ลืมรหัสผ่าน
 สมัครเข้าเรียน
ค้นหา
ดู: 654|ตอบกลับ: 3

++ สานฝันนิรันดร ++ # 37

[คัดลอกลิงก์]

โสด

   ศาสตราจารย์เอื้ออาทร
อาจารย์พิเศษ
ถ้าหากว่าซ้ำต้องขออภัยนะครับและขอโทษเจ้าของเรื่องด้วยนะครับเพราะว่าคัดลอกมาอีกที
ความเดิมตอนที่แล้ว

ภูริทัตรีบเดินไปยืนอยู่ด้านข้างของสเตฟานแต่ไม่ใช่เพราะกลัวอันตรายที่จะเกิดขึ้นประกายตาแข็งกร้าวที่จ้องมองไปยังพวกโจชัวร์ทั้งสาม แสดงออกอย่างแจ่มชัด ถึงความคิดที่จะปกป้องบุคคลอันเป็นที่รักจากคนเหล่านี้
“เจ้าสรรค์กับเจ้าชาเป็นอะไรไปก็ไม่รู้ ท่าทางไม่เหมือนคนปรกติไม่รู้ว่าคนพวกนี้ทำอะไรกับสองคนนั้น” ภูริทัตเอนตัวไปพูดกับสเตฟานสายตายังคงจ้องมองดูท่าทีของพวกโจชัวร์ สลับกับมองดูเพื่อนทั้งสองไปมา
“สเตฟาน” โจชัวร์เรียกด้วยน้ำเสียงอันเต็มไปด้วยคยวามปิติ ดวงตาทั้งสองทอประกายแวววาว ทั้งสามคนเดินเข้าไปรวมกลุ่มกับปรีชาและรังสรรค์ที่ยืนนิ่งอยู่ “สเตฟาน ทาสที่หลบหนีของข้า วันนี้แหละข้าจะทำให้เจ้ากลับคืนสู่อ้อมอกของข้าเหมือนเดิม”
ภูริทัตกำลังจะโต้ตอบไปด้วยความโมโห แต่สเตฟานก็ชิงพูดขึ้นก่อน
“สองคนนั้นคงกลายเป็นทาสของคุณไปแล้วสินะ” พูดแล้วก็ถอนหายใจเบาๆ มองดูทีท่าของคนทั้งสาม โจชัวร์ยิ้มกริ่ม ไปเทียนมีประกายตาแวววาว สีหน้าพึงพอใจ แต่ไลล่ากลับมีสีหน้าเหมือนไม่ค่อยพอใจนัก
“ใช่ ... ถึงข้าจะพลาดไปหน่อย แต่ตอนนี้ ข้าก็ทำให้เจ้าออกมาพบข้าจนได้ ดูสิว่า ครั้งนี้เจ้าจะหนีไปเหมือนครั้งก่อนได้อีกหรือเปล่า แต่ก็ไม่แน่ เจ้าอาจจะพาเจ้าหนุ่มคนนั้นหนีไป โดยทิ้งคนทั้งสองนี้ไว้กับข้าก็ได้ แต่ถ้าเจ้าทำแบบนั้น คงจะรู้นะว่าข้าจะทำอย่างไรกับสองคนนี้”
“พวกนายทำอะไรกับสองคนนั้นกันแน่ รีบปล่อยพวกเค้ามานะ” ภูริทัตตวาดด้วยความโมโห ปนไปด้วยความเป็นห่วงเพื่อนทั้งสอง
“เจ้าต้องการตัวเพื่อนของเจ้าคืนหรือ” โจชัวร์ยิ้มอย่างมีเลศนัย
“ได้สิ ... เจ้าเข้ามารับตัวเพื่อนของเจ้าไป” พูดจบก็ก้าวเท้าออกห่างจากปรีชาและรังสรรค์ โดยมีไป่เทียนและไลล่าเดินตามไป
ภูริทัตเห็นเช่นนั้น ก็หันหน้าไปมองสเตฟานเหมือนจะขอความเห็น รอยยิ้มน้อยๆของสเตฟาน ทำให้เขาก้าวเท้าเข้าไปหาเพื่อนทั้งสองด้วยความมั่นใจ
