"ป้อม" เล่าประสบการณ์ขนหัวลุกจากดินแดง
สงกรานต์ปีนี้ ถึงจะมีผู้คนยกโขยงกลับบ้าน หรือแห่ไปเที่ยวต่างจังหวัดมากน้อยแค่ไหน คงไม่สำคัญเท่ากับการป้องกันไม่ให้เกิดอุบัติเหตุ บาดเจ็บล้มตายน้อยที่สุด กับเที่ยวสงกรานต์ให้สนุกสมกับเป็นเทศกาลขึ้นปีใหม่ของไทยเรา
พูดถึงเรื่องป้องกันอุบัติเหตุ น่าชื่นชมที่ผู้รับผิดชอบ ทุ่มเทแรงกายแรงใจกันเต็มที่มากกว่าทุกๆ ปีที่ผ่านมาก็ว่าได้
ทั้งการตั้งด่านตรวจรถและผู้ขับขี่ มีจุดให้พักผ่อน ไม่ว่าการงีบหลับหรือนวดแผนไทย แจกน้ำชากาแฟและผ้าเย็นเช็ดหน้าให้สดชื่น กระปรี้กระเปร่า ไม่เกิดอาการหลับในได้ง่ายๆ
มีอุบัติเหตุจากความประมาท ดื่มเหล้า ไม่เคารพ กฎจราจร เป็นสาเหตุสำคัญก็ถือว่าเป็นเรื่องธรรมดา เหมือนเราต้องมีตำรวจ ศาลและเรือนจำมาแต่ไหนแต่ไร...จะไม่ให้มีคนละเมิดกฎหมายเลยคงเป็นไปไม่ได้
ยอมรับความจริงกันดีกว่าครับ!
วันนี้ผมมีเรื่องขนหัวลุกจากสงกรานต์เมื่อราว 6-7 ปีก่อนมาเล่าสู่กันฟัง
ในย่านถนนประชาสงเคราะห์ ดินแดงใกล้ๆ บ้านผมนี่เอง มีครอบครัวหนึ่งอยู่กันสองผัวเมีย ชื่อพ่อใหญ่กับน้าละมุน พ่อใหญ่เป็นจ่าตำรวจนอกราชการ มาทำงานอยู่บริษัท รปภ. ชื่อจริงว่าอะไรไม่มีใครรู้แน่ แต่เป็นคนเก่าแก่ที่เรียกพ่อใหญ่ๆ กันทั้งซอย
ทั้งสองมีลูกสาวคนเดียวชื่อดวงเดือน อายุยี่สิบต้นๆ เป็นคนสวยน่ารักมากๆ ครับ
เธอผิวขาว เอวบางร่างน้อย เรียนจบมหาวิทยาลัย นิสัยดีมาก สุภาพเรียบร้อย ร่าเริง รู้จักเด็กรู้จักผู้ใหญ่ ใครๆ ก็ชมเชยกันว่าพ่อแม่โชคดีมากที่มีลูกสาวอย่างหนูเดือนรุ่นน้องผมคนนี้
พ่อใหญ่รักและหวงลูกสาวมาก เปรียบเปรยกันว่าเหมือนจงอางหวงไข่ มีพวกหนุ่มๆ และเพื่อนฝูงของเดือนมาหา พ่อใหญ่มักทำหน้าบึ้งตึง ถามว่ามาที่นี่มีธุระอะไร? บางคนบอกว่ามาเที่ยว พ่อใหญ่ก็แค่นหัวเราะ บอกว่าที่นี่บ้านคน ไม่ใช่ที่ท่องเที่ยว!
