ลืมรหัสผ่าน
 สมัครเข้าเรียน
ค้นหา
ดู: 635|ตอบกลับ: 8

++ กว่าจะรู้ว่ารัก ++ @ 13- 15 ภาค 3

[คัดลอกลิงก์]

โสด

   ศาสตราจารย์เอื้ออาทร
อาจารย์พิเศษ
ถ้าหากว่าซ้ำต้องขออภัยนะครับและขอโทษเจ้าของเรื่องด้วยนะครับเพราะว่าคัดลอกมาอีกที
ความเดิมตอนที่แล้ว


ตอนที่ลูกๆของลุงวิชิตและพี่ชายของผมยังเด็กๆนั้นเราสองครอบครัวเคยไปมาหาสู่กันบ้างทำให้พี่ๆทั้งสองคนรู้จักกับพี่ชายผม
แต่ในรุ่นของผมตั้งแต่จำความได้ก็ยังไม่เคยพบกับลูกๆทั้งสองของลุงวิชิตเลยครับไม่รู้จะเจ้ายศเจ้าอย่างบ้าชาติตระกูลเหมือน
ลุงวิชิตหรือเปล่า ผมไม่มีเวลานึกเรื่อยเปื่อยได้นานนัก เสียงแนะนำตัวของลูกชายลุงวิชิตก็ดังขึ้นขัดมโนภาพของผมวะก่อนแล้ว
“สวัสดีครับคุณหญิง ผมเพิ่งกลับมาถึงเลยมาทักทายช้าไปหน่อย นี่คงเป็นน้องนิวใช่มั้ยจ๊ะโตเป็นหนุ่มแล้วนะ น่ารักซะด้วยสิ”

