ป.ล.ก่อนอ่านนะครับ นี่เป็นเรื่องผสมระหว่างความจริงและจินตนาการเป็นบทความเขียนเล่าประสบการณ์เชิงนิยายก็ว่าได้ผมแต่งตามความรู้สึกและตามอารมณ์ที่พุ่งพล่านจากสมองผ่านปลายนิ้วให้บรรเจิดเป็นความคิดบนหน้าจอนะคร๊าบ~
อย่ามองผมแบบในเรื่องนะคับ ผมว่าความจริงกับเรื่องแต่งต่างกันนา~ผมอาจจะเขียนวกวนมากเกินไป แบบไร้แบบแผน หรืออารัมภบทยาวยืด ต่างๆนานาติชมได้นะคับ อย่าหักคะแนนป๋มเลยนะคร๊าบบ~ ผมเขียนเพลินๆไหลไปเรื่อยๆไม่รู้ว่าอ่านแล้วจะเป็นยังไงน้อ? ***(ต่อจากตอนที่แล้ว)*** ผมเตรียมตัวไปเรียนพิเศษ แล้วรีบบึ่งออกจากบ้านเพราะเหลือเวลาเดินทางไม่มากนัก คงเพราะหลับฝันดี(รึเปล่า?)เกินไปเคลิบเคลิ้มกับฝันจนตื่นสายนับว่าโชคดีที่ฝันนี้ยังแค่หอมแก้ม ถ้าถึงขั้นนั้นแล้วฝันหวานคงพัฒนาเป็นฝันเปียกแน่แท้ถึงตอนนั้นผมก็คงต้องเสียเวลากำจัดหลักฐานก่อนไปเรียน ผมอาจจะออกจากบ้านช้ากว่านี้เพราะต้องซักกางเกงนอนก่อนก็ได้หรือผมอาจจะออกมาเวลาเดียวกันกับตอนนี้ เพราะถอดมันทิ้งเอาไว้โดยคิดว่ากลับมาค่อยซักก็ได้ โอ๊ะ! แต่นั่นมันไม่ใช่ผมนี่ขืนปล่อยไว้มันก็คงจะส่งกลิ่นคาวๆออกมาแหงแซะ ไม่เอาๆ!!เลิกคิดก่อนน่า! ตอนนี้ผมควรกินขนมปังที่หยิบติดมือมารองท้องก่อนดีกว่าท้องผมเริ่มร้องโหยหวนโอดครวญเต็มทีแล้ว…
นี่ยังดีที่พ่อผมอาสาพาไปส่งที่ป้ายรถเมล์ให้ไม่งั้นผมก็คงต้องระหกระเห็จบากหน้าขึ้นรถต่อนึงเพื่อไปลงป้ายรถเมล์เพื่อต่อรถอีกต่อโอย..มันลำบากมากเลยง่ะ กว่าจะได้ไปเรียนพิเศษ พ่อผมยังบ่นตลอดทางว่าทำไมผมถึงได้ขี้เซานอนตื่นสายขนาดนี้มัวทำอะไรอยู่ ผมก็จำเป็นต้องเปิดหูฟังเขาซักหน่อยน่า ผมก็ต้องตอบ “ครับ” ไปเรื่อยๆตลอดทางถึงจะน่าเบื่อก็เหอะนะ แต่ผมก็โดนตัวเองบังคับให้ตกลงกะพ่อแล้วว่า “ผมจะไม่ตื่นสายจนพ่อต้องลำบากไปส่งอีกแล้วคับ!!”แหะๆจะเป็นไปได้มั้ยน๊อ?
