เมื่อหลายสิบปีก่อนบริเวณนั้นถือว่าค่อนข้างไกลจากตัวเมือง แต่มีแหล่งน้ำต่างๆ มากมาย ทั้งในเขตที่เป็นป่าไม้บ้าง และทั้งในเขตที่ลุ่มสำหรับทำไร่ทำนาบ้าง มีแหล่งน้ำที่ชาวบ้านเรียกว่าวังบ้าง เนื่องจากมีน้ำขังอยู่โดยยากนักที่จะแห้งแล้งง่ายๆ
วังนี้หมายถึง วังบัวบาน, วังน้ำวน, วังพญานาค ฯลฯ วังที่เกิดเหตุน่าขนหัวลุกแถวบ้านผมคือ "วังขุนบาล" ครับ
วังนี้ล้อมรอบด้วยป่ากล้วย นาข้าว ต้นไม้ใหญ่น้อยที่ขึ้นปกคลุมรอบวัง มีทั้งต้นยางนา ต้นข่อย ต้นทองหลางและสะเดาป่า เถาวัลย์ก็ขึ้นระโยงระยางเต็มไปหมด มีตลิ่งและร่องน้ำเซาะลงไปสู่วังสูงราวหนึ่งเมตร
ที่ข้างตลิ่งนั้นมีท่าสำหรับวัวควายลงไปกินน้ำในวัง ทั้งยังเป็นที่เล่นน้ำของพวกเด็กเลี้ยงควายอีกด้วย!
สมัยเด็กอายุสิบกว่าขวบแล้ว ผมยังเคยแก้ผ้าโดดน้ำตูมๆ เล่นในวังกับเพื่อนๆ เลยครับ สนุกดี
ถัดจากบริเวณนั้นมีต้นไม้หนาทึบปกคลุมร่มครึ้ม ใบไม้กิ่งไม้โน้มลงมาติดผิวน้ำ ไม่มีใครกล้าเข้าไปเล่นที่นั่นเพราะผู้ใหญ่ขู่ว่าเป็นที่สิงสถิตของผีพราย เคยมีเด็กซุกซนจมหายไปแล้วหลายคน ก่อนจะกลายเป็น ศพลอยอืดขึ้นมาในวันรุ่งขึ้น
เมื่อยามโพล้เพล้ มีคนเคยเห็นดวงไฟเขียวๆ ลอยไปมาอยู่เหนือบริเวณน้ำลึกที่ว่านั้น ชาวบ้านเชื่อว่าเป็นวิญญาณที่สิงสู่อยู่ในน้ำ หรือผีพรายที่รอคอยโอกาสพาเพื่อนใหม่ไปอยู่ด้วย...เมื่อดวงไฟลอยไปมาสักพักก็จะพุ่งวูบลงน้ำ เสียงดังโผงผางเหมือนปลาฮุบเหยื่อไม่มีผิด!
ใกล้วังนั้นมีทางเดินเล็กๆ สำหรับชาวบ้านที่เดินไปไร่ไปนา สองข้างทางรกชัฏด้วยพงหญ้าขึ้นสูงท่วมหัว ส่วนมากมักจะเกิดความเคยชินมากกว่าความหวาดกลัว
วันเกิดเหตุเย็นมากแล้ว...
สวย-เด็กหญิงวัยใกล้รุ่น พ่อแม่เป็นชาวนา หลังจากเลิกเรียนในตอนเย็นแทนที่จะมีโอกาสได้ไปวิ่งเล่นสนุกสนานกับเพื่อนๆ สวยต้องรับหน้าที่พาควายไปกินหญ้า...ส่วนมากมักจะเป็นแถวใกล้ๆ วังขุนบาลที่มีหญ้าขึ้นงอกงามกว่าที่อื่น
เลยค่ำไปแล้ว แต่สวยยังไม่พาควายกลับบ้านเสียที!
พ่อของเธออดรนทนรออีกไม่ไหว ต้องออกไปตามหาลูกสาวด้วยความห่วงใย จนกระทั่งเข้าเขตวังขุนบาล หรือที่ชาวบ้านเรียกขานกันว่า "วังผีพราย" แต่บริเวณนั้นก็เงียบเชียบเยือกเย็น บรรยากาศวิเวกวังเวงน่าขนลุก...ไม่มีวี่แววของสวยเลยแม้แต่นิดเดียว
ทันใดนั้นเอง เสียงตูมสนั่นก็ขึ้นใกล้ๆ หู จนพ่อผู้ตามหาลูกสาวถึงกับสะดุ้งโหยง หันขวับไปเห็นเจ้าทุยที่ลูกสาวนำไปเลี้ยง ว่ายอยู่ในน้ำจนกระเพื่อมเป็นวงกว้างอยู่ในแสงจันทร์ข้างขึ้น มันกำลังว่ายน้ำหนีอะไรสักอย่างมุ่งหน้าขึ้นตลิ่งที่เด็กๆ ชอบมาเล่นน้ำกัน...แต่ไร้ร่องรอยของลูกสาวโดยสิ้นเชิง!
อากาศยิ่งเย็นยะเยือกลงทุกที แมลงกลางคืนเงียบฉี่ ความวังเวงปกคลุมไปทั่ว พ่อของสวยจำใจต้อนเจ้าทุยกลับบ้าน กลัดกลุ้มใจจะขาดเพราะห่วงใยลูกสาว...ไม่รู้ว่าสวยหายไปไหนกันแน่? จนข่มตาแทบไม่ลงไปตลอดคืน
รุ่งเช้า มีเด็กๆ ที่เลี้ยงควายด้วยกันมาเล่าเรื่องว่า สวยไล่ตามควายอีกตัวเข้าไปแถววังผีพราย โดยเกาะหลัง ควายที่เธอเลี้ยงเข้าไป...เห็นผู้หญิงที่ไม่มีหน้า มีแต่ผมยาวสยายกระจายอยู่ในน้ำลากตัวสวยจมดิ่งลงไปด้วยกัน ควายก็ตื่นตกใจวิ่งขึ้นฝั่งไป
พ่อของสวยได้ฟังก็เข่าอ่อน ซบหน้าลงบนฝ่ามือทั้งสองข้าง ร้องไห้โฮทันใด ตัดสินใจไปนิมนต์พระมาเรียกวิญญาณลูกสาว ท่ามกลางสายตาหลายสิบคู่ของชาวบ้านที่มามุงดูด้วยความตื่นเต้นสนใจ
"โพล่ง!!" เสียงนั้นทำให้แทบทุกคนผงะหน้า เบิกตาโพลงเมื่อเห็นร่างซีดเซียวของสวยผุดโผล่ขึ้นมา ร่างเขียวคล้ำ นัยน์ตาเหลือกลานด้วยความเจ็บปวดและหวาดกลัวสุดขีดก่อนสิ้นลมหายใจ...ลำคอเธอมีผมเส้นยาวๆ ราวกำมือรัดเอาไว้แน่น
ตั้งแต่นั้นมา ชาวบ้านในย่านนั้นจะได้ยินเสียงร้องของเด็กในตอนใกล้ค่ำ และดวงไฟเขียวๆ วนเวียนอยู่เสมอ ไม่มีใครกล้ามาเล่นน้ำที่นั่นอีกต่อไปเพราะหวาดกลัวผีพรายที่ดุร้ายเหลือกำลัง...ปัจจุบัน นี้กลายเป็นบ้านจัดสรรไปแล้วครับ!
ขอบคุณ แหล่งที่มาหนังสือพิมพ์