ลืมรหัสผ่าน
 สมัครเข้าเรียน
ค้นหา
ดู: 618|ตอบกลับ: 10

++ กว่าจะรู้ว่ารัก ++ @ 12 - 15 ภาค 2

[คัดลอกลิงก์]

โสด

   ศาสตราจารย์เอื้ออาทร
อาจารย์พิเศษ
ถ้าหากว่าซ้ำต้องขออภัยนะครับและขอโทษเจ้าของเรื่องด้วยนะครับเพราะว่าคัดลอกมาอีกที
ความเดิมตอนที่แล้ว

“พี่อาร์ท” หลายครั้งเค้าอาสาขี่รถพาผมไปดูสถานที่ตั้งของมหาวิทาลัยท้งที่หนทางแสนยาวไกลเค้าก็ยังมีน้ำใจ
มีบางครั้งที่ผมจำเป็นต้องขอความช่วยเหลือจากพี่อาร์ทให้พาคุณป้าใหญ่ไปหาหมอนี่ยังไม่นับไปถึงความเอื้อเฟื้อที่เค้ามีให้ผมมาอย่างสม่ำเสมอในเรื่องเล็กๆ น้อยๆ เช่น เลี้ยงข้าว เลี้ยงหนังไปซื้อของเป็นเพื่อนทั้งยังช่วยถือของอีกด้วยนะครับ พี่เค้าก็ดีเนอะ

