"แต่ตาต้นเค้าพึ่งจะอายุ 18 เองนะดาแล้วแกจะไม่ให้ชั้นโมโหได้ยังไงกัน? " มินตราแผดเสียงเดือดดาลเดินกระฟัดกระเฟียดไปมาอย่างหัวเสียพร้อมกับระบายอารมณ์ให้ดาหวันเพื่อนรักฟังเมื่อรู้ว่า"ต้นกล้า" หายไปเที่ยวทะเลกับเพื่อนผู้หญิง 2 ต่อ 2 นานเป็นสัปดาห์แล้ว "ใจเย็นๆสิยัยมินเรื่องมันอาจจะไม่มีอะไรก็ได้ แล้วถึงมันจะมีอะไรๆชั้นก็ไม่เห็นว่ามันจะเป็นเรื่องแปลกอะไรเลยนี้ ตาต้นเองก็โตเป็นหนุ่มซะขนาดนี้แล้วตอนแรกชั้นก็นึกว่าเค้าจะเป็นเกย์เสียแล้วด้วยซ้ำอันที่จริงแล้วเรื่องนี้แกควรจะดีใจมากกว่านะที่ลูกชายคนเดียวของคุณท่านสนใจผู้หญิงน่ะท่านเองก็จะได้มีหลานสืบสกุลต่อไปได้ไงแล้วแกจะมาหงุดหงิดเรื่องอะไรไม่ทราบหล่ะยัยมิน" ดาหวันตอบกลับมินตราเพื่อนรักของเธออย่างใจเย็นสายตาก็ยังง่วนอยู่กับการเซ็นเอกสารงานกองใหญ่ตรงหน้าเธอนั่งเซ็นไปพลางแล้วก็พูดปลอบใจมินตราไปพลาง "ตะ...แต่...แต่...แต่มันก็เร็วไปหรือเปล่าหล่ะ?ต้นเค้าพึ่งจะอยู่ปี 2 เองนะชั้น...ชั้น...ก็แค่อยากจะให้เค้าสนใจเรียนมากกว่าเรื่องอื่น อีกอย่าง...ชะ...ชั้น...ชั้น...ชั้นเป็นห่วงเค้าน่ะชั้นกลัวว่าตาต้นเค้าจะได้ผู้หญิงที่ไม่ดีมาเป็นแฟน...ชั้นเป็นห่วงเค้า" ดาหวันอมยิ้มฟังเพื่อนสาวที่ออกอาการตะกุกตะกักอย่างอารมณ์ดีก่อนจะวางงานบนโต๊ะเงยหน้าขึ้นมาจ้องมินตราเพื่อนรักแล้วเอ่ยปากถามอย่างจริงจัง "มันแค่นั้นจริงๆเหรอ?...มินตรา?"ดาหวันถามจี้จุดเพื่อนรักอย่างคาดคั้น "อะ...อะไร...?..." มินตราเอียงหน้าหนีหลบสายตาของดาหวัน ดาหวันยิ้มอ่อนส่ายหน้าเธอกับมินตรานั้นเป็นเพื่อนรักผูกพันธ์กันมานาน เกิดก็วันเดียวกันสถานที่เกิดก็โรงพยาบาลเดียวกัน บ้านก็อยู่ติดกัน อนุบาล ประถม มัธยมมหาลัยก็แทบจะอยู่ที่เดียวกันมาตลอด เรียกได้ว่าอยู่ด้วยกันราวกับพี่น้องกะอีแค่ใจเพื่อนทำไมเธอถึงจะไม่รู้ "ยัยมิน.....ชั้นกับแกเป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่เกิดแค่มองชั้นก็รู้แล้วว่าแกรู้สึกยังไงกับตาต้น แล้วนี่ตาต้นก็เองก็โตขึ้นทุกวันๆถ้าแกยังไม่ชัดเจนกับความรู้สึกของตัวแกเองระวังให้ดีเถอะน้ำตาจะเช็ดหัวเข่า" ดาหวันเตือนสติเพื่อนสาวอย่างจริงจัง ให้ซื่อตรงกับความรู้สึกของตัวเอง "ชะ...ชั้น...