Oh!! Bananas กล้วย..คือผลไม้ที่หลายคนมักมองข้าม โดยเฉพาะสาวๆที่ส่วนใหญ่จะสนใจแต่พวก แอปเปิ้ล เชอรี่ บูลเบอรี่ สตรอเบอรี่ ราสเบอรี่ (ตระกูลรี่ๆเนี่ยชอบกันจัง) จนลืมคิดไปว่าผลไม้ที่ดูบ้านๆนั้นมัประโยชน์มหาศาลขนาดไหน มากกว่าภาพลักษณ์ที่แสนจะธรรมดาของมันหลายเท่า ถ้ากล้วยไม่เจ๋งจริง พ่อ แม่คงไม่ใช้บดแล้วป้อนเรามาตั้งแต่แบเบาะหรอก (เรียกได้ว่าเป็นซีรีแล็ครุ่นออริจินอลเลยก็ว่าได้) เอาเป็นว่า เดียวเราไปทำความรู้จักเจ้ากล้วยผลไม้พื้นบ้านไทยเรามากกว่านี้ดีกว่า รับรอง..ถ้าได้อ่านสรรพคุณแล้ว ทุกคนจะต้องวิ่งไปหลังบ้าน(สวนกล้วย) ใช้มีดพร้าตัดลงมาเสว่ยกันแน่นอน ถึงจะมีมดคันไฟสร้างรังอยู่ตกลงมากัดจนหน้าบวมก็ไม่หวั่น ขอแค่ได้สุขภาพที่ดีก็ดีแล้วล่ะ เอามาทำกล้วยบวชชีก็ไม่เลวนะเออ.. สายพันธุ์กล้วยที่เรารู้จักส่วนใหญ่จะมีอยู่ 3 สายพันธุ์ ที่เราคุ้นชื่อกันดี เช่น
1.) กล้วยหอม ขอเริ่มต้นด้วยกล้วยใบใหญ่ที่กินแค่ใบเดียวอาจถึงกับจุก (คนกระเพาะไม่ใหญ่) "กล้วยหอม" เรียกได้ว่าเป็นราชากล้วยเลยก็ว่าได้ เชื่อว่าหลังบ้านทุกคน ที่เราใช้ใบของมันมาทำกระทงอ่ะ อันนั้นแหล่ะ กล้วยหอมเป็นผลไม้ที่เต็มเปี่ยมได้วยพลังงาน เพราะได้รับการวิจัยออกมาแล้วว่า กล้วยหอม 2 หวี สามารถให้พลังงานเพียงพอนานถึงหนึ่งชั่วโมงครึ่ง (ว้าวๆๆๆ เหมาะกับสาวไดเอตเอาเป็นเอาตายอย่างเรา) ด้วยองค์ประกอบที่มีน้ำตาลอยู่ 3 ชนิด คือ ซุคโตส ฟรุคโตส และกลูโคส รวมถึงเส้นใยอาหารอีกมากมาย ทุกอย่างคือพลังงานที่ร่างกายสามารถเอาไปใช้ได้ทันทีหรือใครที่เสี่ยงจะเกิดปัญหาสุขภาพ ควบคุมน้ำหนัก กล้วยหอมยังมีสารอาหารที่มีทีเด็ดมาฝากเป็นเคล็ดลับอีกด้วย โรคซึมเศร้า - จากการส่มตัวอย่าง พบว่าผู้ป่วยที่มีอาการซึมเศร้า จะรู้สึกสดชื่นเมื่อได้กินกล้วยหอม เพราะมันมีกรดอะมิโนโปรตีนชนิดหนึ่ง ที่แปลงเป็นสารกระตุ้นทำให้ร่างกายผ่อนคลาย (ใครที่อกหักแนะนำให้กินซักใบอาจรู้สึกดีขึ้น ลืมหน้าแฟนไปได้ทันที 555+) อาการก่อนมีประจำเดือน - ผู้หญิงหลายคนคงซึ้งดีว่า..ก่อนวันมามากมักเกิดความรู้สึกหงุดหงิด อารมณ์แปรปรวน ไม่อยากเจอหน้าแฟนเลย ยิ่งหน้าแฟนไม่หล่อยิ่งอยากอ้วกใส่ตรงนั้น 555+ สภาวะในร่างกายเปลี่ยนแปลงแบบฉับพลันทั้งปวดท้อง ปวดหัว ปวดหลัง ลองกินกล้วยหอมดูสิ แล้วจะรู้ว่ายาแก้ปวดไม่ได้สำคัญอะไรเลย โรคโลหิตจาง - ธาตุเหล็กในกล้วยหอมสามารถกระตุ้นร่างกายให้ผลิตฮีโมโกลบินในกระแสเลือด ซึ่งจะช่วยเบรกภาวะโลหิตจางได้ ยิ่งถ้ากินครั้งละคำสองคำทุกสองชั่วโมง จะช่วยลดการอยากกินขนมจุกจิก ขนมพวกนี้ซึ่งเป็นเพื่อนรักที่เดินควบคู่มากับความอ้วนได้ ความดันโลหิต - ด้วยความที่กล้วยหอมมีเกลือโปแตสเซียมเหลืองผสมอยู่พอสมควร ซึ่งจะเป็นตัวช่วยลดความดัน อ๊ะ !! อันนี้ไม่ได้มั่วนะ เพราะขนาดองค์การอาหารและยาหรือ (อ.ย) ของอเมริกาเขายังการังตีเลย เพิ่มพลังสมอง - ถ้ากำลังรู้สึกหัวสมองตื้อๆตันๆ นับวันจะเหมือนคนโง่ ที่ประเทศอังกฤษเค้าทดสอบแล้ว และยังมีนักเรียนจำนวนเป็นร้อยยืนยันอีกว่า...