ตอนที่ 13 Freshly Again
วันพุธกลางสัปดาห์ เดือน กรกฎาคม ปี พ.ศ.2554 เป็นฤกษ์งามยามดีในการเริ่มต้นชีวิตนักศึกษารามคำแหงของผมอีกครั้ง
แต่ครั้งนี้จะไม่ล้มเหลวเหมือนอย่างที่ผ่านมาอีกแล้วครับ เพราะผมโตขึ้นและเรียนรู้จากความผิดพลาดที่ผ่านมาตลอด 3 ปี
การเลือกคณะในครั้งนี้ผมไม่ได้เลือกเพื่อเอาใจแม่ ไม่ได้เลือกเพื่อจะได้เรียนในคณะที่โดดเด่นของมหาวิทยาลัยอย่างที่ผ่านมา
แต่ในการตัดสินใจครั้งนี้ผมใช้ความพอใจของตัวเองเป็นหลัก และศึกษารายละเอียดของกระบวนวิชาในแต่ละคณะที่ผมสนใจ
ซึ่งในการเลือกคณะครั้งนี้ผมได้ดูรายละเอียดอย่างรอบคอบก่อนตัดสินใจ ซึ่งในครั้งนี้ผมเลือกเรียน “คณะมนุษยศาสตร์”
เนื่องจากมหาวิยาลัยตั้งอยู่ไกลจากตัวเมืองพอสมควร การเดินทางจึงไม่สะดวกนัก ผมจึงต้องให้ที่บ้านเอารถมาคอยรับ-ส่งทุกวัน
คิดดูสิครับ แค่เรื่องเดินทางไปเรียนและเดินทางกลับบ้านก็แตกต่างจากเมื่อครั้งที่ผมเรียนอยู่ที่มหาวิทยาลัยในกรุงเทพฯมากแล้ว
วันแรกของการเปิดเทอมจะว่าไปมันก็เหมือนๆกับที่ผ่านมานั่นแหล่ะ แต่สิ่งที่ไม่มีทางเหมือนกันก็คือผมไม่มีเพื่อนใหม่ชื่อ เทค
แล้วก็ไม่รู้ว่าเพื่อนใหม่ที่ผมจะได้เจอในวันนี้จะเป็นคนอย่างไร ผมจะดูแก่กว่าคนอื่นๆที่ต้องมาเรียนรุ่นเดียวกันรึเปล่า (แย่แน่เลย)
สำหรับผมการที่ต้องเริ่มทำอะไรใหม่ก็ค่อนข้างเกร็งๆและขาดความมั่นใจอยู่แล้วยิ่งเจอคนที่ไม่รู้จักยิ่งวางตัวไม่ถูกเข้าไปใหญ่
ผมก้าวเท้าลงจากรถ มองเห็นอาคารขนาดใหญ่ที่ถูกสร้างอย่างวิจิตร ให้เป็นไปตามรูปแบบของสถาปัตยกรรมยุโรปยุคกลาง
คาดว่าทางผู้สร้างอาคารหลังนี้คงประทับใจสถานที่เก่าแก่ของพระราชวังโบราณในประเทศแถบตะวันตกอย่างมากทีเดียว
ถนนสายเล็กนี้โรยด้วยกรวดก้อนเล็กๆที่ตัดจากถนนด้านหน้าที่รถของผมจอดเมื่อครู่นี้สองข้างทางปลูกต้นเข็มไว้เป็นแนว
ผมเดินมองดูรายละอียดรอบๆสถานที่ซึ่งผมจะต้องมาเรียนอยู่ที่นี่ สัปดาห์ละ 5 วัน เป็นเวลาอย่างน้อย 4 ปีนับจากวันนี้
ตอนนี้ยังเช้าอยู่เลยเพิ่งจะ 7.30 น. ยิ่งเดินใกล้อาคารทรงยุโรปโบราณเข้าไปมากขึ้นเท่าไหร่ก็ยิ่งเห็นสวนขนาดใหญ่
ที่ซ่อนอยู่ด้านหลังอาคารหลังนี้ สิ่งแรกที่เด่นสะดุดตาผมคือ ต้นลั่นทม หลายสิบต้นที่ปลูกอยู่เป็นแถวเป็นแนวสวยงาม
แม้ว่าทางด้านหน้าของมหาวิทยาลัยจะมีสนามหญ้าและต้นไม้หลากหลายพันธุ์อวดโฉมต้อนรับนักศึกษาใหม่อย่างผม
แต่ผมกลับติดใจสวนกว้างด้านหลังอาคารที่มองไปตามแนวต้นลั่นทมสุดปลายสายตา มีดอกลั่นทมสีขาวแกมเหลืองร่วงหล่น
ลงมาที่โคนต้นเสมือนเป็นดอกไม้ประดับประดาให้พื้นหญ้าสีเขียวนั้นยิ่งดูสวยสดขึ้นมากกว่าเดิมอีกหลายเท่าทีเดียว
