ลืมรหัสผ่าน
 สมัครเข้าเรียน
ค้นหา
ดู: 306|ตอบกลับ: 9

อ้ายเสือ ตอนที่ 13 ลูกเศรษฐี

[คัดลอกลิงก์]

มาเฟียนักศึกษา

กระทู้
67
พลังน้ำใจ
3513
Zenny
18867
ออนไลน์
602 ชั่วโมง
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย NOOFONG เมื่อ 2025-1-5 16:40



13

ลูกเศรษฐี

หลังจากที่เดินทางมาอย่างเหน็ดเหนื่อยสองคืนเต็มๆในที่สุดเจ้าทัพและขวัญก็มาถึงจุดหมายที่บ้านของเศรษฐีใหญ่ที่พวกเขาตั้งใจจะเข้าไปปล้นในคืนนี้บ้านหลังใหญ่ตั้งอยู่ท่ามกลางความเงียบสงบของชนบท มีรั้วสูงล้อมรอบและไฟสว่างส่องไปทั่วพื้นที่เจ้าทัพมองไปยังบ้านหลังนั้น รู้สึกคุ้นเคยอย่างบอกไม่ถูกราวกับว่าเคยมีบางอย่างในอดีตผูกพันกับสถานที่แห่งนี้

พวกเขาวางแผนกันอย่างระมัดระวังว่าจะบุกปล้นในคืนนี้โดยไม่ต้องการให้มีการสูญเสียหรือบาดเจ็บ ดั่งคำสั่งที่สืบทอดกันมาเจ้าทัพจึงสั่งการให้คนออกลาดตระเวนดูสถานการณ์รอบๆ บ้านหลังจากตรวจสอบก็พบว่าบ้านหลังนี้มีการป้องกันที่แน่นหนา ซึ่งหมายความว่าหากจะเข้าไป คงหนีไม่พ้นการปะทะกันเป็นแน่

เจ้าทัพจึงตัดสินใจปลอมตัวแฝงตัวเข้าไปในบ้านเป็นคนหาบเร่เขาเตรียมเสนอขายผ้าแพรไหมให้กับเศรษฐีใหญ่ในขณะที่แฝงตัวอยู่ท่ามกลางความมืดของคืนนั้นขวัญและคนในกลุ่มจึงคอยสังเกตการณ์จากที่ห่างไกล

เมื่อถึงหน้าบ้านเจ้าทัพมองเห็นหญิงสูงวัยคนหนึ่งเดินออกมาพร้อมกับแสงไฟจากในบ้าน สายตาของเธอแม้จะร่วงโรยตามกาลเวลาแต่เจ้าทัพกลับรู้สึกคุ้นเคยอย่างบอกไม่ถูก เสียงของหญิงชรานั้นดังขึ้นแผ่วเบา"มีอะไรหรือจ๊ะ พ่อหนุ่ม?"

"ฉันมาขายผ้าแพรไหมจ่ะ ทอมืออย่างดีไหมแต่ละเส้นพิถีพิถันมากเลยจ่ะ" เจ้าทัพกล่าวออกไปน้ำเสียงแฝงไปด้วยความมั่นใจ สายตาของเขาก็สอดส่องไปทั่วบ้านอย่างละเอียด

หญิงชรามองเจ้าทัพด้วยสายตาที่อ่อนโยนก่อนจะกล่าวต่อไปว่า “ผ้าแพรไหมหรือจ๊ะ? ลองมาให้ดูหน่อยสิ”เธอกล่าวเสียงเบา แต่แฝงไปด้วยความสงสัยเล็กน้อย เจ้าทัพยิ้มบางๆตอบกลับอย่างมีมารยาท "ได้เลยจ่ะ ฉันขอโทษนะจ๊ะที่มารบกวนยามวิกาลเช่นนี้"

เขาหยิบผ้าแพรไหมออกมาเผยให้เห็นลวดลายที่ละเอียดอ่อนและสวยงามดวงไฟจากบ้านสาดส่องไปบนเนื้อผ้า ทำให้สีสันของมันยิ่งดูน่าสนใจหญิงวัยกลางคนยื่นมือออกไปสัมผัสผ้าอย่างเบามือราวกับว่ากำลังสัมผัสสิ่งที่คุ้นเคย

เจ้าทัพยังคงเฝ้ามองอย่างละเอียดคำพูดของหญิงชราเหมือนจะทำให้เขานึกถึงบางสิ่งบางอย่างในอดีตความรู้สึกที่เขาพยายามหลีกเลี่ยงกลับเข้ามาอีกครั้งในหัวใจ

“ผ้าแพรไหมของเจ้าดีจริงๆ นะ...เจ้าก็เป็นพ่อหนุ่มที่มีฝีมือ ขายของเก่งจังเลย” หญิงชรากล่าวชมอย่างจริงใจแต่คำพูดนั้นกลับเหมือนมีบางสิ่งที่แฝงอยู่ เจ้าทัพแสร้งยิ้มและตอบกลับไปว่า"ขอบคุณจ่ะยาย"