ถึงแม้จะเป็นระยะห่างเพียงไม่กี่ก้าว แต่แต่ละย่างก้าวของภูริทัต ทำให้โจชัวร์ใจเต้นระทึกด้วยความตื่นเต้น ว่าตนกำลังจะได้ในสิ่งที่ต้องการเสียที ความรู้สึกนั้นทำให้มองข้ามบางสิ่งบางอย่างไป
.... ทำไมสเตฟานถึงยอมปล่อยให้ภูริทัตเดินเข้าสู่กับดักได้อย่างง่ายดายเช่นนี้ ...
ทันทีที่มือของภูริทัตจับแขนของปรีชาและรังสรรค์ พร้อมกับออกแรงดึงให้คนทั้งสองเดินตามไป โจชัวร์ก็ออกคำสั่งททันที
“จับมันไว้” โจชัวร์ส่งเสียงไม่ดังนัก ซึ่งความจริงเขาสามารถออกคคำสั่งโดยไม่ต้องออกเสียงด้วยซ้ำไป
แต่แล้วความปิติที่เกิดขึ้นก็ต้องกลายเป็นความงุนงง เมื่อปรชาและรังสรรค์ต่างก็ก้าวเท้าเดินตามภูริทัตไป แทนที่จะจับกุมภูริทัตไว้ตามที่เขาสั่ง ไม่เพียงแต่โจชัวร์เท่านั้น แม้แต่ไป่เทียนและไลล่าเอง ก็ตกตลึงกับสิ่งที่เกิดขึ้นเช่นกัน คนทั้งสามได้แต่มองดูกลุ่มของภูริทัตเดินไปหยุดอยู่ข้างๆสเตฟาน
“แปลกใจหรือ” เสียงของสเตฟานทำให้โจชัวร์รู้สึกตัว “ไม่สิ ผมคิดว่าคุณคงแปลกใจมาก ผมเคยบอกคุณแล้ว ว่าผมมีอำนาจเหนือคุณ ตอนนี้คนทั้งสองอยู่ในการควบคุมของผมแล้ว” สเตฟานพูดพร้อมกับเดินมาอยู่หน้ากลุ่มของภูริทัต
“เป็นไปไม่ได้” โจชัวร์พึมพำ จ้องมองดูปรีชาและรังสรรค์ เหมือนไม่เชื่อในสิ่งที่เกิดขึ้น สักพักก็ตวาดเสียงดังด้วยความโมโห
“มันจะเป็นไปได้ยังไง ในเมื่อมันเป็นทาสของข้า ข้าเป็นผู้สร้างมันขึ้นมา ไม่ใช่เจ้า”
“ลืมไปแล้วหรือเปล่า ว่าหลายครั้งผมควบคุมได้ แม้แต่ทาสเก่าของคุณทั้งสอง”
โจชัวร์ได้ฟังก็หันไปมองดูไป่เทียนและไลล่า ซึ่งทีทีท่ากระอักกระอ่วน แล้วหันกลับมาที่สเตฟาน แล้วโดยที่ไม่มีใครคาดคิด พวกโจชัวร์ทั้งสามก็พุ่งตัวเข้าหาสเตฟานด้วยความรวดเร็ว จนภูริทัตต้องอุทานด้วยความตกใจ
สเตฟานยิ้มที่มุมปากน้อยๆ การเคลื่อนไหวของโจชัวร์ อาจจะรวดเร็วมากในสายตามนุษย์ แต่สำหรับแวมไพร์แล้ว มันก็เหมือนกับการเคลื่อนไหวที่สามารถมองเห็นได้ตามปรกติ โดยเฉพาะในสายตาของสเตฟานแล้ว มันเหมือนจะเชื่องช้าจนมองเห็นได้อย่างชัดเจนเสียด้วยซ้ำ
ในสายตาของสเตฟาน โจชัวร์พุ่งตัวมาได้ครึ่งทางก็หยุดชะงักลง แล้วก้าวเท้าถอยหลังไปอย่างรวดเร็ว คนที่พุ่งตัวเข้ามาแทนกลับเป็น
ไป่เทียนและไลล่าที่เข้าไปประชิดซ้ายขวา แล้วยื่นมือออกเพื่อจะจับตัวเขาไว้ แล้วช่วงเวลานั้นเอง โจชัวร์ก็พุ่งตัวออกไปอีกครั้ง แต่เป้าหมายของเขาคือภูริทัต
