แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย NOOFONG เมื่อ 2024-7-23 13:28
อัยย์รามตื่นเต็มตา หลังพบว่าตัวเองอยู่ในสภาพที่ไม่ปกติ แถมยังมีใครที่ไหนก็ไม่รู้มานอนอยู่ข้างๆอีก “นะ นาย เป็นใคร แล้วเสื้อผ้า…”เขาก้มลงมองดูตัวเองอีกครั้ง หลังจากที่อีกฝ่ายถูกปลุกให้ตื่น ดินก็รู้ว่ารามต้องการจะสื่ออะไร “หยุดเลย คุณอย่าเพิ่งคิดไปไกล แล้วนี่เมื่อคืนจำอะไรได้บ้างมั้ย”ดินร้องห้าม ก่อนจะถามทวนความจำ “เมื่อคืนงั้นหรอ” มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่นะ
ย้อนอีกรอบ
“ไม่อ้าวว จากลับบ้าน~” แค่เมาไม่เห็นต้องทำท่าอ้อนขนาดนี้ แต่เมาแล้วถูกทิ้งก็ไม่ไหวนะ ทีหลังจะเมาก็หัดรับผิดชอบตัวเองหน่อย ดินได้แต่คิด เขาเดินโอบเอวไอ้คนเมาที่ไม่ได้สติมาสักพัก ดูท่าจะอีกไกลกว่าจะถึงรถ คงจะต้องแบกแล้วล่ะ “นี่คุณ ขี่หลังผมนะ”เขาบอกแล้วค่อยๆย่อตัวลง ก่อนจะจับอีกฝ่ายขึ้นขี่หลัง “อื้อ~” ตัวเล็กแต่ก็แอบหนักเหมือนกันนะ อากาศกลางคืนเริ่มเย็นลงจนเริ่มหนาว รามเลยเอาหน้ามาซุกซอกคออุ่นๆของดิน ดูเหมือนจะโรแมนติกใช่มั้ยล่าา
คุณคิดผิด
รามที่เอ๊ะอ๊ะจับแก้วยกกระดก น้ำลายเริ่มแตกฟอง เขารู้สึกพะอืดพะอมมาสักพักแล้ว และการที่ดินแบกเขาขึ้นหลัง ก็เหมือนกับการนั่งเรือดีๆนี่เอง
โอ้ก….. เต็มหลังเลยครับผม
ตัดมาที่ปัจจุบัน “ทีนี้ พอนึกออกหรือยัง ว่าทำไมผมกับคุณ เราถึงอยู่ในสภาพแบบนี้”ดินว่าอย่างเซ็งๆ เขาก็อยากกลับไวๆอยู่หรอก แต่หาเสื้อผ้าเปลี่ยนไม่เจอ ครั้นจะทิ้งไว้แบบนี้เดี๋ยวจะหาว่าไม่มีมารยาท ก็เลยต้องอยู่รออธิบาย แต่ดันเผลอหลับซะได้ “เอ่อ..เราขอโทษนายด้วยนะ คือเมื่อคืนเราจำได้ว่าเมามาก แล้วทำไมถึงเป็นนายล่ะที่มาส่ง” “ก็คุณเล่นเมาอยู่ในร้าน จนร้านจะปิด ไอ้พยัคฆ์ เอ่อพี่ชายผมน่ะเป็นเจ้าของร้านนั้น ก็เลยให้ผมมาส่งคุณนั่นแหละ ถ้าจะทิ้งไว้ก็ดูจะใจจืดใจดำ” รามทำหน้าหงอยเป็นหมาป่วย และก็โดนบ่นอีกชุดใหญ่ “คราวหน้าถ้าจะเมา ก็ช่วยอย่าทำตัวเป็นภาระของคนอื่นนะครับ คุณอาจจะไม่ได้เจอคนใจดีอย่างผม” “รู้แล้วน่าา”แต่รามก็พอจำเรื่องราวเมื่อคืนได้ลางๆ เหมือนว่าเราจะรู้สึกอายกับเรื่องที่ทำลงไปสินะ เลยเผลอดื่มต่อไปอีกตั้งหลายแก้ว ทั้งที่ตั้งใจว่าจะพอแล้วแท้ๆ เพราะตัวเองขี่บิ๊กไบค์มา “แต่ยังไงก็ขอบคุณนะ ที่อุตส่าห์มาส่ง” “อือ ถ้าไม่มีอะไรแล้ว ขอยืมชุดกลับหน่อยนะ แล้วก็ฝากซักเสื้อที่เปื้อนอ้วกคุณมาคืนด้วย” “อ่าา ดะเดี๋ยว”รามร้องห้าม ก่อนที่อีกฝ่ายจะเดินออกไป “นายชื่ออะไร” “พศุตม์ หรือเรียกดินเฉยๆก็ได้ งั้นขอตัวเลยละกันนะ”ดินเดินออกไปพร้อมชุดที่ไม่ค่อยเหมาะสมกับตัวเขานัก มันรัดไปนิด ถ้าเทียบขนาดตัวของเขากับราม ก็คงตัวหนากว่าประมาณนึง
