แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย Medmayom เมื่อ 2012-11-4 07:42
สวัสดีครับเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องแรกที่ผมเคยเขียนนะครับ แต่ว่าเป็นเรื่องแรกที่เคยลงเว็ปนี้ครับยังไงติชมกันมั่งนะครับ เอิ้มมไม่ทราบว่าเว็ปนี้ลงฉากอย่างว่าได้ไหมครับ ใครรู้ช่วยตอบด้วยนะครับขอบคุณครับ
ตอนที่ 1
สิ่งที่เจ็บปวดที่สุดในชีวิต คุณคิดว่ามันคืออะไรล่ะ...?แต่ว่าสำหรับผมมันคือความสิ้นหวังในชีวิตไงล่ะ ความสิ้นหวังที่ใคร ๆไม่สามารถหยั่งถึงได้ เรื่องนี้ได้แสดงให้เห็นถึงชีวิตของพี่น้องกำพร้า ไร้ซึ่งพ่อไร้ซึ่งแม่ ต้องใจชีวิตอย่างลำพังเด็กน้อยทั้ง 2 ผู้ไร้ซึ่งภูมิต้านทานกลับต้องเข้าสู่สังคมที่เห็นแก่ตัวตั้งแต่อายุยังน้อยเด็กชาย และเด็กหญิง ที่ต้องทนทุกข์ ทนกับความสิ้นหวังที่รุมเร้าแต่ว่าการมีซึ่งกันและ ๆ กันก็ช่วยเยียวยาจิตใจของเด็กน้อยไปได้ บิล พี่คนโต วัย 15ปีเด็กที่ต้องไปทำงานเพื่อนำเงินมาเรียนและเลี้ยงน้อง และ บีมเด็กสาววัย 10 ปี เด็กที่เรียนดีและได้ทุนการศึกษาเพื่อที่จะช่วยลดรายจ่ายให้กับพี่ชายวัย 15 เพราะเธอสงสารพี่ชายที่ต้องหาเงินเพื่อให้เธอเรียนการใช้ชีวิตที่ยากลำบากของทั้งคู่ บิล เมื่อเลิกเรียนก็จะต้องไปทำงานที่ร้านอาหารก่อนจะกลับบ้านและได้รับค่าจ้างที่ไม่มากนัก แต่ได้อาหารมากินกับน้องสาวชีวิตที่แม้จะลำบากของทั้งคู่แต่ว่าชีวิตของพวกเขาก็ผ่านไปได้เด็กทั้งคู่มีชีวิตที่ดีขึ้น บิลเรียนจบด้วยคะแนนที่ทางบริษัทต่าง ๆ ก็อ้าแขนรับแม้ว่าเขาเมื่อเรียนจบมัธยมปลายจะต้องพักการเรียนเพื่อหาเงินที่จะนำมาเรียนแต่เมื่อเข้าเรียนเขาก็ได้รับทุนในทันที เพราะเขาเป็นเด็กที่สนใจเรียนดีมากชีวิตทั้งคู่เริ่มมีชีวิตที่ดีขึ้น มีบ้าน มีอาหารดี ๆ มีของดี ๆ ใช้และเรื่องราวที่ดี ๆ ก็เกิดขึ้นได้ไม่นานนัก และชีวิตที่มีความสุขของทั้งคู่นี่แหละคือจุดเริ่มต้นของเรื่องราวที่เจ็บปวดและสิ้นหวังมากกว่าที่พวกเขาจะทำใจยอมรับความจริงได้ง่ายๆ