หลังจากที่พูดคุยกันได้สักพักหญิงชราก็เอ่ยชวนเจ้าทัพเข้าไปในบ้านของเธอ "เข้ามานั่งในบ้านเถอะจ้ะ หนุ่มผ้าไหมของเจ้าดูน่าสนใจ ข้าจะให้สามีดูด้วย เขาเป็นคนชอบของสวยงาม"

เจ้าทัพพยักหน้ารับคำเชิญก่อนจะก้าวตามหญิงชราเข้าไปในบ้านที่ดูเรียบง่ายแต่แฝงไปด้วยความอบอุ่นภายในบ้านตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์ไม้โบราณบรรยากาศสงบและเต็มไปด้วยกลิ่นหอมของดอกไม้ที่จัดใส่แจกันอย่างประณีตหญิงชราเดินนำเข้าไปหาชายชราคนหนึ่งที่นั่งอ่านหนังสืออยู่ เขาเงยหน้าขึ้นมามองเมื่อเห็นเจ้าทัพเข้ามา

"นี่สามีของข้าเองจ้ะ เราอยู่กันสองคนลูกหลานไปรับราชการตำรวจในเมือง นานๆ ครั้งถึงจะได้แวะมาเยี่ยม" หญิงชราเล่าน้ำเสียงเปี่ยมไปด้วยความภาคภูมิใจ "แต่พวกเราก็อยู่กันได้สบายดี"

เจ้าทัพฟังอย่างตั้งใจ พลางมองไปรอบๆ บ้านท่าทางใจดีของหญิงชราและสามีดูขัดกับคำพูดของเสือสมานที่เขาได้ยินมาก่อนหน้านี้ทำให้เขาเริ่มลังเลในใจ ว่าสิ่งที่เขากำลังทำอยู่นั้นถูกต้องหรือไม่

สายตาของเขาไปสะดุดกับรูปถ่ายใบหนึ่งที่วางอยู่บนตู้ไม้โบราณเป็นรูปเด็กชายในชุดพื้นเมืองยืนยิ้มอย่างมีความสุขรูปนั้นทำให้หัวใจของเจ้าทัพเต้นแรง เด็กในรูปดูเหมือนเขาตอนเด็กๆ อย่างน่าอัศจรรย์ภาพความทรงจำในวัยเยาว์เริ่มฉายขึ้นในหัวราวกับเป็นภาพลางเลือนที่เขาเคยลืมเลือนไป

หญิงชราสังเกตเห็นสายตาของเจ้าทัพที่จ้องมองไปยังรูปถ่ายจึงยิ้มบางๆ และพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงอบอุ่นแต่แววตาเศร้าสร้อย “นั่นเป็นรูปของหลานชายข้าจ้ะชื่อเจ้าทัพ เขาเป็นเด็กดีและฉลาด แต่โชคร้าย... เขาถูกลักพาตัวไปตั้งแต่ยังเล็กพวกเราตามหาเท่าไหร่ก็ไม่พบ ถ้าเขายังอยู่ ตอนนี้ก็คงโตพอๆ กับเจ้า”

เจ้าทัพนิ่งเงียบ สายตาจ้องมองรูปถ่ายนั้นความรู้สึกมากมายถาโถมเข้ามาในใจ แต่เขาเลือกที่จะไม่พูดอะไรออกมาความจริงที่ค่อยๆ เปิดเผยทำให้เขาหนักใจ เขาไม่พร้อมจะเผชิญหน้ากับมันไม่พร้อมที่จะยอมรับว่าตัวเองอาจเป็นหลานชายที่หายไป

หญิงชรายังคงเล่าเรื่องราวด้วยน้ำเสียงเศร้า"พ่อแม่เขาเสียใจมาก ก่อนจากไปก็ยังพูดถึงเขาเสมอ ข้ากับสามีก็หวังว่าสักวันเขาจะกลับมาแต่หลายปีผ่านไป ก็ไม่เคยได้ยินข่าวอะไรอีกเลย"

เจ้าทัพพยายามซ่อนความรู้สึกที่กำลังพลุ่งพล่านเขาฝืนยิ้มเล็กน้อย "ฉันเสียใจด้วยจ้ะยายเรื่องที่เกิดขึ้นมันน่าเศร้าจริงๆ"

หญิงชรายิ้มอ่อนโยนให้เขา"ขอบใจนะหนุ่ม เจ้าเป็นคนดี ถ้าเขายังอยู่ข้าหวังว่าเขาจะเป็นคนแบบเจ้า"

หลังจากได้ฟังเรื่องราวจากหญิงชราความจริงที่เจ้าทัพพยายามหนีมาตลอดชีวิตก็เริ่มชัดเจนขึ้นแต่ในใจเขารู้ดีว่ามันสายเกินไปที่จะถอยหลังกลับสิ่งที่เขาทำมาไกลเกินกว่าจะย้อนคืนได้ ในตอนนี้เขาจำต้องทำหน้าที่ของเขาเขาโค้งตัวลาอย่างสุภาพ "ข้าต้องขอตัวก่อนจ้ะยายขอบคุณที่เล่าเรื่องให้ฟัง"

หญิงชรายิ้มให้ด้วยความเอ็นดู"ถ้ามีโอกาส แวะมาเยี่ยมข้าอีกนะหนุ่ม ข้าชอบคุยกับเจ้า"

