คำเตือน: เนื้อหาต่อไปนี้มีความรุนแรงระดับ 18+ อาจมีการใช้ภาษาที่เกี่ยวข้องกับเพศ ความรุนแรงทางร่างกายหรือจิตใจ และสถานการณ์ที่อาจทำให้เกิดความรู้สึกไม่สบายใจ ผู้ที่เข้าชมควรใช้วิจารณญาณอย่างสูงในการอ่าน เรื่องราวและตัวละครทั้งหมดเป็นเพียงเรื่องสมมติที่ถูกสร้างขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์ด้านความบันเทิง ไม่มีความเกี่ยวข้องกับบุคคล เหตุการณ์ หรือสถานที่ในโลกความจริงแต่อย่างใด โปรดอ่านด้วยความระมัดระวังและความเข้าใจในบริบทของเรื่อง
มาซากิ คุโระดะ ...เด็กชาย 9 ขวบ ...
ยากูซ่าและการควบคุม
ในมุมมืดของโลกใต้ดิน โตเกียวไม่ได้เป็นเพียงเมืองแห่งแสงสีและวัฒนธรรมเท่านั้น แต่ยังเป็นศูนย์กลางของเครือข่ายอาชญากรรมที่ซับซ้อน หนึ่งในนั้นคือยากูซ่าตระกูลคุโรดะ ซึ่งเป็นกลุ่มที่แข็งแกร่งและทรงอำนาจที่สุดในเมือง ภายใต้การปกครองของคุโรดะ ทาเคชิ ผู้นำที่ไร้ปรานีและเคร่งครัด กฎเกณฑ์ในตระกูลนี้ไม่ได้ยืดหยุ่น และผู้ที่ไม่เชื่อฟังจะต้องได้รับการลงโทษอย่างรุนแรง
ความยิ่งใหญ่ของโยชิและอิทธิพลของยากูซ่า
ในโลกใต้ดินของโตเกียว ไม่มีชื่อใดที่ยิ่งใหญ่และเป็นที่เกรงขามมากไปกว่า โยชิ หัวหน้าผู้อาวุโสของยากูซ่าตระกูลคุโรดะ โยชิเป็นชายที่สูงใหญ่ ใบหน้าของเขาถูกประดับด้วยรอยแผลเป็นที่ได้มาจากการต่อสู้ครั้งอดีต สัญลักษณ์แห่งเกียรติยศที่เขาแบกรับมาตลอดชีวิตของการเป็นยากูซ่า ใบหน้าอันน่าเกรงขามของเขานั้นสะท้อนถึงทั้งความแข็งแกร่งและความเยือกเย็นที่ไม่อาจมองข้ามได้
ในทุกครั้งที่โยชิเดินเข้าไปในห้องประชุมของตระกูล เสียงเงียบงันลงในทันที ไม่มีใครกล้าพูดหรือขยับตัว แม้แต่มือที่จับแก้วสุรายังต้องนิ่งค้าง ราวกับการปรากฏตัวของเขาสามารถสะกดความเคลื่อนไหวทั้งหมดในห้องได้ ดวงตาของโยชิจับจ้องไปที่ลูกน้องทุกคนด้วยสายตาที่อ่านไม่ออก แต่ก็เต็มไปด้วยอำนาจ การมีอยู่ของเขาคือเครื่องยืนยันถึงความแข็งแกร่งและความไร้ปรานีที่ตระกูลคุโรดะภาคภูมิใจ
โยชิเป็นบุคคลที่ผสมผสานระหว่างภูมิปัญญาและความรุนแรง ความยิ่งใหญ่ของเขาไม่ได้มาจากการต่อสู้เพียงอย่างเดียว แต่ยังมาจากความสามารถในการวางแผนและความเข้าใจในระบบอำนาจของโลกใต้ดิน เขารู้จักทุกซอกทุกมุมของโตเกียว ตั้งแต่ตรอกซอยที่แคบที่สุด ไปจนถึงอาคารหรูหราที่ซ่อนเครือข่ายอำนาจอาชญากรรมของตระกูล เขาสามารถคาดการณ์การเคลื่อนไหวของศัตรูได้เหมือนกับหมากรุกที่เขาวางไว้แต่ละตัว โดยไม่มีการเคลื่อนไหวใด ๆ ที่สูญเปล่า