ผมเคี้ยวขนมปังในปากตุ้ยๆ ลงจากรถเพื่อรอต่อรถเมล์ พ่อรีบซิ่งรถไปทำงานผมยังไม่ทันได้สวัสดีเลยง่ะ.. วันนี้ฟ้าค่อนข้างเปิดไอแดดตอนเช้าระอุแสบร้อนผิวหน้าผมเสียจริง ผมยืนรอรถเมล์อยู่ตั้งนานจนผมทนแดดไม่ไหว จึงไปหาที่ร่มพักพิงใกล้ๆ แต่มันไม่มีว่างเลยมีแต่ป้าแก่จองเต็มไปหมดเลยผมนึกขึ้นได้ว่าร้านสะดวกซื้ออยู่ใกล้แค่ไม่กี่ก้าวเองนะ...
“โว๊ะ!! ทำไมเราง่าวยังงี้ฟะ!!” ผมนึกโมโหตัวเองในใจ
ผมร้อนมาก กะจะมาหาที่พัก และหาน้ำดื่มด้วยนั่นแหละผมเดินตรงดิ่งไปยังตู้แช่เครื่องดื่ม หยิบน้ำดื่มขวดนึงขึ้นมา จะเดินไปจ่ายเงินอ่านะแต่ว่า...
ผมเหลือบหันหลังไป รถเมล์สายที่เราจะไป จะมาเทียบท่าพอดี เอาไงล่ะทีนี้ผมก็ต้องรีบเก็บมันเข้าที่เดิมแล้วรีบออกไปขึ้นรถเมล์ให้ทัน ผมรีบวิ่งออกไปเคราะห์ดีที่ยังทัน ผมนั่งอยู่ข้างหนุ่มนักศึกษาหน้าตาก็โอเคทีเดียวแต่ก็ไม่ได้สนใจอะไรเท่าไรหรอกนะ สนใจแต่ผมจะไปเรียนทันรึเปล่า?
ผมนั่งรถเมล์ไปได้สักพักหนึ่ง จึงเริ่มรู้สึกง่วง คงเพราะอิทธิพลจากฝันล่ะมั้งจึงเผลองีบหลับไป
หนังตาค่อยๆหย่อนๆ จนปิดในที่สุด ผมเริ่มเข้าสู่ในจิตภวังค์ผมมองไม่เห็นอะไรนอกจากหนังตาตัวเอง และไม่เห็นอะไรนอกจาก...
“พื้นไม้....?” เสียงคิดของผมสะท้อนก้องกังวานอยู่ในสมอง ผมกำลังพยายามประมวลผลอยู่ว่าผมอยู่ที่ไหน?
เสียงจ้อกแจ้กจอแจดุจตลาดสด แต่เป็นเสียงที่คุ้นเคยทั้งสิ้น ใช่แล้ว!! นี่เสียงเพื่อนๆของผมนั่นเองผมพอจะนึกออกแล้ว ผมเผลองีบหลับบนโต๊ะเรียนนี่เอง ตาพร่ามัวที่เริ่มปรับสภาพให้มองเห็นชัดขึ้นๆผมมองเห็นกลุ่มของเหลวบนโต๊ะ คงเป็นอะไรไม่ได้นอกจากน้ำลายของผมเอง ง่า~เราหลับน้ำลายหกขนาดนี้เชียวเหรอเนี่ย??
“ไง...ตื่นแล้วเหรอ?” เสียงใครน่ะ ผมร้สึกคุ้นหูจังเลย ผมเงยหน้าขึ้นดูเห็นเบ๊บนั่งหันหลังส่งยิ้มให้ผมเต็มๆ ใจผมเต้นตึกตักๆ
ผม : “อ...อือ..”
“หมับ!”มือข้างหนึ่งของใครบางคนจับที่ไหล่ผมจาด้านหลังไม่..ไม่ใช่มือเบ๊บ เขายังอยู่บ้างหน้าเรานะ
“ว่าไง เพื่อน ตื่นแล้วเหรอ?” เพื่อนผมอีกคนนั่นเอง ชื่อทอง
“ดีนะที่วันนี้คาบเช้าไม่มีเรียน” ทองพูด
ผม : “อ้าว ทำไมอะ?”
ทอง: “อ้าว ก็วันนี้ครูต้องไปดูงานนี่ … แกก็รู้แล้วไม่ใช่เรอะ?”