.......Thebroken Heart....... “อะนี่เราพี่ซื้อโทรศัพท์มือถือให้แล้วนี่เงินเดือนนี้” พี่ชายยื่นโทรศัพท์เครื่องแรกในชีวิตให้แก่น้องสาวแล้วก็เงินที่น้องสาวได้มากกว่าครั้งก่อน ๆ ของพี่ “พี่บิลทำไมถึงมากขนาดนี้ พี่คะพี่รับงานเยอะไปเดี๋ยวเสียสุขภาพนะคะแล้วก็โทรศัพท์นี่พี่ไม่ต้องให้หนูก็ได้” “น้องบีมเพื่อน ๆ น้องมีกันหมดเลยไม่ใช่หรอครั้งที่พี่ไปรับน้องแล้วที่เพื่อนน้องขอเบอร์ของน้องไปน่ะ แต่น้องไม่มีโทรศัพท์ไม่เป็นไรหรอก เอาไปเถอะ พี่มีปัญญาซื้อให้น้องพี่ใช้นา...อย่าเป็นห่วงพี่ไปเลยตั้งใจเรียนละ แล้วอีอย่างพี่ก็ได้เลื่อนตำแหน่งด้วย” “จริง ๆหรอคะพี่บิล ว้าวงั้นเดี๋ยววันนี้น้องจะทำอาหารสุดฝีมือไปเลย” “เร็ว ๆเดี๋ยวไปเรียนไม่ทันหรอก” “ค๊า....!!” พี่ชายเงินเดือนแม้จะมากขึ้นแต่ก็ใช้อย่างระมัดระวังและเก็บออมไว้ให้น้องสาวเสมอ พี่น้องที่รักกันดีพี่ชายที่หน้าที่การงานรุ่งเป็นอย่างมาก คุณภาพชีวิตที่ดีอย่างคาดไม่ถึงจนพี่ชายและน้องสาวไม่ค่อยมีโอกาสพบกันมากเท่าใหร่พี่ชายมุ่งมั่นทำงานเพื่อให้น้องสาวสบาย น้องสาวผู้ซึ่งเรียนอย่างหนักเพื่อที่จะทำให้พี่ไม่ต้องลำบากเพื่อที่ตนจะได้จบเร็ว ๆ จึงทำให้เกิดช่องว่างระหว่างพี่น้องเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆจนบางครั้งหลายต่อหลายวันทีพี่น้องไม่ได้เจอหน้ากัน
เมื่อน้องสาวเรียนจบ “ยินดีด้วยนะน้องพี่” “ค่ะพี่แล้วหนูก็ยังได้ที่ทำงานแล้วด้วยคะ” “จริงหรอดีจังนะ” “ค่ะถ่ายรูปกันต่อเถอะคะ” วันแห่งความสุขที่สุดในชีวิตของทั้งสองทั้งคู่เรียนจบ มีงานดี ๆ ทำกัน โดยการอยู่ร่วมกันช่วยเหลือเกื้อกูล พี่ปรึกษาน้องน้องปรึกษาพี่ คุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น และแล้วน้องสาวก็ได้มีท่าทีที่เปลี่ยนแปลงไปเริ่มขลุกอยู่คนเดียว คุยโทรศัพท์ทีเป็นชั่วโมง ๆ “บีม” “มีไรคะพี่” “คุยกับใครน่ะคุยกันนานมากเลย” “อ๋อคุยกันเพื่อนที่ทำงานนะ” “ดึกแล้วนะไปนอนได้แล้วพรุ่งนี้ไม่ไปทำงานหรอ” “คะไปแล้วคะคุณพ่อ” “หึ ๆถ้าเป็นพ่อเดี๋ยวจะได้ตีให้ไง” บิลที่วิ่งไล่จะตีน้องได้เลือบไปเห็นหน้าจอโทรศัพท์ที่ยังไม่ได้กดวางสายนั้น มีชื่อว่า “บิ๊ก”แต่ว่าพี่ชายที่เดาใจน้องสาวว่าคงยังไม่กล้าบอกเลยเก็บเงียบเอาไว้ในวันรุ่งขึ้นบิลที่มีวันหยุด แต่ว่าบีมนั้นต้องไปทำงาน ในตอนที่บีมไปแล้วนั้นบิลก็ได้ตามน้องสาวไป