ลืมรหัสผ่าน
 สมัครเข้าเรียน
ค้นหา
ดู: 665|ตอบกลับ: 12

++ กว่าจะรู้ว่ารัก ++ @ 6 - 7

 มาแรง [คัดลอกลิงก์]

โสด

   ศาสตราจารย์เอื้ออาทร
อาจารย์พิเศษ
ถ้าหากว่าซ้ำต้องขออภัยนะครับและขอโทษเจ้าของเรื่องด้วยนะครับเพราะว่าคัดลอกมาอีกที
ความเดิมตอนที่แล้ว

จากนั้นผมก็ รีบลุกขึ้นแต่ เทค ดูจะไวกว่าและแข็งแรงกว่ามากเค้าวิ่งเข้ามาดึงแขนผมไว้ แล้วกระชากอย่างแรงจนผมล้มไปตามแรงกระชากของเค้า เทค ไม่หยุดอยู่แค่นั้นยังคงกอดผมไว้แล้วก็พยายามจูบผมอีกครั้งให้ได้
ผมยังคงตกใจและยิ่งกลัวเค้ามากขั้น แม้จะทำอะไรไม่ถูกเพราะไม่คิดมาก่อนว่าผมจะต้องเจอเหตุการณ์แบบนี้สิ่งที่พอจะคิดและทำได้ตอนนั้นก็คือ การชกที่ตัวเค้าซึ่งโถมลงมาทับตัวผมไว้ แต่ผมยิ่งดิ้นเค้าก็ยิ่งกอดแน่นขึ้นอีกปากผมก็ยังด่าว่าเค้าต่างนานา ผมไม่เคยด่าใครหยาบคายด้วยคำพูดกูๆมึงๆมาก่อนเลย แต่ตอนนั้นสุดทนจริงๆแต่ยิ่งผมด่าเค้าไปแรงมากเท่าไหร่เค้ากลับยิ่งขาดสติมากขึ้น จนผมหมดแรงไปเองนั่นล่ะครับเค้าจึงหยุดกระทำ

ผมนอนนิ่งอยู่กับพื้น หมดแรงจริงๆ ในความรู้สึกของผมตอนนั้นมันก็เหมือนคนที่จนมุมแล้วจริงๆ ยอมรับเลยว่า ถ้าจะเกิดอะไรขึ้นก็ช่างหัวมัน ถือว่าทำทานให้หมามันไป (ตอนนั้นคิดแบบนี้จริงๆนะครับ) จน เทค สงบลงแล้วผมจึง ค่อยสำรวจว่าหนังสือกระจัดกระจายไปทั่ว ตอนนี้ เทค กำลังร้องไห้ หนักมาก มากกว่าครั้งไหนๆที่เคยเห็นแต่ในใจผม เต็มไปด้วยความเกลียดชังผู้ชายตรงหน้า คนที่เคยได้ชื่อว่าเป็น เพื่อนรัก ของผม แต่ตอนนี้ ผมเกลียดเทค
หลังจากที่ เทค สงบสติอารมณ์ความบ้าคลั่งของเค้าลงแล้ว ผมก็ลุกขึ้นนั่งมองเค้าด้วยสายตาที่โกรธแค้น ชิงชังมาก  ผมรู้สึกว่าเพื่อนที่ผมทำดีด้วย คอยเป็นห่วง คอยช่วยเหลือมาตลอดกลับมาหักหลังทำร้ายทรยศผมอย่างนี้ได้ยังไง ผมรีบเก็บหนังสือลงกระเป๋า และ คว้าข้าวของเท่าที่อยู่ใกล้มือผมที่สุดแล้วก็ขยับเสื้อผ้าให้เรียบร้อยก่อนจะเดินหนีไปนอกห้องนั่งเล่นซึ่งใช้เป็นที่ติวหนังสือกัน ทั้งที่ตอนนั้นก็ประมาณ5ทุ่มได้แล้วนะครับแต่ผมก็ยังต้องการไปให้พ้นๆ อย่างน้อยคืนนี้ผมก็ไม่อยากจะอยู่ใกล้กับเพื่อนที่ทำให้ผมหมดความไว้เนื้อเชื่อใจลงในเวลาพริบตาเดียว เทค ยังคงวิ่งตามผมออกมาที่หน้าบ้าน พยายามพูดคุยกับผมดีๆ ขอร้องให้ผมอยู่กับเค้าต่อในคืนนี้ให้ได้
“เดี๋ยวสินิว คุยกันก่อน เราขอโทษนะ อย่าทิ้งเราไปเลยนะนิว”
เทค ดึงแขนผมเอาไว้ขอให้ผมหยุดฟังเค้า
“ไม่! ปล่อยเรานะ แกไม่ใข่พ่อเรานะจะได้บังคับให้เราทำนู่นทำนี่ได้ตามใจ”
ผมสะบัดแขนผมออกจากมือของเค้าแต่ก็ยังไม่หลุดอยู่ดีเพราะ เทค แข็งแรงกว่าผมมาก
“เราขอโทษ เรากราบก็ได้ แต่อย่าทิ้งเราไปอีกคนเลยนะ”
เทค พูดแล้วปล่อยมือจากแขนผม ทรุดลงไปกับพื้นก้มลงกราบผมตามที่เค้าพูดจรืงๆ
“พอซะที เลิกบ้าได้แล้ว แกทำให้เราผิดหวังมาก เป็นเพื่อนกันแท้ๆ ทำไมคิดเลวๆกับเพื่อนได้วะ”
ผมยังคงระเบิดอารมณ์ใส่เค้าด้วยความไม่พอใจอย่างมาก ในใจเต็มไปด้วยความรังเกียจอย่างที่สุด ผมไม่สนใจอีกแล้วว่า

