ลืมรหัสผ่าน
 สมัครเข้าเรียน
ค้นหา
ดู: 612|ตอบกลับ: 4

++ สานฝันนิรันดร ++ # 40

[คัดลอกลิงก์]

โสด

   ศาสตราจารย์เอื้ออาทร
อาจารย์พิเศษ
ถ้าหากว่าซ้ำต้องขออภัยนะครับและขอโทษเจ้าของเรื่องด้วยนะครับเพราะว่าคัดลอกมาอีกที
ความเดิมตอนที่แล้ว

“เจ้าจะไปทั้งอย่างนี้หรือทำไมไม่พูดสิ่งใดบ้าง” แสนตะโกนเสียงดังเมื่อเห็นสเตฟานค่อยๆก้าวเท้าจะจากไป
สเตฟานหยุดยืนนิ่ง ค่อยๆหันตัวกลับไปทางแสนและบ่าวไพร่
“จะมีประโยชน์อันใดที่ข้าจะพูดแก้ตัว หากเจ้าเชื่อใจข้าจริงคงมินำบ่าวไพร่ออกมาต้อนรับข้าเช่นนี้” เสียงของสเตฟานไม่ดังนักแต่ทุกคนก็ได้ยินอย่างชัดเจน แม้แต่คนที่ซ่อนตัวอยู่บนเรือน
แสนมีสีหน้ากระอักกระอ่วนอยู่พักใหญ่