แน่นอนว่าผมเลือกใช้เวลาที่ยังมีอยู่ในเช้าวันแรกที่เปิดเทอมไปกับการชื่นชมต้นลั่นทมด้านหลังอาคารทรงยุโรปโบราณ
แล้วเมื่อใกล้เวลาที่ต้องเข้าเรียนวิชาแรก็เริ่มขึ้น ผมเดินผ่านห้องบรรยายแต่ละห้องจนไปถึงอีกฟากของอาคารหลังใหญ่นั้น
ที่หน้าห้องบรรยายที่ผมจะต้องเข้าเรียนในเช้านี้มีนักศึกษาปี 1 (ที่เป็นปี1จริงๆ) นั่งรอกันอยู่หน้าห้องเต็มไปหมดเลยล่ะ
“พี่คะ วิชาแรกเรียนห้องนี้รึเปล่าคะ”
เสียงใสๆของผู้หญิงถามขึ้นจากด้านหลังของผม ขณะที่ผมกำลังจดๆจ้องๆว่าจะเข้าไปนั่งรอเวลาเลยดีมั้ย
“ไม่ต้องเรียกพี่หรอกครับ รุ่นเดียวกันเพราะเราก็มาเรียนปี 1”
เอาล่ะสิ คนแรกที่มาทักก็ทำเอาใจเสียซะแล้ว โอว…ความแก่ไม่อาจปกปิดได้จริงๆแต่ผมก็พยายามเนียนๆไว้ก่อน
“เธอชื่ออะไร เราชื่อสุ เรียนคณะมนุษย์ฯสื่อสาร”
เพื่อนใหม่แนะนำตัวอย่างเป็นกันเอง
“เราชื่อนิวนะ เรียนคณะสาขาเดียวกับสุแหล่ะ”
ผมยิ้มตอบกลับไปพร้อมแนะนำตัว
ยังไม่ทันจะได้พูดคุยอะไรกันมากไปกว่านี้ก็ได้เวลาเข้าเรียนพอดี ผมและสุจึงเข้าไปนังเรียนด้วยกัน โดยเลือกแถวๆกลางๆไว้
เพื่อว่าถ้ามีเพื่อนใหม่คนไหนเข้ามาก็จะได้ทักทายกันได้ อย่างน้อยได้ยิ้มให้กันก็ยังดี ตอนนี้ผมรู้สึกโดดเดี่ยวอย่างมากเลยครับ
คิดถึงเมื่อก่อนตอนเรียนที่กรุงเทพฯมีเพื่อนเต็มไปหมดตอนี้ผมต้องเริ่มใหม่แม้แต่การหาเพื่อนก็ต้องเริ่มต้นใหม่ด้วยเช่นกัน
จู่ๆ ผมก็คิดถึงเทคขึ้นมาตอนนั้นเค้าก็คงรู้สึกแบบนี้เลยพยายามหาเรื่องพูดคุยกับผมเพื่อจะได้มีเพื่อนใหม่ซักคนก็ยังดีสินะ
ตอนที่ 14 เพื่อนซี้…ไม่มีซั้ว
ในวันแรกที่เปิดเทอมผมแทบจะถอดใจไม่อยากไปเรียนอีกเพราะความรู้สึกโดดเดี่ยว มองไปทางไหนก็เห็นแต่คนที่เค้ามีเพื่อนๆ
มาเรียนด้วยกัน อย่างบางคนที่ได้ทักทายกันก็แค่ผ่านๆส่วนใหญ่เค้าจะบอกว่ามากับเพื่อนโรงเรียนเก่าก็คงเหมือนผมเมื่อก่อนนี้
ผมบอกได้เลยว่าการมีเพื่อนเป็นเรื่องสำคัญมากในการเรียนหนังสือ ไม่ใช่ว่าจะให้เพื่อนมีอิทธิพลกับชีวิตเราไปซะทั้งหมด
แต่อย่างน้อยๆการมีเพื่อนก็เป็นแรงจูงใจอย่างนึงที่ทำให้เราอยากตื่นไปเรียนในตอนเช้า ได้พูดคุย สรวลเส เฮฮากับเพื่อนๆ
ในทางกลับกันการมีเพื่อนน้อย ไม่ค่อยรู้จักใคร ไม่รู้ว่าจะไปเข้ากลุ่มไหน ย่อมมีผลทำให้ไม่อยากมาเรียนหนังสือด้วย
กรณีที่ว่านี้กำลังเกิดขึ้นกับผมในช่วงสัปดาห์แรกๆ เพราะผมรู้สึกเบื่อ ไม่อยากไปเรียนแค่คิดว่าต้องไปนั่งเรียนคนเดียวก็เซ็งแล้ว
ถึงจะเบื่อและเซ็งแค่ไหน ผมก็ตั้งใจว่าครั้งนี้จะต้องเรียนให้จบให้ได้ ผมจึงยังคงไปนั่งฟังบรรยายอยู่เสมอแม้รู้สึกโดดเดี่ยวเต็มที
สัปดาห์ที่ 2 ผมเริ่มรู้จักเพื่อนใหม่ๆเพิ่มขึ้นอีกหลายคน จำชื่อได้บ้างไม่ได้บ้าง เมื่อต้องกลับทางเดียวกันผมก็กลับพร้อมเพื่อนๆ