ตอนที่ 13 งานพิเศษในตำแหน่งผู้ช่วยเลขานุการ
อย่าเพิ่งแปลกใจเลยครับที่ตำแหน่งของผมผิดเพี้ยนไปจากงานที่ผมสมัครเอาไว้มากมายนัก ก็อย่างที่บอกล่ะครับว่าผมยังเรียน
ไม่จบมีวุฒิแค่ ม.6 เท่านั้นที่ใช้สมัครงานพาร์ทไทม์ตามร้านอาหารฟาสท์ฟูดที่ต่างๆ ซึ่งผมก็สมัครไปเรื่อยเดินเข้าออกหลายร้าน
แต่เชื่อมั้ยครับจนผมส่งค่าผ่อนบ้านงวดแรกคือ วันที่ 15 กันยายน 2554 ให้ลุงวิชิตไปแล้วผมก็ยังหางานพิเศษทำไม่ได้เลยครับ
เมื่อผมโทร.แจ้งการโอนเงินให้ลุงวิชิตทราบ เค้าก็ถามว่าผมทำงานเป็นไงบ้างเมื่อผมบอกไปตามตรงว่ายังไม่ได้งานพิเศษทำเลย
ลุงวิชิตจึงยื่นข้อเสนอให้ผมไปทำงานที่บริษัทของลุงวิชิตอีกครั้ง ผมตัดสินใจรับปากเพราะไม่อยากให้เค้าคิดว่าผมจนแล้วหยิ่ง
เมื่อผมเล่นบทบาทลูกหนี้ที่น่าสงสารให้เค้าเห็นใจมาแต่ต้นผมก็จำเป็นต้องโอนอ่อนผ่อนตามเพื่อให้เค้าเห็นใจผมต่อไปเรื่อยๆ
ผมกำลังจะไปเริ่มงานในตำแหน่งผู้ช่วยเลขานุการ ที่บริษัทส่งออกอาหาทะเลของลุงวิชิตโดยอยู่แผนกของ พี่ศรัณย์ ซะด้วยสิครับ
ความจริงหน้าที่ของผมตามที่ผมเข้าใจเอาเอง ก็เหมือนเด็กเดินเอกสารในออฟฟิศทั่วไปมากกว่าตำแหน่งผู้ช่วยเลขาที่ฟังสวยหรู
จนผมอดนึกไม่ได้ว่าตำแหน่งงานสวยหรูตามบริษัทที่ผมเคยผ่านหูผ่านตามานี้พอเข้าไปทำงานจริงๆจะมีหน้าที่เป็นเบ๊แบบนี้มั้ย
แต่ในเมื่อรับปากไปแล้วก็ต้องยึดคอนเซปท์พูดจริงทำจริงเหมือนเรื่องผ่อนบ้านล่ะครับ คือเมื่อบอกว่าเดือดร้อนอยากได้งานทำ
และได้รับโอกาสจากเจ้าหนี้ให้ไปทำงานในบริษัทเค้า (บอกตรงๆผมรู้สึกเหมือนแรงงานทาสที่ต้องเอาตัวไปขัดดอกใช้หนี้เค้า)
ผมก็ต้องทำหน้าที่ลูกหนี้ที่ดีและน่าสงสารจะให้ปฏิเสธข้อเสนอของลุงวิชิต เค้าก็จะหาว่าผมเลือกงานพาลจะไม่สงสารผมซะอีก
ก่อนจะเล่ารายละเอียดการทำงานของผมให้ทราบ คงต้องขอเล่าย้อนไปถึงช่วงเวลาสิบกว่าวันก่อนจะมาทำงานพิเศษที่กรุงเทพฯ
คุณหญิงน้าไม่เห็นด้วยเท่าไหร่ในตอนแรกที่ผมเรียนให้ท่านทราบ แต่เมื่อผมบอกเหตุผลที่ตัดสินใจแบบนี้ คุณหญิงน้าจึงเข้าใจ
ผมเรียนที่รามคำแหงซึ่งมีระบบไม่เข้าเรียน(ก็ได้แต่อาจไม่ดีเท่าไปเข้าเรียน)ใช้วิธีลัดคือ อ่านหนังสือแล้วไปสอบให้ครบก็ได้แล้ว
จึงง่ายต่อการย้ายตัวเองมาพำนักที่บ้านของคุณหญิงน้าที่กรุงเทพฯ ผมจะเริ่มงานต้นเดือนตุลาคมจึงเหลือเวลาเตรียมตัวเพียง 12 วัน
ซึ่งในช่วงเวลานี้ผมก็ต้องจัดเตรียมเรื่องการเรียนให้รอบคอบ ทั้งฝากเพื่อนจดเลคเชอร์แทน ฝากเพื่อนขอแนวข้อสอบจากอาจารย์
กลับมาเล่าเรื่องการทำงานพิเศษในตำแหน่งเบ๊ เอ๊ย…ตำแหน่งผู้ช่วยเลขานุการ กันต่อดีกว่าครับ แหม ชื่อยาวจนโอเว่อร์เลยแฮะ
เอาเข้าจริงก็มีหน้าที่เป็นเบ๊ในออฟฟิศอยู่ดีแหล่ะว๊า….. แต่ถึงจะมีหน้าที่อะไรผมก็ต้องก้มหน้าก้มตาทำไปแหล่ะครับเพราะถือว่า
