"หนุ่มเสนา" เล่าประสบการณ์ขนหัวลุกในวันสงกรานต์
"เมาไม่ขับ โทรศัพท์ไม่รับ อยากหลับอย่าไป ไม่แน่ใจอย่าแซง!!"
"ขับคะนอง...จองโลง!!!"
คำขวัญร้อยแปดทั้งในกรุงและต่างจังหวัด ทั้งในวิทยุและทีวี ไหนจะป้ายตัวโตๆ ตามข้างถนน หวังจะเตือนใจคนขับรถทั้งหลายให้ระมัดระวัง อย่าตั้งตนอยู่ในความประมาท ข้อสำคัญคืออย่าดื่มเหล้าดื่มเบียร์ก่อนนั่งหลังพวงมาลัยเด็ดขาด
ไม่ห่วงตนเองก็ขอให้นึกถึงคนอื่นบ้าง ว่าเขาจะต้องเดือดร้อน บาดเจ็บล้มตายเพราะความมึนเมาและคึกคะนองของตัวเอง
ไหนจะคนทางบ้านที่รอผัว รอพ่อ รวมทั้งรอคอยพี่น้องว่าจะเดินทางโดยสวัสดิภาพอีกล่ะ ...ถ้าตัวเองเกิดเมาแล้วขับ ประมาทพลาดพลั้งจนบาดเจ็บ พิกลพิการ หรือด่าวดิ้นสิ้นใจจนต้องไปเกิดใหม่ คิดดูเถอะว่าพวกเขาจะเต็มไปด้วยความวิปโยคโศกเศร้าปานใด?
สงกรานต์ปีนี้เฮี้ยนนะครับ ทั้งอุบัติเหตุ ทั้งบาดเจ็บล้มตายมียอดพุ่งสูงกว่าปีกลายจนน่าใจหาย สาเหตุนอกจากสุรากับประมาทแล้วยังขับซิ่งเป็นตีนผีอีกต่างหาก พาหนะที่เป็นต้นตอคือมอเตอร์ไซค์ยังครองแชมป์ตามเคย
ไม่สวมหมวกนิรภัย ตูมตามขึ้นเมื่อไหร่ รับรองว่าไม่ตายก็เลี้ยงไม่โตไปตามๆ กัน!
ผมกับเพื่อนๆ โดนผีหลอกเต็มเปาในวันสงกรานต์นี่เองครับ
ถึงแม้อยุธยาบ้านผมจะมีเรื่องอื้อฉาวในช่วงเทศกาลนี้หลายเรื่อง แต่เรื่องดีๆ ก็มีเยอะแยะไม่อยากจะจาระไนให้ยาวความ เอาเป็นว่าคนอำเภอเสนาบ้านผมล้วนแต่สนุกสนาน เบิกบานกับการเล่นสงกรานต์ตามประสาหนุ่มๆ สาวๆ ไม่น้อยหน้าที่ไหน ไม่ว่าในกรุงหรือต่างจังหวัด
ไอ้เรื่องขึ้นรถกระบะสาดน้ำมั่ง ใช้ปืนฉีดน้ำใส่กันมั่ง รวมทั้งเล่นแป้งกันพอหอมปากหอมคอน่ะถือว่าเป็นเรื่องจิ๊บจ๊อย ที่ไหนๆ ก็เล่นแบบนี้กันทั้งนั้น!
ยิ่งพวกสาวๆ สวยๆ แต่งตัวเซ็กซี่หรือไม่ก็โดนสาดน้ำจนเปียกโชกไปทั้งตัวด้วยแล้ว แหม! เสื้อผ้ามันค่อนข้างบางเบา แนบเนื้อแนบหนังจนแทบจะไม่เหลืออะไรไว้ให้จินตนาการ ก็ย่อมโดนประแป้งตามหน้าตากับเนื้อตัวแบบแต๊ะอั๋งกันเป็นธรรมดา
พวกเธอก็เต็มอกเต็มใจมาสนุกนะครับ นานทีปีหน ถือว่าขอกันกินมากกว่านี้ล่ะกัน
ที่ใจถึงเหลือหลายกว่านี้ก็ยังมี!