แทนที่จะให้รถมารับเพราะผมอยากใช้ช่วงเวลานอกเหนือการเรียนในการพูดคุยทำความรู้จักกับเพื่อนให้สนิทสนมกันเร็วๆ
ที่มหาวิทยาลัยวิทยาเขตนี้เพิ่งเปิดให้มีนักศึกษาปริญาตรี 2 ปี จึงมีรุ่นพี่ปี 2 กับรุ่นพวกผมเป็นปี 1 จะว่าไปคนก็ไม่ได้มากมายนัก
คิดว่าคงไม่ยากเกินไปที่จะค่อยๆรู้จักคนต่างๆให้ทั่วทั้งรุ่นพี่และเพื่อนๆปี1 เริ่มจากเวลาลงรถตอนเช้าเจอเพื่อนก็ทักเค้าก่อนครับ
เพื่อนคนไหนที่จำชื่อได้ก็เรียกชื่อ เพื่อนคนไหนที่ผมจำชื่อไม่ได้ก็ยิ้มๆไปก่อน เวลาเห็นเพื่อนเค้ายกมือไหว้รุ่นพี่ผมก็ไหว้ด้วย
(โปรดจำไว้เสมอว่าความจริงผมอายุมากกว่ารุ่นพี่ซะอีก) พวกรุ่นพี่ก็ดูไม่ออกหรอกครับว่าผมเป็นเด็กซิ่วแถมซิ่วตั้ง3ปีแน่ะ
เค้าก็รับไหว้แล้วก็จะคอยเข้ามาแนะนำเรื่องการเรียนให้กับผมเหมือนที่แนะนำให้กับเพื่อนๆผมที่เป็นน้องปี1เหมือนกัน
1 เดือนแล้วครับ สำหรับการย้ายมาเรียนที่นี่ มาเป็นน้องปี 1ให้รุ่นพี่ที่เกิดทีหลังผมคอยแนะนำตึกเรียน แนะนำร้านข้าวใกล้ๆ
ตลอดเวลาที่ผ่านมาผมเริ่มมีเพื่อนมากขึ้นอาจไม่ใช่กลุ่มใหญ่เหมือนเมื่อก่อนแต่ก็เป็นกลุ่มที่ผูกพันกันได้ในเวลาอันรวดเร็ว
ตอนนี้ผมไม่เบื่อที่จะไปเรียนแล้วครับ เพราะทุกๆ เช้าที่ตื่นขึ้นมาผมรู้ว่าผมจะได้ไปเจอเพื่อน ได้ไปเจอรุ่นพี่ที่ไม่บ้าอำนาจ
เพื่อนแต่ละคนในกลุ่มที่ผมมีอยู่ตอนนี้มาจากหลายทิศหลายทาง เริ่มจากคนนั้นรู้จักคนนี้ แล้วก็มารู้จักกับเพื่อนคนใหม่ไปเรื่อยๆ
อย่างผมเองตอนแรกก็รู้จักับเพื่อนผู้หญิงที่ชื่อสุ แล้วสุก็เช่าห้องพักอยู่ที่เดียวกับหญิง ส่วนหญิงก็เป็นเพื่อนเก่าของนิ่ม แล้วนิ่มเอง
ก็นั่งรถมล์มาทางเดียวกันกับโอ๋ โอ๋ก็นั่งเรียนติดกันกับเป้ย เป้ยเรียนคณะเดียวกันกับผม ก็โยงใยกันไปเป็นลูกโซ่แบบน่ะครับ
อาจจะดูงงๆ ซักหน่อยนะครับ แต่ก็เพราะได้รู้จักกันแบบงงๆเนี่ยแหล่ะที่ทำให้ผมมีเพื่อนซี้ ที่นับวันก็จะมีมากขึ้นเรื่อยๆแล้วครับ
บรรดาเพื่อนซี้ของผมแต่ละคนฮาๆทั้งนั้นและก็มีความสนใจกันไปคนละทิศละทางเวลารวมกลุ่มคุยกันแต่ละทีเสียงดังลั่นไปทั่ว
ผมว่ามารู้จักเพื่อนๆของผมหน่อยเป็นไร แล้วบางทีคุณอาจจะคิดเหมือนเพื่อนกลุ่มอื่นว่า
“พวกมันพูดเรื่องเดียวกันรึเปล่าวะ”
สุ - สาวซึม ยิ้มง่าย เรียกได้ว่ายิ้มมากกว่าพูด แต่ถ้าไม่พูดไม่ยิ้มหน้าเธอจะเศร้าตลอดเวลา
หญิง - เพื่อนสาวสุดห้าว แต่งตัวบ้านๆพร้อมเป้สีเขียวตัดกับสีผิวเข้มๆ ใส่รองเท้าผ้าใบสีตุ่นๆตลอด4ปี
นิ่ม - สาวท้วมที่ห้าวไม่แพ้กัน แต่ออกจะทะโมนน้อยกว่าหญิง เป็นคนจิตใจดีรักเพื่อน
โอ๋ - ชายหนุ่มอารมณ์ศิลป์ ชอบอ่านการ์ตูนเป็นชีวิตจิตใจ ฝันว่าอยากเป็นนักเขียนการ์ตูนใด้ได้