เทค จะทำอะไรต่อไป หลังจากที่ผมพูดจบแล้วก็ก้มลงดูเค้านิดนึงได้เห็นว่า เทค ยังคงนั่ง ทรุดตัวอยู่กับพื้น และก้มกราบผมอยู่เหมือนเดิม ตอนนี้ เทค สั่นไปทั้งตัวด้วยแรงสะอื้นที่หนักหน่วงขึ้นไปอีก
ตอนนั้นถ้าผมขาดสติมากกว่านี้ ผมคงเตะ หรือไม่ ก็คงถีบ เทค ให้ล้มกลิ้งไปกับพื้นแล้ว แต่โทสะของผมก็แผ่วลงไป เนื่องจากได้เห็นว่า เทค หมดคราบเสือร้ายที่จะขย้ำเหยื่ออย่างผมไปแล้ว กลับกลายเป็นเด็กขาดความอบอุ่นคนเดิม คนที่ผมเคยร้องไห้ไปพร้อมกับเค้า คนที่ผมเคยเห็นใจและเข้าใจเค้า แต่ตอนนี้ผมไม่เหลือความรู้สึกนั้นเลยแม้สักนิด
แม้ว่า เทค จะยังทรุดตัวอยู่กับพื้นด้วยท่าทีสั่นสะท้านและร้องไห้อย่างหนักแต่ผมก็ยังตัดสินใจเดินจากไปอยู่นั่นเอง เที่ยงคืนกว่า ผมกลับมาถึงอพาร์ทเม้นท์ ด้วยความรู้สึกเหนื่อยล้า สับสน และยังคงพลุ่งพล่านไปด้วยความโกรธ ที่ปะปนไปกับความตื่นกลัว กับ สถานการณ์ที่เกิดขึ้นมาเมื่อสักครู่นี้ ผมรู้สึกตัวว่ามาถึงห้องพักได้อย่างปลอดภัย
เท่านั้นเองเรี่ยวแรงทั้งหมดที่มีก็เหมือนจะมลายหายสิ้น ผมถึงกับพยุงร่างกายไว้ไม่อยู่ ได้แต่ทรุดตัวลงกับพื้นห้อง แล้วจู่ๆ น้ำตาก็ไหลออกมาเอง จากที่ค่อยๆไหลไปเรื่อยๆก็เริ่มรู้สึกหนาวสั่นและกลายเป็นสะอื้นแรงขึ้นจนผมนึกกลัว
ตอนนั้นผมมีอาการเหมือนคนผีเข้า (คิดเอาเองนะครับ) เพราะเนื้อตัวสั่นไปหมด และ ควบคุมตัวเองไม่ได้เลย กระเป๋า

และ เอกสารต่างๆ ผมปล่อยให้ร่วงลงไปกองกับพื้นโดยไม่ใส่ใจที่จะถอดออกวางให้เป็นระเบียบเหมือนเคย ผมหมดแรงแล้วจริงๆ แต่จะด้วยสาเหตุใดบ้างก็สุดที่จะรู้ใจตัวเอง แต่ที่แน่ๆผมเกลียด เทค ผมบอกตัวเองซ้ำๆ แบบนี้
เมื่อตั้งสติได้อีกครั้ง ผมก็คว้ามือถือกดหมายเลขโทร.ไปหาฝน ตอนนั้นผมคิดออกแค่ฝนเพียงคนเดียว ที่จริงแล้วคง เป็นสัญชาติญาณของผมเองก็ได้ ที่ไม่กล้าให้เพื่อนๆในมหาวิทยาลัยรู้เรื่องนี้ ฝน เป็นเพื่อนที่เรียนคนละแห่งกัน ก็เลยกล้าที่จะเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นระหว่างผมกับเทค เมื่อไม่กี่ชั่วโมงที่ผ่านมา และ ฝนก็รับสายผมซะด้วยสิ
ทันทีที่ ฝน รับสายผมเรื่องราวมากมายก็พร่างพรูจากปากของผม ทั้งเล่าเหตุการณ์และระบายความอัดอั้นตันใจที่มี ฝน พยายามปลอบใจผม เข้าข้างผมเต็มที่ และรับปากว่าจะคุยกับ เทค ให้เค้าเข้าใจและเลิกคิดกับผม แบบคนรัก ผมรู้สึกดีขึ้นบ้างนิดหน่อย และอ่อนเพลียเกินกว่าจะพูดคุยต่อไปได้ จึงขอตัวจาก ฝน เพื่อจะไปอาบน้ำและเข้านอน
เสียงนาฬิกาปลุกจากมือถือบอกให้ผมรู้ว่า เป็นเวลา 7.00น. ของวันใหม่แล้ว แต่เชื่อมั้ยครับ หลังจากที่ผมวางสายจาก ฝน