เจ้าทัพพยักหน้า ก่อนจะเดินจากไปแต่ในใจกลับเต็มไปด้วยความรู้สึกขัดแย้ง เขาเก็บซ่อนความจริงที่รู้ไว้ลึกในใจหวังว่าจะลืมมันไปได้สักวัน

เมื่อออกจากบ้านเงามืดของคืนเริ่มเข้ามาปกคลุม เจ้าทัพเริ่มสั่งการเคลื่อนไหวของคนในกลุ่มเสียงกระซิบกระซาบสั่งแผนการลอบขนสิ่งของในยามค่ำคืนทุกอย่างดูเหมือนจะเป็นไปด้วยดี พวกเขาค่อยๆ ย่องเข้ามาจากด้านหลังของตัวบ้านขนย้ายสิ่งของอย่างเงียบเชียบ

แต่เมื่อทุกอย่างใกล้เสร็จสมบูรณ์เจ้าทัพก็สังเกตได้ถึงความผิดปกติ ห้องที่พวกเขาอยู่ แม้ตอนแรกจะเข้ามาได้ง่ายดายแต่ตอนนี้กลับถูกปิดตายจากด้านนอก ราวกับมีใครบางคนกักขังพวกเขาไว้

เสียงหัวเราะแห้งๆของชายชราดังขึ้นจากที่ไหนสักแห่ง "เจ้าคิดว่าจะหนีไปได้ง่ายๆ งั้นหรือ?พวกเจ้าติดกับข้าแล้ว"

เจ้าทัพขบกรามแน่น พยายามตั้งสมาธิร่ายอาคมเพื่อคลายกลอนประตู แต่พลังของอีกฝ่ายกลับแข็งแกร่งเกินกว่าที่เขาคาดคิดอาคมที่เขาร่ายไม่อาจทำลายการปิดผนึกได้

"แย่แล้ว..." เขาพึมพำเบาๆก่อนหันไปหาพวกพ้อง"เราต้องหาทางออกจากที่นี่ก่อนที่ทุกอย่างจะสายเกินไป"

เจ้าทัพพยายามใช้ทุกวิถีทางเพื่อยื้อเวลาร่ายมนต์ซ้ำแล้วซ้ำเล่า มือของเขาสั่นเล็กน้อยแต่ยังคงมีความมุ่งมั่นแน่วแน่ในที่สุด มนต์ก็คลายออก ประตูเปิดออกได้สำเร็จ แต่ยังไม่ทันที่จะได้โล่งใจชายชราได้ปรากฏตัวขึ้นตรงทางออก สายตาแหลมคมเต็มไปด้วยเล่ห์กล

"หนีไปให้หมดข้าจะถ่วงเวลาไว้เอง!" เจ้าทัพตะโกนสั่งเสียงดัง ทุกคนเริ่มทยอยวิ่งออกไปแต่เจ้าทัพยังคงยืนหยัดเผชิญหน้ากับชายชรา

เจ้าขวัญหยุดชะงักมองเจ้าทัพด้วยความเป็นห่วง “พี่ทัพ หนีไปด้วยกันเถอะนะจ้ะ”

แต่เสียงตวาดของเจ้าทัพทำให้ขวัญสะดุ้ง"รีบไปซะ!!"

ขวัญลังเล แต่เมื่อเห็นสายตาที่จริงจังของเจ้าทัพเขารู้ว่าไม่มีทางเลือกอื่น ต้องทำตามคำสั่ง "สัญญากับขวัญนะว่าพี่จะปลอดภัย!" เขาตะโกน ก่อนจะวิ่งออกไปพร้อมกับคนอื่นๆ

ขวัญหันกลับมามองเจ้าทัพเป็นครั้งสุดท้ายก่อนจะถูกพาตัวออกไปน้ำตาไหลพรั่งพรูด้วยความเป็นห่วง แต่เขารู้ดีว่าการยืนหยัดของเจ้าทัพในตอนนี้เป็นเพียงทางเดียวที่จะช่วยทุกคนได้

"รีบพาขวัญหนีไป!"เจ้าทัพตะโกนสั่งคนที่เหลือ แม้จะรู้ว่าอีกไม่นานเขาอาจยื้อไม่ไหวขวัญพยายามขัดขืน แต่เจ้าทัพผลักไสเขาออกไปด้วยความหนักแน่น "ขวัญ พี่จะปลอดภัย!เจ้าต้องไปเดี๋ยวนี้!"