หลังจากที่ดินกลับไป ความเขินอายทั้งหลายก็มุ่งตรงมาในหัวของไอ้คนที่ไม่รู้จะเอาหน้าไปมุดที่ไหน เขาคงไม่ออกจากบ้านไปสักพัก
ติ๊ด. เสียงปลายสายกดรับโทรศัพท์ “ไอ้เพื่อนเลว ไอ้เพื่อนชั่ว ปล่อยกูทิ้งไว้อย่างนั้นได้ไง”ยังไม่ทันที่ปลายสายจะได้พูดอะไร ผมก็รัวใส่ไม่ยั้ง มันจะเกินไปหน่อยนะ เล่นทิ้งกันไว้อย่างนั้นได้ไง แล้วถ้าถูกลากไปข่มขืนขึ้นมาจะทำยังไง “เดี๋ยว มึงใจเย็นก่อนไอ้ราม กูว่ามึงน่าจะเข้าใจอะไรผิดนะ พวกกูพยายามจะพามึงกลับแล้ว แต่มึงเล่นเกาะโซฟาลูกรักมึงไว้แน่นขนาดนั้น แถมยังไม่ให้พวกกูมายุ่งอีก กูรู้อยู่แล้วล่ะว่าต้องมีคนพามึงกลับ”ผมก็งงในประโยคเมื่อครู่ของมัน รู้อยู่แล้วงั้นหรอ? “เฮ้ย รามมึงอย่าเงียบดิ มึงโอเคมั้ยวะ” ไอ้อุลถามผม ผมยังแอบเคืองมันหน่อยๆ “เออ กูโอเค ทีหลังกูจะไม่ออกไปไหนเล่า ขายหน้าชะมัด” “กูขอโทษได้มั้ยล่ะ เมื่อคืนแม่กูไม่สบาย กูเลยต้องรีบกลับไปดู” “เออๆ กูไม่โทษมึงหรอก กูแค่เกลียดตัวเองที่ไม่มีสติ”
พอผมวางสายจากอุล ผมก็ลุกไปล้างหน้าล้าตาให้สดชื่น กลิ่นอ้วกยังติดอยู่ที่ตัวผม ก่อนที่จะมองไปเห็นกองเสื้อผ้าเน่าๆที่วางอยู่ใกล้กับเครื่องซักผ้า มีเสื้อของผมกับของผู้ชายคนนั้นวางอยู่ เขาชื่ออะไรนะ ผมคิดอยู่สักพัก ‘อ้อ ชื่อพศุตม์’ แล้วต้องเอาเสื้อไปคืนที่ไหนนะ ร้านเหล้างั้นหรอ แต่ไม่อยากไปแล้วอ่ะ อดคิดถึงเรื่องเมื่อคืนไม่ได้เลย มันมีหลายเหตุการณ์เกิดขึ้นในเวลาเดียวกัน จนผมเองก็ทำตัวไม่ถูก แต่ถ้าเมื่อคืนเมาหนักขนาดนั้น เรียกได้ว่าแทบไม่มีสติ แต่เขากลับไม่ทำอะไรเราเลย มันเป็นไปได้หรอ ทั้งที่ใครต่อใครก็บอกว่าถ้าตัดเรื่องเพศออกไป เราก็ผู้หญิงดีๆนี่เอง หรือว่าความคิดของคนอื่นจะเปลี่ยนไปแล้วนะ แล้วทำไมต้องมากังวลเรื่องนี้ด้วยล่ะ ไม่ถูกผู้ชายข่มขืนก็เป็นบุญอันประเสริฐแล้ว เขาอาจจะไม่มีรสนิยมอย่างว่าก็ได้ อีกอย่างเขาดูเหมือนคนเจ้าชู้ เป็นเสือผู้หญิง หรือเราจะไปขอคำแนะนำจากเขาดีนะ จะได้เสริมความมั่นใจในการจีบหญิง ผ่านไปสองสามวัน