ลืมรหัสผ่าน
 สมัครเข้าเรียน
ค้นหา
ดู: 570|ตอบกลับ: 4

++ สานฝันนิรันดร ++ # 41

[คัดลอกลิงก์]

โสด

   ศาสตราจารย์เอื้ออาทร
อาจารย์พิเศษ
ถ้าหากว่าซ้ำต้องขออภัยนะครับและขอโทษเจ้าของเรื่องด้วยนะครับเพราะว่าคัดลอกมาอีกที
ความเดิมตอนที่แล้ว

“ปรกติก็ไปประเทศโน้น ประเทศนี้เป็นประจำแต่ช่วงนี้พักอยู่เมืองไทย”
“โอ้โห แล้วเดินทางรอบโลกแล้วรึยังครับนี่” ปรีชาถามอย่างติดตลกสเตฟานไม่ตอบคำถาม ได้แต่อมยิ้มน้อยๆ
“อ้าวไอ้ทัต เป็นอะไรวะ เอาแต่จ้องหน้าเค้าอยู่นั่นแหละ” รังสรรค์หันไปถามกลั้วหัวเราะ แต่ไม่มีคำตอบจากภูริทัต
“ผมขอตัวก่อนนะครับ เดี๋ยวจะต้องเล่นเปียโนอีก”
พูดจบสเตฟานก็ลุกขึ้นเดินไปทางเคาเตอร์เครื่องดื่ม โดยมีสายตาของภูริทัตมองตามไปอย่างไม่วางตา
“คุณทัตครับ” ทรงเดชเรียกเบาๆ
“ว่าไงครับ” ภูริทัตหันมาตอบ เมื่อเห็นสเตฟานเดินหลบหายไปทางมุมหนึ่งของห้องลอบบี้
“มองอะไรเค้านักหนาวะ ท่าทางจะเขินจนต้องลุกหนีไปเลย” รังสรรค์ถามในสิ่งที่ทุกคนก็อยากรู้
“เอ้อ ...” ภูริทัตอึกอัก ยกมืขึ้นเกาท้ายทอย “จะว่าไงดีวะ”
“ว่าอะไรก็ว่ามา กำลังรอฟัง” ปรีชาทำหน้าทะเล้น ยื่นหน้าเข้าไปใกล้มากขึ้น
“คือ...” ภูริทัตทำสีหน้าเหมือนลำบากใจ
“เค้าหน้าเหมือนคนที่ข้าเห็นในฝันหว่ะ”
“ฝันอะไรวะ” รังสรรค์ถาม
“ก็ฝันที่มีปีศาจไล่ทำร้ายข้าไง แล้วปีศาจสีทองที่มาช่วยข้ากลายเป็นชายหนุ่ม สเตฟานคนนี้ เหมือนคนที่ข้าเห็นในฝันเปี๊ยบ”
“คุณทัตเคยบอกว่ามันเป็นฝันที่น่ากลัวนี่ครับ” ทรงเดชพูดขึ้น
“ถ้าอย่างนั้น คุณทัตก็น่าจะกลัวคุณสเตฟานสิ”
“นั่นสิครับ ผมก็เคยคิดว่าถ้าผมได้เจอคนที่เหมือนในฝัน ผมคงจะต้องตกใจกลัว แล้วอยากอยู่ห่างๆ แต่พอผมได้เจอเข้าจริงๆ ทำไมผมถึงรู้สึกแบบนี้ได้ก็ไม่รู้” พูดแล้วภูริทัตก็ถอนหายใจ
“ยังไง อธิบายมาให้เข้าใจดิ๊” ปรีชาเร่ง
“ข้าว่าคนนี้แหละ” ภูริทัตพูดพลางจ้องหน้าเพื่อนทั้งสองสลับกันไปมา
“คนนี้แหละคนที่ข้ารอมาตลอด” แล้วภูริทัตก็หันหน้ามาทางทรงเดช “จริงๆนะ ความรู้สึกของผมมันบอกอย่างนั้นจริงๆ”
“ผมเชื่อครับ แค่ผมเห็นท่าทางที่คุณมองคุณสเตฟาน ผมก็เชื่อสนิทใจ” ทรงเดชพูดพร้อมกับยิ้มกริ่ม ทำให้รังสรรค์และปรีชาพากันมองหน้ากันด้วยความสงสัย เมื่อเห็นสีหน้าและรอยยิ้มนั้น
“เค้าจำคุณได้” ทรงเดชพูดยิ้มๆ
“ถึงสมองของเค้าจะจำคุณไม่ได้ แต่เค้าจำคุณได้จากความรู้สึก จากส่วนลึกของจิตใจ” ทรงเดชพูดพลางจ้องมองสเตฟานซึ่งยืนหันหลังให้ ตรงริมหน้าต่าง