“คืนก่อน ข้าตามเจ้าออกไปเพราะฝนเริ่มตกลงมาอีกครั้ง ข้าเห็นเจ้าอยู่กลางสายฝน แต่เม็ดฝนมิอาจต้องกายเจ้า แล้วเจ้าก็หายไป”
“ใช่ ... สิ่งที่เจ้าเห็น มันเกิดขึ้นจริงๆ” สเตฟานตอบ พลางนึกเสียใจในความไม่รอบคอบของตน
“เจ้าเป็นพ่อมดหมอผีหรือไร” แสนตวาดถาม
“พ่อมดหมอผี” สเตฟานทวนคำ แล้วหัวเราะในลำคอ เสียงหัวเราะแผ่วเบา แต่แทรกอยู่ในทุกอณูของอากาศ บ่าวไพร่บางคนถึงกับหน้าซีดลงด้วยความกลัว “อย่านำข้าไปเปรียบกับพวกนั้น”
“หรือว่าเจ้าเป็นปีศาจ” แสนถามด้วยความกังวลแกมไปด้วยความหวาดหวั่น หากคนตรงหน้าเป็นปีศาจจริง อันตรายข้างหน้าจะผ่านพ้นไปได้หรือไม่
“ปีศาจ ... คำนี้ค่อยน่าฟังหน่อย” สเตฟานพูดด้วยความรู้สึกรันทด
“คุณพระคุณเจ้าช่วย” พุดซ้อนอุทานยกมือขึ้นทาบอก “ไม่น่าเป็นไปได้”
“นั่นสิ แม่ท่าน ไม่น่าเป็นเช่นนั้น สานฝันที่แสนจะอ่อนโยนนั้น จะเป็นปีศาจไปได้เยี่ยงไร” ดาวเรืองเองก็ตกใจไม่แพ้กัน
ทั้งสองคนมัวแต่ตกใจโดยไม่ทันได้คิดว่า ระยะทางที่ห่างกันของพวกตนกับสเตฟานนั้น ทำไมถึงได้ยินสิ่งที่สเตฟานพูดได้อย่างชัดเจนนัก
“ไม่จริงข้าไม่เชื่อ” เสียงเล็กๆดังขึ้น พร้อมกับร่างของเด็กชายที่วิ่งออกมาจากใต้ถุนเรือน พุ่งตรงเข้าไปหาเสตฟาน
“เจ้าสิน กลับมา” แสนร้องด้วยความมตกใจ ทำท่าจะวิ่งออกไปสกัดตัวเด็กชาย แต่ช้าไปเสียแล้ว แสนวิ่งอย่างรวดเร็ว พอถึงตัวก็กอดเอวสเตฟานไว้แนบแน่น
“เจ้าโกหก ข้ามิเชื่อ” เด็กชายร่ำร้อง เงยหน้าขึ้นจ้องมองใบหน้าของชายหนุ่ม
“ข้ามิได้โกหก ข้าจะแสดงให้เจ้าดู ว่าจริงๆแล้วข้าเป็นเช่นไร”
พูดจบสเตฟานก็แกะแขนของเด็กชายอกจากตัว แล้วดันตัวเด็กชายออกห่าง ร่างกายค่อยๆเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม
ผิวสีขาวเปล่งประกายเรืองรอง ผมสีทองลุกชี้ชันเส้นผมพริ้วดั่งมีลมกระหน่ำ ดูแล้วเหมือนกองไฟสีทองที่ลุกโชนอยู่บนศรีษะ ดวงตาสีเขียวมรกตเปล่งแสงเจิดจ้า เขี้ยวสีขาวแวววาวงอกพ้นออกมาจากริมฝีปาก มือที่ยกขึ้นมาแล้วกางออก แสดงให้เห็นถึงเล็บที่งอกยาว
คมเล็บส่องประกายแวววับดูแหลมคม ราวกับสามารถจะฉีกกระชากร่างน้อยๆ ให้แหลกเป็นชิ้นๆได้ในพริบตา
“อ๊า”
ภูริทัตสะดุ้งสุดตัว ลืมตาแล้วมองไปรอบๆ ที่เขาเห็นยังคงเป็นภาพเดิมๆของห้องนอนที่คุ้นเคย ชายหนุ่มค่อยๆยันตัวลุกขึ้นนั่ง รู้สึกว่าทั้งตัวเต็มไปด้วยเหงื่อ เอื้อมมือไปเปิดโคมไฟเล็กๆตรงหัวเตียง ดูนาฬิกาแล้วอีกไม่กี่นาทีก็จะได้เวลาที่ต้องตื่นนอนตามปรกติ ถอนหายใจยาวแล้วก็ลุกขึ้นจากที่นอน เดินตรงไปยังห้องน้ำ เพื่อทำกิจวัตรประจำวัน เตรียมตัวให้พร้อมสำหรับวันใหม่อีกวันหนึ่ง
