ลืมรหัสผ่าน
 สมัครเข้าเรียน
ค้นหา
ดู: 598|ตอบกลับ: 3

++ สานฝันนิรันดร ++ # 35

[คัดลอกลิงก์]

โสด

   ศาสตราจารย์เอื้ออาทร
อาจารย์พิเศษ
ถ้าหากว่าซ้ำต้องขออภัยนะครับและขอโทษเจ้าของเรื่องด้วยนะครับเพราะว่าคัดลอกมาอีกที
ความเดิมตอนที่แล้ว

“นอกจากเค้าจะใช้ทั้งสองคนนั้นตามไปจนถึงตัวภูริทัตอีกทีหนึ่ง แต่นั่นคงต้องใช้เวลาอีก ๒-๓ วัน” พูดแล้วสเตฟานก็อดหัวเราะเบาๆไม่ได้เมื่อเห็นสีหน้าที่แสดงความสงสัยของทรงเดช “เอาเป็นว่าผมพอจะรู้นิสัยของโจชัวร์ดีพอจะนึกออกว่าเขาจะทำอะไรกับคนทั้งสองบ้าง ตอนนี้คุณวางใจได้ว่าคนทั้งสองจะปลอดภัยถ้าอยู่ในมือของคนพวกนั้น แล้วผมจะจัดการช่วยพวกเขาออกมาเองคุณไม่ต้องเป็นห่วง”
“ถ้าเป็นอย่างนั้นจริงๆผมก็เบาใจ” ทรงเดชทำสีหน้าเหมือนโล่งอก
“ถ้าอย่างนั้นผมไปทำงานต่อนะครับ คุณก็ดูเพลียๆ พักผ่อนหน่อยคงจะดีนะครับ”
“ขอบใจนะที่เป็นห่วง หลายวันนี้ ‘งาน’ ของผมมีเยอะเหลือเกิน นี่ผมคงต้องไปอีกแล้ว เสร็จจากครั้งนี้ผมคงต้องพักสักหน่อย อย่าให้ใครมากวนผมจนกว่าจะถึงพรุ่งนี้เย็นแล้วกันนะ”
“แม้แต่คุณทัตเหรอครับ” ทรงเดชทำหน้าล้อเลียน
“คุณหาข้อแก้ตัวให้ผมด้วยแล้วกัน” สเตฟานตอบยิ้มๆ
ทรงเดชมองแล้วก็ต้องปิดปากหัวเราะ ก่อนจะเดินออกจากห้องไป เมื่อเห็นว่าใบหน้าสีขาวอมชมพูของสเตฟาน เริ่มเป็นสีชมพูเข้มขึ้น แต่เมื่อทรงเดชออกไปแล้ว คิ้วของสเตฟานกลับขมวดมุ่น สีหน้าเปลี่ยนเป็นแววกังวล ก่อนที่ร่างจะค่อยๆเลือนหายไปจากห้องนั้น
“ข้ามาหาเจ้าแล้ว ตามที่เจ้าเรียกหา” เสียงที่ฟังดูอ่อนโยน ดังขึ้นอย่างแผ่วเบา ทำให้หญิงชราเงยหน้าขึ้นมองดู คนที่จู่ๆก็ปรากฏตัว มายืนอยู่ตรงหน้าเก้าอี้โยกซึ่งหล่อนนั่งอยู่
“ท่านคือ ...” หญิงชราถามด้วยเสียงสั่นเครือ
“ข้าคือคนที่เจ้าเรียกหา คนที่เจ้าต้องการพบ คนที่จะมอบความหลุดพ้นให้แก้เจ้า” เสียงนุ่มนวล พร้อมกับรอยยิ้มบางๆบนใบหน้า ทำให้หญิงชราเหม่อมองด้วยความแปลกใจ
“ท่านไม่เหมือนกับที่ข้าเคยได้ยินมา” ไม่มีคำพูดจากชายหนุ่มตรงหน้า นอกจากรอยยิ้มที่ดูเปี่ยมไปด้วยไมตรี