ยากูซ่าตระกูลคุโระดะที่โยชิควบคุมอยู่ ไม่ใช่เพียงแค่กลุ่มคนที่มีอำนาจและทรัพย์สิน แต่ยังเป็นสัญลักษณ์ของความยิ่งใหญ่และความน่าเกรงขาม พวกเขาครอบครองธุรกิจที่หลากหลาย ตั้งแต่ธุรกิจบันเทิง ร้านอาหาร จนไปถึงการฟอกเงิน และการค้าอาวุธเถื่อน แม้ว่ากฎหมายจะพยายามบีบบังคับ พวกเขาก็ยังคงยืนหยัดอย่างมั่นคง ท้าทายและเยาะเย้ยทุกความพยายามที่จะหยุดยั้งพวกเขา
โยชิไม่ได้เพียงแค่ใช้กำลังเพื่อควบคุม แต่ยังรู้วิธีที่จะทำให้ลูกน้องของเขาเคารพและภักดี การลงโทษที่เขาใช้ไม่ได้มีเพียงแค่ความรุนแรง แต่ยังเป็นการสร้างความกลัวและความจงรักภักดี ทุกการลงโทษที่โยชิสั่งการ มักจะแฝงไปด้วยบทเรียนที่ทำให้ลูกน้องตระหนักถึงผลที่ตามมาของการไม่เชื่อฟัง และด้วยวิธีนี้ ทำให้ไม่มีใครกล้าท้าทายอำนาจของเขา
ในสถานการณ์ที่ตึงเครียด โยชิสามารถรักษาความสงบและควบคุมสถานการณ์ได้อย่างเยือกเย็น แม้ว่าศัตรูจะเข้ามาประชิดตัว เขาก็ยังสามารถคุมเชิงและพลิกสถานการณ์ได้อย่างไม่ยากเย็น อำนาจของเขาเป็นที่รู้จักและเกรงกลัวไม่เพียงแต่ในวงการยากูซ่าเท่านั้น แต่ยังไปถึงกลุ่มอำนาจอื่น ๆ ทั้งในและนอกประเทศ การเป็นผู้นำที่ไร้ความปรานีและมีไหวพริบสูง ทำให้โยชิกลายเป็นบุคคลที่ไม่มีใครกล้าท้าทาย
การยิ่งใหญ่ของโยชิและยากูซ่าตระกูลคุโรดะคือเสาหลักที่ยืนหยัดอยู่กลางโตเกียว พวกเขาคือเงาที่ปกคลุมเมืองนี้ เงาที่ทุกคนรู้ดีว่าไม่อาจฝืนต่อต้านได้ และในเงานั้นเองคือที่ที่เรื่องราวของริกะได้เริ่มต้นขึ้น เธอไม่ใช่เพียงแค่ตัวประกัน แต่เป็นอีกหนึ่งคนที่ถูกดึงเข้ามาสู่เกมแห่งอำนาจและความอัปยศ ที่โยชิและตระกูลคุโรดะเป็นผู้ควบคุมอยู่
โยชิ คุโระดะ ( พ่อของมาซากิ )
การพบกันครั้งแรกของมาซากิกับสัตว์เลี้ยงมนุษย์
ในห้องมืดที่เงียบสงบแต่ชวนให้รู้สึกถึงความหวาดกลัว ทุกอย่างตกอยู่ในบรรยากาศที่ไม่ปกติ เงาของกำแพงไม้ที่ตั้งตรงและเครื่องประดับโบราณสะท้อนแสงจากโคมไฟขนาดเล็กที่วางบนโต๊ะกลางห้อง เสียงฝีเท้าของเด็กชายคนหนึ่งดังขึ้นในโถงยาวของคฤหาสน์ใหญ่ ความยาวของฝีเท้าไม่ได้เป็นจังหวะรีบร้อนหรือเต็มไปด้วยความสงสัย หากแต่เป็นจังหวะที่มั่นคงและแสดงถึงอำนาจเหนือผู้อื่น
