ลืมรหัสผ่าน
 สมัครเข้าเรียน
ค้นหา
ดู: 606|ตอบกลับ: 4

++ สานฝันนิรันดร ++ # 36

[คัดลอกลิงก์]

โสด

   ศาสตราจารย์เอื้ออาทร
อาจารย์พิเศษ
ถ้าหากว่าซ้ำต้องขออภัยนะครับและขอโทษเจ้าของเรื่องด้วยนะครับเพราะว่าคัดลอกมาอีกที
ความเดิมตอนที่แล้ว


รงศักดิ์และทรงเดชออกไปแล้ว สเตฟานเดินถือแก้วไปยังบาร์เล็กๆภายในห้องยกขวดไวน์แล้วรินไวน์ลงไปค่อนแก้ว ยกขึ้นจิบช้าๆ
“แวมไพร์คิลเลอร์เหรอ ... คำนั้นคงจะเหมาะกับผมเหมือนกันถ้าผมเลือกจะเป็นแบบนั้น” สเตฟานพูดเบาๆแล้วหัวเราะในลำคอ

เดินกลับมานั่งชุดเก้าอี้โซฟา แล้วยื่นมือไปแตะดอกกุหลาบในแจกันบนโต๊ะเพียงวูบเดียวเท่านั้น ดอกกุหลาบที่บานสะพรั่งงดงาม กลับเหี่ยวเฉาลงอย่างรวดเร็วจนกลีบดอกและใบหลุดร่วงลงบนโต๊ะ
พลังชีวิตอันน้อยนิดของกุหลาบดอกนั้น ถูกดูดซึมเข้าไปในมือของสเตฟาน เมื่อพลังชีวิตหมดไป กุหลาบจึงแห้งเหี่ยว
พลังของกรีนอายส์ในการดูดพลังชีวิตของสิ่งมีชีวิตรอบตัว มาเป็นพลังชีวิตของตนเอง เหมือนกับแวมไพร์ที่ต้องดูดเลือดของมนุษย์
ไม่ใช่เพียงแค่พืช ... ขอเพียงเป็นสิ่งมีชีวิต เขาก็ใช้พลังของเขาสูบพลังชีวิตนั้นมาได้เช่นเดียวกัน
หากเขาใช้พลังนี้กับแวมไพร์เล่า .... แวมไพร์ตนนั้นก็คงเหมือนกุหลาบดอกนี้
แต่มันคงโหดร้ายเกินไปที่จะให้เป็นเช่นนั้น
ไม่ว่ามนุษย์ หรือแวมไพร์ เมื่อถึงวาระสุดท้าย คงต้องการจากไปอย่างมีความสุขตามเวลาอันสมควรมากกว่า
บทที่ ๔๑
แสงสุดท้ายของดวงอาทิตย์ลับขอบฟ้าไปแล้ว ความมืดเริ่มเข้ามาปกคลุมแทนที่ แต่ถนนสายนี้กลับยังสว่างไสวไปด้วยแสงไฟ จากหลอดไฟที่มนุษย์ประดิษฐ์ขึ้น ในขณะที่ผู้คนมากมายต่างพากันกลับเข้าสู่ที่พัก เพื่อพักผ่อนหลังการทำงานมาทั้งวัน ถนนสายนี้กลับเริ่มมีผู้คนทยอยเดินทางเข้ามา เพื่อจะเริ่ม ‘งาน’ ของพวกเขา และผู้คนที่มายังถนนสายนี้ด้วยจุดประสงค์ต่างๆกัน ถนนสายนี้จึงเริ่มคึกคักขึ้นด้วยผู้คนในยามค่ำคืน
ไป่เทียนเดินผิวปาก ดวงตาก็สอดส่ายหาเป้าหมายที่เขาต้องการ ความจริงเขาชอบที่จะออกมาในยามวิกาลมากกว่านี้ แต่วันนี้
