แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย onex99 เมื่อ 2024-5-21 21:09
เมื่อไม่นานมานี้ กลุ่มวัยรุ่นสถาบันอาชีวะได้รวมตัวกันเป็นแก๊งค์นิสัยกวนๆและมักจะก่อปัญหาในชุมชน วันหนึ่งพวกเขาถูกจับกุมตัวและนำไปขังไว้ในคุกที่สถานีตำรวจใกล้ๆ กับค่ายทหาร จำนวน 10 คน พวกเด็กๆคิดว่าไม่นานก็จะมีผู้ปกครองมารับตามกฎหมาย แต่เหตุการณ์กลับไม่ได้เป็นเช่นนั้น แทนที่ผู้ปกครองจะมารับ เด็กๆ ถูกแจ้งว่ามีนายสิบจะมารับตัวไป "ดูแล"เด็กอาชีวะทั้ง 10 คน เด็กๆ รู้สึกไม่สบายใจ แต่ก็ยังไม่รู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้นต่อไป เด็ก 1: "นี่มันอะไรกันวะ? พวกนายสิบมารับเราแทนพ่อแม่เราเหรอ?" เด็ก 2: "มันต้องมีอะไรผิดพลาดแน่ๆ" เมื่อเวลาเย็นมาถึง รถทหารคันใหญ่ก็มาถึงสถานีตำรวจ นายสิบ 20 นายในชุดเครื่องแบบทหารก้าวลงจากรถอย่างรวดเร็วพวกเขามีท่าทางดุดันและไม่มีใครยิ้มแย้มนายสิบคนหนึ่งยืนหน้ากลุ่มพร้อมกับรายชื่อเด็กๆ ในมือ นายสิบ 1: "นี่ไอ้พวกเด็กอาชีวะใช่ไหม? ดีล่ะ วันนี้มึงได้บทเรียนแน่" เด็ก ๆ ถูกจับใส่กุญแจมือและนำตัวขึ้นรถทหารพวกเขาเริ่มตระหนักว่าชะตากรรมของพวกเขาอาจไม่เป็นไปตามที่คาดหวังพวกเขาถูกนำตัวขึ้นรถที่มืดและเงียบมีเพียงเสียงหายใจและเสียงโซ่ที่ล่ามอยู่กับข้อเท้าของพวกเขาดังก้องนายสิบที่นั่งอยู่ในรถมองดูพวกเขาด้วยความเกลียดชัง นายสิบ 11: "ไอ้พวกเด็กเวรพวกมึงรู้ไหมว่าพวกมึงทำให้คนอื่นเดือดร้อนแค่ไหน!" นายสิบ 12: "พวกมึงจะได้บทเรียนที่จำไปจนตาย!" บอส: "พวกกูไม่ได้ตั้งใจ ทำไมต้องทำกับพวกกูขนาดนี้ด้วย!" นายสิบ 13: "เพราะพวกมึงมันสมควรโดน! ที่นี่ไม่ใช่ที่ๆ มึงจะมาก่อเรื่อง!" เมื่อถึงค่ายทหาร พวกเด็กๆ ถูกนำตัวไปยังอาคารเก่าๆที่อยู่ลึกในค่ายทหาร บรรยากาศเงียบและน่ากลัวผนังเก่ามีรอยเลือดและรอยขีดเขียนที่บ่งบอกถึงความทุกข์ทรมานของผู้ที่เคยถูกขังอยู่ที่นี่ ทันทีที่ก้าวเข้าสู่ค่ายพวกเขาถูกผลักดันให้ยืนเรียงแถวเป็นแนวตรงนายสิบสั่งเสียงดังให้พวกเขาเปลือยเสื้อช็อปออกและเตรียมตัวรับการฝึกวินัยที่เข้มงวด นายสิบ 2: "ไอ้พวกนี้จะได้รู้ว่าอะไรคือวินัยและความเคารพ!" นายสิบคนหนึ่งพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเย็นชา"พวกมึงคิดว่าผู้ปกครองจะมารับมึงเหรอ? วันนี้พวกมึงจะได้เจออะไรที่หนักกว่านั้น" เด็กอาชีวะคนหนึ่งตอบโต้ด้วยท่าทางกวนๆ"แล้วพวกมึงจะทำอะไรกูได้? กูก็แค่ต้องจ่ายค่าปรับเท่านั้นแหละ!" นายสิบอีกคนหนึ่งหัวเราะเยาะ "คิดง่ายไปแล้วมึงวันนี้พวกมึงจะได้รู้จักความหมายของคำว่า 'วินัย' ที่แท้จริง" เด็กๆ ถูกแยกกันขังในห้องเล็กๆ แต่ละห้องมีแค่เตียงเหล็กเก่าๆและห้องน้ำที่สกปรก ข้าวของไม่มีความสะดวกสบายนายสิบเริ่มการทรมานด้วยการบังคับให้เด็กๆถอดเสื้อผ้าออกและลงโทษพวกเขาด้วยการทุบตีและใช้กระบองเหล็ก นายสิบ 3: "ไอ้พวกนี้ต้องเรียนรู้ว่าไม่ควรมีความกล้าหาญต่อสู้กับผู้ที่มีอำนาจ!" เสียงร้องขอความเมตตาของเด็กๆ ดังก้องไปทั่วห้อง เด็ก 3: "ได้โปรด! พวกเราแค่เด็กเท่านั้นเอง! ปล่อยพวกเราไปเถอะ!" นายสิบ 4: "มึงจะไม่มีทางได้ออกจากที่นี่ง่ายๆ!" ในแต่ละวัน วัยรุ่นเหล่านี้ต้องตื่นตั้งแต่เช้ามืดวิ่งออกกำลังกายเป็นระยะทางไกลๆ ท่ามกลางแดดร้อนจัด ต้องทำงานหนักตลอดวันทั้งทำความสะอาดค่าย ขัดห้องน้ำ และตัดหญ้าพวกเขาถูกบังคับให้อยู่ในท่าทางที่ไม่สบายตลอดเวลาและถ้าใครแสดงท่าทางกวนหรือขัดคำสั่ง จะถูกลงโทษอย่างหนัก เด็กคนหนึ่งพยายามพูด "พอเถอะ กูไม่ไหวแล้ว!"
