ลืมรหัสผ่าน
 สมัครเข้าเรียน
ค้นหา
ดู: 598|ตอบกลับ: 4

++ สานฝันนิรันดร ++ # 43

[คัดลอกลิงก์]

โสด

   ศาสตราจารย์เอื้ออาทร
อาจารย์พิเศษ
ถ้าหากว่าซ้ำต้องขออภัยนะครับและขอโทษเจ้าของเรื่องด้วยนะครับเพราะว่าคัดลอกมาอีกที
ความเดิมตอนที่แล้ว


“อ้าว ... ก็คุณเป็นผู้ช่วยกรรมการผู้บริหารไม่ใช่เหรอเจ้านายคุณก็ต้องเป็นพวกตาแก่ที่นั่งบริหารงานโรงแรมน่ะสิ อย่างน้อยก็น่าจะพอๆกับคุณปู่คุณนะเพราะคุณเข้ามาทำงานแทนคุณปู่คุณนี่นา” ปรีชาอธิบาย
“นั่นสิ แล้วยังร่ำรวยมีบ้านใหญ่โตโอ่อ่าขนาดนี้อีกจะให้คิดว่าเป็นคนรุ่นพวกเรา ก็คงไม่น่าเป็นไปได้” รังสรรค์ที่กำลังปิ้งบาร์บีคิวอยู่