เขาจำเป็นต้องนำ ‘อาหาร’ ไปให้กับสมาชิกใหม่ แล้วต้องกลับออกมาหา ‘อาหาร’ ให้กับตัวเองอีกครั้ง จึงจำเป็นต้องออกมาตั้งแต่หัวค่ำ ไป่เทียนเดินอยู่สักครู่ก็ตัดสินใจเดินตรงไปยังบาร์แห่งหนึ่ง ซึ่งเป็นที่รู้จักกันดีในหมู่ชายที่นิยมชมชอบในความเป็นชายด้วยกัน ผู้คนในบาร์ยังน้อยอยู่ มีคนนั่งดื่มอยู่เพียงไม่กี่คน และในหมู่คนเหล่านั้น ก็ยังไม่น่าดึงดูดใจเท่าที่ควร เขาคิดว่าทอดเวลาไปอีกสักหน่อย เผื่อว่าจะมีคนที่ถูกใจเขามากกว่านี้ ไป่เทียนคอยเหลือบมองดูบานประตูเป็นพักๆ หวังไว้ในใจว่า คนที่จะเปิดประตูเข้ามาเป็นคนต่อไป น่าจะทำให้เขาตัดสินใจได้เสียที แล้วเขาก็ถึงกับใจเต้นระทึกเมื่อบานประตูถูกเปิดออก พร้อมกับการก้าวเข้ามาของชายหนุ่ม
เสื้อเชิตสีเขียวเข้ม เนื้อผ้าทอประกายราวกับปีกแมลงทับ กับกางเกงสีน้ำตาลเข้ม ทำให้ไป่เทียนสะดุดตาตั้งแต่ร่างนั้นก้าวเข้ามาในบาร์ แต่นั่นยังไม่ทำให้เขาตื่นเต้นเท่ากับผิวขาวอมชมพูที่เนียนละเอียด เรือนผมสีทองส่องประกาย และใบหน้าที่ระบายยิ้มน้อยๆอย่างอ่อนโยน ผิดกับสีหน้าดุดัน แข็งกร้าวที่เขาเห็นอยู่เป็นนิจ โดยเฉพาะดวงตาคู่นั้น เหมือนมีอำนาจบางอย่าสะกดให้เขาจ้องมอง จนไม่คิดที่จะส่งสัญญาณบอกแก่ผู้เป็น ‘นาย’ ว่าเขาพบกับใคร จนกระทั่งชายหนุ่มผู้นั้นเดินเข้ามานั่งอยู่ข้างเขานั่นแหละ ไป่เทียนจึงได้สติขึ้นบ้าง
“เราพบกันอีกแล้วนะ” สเตฟานทักทายเบาๆ
เสียงนุ่มๆ กับรอยยิ้มที่อ่อนโยน ทำให้ไป่เทียนอดจ้องมองเข้าไปในดวงตาสีเขียวมรกตไม่ได้ แต่เมื่อดวงตาของเขาสบเข้ากับดวงตาคู่นั้น ราวกับดวงตาสีเขียวมรกตของฝ่ายตรงข้ามดึงดูดเขาให้ตกอยู่ในภวังค์ ไม่อาจรับรู้และไม่อาจบังคับตนให้ตอบคำถาม ที่สเตฟานถามออกมาทีละคำถาม และเมื่อสติกลับมาอีกครั้ง ก็ไม่พบกับร่างของสเตฟานเสียแล้ว
“คุณทัตไม่ได้แวะมาที่นี่ครับ” ทรงเดชรีบบอกทันทีที่สเตฟานก้าวเข้ามาในห้องทำงานของเขา
“ผมรู้แล้ว” สเตฟานตอบพลางนั่งลงไปบนเก้าอี้โซฟา
“แล้วผมยังรู้อีกว่า สองคนนั้นอยู่ที่ไหน”
“เหรอครับ” ทรงเดชทำตาโต ลุกจากโต๊ะทำงานมานั่งข้างๆสเตฟานที่โซฟา
“ทั้งสองคนอยู่กับโจชัวร์อย่างที่ผมคิด” พูดจบก็ต้องอมยิ้ม เมื่อมองเห็นหัวคิ้วที่ขมวดมุ่นของทรงเดช
“แล้วตอนนี้ก็กลายเป็นแวมไพร์ไปแล้ว เพราะโจชัวร์เข้าใจผิดว่า รังสรรค์เป็นคนรักของผม เค้าคิดจะใช้รังสรรค์มาบีบบังคับผม”
“แล้วนี่เราจะทำยังไงกันดีล่ะครับ” ทรงเดชถามด้วยความกังวล
“ผมบอกแล้วไง ว่าผมช่วยพวกเค้าได้ แต่ตอนนี้ผมต้องการของอย่างหนึ่ง” คราวนี้สีหน้าของสเตฟานบ่งบอกถึงความกังวล