เป็นบทบาทที่พ่วงมากับหน้าที่ลูกหนี้ผู้อาภัพและต้องการความช่วยเหลือ ผมมาคิดในอีกแง่นึงก็ถือว่ายังไงซะผมก็ต้องหางานทำ
ไม่ว่าจะเป็นงานที่ไหนก็เพื่อจะหารายได้มาช่วยผ่อนหนี้สินให้ลุงวิชิต ผมไม่อยากให้ลุงวิชิตคิดว่าเมื่อคุณหญิงน้ายื่นมือเข้าช่วย
ผมก็เลยผลักภาระไปให้คุณหญิงน้าทั้งหมด ผมเองก็คงรู้สึกแย่ถ้าผมไม่ได้มีส่วนรับผิดชอบภาระของคนในครอบครัวด้วยตัวเอง
อะไรที่พอช่วยได้แม้เป็นแค่เศษเงินไม่กี่พันบาทต่อเดือน อาจเทียบไม่ได้เลยกับเงินเป็นล้านของคุณหญิงน้าที่ช่วยเหลือผมอยู่นี้
แต่ก็ดีกว่าการที่ผมมีแต่เอาหน้าด้วยการพูดว่าจะรับผิดชอบแทนคุณป๋านายแม่หรือพี่ชายโดยที่ไม่ได้ทำอะไรให้เงินงอกเงยขึ้นมา
ด้วยความที่เมื่อรับปากแล้วผมก็ฟิตจัดอยากมาทำงานใช้หนี้ (เหมือนทาสขัดดอก) ให้หมดหนี้หมดสินกันไปสักทีผมก็คิดเอาเองว่า
คงไม่นานนักหรอกครับเพราะผมเริ่มงานต้นเดือนตุลาคม โดยระยะเวลาสิ้นสุดภาระหนี้สินก็ไม่เกินเดือนธันวาคมปีนี้แน่นอน
ผมจึงกัดฟันเอาวะ….เป็นไงเป็นกันถึงต้องก้มหน้าก้มตาทำงานใช้หนี้หรือจะต้องไปเจอแรงกดดันสักแค่ไหนก็คงทนไม่นานนัก
เมื่อตัดสินใจไปขัดดอกอย่างแน่วแน่แล้วขั้นตอนต่อไปก็คือการสอบถามเส้นทางจากบ้านคุณหญิงน้าที่นนทบุรีเพื่อฝ่ารถติดไป
ทำงานพิเศษไกลถึงศรีนครินทร์ซึ่งแทบจะเป็นการเดินทางข้ามเมืองเลยทีเดียวนะนั่น (คงใช้เวลาพอๆกับไปต่างจังหวัดแน่เลย)
เมื่อสอบถามรายละเอียดที่ตั้งของอาคาร ถนน แยก ตรอก ซอยของบริษัทลุงวิชิต ก็ทำให้พี่ศรันย์รู้สึกว่าผมคงลำบากซะเหลือเกิน
กว่าจะไปถึงบริษัทของเค้า พี่ศรันย์บอกว่าท่าทางผมจะต้องลดเลี้ยวไปอีกหลายถนนแน่เลย ดีไม่ดีจะเริ่มงานสายซะตั้งแต่วันแรก
ดังนั้นคืนก่อนที่ผมจะเริ่มงาน ผมจำเป็นต้องไปค้างคืนที่บ้านลุงวิชิต ทีแรกคุณหญิงน้าเห็นว่าไม่จำเป็นและไม่อยากให้ไปค้างคืน
จะให้น้าเขยขับรถไปส่งที่บริษัทแต่พอคำนวนเวลาแล้วผมเห็นว่าไม่คุ้มเท่าไหร่ผมจึงตัดสินใจไปค้างคืนตามคำชวนของพี่ศรัณย์
ตอนที่ 14 เริ่มงานวันแรก
อย่างที่เพื่อนๆรู้กันอยู่แล้วว่าเวลาที่ผมต้องไปเริ่มทำในสิ่งใหม่ๆ ผมมักจะหวาดหวั่นและตื่นเต้นจนอยากจะหลีกหนีไปให้ไกล
โดยเฉพาะเมื่อผมต้องไปเริ่มสิ่งใหม่ๆในที่ใหม่ๆและไม่มีเพื่อนหรือคนสนิทอยู่เป็นกำลังใจด้วยแล้วล่ะก็ โหย…อยากจะชิ่งจริงๆ
แต่ผมก็ชิ่งไม่ได้ครับแม้ว่าในใจของผมจะฝ่อลงทุกขณะที่เท้าของผมก้าวเข้าไปในบริษัทของลุงวิชิต มันใหญ่โตและแปลกที่ครับ
ผมรู้สึกครั่นเนื้อครั่นตัวอย่างกับคนจะเป็นไข้ ยังแอบคิดในใจว่าผมคงจะรู้สึกหายใจหายคอโล่งกว่านี้ถ้าได้กลับออกไปซะตอนนี้
ถึงอย่างไรก็ทำได้แค่แอบคิด เพราะจะให้บอกออกมาดังๆก็ทำไม่ได้ แหม…จะให้บอกใครล่ะครับด้านหน้าเป็นลุงวิชิตเจ้าหนี้ผม