ชั้น"มินตราออกอาการอ่ำอึ้ง นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ดาหวันพยายามคาดคั้น ไล่ต้อนเธอในเรื่องนี้แต่ทุกครั้งมินตราก็เลือกที่จะเลี่ยงไม่พูดถึงหรือพยายามเฉไฉไปเรื่องอื่นเพื่อกลบเกลื่อน ทว่าครั้งนี้มันไม่เหมือนครั้งก่อนๆแล้วเพราะต้นกล้าเองก็โตเป็นหนุ่มหล่อและเริ่มที่จะมีความสนอกสนใจต่อเพศตรงข้ามอย่างจริงจังหนักถึงขั้นยอมทะเลาะกับเธอแล้วหนีหายไปเที่ยวกับผู้หญิงที่ไหนไม่รู้สองต่อสองมินตรารู้ตัวดีและพยายามย้ำเตือนกับตัวเองอยู่เสมอว่าต้นกล้าจะต้องเติบโตและออกไปมีครอบครัวเป็นของตัวเองในซักวันนึงแต่กะอีแค่เค้าจะมีแฟนเข้าจริงๆ มินตรากลับทำใจยอมรับมันไม่ได้ "ไร้สาระหน่าดาหวัน...แกก็รู้นี่...ว่าชั้นกับต้นเป็นอะไรกัน"มินตราหน้าเศร้าลงทันที "โธ่เอ้ย!!! แกก็แค่แม่เลี้ยงอายุก็ห่างกันก็แค่ 10 ปี แกน่ะมัวทำแต่งาน อยู่แต่กับบ้านลองออกไปดูโลกข้างนอกบ้างซิ เค้าไปถึงไหนกันแล้ว" "ตะ...แต่ว่า" "ไม่ต้องมาตงมาแต่อะไรแล้ว เอายังงี้นะยัยมินชั้นถามแกจริงๆ ถ้าตัดเรื่องความสัมพันธ์ของแกกับต้นออกไปเหลือแค่ว่าเค้าเป็นผู้ชายคนนึงแล้วแกเป็นผู้หญิงคนนึงแกคิดยังไงกับเค้ากันแน่"ดาหวันกุมมือมองหน้าพร้อมถามความรู้สึกลึกๆของมินตรา มินตรานั่งคิดทบทวนเรื่องราวตามที่เพื่อนรักของเธอบอกในอดีต เพราะความจำเป็นทางบ้านของมินตรา ทำให้เธอต้องมาแต่งงานตั้งแต่อายุ14ย่าง15 กับเศรษฐีวัยชราที่เธอมักจะเรียกว่าคุณท่านไม่เคยที่จะได้มีความรักอะไรจริงๆจังๆกับใครเค้าหรอก พอแต่งงานผ่านไปได้ไม่ถึง 1 ปีสามีเศรษฐีที่พึ่งแต่งงานก็มาด่วนจากไป ทิ้งลูกชายคนเดียววัย 5 ขวบไว้ให้เธอดูแลส่วนทรัพย์สินและกิจการค้าขายที่คุณท่านเหลือทิ้งไว้ให้นั้นก็มากมายและมั่นคงมากพอที่เธอจะไม่ต้องคิดอะไรมากไปชั่วชีวิตมินตรานั้นสำนึกและระลึกถึงบุญคุณของคุณท่านอยู่เสมอสิ่งเดียวที่เธอพอจะทำเพื่อตอบแทนบุญคุณของท่านได้ก็มีแต่เพียงฟูมฟักดูแลต้นกล้าให้ดีที่สุดเท่าที่เธอจะทำได้แต่เหมือนว่าเธอจะดูแลต้นกล้ามาดีจนเกินไปเพราะว่าเค้าเติบใหญ่ขึ้นมาอย่างมีคุณภาพ ดีพร้อมทั้งรูปร่าง หน้าตา การกีฬาและการเรียน ไปจนถึงมารยาทความเป็นสุภาพบุรุษ เรียกได้ว่าไม่เคยทำให้มินตราผิดหวังเลยสักครั้งทั้งหมดนั้นทำให้ต้นกล้าเป็นผู้ชายที่น่าหลงใหลต่อเพศตรงข้ามถึงขนาดที่ดาหวันเพื่อนรักสุดเอ็กซ์ของมินตรายังตกหลุมเสน่ห์ต้นกล้าหลงแอบปลื้มเสียจนต้องแอบอ่อยแอบให้ท่าลูกเพื่อนอยู่บ่อยๆนี่ถ้าไม่เกรงใจว่าเป็นลูกเลี้ยงของมินตรา ดาหวันนั้นคงฉุดไปปล้ำทำผัวแล้วใช้แล้วปัญหามันอยู่ตรงนี้แหละมินตราเองก็ไม่รู้ตัวว่าเมื่อไหร่กันนะที่เธอไม่ได้คิดกับเค้าเหมือนเดิมอีกต่อไปแล้ว.....ใช่...ดาหวันเข้าใจถูกแล้ว...สาเหตุที่มินตราหงุดหงิดหลายครั้งหลายคราและค่อนข้างจะเข้มงวดเรื่องเพื่อนผู้หญิงของต้นกล้าไม่ใช่เพราะเหตุผลร้อยแปดพันเก้าที่เธอมักจะยกเอามาอ้างกับดาหวันหรอกต่อเมื่อลองสำรวจหัวใจลึกๆของตัวเองดูแล้วมินตราก็พบว่าเธอแอบหึงลูกเลี้ยงของตัวเองเข้าให้แล้ว คำถามของดาหวันเพื่อนรักมันช่างจี้เข้าตรงใจมินตราเสียเหลือเกิน เพราะถ้าให้ลองตัดความคิดเรื่องความสัมพันธ์ออกไปแล้วมันก็จะเหลือแต่ความรักที่ผู้หญิงมีให้ผู้ชายคนนึงก็เท่านั้นเอง "แต่ชั้นกลัวน่ะดาชั้นกลัวเค้ารับไม่ได้" มินตราเสียงอ่อย จนใจในความรู้สึกของตัวเองจนต้องยอมสารภาพกับดาหวันกลายๆ พร้อมเผยสิ่งที่เธอหวาดหวั่นใจให้เพื่อนรู้ "ก็แค่เนี๊ยะปากแข็งอยู่ได้ตั้งหลายปีนะมินตรา"ดาหวันยิ้มกว้างที่มินตราเพื่อนรักยอมรับกับเธอได้ซักทีว่าแอบหลงรักต้นกล้า "แล้วชั้นควรจะทำยังไงดี"มินตราเสียงอ่อยถามเพื่อนสาวที่ดูจะเจนจัดในเรื่องรักๆใคร่ๆมากกว่าเธอ "เอาอย่างนี้ซิ...แกก็หยั่งเชิงเบา ๆ ดูก่อนแล้วค่อยๆมองดูท่าทีของตาต้นเป็นไง"ดาหวันเสนอความเห็นแต่มินตราเองยังไม่ค่อยจะเข้าใจเท่าไหร่ "หยั่งเชิง? ยังไงหล่ะยัยดา?" "แกมานี่เลย"ดาหวันลากมินตราเข้าไปในห้องแต่งตัวของเธอแล้วมุดเข้าไปในตู้เสื้อผ้าที่แสนจะมากมายมหาศาลอยู่นานสองนานแล้วหอบเอาเสื้อผ้าที่เธอเลือกไว้ออกมาวางกองอยู่ต่อหน้ามินตรา "เอาชุดพวกนี้ไป" "โห...ดาหวัน ชุดอะไรของแกเนี่ยทำไมมันถึงได้ชิ้นเล็กชิ้นน้อยขาดหน้าขาดหลังขนาดนี้"มินตราหน้าแดงถึงกับต้องอุทานออกมาเพราะแต่ล่ะชุดที่ดาหวันเลือกออกมามันดูค่อนข้างจะโชว์เนื้อหนังมังสาวเอามากๆ "หยั่งเชิงไง"ดาหวันยิ้มชั่วร้ายให้กับมินตรายิ้มอย่างนี้ทีไรต้องเป็นเรื่องไม่ดีแน่ๆ "หมายความว่าแกจะให้ชั้นอ่อยตาต้นน่ะเหรอ"มินตราเริ่มเข้าใจความหมายที่ดาหวันพยายามจะสื่อแล้ว "แม่นแล้ว!!! แต่ว่าแกจะทำตรงๆไม่ได้นะ ไม่งั้นไก่ตื่นหมดแกจะต้องทำอย่างไม่โจ่งแจ้งมากจนเกินไปแบบว่า "แอบอ่อย" อะไรอย่างเนี่ยแล้วแกก็ค่อยๆจับสังเกตอาการของตาต้นดูว่าเค้าสนใจเธอในฐานะผู้หญิงบ้างหรือเปล่า"แล้วดาหวันก็กอดอกอธิบายแผนเป็นฉากๆโดยมีมินตรานั่งฟังแผนชั่วร้ายของเพื่อนสาวอย่างตั้งใจพร้อมๆกับหยิบชุดเหล่านั้นมาพิจารณา ============================== วันนั้นหลังจากมินตรากลับมาจากคอนโดของดาหวันในช่วงบ่ายก็กลับมานั่งชั่งใจเวียนวนคิดถึงแต่เรื่องที่คุยกับดาหวันเมื่อตอนกลางวัน นอกจากเรื่องเส้นแบ่งความสัมพันธ์แล้วมินตราก็ยังไม่ค่อยจะมั่นใจในตัวเองด้วยซักเท่าไหร่นักเพราะอีกไม่กี่เดือนกี่วันเธอเองก็จะเข้า30อยู่แล้วเธอพยายามรวบรวมความกล้าอยู่นานสองนานจึงลุกขึ้นยืนไปสำรวจตัวเองที่หน้ากระจก ภาพสะท้อนกระจกตรงหน้า คือ หญิงสาววัยใกล้จะ 30 ที่ยังดูสวยสดและเปี่ยมไปด้วยเสน่ห์ของความเป็นผู้ใหญ่ ใบหน้ารูปไข่ ไร้ตีนกาไฝฝ้าราคี ผิวขาวเรียบนวลเนียนละมุนตา สัดส่วน 36-26-40 นั้น ยังคงหนั่นแน่นทุกตารางมิลลิเมตรเมื่อรวมกับส่วนสูง 172 ซม.มันทำให้ดูสมส่วนมีทรวดทรงองค์เอวสะโอดสะโองหุ่นงามระหงราวกับนางแบบชั้นนำมินตรานึกขอบคุณตัวเองเล็กน้อยที่ไม่ปล่อยเนื้อปล่อยตัวหมั่นไปออกกำลังกายตามที่ดาหวันเคี่ยวเข็ญ ทานอาหารที่มีประโยชน์ และบำรุงผิวพรรณด้วยเครื่องประทินผิวอย่างดีทุกวันไม่เคยขาด ตอนนี้หญิงสาวตัดสินใจแล้วที่จะลองใช่เรือนร่างนี้แอบยั่วลูกเลี้ยงของตัวเองดู คิดได้ดังนั้นจึงรีบเข้าห้องไปอาบน้ำชำระร่างกายอย่างละเอียดพลางสำรวจเช็คความเรียบร้อยของเรือนร่าง ดาหวันเพื่อนรักของมินตรามักจะแซวอยู่เสมอเรื่องความสวยของมินตราแต่อย่างว่าผู้หญิงสวยแค่ไหนพออยู่ต่อหน้าคนที่ชอบความมั่นใจมักจะหดหายอยู่เสมอแล้วแฟนของตาต้นก็คงจะต้องสวยมากๆ ถึงขนาดที่ทำให้เด็กดีอย่างเค้าใจแตกได้ "ตาต้นจะสนใจชั้นบ้างไหมนะ" ============================== วันนั้นต้นกล้ากลับมาค่อนข้างดึกกว่าเวลาปกติอยู่พอสมควรคงเป็นเพราะเมื่อคืนก่อนหน้านั้น ทั้งสองคนพึ่งจะปะทะคารมกันไปอย่างหนักหน่วง ตอนนั้นมินตราสาดอารมณ์ใส่ต้นกล้าอย่างไม่มีเหตุผลเลย หลักๆแล้วก็คงเป็นเพราะความหึงหวงในตัวชายหนุ่มนั้นแหละแหม...