หนูหมวย" เล่าประสบการณ์ขนหัวลุกจากลางร้าย
เมื่อพูดถึงเรื่องถือโชคถือลาง หนูเองแม้จะเป็นคนต่างจังหวัด ยอมรับว่าเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง อาจจะมีจริงก็ได้ หรืออาจจะเป็นแค่ความบังเอิญก็ได้ จนกระทั่งหนูได้พบกับเรื่องลางร้ายน่ากลัวที่กรุงเทพฯ นี่เอง
สาเหตุจากการมาทำงานในร้านเสริมสวยของน้านิด ญาติข้างแม่หนู เป็นตึกแถวคูหาเดียว ตอนแรกก็เป็นลูกมือไปก่อน มีผู้ช่วยในร้านชื่อเพ็ญ โดยเพ็ญเป็นช่างเล็บกับช่วยสระผม ส่วนการซอยและไดร์ผมเป็นหน้าที่ของมืออาชีพอย่างน้านิดเท่านั้นค่ะ
น้าบอกให้หนูคอยดูกับสังเกตเอาไว้ แบบครูพักลักจำไงคะ!
ถ้าว่าง น้านิดก็จะสอนเรื่องสระผม เกาและนวดหนังศีรษะ ใช้แชมพูกับครีมนวดให้ถูกต้อง คอยจดจำไว้ด้วยว่าลูกค้าคนไหนชอบหนัก-เบายังไง กับใครมีแชมพูพิเศษมาฝากไว้บ้าง ทั้งเอามาเองกับซื้อทางร้านแล้วฝากไว้เลย ลูกค้าส่วนมากเป็นคนในซอย ประเภทขาประจำกันทั้งนั้นแหละค่ะ บางคนย้ายบ้านไปแล้วก็ยังต้องมาทำผมที่ร้านเรา บอกว่าไปทำร้านอื่นแล้วไม่ถูกใจ
คุณป้าดวงแขอยู่กลางซอย ทำให้หนูได้รู้เรื่องลางร้ายแปลกๆ น่าขนลุกขึ้นมา!
คุณป้าอายุหกสิบเศษ ฐานะดี รูปร่างบอบบาง หน้าตายิ้มแย้มแจ่มใส สวมแว่นกรอบทอง เครื่อง ประดับเพียบตัว ทั้งสร้อย แหวน กำไล ตุ้มหู ชอบเดินกางร่มมาทำผมทำเล็บบ่อยๆ หรือไม่ก็เดินไปตลาดเข้า-ออก เป็นประจำทุกวัน บางวันก็เดินผ่าน 2-3 ครั้งแน่ะค่ะ
ความที่เป็นคนเก่าแก่จึงรู้จักคนเกือบทั้งซอย เดินยิ้มเดินทักทายกันตลอดทาง...หนูล่ะกลัวแทนจริงๆ เพราะมีรถรากับผู้คนหนาตา ซอยนี้ก็มีทางเข้าออกหลายทางเสียด้วย ขาไปก็จะแวะทักทายน้านิด ถามว่าจะฝากซื้ออะไรหรือเปล่า? บางทีไม่ได้ฝากซื้อแต่คุณป้าก็ซื้อมาฝาก ผลไม้บ้าง แกงถุงบ้าง บอกว่าเห็นน่ากินก็นึกถึง ส่วนมากน่ะไม่ได้คิดเงินหรอกค่ะ
วันเกิดเหตุเป็นวันอาทิตย์ตอนเย็น...