“ของอะไรครับ สงสัยมันคงหายากน่าดู คุณถึงดูกังวลใจแบบนี้”
“หาไม่ยากหรอก เพียงแต่ว่าผมให้ภูริทัตไปแล้ว ผมไม่รู้ว่าจะบอกเขายังไงดี ถึงความจำเป็นที่ต้องใช้ของสิ่งนั้น”
“อะไรเหรอครับ”
“กรีนอายส์” สเตฟานพูดพลางดึงสร้อยคอออกมาให้พ้นจากคอเสื้อ ทรงเดชมองตามก็เห็นว่ามีอัญมณีสีเขียวร้อยอยู่กับสายสร้อย
“อ้าว ... คุณก็มีนี่ครับ แล้วทำไมต้องไปเอามาจากคุณทัตอีกล่ะครับ”
“กรีนอายส์มีอยู่สอง หนี่งชิ้นต่อหนึ่งชีวิต” สเตฟานพูดช้าๆ พลางชูอัญมณีนั้นขึ้นมาจ้องมองแน่วนิ่ง
“คนที่ผมต้องช่วยมีอยู่สองคน”
“คุณก็เลยต้องใช้กรีนอายส์อีกชิ้นหนึ่ง ที่อยู่กับคุณทัต” ทรงเดชพูดแทรกขึ้นมา “แต่คุณเคยบอกว่า คุณสามารถทำให้แวมไพร์กลายเป็นมนุษย์ได้ แล้วทำไมคุณต้องใช้กรีนอายส์อีกล่ะ”
สเตฟานละสายตาจากอัญมณีในมือ ยิ้มน้อยๆให้กับทรงเดช
“สำหรับคนที่เป็นแวมไพร์มาเป็นเวลานาน ผมก็คงใช้วิธีเดิม แต่รังสรรค์และปรีชา เพิ่งจะเริ่มเปลี่ยนเป็นแวมไพร์ ถ้าผมใช้วิธีนั้นทั้งสองคนอาจจะกลายเป็นเหมือนผม”
“ยังไงครับ” ทรงเดชถามพลางขมวดคิ้วเล็กน้อย “ผมฟังแล้วก็ งง งง”
“เอาเป็นว่ามีความจำเป็นต้องใช้กรีนอายส์ทั้งสองชิ้นก็แล้วกัน อีกอย่าง” สเตฟานหยุดพูด จ้องมองทรงเดชด้วยสีหน้าจริงจัง “ผมคงต้องขอแรงคุณด้วย คุณกลัวที่จะไปเสี่ยงอันตรายกับผมไหม”
“ถามอะไรอย่างนั้นครับ” ทรงเดชหัวเราะเบาๆ
“สองคนนั้นก็เป็นเพื่อนผมเหมือนกันนะครับ แล้วอีกอย่าง ผมเชื่อว่าคุณต้องปกป้องผมเต็มที่แน่ๆ”
“แล้วเจ้าบอกอะไรสเตฟานไปบ้าง” โจชัวร์ที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ ถามด้วยเสียงราบเรียบ
“ข้า ... ข้า” ไป่เทียนตะกุกตะกัก “ข้าก็ไม่รู้เหมือนกันว่าตอนนั้นบอกอะไรออกไปบ้าง อย่างที่บอกว่าพอข้าเห็นสเตฟาน ก็เหมือนจะไม่รู้เรื่องอะไรอีกเลย พอรู้สึกตัวอีกครั้งหนึ่ง สเตฟานก็จากไปแล้ว” พูดจบไป่เทียนก็ต้องก้มหน้าลง เพราะประกายตาของโจชัวร์เริ่มเปลี่ยนเป็นสีแดงด้วยความโกรธ
“มันจะเป็นไปได้ยังไง” ไลล่าย่นจมูก “อย่างสเตฟานน่ะเหรอ จะมีพลังขนาดที่สะกดแวมไพร์ด้วยกันได้”
“นั่นสิ มันคงต้องมีอะไรมากกว่านั้น” โจชัวร์พูดพลางครุ่นคิด ประกายตาสีแดงเริ่มอ่อนจางลง จนเปลี่ยนกลับคืนเป็นสีฟ้าเช่นเดิม
