"ป้าพลอย" เล่าประสบการณ์ขนหัวลุกจากบางขุนพรหม
เขาว่าคนโดนผีหลอกมักจะเป็นคนประสาทอ่อน จิตใจอ่อนไหวง่าย เช่น ทารกที่ยังไม่รู้ความกับเด็กๆ ทั่วไป รวมทั้งหนุ่มสาวอีกด้วย ส่วนคนแก่มักจะไม่ค่อยโดนผีหลอก
"โอ๊ย! คนแก่น่ะผ่านร้อนผ่านหนาวมาโชกโชน ไม่ค่อยสะดุ้งสะเทือนอะไรง่ายๆ ผีรู้ดีว่าต่อให้พวกมันหลอกหลอนแค่ไหนก็ไม่กลัว มันเลยไม่อยากยุ่งให้เสียเวลา"
พอฟังได้ใช่ไหมคะ แต่ลองฟังอีกคนพูดบ้างซิคุณ
ผีมันเห็นว่าแก่ซะขนาดนี้ ไม่ช้าก็กลายเป็นผีอยู่ด้วยกันแล้ว เผลอๆ ผีมันเห็นยังตกกะใจ...นึกว่าเจอผีหลอกซะอีกแน่ะ!
แหม! ขอโทษเถอะ...ฟังแล้วป้าอยากตบปากมันจังเลยค่ะ!
หลานสาวป้าชื่ออัมพร ชื่อเล่นไม่มี เรียกกันแต่พรๆ ตอนมันยังเล็กก็ไม่มีปัญหาอะไร แต่พอแตกเนื้อสาวเข้าหน่อยมันบอกว่าเพื่อนๆ เรียก "พอลล่า" กันทั้งนั้นเลย
โธ่เอ๊ย! อีแหม่มกะปิ! มันกลับทำหน้างงๆ ถามว่าแหม่มชอบกินกะปิก็มีหรือยาย? พูดถึงสาวๆ สมัยนี้แล้วอ่อนใจ ใครพูดถึง "สำเพ็ง" มันคงนึกว่าชวนไปเที่ยวที่นั่นละมั้งคะ? เซ็งว่ะ...เอ๊ย! เซ็งค่ะ แฮ่ะๆ
คนปูนป้าน่ะส่วนมากเลิกทำการงานแล้ว ป้าก็เช่นกัน โชคดีที่มีลูกๆ หลานๆ ดูแล แต่ป้าก็มีบำนาญกินในฐานะครูเก่า วันๆ ก็ช่วยดูแลบ้าน ทำงานเล็กๆ น้อยๆ เท่าที่จะทำได้ ตอนเย็นๆ ก็มานั่งคอยหลานๆ ทั้งหญิงและชาย ซนเป็นทโมนไพรเชียว...แต่ก็รักมันนะ
บางวันก็ไปวัด ไม่ว่าวันอินทร์ วัดสามพระยา วัดเอี่ยมวรชนุช...วัดหลังนี่ไปบ่อยไหว้ท่านท้าวมหาพรหมบ้าง หลวงปู่ทวดบ้าง เจ้าแม่กวนอิมบ้าง...นึกครึ้มๆ ก็ไปเสี่ยงเซียมซีเอาเลขไปเล่นหวยน่ะซีคะ...ผู้หญิงม่ายคราวป้าจะมีอะไรให้ลุ้นล่ะคุณ?
ป้าเคยถูกเลขท้ายสองตัวหลายครั้งนะ ทำเป็นล้อเล่นไป พอลล่า เอ๊ย! หลานยายได้เงินพิเศษไปหนึ่งพันบาท ดีอกดีใจเข้ามาจูบซ้ายจูบขวา ป้าชื่นใจนะ แต่แกล้งทำหน้าตาย ถามว่ามาประจบแบบนี้เพราะอยากได้เงินอีกใช่มั้ย? มันตอบว่าไงรู้ไหมคะ
"โอ๊ย! หนูรักยายต่างหากล่ะ ยายหนูน่ะ...สวยขนาดนั้น หวานขนาดนี้ แถมใจดีอีกต่างหาก จะไม่ให้หนูรักยาย เป็นปลื้มกับยายได้ยังไงคะ ยายขา"
เวียนหัวกับคำพูดของมัน แต่อดยิ้มไม่ได้หรอกค่ะ
มัวแต่เรื่อยเปื่อยเรื่องอื่นเสียเวลา ขอเข้าเรื่องขนหัวลุกเลยนะคะ!