วันนี้เป็นวันแรกของการเปิดภาคเรียนในรั้วมหาลัย และเป็นครั้งแรกที่ผมที่ได้เป็นเด็กเฟรชชี่ปี 1 ผมเลือกเรียนคณะวิศวกรรมหุ่นยนต์ มีกิจกรรมมากมายที่ต้องทำในวันแรกๆของการอยู่ในรั้วมหาลัย ผมยังไม่ค่อยชินสักเท่าไหร่ เพราะปกติผมก็ไม่ค่อยพบเจอผู้คนมากมายขนาดนี้ อยู่ที่นี่ เหมือนว่าผมมักจะถูกสายตาหลายคู่จับจ้องมา วันแรกของการเปิดเรียนผมได้ทำการเปลี่ยนสไตล์การแต่งตัวและทรงผม จากผมดำเป็นสีบอร์นทองสว่าง ด้วยความที่ผมตัวขาวอยู่แล้วถือว่าดูดีเลยทีเดียว เป็นการเปิดตัวที่ดีรึเปล่านะ มีสาวๆหลายคนหันมากรี๊ดกร๊าดผม หลังจากที่เดินสวนกัน บ้างก็หันมามอง ผมก็แอบดีใจนิดๆ แต่ไม่ค่อยชินเท่าไหร่ “อ้าวไอ้อุล”ผมทักทายมัน มันมองแล้วทำหน้าตะลึง “เชรดโด้! เพื่อนกูหรอวะเนี่ย หล่อสัส มึงไปย้อมผมมาตอนไหนวะ กูจำได้ว่าเจอกันล่าสุดมึงผมดำหน่อมแน้มอยู่เลย” “ของมันแน่อยู่ละ กูก็แค่อยากเปลี่ยนลุคบ้าง เข้ามหาลัยแล้วหนิ”ผมว่าพลางเสยผมเอาเท่ “นี่ถ้าใส่ชอปก็คงจะเท่กว่านี้ เปลี่ยนไปมากจริงๆว่ะ เหมือนไม่ใช่เพื่อนกูเลย แต่เป็นโอปป้า ไอดอลเกาหลีทำนองนั้น อย่างนี้กูจะกล้าเดินด้วยหรอวะ” “เวอร์ละ ตอนนี้ก็เริ่มจะคิดแล้วนะว่ามึงแกล้งชมกูเนี่ย” “ฮ่าๆ กูพูดจริงๆนะเพื่อน”มันหัวเราะกลบเกลื่อน “เออ เย็นนี้กูมีเล่นดนตรีที่ร้านเดิมอ่ะ มึงจะไปด้วยกันป่ะ ไหนๆวันนี้ก็ไม่มีไปไหน ไปฉลองชีวิตเด็กมหาลัยหน่อยมั้ยมึง” “กูขอคิดก่อนนะ รอบที่แล้วมึงก็ทิ้งกู แล้วกูจะเชื่อใจมึงได้ยังไง” “เออน่า รอบนี้รับรองกูไม่ทิ้งมึงแน่นอนเพื่อน”อุลพูดด้วยความมั่นใจ “เออ ไปด้วยก็ได้ กูมีธุระที่นั่นพอดี”ผมเหลือบมองเสื้อที่อยู่ในกระเป๋า เอาไปคืนให้มันจบๆดีกว่า ขืนเก็บไว้คงไม่มีสมาธิทำอย่างอื่น
หลังจากเรียนเสร็จก็เกือบเย็นพอดี ผมเดินหาอะไรกินที่หลังมอ ก่อนที่อุลจะขับรถมารับ ผมกะว่าจะไปนั่งดูอุลเล่นดนตรี แล้วค่อยคืนเสื้อที่ผมซักด้วยน้ำยาปรับผ้านุ่มกลิ่นหอมๆกับคนๆนั้น แต่ไม่รู้ว่าจะได้เจอกันมั้ย พอมาถึงที่ร้าน ผมก็ลองกวาดสายตามองรอบๆแต่ก็ไม่เจอเป้าหมาย เอาเป็นว่าอย่างน้อยก็ไม่เสียเที่ยวล่ะนะ ถึงจะไม่เจอแต่ก็ฝากไว้ก็ได้ เห็นว่าพี่ชายเป็นเจ้าของร้านหนิ ผมนั่งเซ็งๆคนเดียว รอเวลาให้ผ่านไป “ขอโทษนะคะ ตรงนี้ว่างมั้ยเอ่ย ขอนั่งด้วยคนได้มั้ยคะ”จู่ๆก็มีหญิงสาวหน้าตาดีคนหนึ่งเดินเข้ามาขอนั่งด้วย