ไปเมื่อประมาณตี 2  ผมยังไม่ได้นอนเลย ทั้งที่ร่างกายก็แสนเพลีย จิตใจก็อ่อนล้าสุดๆ แต่ผมก็นอนไม่หลับ ผมนอนกระสับกระส่าย สลับกับ นอนนิ่งๆอยู่บนเตียงในห้องของผมตั้งแต่วางสายโทรศัพท์จนถึงเวลาของวันใหม่ วันที่ผมจะเริ่มต้นใหม่โดยคิดซะว่าในโลกใบนี้ผมไม่มีเพื่อนทรยศที่ชื่อ ทยาวัติ อีกต่อไป เพราะผมเกลียด เทค ที่สุด
ตอนที่ 14 ช่วงเวลาปี พ.ศ.2543 กับชีวิตที่เปลี่ยนแปลงไป ในรั้วรามคำแหง (หัวหมาก)
เมื่อขึ้นปี 2 ทั้งตัวผมและสภาพแวดล้อมหลายๆอย่างก็มีการเปลี่ยนแปลงไป ไม่ว่าจะจำนวนเพื่อนที่น้อยลงเพราะมีเพื่อนประมาณ 2 คนที่เอนทรานซ์ติดและย้ายไปเรียนในมหาวิทยาลัยปิดซึ่งก็เป็นเรื่องน่ายินดีกับเพื่อนๆ เหล่านั้น
แต่นอกจากจำนวนของเพื่อนในกลุ่มที่เปลี่ยนแปลงไปแล้ว ความสัมพันธ์ของ ผมกับเทค ก็เปลี่ยนไปด้วยเช่นกัน ตั้งแต่เปิดเทอมมา เทค ยังคงมาวนเวียน พูดคุย เอาอกเอาใจเพื่อแก้ตัวในสิ่งที่เค้าทำผิดพลาดในคืนนั้น แต่ไม่ว่าเค้าจะพยายามทำอย่างไร ก็ไม่ช่วยให้ผมรู้สึกดีขึ้นมาได้เลย สิ่งที่เค้าทำไว้มันยังคงทำให้ผมไม่ให้อภัย
ก่อนหน้านี้ก็ยอมรับว่าผมหวั่นไหว และ รู้สึกดีกับ เทค ในหลายๆเรื่องที่เค้าคอยเอาใจใส่แต่ความรู้สึกดีๆ เหล่านั้น ก็พังทะลายลงไปพร้อมกับการกระทำของเค้าในค่ำคืนนั้น แม้จะไม่มีอะไรเกินเลยแต่ผมก็เสียความรู้สึกไปแล้วครับ
ตอนนี้เพื่อนๆในกลุ่มก็เหลือ ผม เทค ต๋อม และ บอล ส่วน ภูมิ และ บี (เพื่อนผู้หญิงจากต่างโรงเรียน) นั้นเอนท์ติด นอกนั้นก็มาเรียนบ้าง ไม่มาเรียนบ้าง บางคนก็ย้ายไปสอบเข้า ราชภัฎ ก็เลยทำให้กลุ่มเพื่อนที่สนิทกันตอนปี 1 นั้น ลดน้อยลงไป แต่ก็มีเพื่อนคนอื่นๆที่กลุ่มเรารู้จักตั้งแต่ปี1มาจนถึงปี2 แม้ไม่ใช่กลุ่มเดียวกันแต่ก็พบเจอกันบ่อยๆ
เพื่อนกลุ่มที่นานๆมาเจอกันทีเหล่านี้ มีทั้ง ผู้ชาย ผู้หญิง เกย์หนุ่ม เกย์สาว และเนื่องจากเป็นเพื่อนต่างกลุ่มดังนั้น พวกผู้หญิง และ เกย์สาว จึงพากันหมายตา กรี๊ดกร๊าด เทค เป็นพิเศษ ซึ่งมาในปี2นี้คนเหล่านั้นก็เข้าตีสนิทกับ เทคมากขึ้น ดูเหมือนแรกๆ
เทค ไม่ได้ให้ความสำคัญอะไรมากมาย อาจมีอาการหลีหญิงมั่งตามประสานิสัยคนขี้เล่น
แต่ไม่นานนักหัวใจสาวๆแทบแหลกสลายเมื่อ เทค พาแฟนของเค้ามาแนะนำให้เพื่อนๆได้รู้จัก แม้ว่าครั้งนี้จะมีคนที่ผิดหวังหนักหนาคือเหล่าเพื่อนผู้หญิง และเกย์สาว แต่บรรดาเกย์สาวกลับมีความหวังขึ้นมา เพราะ เทค ประกาศตัวชัดเจนว่าเค้าเป็น เกย์หนุ่ม บรรดาเพื่อนที่เป็น เกย์สาว ต่างก็แช่งชักหักกระดูกให้ เทค กับ แฟน เลิกกันไวๆ เฮ้อ...
เพื่อนกลุ่มดั้งเดิมของผม ก็มีอาการแปลกใจกันอย่างมาก (คงจะยกเว้นผมซึ่งรู้อยู่แล้ว) แต่ไม่นานเราก็ปรับตัวกันได้ และไม่รู้สึกขัดเขินอะไรที่ เทค จะพาแฟนเค้ามาสังสรรค์กับกลุ่มของเรา ตลอดเทอมแรกตั้งแต่ขึ้นปี 2  ผมแทบไม่ได้ พูดกับ เทค เลย จริงอยู่เมื่อเวลาผ่านไปความโกรธแค้น ความรู้สึกที่เสียไปนั้น ก็เริ่มถูกเยียวยาให้ค่อยๆ ดีขึ้น
แต่ผมก็ยังไม่ยอมพูดคุยกับ เทค เหมือนอย่างที่เคยสนิทใจกันมาก่อนหน้านี้ ผมเป็นคนที่มีทิฐิสูงพอตัวทีเดียวครับ ลองคิดดูแล้วกันว่า คนที่ไม่เคยยอมใครอย่าง เทค จะมาทนง้องอนผมอยู่เหรอ ดังนั้นต่อมาเค้าก็พาแฟนมาแนะนำให้ผมและเพื่อนๆ

ที่มหาวิทยาลัยได้รู้จัก แฟนเทค เป็นรุ่นน้องพวกผม เพราะเพิ่งเรียนปี1 ราชภัฎจันทร์เกษม ท่าทางน้องเค้าก็เป็นคนเรียบร้อย น่ารักดี พูดจาก็นุ่มนวล เป็นผู้ชายเรียบร้อยไม่ใช่เกย์สาวที่วิ้ดว้ายจนน่าเกลียด ผมดูไปก็ยังคิดเลยว่าเค้า 2 คนเหมาะสมกันดี ทั้งรูปร่าง หน้าตา ก็ทัดเทียมกัน ผมขอแต่ให้ เทค รักน้องเค้าจริงๆเหอะ
แต่ในข้อที่ว่า เทค จะรักแฟนเค้าจริงๆรึเปล่านั้น ผมและเพื่อนๆไม่เคยคลางแคลงใจเลย เพราะตลอดเวลาที่ได้เห็นคนทั้งคู่