ที่เดินประกบมาด้านหลังก็เป็นพี่ศรัณย์เจ้านายคนใหม่ของผม และการที่ผมไปค้างคืนที่บ้านเค้าทำให้ต้องมาทำงานพร้อมกับเค้า
เฮ้อ…มานึกว่าจะหนีตอนนี้ก็ไม่ทันซะแล้วล่ะน่ะ ไม่ได้ละ จะมัวแต่ขี้ขลาดแบบนี้ได้ไงต้องสู้สิ ต้องก้าวข้ามตัวตนไปให้ได้สินิว
คุณวิลันดา หรือพี่วิ เป็นเลขานุการตัวจริงของพี่ศรันย์ พี่วิเป็นสาวอ้วนใจดีและอารมณ์ดีอย่างฟุ่มเฟือยก็ดีครับที่เรียนรู้งานกับพี่วิ
เพราะคนอารมณ์ดีอย่างพี่วิช่วยทำให้เรื่องที่ผมรู้สึกยากกลายเป็นเรื่องง่าย ทำให้ความเอ๋อของผมกลายเป็นสิ่งน่าเอ็นดูของพี่วิเค้า
ถ้าผมต้องไปเรียนรู้งานกับเลขานุการคนอื่นๆที่เนี๊ยบ เฮี๊ยบ หรือดุ ผมคงยิ่งเกร็งยิ่งประหม่าและทำผิดทำถูกหนักกว่าเดิมแน่ครับ
ซึ่งการทำงานของผมก็ไม่มีอะไรซับซ้อนหรอกครับเพียงแต่เป็นสิ่งที่ผมไม่เคยทำอย่างจริงจังมาก่อน ก็เลยต้องข่มความประหม่า
ของตัวเองซะก่อนแล้วค่อยๆทำตามคำสั่งของพี่วิไปทีละอย่าง ตัวอย่างเช่นผมพิมพ์งานได้ ถ่ายเอกสารเป็นแต่ถ้าต้องทำตามคำสั่ง
ก็คงจะทำทิ้งๆขว้างๆไม่ได้กระดาษทุกแผ่นต้องใช้อย่างคุ้มค่า การพิมพ์แต่ละตัวอักษรต้องพิจารณาหลายรอบก่อนสั่งปริ้นท์งาน
เห็นมั้ยครับสิ่งง่ายๆที่เคยทำกลายเป็นสิ่งไม่ง่ายเลยเมื่อต้องทำอย่างจริงจังและมีการประเมินผลการทำงานที่จะตามมาอีกด้วยนี่นา
ตอนพักเที่ยงพนักงานที่นี่จะไปทานข้าวที่ร้านขายอาหารชั้นใต้ดินของอาคารสำนักงานกันแทบทั้งนั้น ผมก็ต้องไปทานที่นี่ด้วย
แต่เพราะว่างานที่ผมพิมพ์ค้างไว้ยังไม่เรียบร้อยดี ผมก็เลยขอแก้งานอีกนิดหน่อย พี่วิก็ใจดีมากบอกว่าจะรอไปทานพร้อมกับผม
ผมคิดว่าคงนานเกรงใจพี่วิด้วยจึงให้พี่เค้าเขียนแผนผังว่าจะลงไปทานอาหารชั้นใต้ดินยังไงแล้วผมจะลงไปทานเองเมื่องานเสร็จ
“ยังไม่ไปทานข้าวอีกเหรอน้องนิว”
เสียงพี่ศรัณย์ถามขึ้นเมื่อเค้าเดินมาหยุดตรงหน้าโต๊ะคอมฯ
“ยังหรอกครับ เหลืออีกนิดหน่อยน้องอยากพิมพ์ให้เสร็จก่อน ตอนบ่ายจะได้ทำงานอื่นต่อ ไม่อยากให้งานค้าง”
ผมหยุดพิมพ์แล้วเงยหน้าขึ้นมาตอบคำถามของพี่ศรันย์ ก่อนจะก้มหน้าก้มตาพิมพ์งานต่อไป
“ไปทานข้าวเถอะ บ่ายๆค่อยกลัมาพิมพ์ นี่ถ้าคุณพ่อทราบว่าน้องนิวทำงานจนลืมทานข้าวท่านคงไม่สบายใจ”
พูดไม่พูดเปล่า พี่ศรัณย์ยังเดินอ้อมมาทางด้านหลังเก้าอี้ที่ผมนั่งแล้วเอื้อมมากดเซฟงานในเครื่องและลากเม้าส์ปิดเครื่องด้วย
“เห็นมั้ยแค่นี้ก็ไปทานข้าวได้แล้ว”
พี่ศรัณย์หันมายิ้มเหมือนกับว่าทุกอย่างที่เค้าว่าง่ายมันก็ต้องง่ายเสมอไป
“แต่น้องอยากทำให้เสร็จน่ะครับ ถ้างานค้างไปทานข้าวก็ไม่อร่อยน่ะครับ”
ผมยังคงปฎิเสธเพราะต้องการเคลียร์งานให้เรียบร้อยก่อน
“อร่อยหรือไม่อร่อยก็ต้องทานนะครับ ไม่งั้นน้องนิวเกิดป่วยตั้งแต่ทำงานวันแรก พี่ก็รับผิดชอบไม่ไหวนะครับ”