ผมมองหน้าเธอ ไล่ลงมาจนถึงหน้าอกหน้าใจที่เหมือนเปิดไฟสว่างวาบรอผมอยู่ “คะ ครับ เชิญนั่งได้เลยครับ”ผมตอบด้วยน้ำเสียงตะกุกตะกัก “ชื่ออะไรหรอคะ เราแฟรี่นะ มาคนเดียวหรอ”เธอถามแล้วเอามือเท้าคาง ทำหน้าตาสนใจ “อัยย์รามครับ ผมมาดูเพื่อนเล่นดนตรีครับ” “ค่ะอัยย์ แฟก็เหงาๆ เรามาดื่มด้วยกันมั้ยคะ”หญิงสาวเอ่ยชวนผม ผมชั่งใจอยู่สักพักก็ตอบตกลงไป ผมต้องกล้าก้าวออกมาจากเซฟโซนของตัวเองได้แล้วนะ ผมบอกกับตัวเอง เวลาผ่านไปพอสมควร “อัยย์เนี่ย คุยสนุกเหมือนกันนะคะ แถมยังหน้าตาดีอีกต่างหาก แบบนี้ยังไม่มีเจ้าของหรอคะ” “ผมยังโสดครับ ว่าจะมาหาแถวๆนี้แหละ”แหม แพรวพราวไม่เบาเลยนะ ผมอดชมตัวเองไม่ได้ “อุ้ย แฟปวดฉี่จังเลยค่ะ อัยย์ไปส่งแฟที่ห้องน้ำหน่อยได้มั้ยคะ”หล่อนส่งสายตามาที่ผม เลื่อนสายเดี่ยวลงเป็นการเชิญชวน ผมรู้สึกปวดหนึบบริเวณช่วงล่าง “ครับ ให้ผมช่วยนะครับ”ผมรู้ดีว่าหล่อนไม่ได้เมา เพียงแต่อยากยั่วผมเท่านั้น ถ้าอยากขนาดนี้ผมก็ต้องสนองสินะ ผมและเธอเราสองคนบดเบียดกันอยู่ในห้องน้ำแคบๆ ผมซุกไซร์ซอกคอไล่ลงไปจนถึงเต้านมของเธอ นมที่ใหญ่เต็มไม้เต็มมือ แล้วบดขยี้หัวนมด้วยการใช้ลิ้นเขี่ยรัวๆ เธอครางออกมาอย่างพอใจ “อ๊าา ดูดกินให้เต็มที่เลยค่ะ อัยย์ค่าา” ร่องของเธอแฉะไปหมด ผมค่อยๆใช้นิ้วเขี่ยบริเวณติ่งที่ยื่นออก น้ำเมือกใสๆก็เยิ้มออกมาจนเปียกชุ่ม แต่ยังไม่ทันจะได้ทำอะไรต่อ เสียงเคาะประตูก็ดังขึ้น ปัง ปัง “ใครอยู่ในนั้น ออกมานะ”เสียงเข้มๆตะโกนเข้ามา ผมเลยต้องรีบใส่เสื้อผ้าให้เรียบร้อย หญิงสาวทำหน้าหมดอารณ์ก่อนจะเปิดประตูออกไป ทิ้งผมไว้ทั้งอย่างนั้น วันซวยอะไรอีกล่ะเนี่ย ผมได้เจอกับไอ้คนนั้นยืนจังก้าอยู่หน้าประตูพร้อมทั้งใช้มือค้ำประตูเอาไว้ “นี่มันพื้นที่ของฉัน นายเป็นใครถึงกล้ามาใช้”เอ้า ห้องน้ำมันมีเขียนป้ายไว้หรือไงว่ามีเจ้าของ ไอ้นี่หนิ “ดูท่านายจะยังไม่เสร็จนะ ให้ช่วยมั้ย” ยังไม่ทันที่ผมจะได้ตอบ ไอ้หมอนี่มันก็ดันตัวผมเข้าไปในห้องน้ำที่ผมใช้นัวผู้หญิงเมื่อกี้ มือหนากำของผมรูดขึ้นลง ผมทำหน้าเหยเก เสียวชะมัด เหมือนรู้จังหวะ “พอได้แล้ว”แม้ปากจะห้ามปราม แต่ลึกๆก็อยากรู้ว่าจะเกิดอะไรต่อไป “นี่เป็นบทลงโทษ ของคนที่มารุกล้ำพื้นที่คนอื่น”
---------------------------------------------------------------------- ฝากติดตามด้วยน้าา อัพตอนใหม่เร็วๆนี้
|