ผม: “เอ๋???”
ทอง: “อย่าไขสือเลยเพื่อน หลับต่อไปเถอะ ฮะๆ”
ผมก็ยังมึนๆงงๆอยู่เลยว่าผมระลึกเหตุการณ์ตอนไหนกัน เอ๊ะ! หรือว่านี้เป็นแค่ความฝันนั่นแหละแต่ไหงมันเหมือนชีวิตจริงจังเลยง่ะ...
“หมับ!” มืออุ่นๆของเบ๊บจับที่มือของผม ผมสะดุ้งโหยง.. เบ๊บ : “เอ็มๆ ไปห้องน้ำกันมะ?”
ผม: “เอ๋??”
เบ๊บ: “ไปเถอะนะ! น่านะๆ!” เบ๊บรบเร้าขอให้ผมไปให้ได้
ผม : “อ..อือ ไปก็ไป ไปก็ด้ะ”
เบ๊บ: “ ปะ ไปกันเลย!” เบ๊บจับมือผม พลางลุกขึ้น รีบจะไปห้องน้ำ
ผม : “เด๋วๆ จะรีบไปไหนอ่า?”
เบ๊บ: “เอ๊ะ! ก็ไปห้องน้ำน่ะสิ ถามได้ ไปกันเถอะนะๆ”
ผม: “ไปๆ เด๋วขอเช็ดน้ำลายบนโต๊ะก่อนนะ เด๋วมีคนเห็นงะ”
เบ๊บ: “ไม่ต้องหรอก~! เด๋วก็แห้งไปเองน่า~ รีบไปเถอน๊าๆ”
คราวนี้เบ๊บมาอยู่หลังผมและดันตัวผมไปให้ได้ผมยอมแล้วๆ ก็เลยปล่อยให้เบ๊บพาผมไป โดยทิ้งกองน้ำลายไว้เป็นของต่างหน้าบนโต๊ะง่ะ..เอ๊ะ! ไปห้องน้ำแท้ๆทำไมต้องรบเร้ากันขนาดนี้ด้วยอะ?
ถึงหน้าห้องน้ำแล้ว วันนี้ห้องน้ำดูเงียบๆ ปราศจากคน เบ๊บดันตัวผมเข้าไปในห้องน้ำแล้วก็พาผมเข้าไปในห้องส้วมห้องนึง ด้านในสุดของห้องน้ำ..
“แกร๊ก!!”
เบ๊บรีบลงกลอนประตูทันใดตอนนี้พวกเราอยู่ในห้องส้วมกันลำพังพียงสองต่อสองเท่านั้นผมสงสัยจึงต้องเอ่ยปากถาม
ผม: “เอ่อ..เบ๊บไม่ได้มาฉี่หรอกเหรอ?” ผมถามแบบเด็กๆ
เบ๊บ : “เปล่า.. ก็กึ่งๆอ่านะ”
ผม: “เอ๋?”
เบ๊บ: “น่าๆ เรามีเรื่องอยากจะคุยกะนายอะ เลยพานายมาที่นี่”
เบ๊บ: “ขอโทษนะ ที่รุนแรงกะนายแบบนี้อะ..” เบ๊บตาละห้อยแบบสำนึกผิด
ผม : “เปล่าๆ ไม่ๆ! ไม่เป็นไรหรอกนะ ว่าแต่มีอะไรเหรอ?”
เบ๊บ: “อะ..เปล่า.. ไม่มีอะไรหรอก..” เบ๊บหลบสายตา ไม่ยอมมองตาผมเลย มัวแต่มองพื้นห้องส้วมอยู่ยังงั้น
ผม: “เหรอ? นายโกรธอะไรเรารึเปล่าอะ”
เบ๊บ: “เปล่าโกรธซักหน่อยนะ!”
เบ๊บเริ่มมือสั่นและไม่ยอมมองตาผมสักที เขามัวแต่มองพื้นอยู่เหมือนเดิม แต่ เอ๊ะ! อะไรน่ะ?