เป้ย - สาวร่างโย่ง มาในชุดกระโปรงยาวกรอมเท้า เรียนเก่งโคดๆ ผมว่าเธอเหมาะจะเป็นนางแบบนะ
จิม - เพื่อนเกย์คณะนิติศาสตร์ ไม่ออกสาวแต่เห็นผู้ชายไม่ได้ เหล่จนตากลับ มีศัพท์ใหม่ๆมานำเสนอตลอด
พี่แมน - เป็นรุ่นพี่ผมปีนึงเรียนจบป,ตรีแล้ว1ใบแต่อยากเรียนอีกใบเลยมาลงเรียนที่รามปีเดียวกันนี้
แอ๊บ - ช่างกล้องประจำกลุ่ม ถ้าไปเที่ยวกันทั้งกลุ่มนายนี่จะต้องแบกขาตั้งกล้องไปด้วยเสมอ
นาง - สาวสวยแทบจะที่สุดก็ว่าได้ เพราะตัวเล็กน่ารัก แล้วก็ขายออก เอ๊ย…เป็นแฟนกับรุ่นพี่ตั้งแต่ปี1เลยเชียว
นอกเหนือจากที่กล่าวมานี้ก็ใช่ว่าผมไม่สนิทกับคนอื่นนะครับ แต่ความสนิทสนมก็มีมากมีน้อยลดหลั่นกันไปตามความใกล้ชิด
โดยเพื่อนกลุ่มที่ผมเอามาแนะนำตัวให้คุณๆรู้จักกันถือว่าเจอกันบ่อยทั้งเวลาเรียน ตอนกลับบ้าน และนัดกันไปเที่ยวเป็นกลุ่มๆ
แต่อย่างที่บอกล่ะครับว่าเราแต่ละคนมีสนใจต่างกันไปดังนั้นเมื่อรวมตัวกันจึงเหมือนแย่งกันพูดคนละเรื่องแต่ก็เข้าใจกันนะครับ
ตอนที่ 15 กีฬาสานสัมพันธ์
อย่างที่ผมบอกไปเมื่อตอนที่แล้วว่าในมหาวิทยาลัยของผมมีนักศึกษาเพียงแค่2ชั้นปีเท่านั้น จึงทำให้พวกเรารู้จักันได้รวดเร็ว
อีกทั้งพวกรุ่นพี่ก็ไม่บ้าอำนาจแบบต้องให้ทำนู่น ทำนี่ หรือคอยเอาความเป็นซีเนียร์มาบังคับให้เกิดความอึดอัดใจเหมือนที่อื่นๆ
รุ่นพี่ที่นี่ส่วนใหญ่จะเป็นแนว ชวนกิน ชวนคุย แล้วก็คอยเอาหนังสือ sheet สรุป มาให้น้องๆ รวมทั้งช่วยติวให้กับพวกปี1ด้วย
คงเพราะความใกล้ชิดที่พวกเราเจอกันอยู่ทุกวัน ทำให้เมื่อเรียนด้วยกันไป1เทอม ทั้งรุ่นพี่รุ่นน้องก็เลยรวมหัวกันจัดกิจกรรมขึ้น
ตอนแรกๆโปรแกรมท่เสนอขึ้นมาก็มีทั้ง ไปทัศนาจร ไปเที่ยวทะเล ไปปีนภูเขา ไปเข้าถ้ำ เล่นน้ำตก ไปสวนสัตว์ ฯลฯ
แต่อุปสรรคเล็กๆน้อยๆที่คนนั้นไปต่างจังหวัดไม่ได้ คนนี้ไม่ชอบทะเล คนโน้นกลัวความสูงไม่กล้าปีนเขา อีกคนเบื่อสวนสัตว์
เป็นอันว่าโครงการต่างๆ ที่คิดกันมาซะบานตะไทก็ยุบไปก่อน แล้วค่อยมาคิดกันอีกทีว่ารุ่นพี่รุ่นน้องที่มีกันอยู่แค่ 2 ชั้นปีนี่แหล่ะ
จนกระทั่งวันที่มาฟังบรรยายวันสุดท้ายก่อนสอบนั่นละครับ ก่อนพวกปี 1 จะเริ่มเรียนรุ่นพี่ก็เข้ามาบอกว่าจะเรียกประชุมวันนี้
ขอให้น้องๆ อยู่รอเจอรุ่นพี่ก่อนที่ห้องบรรยายนั่นแหล่ะ พวกผมก็เป็นพวกว่านอนสอนง่ายซะด้วย เค้าบอกให้รอก็นั่งรอเต็มห้อง
แล้วพอรุ่นพี่ยกโขยงกันเข้ามาในห้องบรรยายก็เปิดประเด็นเรื่องกิจกรรมที่รุ่นพี่รุ่นน้องอยากจัดขึ้นเป็นการกระชับมิตรยิ่งขึ้น
ตอนนี้กิจกรรมที่ถูกเสนอขึ้นมาและเป็นที่สนใจของพวกเราทั้งหมดก็คือ กีฬาสี แต่พวกเราเรียกว่างาน
“กีฬาสัมพันธ์”
โดยจัดให้มีการแข่งขัน บาสเกตบอล ในตอนเช้า และ ฟุตบอล ในช่วงบ่าย ซึ่งนักกีฬาก็คือรุ่นพี่รุ่นน้องผู้ชายท้งปี 1 ปี 2