ขวัญมองเขาด้วยน้ำตาคลอ ก่อนจะถูกพาออกไปเจ้าทัพยืนอยู่ตรงนั้น ลมหายใจหนักหน่วงแต่ยังคงพร้อมสู้จนถึงที่สุดแม้จะรู้ว่าโอกาสที่จะรอดนั้นเลือนลาง

ขวัญที่ถูกพาตัวออกมารู้สึกเหมือนหัวใจจะหลุดออกจากอกความเสียใจและความกังวลท่วมท้นไปทั่วร่างเขาไม่อาจห้ามตัวเองจากการคิดว่าอาจเป็นครั้งสุดท้ายที่เขาจะได้เห็นเจ้าทัพความรู้สึกอ่อนแอและไร้ประโยชน์ทำให้เขารู้สึกหนักอึ้งโทษตัวเองที่ไม่สามารถทำอะไรได้มากไปกว่านี้ปล่อยให้คนที่เขารักต้องเผชิญอันตรายเพียงลำพัง

ขวัญเฝ้ารอเจ้าทัพอยู่นานจนเกือบรุ่งสางแต่ก็ยังไม่มีวี่แววของอีกฝ่ายเลย ความรู้สึกวิตกกังวลกัดกินใจไม่หยุดเขารู้สึกเหมือนตัวเองกำลังจะระเบิดออกมา อยากจะบุกเข้าไปให้รู้แล้วรู้รอดแต่ก็ถูกห้ามปรามไว้เพราะเป็นคำสั่งของเจ้าทัพ เขาจึงได้แต่ทนรอรอจนเวลาล่วงเลยไปกระทั่งจะหมดวัน

“ไม่มีข่าวคราวอะไรเลยหรือ?”ขวัญถามออกไปด้วยน้ำเสียงที่แฝงไปด้วยความหวังแต่คำตอบที่ได้รับกลับมาเป็นเสียงเดียวกันจากทุกคน"ยังไม่มีความคืบหน้าเลย"

คำตอบนั้นยิ่งทำให้ขวัญรู้สึกใจหายเขากัดฟันแน่น พยายามสะกดความกังวลที่ลุกโชนในใจ แต่ยิ่งรอนานเท่าไหร่ความวิตกก็ยิ่งทวีขึ้น ทุกๆนาทีที่ผ่านไปเหมือนกับยิ่งทำให้เขาห่างไกลจากเจ้าทัพมากขึ้น

"จะไม่มีอะไรเกิดขึ้นใช่ไหม?"ขวัญพึมพำกับตัวเอง แต่ก็รู้ดีว่าเขาไม่สามารถห้ามตัวเองจากการคิดไปไกลได้

ในช่วงเวลานั้นความเงียบและความไม่แน่ใจครอบงำทุกคน ทุกคนเงียบไปเพราะไม่รู้ว่าจะพูดอะไรแต่ในใจล้วนคิดถึงเจ้าทัพ และความหวังเล็กๆ ว่าเขาจะสามารถฝ่าฟันทุกอย่างไปได้


ภายในบ้านของเศรษฐีเจ้าทัพถูกจับกุมตัวอยู่ในบ้านหลังนั้นก่อนที่ชายชราจะแจ้งทางการเพื่อให้มาจับเขาไป เจ้าทัพรู้สึกว่าตัวเองทำพลาดแต่อย่างน้อยเจ้าขวัญก็จะไม่เป็นอันตราย ป่านนี้คงกำลังว้าวุ่นใจเพราะเขาเป็นแน่แต่ถูกพันธนาการแน่นหนาขนาดนี้จะหนีออกไปได้ยังไง

เจ้าทัพถูกสะกดอาคมไว้ทำให้ร่ายมนต์ไม่เป็นผลชายชราผู้นี้มีอาคมที่แกร่งกล้ามากสามารถปราบโจรอย่างเขาได้อยู่หมัด แถมเชือกที่รัดเขาไว้ยังเต็มไปด้วยอาคมที่ยากจะสลัดให้หยุดได้

“ไอ้หนุ่ม เอ็งก็ยังหนุ่มยังแน่น เหตุใดจึงมาเป็นโจรวะ”ชายชราถามเขาด้วยน้ำเสียงเหยียดหยาม

เจ้าทัพไม่ได้ตอบอะไร เขาแค่ก้มหน้าลงพยายามเก็บทุกความคิด ทุกความรู้สึกที่พลุ่งพล่านอยู่ในใจไว้ไม่ให้หลุดออกมาในตอนนี้ สิ่งเดียวที่เขาคิดถึงคือเจ้าขวัญเขารู้สึกกลัวที่จะต้องแยกจากขวัญตลอดไป กลัวที่จะไม่สามารถปกป้องเขาได้อีกต่อไปขวัญคงจะเป็นอย่างไรบ้างในตอนนี้เขาคิดถึงแต่ขวัญและหวังเพียงแค่เขาจะไม่เป็นอันตราย

เจ้าทัพไม่ได้ตอบอะไร เขาแค่ก้มหน้าลงพยายามเก็บทุกความคิด ทุกความรู้สึกที่พลุ่งพล่านอยู่ในใจไว้ไม่ให้หลุดออกมาในตอนนี้ สิ่งเดียวที่เขาคิดถึงคือเจ้าขวัญ เขารู้สึกกลัวที่จะต้องแยกจากขวัญตลอดไปกลัวที่จะไม่สามารถปกป้องเขาได้อีกต่อไป ขวัญคงจะเป็นอย่างไรบ้างในตอนนี้