แต่ก็ได้ยินการสนทนาชัดเจนหันมาพูดเสริม
“นั่นสินะ ทีแรกผมก็คิดแบบพวกคุณเหมือนกัน” ทรงเดชยิ้ม เมื่อคิดถึงตัวเองก่อนจะมาทำ ‘หน้าที่’ แทนปู่ของเขา พลางมองหน้าที่มีแววสงสัยของทุกคน “เอาเป็นว่าถ้าได้เจอกันอีกครั้ง พวกคุณก็รู้เอง”
“คุณพูดยังกับว่าพวกเราเคยเจอเจ้านายคุณแล้ว อย่างนั้นแหละ” ภูริทัตท้วง
ทรงเดชไม่ตอบ แต่มองหน้าภูริทัตแล้วยิ้ม  แล้วก็เดินไปช่วยรังสรรค์ที่กำลังปิ้งบาร์บิคิวอยู่ ทิ้งให้ภูริทัตคิดสงสัยในรอยยิ้มที่มีเลศนัยบางอย่างอยู่ในรอยยิ้มนั้น
ดึกมากแล้ว แต่ภูริทัตยังนอนพลิกตัวไปมา ผิดกับทรงเดชซึ่งกำลังหลับอย่างสบาย อยู่บนเตียงอีกหลังหนึ่งภายในห้องเดียวกัน เมื่อเห็นว่าไม่หลับแน่แล้ว จึงลุกขึ้นจากที่นอน เดินไปเปิดประตูระเบียงย่างแผ่วเบา ชายหนุ่มเกาะรั้วระเบียงแล้วสูดหายใจลึกๆ รู้สึกว่าอากาศเย็นเล็กน้อย ดวงจันทร์ซึ่งผ่านข้างแรมมาได้ไม่นาน ส่องแสงสลัวเป็นดวงเสี้ยวอยู่บนท้องฟ้า  แสงสว่างของตัวเมืองที่อยู่ห่างไปรอบๆ ทำให้มองเห็นท้องฟ้าสลัวเลือนลาง สายตาที่กวาดมองไปทั่วก็ต้องสะดุดอยู่ตรงลานกว้าง เมื่อเห็นคนที่กำลังจ้องมองมา
เรือนร่างสูงโปร่ง เรือนผมสีทองเป็นประกาย ทำให้วงหน้ายิ่งดูกระจ่างตา สายตาทั้งสองประสานกันแน่วนิ่ง ภูริทัตไม่รู้ว่าอีกฝ่ายรู้สึกอย่างไร แต่ตัวเขาเองกำลังร้อนรุ่มด้วยความปรารถนาอย่างที่เขาไม่สามารถบอกได้ว่าทำไม
“สานฝัน” ภูริทัตพูดเบาๆ แต่เงาร่างนั้นก็จางหายไปเสียแล้ว
“หลับสบายกันมั๊ยครับ” ทรงเดชพูดทักทายรังสรรค์กับปรีชาที่กำลังนั่งลงบนเก้าอี้ เพื่อรับประทานอาหารเช้า
“ผมคนนอนง่ายอยู่แล้ว หัวถึงหมอนก็หลับเลย” รังสรรค์ที่มานั่งอยู่ด้านข้างตอบยิ้มๆ
“แล้วเจ้าทัตล่ะ” ปรีชาถาม
“เดี๋ยวคงลงมามั๊งครับ ตอนผมลงมา คุณทัตเพิ่งตื่น” ทรงเดชตอบพลางเลื่อนถาดเครื่องปรุงกาแฟให้คนทั้งสอง
ทั้งสามคนรับประทานอาหารเช้ากันอย่างเอร็ดอร่อย สักพักภูริทัตก็เข้ามาร่วมวงด้วย
“เป็นไงวะ หน้าตายู่ยี่ นอนไม่หลับเหรอไง หรือมีใครทำอะไรวะ” ปรีชาพูดขำๆ ทำเอารังสรรค์หันมามองตาขวาง
“นอนไม่ค่อยหลับหว่ะ ผิดที่” ภูริทัตตอบพลางเทนมลงไปในถ้ายกาแฟ
“เมื่อคืนเลยออกไปยืนรับลมที่ระเบียง เลยยิ่งตาสว่าง”
“ทำไมวะ เจอนางไม้เหรอไง” รังสรรค์หยอก
“เปล่า” ภูริทัตตอบแล้วมองหน้าทรงเดช
“ผมเห็นสเตฟาน”
“สเตฟานที่เล่นเปีนโนที่โรงแรมนั่นน่ะเหรอ จะมาได้ไงวะ” ปรีชาพูดอย่างไม่ค่อยเชื่อ
“นั่นดิ ตาฝาด หรือว่าคิดถึงจนเห็นภาพวะ” รังสรรค์ล้อเลียน แล้วก็ทำหน้าเหมือนตกใจ
“ไม่หรอกครับ ผมว่าเมื่อคืนคุณสเตฟานคงมาที่นี่จริงๆ” ทรงเดชพูดยิ้มๆ
“คุณก็เป็นไปด้วยเหรอไง” ปรีชาหัวเราะ
“เค้าจะมานี่ได้ยังไงกัน”
“ทำไมจะไม่ได้ล่ะครับ” เสียงมาจากทางด้านหลัง ทำให้ปรีชาและภูริทัตหันไปมองด้วยความตกใจ
สเตฟานยิ้มน้อยๆ แล้วเดินช้าๆมายังโต๊ะอาหาร เสื้อยืดคอกลมสีครีม กับกางเกงสีขาว ทำให้ชายหนุ่มดูขาวผ่องไปทั้งตัว
“เมื่อคืนขอโทษด้วยนะครับ ที่มาร่วมวงบาร์บีคิวด้วยไม่ได้” เสตฟานพูดพร้อมกับรอยยิ้มบางๆบนใบหน้า เมื่อนั่งลงลนเก้าอี้หัวโต๊ะ “พอดีว่า ผมมีงาน” เขาเน้นคำว่า ‘งาน’หนักเป็นพิเศษ
“อะไรกัน ปีใหม่อย่างนี้คุณยังมีงานอีกเหรอ” ปรีชาสงสัย