“ไม่น่าเป็นไปได้” ไลล่าซึ่งยืนอยู่ด้านข้างของเก้าอี้ที่โจชัวร์นั่งอยู่พูดพลางขมวดคิ้ว
“สเตฟานไม่น่ามีพลังมากพอที่จะสะกดพวกเราได้ ถ้าเป็นคุณก็ว่าไปอย่าง เพราะคุณเป็น ‘ผู้สร้าง’ พวกเราขึ้นมา คุณย่อมมีพลังที่จะสะกดพวกเราได้” พูดแล้วก็หันไปมองหน้าของโจชัวร์
“นั่นสิ” โจชัวร์พยักหน้าเบาๆแสดงความเห็นด้วย
“มันมีอะไรประหลาดหลายอย่างเกี่ยวกับสเตฟาน” ประกายตาของโจชัวร์เริ่มอ่อนลง และเปลี่ยนจากสีแดงเจิดจ้าเป็นสีฟ้าเช่นปรกติ “เริ่มจากที่ข้าไม่สามารถตามจิดของสเตฟานได้ หรือการหายตัวไปต่อหน้าต่อตาพวกเราเมื่อวันก่อน”
โจชัวร์เลื่อนสายตามองไปยังร่างทั้งสอง ที่ยืนสงบนิ่งอยู่อีกข้างหนึ่งของเก้าอี้ คนหนึ่งเป็นชายหนุ่มผิวค่อนข้างขาว อีกคนเป็นชายหนุ่มรูปร่างสูงใหญ่ผิวสองสี ชายหนุ่มทั้งสองมีสีหน้าเรียบเฉย ดวงตาค้างนิ่งกระทั่งเปลือกตายังไม่กระพริบ
“สเตฟานเป็นอะไรกันแน่ จงตอบมา ทาสของข้า” โจชัวร์ถามชายหนุ่มทั้งสอง
“สเตฟาน” ชายหนุ่มที่ตัวเล็กกว่าทวนชื่อนั้นออกมา พร้อมกับสีหน้าที่เริ่มมีรอยยิ้ม
“งดงาม น่าหลงใหล” ชายหนุ่มพูดต่อ
“แต่น่าเสียดาย” ชายหนุ่มอีกคนพูดแทรก สีหน้าเหมือนจะมีแววหม่นหมองลงเล็กน้อย
“เสียดายอะไร” โจชัวร์ถาม
“เสียดายที่กลายเป็นคนรักของเจ้าทัต ไม่อย่างนั้น ...” ชายหนุ่มผิวคล้ำตอบ
“เจ้าทัต” โจชัวร์พูดขัดขึ้น ในขณะที่ไป่เทียนและไลล่าต่างหันมองหน้ากันด้วยความสงสัย
“ใครคือเจ้าทัต” โจชัวร์ถามเสียงเข้ม
“ภูริทัต เพื่อนของพวกเรา และเป็นคนรักของสเตฟาน” เสียงตอบจากชายหนุ่มผิวขาว
“อะไรนะ” โจชัวร์เค้นเสียง
“หมายความว่าเจ้าไม่ใช่คนรักของสเตฟานหรอกรึ”
“ไม่ใช่ สำหรับสเตฟานพวกเราเป็นเพียงเพื่อน คนรักของสเตฟานคือภูริทัต” คนร่างสูงเป็นคนตอบ
ดวงตาของโจชัวร์เริ่มส่องประกายแวววาว และเปลี่ยนเป็นสีแดงอีกครั้งหนึ่ง ค่อยๆยันตัวลุกขึ้นจากเก้าอี้
“ภูริทัต” โจชัวร์เรียกชื่อนั้นด้วยเสียงที่เค้นออกมา ผ่านไรฟันที่ถูกขบจนกรามนูนเป็นสัน
กิ๊งก่อง~~~~
เสียงกริ่งดังขึ้น แล้วก็ดังขึ้นอีกเป็นระยะๆ ทำให้ภูริทัตต้องลุกขึ้นจากที่นอนด้วยความหงุดหงิด
“ใครวะ มาดึกๆดื่นๆ กำลังจะหลับเชียว”
ถึงจะบ่นอย่างอารมณ์เสียแต่ก็ยังเดินไปเปิดไฟ และเปิดประตูออกไปจากห้องนอน เพื่อไปดูว่าใครกันที่มากดกริ่งอยู่หน้าบ้าน ระหว่างนั้นเสียงกริ่งก็ยังคงดังอยู่เป็นระยะๆ