อยู่ด้วยกัน ไม่ว่าจะพามาที่หมาวิทยาลัย พาไปดูหนังกับกลุ่มเพื่อนๆ พูดง่ายๆว่าทุกครั้งที่เจอเค้าอยู่ด้วยกัน สิ่งที่ผมและเพื่อนๆเห็นจนชินตาก็คือ การที่ เทค จะคอยดูแลเอาใจใส่ เทคแคร์ แฟนเค้าอย่างไม่ขาดตกบกพร่องเลย
ผมยังจำได้ดีถึงวันแรกที่ เทค พาแฟนเค้ามาแนะนำให้พวกเราได้รุ้จัก ตอนนั้นเป็นช่วงกลางเทอมแล้วล่ะครับ พวกผมกำลังนั่งรอกันอยู่ที่ ศูนย์หนังสือของรามคำแหง เพราะแต่ละคนก็เลิกเรียนในเวลาต่างกันจึงนัดกันที่นี่ก่อน เพราะผมเองก็อยากแวะไปซื้อหนังสืออ่านเล่นด้วย ก็รอกันไปซักพัก เทค ก็พาน้องปี1คนนั้นเดินขึ้นบันไดมาทักทายพวกเราที่นั่งกันอยู่ตรงม้านั่งหน้าศูนย์หนังสือ เทค ก็เดินจูงมือแฟนเค้าเดินตรงมาหาพวกเราแล้วแนะนำให้รู้จักกัน
“นี่แฟนเราชื่อ นพ” ตอนนั้นผมรู้สึกแปลกๆก็ได้แต่ยิ้มแย้มทักทายกับแฟนของเทค เหมือนที่เพื่อนคนอื่นทำน่ะครับ แต่ไม่รู้ทำไมผมถึงทนนั่งอยู่ตรงนั้นไม่ได้ ก็ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกัน ผมจึงขอตัวเดินไปรอเพื่อนๆที่โรงอาหารก่อน
ตอนที่ 15 รักแท้หรือแค่เหงา
ตลอดช่วงเวลาปี 2 ผมจะพูดคุยกับ เทค ก็เท่าที่จำเป็นเท่านั้น และไม่ค่อยสนิทใจกับ เทค มากเหมือนตอนปี 1 ผมยอมรับเลยว่าในระยะแรกเป็นเพราะผมเองที่มีทิฐิมากไป และยิ่งปล่อยให้ความสัมพันธ์ออกห่างจากกันไป ก็วางตัวไม่ถูกและไม่รู้ว่าจะเรื่มต้นพูดคุยกับ เทค อย่างสนิทใจอย่างไรดี ต่อมายิ่ง เทค มีแฟนเป็นตัวเป็นตนแล้ว
ผมก็ยิ่งรู้สึกอยากทำตัวให้ห่างๆกับเค้ามากขึ้นไปอีก มาคิดย้อนกลับไปอีกทีผมถึงรู้ตัวว่า เพราะผมทนเห็นเค้า เอาอกเอาใจ พะเน้าพะนอแฟนของเค้าไม่ได้นั่นเอง แต่ตอนนั้นผมไม่ทันรู้ใจตัวเองเลยซักนิดรู้แค่ว่าอยากอยู่ห่างๆ ตั้งแต่เทอมแรกที่ เทค พาแฟนเค้ามาแนะนำให้ผมและเพื่อนๆได้รู้จัก ก็นับว่าผมต้องทน้เห็นภาพที่ไม่อยากเห็นนั้น ไปตลอดเวลาหลายเดือนเลยล่ะครับ ผมไม่ได้เข้าไปข่องเกี่ยวอะไรกับ เทค ซักเท่าไหร่มีบ้างก็แค่ เทค เอาของฝากที่พ่อเค้าส่งมาให้แล้วให้ เทค เอามาฝากผมก็พอจะได้คุยกันบ้าง ผมก็ถามไถ่สารทุกข์สุกดิบของพ่อเค้าก็เท่านั้น
ช่วงที่ เทค กับผมพูดคุยกันน้อยลง แรกๆเพื่อนในกลุ่มก็สงสัยเหมือนกัน และเคยมาถามผมบ้าง ถาม เทค บ้างว่าเกิดอะไรขึ้น โกรธกันเรื่องอะไร แต่พอไม่ได้คำตอบเพื่อนๆก็ชินชาและปรับตัวตามพฤติกรรมของผมกับเทคเอง ระยะหลังๆเมื่อ เทค มีแฟนแล้วเพื่อนๆก็เข้าใจไปเองว่า เพราะ เทค ต้องหมั่นไปเอาใจแฟนไม่มีเวลาให้เพื่อนๆ ก็เลยทำให้การที่ผมกับเทค มึนตึงใส่กันไม่เป็นที่สงสัยของใครเท่าไหร่ รวมทั้งการที่ เทค เปิดตัวว่าเป็นเกย์ก็น่าสนใจ มากกว่าการที่ ผม กับ เทค ไม่พูดคุยกันเป็นไหนๆ แต่เมื่ออยู่รวมกันเป็นกลุ่ม ก็มีเพื่อนบางคนพูดขึ้นมาบ้างถึงความเปลี่ยนแปลงที่ผมมีต่อเทค และที่เทคแสดงออกกับผม โดยเฉพาะอย่างยิ่งเวลาที่ เทค พาแฟนมาแจมกับกลุ่มเพื่อน
เพื่อนๆผมมักจะพูดว่า
“ไอ้เทคมันบ้าว่ะ แทนที่จะพาแฟนไปเที่ยวกัน 2 คน ดันพาแฟนมาเที่ยวกับเพื่อน”
ผมเองก็รู้สึกแปลกใจเหมือนกัน แต่ด้วยความที่ตั้งใจจะไม่ยุ่งเกี่ยวเรื่องของ เทค อีกต่อไปก็ทำเฉยๆไม่ติดใจอะไร
จนกระทั่งมีอยู่ครั้งนึงตอนใกล้สอบเทอมแรกปี 2 ผมและเพื่อนๆนัดกันไปหาที่ติวหนังสือทุกคนลงความเห็นว่าให้ไปใช้สถานที่บ้าน เทค ตอนแรกที่ผมไปถึงความรู้สึกในคืนนั้นยังย้อนกลับมาทำให้ผมรุ้สึกแปลกนิดหน่อยแล้วก็หายไป
วันนั้น แม่บ้าน คนรับใช้ ในบ้าน เทค ซึ่งนับรวมๆกันแล้วมี 3 – 4 คน ต่างก็ยิ้มแป้นมาทักทายผมอย่างเป็นกันเอง จนเพื่อนๆ เริ่มแซวว่า “มาติวให้กันที่บ้านกี่ครั้งเนี่ย ทำไมมัดใจคนทั้งบ้านได้วะ” แล้วเพื่อนๆก็พากันหัวเราะ ผมไม่ได้ตอบโต้อะไร