นายสิบตอบด้วยสายตาเย็นชา "มึงไม่มีสิทธิ์พูดมึงต้องทำตามคำสั่งเท่านั้น!" การทรมานยังคงดำเนินต่อไปในวันถัดๆ มา เด็กๆถูกบังคับให้อดข้าวอดน้ำและทนต่อความเจ็บปวดจากการถูกทุบตีนายสิบบางคนเริ่มล่วงละเมิดทางเพศเด็กๆ เพื่อสร้างความอับอายและความทรมานมากขึ้น นายสิบ 5: "ไอ้พวกนี้ต้องถูกสั่งสอนอย่างหนัก!" นายสิบ 6: "วันนี้มึงจะได้รู้ว่าความเจ็บปวดที่แท้จริงเป็นอย่างไร!" เมื่อวันเจ็ดมาถึง ไม่มีผู้ปกครองคนใดมารับตัวเด็กวัยรุ่นทั้ง 10คนกลับบ้าน พวกเขายืนเรียงแถวในสนามฝึก เหนื่อยล้า อ่อนแรง และหมดหวังสายตาของทุกคนมองไปที่นายสิบที่ยืนอยู่เบื้องหน้าใบหน้าของนายสิบเปื้อนยิ้มเยาะเย้ย และสายตาที่เย็นชาไร้ความเมตตา นายสิบคนหนึ่งประกาศด้วยน้ำเสียงเย็นชา"วันนี้คือวันสุดท้ายของพวกมึง ไม่มีใครจะมาช่วยมึงได้แล้วมึงจะได้รู้จักความหมายของคำว่า 'ความทรมาน' ที่แท้จริง" การเริ่มต้นแผนการชั่วร้าย: วัยรุ่นทั้ง 10 คนถูกนำตัวไปยังห้องขังเล็กๆ ที่เก่าและสกปรกผนังห้องเปื้อนด้วยคราบเลือดและรอยขีดเขียนที่บ่งบอกถึงความทุกข์ทรมานของผู้ที่เคยถูกขังอยู่ที่นี่พวกเขาถูกบังคับให้เปลือยกาย มือทั้งสองข้างถูกใส่กุญแจมือไพล่หลังข้อเท้าทั้งสองข้างถูกล่ามโซ่ตรวน และถูกโซ่คล้องคอล็อคกับลูกกรงเหล็กจำกัดท่าทางให้นั่งตลอดเวลาสภาพร่างกายที่อ่อนล้าและท่าทางที่ไม่สบายตาทำให้พวกเขายิ่งทรมานมากขึ้น เด็กคนหนึ่งพยายามอ้อนวอน "ปล่อยกูเถอะ กูทนไม่ไหวแล้ว!" นายสิบคนหนึ่งตอบด้วยสายตาเย็นชา "มึงไม่มีสิทธิ์พูดมึงต้องรับกรรมที่มึงก่อไว้" การทรมานทางร่างกายและจิตใจ: ทุกวัน นายสิบจะลงมาเช็คเด็กวัยรุ่นทั้ง 10 คนพวกเขาใช้กระบองเหล็กทุบตี ใช้ที่ช็อตไฟฟ้าจนหมดสติ ทุกๆ วันเด็กพวกนี้ต้องทนรับการทารุณกรรมอย่างโหดร้ายนายสิบมองดูพวกเขาด้วยสายตาที่เย็นชาไร้ความรู้สึก นายสิบคนหนึ่งพูดกับเด็กคนหนึ่งที่ร้องไห้ด้วยความทรมาน"มึงคิดว่าจะมีใครมาช่วยมึงเหรอ? ไม่มีทางหรอกมึงจะต้องทนทุกข์ทรมานจนกว่าจะตาย" เด็กคนนั้นพยายามดิ้นรน "ขอร้องเถอะ หยุดเถอะกูไม่ไหวแล้ว!" แต่เสียงร้องของเขากลับไม่มีความหมายในห้องขังที่เงียบงันและเต็มไปด้วยความทุกข์ทรมาน
|