“มาแล้วครับ” ภูริทัตพูดไม่ดังนัก เมื่อเปิดประตูบ้านออกเดินตรงไปยังประตูรั้ว แล้วเมื่อชายหนุ่มมองเห็นคนที่ยืนอยู่หน้าบ้าน ก็ต้องส่งเสียงด้วยความดีใจ
“ไอ้สรรค์ ไอ้ชา พวกเอ็งหายไปไหนมาวะ” พูดพลางเปิดประตูรั้วออก แล้วมองดูเพื่อนรักทั้งสองคนอีกครั้ง ชายหนุ่มก็เริ่มเห็นสิ่งผิดปรกติ
“เฮ้ย ... เป็นอะไรไปวะ” ภูริทัตถาม แต่ไม่มีคำตอบนอกจากอาการนิ่งเงียบ แล้วเมื่อชายหนุ่มเพ่งมองดูเพื่อนทั้งสอง ก็เริ่มรู้สึกถึงความผิดปรกติ
“เป็นอะไรไปวะ หรือว่าไปโดนอะไรมา”
พูดพลางเอื้อมมือไปจับไหล่รังสรรค์ แต่ก็ยังไม่มีกิริยาโต้ตอบใดๆกลับมา
“เพื่อนของคุณไม่เป็นอะไรหรอกครับ” เสียงหนึ่งดังขึ้น
เมื่อภูริทัตหันไปตามเสียง ก็เห็นว่าไม่ห่างนักมีรถคันหนึงจอดอยู่ ข้างรถยืนไว้ด้วยคนสามคน ชายหนุ่มผิวขาวใบหน้าออกไปทางชาวเอเชีย กับหญิงสาวผิวคล้ำรูปร่างอวบอัด ยืนขนาบชายหนุ่มคนหนึ่งอยู่
“สเตฟาน” ภูริทัตเรียก ก้าวเท้าออกเตรียมจะเดินเข้าไปหา แต่ก็ต้องชะงัก เมื่อเห็นชัดเจนขึ้นว่า ชายหนุ่มคนนั้นไม่ใช่คนที่ตนคิด
“ไม่ใช่นี่ ... ใครกันล่ะ” ชายหนุ่มพูดเบาๆกับตัวเอง ขมวดคิ้วด้วยความสงสัย
“สวัสดีครับ คุณภูริทัต” ชายหนุ่มคนนั้นส่งเสียงทักทายพร้อมกับรอยยิ้ม “คุณภูริทัต คนรักของสเตฟาน”
“คุณเป็นใคร” ภูริทัตถามออกไป รู้สึกว่ารอยยิ้มนั้นดูไม่เป็นมิตรเอาเสียเลย
“ผมเป็นใครน่ะเหรอครับ” ชายหนุ่มพูดพร้อมกับเริ่มสืบเท้าเดินเข้ามา พร้อมกับคนทั้งสองที่ขนาบข้างก็เริ่มสืบเท้าตาม
“ผมชื่อโจชัวร์ ...โจชัวร์ ซึ่งเป็นทั้งเจ้านาย และคนรักของสเตฟาน”
บทที่ ๔๒
“คนรักของสเตฟาน” ภูริทัตทวนคำอย่างไม่เชื่อหูตัวเอง ขณะที่กำลังงุนงงกับสิ่งที่เกิดขึ้น คนทั้งสามก็ก้าวเท้าเข้าใกล้เขามากขึ้น แต่แล้วก็ต้องชะงักลง และมีสีหน้าเหมือนประหลาดใจ
“โจชัวร์ คุณควรหยุดอยู่แค่นั้นดีกว่า” เสียงนุ่มแต่กังวาลดังขึ้นจากทางด้านหลังของภูริทัต
“สเตฟาน คุณมาได้ยังไง” ภูริทัตอุทานเมื่อหันไปตามเสียง และพบสเตฟานยืนอยู่ด้านหลังเขา ห่างไปเพียง ๒-๓ ก้าว
“แล้วคนพวกนี้เป็นใครกัน” เขาถามต่อไปอย่างรวดเร็ว
“คนพวกนี้แหละ ที่ผมเคยเล่าให้คุณฟัง คุณถอยมาทางนี้ดีกว่า พวกเขาอันตรายกว่าที่คุณคิด”