“งานของผมไม่เลือกเวลาหรอกครับ โดยเฉพาะช่วงนี้ ไม่รู้ว่าทำไมงานของผมถึงได้เยอะเป็นพิเศษ”
สเตฟานรับแก้วกาแฟที่ปรุงเรียบร้อยแล้วจากทรงเดชมา แล้วยกขึ้นจิบช้าๆ ภูริทัตส่งสายตาที่มีคำถามไปให้ทรงเดชเมื่อเห็นว่าทรงเดชคอยจัดการสิ่งต่างๆบนโต๊ะอาหารให้สเตฟานตลอดเวลา
“ผมว่า เรามาแนะนำตัวกันอีกทีดีไหมครับ” ทรงเดชยิ้มกว้างเมื่อเห็นสายตาของชายหนุ่ม
“อย่าบอกนะ ... ว่าคุณสองคนน่ะ” รังสรรค์ขัด
“ใช่ครับ” ทรงเดชพูดแล้วหัวเราะเบาๆ หันไปมองสเตฟาน ซึ่งมองเขาแล้วขมวดคิ้ว พลางส่ายหน้าเบาๆอย่างเอือมระอา
“เฮ๊ย ... ขอแสดงความเสียใจกับนายด้วยหว่ะ” ปรีชาหันไปบอกกับรังสรรค์ด้วยใบหน้าเศร้าๆ
“เสียใจเรื่องอะไรเหรอครับ” ทรงเดชแกล้งถาม
“ก็เรื่องคนบางคน” ปรีชาเฉไฉแล้วเบือนหน้าหนี เมื่อเห็นสายตาเอาเรื่องของรังสรรค์ แต่ก็ต้องแปลกใจเมื่อเห็นสีหน้าของภูริทัต
“เฮ๊ย เป็นอะไรวะ หน้าซีดเชียวเจ้าทัต”
“เปล่า” ภูริทัตตอบสั้นๆ รู้สึกลำคอแห้งผาก จนต้องกลืนน้ำลายลงคอหลายครั้ง
“คุณเล่นมากไปแล้วนะ ทรงเดช” เสียงดุๆของสเตฟานทำให้ทุกคนหันมามองด้วยความแปลกใจโดยเฉพาะทรงเดช
“ขอโทษครับ” ทรงเดชรู้สึกตกใจเล็กน้อย ตั้งแต่ได้รู้จัก เขายังไม่เคยเห็นสเตฟานแสดงความโกรธเลยแม้แต่เล็กน้อย แต่ครั้งนี้ดูจากสีหน้าแล้ว เหมือนสเตฟานจะโกรธมากทีเดียว
“ทรงเดชทำงานกับผม” สเตฟานอธิบายสั้นๆ
“แหะๆ ... ขอแนะนำให้รู้จักเจ้าของบ้านหลังนี้นะครับ คุณสเตฟานเจ้านายของผมเอง”
“เจ้านาย” ภูริทัตทวนคำ “แปลว่าคุณสองคนไม่ใช่ ...”
“ไม่ใช่ครับ ผมล้อเล่น คุณสเตฟานยังไม่มีคนรักครับ แต่ไม่แน่ เร็วๆนี้อาจจะมีก็ได้” พูดแล้วก็ต้องกลั้นหัวเราะ
“ผมขอตัวก่อนนะครับ” พูดแล้วสเตฟานก็ลุกเดินจากไปอย่างรวดเร็ว
ภูริทัตมองตามสเตฟานที่เดินขึ้นบันไดไป แว่บหนึ่งเขามองเห็นใบหน้าที่เปลี่ยนเป็นสีแดงเข้ม แต่แววตากับสีหน้ากลับมีแววเศร้าหมอง มันดูขัดกันอย่างไรพิกล
บทที่ ๕๑
สายมากแล้ว ทุกคนนั่งพักผ่อนกันตามสบายภายในห้องนั่งเล่น ดูโทรทัศน์ อ่านหนังสือ พูดคุยกัน จนภูริทัตรู้สึกเพลียเล็กน้อย เนื่องจากพักผ่อนไม่เพียงพอมาตั้งแต่ก่อนวันส่งท้ายปีเก่า เขาจึงขอตัวไปนอนในห้องพัก
ภูริทัตเดินขึ้นบันได้ ความรู้สึกคุ้นเคยบางอย่าง ทำให้พาตัวเองเดินไปอีกฟากหนึ่งของห้องพัก มือของเขาเอื้อมไปเปิดบานประตูออก แล้วเดินเข้าไป กวาดสายตามองไปรอบๆห้อง เตียงนอนขนาดใหญ่กลางห้อง มีผ้าคลุมสีขาวสะอาด หน้าต่างบานใหญ่ปิดสนิท พร้อมผ้าม่านหนาหนัก ที่กั้นแสงสว่างจากภายนอกไว้ เครื่องเรือนเพียงไม่กี่ชิ้นทำให้ห้องนอนดูโล่งสบายตา และในแสงสลัว เขามองเห็นของสิ่งหนึ่งตั้งอยู่ทางมุมห้องใกล้ๆหน้าต่าง มีผ้าคลุมเอาไว้อย่างมิดชิด
... แกเก็บรูปนั้นดีรึยัง ...
... ก็เอาผ้าไปคลุมไว้เฉยๆ ...
ภูริทัตคิดไปถึงคำสนทนาที่เขาได้ยินเมื่อวานนี้ ขาของเขาก้าวเข้าหาของสิ่งนั้น แล้วเอื้อมมือออกไปดึงผ้าคลุมออกช้าๆ ภายใต้ผ้าคลุมนั้นเป็นขาตั้งพร้อมภาพเขียน ชายหนุ่มเดินไปเปิดผ้าม่านให้แสงสว่างส่องเข้ามา แล้วเดินกลับไปดูภาพบนขาตั้งอีกครั้ง
“เอ๊ะ ...” เขาอุทานเบาๆด้วยความแปลกใจเมื่อเห็นภาพนั้นชัดตา
ภาพสีไม้บนกระดาษปอนด์นั้นดูสวยงาม เก็บรายละเอียดทุกอย่างได้อย่างครบถ้าน ต้นหญ้าบนพื้นและต้นไม้รอบๆ ดูเขียวขจีสดใส