ก็มีสาวสวยหุ่นสะบึ้มขนาดนี้อยู่ใกล้ๆทั้งคนดันไม่คิดจะมองกันบ้างเลยมันก็น่าน้อยใจอยู่แต่ก็นั้นแหละ มินตราคิดว่าไม่แปลกเลยที่ชายหนุ่มจะโกรธจนไม่อยากเจอหน้าเหตุเพราะทะเลาะกันไปหนักขนาดนั้น ดาหวันแนะนำให้มินตราอดทนรออย่างเข้าใจและสิ่งที่ต้องทำในตอนนี้ก็คือทำให้ลูกเลี้ยงของเธอใจเย็นลงซะก่อนมินตรานั่งรอในความมืดอยู่นานสองนานในใจก็ชักจะหวั่นๆ จนกระทั่งเสียงลูกบิดประตูดังขึ้นท่ามกลางความเงียบงันเป็นต้นกล้าที่ค่อยๆแง่มประตูช้าๆย่องก้าวเข้ามาในบ้านชายหนุ่มคิดว่าดึกป่านนี้แล้วแม่เลี้ยงของเค้าคงเข้านอนไปแล้วหล่ะไม่รู้ว่าอยากหลบหน้ามินตราหรือกลัวอะไรกันแน่แต่ทางมินตรานั่นอยากบวกกับต้นกล้าเต็มที่ว่าแล้วหญิงสาวก็รีบเปิดไฟในห้องโถงจนสว่างแสดงตัวจนต้นกล้าที่พึ่งก้าวเท้าเข้ามาในบ้านในไม่ทันสองก้าวถึงกับสะดุ้งโหย่งหันมามองทางมินตราที่ยืนกอดอกอวบๆรออยู่สีหน้าต้นกล้าตอนแรกก็มีท่าทีหวาดกลัวแต่ก็แทบจะเปลี่ยนไปในเสี้ยววินาทีที่เห็นมินตราอยู่ในชุดนอนวาบหวิวอยู่ตรงหน้าเนื้อผ้าเรียบลื่นสีขาวไข่มุกมันวาววับแม้ว่าชุดนี้จะค่อนข้างปกปิดทุกสัดส่วนมิดชิด แต่มันกลับเร้าอารมณ์อย่างที่สุด นั่นก็เพราะว่าชุดมันเรียบลู่แนบสนิทเข้าไปกับเรือนร่างอวดสรีระส่วนสัดเว้าโค้งของมินตราออกมาอย่างชัดเจนโดยเฉพาะร่องรอยยอดปทุมถันบนเนินนมรางๆนั่นทำเอาต้นกล้าถึงกับเผลอจ้องมองไม่วางตาสายตาที่ชายหนุ่มจ้องมองมา ทำเอามินตราหน้าชาตัวร้อนวูบวาบ "กลับดึกเชียวนะเรา"มินตราเอ่ยปากถามเสียงเข้มนิดหน่อย "อะ...เอ่อ...ต้นมีซ้อมบอลนิดหน่อยน่ะครับ"ปากชายหนุ่มก็ตอบไป แต่สายตายังคงจ้องเขม็งมาที่มินตราอยู่แต่หญิงสาวไม่โอเครเลยที่ลูกเลี้ยงของเธอยังโกหกเธออยู่อีก มินตราไม่รู้หรอกว่าชายหนุ่มไปไหนมาแต่ที่แน่ๆไม่ใช่ไปซ้อมบอลแน่นอน "เหรอ...ไม่ใช่ว่าไปกับแฟนเราหรอกนะ"มินตราประชดใจก็นึกโทษตัวเองทันทีว่าไม่น่าปากไวเลย(โอ้ย...นี้ชั้นพูดอะไรออกไปเนี่ย..อยากจะเขกกะโหลกตัวเองจริงๆบรรยากาศกำลังดีแล้วเชียว แต่มันก็อดโมโหไม่ได้จริงๆนี่หน่า) "อะ...อะ..เอ่อ...