“ท่านควรเป็นชายชราผู้หนึ่ง ชายชราที่ดุดันและแข็งกร้าว ไม่ใช่ชายหนุ่มที่ทั้งอ่อนโยน และงดงามเช่นนี้ แต่...” หญิงชราชะงักเล็กน้อย เมื่อมองเห็นแววตาสีเขียวมรกต เริ่มเปล่งประกายเรืองรอง “อา ... กรีนอายส์ ท่านคือกรีนอายส์จริงๆ มีแต่กรีนอายส์ ที่มีดวงตาเช่นนี้” เสียงของหญิงชราสั่นเครือ
“ใช่แล้ว ข้าคือกรีนอายส์ ถึงจะไม่เหมือนที่ท่านเคยได้รับรู้ แต่ข้าคือกรีนอายส์ที่แท้จริง กรีนอายส์ผู้จะนำเจ้าให้หลุดพ้นจากห้วงทุกข์ที่แบกรับมาอย่างยาวนาน” ชายหนุ่มพูดพลางคุกเข่าลงตรงหน้าหญิงชรา
“มาเถิด ดื่มเอาโลหิตของข้าไป แล้วเจ้าจะได้สมปรารถนา”
หญิงชราโผร่างเข้าหาชายหนุ่มที่ขยับร่างเข้ามาใกล้ เผยอริมฝีปากขึ้นช้าๆ ทำให้มองเห็นเขี้ยวขาวแวววาว ยาว และแหลมคม ก่อนจะค่อยๆฝังมันลงไปบนต้นคอของชายหนุ่ม แล้วค่อยๆดูดกินลือดของของชายหนุ่ม ลงสู่ลำคออย่างช้าๆ
เลือดของกรีนอายส์ ... เลือดที่จะทำให้ความปรารถนาของหล่อนเป็นจริง
บทที่ ๔๐
ชายหนุ่มรู้สึกว่าร่างกายของตนเบาหวิว ราวกับล่องลอยอยู่ในอากาศ ความอบอุ่นอย่างประหลาดแผ่ซ่านไปทั่วร่างกาย แต่ไม่นานมันก็เพิ่มมากขึ้นกลายเป็นความร้อนอบอ้าว จนทำให้ลำคอแห้งผาก ความกระหายอยากเริ่มก่อตัว จนทวีเพิ่มขึ้นอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
... น้ำ ... ไม่
...ไม่ใช่
ชายหนุ่มบอกตนเอง สิ่งที่เขากระหายไม่ใช่น้ำ แต่เขาไม่สามารถบอกตนเองได้ว่า สิ่งที่เขาต้องการนั้นคือสิ่งใด ความกระหายอยากนั้นมีมากขึ้นจนต้องส่งเสียงครางอย่างแผ่วเบา และลืมตาขึ้นมาในที่สุด
สิ่งที่ปรากฏอยู่ในสายตาของชายหนุ่ม คือชายหนุ่มชาวเอเชียคนหนึ่ง เขาพยายามยันตัวขึ้นนั่ง และทันทีที่เขาทรงกายได้ ก็โผร่างเข้าไปหาชายหนุ่มผู้นั้น เขี้ยวขาววาววับของเขาถูกฝังลงไปบนลำคอเนียนนุ่ม แล้วเขาก็ดูดดื่มสิ่งที่ไหลรินออกมานั้นลงไปในลำคอ ... ตามสัญชาติญาณที่เขารู้สึกว่ามันควรจะเป็นไปตามนั้น
หากเป็นในยามปรกติ ของเหลวนั้นคงจะมีกลิ่นคาวฉุนเฉียว และมีรสชาดที่ไม่น่าพึงใจ แต่ตอนนี้ มันกลับกลายเป็นกลิ่นที่หอมหวน และหอมหวานเป็นอย่างยิ่ง ชายหนุ่มดูดกินลงไปจนลำคอที่แห้งผากเริ่มชุ่มฉ่ำ และความโหยหิวเริ่มบรรเทา