ชายหนุ่มที่นั่งอยู่ตรงกลางกำลังแย้มยิ้มด้วยความสุข
... มันคงเป็นภาพเขียนธรรมดาที่เพียงแค่ดูสวยงาม หากว่าชายหนุ่มในภาพนั้นไม่ใช่ตัวเขา ...
“คุณเห็นแล้วสินะครับ” เสียงของทรงเดชดังขึ้นมา ภูริทัตหันไปมองก็เห็นเจ้าของเสียงยืนอยู่ตรงประตู
ทรงเดชเดินมายืนข้างๆภูริทัต จ้องมองดูรูปภาพแล้วยิ้มกว้าง
“ทำไมคนในรูป...” ภูริทัตถามช้าๆ
“ครับ คุณนั่นแหละ” ทรงเดชตอบก่อนที่ภูริทัตจะถามจบ
ภูริทัตหันไปมองรูปอีกครั้ง ครู่หนึ่งก็หันกลับมามองทรงเดช ทำหน้าเหมือนจะถามต่อ แต่ทรงเดชก็ชิงพูดต่อ
“ผมเองก็อยากจะเล่าเรื่องทั้งหมดให้คุณฟังเหมือนกัน แต่มันคงเหมือนผมยัดเยียดเรื่องที่คุณไม่แน่ใจ ให้คุณรู้สึกว่ามันเป็นความจริง
คิดให้ออกนะครับคุณทัต คิดให้ออกว่าคุณเคยมาที่นี่กับใคร คนคนนั้นสำคัญกับคุณขนาดไหน และตัวคุณมีความสำคัญขนาดไหนสำหรับคนคนนั้น พยายามเข้านะครับ”
ทรงเดชยกมือขึ้นบีบไหล่ของภูริทัตเบาๆ ยิ้มกว้างก่อนจะเดินออกไปจากห้อง ทิ้งให้ภูริทัตยืนครุ่นคิดอยู่คนเดียว
ทรงเดชปิดบานประตูอย่างแผ่วเบา พอหันหลังมาก็ต้องอุทานอย่างตกใจ
“คุณท่าน”
“คุณคิดว่ามันจะเป็นไปได้เหรอ” ถ้าเป็นคนอื่นคงไม่เข้าใจคำถามนี้ของสเตฟาน แต่ไม่ใช่สำหรับทรงเดช
“ได้สิครับ นอกจากว่าคุณไม่อยากให้มันเป็น” ทรงเดชตอบอย่างจริงจัง
“ใจหนึ่งผมก็อยากให้เขาจำผมได้” น้ำเสียงของสเตฟานดูเศร้า
“จำความรู้สึกที่เคยมีต่อกัน แล้วกลับมาเป็นเหมือนเดิม ถึงตอนนั้นผมคงมีความสุขมาก”
“ผมเองก็อยากให้เป็นแบบนั้นเหมือนกัน” ทรงเดชพูดแล้วเดินเข้ามาใกล้สเตฟานมากขึ้น
“แต่ผมก็กลัว ... ถ้าเขาจำได้ว่าคืนนั้นเกิดเรื่องอะไรขึ้น จำได้ว่าผมเป็น ‘อะไร’ ... ตอนนั้นผมอาจจะต้องสูญเสียเขาไปอีกครั้ง”
“ไม่หรอกครับ ไม่หรอก” ทรงเดชละล่ำละลัก “มันต้องไม่เป็นแบบนั้น ผมมั่นใจ”
“โอ้โห เยอะอย่างนี้ผมจะเลือกหนังสือยังไงละ” รังสรรค์อุทาน
ทรงเดชพารังสรรค์และปรีชาเข้ามาในห้องหนังสือของบ้าน ห้องขนาดใหญ่ ชั้นหนังสือติดผนังเต็มไปด้วยหนังสือมากมายจนเกือบจรดเพดาน
“เคยหาหนังสือจากตู้ดรรชนีในห้องสมุดไหมครับ ที่นี่ก็เป็นแบบนั้นเหมือนกัน” ทรงเดชเดินนำไปที่ตู้เล็กๆ มีลิ้นชักมากมาย ด้านหน้าติดตัวอักษรเหมือนตู้ในห้องสมุด
“แล้วนั่นรูปอะไรครับ” ปรีชาถามพลางเดินเข้าไปดูภาพเขียนขนาดใหญ่ ที่ติดอยู่หลังโต๊ะทำงาน ซึ่งตั้งอยู่ด้านหนึ่งของห้อง ที่สามารถรับแสงสว่างจากภายนอกได้มากที่สุด
“อ๋อ ภาพเขียนครอบครัวของคุณสเตฟานน่ะครับ” ทรงเดชตอบแล้วเดินตามมาพร้อมกับรังสรรค์
ภาพเขียนสีน้ำมัน เป็นรูปชายหญิงกลางคนนั่งอยู่บนโซฟา ระหว่างคนทั้งสองมีเด็กชายอายุราวๆสิบเอ็ดหรือสิบสองปีนั่งอยู่ ทางด้านหลังยืนไว้ด้วยชายหนุ่มสองคน หนึ่งในสองนั้นคือสเตฟาน ที่น่าแปลกคือทุกคนแต่งตัวเหมือนชาวอังกฤษในยุคโบราณ
“ดูคลาสสิคยังกับภาพโบราณแน่ะครับ” ปรีชาชื่นชม
“สองคนนี้คงเป็นพ่อแม่ของคุณสเตฟาน แล้วนี่คงเป็นพี่ชาย ส่วนคนนี้ น่าจะเป็นน้องชาย” ปรีชาพูดพลางชี้ไปยังบุคคลต่างๆในรูปทีละคน
“อ้าว...อยู่นี่กันเองเหรอ” เสียงดังมาจากทางประตู พร้อมกับภูริทัตที่เดินเข้ามาหาคนทั้งสาม
“มาได้จังหวะเลยนะเอ็ง มานี่” รังสรรค์ดึงตัวภูริทัตเข้าไปใกล้ๆภาพ
“ภาพครอบครัวของคุณสเตฟาน”