ปล่าวครับ ต้นไปซ้อมบอลมาจริงๆ"ยังดีที่ชายหนุ่มมัวแต่ยืนตะลึงในความสวยงามของแม่เลี้ยงสาววัย 30จนไม่ทันคิดเรื่องอื่น โชคดีของมินตราที่ยังพอมีโอกาสแก้ตัวและเธอจะไม่ปล่อยโอกาสให้หลุดลอยไปอีก "เอาเถอะ....."มินตราพูดเสียเบาสูดหายใจเข้าปอดฟอดใหญ่รวบรวมความกล้าแล้วเยื้องกรายนวยนาดเข้าไปหาต้นกล้า คลายสองมือที่กอดอกแล้วเอามาจับแก้มต้นกล้าพร้อมพูดอย่างแผ่วเบา "เมื่อวานนี้ แม่ขอโทษนะแม่เองก็ลืมไปว่าเราเองก็โตเป็นหนุ่มซะขนาดนี้แล้ว..."มินตราเว้นช่วงคำพูดเหลือบไปมองที่ช่วงล่าง แล้วไล่สายตาผ่านท้องน้อยแผงอกกลับมาที่หยุดที่ใบหน้าของชายหนุ่มอีกครั้ง ก่อนจะพูดต่อ "แม่จะไม่เจ้ากี้เจ้าการอะไรต้นอีกแล้วต้นอยากจะทำอะไร..........ก็ทำเถอะ........แม่จะไม่ว่าอะไรหรอก"มินตราส่งยิ้มหวานหยาดเยิ้มทำเอาต้นกล้าตั้งตัวไม่ทันกับความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของมินตรา ต้นกล้ามีส่วนสูงมากกว่ามินตราเล็กน้อยทำให้สายตาที่มองไปยังมินตราอยู่ในมุมอันตรายที่จะเห็นร่องอกของมหึมาเบียดเสียดกันพอดิบพอดีซึ่งแน่นอนว่ามินตราก็ต้องการอย่างนั้นอยู่แล้ว "อะ...เอ่อ...ม่ะ...ไม่เป็นไรครับต้นเองก็ผิด ทะ...ที่ไม่เชื่อฟัง อะ...เอ่อ..."ต้นกล้าเสียทรงอย่างเห็นได้ชัด พูดตะกุกตะกักหน้าแดงแปร๊ด "งั้นเราก็ดีกันแล้วนะ"มินตรายิ้มหวานเก็บอาการดีใจไว้ไม่อยู่ แถมสายตาและอาการของตาต้นยังทำให้หัวใจของมินตราสูบฉีดเต้นตึกตักราวกับเด็กสาวแรกรุ่น "คะ...ครับ.......เอ่อ...ต้นง่วงแล้วเดียวไปอาบน้ำนอนก่อนนะครับ"ต้นกล้าลุกลี้ลุกลนรีบถ่อยห่างปลีกออกจากตัวของมินตราแล้วรีบเดินขึ้นบันไดเข้าห้องตัวเองไปเลยปล่อยให้แม่เลี้ยงยังสาวอย่างมินตรายืนยิ้มมองตามอย่างพอใจที่เห็นอาการกระสับกระส่ายของลูกเลี้ยงสุดหล่อใจก็นึกว่าเธอจะเปิดตัวแรงเกินไปหรือเปล่านะ? (ไม่รู้หล่ะ ไม่รู้ว่าตาต้นกับผู้หญิงคนนั้นไปถึงไหนกันแล้ว เราคงต้องเร่งทำคะแนนตามซักหน่อย)มินตราคิดอย่างนั้นเพราะอย่างนั้นปฎิบัติการแอบอ่อยลูกเลี้ยงของมินตรา จึงเริ่มต้นขึ้นอย่างเป็นทางการเสื้อผ้าแบบเดิมๆที่เคยเรียบร้อยปกปิดมิดชิดแบบผู้รากมากดีถูกโล๊ะออกจากตู้เสื้อผ้าเอาไปบริจาคจนหมดใจก็ตั้งจิตอธิฐานหวังว่าผลบุญจะหนุนนำให้ตัวเองสมหวังสิ่งที่เหลืออยู่ในตู้เสื้อผ้าก็จะมีแต่ประเภทเซ็กซี่ล่อแหลม