“ทำไมไม่เริ่มต้นใหม่ล่ะครับ” ทรงเดชพูดอีก
“บางทีอะไรมันอาจจะไม่เลวร้ายอย่างที่คิดก็ได้ ผมว่าเค้ารับตัวตนที่แท้จริงของคุณได้แน่ๆ”
“คุณพูดราวกับมันเป็นเรื่องง่ายๆ” สเตฟานหันกลับมา
“ถามจริงๆ ทั้งๆที่คุณก็รู้ว่าผมเป็น ‘อะไร’ คุณเคยมีความรู้สึกกลัวผมบ้างไหม”
“ตลกน่ะครับ คุณมีตรงไหนน่ากลัว”พูดแล้วทรงเดชก็ถอยหลังไปสองก้าว แล้วใช้สายตามองดูสเตฟานไปจนทั่วตัว
“แค่แก่ช้ากว่าผมหลายๆปีเท่านั้นเอง” พูดแล้วทรงเดชก็อดหัวเราะไม่ได้
สเตฟานอมยิ้ม ส่ายหน้าเบาๆ แล้วก็ถอนหายใจ
“พูดจริงๆนะ ถ้าผมไม่รู้มาก่อนว่าคุณเป็นเหมือนญาติผู้ใหญ่ของผม ... ผมอาจจะหลงรักคุณก็ได้”ทรงเดชพูดด้วยสีหน้าจริงจัง
“ขอบใจนะ ขอบใจมากสำหรับคำปลอบใจของคุณ”
สเตฟานเดินไปนั่งลงบนเก้าอี้ของชุดโซฟา ทรงเดชก็ก้าวตามไปนั่งลงบนเก้าอี้อีกตัวหนึ่ง
“คุณทำให้ผมนึกถึงเด็กชายตัวน้อยคนหนึ่ง ที่ไม่กลัวผมเลย ถึงแม้จะเห็นรูปร่างที่น่ากลัวของผม ในยามที่ผมกลายเป็นแวมไพร์โดยสมบูรณ์”
“แวมไพร์โดยสมบูรณ์ ... หมายถึงมีปีกมีเขา มีเขี้ยวงอกออกมาเหมือนที่ในหนังสือนิยายเขียนไว้น่ะเหรอครับ” ทรงเดชขมวดคิ้ว
“ผมนึกภาพไม่ออกเลยว่าคุณจะเป็นแบบนั้นได้ยังไง ว่าแต่ใครเหรอครับ เด็กชายตัวน้อยที่คุณพูดถึงน่ะ”
“มันเป็นเรื่องนานมากแล้ว ด็กชายตัวน้อยที่ผมได้พบเมื่อตอนที่ผมมายังประเทศนี้ครั้งแรก เด็กชายตัวน้อย เด็กสาวที่น่ารัก และคู่สามีภรรยา เป็นครอบครัวที่อบอุ่นทีเดียว”
“เล่าให้ผมฟังหน่อยสิครับ ผมอยากรู้”
บทที่ ๔๘
“คุณพระช่วย”
พุดซ้อนอุทาน ยกมือขึ้นทาบอก ตกใจกับภาพที่เห็น พอตั้งสติได้ก็ลุกขึ้นเปิดประตู วิ่งลงบันได หวังจะวิ่งไปให้ถึงตัวบุตรชายคนเล็ก
แต่ก็ต้องหยุดชะงัก เพราะเหมืนมีกำแพงกั้นไว้ ทำให้ไม่สามารถก้าวเท้าออกไป เกินแนวที่สามีของนางและพวกบ่าวไพร่ยืนอยู่ได้
“เจ้าสิน” พุดซ้อนตะโกนเสียงดังด้วยความเป็นห่วง
“คุณค่ะ ช่วยเจ้าสินยังไงดี” หล่อนหันไปพูดกับสามีที่เดินมายืนอยู่ข้างๆ
“ใจเย็นก่อนเถิดแม่ ข้าว่ามันมีอะไรผิดไป” ดาวเรืองที่วิ่งตามลงมา พูดพลางเกาะแขนมารดาไว้แน่น
“นั่นสิ ข้าก็เห็นเช่นนั้น” แสนพูดแล้วก็เปลี่ยนสายตาไปมองยังบุตรชายที่ยืนนิ่งเงียบอยู่ ผิดไปจากบรรดาบ่าวไพร่ที่ต่างซุบซิบกันถึงสิ่งที่เห็นอยู่ตรงหน้า
“ทำอะไรของเจ้า” สินพูดอย่างหงุดหงิด
“คิดจะหลอกให้ข้ากลัวหรือไร แกล้งข้าเช่นนี้ ข้าหากลัวไม่” พูดแล้วก็ยกมือขึ้นท้าวสะเอว