“ผมว่าเด็กคนนี้” ทรงเดชพูดช้าๆชี้รูปเด็กชาย แล้วหันมองหน้าภูริทัต
“ดูคล้ายคุณทัตนะ พวกคุณว่ามั๊ย”
“เออเน๊อะ พูดขึ้นมาแล้วผมก็ว่าอย่างนั้น” รังสรรค์ตอบพลางเพ่งมองดูเด็กชายในรูปอย่างพิจจารณา

“คล้ายๆเอ็งตอนเด็กๆนะ”
“นั่นสิ ผมเองยังคิดว่าคล้ายเลย ผิดกันแค่สีผิว กับสีผมเท่านั้นเอง”ภูริทัตยกมือขึ้นลูบหน้าตัวเองเบาๆความทรงจำเมื่อตอนเด็กวูบขึ้นมาในสมอง


มหาลัยซีเนียร์

กระทู้
0
พลังน้ำใจ
1338
Zenny
8250
ออนไลน์
245 ชั่วโมง
โพสต์ 2012-7-1 19:51:34 | ดูโพสต์ทั้งหมด

มหาลัยซีเนียร์

กระทู้
0
พลังน้ำใจ
1456
Zenny
-96
ออนไลน์
698 ชั่วโมง
โพสต์ 2013-12-1 04:07:10 | ดูโพสต์ทั้งหมด
ขอบคุนคราฟ