ช่วงเวลาเพียงส่วนเสี้ยวของวินาที อาจก่อให้เกิดความคิด ก่อให้เกิดการกระทำ ซึ่งอาจส่งผลให้สิ่งที่คาดคำนวณไว้นั้น เกิดการเปลี่ยนแปลงไป
ช่วงเวลาที่โจชัวร์ก้าวถอยหลัง แล้วไป่เทียนและไลล่าพุ่งตัวเข้ามานั้น สเตฟานคิดว่าโจชัวร์คงไม่มั่นใจว่าจะเกิดอะไรขึ้น จึงเปลี่ยนให้ทั้งสองคนเข้ามาจัดการกับเขาแทน จึงเตรียมที่จะใช้พลังในการผลักกระแทกคนทั้งสองออกไป แต่กลับกลายเป็นว่าภูริทัตกลายเป็นเป้าหมายของโจชัวร์เสียแล้ว ดังนั้นพลังที่คิดว่าจะใช้ปกป้องตนเอง จึงต้องส่งไปยังแก้วผลึกที่ร้อยอยู่กับสายสร้อยบนลำคอของภูริทัตแทน
ร่างของโจชัวร์ที่พุ่งเข้าไปจนถึงตัวภูริทัต พร้อมกับมือที่เอื้อมไปจนเกือบถึงลำคอของชายหนุ่มอยู่ จู่ๆโจชัวร์ก็มองเห็นลำแสงเจิดจ้าสีเขียว เปล่งประกายออกมาจากบริเวณทรวงอกของภูริทัต แล้วรู้สึกเหมือนร่างของตนชนเข้ากับกำแพงที่มีแรงสะท้อนอย่างรุนแรง ทำให้กระเด็นออกไปอย่างแรง ความตกใจของโจชัวร์ไม่ต่างกับภูริทัตนัก แต่ภูริทัตยิ่งตกใจมากขึ้นเมื่อเห็นว่า ร่างของสเตฟานถูกไป่เทียนและไลล่าโอบรัดไว้
“ไม่~~~~~~~~~~~~~” ภูริทัตตะโกนเสียงดัง เมื่อมองเห็นเขี้ยวขาวแวววาวโผล่ออกมาจากริมฝีปากของคนทั้งสอง และฝังลงไปในลำคอของสเตฟาน
บทที่ ๔๓
“โอ๊ย!” เด็กชายอายุราวๆ ๑๑-๑๒ ร้องเสียงดัง เพราะสะดุดเข้ากับรากไม้จนหกล้ม คบไฟที่ถือมาร่วงจากมือ กลิ้งหลุนๆออกไป เด็กชายยันตัวลุกขึ้นแต่ก็ต้องทรุดนั่งลงอีกครั้ง เพราะความเจ็บปวดที่ข้อเท้า
“ซวยจริง สงสัยขาจะแพลง”เด็กชายก้มหน้าใช้มือนวดข้อเท้าไปมา ไม่ได้สังเกตว่าแสงสว่างจากคบไฟบนพื้น เหมือนจะเลื่อนสูงขึ้น และเลื่อนเข้ามาใกล้
“เป็นกระไรฤาเจ้า”
เสียงนุ่มๆดังขึ้น ทำให้เด็กชายสะดุ้งสุดตัว เพราะคิดว่าถูกจับได้ที่ออกมาจากบ้านในยามวิกาลเช่นนี้ แต่เมื่อเงยหน้าขึ้นมองดูคนที่ส่งเสียง ก็ยิ่งตกใจมากขึ้น เพราะชายที่ถือคบไฟของตน มีเรือนผมและขนคิ้วเป็นสีทอง ดวงตาสีเขียวมรกตส่องประกายแวววับ จมูกโด่งเป็นสันเล็กน้อย ริมฝีปากสีชมพูอ่อน และผิวที่ขาวราวกับจะส่องประกายในความมืด
“หย่ะ...หย่ะ...อย่าจับข้าไปเลยนะ ข้าตัวเล็ก ผอมแห้งอย่างนี้ เนื้อไม่ค่อยมีหรอก” เด็กชายระล่ำระลัก พร้อมกับถดตัวถอยหลัง หวังจะหนีให้พ้นจากพวก ‘ฝรั่งตาใส’ ที่พวกผู้ใหญ่ชอบเอามาขู่ตั้งแต่เขาเป็นเด็กชอบงอแง ว่าคนพวกนี้ชอบจับเด็กไปเป็นอาหาร