“ตั้งแต่วันนั้นแล้วเอ็งฝันทุกคืนเลยเหรอวะ” ปรีชาถามด้วยความอยากรู้
“เออ” ภูริทัตตอบ
“ตอนนี้เป็นเรื่องเป็นราวชัดขึ้นทุกวัน นับตั้งแต่วันที่ทรงเดชพูดอะไรแปลกๆวันนั้น”
“แล้วตกลงฝันเรื่องอะไรวะ” รังสรรค์เองก็อยากรู้ไม่แพ้ปรีชา
“ปีศาจหว่ะ ... ปีศาจสีเงิน ตาสีแดงกล่ำ มีเขี้ยวยาว เล็บแหลมคม กับลูกสมุนสีขาวกับสีดำ พวกมัน ๓ ตัวจับเอ็งสองคนไว้ ทำให้กลายเป็นลูกสมุน แล้วพากันมาตามล่าข้า”
“แล้วเป็นไง นายถูกจับได้แล้วโดนพวกเราเรียงคิว ใช่มั๊ยวะ” ปรีชาถามแล้วหัวเราะอย่างอารมณ์ดี
“แล้วคุณทัตถูกจับได้รึเปล่าครับ” ทรงเดชถามด้วยสีหน้าจริงจัง คนชายหนุ่มทั้งสามพากันแปลกใจ
“ถามอย่างนี้ค่อยอยากตอบหน่อย ไม่เหมือนไอ้สองตัวนี่ ทำเป็นเรื่องตลกจนผมไม่อยากเล่า” ภูริทัตพูดแล้วหันหน้าไปล้อเลียนเพื่อน
ทั้งสอง
“พอเลิกงาน คุณก็เลยพากันมาเล่าให้ผมฟังงั้นสิครับ” ทรงเดชถามยิ้มๆ
“ผมน่ะไม่เท่าไรหรอก ...” ภูริทัตลากเสียงยาว เหลือบสายตาไปที่รังสรรค์
“แต่บางคนมันลากมา”
“รีบๆเล่าต่อสิวะ” รังสรรค์พูดอ้อมแอ้มไม่ค่อยเต็มเสียง
“นั่นสิครับ แล้วเป็นยังไงต่อ ผมอยากรู้” ทรงเดชสนับสนุน
“พอเกือบๆจะจวนตัว ก็มีปีศาจสีทองโผล่ออกมาน่ะสิครับ แต่น่าแปลกที่มันมาช่วยผม”
“ลักษณะมันเป็นยังไงครับ ไอ้ปีศาจสีทองที่คุณว่าเนี่ย” ทรงเดชถามอย่างกระตือรีอร้น
“ก็คล้ายๆเจ้าสามตัวแรกนะ แต่ดวงตาเป็นสีเขียววูบวาบ แล้วผมสีทองของมันตั้งชัน ดูเหมือนมีเปลวไฟสะบัดไปมาอยู่บนหัว มันผลักไอ้ตัวสีเงินกระเด็นไป ตัวลูกน้องสีดำกับสีขาว ก็พุ่งเข้ากัดคอตัวสีทอง แล้วจู่ๆเจ้าสองตัวนั้นก็กรีดร้องแล้วสลายกลายเป็นฝุ่น”
“แล้วเจ้าตัวสีเงินล่ะครับ” ทรงเดชขัดขึ้น
“ไอ้ตัวนั้นพอมันเห็นลูกน้องมันตาย ก็เลยพุ่งเข้าไปสู้ แต่พอมันคว้าคอเจ้าตัวสีทองไว้ได้ ก็หายไปเลยทั้งคู่” ภูริทัตหยุดเล่า
“มีเค่นี้เหรอครับ” ทรงเดชถามขึ้นเมื่อภูริทัตไม่มีทีท่าว่าจะเล่าต่อ
“ก็แค่นี้แหละครับ” รังสรรค์ตอบแทน เพราะเขาฟังภูริทัตเล่ามาครั้งหนึ่งแล้ว เมื่อตอนกลางวัน
“แน่ใจเหรอครับ ว่ามีแค่นี้ ผมว่ามันน่าจะมีอะไรมากกว่านี้นะครับ” ทรงเดชพูดพลางจ้องมองภูริทัตอย่างคาดคั้น
“เอ้อ ... ที่จริงมันก็มีนะครับ แต่ผมว่ามันแปลกๆ ก็เลยไม่อยากเล่า” ภูริทัตอึกอัก
“ผมว่า คุณน่าจะเล่าออกมานะครับ บางที ...” ทรงเดชหยุดพูด นิ่งไปเหมือนใช้ความคิด
“คุณพูดเหมือนคุณรู้อะไรเกี่ยวกับความฝันของผม” ภูริทัตสงสัย
“ให้ผมเดามั๊ยครับ ว่าต่อจากนั้นมันมีอะไรเกิดขึ้น” ทรงเดชถามยิ้มๆ
เมื่อทุกคนนิ่งเงียบ พร้อมกับสีหน้าเปี่ยมไปด้วยความสงสัย ทรงเดชจึงพูดต่อ
“ปีศาจสีทองกลับมาหาคุณอีกครั้ง แล้วกลายร่างเป็นคน คนที่มีลักษณะ...ยังไงดีนะ ให้ผมคิดก่อน”