นิสิตสัมพันธ์

กระทู้
7
พลังน้ำใจ
40786
Zenny
35240
ออนไลน์
3552 ชั่วโมง
โพสต์ 2017-4-2 06:18:15 | ดูโพสต์ทั้งหมด
ขอบคุนค๊าฟ

นิสิตสัมพันธ์

กระทู้
0
พลังน้ำใจ
47771
Zenny
20390
ออนไลน์
2061 ชั่วโมง
โพสต์ 2019-10-4 13:36:08 | ดูโพสต์ทั้งหมด
ขอบคุณครับ
ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง เข้าสู่ระบบ | สมัครเข้าเรียน

รายละเอียดเครดิต

A Touch of Friendship: สังคมจะน่าอยู่ เมื่อมีผู้ให้แบ่งปัน ฝากไวเป็นข้อคิดด้วยนะคะชาวจีโฟกายทุกท่าน
!!!!!โปรดหยุด!!!!! : พฤติกรรมการโพสมั่วๆ / โพสแต่อีโมโดยไม่มีข้อความประกอบการโพส / โพสลากอักษรยาว เช่น ครับบบบบบบบบ, ชอบบบบบบบบ, thxxxxxxxx, และอื่นๆที่ดูแล้วน่ารำคาญสายตา เพราะถ้าท่านไม่หยุดทีมงานจะหยุดท่านเอง
ขอความร่วมมือสมาชิกทุกท่านโปรดโพสตอบอย่างอื่นนอกเหนือจากคำว่า ขอบคุณ, thanks, thank you, หรืออื่นๆที่สื่อความหมายว่าขอบคุณเพียงอย่างเดียวด้วยนะคะ เพื่อสื่อถึงความจริงใจในการโพสตอบกระทู้ และไม่ดูเป็นโพสขยะ
กระทู้ไหนที่ไม่ใช่กระทู้ในลักษณะที่ต้องโพสตอบโดยใช้คำว่าขอบคุณ เช่นกระทู้โพล, กระทู้ถามความเห็น, หรืออื่นๆที่ทีมงานอ่านแล้วเข้าข่ายว่า โพสขอบคุณไร้สาระ ทีมงานขอดำเนินการตัดคะแนน และ/หรือให้ใบเตือนสมาชิกที่โพสขอบคุณทันทีที่เจอนะคะ

รูปแบบข้อความล้วน|โทรศัพท์มือถือ|ติดต่อลงโฆษณา|จีโฟกายดอทคอม

ข้อความที่ท่านได้อ่านในเว็บจีโฟกายดอทคอมนี้ เกิดจากการเขียนโดยสาธารณชน และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ หากท่านพบเห็นข้อความใดๆ ที่ขัดต่อกฎหมาย และศิลธรรม ไม่เหมาะสมที่จะเผยแพร่ ท่านสามารถแจ้งลบข้อความได้ที่ Link “แจ้งลบโพสนี้” ที่มีอยู่ใต้ข้อความทุกข้อความ หรือ ลืมพาสเวิดล๊อกอิน/ลืมชื่อที่ใช้สมัคร หรือข้อสงสัยใดๆแจ้งมาที่ G4GuysTeam[at]yahoo.com ขอขอบพระคุณที่ให้ความร่วมมือ

กรณีที่ข้อความ/รูปภาพในกระทู้นี้จัดสร้างโดยผู้ลงข้อมูลเอง ลิขสิทธิ์จะเป็นของผู้ลงข้อมูลโดยตรง หากจะทำการคัดลอก/เผยแพร่ ต้องได้รับอนุญาตจากผู้ลงข้อมูลก่อนนะคะ หรือลงที่มาไว้ด้วยค่ะ

©ขอสงวนสิทธิ์คอนเซ็ปต์,คำอธิบาย,หัวข้อ/หมวดหมู่เว็บ ห้ามลอกเลียนแบบ คิดเอาเองนะคะอย่าเอาแต่ลอก

GMT+7, 2024-11-25 01:56 , Processed in 0.089173 second(s), 27 queries .

Powered by Discuz! X3.5, Rev.8

© 2001-2024 Discuz! Team.

ตอบกระทู้ ขึ้นไปด้านบน ไปที่หน้ารายการกระทู้