“พอได้แล้ว” เสียงที่ชายหนุ่มรู้สึกว่ามีอำนาจอย่างยิ่งดังขึ้น ร่างของเขาถูกผลักออกไป แล้วชายหนุ่มชาวเอเชียคนนั้น ก็ลุกขึ้นเดินไปยืนอยู่ข้างเก้าอี้ ซึ่งตั้งอยู่ไม่ห่างจากเตียงนัก อีกด้านหนึ่งของเก้าอี้มีหญิงผิวคล้ำยืนอยู่ บนเก้าอี้นั่งไว้ด้วยชายหนุ่มผิวขาวสะอาด ใบหน้าซึ่งเขารู้สึกว่างดงาม และคุ้นเคยเป็นยิ่งนัก
“นอนได้แล้ว ทาสของข้า” เสียงดังขึ้นจากชายหนุ่มซึ่งนั่งอยู่บนเก้าอี้
“ก่อนที่เจ้าจะตื่นขึ้นมาอีกครั้ง แล้วกลายเป็นทาสของข้าอย่างสมบูรณ์”
สิ้นเสียงสั่ง ชายหนุ่มก็รู้สึกเหมือนตนเองเกิดความง่วงงุนอย่างที่สุด จึงค่อยๆเอนตัวลงนอนเหมือนเดิม โดยที่ริมฝีปากยังมีคราบเลือดเปรอะเปื้อนอยู่อย่างนั้น และไม่ได้สังเกตเลยว่า ข้างๆตัวมีชายหนุ่มอีกคนหนึ่งนอนหลับอยู่ในสภาพที่ไม่ต่างจากเขานัก
โจชัวร์มองดู ‘ทาส’ ใหม่ทั้งสองด้วยความพอใจ ตอนนี้ทาสของเขากำลังเข้าสู่การเปลี่ยนแปลงสภาพร่างกายให้เป็นแวมไพร์โดยสมบูรณ์ ซึ่งคงต้องใช้เวลาอีกสองสามวัน และเมื่อถึงตอนนั้น ... ตอนที่เขาสามรถควบคุมทาสหนุ่มรูปร่างสูงใหญ่ผู้นี้ได้ โดยปราศจากการขัดขืน เมื่อนั้นเขาก็คงได้ในสิ่งที่เขาปรารถนามาเป็นเวลานานหลายร้อยปี
“สเตฟาน ... เจ้าต้องเป็นของข้า” โจชัวร์พึมพัมเบาๆ พร้อมกับยิ้มอย่างมีความสุข
แต่โจชัวร์ซึ่งกำลังกระหยิ่มยิ้มย่อง ไม่ได้สังเกตเลยว่าไลล่า ซึ่งยืนอยู่ด้านข้าง กำลังแสดงถึงอาการฮึดฮัดไม่พอใจ มีเพียงไป่เทียนเท่านั้น ที่เหลือบตามองไลล่าด้วยความไม่ไว้วางใจ
“เจ้าคิดอะไรอยู่กันแน่” ไป่เทียนกระซิบถาม เมื่อเข้ามาอยู่กันในสถานบันเทิง จุดหมายของคนทั้งสอง
“เปล่านี่ ไม่มีอะไร” ไลล่าเลี่ยงที่จะสบสายตากับไป่เทียน
“อย่าปดข้า ข้ารู้ว่าเจ้าไม่พอใจ จะให้ข้าลองเดาดูไหม” ไป่เทียนจับคางของไลล่าให้มองมาทางเขา
“เจ้ากำลังไม่พอใจ ที่สเตฟานจะกลับมา ใช่หรือไม่”
“นั่นก็ส่วนหนึ่ง” ไลล่ายอมรับ
“แล้วยังมีอะไรอีก หรือว่า ...” ไป่เทียนยิ้มอย่างมีเลศนัย เปลี่ยนสายตาเป็นมองไปรอบๆ เพื่อมองหา ‘เหยื่อ’ ในคืนนี้
“เจ้ากำลังปรารถนาในตัวคนรักของสเตฟานล่ะสิ” ไป่เทียนหันกลับมาถามไลล่า
“ใช่” ไลล่าส่งเสียงลอดไรฟันออกมา
“หรือเจ้าไม่เป็นอย่างข้า ข้ารู้นะ ... ข้าเห็นสายตาของเจ้า”
“หึ หึ” ไป่เทียนหัวเราะเบาๆในลำคอ พลางยิ้มกริ่ม “อดใจไว้ไลล่า เจ้าจะได้สมหวังแน่ รวมทั้งข้าด้วย ... พวกเราจะได้เสพสุขจากชายหนุ่มผู้นั้นด้วยกันแน่ๆ อดใจซะหน่อยสิ อย่าให้ความต้องการของเจ้า ทำให้เสียเรื่องสำคัญของนายท่าน”