พี่ศรัณย์ยังคงยืนยันความคิดของเค้าด้วยเหตุผลด้านสุขภาพของผมเพื่อจะให้ผมไปนั่งทานข้าวด้วยให้ได้
“น้องเป็นภาระให้พี่ศรัณย์รึเปล่าครับ งั้นน้องไปทานข้าวเลยก็ได้จะได้มีแรงทำงานได้นานๆไม่ป่วยไข้ไปซะก่อน”
ผมพูดแล้วลุกขึ้นสะพายกระเป๋าเตรียมจะเดินออกไปที่ร้านอาหารตามแผนผังที่พี่วิเขียนไว้ให้
“น้องนิวอย่าคิดมากสิครับ พี่เป็นห่วงครับไม่ได้เห็นว่าเป็นภาระ อีกอย่างพี่ก็หิวแล้วด้วยถ้าน้องนิวไม่ไปทานข้าวกับพี่
จะปล่อยให้พี่ไปนั่งทานคนเดียวเหรอครับ พี่ตั้งใจว่าถ้าน้องนิวมาทำงานพี่คงมีเพื่อนทานข้าวกลางวันด้วยซะหน่อยน่ะครับ”
เอ.......เหตุผลของพี่ศรัณย์เริ่มจะไม่เกี่ยวกับประสิทธิภาพในการทำงานของผมซะแล้วสิ
“อ้าว ขอโทษครับ น้องไม่ทราบว่าพี่ศรัณย์ยังไม่ได้ทานข้าว งั้นไปทานกันเลยก็ได้ครับ พี่คงหิวมากแล้วล่ะเนอะ”
ผมยิ้มให้พี่ศรัณย์แม้ในใจผมออกจะอึดอัดที่รู้สึกว่าเค้าตามเฝ้าคุมผมแจอย่างกับผมเป็นนักโทษที่ต้องอยู่ในสายตาผู้คุมก็ไม่ปาน
“เดี๋ยวครับ” พี่ศรัณย์ดึงมือผมไว้เมื่อผมจะเดินนำออกไป
“พี่อยากให้น้องนิวทานข้าวกลางวันกับพี่ทุกวันได้มั้ยครับ”
เอาล่ะสิ แค่ดึงมือผมไว้ก็สะดุ้งแล้วยังจะมาพูดแบบนี้แถมส่งสายตากรุ้มกริ่มให้ผมอีก
“เอ่อ ก็ต้องได้ล่ะครับ ถ้ามันเป็นอีกหน้าที่นึงของน้อง”
ผมหันไปตอบยิ้มๆแม้ว่าในใจของผมเริ่มขุ่นเคืองขึ้นมาซะจนอยากถามว่า ‘นี่มันเกี่ยวกับหน้าที่ผู้ช่วยเลขานุการตรงไหนวะเนี่ย’
ตอนที่ 15 นายทึ่มเนื้อหอม
เพื่อนๆครับคิดถึง เทค กันรึยังครับ แหม…คำถามนี้เหมือนจุดระเบิดใส่ตัวเองยังไงชอบกล คงมีหลายคนบอกว่าคิดถึงจะแย่
แต่จะทำไงได้เพราะคนเล่าเรื่องอย่างผม ไม่ยอมเล่าเรื่องของเทคซักที โธ่…ไม่ใช่ว่าผมไม่อยากเล่าเรื่องของ เทค หรอกนะครับ
แต่เพราะช่วงเวลาที่ปัญหาสารพัดมารุมเร้าผมนั้น ก็เป็นช่วงสร้างเนื้อสร้างตัวของนายทึ่มพอดีน่ะครับ ทำไมผมรู้เหรอครับ อิอิ
ก็เพราะหลังจากที่ผมไม่ได้ออนM เป็นเวลานานนักหนา ทำได้แค่เพียงหาเวลาว่างเชคเมล์จากนายทึ่มเพียงสัปดาห์ละครั้งเท่านั้น
ผมก็ไม่ค่อยได้ข่าวจากนายทึ่มซักเท่าไหร่เหมือนกันแหล่ะครับ นานๆทีจะมีเมล์มาเล่าความคืบหน้าเรื่องการงานที่เจริญขึ้นทุกที
แต่คราวนี้จะไม่เล่าหรือทำเป็นข้ามๆไปเห็นจะไม่ได้หรอกครับ เพราะจดหมายที่ส่งตรงมาถึงผมในคราวนี้สำคัญจนไม่เล่าไม่ได้
ผมมาทำงานพิเศษอยู่บริษัทของลุงวิชิตได้เกือบเดือนแล้วครับ ระหว่างนี้ผมไม่ได้อยู่ที่บ้านคุณหญิงน้าเหมือนที่เคยตั้งใจไว้
เพราะหลังจากไปเริ่มงานที่บริษัทของลุงวิชิตได้เพียงวันเดียว ผมก็เพิ่งทราบว่านอกจากหน้าที่เบ๊ประจำออฟฟิศของผมแล้ว
ผมจะต้องย้ายมาอยู่บ้านลุงวิชิตตลอด3เดือนนี้ แต่จะไปค้างบ้านคุณหญิงน้าได้ทุกศุกร์และเสาร์เนื่องจากรุ่งขึ้นไม่ต้องทำงาน