มาซากิ มาชิบุระ เด็กชายวัยเพียง 5 ขวบที่เติบโตมาในบ้านที่เต็มไปด้วยความวิปริตและความโหดร้าย เดินเข้ามาในห้องทรมานที่พ่อของเขาสร้างขึ้นสำหรับใช้ลงโทษลูกน้องที่ทำผิด มาซากิไม่ได้รู้สึกถึงความกลัวหรือไม่สบายใจ ตรงกันข้าม เขาได้เห็นสิ่งเหล่านี้ตั้งแต่ยังเด็ก การใช้ความรุนแรงและการลดทอนศักดิ์ศรีของผู้อื่นคือสิ่งที่เขาคุ้นเคย
“นี่คือสัตว์เลี้ยงของลูก” เสียงของโยชิ พ่อของมาซากิกล่าวเบา ๆ เขาชี้ไปที่ชายหนุ่มคนหนึ่งที่ถูกล่ามด้วยโซ่ที่คอ ใบหน้าของชายคนนั้นดูซีดเผือด และดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความหวาดกลัว ชายผู้นี้คือ “โทโมฮิโระ” หนุ่มวัยรุ่นที่เคยภักดีต่อแก๊งมาชิบุระ แต่เมื่อเขาทำผิดพลาดในการทำภารกิจสำคัญ โชคชะตาของเขาก็ถูกตัดสินให้กลายเป็นสัตว์เลี้ยงมนุษย์ของมาซากิ “ทำผิดพลาดแค่ครั้งเดียว ก็ต้องชดใช้ด้วยชีวิตที่เหลือ” โยชิพูดด้วยน้ำเสียงเยือกเย็น แต่เต็มไปด้วยอำนาจ เขาหันไปมองมาซากิ “ลูกฟังพ่อไว้ จำไว้ว่าในโลกของเรานี้ ไม่มีที่ว่างสำหรับคนที่ทำผิด” มาซากิหันมามองโทโมฮิโระ ดวงตาของเขาไร้ความรู้สึก “เขาดูอ่อนแอมากเลยครับพ่อ เขาจะเป็นสัตว์เลี้ยงที่ดีได้จริงหรือ?” โยชิยิ้มเบา ๆ “ลูกต้องทำให้เขาเรียนรู้ ลูกต้องทำให้เขารู้ว่าเขาเป็นของลูกและไม่มีสิทธิ์ปฏิเสธ ลูกมีอำนาจเต็มที่ ไม่ว่าจะทำอะไรก็ตาม”
โทโมฮิโระถูกบังคับให้นอนเปลือยกายบนพื้นเย็น เขามีสายโซ่ที่คล้องอยู่รอบคอและรัดแน่นจนหายใจแทบไม่ออก อวัยวะเพศของเขาถูกเปิดเผยอย่างไร้การป้องกัน มาซากิเข้ามาใกล้ๆ และมองไปที่ร่างกายของโทโมฮิโระด้วยความสนใจ เหมือนกับว่าเขากำลังสำรวจสิ่งใหม่ ๆ ที่เขาจะได้เล่น “จำไว้ มาซากิ สัตว์เลี้ยงมนุษย์ก็เหมือนกับของเล่น พวกมันไม่มีสิทธิ์ปฏิเสธหรือท้าทายลูก” โยชิกล่าวอย่างเคร่งขรึม น้ำเสียงของเขาเต็มไปด้วยความเย็นชา “ลูกสามารถทำอะไรก็ได้ตามที่ลูกต้องการ อย่าลังเลที่จะใช้อำนาจของลูกในการควบคุมเขา” มาซากิพยักหน้าช้าๆ ดวงตาของเขาจับจ้องไปที่โทโมฮิโระเหมือนสัตว์นักล่ามองเหยื่อ ความอยากรู้อยากเห็นในดวงตาเล็กๆ นั้นเปลี่ยนเป็นความมั่นใจ “เข้าใจแล้วครับพ่อ ผมจะทำให้เขารู้ว่าเขาไม่มีค่าอะไรมากไปกว่าของเล่นของผม”
“ลูกสามารถทำอะไรก็ได้กับสัตว์เลี้ยงของลูก” โยชิกล่าวยิ้ม ๆ