ทรงเดชยกมือขึ้นเกาคางเหมือนใช้ความคิด มองหน้าภูริทัตนิ่งสักพัก ก่อนที่จะพูดออกมาช้าๆ
“ปีศาจตัวนั้น เปลี่ยนเป็นชายหนุ่มผิวขาว ผมและคิ้วเป็นสีทอง ริมฝีปากสีชมพูอิ่มเอิบ แก้มสีขาวอมชมพู ดวงตาเป็นสี...สีอะไรดีนะ” ทรงเดชทำเป็นหยุดคิด “เอาเป็นสีเขียวแล้วกันนะครับ ดวงตาสีเขียวที่มีประกายเหมือนมรกต ... เป็นยังไงครับ จินตนาการของผม”
ภูริทัตเบิกตาค้าง คิดไม่ออกเลยว่า ทำไมทรงเดชถึงได้รู้สิ่งที่เกิดขึ้นในความฝันของเขาได้
บทที่ ๔๗
ท่ามกลางเสียงพูดคุยกันของคนที่นั่งอยู่ในห้องลอบบี้ของโรงแรม เสียเปียโนเริ่มต้นขึ้นอย่างแผ่วเบา แล้วค่อยๆดังขึ้นทีละนิดจนสามารถได้ยินได้อย่างชัดเจนขึ้น ท่วงทำนองที่เกิดจากตัวโน้ตมากมาย และควรจะมีสำเนียงที่รุนแรง กลับถูกบรรเลงออกมาอย่างแผ่วเบา เสียงที่ควรจะหนักแน่น แร่งเร้าความรู้สึก กลับผสมกลมกลืนไปกับสรรพสำเนียงของผู้คนภายในห้อง หลายคนหันมองดูนักเปียโนด้วยความประหลาดใจ ในสำเนียงที่เกิดจากปลายนิ้วเรียวงาม แม้แต่ภูริทัตเอง ก็อดสะกิดใจไม่ได้ ที่ เอทรูทโอปุส๑๐ หมายเลข ๑๒
เรโวลูชั่น ถูกบรรเลงออกมาได้อย่างนุ่มนวลเช่นนั้น มันทั้งแปลกหูและไพเราะจนเขาต้องหยุดการพูดคุย ฟังบทเพลงนั้นอย่างตั้งอกตั้งใจ
“นักเปียโนคนนี้เล่นเพราะจนคุณตั้งใจฟังขนาดนั้นเลยเหรอครับ” ทรงเดชพูดล้อ เมื่อเห็นท่าทางของภูริทัตซึ่งนี่งอยู่ข้างๆบนโซฟาตัวยาว
“เอ้อ...” ภูริทัตยกมือขึ้นลูบท้ายทอยเบาๆ
“มันแปลกหูน่ะครับ  ผมไม่เคยได้ยินคนเล่นเพลงนี้ด้วยสำเนียงแบบนี้มาก่อนเลย”
“เหรอ ... แล้วแบบนี้เรียกว่าเก่งรึเปล่า” ปรีชาถามด้วยความสนใจ
“ก็คงเก่ง เพราะเพลงนี้แค่เล่นธรรมดาก็เทคนิคเยอะแล้ว ปรกติเล่นแล้วมันจะยิ่งดัง แต่นี่เค้าควบคุมเสียงได้ดีมาก ถึงจะค่อนข้างเบากว่าที่ควร แต่เสียงโน้ตชัดเจนทุกตัวเลย” ภูริทัตตอบ
“เค้าคงตั้งใจมั๊ง ห้องลอบบี้แบบนี้ ขีนเล่นดังๆ ก็ไล่แขกหมดสิ จริงมั๊ยครับ” คำสุดท้ายรังสรรค์หันไปทางทรงเดช
“ก็คงอย่างนั้นน่ะครับ” ทรงเดชตอบยิ้มๆ
บทสนทนาดำเนินไปเรื่อยๆ ในขณะที่บทเพลงถูกบรรเลงจบลง ต่อด้วยเพลงใหม่ เพลงแล้วเพลงเล่า เอทรูทของโชแปง โซนาตาของบีโทเฟน แม้กระทั่งอินเวนชั่นของบาค แทบไม่น่าเชื่อว่าเสียงเพลงที่ได้ยินกลับแผ่วเบา นุ่มนวล สะกิดความสนใจจนภูริทัตต้องหยุดการสนทนาลงชั่วคราวหลายต่อหลายครั้ง และบางครั้งก็อดไม่ได้ที่จะเหลือบมองไปยังผู้เล่น ซึ่งเห็นเพียงแผ่นหลังในชุดสูทสีขาว และเรือนผมสีทองเป็นประกายเท่านั้น
“คุณทัตนี่ ชอบฟังเพลงมากเลยนะครับ” ทรงเดชถามพลางจ้องหน้าภูริทัต