เมื่อตอนต้นปีก่อนเขามีเรื่องมีราวกันที่ท้องสนามหลวง ตาอ๋อ-คนในซอยไปเฮ้วๆ กับเขา ขากลับโดนรถชนตายคาที่...ที่เรียกตาอ๋อน่ะไม่ใช่คนแก่นะคุณ เรา ชอบเรียกคนรุ่นลูกรุ่นหลานว่าพ่อนั่นแม่นี่, ตานั่นยายนี่ จนติดปาก...ตาอ๋ออายุสามสิบกว่าแล้ว อ่อนกว่าลูกชายคนโตของป้าด้วยซ้ำ นิสัยแกเมาแล้วซ่าเป็นประจำ
มาถึงเรื่องสำคัญคือเขาลือว่าผีตาอ๋อเฮี้ยนนัก ไม่ต้องพูดถึงกลางค่ำกลางคืนถึงจะมาหลอกหลอนเลยค่ะ นั่นน่ะผีเบ็ดเตล็ดหรือผีกิ๊กก๊อก! แต่ตาอ๋อนี่ระดับผีมีปริญญานะคุณ
แกมาหลอกกลางวันแสกๆ ตั้งแต่บ่ายโมงไปยันโพล้เพล้ เดินปะปนไปกับคนในซอยน่ะแหละ ไม่ค่อยมีใครสนใจจนมองหน้าจังๆ ตาอ๋อก็ยิ้มให้ พอจำได้ก็ร้องโวยวายราวกับคนบ้าหรือเจ๊กตื่นไฟ โว้ยๆ จนแตกตื่นกันทั้งซอย!
ตอนแรกก็ว่าตาฝาด แต่เอ๊ะ! นับวันยิ่งหนาหูขึ้นทุกที ป้านั่งเล่นหน้าบ้านคอยหลานเล็กๆ รุ่นน้องแม่อัมพร มองดูคนเดินผ่านไปมา รู้จักกันก็ทักทายกัน...แต่ไม่เคยเจอตาอ๋อซักที ตอนแกยังไม่ตายก็ถูกชะตากันดีค่ะ
เย็นหนึ่งป้าก็เจอดีเข้าให้ คือมองดูคนเดินผ่านแล้วนึกถึงตาอ๋อ...คนไหนนะ? เอ๊ย! ตัวไหนนะ ผีที่เดินปะปนมากับคนตามที่เขาร่ำลือกันน่ะ แต่ก็ไม่เห็นซักที จนห้าโมงกว่าๆ ฟ้าครึ้มเชียว แสงแดดหายไปหมด ก็พอดีมองเห็น...นั่นตาอ๋อนี่นา!
ยกมือป้องหน้า ขยับแว่นมองให้แน่ใจ นึกกลัวนิดๆ แต่พอเขาเดินใกล้เข้ามาก็ไม่ใช่ตาอ๋อหรอกค่ะ แต่เป็นตาเบิ้ม สูงต่ำดำขาวพอๆ กัน...ตาเบิ้มยิ้มให้ป้าจนกำลังจะเดินผ่านไปรอมร่อ นึกยังไงไม่รู้ดันหันขวับมามองทันใด
"ว้าย...ตาเถรหัวถลอก!"
ป้าหลุดออกไปเต็มปากเต็มคำ เพราะใบหน้านั้นคือตาอ๋อชัดๆ แถมยืดคอเข้ามาหาจนป้าผงะหงาย มันร้องแว่! จนป้าหวิดสลบ ตาเหลือก ยกมือขึ้นกุมอกใจเต้นโครมคราม...ตาเบิ้มเดินผ่านป้าไปแล้ว
พุทโธธัมโม! จะหลอกก็หลอกกันดีๆ ซี่ ดันแปลงตัวมาหลอกหลอนแบบนี้น่ะไม่แฟร์ย่ะ! คนแก่ก็มีหัวใจนะยะ...ขอบอก! เอิ๊ก...ลมใส่ซีคะคุณ!
ขอบคุณ แหล่งที่มาหนังสือพิมพ์