วาบหวิว รัดหีรัดนมที่ดาหวันขยันไปสรรหามาให้มินตราสวมใส่เพื่อยั่วเจ้าลูกเลี้ยงตัวดีแล้วแต่ละแบบที่ดาหวันเลือกมาก็ทำเอามินตราเองยังรู้สึกเสียววาบถึงกับน้ำซึมหว่างขาเพียงแค่คิดว่าต้องใส่ชุดพวกนี้ให้ลูกเลี้ยงเธอดู "มันโป๊ไปหรือเปล่ายัยดาเกิดเค้าลุกขึ้นมาปล้ำชั้นหล่ะจะทำยังไง"มินตราโทรถามดาหวันว่าจะให้เธอใส่ชุดพวกนี้จริงๆเหรอ "เอ๊า ก็เข้าทางเลยสิแก ไม่ต้องเสียเวลาอ่อย คิกๆ" "อุ้ย...พูดบ้าอะไรของแกนะ..ยัยดา"มินตราตอบไป แต่ใจก็คิดอย่างที่ดาหวันพูดนั้นแหละ ============================ ทุกๆเช้า มินตราจะมายืนเลือกเสื้อผ้าอยู่นานสองนานเพราะว่ามันไม่ใช่เรื่องง่ายเท่าไร่ที่จะเลือกให้ยั่วยวนแต่ไม่โจ่งแจ้งจนเกินไปนักดาหวันก็เหมือนจะคำนวณเรื่องนี้ไว้แล้วจึงจัดเรียงเสื้อผ้าตามระดับความรุนแรงจากน้อยไปมากเอาไว้ให้แต่ก็นั้นแหละชุดที่ดูเบาที่สุดที่ดาหวันจัดมาให้มันก็ยังดูรุนแรงมากอยู่ดีเมื่ออยู่บนร่างกายของมินตราหลังจากคืนวันนั้นเสื้อผ้าที่มินตราใส่ก็ค่อยๆพัฒนาไปทีละสเต็ปตามที่ดาหวันจัดไว้ให้ซึ่งเสื้อผ้าที่มินตราใส่มันก็เริ่มที่จะหดสั่นลงไปเรื่อยๆ จากแขนยาวเป็นแขนสั้นจากแขนสั้นเป็นแขนกุด จากขายาวเป็นสามส่วน จากสามส่วนเป็นขาสั้นจนผ่านไปได้หนึ่งเดือนก็เหลือเพียงเสื้อกล้ามคอคว้านลึกเปิดเนินนมกับกางเกงขาสั้นเสมอหูสุดฟิตเท่านั้นที่มินตราใส่เวลาอยู่บ้านไม่ต้องพูดถึงเวลากลางคืนที่เสื้อนอนของเธอเริ่มจะเบาเริ่มจะบางลงทุกทีจนบางครั้งก็เหมือนจะมองทะลุไปเห็นเสื้อในแล้วในบางวันที่มินตราในครึ้มอกครึ้มใจแน่นอนว่ามินตราเองก็รับรู้ได้ถึงความเปลี่ยนแปลงอย่างชัดเจนของลูกชายเพราะว่าเค้าเริ่มที่จะอยู่ติดบ้านบ่อยมากขึ้น หากไม่มีเหตุจำเป็น เช่นต้องซ้อมกีฬาหรือติวหนังสือ ก็จะไม่ออกไปเถลไถลข้างนอกเหมือนเมื่อสองสามเดือนก่อนหน้านี้เวลาอยู่ด้วยกันหญิงสาวก็จะสังเกตเห็นว่าต้นกล้านั้นแอบลอบมองบั้นท้ายมองหน้าอกของเธออยู่เป็นประจำ แต่เธอก็ไม่ได้โกรธเคืองอะไรนักหรอกเพราะเป็นความตั้งใจที่จะแอบอ่อยให้ท่าอยู่แล้ว กลับกันเลยต่างหากเพราะทุกครั้งที่ตาต้นแอบมอง