แต่ในคืนวันอาทิตย์จนถึงคืนวันพฤหัสฯผมต้องมาอยู่มากินที่บ้านลุงวิชิตตลอดเพื่อจะไปทำงานพร้อมกับพี่ศรัณย์ในทุกๆเช้า
ตอนที่ผมส่งเมล์ไปเล่าให้เทคฟังเกี่ยวกับสถานการณ์ที่เปลี่ยนไปของผม ก็ไม่ได้หวังว่าจะให้เทครู้สึกเป็นเดือดเป็นร้อนไปด้วย
เพียงแต่เป็นการเล่าความเป็นไปของผมให้เทครับรู้ เหมือนที่ เทค ก็เล่าเรื่องหน้าที่การงานที่มีแต่ก้าวหน้าและมั่นคงขึ้นเรื่อยๆ
ผมบอกเค้าว่าถึงผมไม่ได้อยู่ที่บ้านคุณหญิงน้าเป็นหลักแต่ถ้ามีธุระอะไรก็ให้ส่งจดหมายไปที่บ้านคุณหญิงน้าจะสะดวกกว่าครับ
เพราะช่วงวันหยุดที่ผมมาค้างที่บ้านคุณหญิงน้า ผมก็จะได้รับจดหมายจากทุกคนที่ส่งมาโดยคุณหญิงน้าจะเก็บไว้ให้ทุกฉบับเลย
แหม…..เกริ่นมาตั้งนานยังไม่เข้าเรื่องจดหมายของเทคซักที ใจเย็นๆครับยังไงผมต้องเอามาพิมพ์ให้เพื่อนๆอ่านแน่นอนล่ะครับ
อย่างที่บอกว่าเป็นจดหมายสำคัญจริงๆ ดังนั้นจะไม่ข้ามรายละเอียดเรื่องนี้ไปอย่างแน่นอน จะพิมพ์ชนิดถอดคำต่อคำกันเลยเชียว
แต่ก่อนจะไปเรื่องจดหมายของนายทึ่ม ผมจะขอเล่าความเป็นไปของเทคให้เพื่อนๆฟังอย่างคร่าวๆก่อนดีกว่าครับจะได้ทราบว่า
ตลอดเวลาที่ผ่านมาแม้ผมจะไม่ได้เล่าเรื่องของ เทค เป็นกิจลักษณะแต่ผมก็ยังได้รู้ข่าวของเพื่อนรักคนนี้อยู่เสมอๆแหล่ะนะครับ
ผมว่าประมวลมาเป็นข้อๆดีกว่า แล้วมาดูกันว่านายทึ่มของผมกลายเป็นนายเทคเสน่ห์แรงไปได้ยังไง แหม…เนื้อหอมจริงจริ๊งเทค
1. ตั้งแต่ทำงานเป็นผู้จัดการฯ เทค มีรถขับหรูหรากว่าเดิม ไปไหนมาไหนใครๆก็คำนับให้อย่างเต็มใจ
2. ตอนนี้งานที่เทคออกแบบจะไม่ใช่เป็นชิ้นๆแบบแต่ก่อน แต่จะเป็นการดีไซน์แบบคอลเลคชั่นแล้วออกวางขาย
3. เมื่อไม่นานมานี้เทคบอกว่าไปเจอผู้ชายคนนึงเป็นคนมาเลเซีย เห็นเทคบรรยายมาว่าหน้าตาน่ารักซะเหลือเกิน แหม…แกนะแก
4. ถัดมาไม่นานเทคก็ส่งข่าวมาว่าหนุ่มมาเลย์คนนั้นเดินทางไปเจอเทคที่สิงคโปร์ เห็นว่าลองคุยๆกันดูก็ไปด้วยกันได้ดีซะด้วย
5. มีข่าวล่ามาไว ว่าเริ่มคบกันแบบไกลๆซะแล้วล่ะครับ เจอกันแป๊บเดียวก็คบกันซะแล้ว ไวไฟเกินไปแล้วนะเทค
6. ผ่านจากเรื่องที่ เทค มีแฟนเป็นหนุ่มหน้าหวานขาวมาเลย์ได้ไม่นาน เค้าก็ส่งข่าวมาว่าพ่อของเค้าอยากจะให้แต่งงานซะแล้ว
7. ที่ตลกก็คือ การดูตัวแบบประเพณีโบราณ ซึ่งเทคบอกว่าคนทันสมัยอย่างพ่อเค้าไม่น่าใช้วิธีคร่ำครึแบบนี้ได้เลย
8. เทค ส่งเมล์มาเล่าว่า ผู้หญิงที่เค้าต้องแต่งงานด้วยเป็นลูกสาวของหุ้นส่วนคนนึงของพ่อเค้าซึ่งคงใช้ระบบเงินต่อเงินล่ะมั้งครับ
9. ผู้หญิงคนนี้ อายุเพิ่งจะ18เองนะ เรียนจบจากโรงเรียนคอนแวนต์มีระดับจากฝั่งยุโรปนู่น เอ…ประเทศไหนผมก็ลืมไปแล้วสิ
10. ที่แน่ๆก็คือน้องผู้หญิงคนนี้มีอาการปักอกปักใจกับเทคตั้งแต่แรกเห็น ส่งภาษาอังกฤษชนิดออดอ้อนซะเทคแทบละลาย