ไม่รู้นะว่าผมตาฝาดรึเปล่า แต่ผมเริ่มสังเกตเห็น “ตรงนั้น”ของเบ๊บมันตุงๆนูนขึ้นมาหน่อยนะ อะเฮ้ย! O_o
ไม่ทันไรเบ๊บก็โผเข้ามากอดผมซะแล้ว ตัวของเขาประชิดตัวผมแบบใกล้สุดๆผมรู้สึกว่ามีอะไรแข็งๆนูนๆตรงนั้นของเบ๊บ กำลังดัน “ตรงนั้น”ของผมอยู่ผมชักจะมีอารมณ์แล้วสิ ลมหายใจเบ๊บ อุ่นและถี่มากขึ้นผมรู้สึกว่ามือของเบ๊บชักจะไม่อยู่สุขซะแล้ว จับตรงโน้นตรงนี้ไปทั่ว ขยำก้นผมบ้างลูบหลังผมบ้าง และก็มาจับตรงนั้นของผม... O_O
อา… ผมเริ่มมีอารมณ์มากขึ้นเรื่อยๆแล้วเจ้าตัวซนของผมเพิ่งพองโตขึ้นมาเรื่อยๆแล้ว เหมือนชีพจรกำลังลง เต้นตุบๆใหญ่เลยเบ๊บจับๆลูบๆคลำๆของผมของในขณะที่มือนึงก็กำลังโอบกอดผมอยู่...
เจ้าตัวซนของผมแข็งเต็มที่แล้วอ่า ผมว่าของเบ๊บก็คงเหมือนกันนั่นแหละนะ
เบ๊บ : “เอ็ม.. เราว่านายคงจะเข้าใจความรู้สึกของเราดีนะ”
ผม: “อ..อือ .. งือ...” ผมพูดอะไรไม่เป็นประโยคซะแล้ว
ผมตื่นเต้นเหลือเกิน อารมณ์หื่นผมเริ่มพุ่งพล่านอีกแล้วสมองผมสั่งการให้ผมต้องโอบแขนไปกอดเบ๊บจนได้..
เบ๊บ : “อ..เอ็ม..”
เรือนร่างของสองเราที่มีชุดนักเรียนขวางกั้นแนบชิดกันอย่างกลมเกลียว ตอนนี้เราสองคนต่างคนต่างกอดกันอยู่ กลิ่นเหงื่อของเบ๊บระอุอุ่นไอจากร่างกายช่างร้อนเร่า เจ้าตัวซนของผมและเบ๊บต่างก็ผลักดันกันอยู่อา..ความอบอุ่นนี้ผมเพิ่งจะลิ้มรสสัมผัสเป็นครั้งแรก ยอดไปเลย..เรากอดกันอยู่อย่างนี้ ผมจะทำยังไงดี...
และแล้ว ผมก็รู้สึกถึงสิ่งลื่นๆเปียกๆที่ตวัดกระทบซอกคอของผม ลิ้นน่ะเองลิ้นของเบ๊บ ... เขากำลังทำอะไรน่ะ!?
“อา....”ผมครางออกมาพร้อมใจที่เต้นรัวแบบไม่เป็นจังหวะ ผมรู้สึกตื่นเต้นมากเหลือเกิน
อ๊ะ! ปากเขาเริ่มประกบกับซอกคอของผม ผมเริ่มรู้สึกว่าเขาจะเริ่มดูดคอผมซะแล้ว!!ไม่ได้นะๆเดี๋ยวมีใครเห็นรอยเข้าจะสงสัยเข้าแน่!! ผมต้องรีบห้ามเขาซะแล้ว...
“บ..เบ๊บ อย่านะ..อย่าดูดนะ เด๋วจะเป็นรอย.. อา...”
เบ๊บ: “งั้นขอตรงอื่นได้มะ? นะๆ”
ผม: “อือ..งือ...” ผมถูกเร้าอารมณ์ร่วม จนรู้สึกดีจนบอกไม่ถูก ตอนนี้ผมแข็งใจปฏิเสธไม่ลงแล้วสิ..