“อวดเก่งนักหรือเจ้าเด็กน้อย” เสียงดังออกมาจากร่างที่ค่อยๆเปลี่ยนเป็นสีทอง ประกายตาสีเขียวทอแสงวูบวาบ เรือนผมที่ลุกชี้ชันพริ้วไสวราวกับกลุ่มไฟขนาดย่อม
“หากยังมิถอยกลับไป ข้าจักใช้เล็บนี้ฉีกเข้าเป็นชิ้นๆ แล้วสูบกินโลหิตเจ้าให้อิ่มหนำ”
“เช๊อะ...!” สินแค่นเสียง “อย่ามาหลอกข้า เจ้านะรึจะทำร้ายข้า รีบคลายมนตราของเจ้า แล้วกลับมาเป็นสานฝันรูปงามของข้าได้แล้ว”
“หึ..หึ” ร่างสีทองหัวเราะในลำคอ แล้วค่อยๆย่อตัวลงนั่งชันเข่า จ้องมองใบหน้าของสินแน่วนิ่ง
“เจ้ามิกลัวข้าเลยหรือไร”
“กลัวเหรอ” สินขมวดคิ้ว
“หากข้ามิรู้มาก่อนว่าเจ้าเป็นใครก็ว่าไปอย่าง แต่นี่เจ้าใช้เล่ห์มายาบิดเบือนรูปกายต่อหน้าข้า” พูดพลางเดินเข้าไปใกล้มากขึ้น
“ข้ารึจะกลัวสานฝัน...พี่ชายอันเป็นที่รักของข้า”
ร่างสีทองค่อยๆเปลี่ยนแปลงกับเป็นชายหนุ่มอีกครั้ง ใบหน้าระบายไปด้วยรอยยิ้มอันอ่อนโยน มือขาวผ่องยกขึ้นจับไหล่ทั้งสองของเด็กชาย แล้วลูบเบาๆ
“เจ้าสิน...น้องชายที่รักของข้า” สเตฟานพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน
“ข้าดีใจนักที่เจ้าพูดเช่นนี้ แต่อย่างไร ข้าก็ต้องไปแล้ว”
“ไป...ทำไมต้องไปด้วยเล่า”
“เจ้าลองคิดดู เรื่องของข้าอาจแพร่งพรายออกไป หากถึงหูผู้มีอำนาจ ครอบครัวของเจ้าอาจเป็นอันตรายได้”
“อันตรายจากสิ่งใดกัน” สินเอียงคอด้วยความสงสัย
“เอาไว้ให้พ่อแสน กับแม่พุดซ้อนของเจ้าอธิบายก็แล้วกัน”
“แล้วเมื่อไรจักกลับมาเล่า”
“ข้าไม่รู้” พูดแล้วก็หลุบสายตาลงไปที่พื้น เพราะไม่อยากให้เด็กชายเห็นแววตาของเขา
“ข้าคงคิดถึงเจ้ามาก หากไม่ได้พบเจ้าอีก” พูดแล้วสินก็โผตัวกอดคอสเตฟานไว้แน่น
ชายหนุ่มโอบกอดร่างของเด็กชายไว้อย่างอ่อนโยน จุมพิศเบาๆที่แก้มเนียน แล้วกระซิบเบาๆที่หูของเด็กชาย
“จำคำข้าไว้ น้องชายข้า แล้วเบื้องหน้า เมื่อเจ้าออกเรือน มีบุตหลานมากมาย จงบอกต่อแก่บุตรหลาน ผู้ที่เจ้ารักแลไว้ใจที่สุด”
“สิ่งใดฤา” สินถามเบาๆซบหน้าลงไปบนไหล่อันอบอุ่น
“จงจำข้าไว้ จดจำรูปลักษณ์ของข้า จดจำดวงตาของข้า หากยามที่พวกมันพบเจอข้า แลมันสามารถขานนามของข้าที่เจ้าตั้งให้ได้ ข้าจักแก้ปัญหาให้แก่มันประการหนึ่ง”
“ข้าจักจำไว้”
“ดีแล้ว” สเตฟานจุมพิศแก้มของเด็กชายอย่างอ่อนโยนอีกครั้ง ก่อนจะจับตัวเด็กชายให้ถอยห่างออกไป
“ตอนนี้เจ้ากลับไปได้แล้ว ให้ข้าได้เห็นเจ้ากับครอบครัวของเจ้าโดยพร้อมหน้ากันอีกสักครั้ง”