ภูริทัตรีบเดินไปยืนอยู่ด้านข้างของสเตฟานแต่ไม่ใช่เพราะกลัวอันตรายที่จะเกิดขึ้นประกายตาแข็งกร้าวที่จ้องมองไปยังพวกโจชัวร์ทั้งสาม แสดงออกอย่างแจ่มชัด ถึงความคิดที่จะปกป้องบุคคลอันเป็นที่รักจากคนเหล่านี้
“เจ้าสรรค์กับเจ้าชาเป็นอะไรไปก็ไม่รู้ ท่าทางไม่เหมือนคนปรกติไม่รู้ว่าคนพวกนี้ทำอะไรกับสองคนนั้น” ภูริทัตเอนตัวไปพูดกับสเตฟานสายตายังคงจ้องมองดูท่าทีของพวกโจชัวร์ สลับกับมองดูเพื่อนทั้งสองไปมา




มหาลัยซีเนียร์

กระทู้
0
พลังน้ำใจ
1338
Zenny
8250
ออนไลน์
245 ชั่วโมง
โพสต์ 2012-7-1 18:14:49 | ดูโพสต์ทั้งหมด

มหาลัยซีเนียร์

กระทู้
0
พลังน้ำใจ
1456
Zenny
-96
ออนไลน์
698 ชั่วโมง
โพสต์ 2013-12-1 02:08:22 | ดูโพสต์ทั้งหมด
ขอบคุนคราฟ

นิสิตสัมพันธ์

กระทู้
0
พลังน้ำใจ
47771
Zenny
20390
ออนไลน์
2061 ชั่วโมง
โพสต์ 2019-10-4 13:02:39 | ดูโพสต์ทั้งหมด
ขอบคุณครับ