“เจ้าทัตมันชอบฟังเพลงมากๆเลย มีคอนเสริทดีๆที่ไหน ต้องกระเสือกกระสนหาตั๋วไปดู บางทีไม่มีอะไรทำก็เปิดเนต ค้นว่าที่ไหนมีคอนเสริทอะไรบ้าง” รังสรรค์ตอบแทน
“แต่ท่าทางคุณทัตจะชอบเพลงที่นักเปียโนคนนี้เล่นมาก” ทรงเดชถามอีก
“ก็ ... ครับ เค้าเล่นด้วยสำเนียงที่ต่างไปจากที่ผมเคยได้ยิน แต่ก็เพราะดีนะ มันนุ่มนวล อ่อนโยน แล้วก็ ....” ภูริทัตหยุดพูด ทำท่าเหมือนครุ่นคิด
“แล้วก็อะไรเหรอครับ” ทรงเดชถามพลางรอคอยคำตอบอย่างตั้งใจ
“มันแปลกๆน่ะครับ” ภูริทัตตอบ “มันเหมือนกับว่า ผมคุ้นกับสำเนียงการเล่นเปียโนแบบนี้จากไหนสักแห่ง”
“เหรอครับ” ทรงเดชยิ้มอย่างดีใจ “แล้วคุณอยากรู้จักนักเปียโนคนนี้มั๊ยล่ะครับ เดี๋ยวผมจะพามาให้รู้จัก”
โดยไม่ฟังคำตอบ ทรงเดชลุกขึ้นจากเก้าอี้โซฟาเดินตรงไปหานักเปียโน ซึ่งกำลังจะลุกขึ้นหลังการบรรเลงบทเพลงสุดท้ายของช่วงนี้ เมื่อทุกคนมองตามไปก็เห็นทรงเดชคุยอะไรกับนักเปียโน ซึ่งก็คงพูดชักชวนให้มาทำความรู้จักกับกลุ่มของตน แต่จากท่าทางเหมือนว่าจะมีการปฏิเสธจากฝ่ายตรงข้าม แต่ดูเหมือนทรงเดชจะใช้ความพยายามจนอีกฝ่ายใจอ่อนจนได้ และเมื่อนักเปียโนคนนั้นหันตัวมาทางพวกเขา ภูริทัตถึงกับจ้องมองอย่างตะลึงลาน
ชุดสูทสีขาว ทำให้ผิวสีขาวอมชมพูของเรือนร่างสูงโปร่งดูขาวผ่อง ราวกับมีประกายออกมากรอบๆ เรือนผมสีทองยิ่งทำให้ใบหน้านั้นดูกระจ่างตา ขนคิ้วเรียวยาว จมูกโด่งเป็นสัน ริมฝีปากสีชมพูอิ่มเอิบ ดูโดดเด่น แต่นั่นยังไม่เทียบเท่าประกายตาที่ฉายแววสีเขียวมรกตออกมาจางๆ แต่ที่ภูริทัตตกตะลึง ไม่ใช่เพราะเรือนร่างที่ดูบอบบางแต่สมส่วน หรือเครื่องหน้าที่ดูงดงาม และไม่ใช่ดวงตาสีเขียวมรกตคู่นั้น แต่เป็นเพราะชายหนุ่มชาวต่างชาติผู้นี้ เหมือนกับคนในความฝันของเขาเสียเหลือเกิน
“นั่งตรงนี้แล้วกันนะครับ” ทรงเดชพูดพลางนั่งลงบนเก้าอี้อีกตัวหนึ่ง คนที่เข้ามาใหม่ลังเลอยู่ชั่วครู่จึงนั่งลงบนตำแหน่งที่ทรงเดชเคยนั่งอยู่ก่อน แล้วเริ่มทำหน้าที่เหมือนแนะนำทั้งสองฝ่ายให้รู้จักกัน
“นี่คุณรังสรรค์ นี่คุณปรีชา แล้วก็นี่ ...”
“ภูริทัตครับ” ภูริทัตชิงแนะนำตัวเอง “แล้วคุณ เอ่อ ...”
“สเตฟานครับ ผมชื่อสเตฟาน” ชายหนุ่มตอบเสียงแผ่วเบา นุ่มแต่ชัดเจน พลางเบือนหน้าหลบสายตาของภูริทัตที่จ้องมองตนอย่างไม่วางตา
“คุณสเตฟานพูดไทยได้เหรอครับ” รังสรรค์ถามอย่างสนใจ
“ครับ”
“แล้วเป็นคนชาติไหนครับนี่” ปรีชาถามบ้าง
“ผมเป็นคนอังกฤษครับ”
“แล้วมาทำอะไรที่เมืองไทยนี่ล่ะครับ หรือว่าเป็นนักดนตรีที่ตระเวณแสดงไปเรื่อยๆ” รังสรรค์ถามอีก
“คุณสเตฟานไม่ได้เป็นนักดนตรีหรอกครับ พอดีวันนี้มาเป็นกรณีพิเศษ” ทรงเดชตอบแทน