และได้เห็นว่าน้องไปกับผู้ชายคนหนึ่ง จับมือถือแขนกันและได้เข้าไปกินข้าวร้านหนึ่งก่อนที่จะไปทำงานและร้านนั้นก็เป็นร้านโปรดของบิลด้วย บิลเลยเข้าไปทำทีจะไปซื้อข้าวกิน “เอาเหมือนเดิมครับป้า” กระเพาเช่นเดิมน้องสาวที่เห็นพี่ชายก็มีท่าทางตกใจเป็นอย่างมาก พี่ชายเดินเข้าไป แล้วยิ้มให้แก่ทั้งสองแล้วนั่งลงที่โต๊ะ “นี่ใครนะบีมทำไมมากินข้าวด้วยกันแต่เช้าเลย” “แฟนหนูคะ” “แฟน...??” บิลส่งสายตาไปมองแฟนหนุ่มของบีม “สวัสดีครับพี่ผมชื่อบิ๊กครับ” “ทำงานที่ไหน” “ที่เดียวกันคะ” บิลส่งสายตาไปมองที่น้องโดยน้องรู้ทันทีว่ามันหมายถึงต้องการคุยกับบิ๊ก “คบกันนานหรือยัง” “ก็หลายเดือนครับตั้งแต่บีมเข้ามาแรก ๆ ครับ” “แล้วจริงใจกับบีมไหม” “จริงใจครับ” “งั้นหรอช่างเหอะ ถ้าแกทำอะไรให้น้องสาวฉันเสียใจน่ะนะ ฉันไม่ปล่อยเอาไว้แน่ ๆ” หลังจากพูดจบบิลเดินออกจากร้านจ่ายเงินค่าอาหารของตัวเองและของน้องสาวแล้วออกไป โดยที่ไม่มีท่าทีที่จะไม่ยอมรับบิ๊กเลยแม้แต่น้อย บิ๊กเป็นชายหนุ่มภูมิฐานไม่มีท่าทีที่เจ้าชู้ และก็ดูจริงใจกับบีมเอามาก ๆ เลยรู้สึกดีใจด้วยซ้ำที่น้องสาวได้เจอผู้ชายดีๆ หลังจากนั้นเมื่อมีอะไรบีมก็จะเล่าเรื่องบิ๊กให้พี่ชายฟังบ่อยๆ ไม่ว่าจะเป็นบิ๊กพาไปเที่ยว บิ๊กซื้อของขวัญให้ บิ๊กอย่างโน้นบิ๊กอย่างนี้และแล้ววันที่เลวร้ายที่สุดก็มาถึง บิลมีประชุมใหญ่ที่ทำงานจนดึกก่อนที่บิลจะเข้าประชุมน้องสาวได้โทรศัพท์มาหาพี่ชาย โดยร้องห่ม ร้องไห้อย่างหนัก “พี่คะ หนูทะเลอะกับบิ๊กคะทะเลอะกันแรงมาก ตอนนี้เราเลิกกันแล้ว” “อะไรนะตอนนี้น้องอยู่ไหน”“หนูกำลังจะกลับบ้านคะ”
“งั้นพี่มีประชุมเดี๋ยวรอพี่ที่บ้านนะพี่จะรีบกลับ” การประชุมที่ยาวนานมันเป็นเรื่องที่ยากนักที่จะสนเรื่องราวการประชุมตลอด2 ชม.โดยที่ไม่มีความคิดเป็นห่วงน้องสาวที่ร้องไห้เจ็บปวดอยู่ที่บ้านเมื่อการประชุมจบลง บิลรีบเร่งกลับบ้านอย่างรวดเร็วแต่แล้วเมื่อขึ้นไปถึงบนห้องสิ่งที่ได้เห็นคือ ศพน้องสาวที่แขวนคออยู่บิลล้มทรุดลงตรงหน้าร้องไห้กับการสูญเสียที่ยิ่งใหญ่ที่สุดความเคียดแค้นบิ๊กที่เป็นคนทำให้บีมต้องมาตายแบบนี้เต็มคลั่งอยู่ในหัว
โปรดติดตามตอนหน้า
|