คุณป้าดวงแขมาสระผม หนูเป็นคนสระ น้านิดเป็นคนไดร์...เก้าอี้ข้างๆ พี่เพ็ญกำลังโกรกสีผมให้น้าหนุ่ม-ลูกค้ารายนี้อายุเกือบ 40 แล้วแต่ยังโสด แต่ก่อนเคยเช�าบ้านอยู่ในซอยกับพี่น้อง เพิ่งย้ายไปอยู่บ้านจัดสรรแถวคู้บอนได้ไม่กี่เดือนนี่เอง น้าหนุ่มชอบพูดทีเล่นทีจริงกับคุณป้าดวงแขบ่อยๆ ว่าอยากมีแฟนกับเขาสักคน ขอไหว้วานให้คุณป้าช่วยหาแฟนให้หน่อยเถิด
มีลูกค้าอีกสองคนเข้ามานั่งรอ เสียงคุยกันแจ้วๆ สารพัดเรื่อง...จู่ๆ น้านก-บ้านอยู่ถัดเข้าไปก็เดินเข้าซอยมาหยุดหน้าร้าน ร้องว่า อ้าว? นึกว่าว่างแล้วจะมาสระผมหน่อย น้านิดบอกให้เข้ามารอ ก่อน หรือเดี๋ยวจะออกมาก็ได้...แต่น้านกโผล่เข้ามาแล้วอ้าปากค้าง "เอ๊ะ! พี่แข...มานั่งสระผมตั้งแต่เมื่อไหร่? ก็เพิ่งสวนทางกันหยกๆ นี่เอง"
คุณป้าดวงแขหัวเราะชอบใจ ว่าน้านกตาฝาด แต่ฝ่ายนั้นยืนยันเสียงแข็งว่าเพิ่งเห็นคุณป้าหยกๆ ไม่เกินห้านาทีแน่นอน! "หนูเห็นพี่แขเลี้ยวออกจากซอย ยังยิ้มให้หนูเลย...ว่าจะทักก็รีบเดินมาที่ร้านนิดเขานี่แหละ" คนอื่นๆ หัวเราะกันใหญ่ ยืนยันตรงกันว่าคุณป้าดวงแขมาสระผม แล้วก็นั่งให้น้านิดไดร์ผมอยู่นี่ไม่ต่ำกว่าครึ่งชั่วโมงแล้ว! น้านกตาฝาดแน่ๆ หรือไม่ก็คงยั่วเย้ากันเล่น แต่น้านกสีหน้าไม่ค่อยดี...อ้อมแอ้มว่าขอกลับบ้านก่อนแล้วจะกลับมาใหม่
คล้อยหลังไปไม่นาน ครูติ๋วก็เดินถือถุงอาหารสำเร็จรูปเข้ามาในร้าน ทักทายคนนั้นคนนี้แล้วเงยหน้ามองกระจก ทำตาโตจ้องหน้าคุณป้าดวงแข
"พี่แขซื้ออะไรมาคะ เร็วจัง เพิ่งเห็นเดินเข้าตลาดเมื่อตะกี้เอง!"
เสียงหัวเราะดังตามเคย แต่แล้วก็ค่อยๆ เงียบหาย หน้าตาไม่ค่อยดีจนถึงขาวซีดไปตามๆ กัน
ครูติ๋วมองหน้าคนนั้นทีคนนี้ทีด้วยความงุนงง คุณป้าดวงแขยืนยันว่ายังไม่ได้ไปตลาดเลย คิดว่าทำผมเสร็จก็เดินไปหาซื้ออะไรหน่อย เผื่อจะได้ของกินอร่อยๆ ติดไม้ติดมือมาฝากมากินกัน ค่ำนั้น ปิดร้านแล้วน้านิดกับพี่เพ็ญก็กลับบ้าน หนูอาบน้ำกินข้าวแล้วรีบขึ้นห้องนอนชั้นบน รู้สึกใจคอเต้นระทึก ปากคอแห้งผากจนต้องกลืนน้ำลาย...ฝันร้ายแทบตลอดคืน
มารู้ข่าวตอนเช้าว่าคุณป้าดวงแขโดนจี้กลางทาง ขัดขืนเลยโดนคนร้ายแทงตายคาที่ ก่อนจะบึ่งมอเตอร์ไซค์ หนีไปได้
ใครเคยเจอลางร้ายแบบนี้บ้างไหมคะ? บรื๋อออ... นึกแล้วขนหัวลุกค่ะ!
ขอบคุณ แหล่งที่มาหนังสือพิมพ์