“เจ้าขวัญของพี่...” เขาได้แต่พึมพำในใจ

ในขณะนั้นเอง ชายในชุดนายตำรวจยศใหญ่เดินเข้ามาถึงพวกเขายืนคุยกันครู่หนึ่ง ก่อนที่ทุกสายตาจะจับจ้องมาที่เจ้าทัพตำรวจนายนั้นเดินตรงเข้ามาหาเขา ก่อนจะใช้มือเปิดผ้าที่คลุมหน้าออกเผยให้เห็นใบหน้าของเจ้าทัพชัดเจน เขายืนจ้องอยู่ตรงหน้าอย่างไม่วางตากระทั่งสายตาของนายตำรวจไปสะดุดกับสร้อยเส้นหนึ่งที่ห้อยอยู่ที่คอเจ้าทัพ

“มึงไปได้มาจากที่ใด?”ตำรวจนายนั้นถามเสียงเข้ม น้ำเสียงที่แฝงไปด้วยความสงสัยและกดดันแต่เจ้าทัพยังคงเงียบอยู่ ไม่ยอมตอบอะไร

ชายในชุดข้าราชการคงไม่พอใจกับการเงียบของเขาจึงถามซ้ำเสียงที่ดังกว่า “ตอบกูมา! มึงไปเอาสร้อยเส้นนี้ของลูกกูมาได้อย่างไร?”น้ำเสียงเขาตึงเครียดและขู่อย่างชัดเจนพร้อมกับมองเจ้าทัพด้วยความคาดหวังว่าเขาจะตอบ

แต่ยังไม่ทันที่เขาจะได้พูดอะไรหญิงสาววัยกลางคนที่ดูเหมือนจะคุ้นเคยกับเขาดีก็รีบวิ่งเข้ามาขัดจังหวะ หยุดยั้งความกดดันทั้งหมดไว้ก่อนจะรวบตัวเจ้าทัพเอาไว้อย่างรวดเร็ว พร้อมกับเสียงที่แฝงไปด้วยความหวั่นวิตก

"เจ้าทัพใช่หรือไม่ลูก?"น้ำเสียงของหญิงสาวที่ถามออกมานั้นเต็มไปด้วยความห่วงใยแววตาเต็มไปด้วยความตกใจที่เห็นเจ้าทัพอยู่ในสภาพนี้

เจ้าทัพแทบจะไม่เชื่อสายตาตัวเองเมื่อได้ยินเสียงนั้นหญิงสาวตรงหน้าช่างคุ้นเคยเหลือเกิน แม้ในสถานการณ์นี้เขากลับรู้สึกเหมือนจะพบความอบอุ่นที่หายไปนาน

“นี่ลูกเราไงคะ คุณพี่...”หญิงสาวพูดเสียงสั่นเครือดวงตาเธอเต็มไปด้วยความสับสนและความหวังว่าเจ้าทัพจะรับรู้และจำเธอได้

เจ้าทัพสะอึกไป คำพูดนั้นเหมือนเสียงสะท้อนของความทรงจำที่เคยหลับใหลลึกอยู่ในใจเขากระพริบตาปริบๆ หญิงสาวตรงหน้าเริ่มคุ้นเคยมากขึ้นแล้วแต่ทำไมเขาถึงไม่อาจนึกออกได้เลยว่าเธอเป็นใคร?

"แม่..." เขาเอ่ยออกมาเบาๆคำพูดนั้นหลุดออกจากปากโดยไม่ทันตั้งตัว และทันทีที่เขาพูดออกไป ทุกอย่างรอบตัวเหมือนจะหยุดนิ่งเสียงทุกเสียงดูเบาบางลง สายตาของเขาจับจ้องไปที่หญิงสาวตรงหน้ามันเหมือนกับว่าเวลาได้ชะลอตัวลง ทุกสิ่งกลายเป็นเพียงความฝันที่เขายากจะเชื่อ

“เจ้าทัพ หลานของข้านั้นหรือ?”เสียงของชายชราดังขึ้น ชัดเจนและหนักแน่นราวกับย้ำว่าเรื่องที่เขาพูดนั้นเป็นความจริงที่ไม่มีข้อสงสัย

เส้นทางต่อจากนี้ของเขาควรเลือกเดินต่อไปอย่างไร?คำถามนี้วนเวียนอยู่ในหัวของเจ้าทัพอย่างไม่มีที่สิ้นสุดในเมื่อเขานั้นเป็นโจรที่ต้องหนีจากกฎหมาย และในขณะเดียวกันก็มีคนที่รักรออยู่ด้วยเขาควรจะเลือกทางไหน? ทางที่เต็มไปด้วยความรักและการผูกพันที่เขามีกับครอบครัวของคนรัก?หรือจะเลือกกลับไปสู่ครอบครัวที่แท้จริงของเขาซึ่งเขายังไม่รู้แน่ชัดว่าเป็นอย่างไรและจะให้การยอมรับเขาได้หรือไม่?