“สานฝัน” เด็กชายเรียก แล้วโผเข้าไปกอดสเตฟานไว้อีกครั้ง ก่อนจะจุมพิศแก้มของชายหนุ่มทีละข้าง
“ไปเถิดน้องชายข้า” สเตฟานดันตัวเด็กชายออกห่าง สินขืนตัวเล็กน้อยราวกับไม่ยินยอม “อย่าได้ร้องไห้ให้ข้าเห็น”
สินหันตัวกลับ ค่อยๆเดินเข้าไปหาแสนและพุดซ้อนอย่างช้าๆ ระหว่างที่เดินก็เหลียวหน้ากลับไปมองดูสเตฟานเป็นระยะๆ
“สินเป็นอะไรรึเปล่าลูก” พุดซ้อนทรุดตัวลงนั่ง กอดเจ้าสินไว้แน่น
“แม่ ... สานฝันจะไปแล้ว” พูดแล้วก็น้ำตาคลอ หันหน้ากลับไปมองชายหนุ่ม
ภาพสุดท้ายที่เด็กชายเห็น คือรอยยิ้มอันอ่อนโยน แล้วร่างของชายหนุ่มก็ค่อยๆเลือนหายไป
“แล้วคุณได้เจอลูกหลานของเด็กสินมั๊ย” ทรงเดชถามอย่างสนใจ แต่สเตฟานกลับขมวดคิ้วเล็กน้อย ก่อนจะตอบด้วยรอยยิ้มน้อยๆ
“พบ ... ความจริงอย่าเรียกว่าพบเลย ผมเองกลับมาประเทศนี้บ่อยๆ และได้เห็นความเป็นไปของครอบครัวนั้น จากรุ่นหนึ่ง สู่อีกรุ่นหนึ่ง มันเป็นความสุข ถึงแม้จะเป็นเพียงการเฝ้ามอง มันเหมือนกับผมมองดูครอบครัวของผมเองทีเดียว แล้ววันหนึ่งผมก็ได้ทำตามคำที่ผมให้ไว้ ชายคนนั้นเองก็ไม่ค่อยเชื่อในคำสั่งเสียจากบรรพบุรุษนัก จนผมต้องแสดงหลักฐานให้ดู”
“หวังว่าคงไม่มากไปกว่าตอนที่ผมเจอคุณครั้งแรกนะครับ” พูดแล้วก็หัวเราะออกมา
“ไม่มากไปกว่านั้นหรอก” สเตฟานหัวเราะเบาๆไปด้วย “เขาเป็นคนฉลาดมากทีเดียว คำขอของเขา ทำให้ผมแทบจะต้องอยู่ในประเทศนี้เลย”
“เอ๋ ... ยังไงเหรอครับ”
“เขาให้ผมช่วยเหลือในกิจการที่กำลังประสบปัญหา และรับเป็นประธานกรรมการดูแลกิจการนั้นตลอดไป”
“เอ๊ะ!”
“ใช่ ... ปู่ทวดของคุณนั่นแหละ บุตรหลานของสิน น้องชายอันเป็นที่รักของผม”
“ใจลอยเชียวนะเอ็ง คิดอะไรอยู่วะ” รังสรรค์ทักขึ้น
“นั่นดิ เอาแต่กินเหล้า ไม่พูดไม่จาเชียว” ปรีชาสนับสนุน
“เบื่อๆหว่ะ ข้ากลับก่อนดีกว่า” พูดจบ ภูริทัตก็ลุกขึ้นจากเก้าอี้
“อะไรกัน เพิ่งจะสี่ทุ่ม จะรีบกลับทำไมกัน” ปรีชาบ่น
“เก็บแรงไว้เที่ยวให้เต็มที่ตอนปีใหม่ไงวะ ข้าไปหล่ะ” พูดจบ ภูริทัตก็เดินตรงไปยังประตูทางออกของผัปเล็กแห่งนั้น
ออกมาจากผัปแล้ว ภูริทัตก็เดินดูของบนแผงลอยที่ตั้งเรียงรายอยู่บนทางเดินไปเรื่อยๆ จนกระทั่งเกือบถึงบริเวณหน้าห้างสรรพสินค้า
ที่มีเด็กชายวัยรุ่นนั่งกันอยู่หลายคน แว่บหนึ่งที่ชายหนุ่มเห็นภาพนั้นแต่ไกล ความทรงจำบางอย่างในวัยเด็กก็ผุดเข้ามาในความคิด
... อายุเท่าไหร่แล้ว ...
... สิบสามครับ ...
... โซ ยัง เธอยังเด็ก สำหรับคนไทย เธอยังเด็กเหลือเกินที่ทำแบบนี้ ..