“ปรกติก็ไปประเทศโน้น ประเทศนี้เป็นประจำแต่ช่วงนี้พักอยู่เมืองไทย”
“โอ้โห แล้วเดินทางรอบโลกแล้วรึยังครับนี่” ปรีชาถามอย่างติดตลกสเตฟานไม่ตอบคำถาม ได้แต่อมยิ้มน้อยๆ
“อ้าวไอ้ทัต เป็นอะไรวะ เอาแต่จ้องหน้าเค้าอยู่นั่นแหละ” รังสรรค์หันไปถามกลั้วหัวเราะ แต่ไม่มีคำตอบจากภูริทัต
“ผมขอตัวก่อนนะครับ เดี๋ยวจะต้องเล่นเปียโนอีก”



มหาลัยซีเนียร์

กระทู้
0
พลังน้ำใจ
1338
Zenny
8250
ออนไลน์
245 ชั่วโมง
โพสต์ 2012-7-1 19:21:00 | ดูโพสต์ทั้งหมด

มหาลัยซีเนียร์

กระทู้
0
พลังน้ำใจ
1456
Zenny
-96
ออนไลน์
698 ชั่วโมง
โพสต์ 2013-12-1 03:09:26 | ดูโพสต์ทั้งหมด
ขอบคันคราฟ

นิสิตสัมพันธ์

กระทู้
7
พลังน้ำใจ
40786
Zenny
35240
ออนไลน์
3552 ชั่วโมง
โพสต์ 2017-4-2 05:54:19 | ดูโพสต์ทั้งหมด
ขอบคุนค๊าฟ

นิสิตสัมพันธ์

กระทู้
0
พลังน้ำใจ
47771
Zenny
20390
ออนไลน์
2061 ชั่วโมง
โพสต์ 2019-10-4 13:16:00 | ดูโพสต์ทั้งหมด
ขอบคุณครับ
ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง เข้าสู่ระบบ | สมัครเข้าเรียน

รายละเอียดเครดิต

A Touch of Friendship: สังคมจะน่าอยู่ เมื่อมีผู้ให้แบ่งปัน ฝากไวเป็นข้อคิดด้วยนะคะชาวจีโฟกายทุกท่าน
!!!!!โปรดหยุด!!!!! : พฤติกรรมการโพสมั่วๆ / โพสแต่อีโมโดยไม่มีข้อความประกอบการโพส / โพสลากอักษรยาว เช่น ครับบบบบบบบบ, ชอบบบบบบบบ, thxxxxxxxx, และอื่นๆที่ดูแล้วน่ารำคาญสายตา เพราะถ้าท่านไม่หยุดทีมงานจะหยุดท่านเอง
ขอความร่วมมือสมาชิกทุกท่านโปรดโพสตอบอย่างอื่นนอกเหนือจากคำว่า ขอบคุณ, thanks, thank you, หรืออื่นๆที่สื่อความหมายว่าขอบคุณเพียงอย่างเดียวด้วยนะคะ เพื่อสื่อถึงความจริงใจในการโพสตอบกระทู้ และไม่ดูเป็นโพสขยะ
กระทู้ไหนที่ไม่ใช่กระทู้ในลักษณะที่ต้องโพสตอบโดยใช้คำว่าขอบคุณ เช่นกระทู้โพล, กระทู้ถามความเห็น, หรืออื่นๆที่ทีมงานอ่านแล้วเข้าข่ายว่า โพสขอบคุณไร้สาระ ทีมงานขอดำเนินการตัดคะแนน และ/หรือให้ใบเตือนสมาชิกที่โพสขอบคุณทันทีที่เจอนะคะ

รูปแบบข้อความล้วน|โทรศัพท์มือถือ|ติดต่อลงโฆษณา|จีโฟกายดอทคอม

ข้อความที่ท่านได้อ่านในเว็บจีโฟกายดอทคอมนี้ เกิดจากการเขียนโดยสาธารณชน และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ หากท่านพบเห็นข้อความใดๆ ที่ขัดต่อกฎหมาย และศิลธรรม ไม่เหมาะสมที่จะเผยแพร่ ท่านสามารถแจ้งลบข้อความได้ที่ Link “แจ้งลบโพสนี้” ที่มีอยู่ใต้ข้อความทุกข้อความ หรือ ลืมพาสเวิดล๊อกอิน/ลืมชื่อที่ใช้สมัคร หรือข้อสงสัยใดๆแจ้งมาที่ G4GuysTeam[at]yahoo.com ขอขอบพระคุณที่ให้ความร่วมมือ

กรณีที่ข้อความ/รูปภาพในกระทู้นี้จัดสร้างโดยผู้ลงข้อมูลเอง ลิขสิทธิ์จะเป็นของผู้ลงข้อมูลโดยตรง หากจะทำการคัดลอก/เผยแพร่ ต้องได้รับอนุญาตจากผู้ลงข้อมูลก่อนนะคะ หรือลงที่มาไว้ด้วยค่ะ

©ขอสงวนสิทธิ์คอนเซ็ปต์,คำอธิบาย,หัวข้อ/หมวดหมู่เว็บ ห้ามลอกเลียนแบบ คิดเอาเองนะคะอย่าเอาแต่ลอก

GMT+7, 2024-11-25 02:03 , Processed in 0.085795 second(s), 27 queries .

Powered by Discuz! X3.5, Rev.8

© 2001-2024 Discuz! Team.

ตอบกระทู้ ขึ้นไปด้านบน ไปที่หน้ารายการกระทู้