ที่พวกเขาสอบผ่านเพราะได้รับการกินกล้วยหอมเป็นอาหารเช้า และหม่ำเสริมอีกนิดหน่อยในตอนเที่ยง เพียงเท่านี้ก็ทำให้รอยหยักในสมองตื่นตัวได้แล้วล่ะ โรคท้องผูก - อย่างที่รู้ๆกันว่าในกล้วยหอมมีเส้นใยอาหารมหาศาล แล้วจะมั่วนั่งเบ่งให้หน้าเขียวก็ไม่ออกอยู่ทำไม คนที่จะเข้าห้องน้ำต่อจากเธอเขาคงถีบประตูเร่งเธอจนหน้าเสียเลยล่ะ 555+ (พูดซะเห็นภาพเชียว) กล้วยหอมสักลูกสิ แก้ปัญหานี้ได้ ปัญหาท้องผูกท้องเสีย จัดการได้ โรคในช่องท้อง - เพราะกล้วยหอมมีสารกรดตามธรรมชาติ เพราะฉะนั้น มันจะช่วยลดอาการจุกเสียดแน่นท้องได้เป็นอย่างดี แถมเส้นใยต่างๆก็จะช่วยเคลือบผิวกระเพาะ ลดการเป็นแผลในลำไส้และกระเพาะได้อีกด้วย ราวกับกินอีโน 2.) กล้วยไข่ ส่วนเจ้ากล้วยที่ดูด้อยค่าอย่าง "กล้วยไข่" จะบอกให้ว่าประโยชน์ของมันไม่ได้เล็กตามขนาดไปด้วยหรอก เพราะในกล้วยไข่อัดแน่นไปด้วยสารอาหาร โดยเฉพาะแคโรทีนและวิตามินซีที่พบในแครอท ผักต่างๆ ซึ่งจะช่วยปกป้องกันมะเร็งบางชนิด แถมยังมีแคลเซียมมากพอที่จะป้องการโรคกระดูกพรุน ยังไม่หมด กล้วยไข่ยังมีโปรตีน ฟอสฟอรัส เหล็ก และวิตามินเอ ป้องกันอาการเลือดออกตามไรฟัน และช่วยไม่ให้ท้องผูก ยิ่งถ้าที่บ้านมีคุณตาคุณยาย พวกท่านจะรู้ดีว่าชาวบ้านมักใช้ยางก้านกล้วยมาห้ามเลือดหรือถ้าใช้รากกล้วยไข่มาหั่นแล้วตากแห้ง ชงกินครั้งละ 1 ช้อนชา วันละสองเวลาเช้า-เย็น ก็จะช่วยป้องการโรคโลหิตจางได้อีกด้วย
3.) กล้วยน้ำว้า กล้วยสายพันธุ์นี้จะหอมมากเป็นพิเศษ พันธุ์นี้แหล่ะที่เขานิยมเอาไปทำกล้วยบวชชี อาหารหวานไทยๆที่ให้ฝรั่งตาน้ำข้าวชิมจนต้องร้อง โอ้!! อเมซิ่ง นอกจากความอร่อยแล้ว แต่ในขณะเดียวกัน ทุกคนคงคิดว่ากล้วยน้ำว้าคงสู้ประโยชน์เท่ากล้วยหอมไม่ได้ อ๊ะๆๆ ผิดล่ะค่ะ มา จะบอกให้ กล้วยน้ำว้าเนี่ย มีทั้งแคลเซียม วิตามิน ธาตุเหล็ก ฟอสฟอรัส (และอื่นๆอีกมากมายที่ไม่อาจสาธยายหมด) ซึ่งประโยชน์ไม่แพ้กล้วยหอมเลยนะ มีสรรพคุณทางยาทั้งผลดิบและสุก สำหรับผลดิบ แน่นอน มันมีรสฝาด แต่ที่สำคัญกว่านั้นคือมีสารแทนทิน ใช้รักษาอาการท้องเสีย ขั้นตอนก็ง่ายๆ แค่นำมาหั่นทั้งเปลือกแล้วเอาไปตากแห้ง เสร็จแล้วก็บดเป็นผงเพื่อชงกับน้ำร้อน หรือจะปั้นเป็นเม็ดก็ได้ ส่วนผลสุก ใครที่มีปัญหาขับถ่าย ให้กินวันละ 2-3 ผล วันละสองเวลาเช้า-เย็น (ตามเดิม) แต่ต้องกินต่อเนื่องเป็นเวลา 7-10 วันนะ รับรองว่าจะช่วยบรรเทาอาการท้องผูกได้เป็นอย่างดี และในผลสุกยังมีสารเพคติน ช่วยรักษาแผลในกระเพาะอาหารให้หายดีเร็วขึ้น ยิ่งถ้ากินเป็นประจำจะช่วยบำรุงกระดูก ลดอาการเลือดออกตามไรฟัน ลดอาการเจ็บคอ เจ็บหน้าอก เพราะอกหัก (เกี่ยวไหมเนี่ย) บำรุงผิวพรรณให้ดูสวยเปล่งปลั่ง (เคยได้ยินว่ากินกล้วยน้ำว้าก่อนแปลงฟันทุกวันจะช่วยให้ไม่มีกลิ่นปาก จริงหรือเปล่าอ่ะ ไม่รู้สิ เดียวลิลลี่ลองเอาไปทำดูนะ แล้วจะมาบอก)
|