พร้อมกับความคิดนั้นภาพของชายหนุ่มต่างชาติรูปร่างสูงโปร่งในเสื้อโค๊ตสีเขียวเข้มก็ปรากฏขึ้นมาในหัวสมอง ราวกับว่าภาพนั้นเพิ่งเกิดขึ้นเมื่อไม่นานมานี้ผิวขาวละเอียดอ่อน กับเรือนผมสีทองดูกระจ่างตามีเพียงใบหน้าที่เหมือนมีหมอกบางๆคลุมไว้ ทำให้มองเห็นได้ไม่ชัดเจน คิดมาถึงตรงนี้ภูริทัตก็ถอนหายใจแรง สายตาเหลือบมองไปเห็นเด็กชายคนหนึ่งที่ยืนห่างออกไปจากกลุ่ม กำลังพูดคุยกับชายรูปร่างสูงเมื่อมองจากด้านหลังทำให้เขาขมวดคิ้วด้วยความแปลกใจ



มหาลัยซีเนียร์

กระทู้
0
พลังน้ำใจ
1338
Zenny
8250
ออนไลน์
245 ชั่วโมง
โพสต์ 2012-7-1 19:31:10 | ดูโพสต์ทั้งหมด

มหาลัยซีเนียร์

กระทู้
0
พลังน้ำใจ
1456
Zenny
-96
ออนไลน์
698 ชั่วโมง
โพสต์ 2013-12-1 03:19:45 | ดูโพสต์ทั้งหมด
ขอบตุนคราฟ

นิสิตสัมพันธ์

กระทู้
7
พลังน้ำใจ
40786
Zenny
35240
ออนไลน์
3552 ชั่วโมง
โพสต์ 2017-4-2 06:02:22 | ดูโพสต์ทั้งหมด
ขอบคุนค๊าฟ

