปอาหารจานนี้เหมาะกับคู่รักที่ออกเดทกันครั้งแรกนะครับ อิอิจินตนาการดูสิครับ เหอะ คนที่เราปลื้มกำลังแทะขาหนูด้วยมือเหมือนไก่KFC โอ้ว ประทับใจ
อันดับแปด ปิ๊กาจูจามรี (Yak penis)
ข้อมูลที่ได้มาบอกว่าสามารถหากินได้ที่ : ประเทศจีน
จามรี คือ สัตว์ประเภทนึง ที่มีลักษณะคล้ายกระทิงแต่มีไอเท่มเพิ่มมาอย่างนึงคือขนยาวเป็นพิเศษเหมือนผมของดาราที่ใช้แชมพูที่มีสารสกัดจากตะไคร่น้ำตามตีนสะพานเพราะอยู่ในที่สูงและอากาศหนาว อ่า นอกเรื่องเกินไป เข้าเรื่องอาหารจานนี้เป็นอาหารเหลาหรืออาหารชั้นสูงมีชื่อเรียกสำหรับอาหารจานนี้ว่า มังกรทะยานในห้วงไฟแห่งตัณหา (Dragonin the flame of desire) หือ ชื่อแรงเนาะหากินได้ในภัตตาคารในกรุงปักกิ่งที่มีชื่อว่า Guolizhuang คือที่นี่เราไม่ได้เสิร์ฟแค่ปิ๊กาจูนะแต่มาทั้งยวงเลย อุอุเชื่อกันว่าอาหารจานนี้เมื่อกินแล้วจะช่วยทำให้ผิวดีขึ้นด้วยนะ อ่าลองหามาชิมกัน
อันดับเก้า หอยนางรมแห่งเทือกเขาร๊อกกี้ (Rocky Mountain oyster)
ข้อมูลที่ได้มาบอกว่าสามารถหากินได้ที่ : ประเทศสหรัฐอเมริกา
หลายคนสงสัย ฉันเรียนมา นี่เทือกเขาร๊อกกี้ไม่ติดทะเลซักหน่อยมันจะมีหอยได้ไงกัน อิอิ ก็เพราะอาหารจานนี้มันไม่ใช่หอยนะสิและก็ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับทะเลเลยด้วย เพราะมันคือ แถ่นแทนแท๊น ตาโปด(Kra-Poke) ของวัวนั่นเอง อุ๊ยส์ วิธีการทำสำหรับท่านที่สนใจคือไปหาวัตถุดิบมาให้ได้ก่อน สำหรับผู้หญิงถ้าหาไม่ได้ก็ไม่แนะนำให้ใช้ของแฟนเพราะมันเหม็นเขียวแทนกันไม่ได้ครับ เมื่อหามาได้ก็หั่นบาง ๆ ชุบแป้งทอกกรอบนิยมกันมากในอเมริกาตอนเหนือถึงขนานดมีงานเทศกาลแข่งกินเจ้านี้ประจำปีอ่าครับ นี่ไม่ใช่อาหารจานหลักนะเป็นแค่อาหารเรียกน้ำย่อยถ้ามีเมืองไทยเราจะตั้งชื่ออาหารจานนี้ว่าอะไรดีนะอิอิ ลูกปืนใหญ่แห่งสยามเป็นไงครับ อิอิ
อันดับสิบ ถุงน้ำเชื้อปลาเฮอร์ริ่ง (Herring Sperm or Herring milt) ข้อมูลที่ได้มาบอกว่าสามารถหากินได้ที่ : ประเทศรัสเซีย อาหารจานนี้เป็นอาหารพื้นบ้านของรัสเซียแต่ก็เป็นที่นิยมกันในอังกฤษเหมือนกัน (จริงเหรอเนี่ย)วิธีการปรุงเราจะปรุงโดยการนำไปทอดและเสิร์ฟกับหัวฮอร์ชแรดดิชแต่สูตรที่นิยมคือนำไปทอดกลับแป้งและนำไปไว้บนขนมปังดังภาพ อ่า เสิร์ฟ อ่ามาแล้วครับ อสุจ๊ากร้อน ๆ แหม อยากกินจัง (ไม่ใช่ของปลานะที่อยากกิน) อิอิ
อันดับสิบเอ็ด Smalahove (ภาษานอร์เวย์หรือนอร์วีเจียน อ่านไม่ออกครับ)
ข้อมูลที่ได้มาบอกว่าสามารถหากินได้ที่ : ประเทศนอร์เวย์
จานนี้มาเป็นหัวแกะบ้าง หลังจากที่อิ่มจากหัวแพะไปแล้ว หัวแกะอบหรือSmalahove ของนอร์เวย์นี้เป็นอาหารที่กินกันในเทศกาลคริสต์มาสซึ่งตอนปรุงเขาจะไม่จัดเต็มเหมือนหัวแพะแอฟริกาโดยจานนี้เขาจะเอาขนและสมองของแกะออกไปจากนั้นก็นำไปเคี่ยวหลายชั่วโมงเพื่อให้นุ่มขึ้น เสิร์ฟพร้อมกับมันฝรั่งบดซึ่งถ้านั่งทานอาหารตามโรงแรมหรือเรือสำราญของนอร์เวย์ก็อย่าช๊อกไปนะครับถ้าเจออาหารจานนี้บรรจุอยู่ในรายการอาหาร แหม จากรูปนี้ดูแบบว่าแกะหลับแบบสบายอารมณ์ไปเลยเนาะ ไม่แนะนำให้ทำเองที่บ้าน เพราะไม่เวิร์ค
อันดับสิบสาม ปลิงทะเล (Sea Cucumber)
ข้อมูลที่ได้มาบอกว่าสามารถหากินได้ที่ : ทั่วไปในแถวเอเขีย
อาหารแปลกประหลาดจานนี้เป็นที่นิยมกันในประเทศแถบเอเชียตะวันออกและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เขาว่ากันว่ามันมีฤทธิ์เป็นยาด้วยถึงรูปร่างมันอาจจะอัปลักษณ์ไปซักหน่อย ถึงมันจะเหนียว ลื่น แต่นี่แหล่ะแหล่งโปรตีนชั้นยอด ไขมันน้อย ซึ่งนิยมนำไปปรุงกับเนื้อแกะ เห็ดชิตาเกะผักกาดขาวจีน ซึ่งเชื่อกันว่ามีฤทธิ์ในการบำรุงไต แหมในรูปนี่ขนาดกำลังเหมาะมือเลย อย่าคิดมาก แบบว่า ขนาดกำลังพอดีเหมาะกับการนำมาทำอาหารอ่า คิดมากจริง ๆ เพื่อน ๆ อ่า(หรือว่าเราคิดคนเดียวเนี่ย)
ครับ หมดซักที นี่คือการตั้งกระทู้ครั้งแรกของผมยังไงก็ลองอ่านดูนะครับ ถึงแม้ว่าบางอย่างจะเคยโพสมาแล้วก็ตามพอดีอ่านหนังสือเรื่องชีส casu marzuอยู่เลยลองหาในเน็ต ดันไปเจอบล๊อกอาหารไม่น่าเชื่อผมคัดมาให้ดูเท่าที่ทำได้อ่าครับ ส่วนเรื่องภาษาที่ใช้เขียนนั้นก็มีทะลึ่งบ้างนิดหน่อยนะครับ (หรือว่ามากเลยอ่า) ก็ครับ นิดหน่อย ฮา ๆ ครับยังไงก็ฝากเพื่อน ๆ ด้วยนะครับ
|