“เจ้าคิดว่าข้าจะได้สมปรารถนางั้นเหรอ” ไลล่า ถามด้วยความตื่นเต้น
“ทำไมเจ้าถึงคิดอย่างนั้น”
“นายท่านต้องการเพียงสเตฟานเท่านั้น เมื่อได้ตัวสเตฟานมา สองคนนั่นก็เป็นพวกเดียวกับเรา เป็นเหมือนพวกเรา ถึงตอนนั้นเจ้าจะเสพสุขอย่างไรก็ได้ ... รวมทั้งข้าด้วย”
ทั้งสองคนมองหน้ากันนิ่งสักครู่ แล้วก็หัวเราะออกมาเบาๆ ก่อนจะพากันแยกย้ายไปหาจุดหมายที่ตนหมายตาไว้
“ทำไมคุณท่านถึงได้ดูใจเย็นนักล่ะครับ” ทรงศักดิ์เอ่ยปากถาม หลังจากที่ครุ่นคิดอยู่นาน
“เพราะผมมั่นใจน่ะสิ ว่าคนทั้งสองอยู่กับโจชัวร์แล้ว” สเตฟานตอบ พลางหมุนแก้วเหล้าองุ่นในมือช้าๆ
“แล้วโจชัวร์นั่นก็จะไม่ทำร้ายคุณปรีชา กับคุณรังสรรค์ แน่ๆเหรอครับ” ทรงเดชถามขึ้นบ้าง
ทรงเดชเป็นคนโทรศัพท์ไปเล่าเรื่องต่างๆให้ปู่ของเขาได้รับรู้เมื่อช่วงบ่าย แล้วเย็นนั้นเอง ทรงศักดิ์ก็เข้าพบกับสเตฟานในห้องพักพิเศษ พร้อมกับทรงเดช
“ผมบอกคุณแล้วไง เป้าหมายของเขาคือผม” สเตฟานยิ้มน้อยๆ
“เค้าต้องใช้ทั้งสองคนนั้นล่อให้ผมไปหา ไม่มีทางหรอกที่เค้าจะทำร้ายคนทั้งสอง”
“แต่ผมกังวลว่า..” ทรงศักดิ์อึกอัก
“เอ้อ...”
“พูดมาเถอะ” สเตฟานวางแก้วลงบนโต๊ะ จ้องมองเข้าไปในสายตาของชายชรา
“ผมกลัวว่า ถ้าโจชัวร์ทำให้พวกเค้ากลายเป็น เอ้อ ...”
“แวมไพร์” สเตฟานต่อคำที่ทรงศักดิ์ไม่กล้าพูด
“อะไรนะครับ เป็นแวมไพร์” ทรงเดชพูดอย่างตกใจ “อย่างนั้นก็แย่สิครับ”
“เรื่องนั้นผมก็คิดไว้แล้ว” สเตฟานยังคงพูดช้าๆอย่างมั่นใจ ใบหน้ายังมีรอยยิ้มน้อยๆ
“พวกคุณลืมไปหรือเปล่า ว่าผมแตกต่างจาแวมไพร์ตนอื่นตรงไหน”
“กรีนส์อายส์” ทรงศักดิ์พูดเน้นทีละคำ “แวมไพร์เพียงหนึ่งเดียว ที่มีพลังเหนือแวมไพร์ตนอื่น”
“จริงสิ คุณเป็นแวมไพร์คิลเลอร์ ... แวมไพร์ผู้ฆ่าแวมไพร์” ทรงเดชเสริมด้วยท่างทางติดตลก แต่ก็ต้องเปลี่ยนสีหน้า เมื่อคิดได้ถึงพลังของกรีนอายส์ ... พลังในการนำพาแวมไพร์ไปสู่การสูญสิ้น ... นำพาไปสู่ความตาย
“แวมไพร์คิลเลอร์เหรอ คุณนี่ช่างสรรค์หาคำนะ” สเตฟานพูดแล้วก็หัวเราะเบาๆ
“ผมคงพูดอะไรให้พวกคุณเข้าใจผิดเสียแล้ว ผมไม่ได้ฆ่าพวกเขาหรอกนะ”