มหาลัยซีเนียร์

กระทู้
0
พลังน้ำใจ
1208
Zenny
329
ออนไลน์
42 ชั่วโมง
โพสต์ 2019-10-9 19:41:43 | ดูโพสต์ทั้งหมด
ขอบคุนที่เเต่งมาให้อ่านสนุกมากเลย
ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง เข้าสู่ระบบ | สมัครเข้าเรียน

รายละเอียดเครดิต

A Touch of Friendship: สังคมจะน่าอยู่ เมื่อมีผู้ให้แบ่งปัน ฝากไวเป็นข้อคิดด้วยนะคะชาวจีโฟกายทุกท่าน
!!!!!โปรดหยุด!!!!! : พฤติกรรมการโพสมั่วๆ / โพสแต่อีโมโดยไม่มีข้อความประกอบการโพส / โพสลากอักษรยาว เช่น ครับบบบบบบบบ, ชอบบบบบบบบ, thxxxxxxxx, และอื่นๆที่ดูแล้วน่ารำคาญสายตา เพราะถ้าท่านไม่หยุดทีมงานจะหยุดท่านเอง
ขอความร่วมมือสมาชิกทุกท่านโปรดโพสตอบอย่างอื่นนอกเหนือจากคำว่า ขอบคุณ, thanks, thank you, หรืออื่นๆที่สื่อความหมายว่าขอบคุณเพียงอย่างเดียวด้วยนะคะ เพื่อสื่อถึงความจริงใจในการโพสตอบกระทู้ และไม่ดูเป็นโพสขยะ
กระทู้ไหนที่ไม่ใช่กระทู้ในลักษณะที่ต้องโพสตอบโดยใช้คำว่าขอบคุณ เช่นกระทู้โพล, กระทู้ถามความเห็น, หรืออื่นๆที่ทีมงานอ่านแล้วเข้าข่ายว่า โพสขอบคุณไร้สาระ ทีมงานขอดำเนินการตัดคะแนน และ/หรือให้ใบเตือนสมาชิกที่โพสขอบคุณทันทีที่เจอนะคะ

รูปแบบข้อความล้วน|โทรศัพท์มือถือ|ติดต่อลงโฆษณา|จีโฟกายดอทคอม

ข้อความที่ท่านได้อ่านในเว็บจีโฟกายดอทคอมนี้ เกิดจากการเขียนโดยสาธารณชน และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ หากท่านพบเห็นข้อความใดๆ ที่ขัดต่อกฎหมาย และศิลธรรม ไม่เหมาะสมที่จะเผยแพร่ ท่านสามารถแจ้งลบข้อความได้ที่ Link “แจ้งลบโพสนี้” ที่มีอยู่ใต้ข้อความทุกข้อความ หรือ ลืมพาสเวิดล๊อกอิน/ลืมชื่อที่ใช้สมัคร หรือข้อสงสัยใดๆแจ้งมาที่ G4GuysTeam[at]yahoo.com ขอขอบพระคุณที่ให้ความร่วมมือ

กรณีที่ข้อความ/รูปภาพในกระทู้นี้จัดสร้างโดยผู้ลงข้อมูลเอง ลิขสิทธิ์จะเป็นของผู้ลงข้อมูลโดยตรง หากจะทำการคัดลอก/เผยแพร่ ต้องได้รับอนุญาตจากผู้ลงข้อมูลก่อนนะคะ หรือลงที่มาไว้ด้วยค่ะ

©ขอสงวนสิทธิ์คอนเซ็ปต์,คำอธิบาย,หัวข้อ/หมวดหมู่เว็บ ห้ามลอกเลียนแบบ คิดเอาเองนะคะอย่าเอาแต่ลอก

GMT+7, 2024-11-25 01:58 , Processed in 0.086867 second(s), 27 queries .

Powered by Discuz! X3.5, Rev.8

© 2001-2024 Discuz! Team.

ตอบกระทู้ ขึ้นไปด้านบน ไปที่หน้ารายการกระทู้