ในใจของเจ้าทัพนั้นยุ่งเหยิงไปหมดเขาคิดถึงขวัญที่กำลังรออยู่ห่างออกไป และในเวลาเดียวกันก็รู้สึกถึงความรับผิดชอบที่มีต่อครอบครัวของตัวเองครอบครัวที่เขาไม่เคยได้สัมผัส แต่กลับมีสายเลือดเดียวกันเขารู้สึกเหมือนกำลังถูกดึงไปในทิศทางที่สวนทางกันจนไม่รู้จะไปทางไหนดี

ความรักและความผูกพันกับขวัญทำให้เขารู้สึกถึงความสำคัญของการมีครอบครัวที่อยู่เคียงข้างแต่ครอบครัวแท้จริงของเขา...การค้นหาความจริงเกี่ยวกับตัวเองอาจทำให้เขาเจอคำตอบที่รอคอยมานานหรือมันอาจเปิดเผยแผลที่เขายังไม่พร้อมเผชิญหน้า

เจ้าทัพก้มหน้าลง มือของเขากำหมัดแน่นเขารู้ว่าไม่สามารถหนีจากความจริงได้ตลอดไป แต่ในขณะนี้สิ่งที่เขาต้องการที่สุดคือการตัดสินใจให้ถูกต้อง เพราะไม่ว่าจะเลือกทางไหนเขาก็ต้องเผชิญหน้ากับมันอย่างไม่สามารถหันหลังกลับได้

แต่ทางเดียวที่จะหนีจากการคุมขังนี้ได้คือการยอมรับในความสัมพันธ์ที่ถูกเปิดเผยไปก่อนเพื่อที่จะสามารถกลับไปหาขวัญอีกครั้ง เขาตระหนักดีว่าหากยังคงหลีกเลี่ยงและปฏิเสธความจริงนั้นต่อไปเขาคงไม่สามารถหาทางออกจากสถานการณ์นี้ได้ด้วยพันธนาการที่รัดตัวเขาไว้อย่างแน่นหนา ทั้งทางกายและใจ

เจ้าทัพกัดฟันแน่นสู้กับความรู้สึกในใจที่ประหนึ่งการสะบัดของลมหายใจที่หนักหน่วงเขารู้ว่าไม่มีทางเลือกอื่นที่ดีไปกว่านี้อีกแล้ว การยอมรับความสัมพันธ์นั้นอาจทำให้เขาสามารถกลับไปหาขวัญได้อีกครั้งแต่ในขณะเดียวกัน เขาก็ต้องแลกกับบางสิ่งที่ไม่อาจคาดเดาได้เกี่ยวกับอดีตของตัวเอง

เขาหมดหนทางที่จะหนีจากความจริงอีกต่อไปเจ้าทัพลึกในใจรู้ว่า ถ้าไม่ยอมรับสิ่งที่เกิดขึ้นเขาก็จะต้องสูญเสียทุกสิ่งที่เขารักไปเขาไม่สามารถยอมให้ความกลัวและความไม่แน่ใจมาเป็นอุปสรรคได้อีกต่อไปเพราะเขารู้ดีว่าความรักที่เขามีต่อขวัญนั้นสำคัญกว่าทุกสิ่งที่เขากำลังเผชิญหน้าอยู่ในตอนนี้

“โธ่เอ้ย คุณคะ รีบแก้มัดให้ลูกก่อนเถอะ”เสียงของหญิงสาวดังขึ้นอย่างเร่งร้อน ริมฝีปากสั่นระริกจากความวิตกกังวลเธอเอื้อมมือไปจับข้อมือของเจ้าทัพที่ถูกมัดอย่างแน่นหนาตาเธอเต็มไปด้วยความห่วงใยจนแทบไม่สามารถรั้งความกังวลไว้ได้

เจ้าทัพมองหญิงสาวอย่างรู้สึกสับสนและอ่อนล้าใจเขาเต็มไปด้วยความคิดที่ตีกันอย่างหนักหน่วงแต่ในที่สุดเขาก็ได้แต่ยอมปล่อยให้ทุกอย่างเป็นไปตามที่มันควรจะเป็นไม่รู้ว่าอนาคตจะพาเขาไปที่ใด แต่ในตอนนี้...เขาก็ยังคงต้องรอและยอมรับในสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้น


ขวัญคิดถึงเจ้าทัพเหลือเกิน เขานึกถึงช่วงเวลาที่เคยมีเจ้าทัพอยู่ข้างๆความอบอุ่นจากการกอดและการหอมที่เคยได้รับเขาเคยรู้สึกปลอดภัยทุกครั้งที่เจ้าทัพอยู่ใกล้แต่ตอนนี้กลับไม่รู้ว่าเจ้าทัพเป็นอย่างไรบ้างเขากังวลว่าเจ้าทัพจะปลอดภัยดีหรือไม่ จะยังมีชีวิตอยู่ไหมหรือจะเผชิญกับอันตรายจนไม่ได้กลับมาอีกเลย

สองสามวันต่อมา...เมื่อไม่มีข่าวคราวจากเจ้าทัพ ทุกคนจึงลงความเห็นกันว่าควรจะกลับไปที่หมู่บ้านชุมโจรเพื่อหาทางกันใหม่ ขวัญรู้สึกใจหายยิ่งนักเขาหวังเพียงแค่จะได้ข่าวดี แต่กลับต้องจำใจเดินทางกลับไปกับทุกคนไม่ว่าเขาจะรู้สึกอย่างไร ก็ไม่มีทางเลือกอื่น ตอนนี้เขาต้องหาทางทำให้สถานการณ์ดีขึ้นแต่ขวัญไม่อาจหยุดน้ำตาที่ไหลรินมา เขาร้องไห้ตลอดทาง ไม่เคยหยุดคิดถึงเจ้าทัพและคำสัญญาที่เจ้าทัพให้ไว้กับเขา ว่าจะไม่เป็นอะไร