เนื่องจากนักศึกษาก็ไม่ได้เยอะมากทำให้พวกที่ลงแข่งบาสฯตอนเช้า ต้องไปลงแข่งบอลตอนบ่ายด้วย แต่ทุกคนก็เต็มใจสุดๆ
ส่วนรุ่นพี่รุ่นน้องผู้หญิงก้ไปลงแข่งพวกสันทนาการต่างๆเช่น วิ่งเปี้ยว กินวิบาก วิ่งสามขา ชักกะเย่อ ซึ่งก็แบ่งงานได้ลงตัวดี
การแข่งขันครั้งนี้แบ่งอย่างง่ายๆ เป็น 2 ฝ่ายก็คือ ปี 1 แข่งกับ ปี 2 ทั้งประเภทกีฬาหลักและการแข่งสันทนาการ จะว่าไปก็ง่ายดี
วันแข่งขันกีฬา
เช้าวันเสาร์ที่พวกเราแอบคิดว่าถ้าเป็นไปได้อยากอยู่บ้านมากกว่า เพราะเรียนกันมาทั้ง 5 วันแล้ววันนี้ยังต้องออกจากบ้านมาอีก
แต่ถึงยังงั้นพวกเราก็เต็มใจหอบสังขารกันมาตั้งแต่เช้า ใครมีรถก็ไปขนอุปกรณ์มาเตรียมไว้ที่สนามกีฬาซึ่งเราไปขอใช้พื้นที่ของ
โรงเรียนใกล้ๆ กับมหาวิทยาลัยของเรานั่นล่ะครับ เช้าผมให้รถที่บ้านมาส่งโดยนัดเพื่อนให้มารอจุดที่รถวิ่งผ่านเพื่อรับไปด้วยกัน
หลังจากผมกับเพื่อนๆไปถึงสนามกีฬาแล้วก็ได้อาศัยรถที่บ้านอีกแห่ะในการไปช่วยขนอุปกรณ์ที่ยังตกค้างอยู่ที่มหาวิทยาลัย
เมื่อการเตรียมงานพร้อมแล้ว ทางรุ่นพี่ก็ได้เชิญท่านรอง ซึ่งเป็นตัวแทนอธิการบดีในการมาดูแลนึกศึกษาภูมิภาคในจังหวัดนี้
ขึ้นมากล่าวเปิดงานแล้วหลังจากนั้นการแข่งขันกีฬาก็เริ่มขึ้น แม้ว่าผมจะไม่ใช่คอกีฬาเทาไหร่นักแต่ผมก็เชียร์อย่างออกรส
เพราะฝ่ายนึงก็รุ่นพี่ อีกฝ่ายก็เป็นเพื่อน แล้วยิ่งถ้าเพื่อนๆชนะก็เท่ากับว่าปี1ทุกคนพลอยได้หน้าไปด้วย ก็เลยเฮกันดังลั่นสนาม
ผลการแข่งขันบาสในรอบเช้า รุ่นน้องปี 1 ชนะไปก่อน ซึ่งก็มีการคั่นเวลาให้นักีฬาชายเหล่านั้นไปพักให้หายกันเหนื่อยซะก่อน
ช่วงนี้ก็เป็นช่วงการแข่งขันพวกสันทนาการต่างๆของฝ่ายหญิงกันบ้าง ซึ่งผมรับหน้าที่พิธีกร ทั้งพากษ์ ทั้งแซว สนุกสุดๆเลย
แต่ละเกมส์ที่หามาให้ตะลุยไปทีละดานนั้น ทั้งรุ่นพี่ ทั้งรุ่นน้อง สะบักสะบอมกันชนิดที่ไม่มีใครห่วงสวยหือกลัวเจ็บซักคน
แต่ละคนทำหน้าที่เพื่อให้ทีมผ่านไปด่านต่างๆได้อย่างว่องไวและเก็บแต้มตะแนนไว้ให้มากที่สุด ผมเองยังขำจนพากษ์ต่อไม่ไหว
แล้วที่เห็นความแตกต่างของการแข่งขันกีฬาหลักของผู้ชายกับกีฬาสันทนาการของผู้หญิงก็คือเสียงกรี๊ดนี่แหล่ะครับ
ไม่ใช่กองเชียร์ที่คอยกรี๊ดให้นักีฬาหรอกนะ แต่เป็นนักีฬาหญิงของเราน่ะสิกรี๊ดกันเอง ทำได้ก็กรี๊ด ทำพลาดก็กรี๊ด กรี๊ดได้ตลอด
ในขณะที่เมื่อเช้านี้การแข่งบาสของผู้ชายเป็นการเชียร์แบบเฮกันเป้นพักๆฝ่ายไหนชู๊ตลงก็เฮกันซักทีนึงไม่ได้พร่ำเพรื่อแบบนี้
ทำให้ผมหันไปคุยกับเพื่อนที่เป็นพิธีกรคู่กันว่า
“ผู้หญิงเล่นไม่หนักแต่กรี๊ดเยอะ เหมือนจะเหนื่อยมากแต่เปล่ากรี๊ดเพราะลุ้น”