แต่เหมือนชายหนุ่มจะไม่ยอมฟังสิ่งที่เด็กชายพูด เขาเดินอย่างรวดเร็วจนถึงตัวเด็กชาย แล้วย่อตัวลงนั่ง คุกเข่าลงข้างหนึ่ง มือข้างที่ว่างอยู่จับไหล่เด็กชายไว้
“ข้าเห็นเจ้าหกล้ม หรือว่าขาจะแพลง จนลุกเดินไม่ไหว” เสียงของชายหนุ่มอ่อนโยน  ปักคบไฟลงบนพื้น แล้วเอื้อมมือไปจับบริเวณข้อเท้าของเด็กชาย
“โอ๊ย” เด็กชายร้องคราง ลืมความกลัวไปชั่วครู่
“ขาแพลงจริงๆ” ชายหนุ่มหยิบคบไฟที่ปักอยู่บนพี้นขึ้นมา แล้วส่งให้เด็กชาย
“ถือไว้ เดี๋ยวจะพาไปส่งที่บ้าน”
เด็กชายรับคบไฟมาถือ มองดูใบหน้าที่มีรอยยิ้มอย่างอ่อนโยน รู้สึกหายกลัวไปมาก
“พาข้าไปส่งบ้านจริงๆหรือ มิได้หลอกพาข้าไปกินหรอกนะ” เด็กชายถามเสียงแผ่วเบา
“กินหรือ” ชายหนุ่มขมวดคิ้ว “เหตุไรเจ้าจึงคิดว่า ข้าจะเอาตัวเจ้าไปกินเล่า”
“ก็พวกผู้ใหญ่ชอบพูดนี่นา ว่าถ้าดื้อ ถ้าซน จะเอาตัวไปให้พวกฝรั่งตาน้ำข้าวจับกิน”
“ฮ่าๆ” ชายหนุ่มหัวเราะอยู่ครู่หนึ่ง มองดูเด็กชายอย่างเอ็นดู “เขาหลอกเจ้าดอก พวกข้าหาได้กินเด็กไม่”
“จริงหรือ” เด็กชายยังคงสงสัย
“เจ้าดูข้าเหมือนพวกที่กินเด็ก หรือกินคนเป็นอาหารหรือ”
เด็กชายสั่นหน้า
“ไปเถอะ ข้าจะไปส่งเจ้า” พูดจบชายหนุ่มก็หันหลังให้ ทำสัญญาณให้เด็กชายขึ้นขี่หลัง
เด็กชายพยุงตัวลุกขึ้น แล้วล้มตัวลงไปบนแผ่นหลังของชายหนุ่ม ทั้งสองขยับตัวเล็กน้อย แล้วชายหนุ่มก็ลุกขึ้นเดิน โดยมีเด็กชายอยุ่บนแผ่นหลัง
“เฮ้อ...” เด็กชายถอนหายใจ
“เป็นไรฤา” ชายหนุ่มหยุดเท้า ถามเบาๆ
“อีกไม่กี่ก้าวก็จะถึงต้นลำพูแล้วเชียว ข้าฟังมาจากพวกบ่าวไพร่ ว่ามีหิ่งห้อยมากมาย น่าดูนัก ไม่น่าเลย”
ชายหนุ่มหันหลัง เดินย้อนกลับไปทางเดิม
“จะไปไหนเล่า ไหนบอกว่าจะพาข้าไปส่งที่บ้านไง หรือว่าท่านหลอกข้า” เด็กชายโวยวาย
“เจ้าอยากดูหิ่งห้อยมิใช่หรือ” ชายหนุ่มตอบด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน
“พบหรือยัง” หญิงสาวถามชายหนุ่มที่ยืนกอดอกอยู่ตรงหัวกระไดบ้าน
“ยัง” ชายหนุ่มตอบห้วนๆ สีหน้ากังวลไม่แพ้ฝ่ายหญิง
“ท่านขอรับ” บ่าวชายวัยกลางคน วิ่งกระหืดกระหอบเข้ามานั่งยองๆอยู่เบื้องหน้าชายหนุ่ม
“เจอตัวแล้วขอรับ”