ทั้งที่ปกติผมปากไวยังกะอะไรดี แต่คราวนี้ผมพูดไม่ออกเลย ไม่รู้ว่าทำไมสมองมันตื้อๆ ชาๆ
ในวันที่เรานัดติวหนังสือกันนี้ เป็นวันที่แฟนของเทค หยุดพอดี เทค ก็เลยชวนแฟนเค้ามาเที่ยวที่บ้านด้วย ตอนที่พวกเราไปถึงบั้าน เทค เค้าก้กำลังจะออกไปรับแฟนเค้าที่หอพักแถวๆ จันทร์เกษม อ่ะครับ พวกผมที่ไปถึง ก็เลยต้องหาอะไรกินรอไปก่อน เพราะ เทค บอกว่า
“เพื่อนๆทานข้าวก่อนนะ เราจะไปกินข้าวเที่ยงกับแฟน”
วูบแรกที่ได้ยิน ผมว่าน้ำเสียง เทค เหมือนประชดประชันยังไงชอบกลอยู่ แต่ผมก็คิดว่าผมคงรู้สึกไปเองล่ะมั้ง เฮ้อ! แต่เชื่อมั้ยว่า ตลอดเวลาที่นั่งรอ นอนรอ ให้เทคพาแฟนไปกินข้าวและพาแฟนกลับมาที่บ้าน เพื่อจะดูเค้าติวเนี่ย ในใจผมมันกรุ่นๆอย่างที่บอกไม่ถูกเหมือนกัน เห็นอะไรก็ดูขวางหูขวางตาไปหมดเลยล่ะครับ ไม่เข้าใจตัวเองจริงๆ
ตอนบ่าย 2 เทคกับแฟนเค้าก็หอบเอาข้าวของพะรุงพะรัง ที่ซื้อมาจากซุปเปอร์ฯ หิ้วกันมาเต็ม2มือจนเพื่อนผมถึงกับออกปากเลยว่า
“นี่มึงกับเมียจะเปิดร้านอาหารเหรอเทค” เทค หัวเราะเสียงดังแล้วอวดว่าจะแสดงฝีมือให้กินกัน แต่ผมแอบสังเกตุหน้าของ น้องนพ แฟนเทคน่ะครับ ท่าทางเค้าหงุดหงิดแล้วก็ไม่เห็นเป้นเรื่องขบขันไปกับ เทค เลย
ดังนั้นแทนที่ เทค กลับมาแล้วจะได้เริ่มการติวหนังสือก็กลายเป็นว่าพวกเราและคนรับใช้ของ เทค ต้องเข้าครัวแทน เพราะจู่ๆ เค้าก็อยากทำอาหารก่อนที่จะเริ่มติว พวกเราก็สปอยล์มันเต็มที่ เนื่องจากมาใช้บ้านเค้าติวนี่ครับก็เลยยอม
บรรยากาศในครัววุ่นวายมากแต่ก็สนุกมากด้วย ผมสังเกตอีกทีเห็น แฟนเทค ก็แยกตัวออกไปจากครัวเงียบๆ ซะแล้ว หลังจากทานอาหารกันเรียบร้อยแล้ว ผมกับเพื่อนๆก็ได้เวลาติวหนังสือกันซักที จนเวลาล่วงเลยไปถึง 1 ทุ่มนั่นแหล่ะ พวกผมจึงตกลงกันว่าน่าจะแยกย้ายกันกลับบ้านใครบ้านมันได้แล้ว เพื่อนผมเลยหันไปถาม นพ แฟนเทค ว่า
“นพกลับพร้อมพวกพี่เลยมั้ย หรือว่าต้องให้ไอ้เทคไปส่ง”
ยังไม่ทันที่ นพ จะตอบเลย เทค ก็ชิงตอบขึ้นมาวะก่อนว่า
“แฟนเราก็ต้องค้างบ้านเราดิ คืนนี้นพจะนอนนี่เว้ย”
เท่านั้นเองเพื่อนๆผมก็ส่างเสียงโห่บ้าง แซวบ้าง ตะเบ็งเซ็งแซ่ไปหมดทีเดียว แล้วผมก็เห็น เทค หันมามองทางผม แต่แวบเดียวเท่านั้นที่ผมมองเห็นสายตาของ แฟนเทค ที่มองมาทางเดียวกันกับสายตาของ เทค แล้ว นพ ก็หันกลับ ระหว่างที่พวกผมกำลังทะยอยกันกลับออกมา เทค บอกผมว่าเค้าจะเอาหนังสือคืนผมให้ผมรอก่อนเค้าสักครู่ก่อน แล้ว เทค ก็วิ่งขึ้นไปเอาหนังสือเล่มที่ว่านี้ บนห้องนอนของเค้า เพื่อนผมที่กลับไปทางลาดพร้าวเหมือนกันออกไปยืน รอผมที่หน้าประตูบ้านแล้ว ตอนนี้เองที่ นพ เดินมาคุยกับผมเพราะขณะนั้นไม่มีใครอยู่เลย แล้วเค้าก็ถามผมว่า
“พี่นิวครับ ผมถามพี่จริงๆนะ พี่เคยเป็นแฟนพี่เทครึเปล่าครับ”
“เฮ้ย!เปล่านะ แค่เพื่อนกัน แล้วก็ไม่ค่อยสนิทกันด้วย”
สิ่งที่ผมพูดนั้นมีความจริงอยู่ที่ว่าไม่เคยเป็นแฟนกับเทค แต่ที่ผมพูดว่าไม่สนิทกันนั้นผมยอมรับว่าผมโกหกครับ
“แต่ผมว่าพี่เทคเค้าแคร์พี่มากๆเลยนะ จนผมคิดว่าเค้ากับพี่เคยเป็นแฟนกันซะอีก”
นพ ก้มหน้าก้มตาพูดต่อไป ใจผมสั่นๆเหมือนต้องเผชิญหน้ากับบางอย่างที่ผมพยายามหลีกหนีมาตลอด
“เอาอะไรมาคิดเนี่ย ไม่ใช่หรอก”
ผมรีบปฏิเสธความคิดของ นพ ไปทันทีเลย แต่ตอนนั้นผมก็รู้ว่าที่จริงกำลังปฏิเสธความจริงที่รู้อยู่แก่ใจดีต่างหาก
“พี่รู้มั้ยครับ เวลาที่อยู่กันแค่2คน พี่เทคไม่เคยเอาใจใส่ผมอย่างที่เค้าทำเวลาอยู่ต่อหน้าพวกพี่เลยนะ”
นพ หันไปอีกทางแล้วเช็ดน้ำตาด้วยผ้าเช็ดหน้าผืนที่ผมคุ้นตา ผืนที่ เทค เคยใช้เช็ดน้ำตาให้ผมเมื่อนานมาแล้ว
ตอนนั้นผมรู้สึกแปล๊บๆในใจ เหมือนกับว่า แฟนเทคได้ใช้ของที่ผมเคยใช้มาก่อนแต่เวลานี้มันเป็นของ นพ ไปแล้ว
“ทำไมเทคทำแบบนี้นะ นพไม่คุยกับพี่เค้าให้เคลียร์ๆไปเลยล่ะ จะได้ไม่ต้องมาเสียใจอยู่คนเดียวแบบนี้”
ผมพยายามปลอบใจ นพ เฮ้อ….เด็กขี้แยกับเด็กขี้แยมาเจอกันซะแล้วมั้ยล่ะ
“ผมไม่รู้จะพูดยังไงครับ เวลาอยู่กัน2คน พี่เทคก็เงียบๆไม่ได้ช่างพูดช่างคุยเหมือนอยู่กับพี่ๆนะครับ”