เมื่อถึงเรือนขวัญก็เอาแต่ขลุกตัวอยู่ในห้อง ไม่ยอมพูดกับใคร เขาปิดประตูห้องแล้วนั่งอยู่กับตัวเองนึกถึงกลิ่นของห้องที่เคยมีเจ้าทัพนอนอยู่ข้างๆ ตอนนี้ห้องนั้นกลับว่างเปล่าไม่เหลือความอบอุ่นหรือเสียงหัวเราะที่เคยทำให้เขารู้สึกว่าทุกอย่างยังคงมีความหมายขวัญเงียบไปนาน ภายในใจเหมือนมีแต่ความว่างเปล่า ทุกๆ ที่ที่เขาหันไปเหมือนจะพบแต่ความทรงจำที่ทำให้เขารู้สึกเหมือนสูญเสียอะไรบางอย่างไป

วิไลเองก็เป็นห่วงขวัญเป็นอย่างมากเมื่อรู้ข่าวเกี่ยวกับเจ้าทัพเธอเห็นสภาพของขวัญที่ย่ำแย่จากความกังวลและความเจ็บปวดที่แสดงออกมาอย่างชัดเจนวิไลมองเรื่องราวทั้งหมดออกและแม้ว่าจะรู้ว่าความสัมพันธ์ระหว่างขวัญกับเจ้าทัพนั้นลึกซึ้งเพียงใดแต่เธอก็ไม่ได้คิดจะติติงหรือบ่นอะไรเพราะวิไลเข้าใจดีว่าความรักเป็นเรื่องของคนสองคน ไม่มีใครสามารถเข้าไปตัดสินได้

"ขวัญ..." วิไลเรียกชื่อเบาๆขณะที่นั่งลงข้างขวัญที่นั่งซุกตัวอยู่บนเตียง น้ำตายังไหลไม่หยุด"อย่าคิดมากไปเลยนะ...น้ารู้ว่ามันยาก แต่เราต้องทำใจให้ได้ทุกอย่างมันจะต้องมีทางออก"

ขวัญสะอื้นออกมาอีกครั้งไม่สามารถหยุดน้ำตาได้ "น้าวิไล...น้าคิดว่าพี่ทัพจะปลอดภัยไหมจ้ะ?เขาจะกลับมาหรือเปล่า...เขาจะเป็นอะไรไหม?"

วิไลสบตาขวัญด้วยความเห็นใจ ก่อนจะยิ้มบางๆแม้จะไม่มีคำตอบที่ชัดเจน แต่เธอก็พยายามปลอบขวัญให้รู้สึกสงบ"ขวัญ...ความรักของเจ้าทัพมันไม่ใช่เรื่องง่าย แต่น้าเชื่อว่ามันจะสู้...มันจะกลับมาหาขวัญเพราะมันรักขวัญมากที่สุด"

ขวัญเงียบไปครู่หนึ่งรู้สึกว่าคำพูดของวิไลช่วยปลอบใจเขาได้บ้าง แม้จะยังคงเต็มไปด้วยความวิตกกังวลในใจแต่ความรู้สึกนั้นก็เริ่มคลี่คลายลงบ้าง พร้อมกับความหวังเล็กๆที่ยังคงค้างอยู่ในใจ


---------------------------------------------------
แล้วยังไงต่อ เพิ่งจะบอกรักกันไปเอง
ต้องจากกันอีกแล้ว โอ้ยยน้ออ
ฝากติดตามเรื่องราวความรักของทั้งสองต่อไป
คอมเม้นต์เยอะๆน้าา ไล่อ่านทุกคอมเม้นต์เลย
ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านน้าาา

นายกสโมสร

กระทู้
0
พลังน้ำใจ
240819
Zenny
97536
ออนไลน์
17964 ชั่วโมง
โพสต์ 2025-1-5 15:33:51 | ดูโพสต์ทั้งหมด

นิสิตสัมพันธ์

โสด

กระทู้
0
พลังน้ำใจ
16652
Zenny
3310
ออนไลน์
6013 ชั่วโมง
โพสต์ 2025-1-5 16:37:51 | ดูโพสต์ทั้งหมด
คราวนี้ทำใจลำบากแท้ทัพเอ้ยย
จะทำอย่างไรหรือยังไง
ลุ้นไปกับเจ้าขวัญว่าจะได้เจอพี่ทัพตอนไหน
ขอบคุนคับ
 นักศึกษาภาคพิเศษ (M.D.A)
ปริญญากิตติมศักดิ์
โพสต์ 2025-1-5 21:47:04 จากอุปกรณ์พกพา | ดูโพสต์ทั้งหมด
เพิ่มLoveซีน อีกครับ😍🥲

นิสิตสัมพันธ์

กระทู้
10
พลังน้ำใจ
37390
Zenny
6902
ออนไลน์
5873 ชั่วโมง
โพสต์ 2025-1-5 22:49:10 | ดูโพสต์ทั้งหมด
ขอบคุณครับ