“เจอแล้วเหรอ แล้วอยู่ไหนล่ะ” หญิงสาวส่งเสียงด้วยความดีใจ หันหน้าส่งสายตามองหาไปทางที่บ่าวชายวิ่งมา
“คุณพระคุณเจ้าช่วย” หล่อนอุทานยกมือทาบอก จนชายหนุ่มต้องมองตามสายตาของเธอไป
ชายหนุ่มผมทอง ดวงตาสีเขียวมรกต จมูกโด่งเป็นสัน ริมฝีปากอวบอิ่มสีชมพู ผิวที่ขาวผ่องตัดกับเสื้อผ้าดำสนิท แสดงให้เห็นชัดเจนว่าเป็นชาวต่างชาติที่พวกเขามักเรียกว่า พวกฝรั่งตาน้ำข้าว ทำไมจึงมาปรากฏตัวในละแวกบ้านของเขาได้
ชายหนุ่มผิวขาวเดินเข้ามาจนถึงคนทั้งสอง แล้วค่อยๆทรุดตัวลงนั่ง พอเด็กชายลงจากหลังแล้ว เขาก็เอี้ยวตัวไปประคองตัวเด็กชายไว้ พลางหันหน้าไปบอกคนทั้งสอง
“ขาแพลงน่ะท่าน พอดีข้าผ่านไปพบ จึงพามาส่ง”
หญิงสาวพุ่งตัวไปหาเด็กชาย คว้าตัวได้ก็รีบพาตัวออกห่างจากชายหนุ่มชาวต่างชาติ ชายหนุ่มเข้าใจดีว่าหญิงสาวคงเป็นห่วงเด็กชาย โดยเฉพาะเมื่อเห็นว่าอยู่กับเขาซึ่งเป็นชาวต่างชาติ หันไปมองดูเด็กชายที่กำลังส่งยิ้มมาให้ ก็อดยิ้มตอบไปไม่ได้
“วิกาลดึกมากแล้ว ข้ากลับหล่ะ” ชายหนุ่มพูดแล้วก็หันหลัง
“เดี๋ยวสิ” เด็กชายส่งเสียงออกมา “ไหนว่าจะเล่าเรื่องเมืองที่ท่านเคยไปมาให้ข้าฟังไง”
“พรุ่งนี้แล้วกันนะ” ชายหนุ่มหันกลับมาตอบ
“พรุ่งนี้พระอาทิตย์ตกดิน ข้าจะมาได้หรือไม่” เขาถามชายหนุ่มกับหญิงสาวที่เหมือนจะเป็นเจ้าของบ้าน
ชายหนุ่มเจ้าของบ้าน หันไปมองใบหน้าที่มีแววขอร้องอยู่ในทีของเด็กชาย แล้วจึงหันไปตอบชายชาวต่างชาติ
“บ้านข้ายินดีต้อนรับท่าน ข้าชื่อแสน นี่เมียข้าพุดซ้อน”
“ถ้าอย่างนั้นพรุ่งนี้ข้าจะมาเล่าเรื่องพวกนั้นให้เจ้าฟัง” ชายชาวต่างชาติพูดพลางส่งยิ้มให้เด็กชาย ทำท่าจะหันหลังเดินจากไป
“ประเดี๋ยวสิ ข้ายังไม่รู้ชื่อท่านเลย” ชายหนุ่มส่งเสียงถาม
“สเตฟาน ... เรียกข้าว่าสเตฟาน” เขาตอบก่อนที่จะเดินหายไปในความมืด
“เป็นเช่นไรบ้าง เหล่านางรำของข้า” พุดซ้อนหันหน้าไปถาม เมื่อจบการร่ายรำของเหล่านางรำ
“งดงามยิ่งแล้ว” ชายหนุ่มตอบด้วยรอยยิ้ม
“โดยเฉพาะบุตรีท่าน ช่างงามเด่นกว่าผู้อื่นนัก”
“อย่าให้ได้ยินเชียวหนา” เด็กชายที่นั่งอิงแอบอยู่ข้างๆชายหนุ่มยื่นหน้าออกมาพูด “เดี๋ยวนางจะอิ่มอกอิ่มใจจนนอนไม่หลับ”
“เจ้าสิน” เสียงของสาวแรกรุ่นดังขึ้นมา พร้อมกับจ้าของเสียงที่ทรุดนั่งลงข้างๆพุดซ้อน “ข้ารู้นะว่าเจ้ากำลังนินทาข้า”