“แต่คุณท่านเคยบอกว่า คุณท่านสามารถทำให้แวมไพร์หมดความเป็นอมตะ และตายได้อย่างมนุษย์” ทรงศักดิ์ทำท่าเหมือนจะแย้ง
“ใช่ ผมทำอย่างนั้นได้จริงๆ แต่ผมไม่ได้ฆ่าพวกเขา” สเตฟานย้ำอีกครั้ง
“หมายความว่ายังไงครับ คุณพูดให้มันกระจ่างหน่อยดีกว่า” ทรงเดชถามอย่างสงสัย
“ที่ผมเคยบอก มันก็หมายความอย่างนั้นจริงๆ แต่ผมคงบอกสั้นไปหน่อย” สเตฟานสูดหายใจลึกๆก่อนจะพูดต่อ
“การที่แวมไพร์หมดความอมตะ นั่นก็คือกลับคืนมาสู่ความเป็นมนุษย์ นั่นเอง”
สองปู่หลานหันมาสบตากันด้วยความงุนงง แล้วก็หันไปมองสเตฟานอย่างต้องการคำอธิบาย
“การคืนความเป็นมนุษย์ให้ ย่อมทำให้แวมไพร์กลับคืนสู่อายุที่แท้จริงของมนุษย์ด้วย” สเตฟานบอกต่อช้าๆ
“พวกคุณพอจะนึกออกหรือยัง มนุษย์ที่มีการเปลี่ยนแปลงอายุจากเพียง ๙๐ หรือ ร้อยปี มาเป็นมนุษย์ที่มีอายุหลายร้อย หรือหลายพันปีด้วยความรวดเร็ว จะมีสภาพอย่างไร”
ทรงเดชรู้สึกเหมือนมีเหงื่อผุดขึ้นมาบนหน้าผาก เมื่อภาพจากหนังหลายเรื่องที่เขาเคยดู ผุดขึ้นมาในความคิด
“คุณกำลังนึกภาพนั้นอยู่ล่ะสิ” สเตฟานถามเบาๆ
ทรงเดชสบตากับสเตฟาน ก็มองเห็นแววตาที่สงบนิ่ง น่าแปลก แววตานั้นทำให้จิตใจที่กำลังแตกตื่นของเขาสงบลงได้อย่างประหลาด
“คนตาย กว่าจะสลายกลายเป็นฝุ่น คงกินเวลาหลายสิบ หรือหลายร้อยปี แต่มันกลายเป็นภาพของการเปลี่ยนแปลงภายในเวลาไม่กี่วินาที เมื่ออยู่ต่อหน้าผม”
ทรงเดชฟังแล้วก็ต้องกลืนน้ำลาย หันไปมองหน้าทรงศักดิ์ ก็พบกับสายตาที่กำลังมองมาด้วยแววตาปลอบประโลม
“คุณคงคิดว่ามันน่ากลัวมากล่ะสิ ผมพอจะเข้าใจ เพราะผมเคยรู้สึกเช่นนั้นมาก่อนเหมือนกัน” แววตาของสเตฟานเหมือนกับกำลังเหม่อลอย เหมือนกำลังระลึกถึงเรื่องราวในครั้งอดีต
“แต่เมื่อผมเห็นมันบ่อยครั้งเข้า มันกลายเป็นภาพธรรมดาสำหรับผมเสียแล้ว หึ หึ...”
เสียงแค่นหัวเราะของสเตฟาน ทำให้ทรงศักดิ์และทรงเดชมองดูเขาด้วยความสงสัยอีกครั้ง แต่สเตฟานก็ไม่ได้พูดอะไรต่อ ทุกอย่างอยู่ในความเงียบ จนทรงเดชรู้สึกได้ถึงเสียงเต้นของหัวใจตัวเอง
“เย็นนี้ภูริทัตอาจจะมาหาผม พวกคุณก็คอยต้อนรับด้วยแล้วกัน ผมจะไปทำธุระบางอย่างเสียก่อน คงกลับมาไม่ดึกนัก เอาเป็นว่าผมจะกลับมาก่อนสามทุ่มแล้วกัน”