มาซากิยิ้มอย่างไร้เดียงสา ก่อนจะคุกเข่าลงข้างๆ โทโมฮิโระ ดวงตาเล็ก ๆ ของเขาจ้องมองไปที่อวัยวะเพศของชายที่นอนอยู่บนพื้น เด็กน้อยยกมือขึ้นและค่อย ๆ ใช้นิ้วเล็กๆ ของเขาแตะไปที่อวัยวะเพศของโทโมฮิโระ มันเป็นการสัมผัสเบา ๆ ในครั้งแรก แต่ก็มาพร้อมกับความเย็นชาของการทดสอบเหมือนของเล่น มาซากิกดนิ้วลงไปอย่างไร้ความปรานีและดึงหนังหุ้มลงจนสุด ความเจ็บปวดที่โทโมฮิโระรับรู้เพิ่มขึ้นทันที มันเหมือนกับการถูกฉีกออกจากภายใน เสียงหายใจของเขากระตุกเล็กน้อยเมื่อมาซากิเริ่มดึงและกระชากหนังหุ้มอย่างแรง ราวกับเป็นการเล่นที่ไร้ความเมตตา ความอับอายและเจ็บปวดที่โทโมฮิโระต้องเผชิญทำให้เขารู้สึกไร้หนทางและถูกทำลายล้าง
“นุ่มจังเลย” มาซากิพูดอย่างเบาๆ ราวกับว่าเขากำลังสนุกกับการสัมผัสนี้ เขาหัวเราะเบา ๆ ขณะที่ลูบไล้ไปมา “มันอุ่นด้วย พ่อครับ มันรู้สึกแปลกดี เหมือนของเล่นที่มีชีวิตเลย”
มาซากิเริ่มขยับมือไปมาอย่างสนุกสนาน เขาถอกหนังหุ้มอวัยวะเพศของโทโมฮิโระเล่น ดวงตาของเด็กน้อยเป็นประกายด้วยความอยากรู้อยากเห็นและความพอใจ โทโมฮิโระต้องทนกับความอับอายที่พุ่งขึ้นในจิตใจ ความเจ็บปวดจากการถูกกระทำอย่างไร้ความปรานีแผ่ซ่านเข้ามาทั่วร่างกายของเขา
“มันเหมือนกับของเล่นเลย” มาซากิหัวเราะอย่างชอบใจ ขณะที่เขาเริ่มถอกและบีบอวัยวะเพศของโทโมฮิโระแรงขึ้นเรื่อย ๆ
โทโมฮิโระกัดฟัน พยายามไม่ส่งเสียงออกมา แต่ทุกการสัมผัสจากมือเล็กๆ ของเด็กชายก็ยิ่งสร้างความเจ็บปวดและอับอายมากขึ้น การต้องกลายเป็นของเล่นสำหรับเด็กน้อยคนนี้เป็นสิ่งที่เขาไม่เคยคาดคิด เขาเคยคิดว่าการรับใช้แก๊งจะนำเขาไปสู่ความรุ่งโรจน์ แต่บัดนี้ เขากลับกลายเป็นสิ่งที่ไม่มีค่ามากไปกว่าของเล่นสำหรับความสนุกของลูกชายหัวหน้าแก๊ง
มาซากิยังคงสนุกกับการเล่นกับอวัยวะเพศของโทโมฮิโระ เขาหยุดพักเป็นระยะเพื่อมองดูปฏิกิริยาของชายหนุ่มที่นอนอยู่บนพื้น น้ำตาเริ่มไหลออกมาจากดวงตาของโทโมฮิโระ แต่เขาไม่สามารถหยุดมันได้ การถูกบังคับให้เป็นของเล่นสำหรับเด็กอายุเพียง 9 ขวบเป็นสิ่งที่น่าอับอายที่สุดที่เขาเคยพบเจอ
ในขณะที่มาซากิยังคงเล่นสนุกกับร่างกายของโทโมฮิโระ เขาหันไปหาพ่อของเขาและถามว่า “พ่อครับ ถ้าสัตว์เลี้ยงตัวนี้ทำอะไรผิดอีก ผมสามารถลงโทษเขาได้ไหม?”