เป็นความจริงอีกเรื่องหนึ่งระหว่างคนคู่นี้ที่ผมเพิ่งได้รู้จากปากของ นพ แฟนเทค
“งั้นพี่ถามหน่อยนะ ทำไมนพถึงคิดว่าเรื่องที่พี่เทคไม่ค่อยใส่ใจนพน่ะ จะเกี่ยวข้องกับพี่ด้วย”
เอาวะ เป็นไงเป็นกันผมก็อยากรู้เหมือนกันว่า นพ มาสงสัยผมได้ยังไง
“ก็ผมเห็นว่า ทุกครั้งที่พี่เทคพาผมมาในกลุ่มพี่ๆทีไรเค้าจะเอาใจผมมากๆทั้งที่ปกติเค้าไม่ทำแบบนี้เลยนะครับ แล้วผมก็สังเกคดูว่าจะมีใครสนใจสิ่งที่พี่เทคเค้าทำบ้างมั้ย ผมเห็นพี่ๆก้ปกติกันหมด ทีแรกผมก็คิดว่าสงสัยพี่เทคอยากโชว์เพื่อนๆ มั้ง แต่นานๆ เข้าผมก็คิดว่าไม่ใช่แล้ว พี่เทคทำประชดพี่คนใดคนหนึ่งในกลุ่มมากกว่า ก็ลองดูๆไปบอกตรงๆนะพี่นิว ผมไม่ได้ระแวงพี่นะครับ แต่ผมเห็นว่าพี่คนอื่นก็พูดคุยกับพี่เทคปกติ มีแต่พี่นิวอ่ะ ที่ทำตัวห่างเหินกับพี่เทคมากกว่าเพื่อนคนอื่น ผมว่านะดูยังไงก็ไม่ใช่ว่าพี่ 2 คน
ไม่สนิทกันแต่เหมือนพี่กำลังโกรธกันมากกว่า ผมก็เลยคิดได้ว่า การที่พี่เทคพยายามเอาอกเอาใจผมนั้น ก็เพื่อจะประชดพี่มากกว่า จะว่าไปการที่เค้ามาคบกับผมก็คงเพื่อที่จะประชดพี่ด้วยเหมือนกัน เฮ้อ… พี่ลองคิดๆ ดูแล้วกันนะครับ ผมยังดูออกเลยนะพี่ พี่จะไม่รู้ใจพี่เทคบ้างรึไงครับ”
เฮ้อ….ผมก็พลอยถอนหายใจไปด้วย ไม่รู้ว่าเหนื่อยที่ต้องฟังประโยคยาวๆ หรือเพราะเหนื่อยใจกันแน่ เฮ้อ…. ซักพัก เทค เดินลงสมทบกับ ผมและนพ ทำให้ไม่ได้พูดอะไรกันอีก เทค เดินเอาหนังสือมายื่นให้ผมแล้วเดินไป
โอบไหล่ นพ ผมเห็นสีหน้าลำบากใจของ นพ ในขณะที่ เทค พูดขึ้นว่า
“รอนานหน่อยนะ พอดีเรามัวแต่จัดที่นอนให้นพน่ะ”
“อืม งั้นเรากลับก่อนนะ พวกนั้นมันยืนรอจนรากงอกแล้วว่ะ”
ผมพยักหน้าให้ เทค แสดงอาการรับฟังไปงั้นๆแต่ไม่ใส่ใจอะไรนัก เพราะก่อนหน้าที่ เทค จะลงมาแสดงท่าทีสวีทๆ กับ นพ แบบนี้ ผมเพิ่งได้รับรู้ว่าความหวานที่ผมเห็นนี้มันก็แค่ฉากหนึ่งของเค้าเท่านั้นเอง ผมอยากจะโกรธ เทค
ที่ใช้ นพ เป็นเครื่องมือประชดผม แต่ถ้าคิดให้ดีๆเรื่องที่เกิดขึ้นนี้ผมควรจะโกรธตัวเองมากกว่าใครทั้งหมด จริงมั้ย?
ตอนที่ 16 ความใจแข็งและคำปฏิเสธของผม
ในที่สุดก็สอบเสร็จ…เทอมนี้ผ่านพ้นไปอีก1เทอม แต่ไม่มีใครมาบ่นว่าเหนื่อยอีกแล้ว เพราะคนที่เคยบ่นเมื่อปีก่อนทำข้อสอบเสร็จก่อนผม แล้วก็ไม่รอผม (ทั้งที่ปีก่อนผมรอเค้า) แต่ก็ช่างเถอะ ผมสอบเสร็จแล้วก็รีบไปหมอชิตทันที
เพราะตั้งใจว่าจะรีบกลับบ้านที่ต่างจังหวัด ดังนั้นวันสอบเสร็จวันสุดท้ายจึงไม่ได้นัดเจอกับเพื่อนคนไหนทั้งสิ้น ส่วน เทค นั้นก็ให้เหตุผลกับเพื่อนๆว่า มีนัดพาแฟนเค้าไปดูหนัง ดังนั้นหลังสอบเสร็จแล้วก็ต่างคนต่างไปในทันที ช่วงที่ผมกลับไปอยู่บ้านที่ต่างจังหวัด ก็ได้โทร.คุยกับเพื่อนๆที่อยู่กทม.บ้าง แต่ก็ไม่ได้รู้ข่าวคราวของ เทค สักเท่าไหร่
ตอนนั้นผมเองก็ไปช่วยงานที่ร้านแม่ด้วยน่ะครับ ก็เลยมีอะไรให้ทำสนุกๆไปเรื่อยๆ อยู่บ้านบ้างไปช่วยงานแม่บ้าง ระหว่างนี้ผมก็ได้รู้จักลูกชายของเพื่อนแม่ชื่อ พี่อาร์ท เค้าก็มาแวะที่ร้านบ่อยๆ เอารถของที่บ้านเค้ามาซ่อมบ้าง ไม่อย่างนั้นก็แวะเอาของฝากจากที่บ้านเค้ามาให้แม่ผมบ้าง มารับผมไปซื้อของบ้าง ก็เลยรู้จักกันสนิทกันขึ้นมา แล้วไม่นานนักเพื่อนผมก็โทร.มาบอกผมว่า
“เทคมันเข้าโรงบาลว่ะแก นอนรักษาตัวอยู่หลายวันแล้วเนี่ย”
“มันเป็นอะไรล่ะ”
ผมถามเพื่อนผู้ทำหน้าที่ส่งข่าวมาให้
“โดนกระทืบอ่ะดิ นี่มันเลิกกับแฟนแล้วนะเว่ย คง sad ว่ะเลยไปเมาปลิ้นอยู่ที่ RCA”
เพื่อนรายแรกยังคงเล่าต่อไปอย่างเป็นห่วงเป็นใย เทค ซะเต็มที่ ซึ่งมันก็ได้ผลกับผมเหมือนกันนะ เพราะอย่างน้อยก็ทำให้ผมรู้สึกเป็นห่วง เทค ขึ้นมานิดหน่อย ปกติ เทค ก็ค่อนข้างจิตใจอ่อนแออยู่แล้วเจอเรื่องนี้เข้าไปไม่รู้จะเป็นยังไง แต่ผมก็ยังทำเป็นเฉยๆกับข่าวคราวที่ เทค เข้าโรงพยาบาล ไม่ว่าเพื่อนคนไหนโทร.มาตามให้ไปกทม.เพื่อเยี่ยม เทค แม้ว่าหลังจากนั้น จะยังมีเพื่อนโทร.มาชักชวน โน้มน้าวให้ผมกลับไปเยี่ยม เทค อีกหลายต่อหลายครั้งเลยก็ตามที
“ไม่ว่างอ่ะ ต้องช่วยงานแม่ที่ร้าน”

