ในปัจจุบันเรื่อง “การกินอาหารตามกรุ๊ปเลือด” มีอิทธิพลทางความเชื่อสูง มากว่าคนแต่ละกรุ๊ปเลือดต้องกินอาหารที่เหมาะสมกับกรุ๊ปเลือดของตนเท่านั้นจึงจะดีต่อสุขภาพ ความเชื่อนี้เป็นเรื่อง Talk of the world มานานตั้งแต่ปี 1996 หลังจากที่ Dr.Peter J. D'Adamo แพทย์ด้านธรรมชาติบำบัดเขียนหนังสือชื่อ “Eat Right 4 Your Type” จนโด่งดัง ซึ่งถูกแปลมากกว่า 65 ภาษาทั่วโลกและได้รับการยกย่องว่าเป็น 1 ใน 10 หนังสือด้านสุขภาพที่ทรงอิทธิพลตลอดกาล เพราะเขาสามารถสร้างกระแส “การกินอาหารตามกรุ๊ปเลือด” จนฮือฮาไปทั่วโลกนั่นเอง เขาใช้เวลาศึกษาเรื่องการกินอาหารสัมพันธ์กับกรุ๊ปเลือดมากว่าสามสิบปีจนได้ ข้อสรุปว่า “เลือดแต่ละกรุ๊ปมีสารเคมีในเลือดต่างกัน แต่จะมีแอนติเจน (Antigen) เป็นตัวกระตุ้นการสร้างภูมิคุ้มกันให้แก่ร่างกาย ซึ่งอาหารทุกชนิดล้วนมีโปรตีนที่เป็นอนุมูลอิสระ มีคุณสมบัติเหนียวและจับเกาะติดกับเลือดที่เรียกว่า “เลคติน” (Lectin) ถ้าการกินอาหารที่มีเลคตินไม่เหมาะกับเลือด เลคตินเหล่านั้นอาจเข้าไปรบกวนการทำงานของระบบย่อยอาหารการสร้างอินซูลิน การเผาผลาญอาหาร และความสมดุลของฮอร์โมนในร่างกาย” แต่ก่อนหน้านั้น William C. Boyd นักวิทยาศาสตร์ด้านอิมมูโนพยาธิชื่อดังของสหรัฐอเมริกา เป็นผู้ค้นพบว่ากรุ๊ปเลือดนั้นถูกถ่ายทอดมรดกทางพันธุกรรม ซึ่งสภาพแวดล้อมไม่มีอิทธิพลต่อวิวัฒนาการของกรุ๊ปเลือด กรุ๊ปเลือดที่เก่าแก่ที่สุดของมนุษย์ก็คือเลือดกรุ๊ป O ส่วนกรุ๊ปเลือดใหม่ล่าสุด คือกรุ๊ป AB อย่างไรก็ตาม กรุ๊ปเลือดต่างๆ ผ่านวิวัฒนาการที่ต่างกันมาในประวัติศาสตร์ เราจึงควรกินชนิดอาหารตามที่บรรพบุรุษของแต่ละกรุ๊ปเลือดมักจะเลือกกินมาก่อน เนื่องจากกรุ๊ปเลือดที่ต่างกันจะมีระดับกรดในกระเพาะและเอนไซม์ในระบบย่อยอาหารต่างกันไปด้วย อย่างไรก็ตาม ความเชื่อว่าจะได้ประโยชน์จากการกินอาหาตามกรุ๊ปเลือดนี้ยังมีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ การวิจัยและทดลองทางคลินิกที่สามารถยืนยันหลักการนี้ไม่มากนัก ทางที่ควรทำคือดูแลสุขภาพตัวเองให้ดีด้วยการกินอาหารอย่างสมดุล ออกกำลังกาย หลีกเลี่ยงกิจกรรมและอาหารที่ไม่ดีต่อสุขภาพ มาดูกันว่ามีการวิคราะห์ข้อมูลอาหารที่เหมาะสมและจุดเด่น-จุดด้อยของแต่ละกรุ๊ปเลือดไว้อย่างไร เพื่อใช้ประกอบวิจารณญาณในการเลือกกินอาหาร
เลือดกรุ๊ป O
เป็นกรุ๊ปเลือดเก่าแก่ที่สุดของมนุษย์ที่เชื่อมโยงกับบรรพบุรุษของนักล่า (Hunter) ในยุคโบราณที่มนุษย์ยังต้องล่าสัตว์เป็นอาหารก่อนที่จะรู้จักเพาะปลูก ดังนั้น อาหารสำหรับคนเลือดกรุ๊ป O จึงจำเป็นสำหรับการสร้างกล้ามเนื้อและความกระฉับกระเฉง อันเป็นพื้นฐานสุขภาพของคนที่อยู่ในกรุ๊ปเลือดนี้ ดังนั้นจึงต้องการอาหารที่มีโปรตีน จากเนื้อสัตว์สูง อีกทั้งยังมีกรดในกระเพาะอาหารดีเยี่ยมจึงไม่มีปัญหาในการย่อยเนื้อสัตว์ คนกรุ๊ปเลือด O ควรกินเนื้อสัตว์ให้มากกว่าพืชผักและธัญพืช ผลิตภัณฑ์จากนมอาจทำให้น้ำหนักตัวเพิ่มขึ้นจึงควรกินเล็กน้อย ส่วนผักตระกูลกะหล่ำอาจมีฤทธิ์ยับยั้งการทำงานของต่อมไทรอยด์ในคนเลือดกรุ๊ป O และก็มีแนวโน้มว่าอาจมีปัญหา
ระบบการย่อยอาหารผิดปกติ นอกจากนี้ยังต้องระวังเรื่องโรคไขข้อด้วย คนเลือดกรุ๊ป O ได้รับพลังงานและไขมันจากเนื้อสัตว์ค่อนข้างมากซึ่งในปัจจุบันไม่ได้เป็นนักล่าเหมือนยุคอดีต จึงจำเป็นต้องเลือกออกกำลังกายที่เผาผลาญพลังงานมากๆ อย่างเสม่ำเสมอด้วย อย่างไรก็ตาม คนเลือดกรุ๊ป O จะมีภูมิต้านทาน แข็งแรงและโดยมากจะมีอายุยืนยาวกว่าทุกกรุ๊ปเลือด ส่วนข้อมูลน่าสนใจของคนกรุ๊ปเลือด A, B และ AB ก็น่าสนใจไม่ยิ่งหย่อนกว่ากัน ติดตามได้ในตอนต่อไป
| 
ค้นหาสมาชิก
โพสต์ 2012-5-14 15:45:15
ดันกระทู้
ปักหมุดกระทู้
ล๊อคกระทู้
การ์ดสีสัน
โพสต์ 2012-5-16 15:58:06
โพสต์ 2012-5-19 02:26:52
โพสต์ 2013-2-19 21:07:35
โพสต์ 2013-2-28 16:53:38