โยชิยิ้มอย่างอ่อนโยน “แน่นอน ลูกสามารถทำอะไรก็ได้ที่ลูกต้องการ สัตว์เลี้ยงของลูกมีไว้เพื่อความสนุกของลูก”
มาซากิยิ้มกว้างขึ้น แล้วหันกลับมาที่โทโมฮิโระ เขาเริ่มบีบและกระชากอวัยวะเพศของชายหนุ่มอย่างไร้ความปรานี เสียงครางเบาๆ ของโทโมฮิโระดังขึ้น แม้ว่าเขาพยายามอย่างเต็มที่ที่จะไม่ส่งเสียง ความเจ็บปวดและอับอายที่โทโมฮิโระรู้สึกทำให้เขาต้องต่อสู้กับความทรมานในใจของตนเอง
ในที่สุด มาซากิก็หยุดและลุกขึ้นยืน มองดูสัตว์เลี้ยงของเขาที่นอนหมดแรงอยู่บนพื้น “วันนี้พอแค่นี้ก่อน แต่พรุ่งนี้ฉันจะกลับมาเล่นกับนายอีก” เขากล่าวด้วยน้ำเสียงที่ใสบริสุทธิ์ แต่แฝงไปด้วยความโหดเหี้ยม
โทโมฮิโระไม่กล้าตอบหรือแม้แต่จะมองเด็กน้อยตรงหน้า เขารู้ดีว่าการเป็นสัตว์เลี้ยงของมาซากิไม่มีทางหลีกเลี่ยงได้ และความทรมานนี้จะดำเนินต่อไปจนกว่าเขาจะสิ้นใจ หลายชั่วโมงต่อมา โทโมฮิโระถูกสวมปลอกคอหนาที่ทำจากหนังและโลหะ มันรัดรอบคอของเขาอย่างแน่นจนทำให้เขาหายใจลำบาก เขาถูกบังคับให้คลานอยู่บนพื้น มือและเข่าของเขากระทบกับพื้นเย็นชืดอย่างช้าๆ ขณะที่มาซากิจับปลายโซ่ที่ผูกกับปลอกคอแล้วดึงอย่างรุนแรง “ไปสิ เดินตามฉันมา” มาซากิพูดด้วยน้ำเสียงสดใสราวกับว่าเขากำลังเล่นเกมสนุก ๆ โทโมฮิโระไม่มีทางเลือกนอกจากต้องคลานตามไป ไม่กล้าขัดขืนโซ่ที่มาซากิจูงอย่างไร้ความปรานี มาซากิดึงโซ่จนโทโมฮิโระต้องคลานให้เร็วขึ้น เสียงหายใจของโทโมฮิโระหอบแรงขึ้นเรื่อย ๆ ในขณะที่เขาต้องตามจังหวะของเด็กชายเล็กๆ ที่จูงเขาไป มาซากิหัวเราะด้วยความสนุกสนาน “เร็วเข้า อย่าช้า ถ้านายช้า ฉันจะลงโทษนาย!” เขาพูดพร้อมกับดึงโซ่อย่างรุนแรง ทำให้โทโมฮิโระเสียการทรงตัวและล้มหน้าลงกับพื้นอย่างแรง มาซากิยิ้มด้วยความพอใจ “อืม แบบนี้แหละ นายต้องรู้ว่าตัวเองไม่ใช่คน แต่เป็นแค่สัตว์เลี้ยงของฉัน” เขาพูดขณะยกโซ่ขึ้นมาแล้วบังคับให้โทโมฮิโระลุกขึ้นมาคลานต่อ โทโมฮิโระคลานอย่างหมดสภาพ น้ำตาของเขาไหลออกมา แต่เขาก็ยังคงต้องทำตามคำสั่งของเด็กชาย การถูกบังคับให้คลานเหมือนสัตว์เลี้ยงทำให้เขารู้สึกทั้งอับอายและเจ็บปวดในใจ ความไร้หนทางและความโหดร้ายที่มาซากิกระทำต่อตัวเขานั้นไม่ใช่แค่การลงโทษทางกาย แต่ยังเป็นการทำลายจิตวิญญาณของเขาด้วย
โทโมฮิโระ...
|