11. ผมรับฟังเรื่องการแต่งงานของเทค แบบขำๆรู้สึกว่าไม่น่าจะเป็นไปได้แต่เทคเองกลับร้อนใจและเคร่งเครียดเหลือเกิน
12. และแล้วก็ไม่มีการแต่งงานเกิดขึ้นจริงๆ ผมนึกอยู่แล้วล่ะครับแต่ที่ผมนึกไม่ถึงก็คือ เทคไปบอกผู้หญิงคนนั้นว่าเค้าเป็นเกย์
13. แฟนหนุ่มของเทคถูกตามตัวจากมาเลเซีย เพื่อมายืนยันกับผู้หญิงคนนี้ว่าเทคมีแฟนหนุ่มเป็นตัวเป็นตนแน่ๆแล้ว เฮ้อ..ยุ่งจริง
14. ก่อนจะมาถึงข่าวอัพเดทล่าสุดในจดหมายที่เทคส่งมาถึงผม ผมรู้มาว่าหลังยกเลิกการแต่งงานเทคก็เลิกกับแฟนหนุ่มซะแล้ว
15. ผมบอกเทคเรื่องความอึดอัดใจที่ต้องมาทำงานใช้หนี้ให้กับบริษัทของลุงวิชิตและต้องรับคำสั่งที่ไม่เกี่ยวกับงานจากพี่ศรัณย์อีกด้วย
เทคว่าจะช่วยผมแก้ปัญหาแต่ผมจะสนใจรึเปล่า ผมก็เลยให้เค้าบอกข้อเสนอที่ว่าและข้อเสนอของเค้าก็อยู่ในจดหมายซึ่งจะเล่าในตอนหน้า