นิสิตสัมพันธ์

กระทู้
0
พลังน้ำใจ
12991
Zenny
8922
ออนไลน์
701 ชั่วโมง
โพสต์ 2025-1-7 11:56:51 | ดูโพสต์ทั้งหมด
ขอบคุณครับ

นิสิตสัมพันธ์

กระทู้
3
พลังน้ำใจ
32551
Zenny
3208
ออนไลน์
2670 ชั่วโมง
โพสต์ 2025-1-7 15:16:29 | ดูโพสต์ทั้งหมด

นิสิตสัมพันธ์

กระทู้
1
พลังน้ำใจ
39364
Zenny
33205
ออนไลน์
1972 ชั่วโมง
โพสต์ 2025-1-17 17:50:42 | ดูโพสต์ทั้งหมด

มาเฟียนักศึกษา

กระทู้
1
พลังน้ำใจ
9570
Zenny
10806
ออนไลน์
646 ชั่วโมง
โพสต์ 7 วันที่แล้ว | ดูโพสต์ทั้งหมด
ลุ้นว่าจะได้กลับมาหากันหรือเปล่า

มาเฟียนักศึกษา

กระทู้
0
พลังน้ำใจ
7304
Zenny
3826
ออนไลน์
492 ชั่วโมง
โพสต์ 5 วันที่แล้ว | ดูโพสต์ทั้งหมด
ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง เข้าสู่ระบบ | สมัครเข้าเรียน

รายละเอียดเครดิต

A Touch of Friendship: สังคมจะน่าอยู่ เมื่อมีผู้ให้แบ่งปัน ฝากไวเป็นข้อคิดด้วยนะคะชาวจีโฟกายทุกท่าน
!!!!!โปรดหยุด!!!!! : พฤติกรรมการโพสมั่วๆ / โพสแต่อีโมโดยไม่มีข้อความประกอบการโพส / โพสลากอักษรยาว เช่น ครับบบบบบบบบ, ชอบบบบบบบบ, thxxxxxxxx, และอื่นๆที่ดูแล้วน่ารำคาญสายตา เพราะถ้าท่านไม่หยุดทีมงานจะหยุดท่านเอง
ขอความร่วมมือสมาชิกทุกท่านโปรดโพสตอบอย่างอื่นนอกเหนือจากคำว่า ขอบคุณ, thanks, thank you, หรืออื่นๆที่สื่อความหมายว่าขอบคุณเพียงอย่างเดียวด้วยนะคะ เพื่อสื่อถึงความจริงใจในการโพสตอบกระทู้ และไม่ดูเป็นโพสขยะ
กระทู้ไหนที่ไม่ใช่กระทู้ในลักษณะที่ต้องโพสตอบโดยใช้คำว่าขอบคุณ เช่นกระทู้โพล, กระทู้ถามความเห็น, หรืออื่นๆที่ทีมงานอ่านแล้วเข้าข่ายว่า โพสขอบคุณไร้สาระ ทีมงานขอดำเนินการตัดคะแนน และ/หรือให้ใบเตือนสมาชิกที่โพสขอบคุณทันทีที่เจอนะคะ

รูปแบบข้อความล้วน|โทรศัพท์มือถือ|ติดต่อลงโฆษณา|จีโฟกายดอทคอม

ข้อความที่ท่านได้อ่านในเว็บจีโฟกายดอทคอมนี้ เกิดจากการเขียนโดยสาธารณชน และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ หากท่านพบเห็นข้อความใดๆ ที่ขัดต่อกฎหมาย และศิลธรรม ไม่เหมาะสมที่จะเผยแพร่ ท่านสามารถแจ้งลบข้อความได้ที่ Link “แจ้งลบโพสนี้” ที่มีอยู่ใต้ข้อความทุกข้อความ หรือ ลืมพาสเวิดล๊อกอิน/ลืมชื่อที่ใช้สมัคร หรือข้อสงสัยใดๆแจ้งมาที่ G4GuysTeam[at]yahoo.com ขอขอบพระคุณที่ให้ความร่วมมือ

กรณีที่ข้อความ/รูปภาพในกระทู้นี้จัดสร้างโดยผู้ลงข้อมูลเอง ลิขสิทธิ์จะเป็นของผู้ลงข้อมูลโดยตรง หากจะทำการคัดลอก/เผยแพร่ ต้องได้รับอนุญาตจากผู้ลงข้อมูลก่อนนะคะ หรือลงที่มาไว้ด้วยค่ะ

©ขอสงวนสิทธิ์คอนเซ็ปต์,คำอธิบาย,หัวข้อ/หมวดหมู่เว็บ ห้ามลอกเลียนแบบ คิดเอาเองนะคะอย่าเอาแต่ลอก

GMT+7, 2025-1-27 20:48 , Processed in 0.098113 second(s), 26 queries .

Powered by Discuz! X3.5, Rev.8

© 2001-2024 Discuz! Team.

ตอบกระทู้ ขึ้นไปด้านบน ไปที่หน้ารายการกระทู้