สมัยเรียนน่ะ เวลาหนูเดือนไปเที่ยวต่างจังหวัดกับเพื่อนๆ ร่วมคณะ หรือทัศนศึกษา เมื่อกลับถึงบ้าน พ่อใหญ่จะไล่ลูกสาวไปอาบน้ำพักผ่อน ตัวเองจัดการเปิดกระเป๋าเดินทาง ขนเสื้อผ้ามาใส่กะละมังซักทันที
ก่อนสงกรานต์ราว 2-3 วัน ดวงเดือนไปเที่ยวต่างจังหวัดกับเพื่อนที่ทำงานเพราะได้พักร้อน ฉวยโอกาสไปเที่ยวก่อนเทศกาลเพราะรู้ดีว่ามีคนออกจากกรุงเทพฯ นับล้าน พ่อใหญ่เองก็มีเพื่อนฝูงชวนไปดื่มเหล้าที่นั่นที่นี่...ล่าสุดได้ข่าวว่ามีเพื่อนไปร่วมวงที่สุทธิสาร
"คืนนี้อยู่ดึกไม่ได้นะ เพราะลูกสาวอั๊วจะกลับจากต่างจังหวัดพรุ่งนี้เช้าแล้ว"
พ่อใหญ่ขี่มอเตอร์ไซค์ออกจากบ้านตอนเย็นๆ น้าละมุนเข้ามาคุยกับแม่ผมจนเกือบสองทุ่ม ได้ยินแกปรับทุกข์ว่าหมู่นี้ฝันไม่ดี ลูกเต้าไปต่างจังหวัดก็อดห่วงไม่ได้กว่าจะกลับบ้าน
แม่ผมปลอบว่าฝันร้ายจะกลายเป็นดี ให้น้าละมุนสบายใจไงครับ
เจ้าติ่งเพื่อนบ้านในซอยหิ้วขวดเหล้าเข้ามาหา...เราปักหลักโจ้กันที่ม้าหินริมรั้วสองคน น้าละมุนเดินเหงาๆ กลับบ้าน แสงไฟดูเยือกเย็นน่าวังเวงใจบอกไม่ถูก ผมร้องไปว่า...พรุ่งนี้เช้าหนูเดือนก็กลับเล้วละน้า เจ้าติ่งก็เสริมว่า...น้าไม่ต้องห่วงหรอกน่า เดี๋ยวพ่อใหญ่ก็กลับบ้านแล้ว
"ขอให้จริงเถอะ พ่อหนุ่ยพ่อติ่ง" แกฝืนยิ้มแล้วผลักประตูเลี้ยวไปทางก้นซอย...เจ้าติ่งมองตามแล้วอ้าปากค้าง
"เฮ้ย! ทำไมน้าละมุนแกไม่มีเงาวะ?"
ผมด่าเพื่อนเบาๆ ที่ปากเสีย...จากนั้นเราก็ดวดเหล้ากันต่อจนเกือบสองยาม เจ้าติ่งยอมแพ้ ขอตัวกลับบ้าน ผมออกมาส่งเพื่อน...กำลังจะปิดประตูก็พอดีเห็นพ่อใหญ่ขี่รถเข้ามา ผมทักทายแก แกก็หันมาพยักหน้ายิ้มๆ แล้วขับรถตามหลังเจ้าติ่งไปจนลับตา
จู่ๆ หมาในซอยก็โก่งคอหอนเสียงโหยหวน เล่าเอาผมขนลุกเกรียวไปทั้งตัว...เขาว่ามันหอนเพราะเห็นผีไม่ใช่หรือครับ? รีบกลับขึ้นบ้านทันที...คืนนั้นผมฝันเห็นแต่พ่อใหญ่ น้าละมุนและหนูเดือนไปเกือบตลอดคืน
รุ่งขึ้นตรงกับวันเสาร์ ผมก็ได้ข่าวร้ายน่าขนหัวลุก!
พ่อใหญ่เกิดอุบัติเหตุขากลับ คนเมาขับรถกระบะพุ่งข้ามเลนมาชนจนมอเตอร์ไซค์แหลกยับ พอๆ กับร่างพ่อใหญ่ที่เลือดท่วมตัว ตายคาที่อยู่ข้างถนนนั่นเอง
นึกถึงเวลาที่เห็นแกขับรถผ่านหน้าบ้านผมแล้วแทบเป็นลม...เพราะพอขาดใจปุ๊บวิญญาณพ่อใหญ่ยังไม่รู้ว่าตัวเองตายแล้ว ก็บึ่งรถกลับบ้านด้วยความห่วงใยและรักใคร่ลูกเมียทันที
ตอนแรกผมนึกว่าตาฝาดไปคนเดียว แต่หนูเดือนที่กลับมาตอนใกล้รุ่งแล้วรีบเข้านอน พอตื่นขึ้นก็เห็นเสื้อผ้าในกระเป๋าเดินทาง ซักและขึ้นราวเรียบร้อย...ขนหัวลุกน่ะซีครับ!
ขอบคุณ แหล่งที่มาหนังสือพิมพ์ ข่าวสด