ช่วงบ่ายมีการแข่งขันบอลกันต่อคราวนี้ฝ่ายรุ่นพี่ปี2คว้าชัยชนะไปได้อย่างสวยงามทีเดียวแล้วก็มาถึงการปิดการแข่งขันซะที
เลิกกิจกรรมกันแล้วก็รวมตัวกันถ่ายรูป เก็บของ แล้วโปรแกรมต่อไปก็คือการกินเลี้ยงของรุ่นพี่รุ่นน้องที่ร้านอาหารในเมืองครับ
คืนนั้นพวกเรากินกันจนอิ่มพูดคุยกันอย่างออกรส ผมว่าความผูกันจากกีฬาสัมพันธ์ครั้งนี้ได้ผลตรงตามที่ตั้งใจไว้จริงๆด้วยครับ


นักศึกษาหน้าใหม่

กระทู้
0
พลังน้ำใจ
33
Zenny
185
ออนไลน์
0 ชั่วโมง
โพสต์ 2012-3-19 14:14:52 | ดูโพสต์ทั้งหมด

รุ่นน้องจูเนียร์

กระทู้
0
พลังน้ำใจ
128
Zenny
1276
ออนไลน์
16 ชั่วโมง
โพสต์ 2012-3-19 17:30:49 | ดูโพสต์ทั้งหมด
มันสายเกินไปกับคำว่าเพื่อน

แสดงความคิดเห็น

คร้าฟ  โพสต์ 2012-3-19 17:40

พี่ว้ากตัวร้าย

กระทู้
3
พลังน้ำใจ
655
Zenny
4096
ออนไลน์
93 ชั่วโมง
โพสต์ 2012-3-21 18:04:35 | ดูโพสต์ทั้งหมด
ขอบคุนครับ

นิสิตสัมพันธ์

กระทู้
9
พลังน้ำใจ
24560
Zenny
38464
ออนไลน์
2328 ชั่วโมง
โพสต์ 2013-6-30 03:36:07 | ดูโพสต์ทั้งหมด
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย dung เมื่อ 2013-6-30 03:36

ขอบคุณมากๆครับ

มหาลัยซีเนียร์

กระทู้
0
พลังน้ำใจ
1456
Zenny
-96
ออนไลน์
698 ชั่วโมง
โพสต์ 2013-12-17 15:52:23 | ดูโพสต์ทั้งหมด
ขอบคุนครสฟ

นักศึกษาหน้าใหม่

กระทู้
0
พลังน้ำใจ
75
Zenny
185
ออนไลน์
19 ชั่วโมง
โพสต์ 2014-2-5 14:57:39 | ดูโพสต์ทั้งหมด

นิสิตสัมพันธ์

กระทู้
0
พลังน้ำใจ
16569
Zenny
5051
ออนไลน์
4273 ชั่วโมง
โพสต์ 2014-2-6 21:34:23 | ดูโพสต์ทั้งหมด