คำปฏิเสธที่ 2
“เอาไว้เปิดเทอมก่อนนะ ถ้ามันยังนอนโรงบาลเราจะไปเยี่ยม”
คำปฏิเสธที่ 3
“ก็ไปตามแฟนมันกลับมาเยี่ยมสิวะ ไม่ว่างจริงๆนี่หว่า”
คำปฏิเสธที่ 4
“เออๆ ถ้าได้ไปกรุงเทพจะไปละกันนะ”
คำปฏิเสธที่ 5
“อะไรเนี่ย มันยังไม่ออกจากโรงบาลอีกเหรอ แล้วแฟนมันล่ะมาเยี่ยมรึยังงั้นว่างๆจะไปเยี่ยมนะ”
คำปฏิเสธที่ 6
“หาเรื่องใส่ตัวเองนี่หว่า ทำไมเราต้องเดือดร้อนไปเยี่ยมมันล่ะ”
คำปฏิเสธที่ 7
“ยังไม่มีตังเว้ย ไปกลับแป๊บเดียว แต่เสียตังค์เยอะนะแก”
คำปฏิเสธที่ 8
“แล้วพวกแกไปเยี่ยมครบทุกคนแล้วเหรอ ถ้ายังไม่ครบก็ไม่ต้องมาชวนเลย ให้มันรอไปก่อนดิ”
คำปฏิเสธที่ 9
“ง่ายๆเลยนะ ตอนนี้ขี้เกียจเดินทางไกลว่ะ”
คำปฏิเสธที่ 10
หลายครั้งหลายหนที่ผมปฏิเสธที่จะไปเยี่ยม เทคทั้งที่ยิ่งได้ฟังข่าวของ เทค มากขึ้นเท่าไหร่ ผมก็เริ่มเป็นห่วง เทค มากขึ้นเรื่อยๆแต่ผมก็ยังไม่พร้อมจะกลับไปแสดงอาการเป็นห่วงเป็นใยให้ เทค รับรู้ทั้งสิ้นตอนนี้ผมขอเวลาบ้าง
เพื่อให้ผมแน่ใจว่าตัวเองเป็นห่วง เทค มากพอที่จะลืมความรู้สึกแย่ๆที่ฝังใจผมตลอด1เทอมที่ผ่านมานี้ได้แล้วจริงๆ