รงศักดิ์และทรงเดชออกไปแล้ว สเตฟานเดินถือแก้วไปยังบาร์เล็กๆภายในห้องยกขวดไวน์แล้วรินไวน์ลงไปค่อนแก้ว ยกขึ้นจิบช้าๆ
“แวมไพร์คิลเลอร์เหรอ ... คำนั้นคงจะเหมาะกับผมเหมือนกันถ้าผมเลือกจะเป็นแบบนั้น” สเตฟานพูดเบาๆแล้วหัวเราะในลำคอ
เดินกลับมานั่งชุดเก้าอี้โซฟา แล้วยื่นมือไปแตะดอกกุหลาบในแจกันบนโต๊ะเพียงวูบเดียวเท่านั้น ดอกกุหลาบที่บานสะพรั่งงดงาม กลับเหี่ยวเฉาลงอย่างรวดเร็วจนกลีบดอกและใบหลุดร่วงลงบนโต๊ะ


มหาลัยซีเนียร์

กระทู้
0
พลังน้ำใจ
1338
Zenny
8250
ออนไลน์
245 ชั่วโมง
โพสต์ 2012-6-30 02:53:13 | ดูโพสต์ทั้งหมด

มหาลัยซีเนียร์

กระทู้
0
พลังน้ำใจ
1456
Zenny
-96
ออนไลน์
698 ชั่วโมง
โพสต์ 2013-12-1 02:07:08 | ดูโพสต์ทั้งหมด
ขอบคุนคราฟ

นิสิตสัมพันธ์

กระทู้
0
พลังน้ำใจ
47771
Zenny
20390
ออนไลน์
2061 ชั่วโมง
โพสต์ 2019-10-4 13:00:04 | ดูโพสต์ทั้งหมด
ขอบคุณครับ
ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง เข้าสู่ระบบ | สมัครเข้าเรียน

รายละเอียดเครดิต

A Touch of Friendship: สังคมจะน่าอยู่ เมื่อมีผู้ให้แบ่งปัน ฝากไวเป็นข้อคิดด้วยนะคะชาวจีโฟกายทุกท่าน
!!!!!โปรดหยุด!!!!! : พฤติกรรมการโพสมั่วๆ / โพสแต่อีโมโดยไม่มีข้อความประกอบการโพส / โพสลากอักษรยาว เช่น ครับบบบบบบบบ, ชอบบบบบบบบ, thxxxxxxxx, และอื่นๆที่ดูแล้วน่ารำคาญสายตา เพราะถ้าท่านไม่หยุดทีมงานจะหยุดท่านเอง
ขอความร่วมมือสมาชิกทุกท่านโปรดโพสตอบอย่างอื่นนอกเหนือจากคำว่า ขอบคุณ, thanks, thank you, หรืออื่นๆที่สื่อความหมายว่าขอบคุณเพียงอย่างเดียวด้วยนะคะ เพื่อสื่อถึงความจริงใจในการโพสตอบกระทู้ และไม่ดูเป็นโพสขยะ
กระทู้ไหนที่ไม่ใช่กระทู้ในลักษณะที่ต้องโพสตอบโดยใช้คำว่าขอบคุณ เช่นกระทู้โพล, กระทู้ถามความเห็น, หรืออื่นๆที่ทีมงานอ่านแล้วเข้าข่ายว่า โพสขอบคุณไร้สาระ ทีมงานขอดำเนินการตัดคะแนน และ/หรือให้ใบเตือนสมาชิกที่โพสขอบคุณทันทีที่เจอนะคะ

รูปแบบข้อความล้วน|โทรศัพท์มือถือ|ติดต่อลงโฆษณา|จีโฟกายดอทคอม

ข้อความที่ท่านได้อ่านในเว็บจีโฟกายดอทคอมนี้ เกิดจากการเขียนโดยสาธารณชน และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ หากท่านพบเห็นข้อความใดๆ ที่ขัดต่อกฎหมาย และศิลธรรม ไม่เหมาะสมที่จะเผยแพร่ ท่านสามารถแจ้งลบข้อความได้ที่ Link “แจ้งลบโพสนี้” ที่มีอยู่ใต้ข้อความทุกข้อความ หรือ ลืมพาสเวิดล๊อกอิน/ลืมชื่อที่ใช้สมัคร หรือข้อสงสัยใดๆแจ้งมาที่ G4GuysTeam[at]yahoo.com ขอขอบพระคุณที่ให้ความร่วมมือ

กรณีที่ข้อความ/รูปภาพในกระทู้นี้จัดสร้างโดยผู้ลงข้อมูลเอง ลิขสิทธิ์จะเป็นของผู้ลงข้อมูลโดยตรง หากจะทำการคัดลอก/เผยแพร่ ต้องได้รับอนุญาตจากผู้ลงข้อมูลก่อนนะคะ หรือลงที่มาไว้ด้วยค่ะ

©ขอสงวนสิทธิ์คอนเซ็ปต์,คำอธิบาย,หัวข้อ/หมวดหมู่เว็บ ห้ามลอกเลียนแบบ คิดเอาเองนะคะอย่าเอาแต่ลอก

GMT+7, 2024-11-25 01:41 , Processed in 0.075649 second(s), 27 queries .

Powered by Discuz! X3.5, Rev.8

© 2001-2024 Discuz! Team.

ตอบกระทู้ ขึ้นไปด้านบน ไปที่หน้ารายการกระทู้