เบ๊บ ไม่รีรอ ประกบริมฝีปากที่อ่อนนุ่มลงบนริมฝีปากของผมจมูกพ่นลมหายใจร้อนเป็นระยะๆ ปากที่ส่งไออุ่นลงมาที่ปากของผมทันใดนั้นลิ้นจอมซนของเขาก็ทะลวงเข้ามาในปากผมซะแล้ว...
ผมรู้สึกจั๊กจี้ที่ปลายลิ้น แต่รู้สึกดีจัง ผมส่งลิ้นไปบ้าง พร้อมไออุ่นจากปากผมเบ๊บตวัดลิ้นวนซ้าย ผมตวัดลิ้นวนขวา เป็นระบบจังหวะที่แม้ไม่ได้นัดหมายกันแต่ก็ลงรอยกันได้อย่างพร้อมเพรียงกัน ผมและเบ๊บยังไม่เคยมีจูบแต่เฟิร์สคิสนี้ช่างวิเศษจริงๆ
ไอร้อนที่ปะทะกัน ส่งน้ำลายแลกกัน จูบกันอย่างดูดดื่ม บางครั้งลิ้นของเบ๊บตวัดโดนเพดานปากทำให้ผมรู้สึกจั๊กจี้บ้าง ตอนนี้ผมไม่สนแล้วว่าจูบแรกจะจูบกับใคร จะจูบแบบดีฟคิสเฟรนซ์คิส เลมอนคิสหรืออะไร ขอเพียงแค่จูบกับเขาคนนี้ก็พอ...
เอ๊ะ! อ๊ะ! ใครเขย่าตัวผมน่ะ? ใครสะกิดผมน่ะ? ง่ะ!
ตาผมเริ่มเปิดขึ้นภาพที่พร่ามัวเห็นชายหนุ่มคนหนึ่งอยู่ข้างหน้า ปรากฏชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ ...
อ๋อ! พี่นักศึกษาคนที่นั่งข้างๆนี่เอง เอ๋? เค้าปลุกเราทำไมง่ะ?
“น้องๆจะถึงป้ายที่น้องจะลงแล้วนะ!”
“เอ๋??”ผมกำลังงงๆอยู่.
“น้องหลับมาตลอดทางเลย หัวโขกกระจกบ้าง ซบพี่บ้าง”
“อะ..ขอโทษฮับ!! O..O”
“ไม่เป็นไรน้องอ่ะ! เอาทิชชู่นี่ไปสิ” พลางเปิดกระเป๋าเป้ หยิบทิชชู่ขึ้นมา
“เอ๋?”
“เช็ดน้ำลายนั่นซะนะ”นักศึกษาคนนั้นยิ้มอย่างใจดี
“อ๊า~!! ขอโทษด้วยค๊าบบ!!” ผมรู้สึกอายสุดขีด
“มะเป็นไรคับ” พลางส่งยิ้มให้และแอบขำเล็กๆ “พี่เค้าขำทำไมอ่า??อือ...ฝันอีกแล้วเหรอเนี่ย?... อือ...” ผมคิดในใจ.
ผมรู้สึกแปลกๆ เพราะคนที่ผมเดินผ่านมองผม และแอบขำกันใหญ่เลย...
พอผมลงรถเมล์นั่นแหล่ะ ผมมองเป้าผม ถึงได้รู้ว่าเจ้าตัวซนตื่นอยู่ที่เองตุงเลยอ่า...
ง่า.. ผมนั่งหลับแล้วเจ้าตัวซนตื่นยังงี้ แถมเดินลงจากรถทั้งๆที่มันยังโด่อยู่เลยผมรู้แล้วว่าทำไมเข้าถึงขำกัน...
ผมรีบเอากระเป๋าถือของผมปิดไว้ไม่รอช้า ผมอายชะมัดเลยง่ะ...
***(อ่านต่อ ตอนหน้า)***
|