นิสิตสัมพันธ์

กระทู้
0
พลังน้ำใจ
47771
Zenny
20390
ออนไลน์
2061 ชั่วโมง
โพสต์ 2019-10-4 13:22:29 | ดูโพสต์ทั้งหมด
ขอบคุณครับ
ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง เข้าสู่ระบบ | สมัครเข้าเรียน

รายละเอียดเครดิต

A Touch of Friendship: สังคมจะน่าอยู่ เมื่อมีผู้ให้แบ่งปัน ฝากไวเป็นข้อคิดด้วยนะคะชาวจีโฟกายทุกท่าน
!!!!!โปรดหยุด!!!!! : พฤติกรรมการโพสมั่วๆ / โพสแต่อีโมโดยไม่มีข้อความประกอบการโพส / โพสลากอักษรยาว เช่น ครับบบบบบบบบ, ชอบบบบบบบบ, thxxxxxxxx, และอื่นๆที่ดูแล้วน่ารำคาญสายตา เพราะถ้าท่านไม่หยุดทีมงานจะหยุดท่านเอง
ขอความร่วมมือสมาชิกทุกท่านโปรดโพสตอบอย่างอื่นนอกเหนือจากคำว่า ขอบคุณ, thanks, thank you, หรืออื่นๆที่สื่อความหมายว่าขอบคุณเพียงอย่างเดียวด้วยนะคะ เพื่อสื่อถึงความจริงใจในการโพสตอบกระทู้ และไม่ดูเป็นโพสขยะ
กระทู้ไหนที่ไม่ใช่กระทู้ในลักษณะที่ต้องโพสตอบโดยใช้คำว่าขอบคุณ เช่นกระทู้โพล, กระทู้ถามความเห็น, หรืออื่นๆที่ทีมงานอ่านแล้วเข้าข่ายว่า โพสขอบคุณไร้สาระ ทีมงานขอดำเนินการตัดคะแนน และ/หรือให้ใบเตือนสมาชิกที่โพสขอบคุณทันทีที่เจอนะคะ

รูปแบบข้อความล้วน|โทรศัพท์มือถือ|ติดต่อลงโฆษณา|จีโฟกายดอทคอม

ข้อความที่ท่านได้อ่านในเว็บจีโฟกายดอทคอมนี้ เกิดจากการเขียนโดยสาธารณชน และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ หากท่านพบเห็นข้อความใดๆ ที่ขัดต่อกฎหมาย และศิลธรรม ไม่เหมาะสมที่จะเผยแพร่ ท่านสามารถแจ้งลบข้อความได้ที่ Link “แจ้งลบโพสนี้” ที่มีอยู่ใต้ข้อความทุกข้อความ หรือ ลืมพาสเวิดล๊อกอิน/ลืมชื่อที่ใช้สมัคร หรือข้อสงสัยใดๆแจ้งมาที่ G4GuysTeam[at]yahoo.com ขอขอบพระคุณที่ให้ความร่วมมือ

กรณีที่ข้อความ/รูปภาพในกระทู้นี้จัดสร้างโดยผู้ลงข้อมูลเอง ลิขสิทธิ์จะเป็นของผู้ลงข้อมูลโดยตรง หากจะทำการคัดลอก/เผยแพร่ ต้องได้รับอนุญาตจากผู้ลงข้อมูลก่อนนะคะ หรือลงที่มาไว้ด้วยค่ะ

©ขอสงวนสิทธิ์คอนเซ็ปต์,คำอธิบาย,หัวข้อ/หมวดหมู่เว็บ ห้ามลอกเลียนแบบ คิดเอาเองนะคะอย่าเอาแต่ลอก

GMT+7, 2024-11-25 01:44 , Processed in 0.085602 second(s), 27 queries .

Powered by Discuz! X3.5, Rev.8

© 2001-2024 Discuz! Team.

ตอบกระทู้ ขึ้นไปด้านบน ไปที่หน้ารายการกระทู้