รุ่นน้องจูเนียร์

กระทู้
0
พลังน้ำใจ
143
Zenny
984
ออนไลน์
25 ชั่วโมง
โพสต์ 2012-3-19 15:46:50 | ดูโพสต์ทั้งหมด

พี่ว้ากตัวร้าย

กระทู้
3
พลังน้ำใจ
655
Zenny
4096
ออนไลน์
93 ชั่วโมง
โพสต์ 2012-3-21 20:31:42 | ดูโพสต์ทั้งหมด
ขอบคุนครับ

นิสิตสัมพันธ์

กระทู้
9
พลังน้ำใจ
24520
Zenny
38558
ออนไลน์
2323 ชั่วโมง
โพสต์ 2013-6-30 21:00:21 | ดูโพสต์ทั้งหมด
ขอบคุณมากๆครับ

มหาลัยซีเนียร์

กระทู้
0
พลังน้ำใจ
1456
Zenny
-96
ออนไลน์
698 ชั่วโมง
โพสต์ 2013-12-17 18:45:04 | ดูโพสต์ทั้งหมด
ขอบคุนคราฟ

นักศึกษาหน้าใหม่

กระทู้
0
พลังน้ำใจ
75
Zenny
185
ออนไลน์
19 ชั่วโมง
โพสต์ 2014-2-5 15:59:50 | ดูโพสต์ทั้งหมด
ขอบ คุน นะ คราฟ
 นักศึกษาภาคพิเศษ (M.D.A)
ปริญญากิตติมศักดิ์
โพสต์ 2018-5-2 07:15:17 | ดูโพสต์ทั้งหมด

นิสิตสัมพันธ์

กระทู้
0
พลังน้ำใจ
47756
Zenny
20375
ออนไลน์
2060 ชั่วโมง
โพสต์ 2019-10-12 12:13:16 | ดูโพสต์ทั้งหมด

นิสิตสัมพันธ์

กระทู้
0
พลังน้ำใจ
43459
Zenny
28190
ออนไลน์
2119 ชั่วโมง
โพสต์ 2024-1-27 06:19:07 | ดูโพสต์ทั้งหมด
ขอบคุณครับ
ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง เข้าสู่ระบบ | สมัครเข้าเรียน

รายละเอียดเครดิต

A Touch of Friendship: สังคมจะน่าอยู่ เมื่อมีผู้ให้แบ่งปัน ฝากไวเป็นข้อคิดด้วยนะคะชาวจีโฟกายทุกท่าน
!!!!!โปรดหยุด!!!!! : พฤติกรรมการโพสมั่วๆ / โพสแต่อีโมโดยไม่มีข้อความประกอบการโพส / โพสลากอักษรยาว เช่น ครับบบบบบบบบ, ชอบบบบบบบบ, thxxxxxxxx, และอื่นๆที่ดูแล้วน่ารำคาญสายตา เพราะถ้าท่านไม่หยุดทีมงานจะหยุดท่านเอง
ขอความร่วมมือสมาชิกทุกท่านโปรดโพสตอบอย่างอื่นนอกเหนือจากคำว่า ขอบคุณ, thanks, thank you, หรืออื่นๆที่สื่อความหมายว่าขอบคุณเพียงอย่างเดียวด้วยนะคะ เพื่อสื่อถึงความจริงใจในการโพสตอบกระทู้ และไม่ดูเป็นโพสขยะ
กระทู้ไหนที่ไม่ใช่กระทู้ในลักษณะที่ต้องโพสตอบโดยใช้คำว่าขอบคุณ เช่นกระทู้โพล, กระทู้ถามความเห็น, หรืออื่นๆที่ทีมงานอ่านแล้วเข้าข่ายว่า โพสขอบคุณไร้สาระ ทีมงานขอดำเนินการตัดคะแนน และ/หรือให้ใบเตือนสมาชิกที่โพสขอบคุณทันทีที่เจอนะคะ

รูปแบบข้อความล้วน|โทรศัพท์มือถือ|ติดต่อลงโฆษณา|จีโฟกายดอทคอม

ข้อความที่ท่านได้อ่านในเว็บจีโฟกายดอทคอมนี้ เกิดจากการเขียนโดยสาธารณชน และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ หากท่านพบเห็นข้อความใดๆ ที่ขัดต่อกฎหมาย และศิลธรรม ไม่เหมาะสมที่จะเผยแพร่ ท่านสามารถแจ้งลบข้อความได้ที่ Link “แจ้งลบโพสนี้” ที่มีอยู่ใต้ข้อความทุกข้อความ หรือ ลืมพาสเวิดล๊อกอิน/ลืมชื่อที่ใช้สมัคร หรือข้อสงสัยใดๆแจ้งมาที่ G4GuysTeam[at]yahoo.com ขอขอบพระคุณที่ให้ความร่วมมือ

กรณีที่ข้อความ/รูปภาพในกระทู้นี้จัดสร้างโดยผู้ลงข้อมูลเอง ลิขสิทธิ์จะเป็นของผู้ลงข้อมูลโดยตรง หากจะทำการคัดลอก/เผยแพร่ ต้องได้รับอนุญาตจากผู้ลงข้อมูลก่อนนะคะ หรือลงที่มาไว้ด้วยค่ะ

©ขอสงวนสิทธิ์คอนเซ็ปต์,คำอธิบาย,หัวข้อ/หมวดหมู่เว็บ ห้ามลอกเลียนแบบ คิดเอาเองนะคะอย่าเอาแต่ลอก

GMT+7, 2024-11-23 06:43 , Processed in 0.115416 second(s), 28 queries .

Powered by Discuz! X3.5, Rev.8

© 2001-2024 Discuz! Team.

ตอบกระทู้ ขึ้นไปด้านบน ไปที่หน้ารายการกระทู้