มาเฟียนักศึกษา

กระทู้
0
พลังน้ำใจ
3864
Zenny
791
ออนไลน์
809 ชั่วโมง
โพสต์ 2017-6-26 22:50:02 | ดูโพสต์ทั้งหมด
ขอบคุณครับ

นิสิตสัมพันธ์

กระทู้
0
พลังน้ำใจ
47771
Zenny
20390
ออนไลน์
2061 ชั่วโมง
โพสต์ 2019-10-12 08:09:41 | ดูโพสต์ทั้งหมด

นิสิตสัมพันธ์

กระทู้
0
พลังน้ำใจ
43459
Zenny
28190
ออนไลน์
2119 ชั่วโมง
โพสต์ 2024-1-27 05:15:16 | ดูโพสต์ทั้งหมด
ขอบคุณครับ
ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง เข้าสู่ระบบ | สมัครเข้าเรียน

รายละเอียดเครดิต

A Touch of Friendship: สังคมจะน่าอยู่ เมื่อมีผู้ให้แบ่งปัน ฝากไวเป็นข้อคิดด้วยนะคะชาวจีโฟกายทุกท่าน
!!!!!โปรดหยุด!!!!! : พฤติกรรมการโพสมั่วๆ / โพสแต่อีโมโดยไม่มีข้อความประกอบการโพส / โพสลากอักษรยาว เช่น ครับบบบบบบบบ, ชอบบบบบบบบ, thxxxxxxxx, และอื่นๆที่ดูแล้วน่ารำคาญสายตา เพราะถ้าท่านไม่หยุดทีมงานจะหยุดท่านเอง
ขอความร่วมมือสมาชิกทุกท่านโปรดโพสตอบอย่างอื่นนอกเหนือจากคำว่า ขอบคุณ, thanks, thank you, หรืออื่นๆที่สื่อความหมายว่าขอบคุณเพียงอย่างเดียวด้วยนะคะ เพื่อสื่อถึงความจริงใจในการโพสตอบกระทู้ และไม่ดูเป็นโพสขยะ
กระทู้ไหนที่ไม่ใช่กระทู้ในลักษณะที่ต้องโพสตอบโดยใช้คำว่าขอบคุณ เช่นกระทู้โพล, กระทู้ถามความเห็น, หรืออื่นๆที่ทีมงานอ่านแล้วเข้าข่ายว่า โพสขอบคุณไร้สาระ ทีมงานขอดำเนินการตัดคะแนน และ/หรือให้ใบเตือนสมาชิกที่โพสขอบคุณทันทีที่เจอนะคะ

รูปแบบข้อความล้วน|โทรศัพท์มือถือ|ติดต่อลงโฆษณา|จีโฟกายดอทคอม

ข้อความที่ท่านได้อ่านในเว็บจีโฟกายดอทคอมนี้ เกิดจากการเขียนโดยสาธารณชน และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ หากท่านพบเห็นข้อความใดๆ ที่ขัดต่อกฎหมาย และศิลธรรม ไม่เหมาะสมที่จะเผยแพร่ ท่านสามารถแจ้งลบข้อความได้ที่ Link “แจ้งลบโพสนี้” ที่มีอยู่ใต้ข้อความทุกข้อความ หรือ ลืมพาสเวิดล๊อกอิน/ลืมชื่อที่ใช้สมัคร หรือข้อสงสัยใดๆแจ้งมาที่ G4GuysTeam[at]yahoo.com ขอขอบพระคุณที่ให้ความร่วมมือ

กรณีที่ข้อความ/รูปภาพในกระทู้นี้จัดสร้างโดยผู้ลงข้อมูลเอง ลิขสิทธิ์จะเป็นของผู้ลงข้อมูลโดยตรง หากจะทำการคัดลอก/เผยแพร่ ต้องได้รับอนุญาตจากผู้ลงข้อมูลก่อนนะคะ หรือลงที่มาไว้ด้วยค่ะ

©ขอสงวนสิทธิ์คอนเซ็ปต์,คำอธิบาย,หัวข้อ/หมวดหมู่เว็บ ห้ามลอกเลียนแบบ คิดเอาเองนะคะอย่าเอาแต่ลอก

GMT+7, 2024-11-26 05:33 , Processed in 0.110290 second(s), 31 queries .

Powered by Discuz! X3.5, Rev.8

© 2001-2024 Discuz! Team.

ตอบกระทู้ ขึ้นไปด้านบน ไปที่หน้ารายการกระทู้