เธอจะรู้สึกซาบซ่านอย่างประหลาดความคิดลามกนี้เลยเถิดเตลิดไปไกลเสียจนหว่างขามินตราชุ่มช่ำเหนียวลื่นแทบจะทุกนาทีที่อยู่ใกล้ๆกันกับชายหนุ่มจนบางวันทนไม่ไหวมินตราถึงกับต้องรีบหนีเข้าห้องไปล้วงหีตัวเองพร้อมกับจินตนาการไปว่าต้นกล้านั้นทนไม่ไหวจับเธอถลกกางเกงกระหน่ำซอยกระเด้าหีไม่มียั้งจนน้ำกระฉูดพรั้งพรูแทบทุกคืนยิ่งนานวันมินตราก็ยิ่งรู้สึกถึงการมีอารมณ์ร่านร้อนในตัวเองเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆจนพักหลังๆมานี้หากมินตราพบว่าสบโอกาสและสะดวกเมื่อไหร่เธอก็พร้อมที่จะปลดเปลื้องอารมณ์ของตัวเองอยู่เสมอดูเหมือนว่าการสำเร็จความความใคร่ด้วยตัวเองจะเป็นกิจวัตรประจำวันอย่างนึงที่ขาดไม่ได้ของมินตราไปเสียแล้วและวันนี้เองก็เช่นกันที่เธอร้องเรียกตาต้นพร้อมเกี่ยวหีตัวเองจนแอ่นเกร็งน้ำพุ่งกระฉูดกระจายเปียกปอนเลอะห้องเลอะที่นอนเต็มไปหมดเธอหอบเหนื่อยนอนแผ่หรายอมรับจากใจเลยว่าความรู้สึกของตัวเองนั้นหลุดไปไกลจากคำว่าแม่ลูกมากแล้วทั้งที่ๆตั้งใจจะยั่วชายหนุ่มแท้ๆ แต่พอเห็นสายตาหื่นกระหายส่งกลับมาก็กลายเป็นเหมือนกับว่าตัวเองโดยยั่วยังไงก็ไม่รู้ในใจนี้อยากที่จะเข้าไปเปิดประตูห้องลูกเลี้ยงแล้วแก้ผ้าจับปล้ำทำผัวซะให้รู้แล้วรู้รอด แต่เธอก็ยังไม่กล้าพอที่จะทำอย่างนั้นความรักความผูกพันกับต้นกล้าในฐานะแม่ลูกที่มีมานานดูเผินๆเหมือนจะเป็นเรื่องที่ดีแต่มันกลับเป็นกำแพงสูงใหญ่ที่ทำให้มินตรานั่นเกิดความกลัวถ้าตาต้นไม่เห็นด้วยกับเรื่องนี้แม้เพียงซักเซี๊ยวน้อยนิดแล้วเกิดรังเกียจเธอขึ้นมาเธอจะทนอยู่ได้อย่างไร เพราะ1เดือนที่ผ่านมาถึงต้นกล้าจะให้ความสนอกสนใจก็จริงอยู่แต่มันก็ไม่ได้เกิดอะไรมากมายเกินไปกว่านั้นเลย "ชั้นจะทำยังไงต่อดีดาหวันเค้าดูสนใจชั้นอยู่แต่ก็ได้แค่มอง แล้วก็ถึงจะอยู่ด้วยกันบ่อยขึ้นแต่ดูเหมือนว่าเค้าจะถอยห่างชั้นมากกว่าแต่ก่อนอีกเมื่อก่อนยังมีกอดมีหอมกันบ้างนะ " มินตราโทรปรึกษาดาหวั่นอย่างร้อนใจที่ไม่มีอะไรคืบหน้ากว่าที่เป็นอยู่ "ใจเย็นหน่าชั้นว่าได้ขนาดนี้ก็คืบหน้าไปมากแล้วนะ ตาต้นเป็นเด็กดีจะตายต่อให้คิดอะไรกับเธอจริงๆ มันก็ไม่ง่ายนักหรอกที่เค้าจะกล้าทำอะไรแต่ตอนนี้ชั้นว่าได้เวลาขยับขั้นกันบ้างแล้วหล่ะ" ดาหวันทิ้งท้ายก่อนจะบอกแผนขั้นต่อไปให้มินตราทำตาม ============================
|