“น้องกำลังชมว่าเจ้ารำได้อ่อนช้อยงดงามต่างหากเล่าดาวเรือง” พุดซ้อนพูดพลางยกมือขึ้นลูบไหล่บุตรสาวด้วยความเอ็นดู
“นั่นสิ ... เจ้าร่ายรำได้อ่อนช้อยกว่าผู้ใด” ชายหนุ่มยิ้มให้หญิงสาว“จริงมั๊ย สิน”
ดาวเรืองยิ้มจนแก้มแทบปริ
“สานฝัน”
เด็กชายส่งเสียงเรียกพลางเขย่าแขนชายหนุ่ม

มหาลัยซีเนียร์

กระทู้
0
พลังน้ำใจ
1338
Zenny
8250
ออนไลน์
245 ชั่วโมง
โพสต์ 2012-7-1 18:51:34 | ดูโพสต์ทั้งหมด

มหาลัยซีเนียร์

กระทู้
0
พลังน้ำใจ
1456
Zenny
-96
ออนไลน์
698 ชั่วโมง
โพสต์ 2013-12-1 02:14:29 | ดูโพสต์ทั้งหมด
ขอบคุนคราฟ

นิสิตสัมพันธ์

กระทู้
0
พลังน้ำใจ
47771
Zenny
20390
ออนไลน์
2061 ชั่วโมง
โพสต์ 2019-10-4 13:05:02 | ดูโพสต์ทั้งหมด
ขอบคุณครับ
ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง เข้าสู่ระบบ | สมัครเข้าเรียน

รายละเอียดเครดิต

A Touch of Friendship: สังคมจะน่าอยู่ เมื่อมีผู้ให้แบ่งปัน ฝากไวเป็นข้อคิดด้วยนะคะชาวจีโฟกายทุกท่าน
!!!!!โปรดหยุด!!!!! : พฤติกรรมการโพสมั่วๆ / โพสแต่อีโมโดยไม่มีข้อความประกอบการโพส / โพสลากอักษรยาว เช่น ครับบบบบบบบบ, ชอบบบบบบบบ, thxxxxxxxx, และอื่นๆที่ดูแล้วน่ารำคาญสายตา เพราะถ้าท่านไม่หยุดทีมงานจะหยุดท่านเอง
ขอความร่วมมือสมาชิกทุกท่านโปรดโพสตอบอย่างอื่นนอกเหนือจากคำว่า ขอบคุณ, thanks, thank you, หรืออื่นๆที่สื่อความหมายว่าขอบคุณเพียงอย่างเดียวด้วยนะคะ เพื่อสื่อถึงความจริงใจในการโพสตอบกระทู้ และไม่ดูเป็นโพสขยะ
กระทู้ไหนที่ไม่ใช่กระทู้ในลักษณะที่ต้องโพสตอบโดยใช้คำว่าขอบคุณ เช่นกระทู้โพล, กระทู้ถามความเห็น, หรืออื่นๆที่ทีมงานอ่านแล้วเข้าข่ายว่า โพสขอบคุณไร้สาระ ทีมงานขอดำเนินการตัดคะแนน และ/หรือให้ใบเตือนสมาชิกที่โพสขอบคุณทันทีที่เจอนะคะ

รูปแบบข้อความล้วน|โทรศัพท์มือถือ|ติดต่อลงโฆษณา|จีโฟกายดอทคอม

ข้อความที่ท่านได้อ่านในเว็บจีโฟกายดอทคอมนี้ เกิดจากการเขียนโดยสาธารณชน และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ หากท่านพบเห็นข้อความใดๆ ที่ขัดต่อกฎหมาย และศิลธรรม ไม่เหมาะสมที่จะเผยแพร่ ท่านสามารถแจ้งลบข้อความได้ที่ Link “แจ้งลบโพสนี้” ที่มีอยู่ใต้ข้อความทุกข้อความ หรือ ลืมพาสเวิดล๊อกอิน/ลืมชื่อที่ใช้สมัคร หรือข้อสงสัยใดๆแจ้งมาที่ G4GuysTeam[at]yahoo.com ขอขอบพระคุณที่ให้ความร่วมมือ

กรณีที่ข้อความ/รูปภาพในกระทู้นี้จัดสร้างโดยผู้ลงข้อมูลเอง ลิขสิทธิ์จะเป็นของผู้ลงข้อมูลโดยตรง หากจะทำการคัดลอก/เผยแพร่ ต้องได้รับอนุญาตจากผู้ลงข้อมูลก่อนนะคะ หรือลงที่มาไว้ด้วยค่ะ

©ขอสงวนสิทธิ์คอนเซ็ปต์,คำอธิบาย,หัวข้อ/หมวดหมู่เว็บ ห้ามลอกเลียนแบบ คิดเอาเองนะคะอย่าเอาแต่ลอก

GMT+7, 2024-11-25 02:04 , Processed in 0.091468 second(s), 27 queries .

Powered by Discuz! X3.5, Rev.8

© 2001-2024 Discuz! Team.

ตอบกระทู้ ขึ้นไปด้านบน ไปที่หน้ารายการกระทู้