รุ่นน้องจูเนียร์

กระทู้
0
พลังน้ำใจ
128
Zenny
1276
ออนไลน์
16 ชั่วโมง
โพสต์ 2012-3-19 10:00:45 | ดูโพสต์ทั้งหมด

รุ่นน้องจูเนียร์

กระทู้
0
พลังน้ำใจ
143
Zenny
984
ออนไลน์
25 ชั่วโมง
โพสต์ 2012-3-19 12:16:36 | ดูโพสต์ทั้งหมด
โคร ต ๆ อ่ะ Smile :')

แสดงความคิดเห็น

อ่ะ  โพสต์ 2012-3-19 12:33

พี่ว้ากตัวร้าย

กระทู้
3
พลังน้ำใจ
655
Zenny
4096
ออนไลน์
93 ชั่วโมง
โพสต์ 2012-3-21 13:37:35 | ดูโพสต์ทั้งหมด
ขอบคุนครับ

มหาลัยซีเนียร์

กระทู้
0
พลังน้ำใจ
1157
Zenny
2209
ออนไลน์
532 ชั่วโมง
โพสต์ 2013-6-17 18:18:26 | ดูโพสต์ทั้งหมด
ขออ่านหน่อยน่ะ

นิสิตสัมพันธ์

กระทู้
9
พลังน้ำใจ
24560
Zenny
38464
ออนไลน์
2328 ชั่วโมง
โพสต์ 2013-6-30 02:48:19 | ดูโพสต์ทั้งหมด
ขอบคุนครับ

มหาลัยซีเนียร์

กระทู้
0
พลังน้ำใจ
1456
Zenny
-96
ออนไลน์
698 ชั่วโมง
โพสต์ 2013-12-17 14:13:46 | ดูโพสต์ทั้งหมด

นักศึกษาหน้าใหม่

กระทู้
0
พลังน้ำใจ
75
Zenny
185
ออนไลน์
19 ชั่วโมง
โพสต์ 2014-2-4 18:45:41 | ดูโพสต์ทั้งหมด

พี่ว้ากตัวร้าย

กระทู้
0
พลังน้ำใจ
679
Zenny
156
ออนไลน์
324 ชั่วโมง
โพสต์ 2014-2-9 23:50:10 | ดูโพสต์ทั้งหมด
ขอบคุนคับ {:7_275:}

นิสิตสัมพันธ์

กระทู้
20
พลังน้ำใจ
37206
Zenny
1093
ออนไลน์
4993 ชั่วโมง
โพสต์ 2014-4-29 04:07:13 | ดูโพสต์ทั้งหมด
ลุยฝ่าฟันไปให้หมดแรง... ไม่เหนื่อย.. ไม่ท้อ.. ไม่หมดหวัง.. เส้นทางความฝันที่มันช่างยากเกินจริง...

มาเฟียนักศึกษา

กระทู้
0
พลังน้ำใจ
3864
Zenny
791
ออนไลน์
809 ชั่วโมง
โพสต์ 2017-6-26 22:15:21 | ดูโพสต์ทั้งหมด
ขอบคุณครับ

นิสิตสัมพันธ์

กระทู้
0
พลังน้ำใจ
25772
Zenny
21604
ออนไลน์
1006 ชั่วโมง
โพสต์ 2017-6-27 20:58:46 | ดูโพสต์ทั้งหมด
ขอบคุณนะครับ

นิสิตสัมพันธ์

กระทู้
0
พลังน้ำใจ
47771
Zenny
20390
ออนไลน์
2061 ชั่วโมง
โพสต์ 2019-10-11 23:30:49 | ดูโพสต์ทั้งหมด
ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง เข้าสู่ระบบ | สมัครเข้าเรียน

รายละเอียดเครดิต

A Touch of Friendship: สังคมจะน่าอยู่ เมื่อมีผู้ให้แบ่งปัน ฝากไวเป็นข้อคิดด้วยนะคะชาวจีโฟกายทุกท่าน
!!!!!โปรดหยุด!!!!! : พฤติกรรมการโพสมั่วๆ / โพสแต่อีโมโดยไม่มีข้อความประกอบการโพส / โพสลากอักษรยาว เช่น ครับบบบบบบบบ, ชอบบบบบบบบ, thxxxxxxxx, และอื่นๆที่ดูแล้วน่ารำคาญสายตา เพราะถ้าท่านไม่หยุดทีมงานจะหยุดท่านเอง
ขอความร่วมมือสมาชิกทุกท่านโปรดโพสตอบอย่างอื่นนอกเหนือจากคำว่า ขอบคุณ, thanks, thank you, หรืออื่นๆที่สื่อความหมายว่าขอบคุณเพียงอย่างเดียวด้วยนะคะ เพื่อสื่อถึงความจริงใจในการโพสตอบกระทู้ และไม่ดูเป็นโพสขยะ
กระทู้ไหนที่ไม่ใช่กระทู้ในลักษณะที่ต้องโพสตอบโดยใช้คำว่าขอบคุณ เช่นกระทู้โพล, กระทู้ถามความเห็น, หรืออื่นๆที่ทีมงานอ่านแล้วเข้าข่ายว่า โพสขอบคุณไร้สาระ ทีมงานขอดำเนินการตัดคะแนน และ/หรือให้ใบเตือนสมาชิกที่โพสขอบคุณทันทีที่เจอนะคะ

รูปแบบข้อความล้วน|โทรศัพท์มือถือ|ติดต่อลงโฆษณา|จีโฟกายดอทคอม

ข้อความที่ท่านได้อ่านในเว็บจีโฟกายดอทคอมนี้ เกิดจากการเขียนโดยสาธารณชน และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ หากท่านพบเห็นข้อความใดๆ ที่ขัดต่อกฎหมาย และศิลธรรม ไม่เหมาะสมที่จะเผยแพร่ ท่านสามารถแจ้งลบข้อความได้ที่ Link “แจ้งลบโพสนี้” ที่มีอยู่ใต้ข้อความทุกข้อความ หรือ ลืมพาสเวิดล๊อกอิน/ลืมชื่อที่ใช้สมัคร หรือข้อสงสัยใดๆแจ้งมาที่ G4GuysTeam[at]yahoo.com ขอขอบพระคุณที่ให้ความร่วมมือ

กรณีที่ข้อความ/รูปภาพในกระทู้นี้จัดสร้างโดยผู้ลงข้อมูลเอง ลิขสิทธิ์จะเป็นของผู้ลงข้อมูลโดยตรง หากจะทำการคัดลอก/เผยแพร่ ต้องได้รับอนุญาตจากผู้ลงข้อมูลก่อนนะคะ หรือลงที่มาไว้ด้วยค่ะ

©ขอสงวนสิทธิ์คอนเซ็ปต์,คำอธิบาย,หัวข้อ/หมวดหมู่เว็บ ห้ามลอกเลียนแบบ คิดเอาเองนะคะอย่าเอาแต่ลอก

GMT+7, 2024-11-26 05:52 , Processed in 0.172388 second(s), 31 queries .

Powered by Discuz! X3.5, Rev.8

© 2001-2024 Discuz! Team.

ตอบกระทู้ ขึ้นไปด้านบน ไปที่หน้ารายการกระทู้