หนุ่มสาวที่ว่าใจถึงน่ะ มีทั้งเล่นน้ำเสร็จก็ไปพลอดจู๋จี๋กันใต้ร่มไม้เตี้ยๆ ยิ่งกว่านั้น หลายคู่ถึงกับลงไปลอยคอในคลองส่งน้ำข้างถนน เหมือนตั้งใจจะเล่นสงกรานต์กันสองคนเท่านั้นเอง
พวกผมมีไอ้ส่ง ไอ้ผ่อน ไอ้นง ล้วนแต่ไม่มีแฟนไปเล่นน้ำด้วย เรียกว่าต่างฝ่ายต่างไป...ปืนฉีดน้ำคนละกระบอก สาดกันมาก็ฉีดกันไป ท่ามกลางเสียงวี้ดว้ายกับเสียงหัวเราะเฮฮาจนกระทั่งบ่ายจัด เมฆก้อนใหญ่เคลื่อนมาบังแสงแดดจนดูเหมือนใกล้จะเย็นย่ำเต็มที
เราชักล้าไปตามๆ กัน หัวหูกับเนื้อตัวน่ะไม่ต้องบอกก็ได้ว่าชุ่มโชกแค่ไหน ไอ้ผ่อนพยักหน้าไปที่หนุ่มสาวกำลังอิงแอบกันอยู่ใต้ร่มไม้ โอบหลังโอบไหล่จนหน้ากับหน้าแทบชนกัน... แต่ไอ้ส่งบอกว่าในคลองน่ะเด็ดกว่าตั้งพะเรอ!
หันไปมองก็เห็นหนุ่มสาว 2-3 คู่กำลังลอยคอหยอกล้อกัน กอดกันกระเพื่อมๆ น่าดูก็มี ค่อยๆ ลอยมาหาฝั่งคล้ายจะหาที่ยืนให้ถนัดถนี่ก็มี
เพื่อนฝูงกระเดือกน้ำลายกันเป็นทิว ผมเองใจเต้นแรงเหมือนกัน...
แหม! ทั้งอิจฉามารศรีกับนึกสงสัยตงิดๆ ว่าทำไมพวกนี้ถึงได้ใจถึงหนักหนา ทำราวกับว่าอยู่ในที่รโหฐานสองต่อสอง ทั้งๆ ที่มีคนเป็นสิบเป็นร้อยอยู่บนฝั่งใกล้ๆ แค่นี้ ย่อมจะมองเห็นได้ถนัดตาว่าอะไรเป็นอะไร?
เฮ้อ...นึกอีกทีก็ต้องโทษฮอร์โมนล้นเหลือในสายเลือดของคนวัยเจริญพันธุ์ เป็นตัวการที่ทำให้หนุ่มสาวไฟแรงกล้าทำอะไรก็ได้ ประเจิดประเจ้อแค่ไหนก็ไม่แคร์ ถือคติว่า...ไม่ได้หนักศีรษะนี่นา! อย่างที่ตกเป็นข่าวอื้อฉาวบ่อยๆ ไม่ว่าจะเป็นเทศกาลอะไรหรือไม่ก็ตามที
พอดีไอ้นงหลุดปากครางอ๋อย...มันใจถึงขนาดนี้เชียวหรือวะ?
เมื่อพวกเรามองตามสายตาพวกมันไปก็ได้เห็นหนุ่มสาวคู่หนึ่งยืนกอดกันอยู่ใกล้ฝั่งหน้าต่อหน้าซุกไซ้กันแทบไม่ยอมห่าง...ผมเดินไปที่ต้นไม้ใกล้ๆ หมายจะนั่งพักขาให้หายล้า อีกไม่นานก็จะกลับบ้านกันแล้ว
พวกเพื่อนๆ เดินตามมา แต่ก่อนจะถึงโคนไม้ก็ชะงักงันเมื่อหนุ่มสาวคู่นั้นหันมองมาอย่างเชื่องช้า...นรกเป็นพยาน! มันคือใบหน้าเน่าเฟะของซากศพชัดๆ ลมเย็นๆ พัดวูบเข้าใส่จนขนลุกซ่าพวกเราแข้งขาอ่อน ล้มแผละลงอย่างสิ้นเรี่ยวแรงพร้อมๆ กับภาพสยองเลือนรางไปต่อหน้าต่อตา
คิดว่าคงเป็นศพที่ฆาตกรนำมาทิ้งไว้นานแล้ว...แต่ทำให้พวกเราขนหัวลุกน่ะซีครับ!
ขอบคุณ แหล่งที่มาหนังสือพิมพ์ ข่าวสด