ลืมรหัสผ่าน
 สมัครเข้าเรียน
ค้นหา
ดู: 966|ตอบกลับ: 14

OH!! Bad Guy รักร้ายๆของผู้ชายในคุก!! 161

 มาแรง [คัดลอกลิงก์]

โสด

   ศาสตราจารย์เอื้ออาทร
อาจารย์พิเศษ
ถ้าหากว่าซ้ำต้องขออภัยนะครับและขอโทษเจ้าของเรื่องด้วยนะครับเพราะว่าคัดลอกมาอีกที
ความเดิมตอนที่แล้ว
             อ้อมกอดของร่างกายแกร่งที่โอบล้อมอยู่ด้านหลังกระชับแน่นเต็มไปด้วยไออุ่นชวนให้ร่างสะท้านไหว ผมจ้องมองดวงดาวบนท้องฟ้า ริมฝีปากเม้มแน่นขณะที่พี่โตกอดผมไว้แน่น...แน่นเสียจนอ้อมแขนนั้นกลายเป็นอุ่นร้อน หากไม่ได้ร้อนเท่ากับหยดน้ำตา..
ทั้งๆที่ไม่ได้โศกเศร้า ไม่ได้ถูกทำร้ายจิตใจ ไม่ได้มีอะไรร้ายแรงเลยสักนิด ทั้งที่ควรยิ้มยินดี แต่ริมฝีปากผมกลับสั่นไหว ทำได้เพียงกลั้นเสียงแล้วปล่อยให้น้ำตาแห่งความหวาดหวั่นไม่แน่นอนไหลอาบปลายคาง
             กลัว.. ผมกำลังกลัว ...กลัวทุกสิ่งทุกอย่าง กลัวว่าถ้าออกไปแล้วจะมีชีวิตแบบไหน ทำตัวอย่างไร กลัวว่าออกไปแล้วอาจจะมีเรื่องยุ่งยากรออยู่ แต่ที่กลัว..กลัวที่สุดกลบกลายเป็นเรื่องของผมกับพี่โต
            พี่โตจะออกไปก่อนผมนับปี ในขณะที่เขาออกไป ผมก็เป็นเพียงนักโทษคนหนึ่งในนี้ ไม่มีอะไรมากกว่านั้น
ความรักที่มันผลิบานอยู่ในนี้ พออกไป มันจะจางหายและสลายไปเหมือนสายหมอกรึเปล่า
           จะรักกันเหมือนเดิมงั้นหรือ รึว่าอาจจะต้องพลัดพราก อาจจะกลายเป็นคนแปลกหน้า ไม่พบเจอ ไม่รู้จักกันอีกตลอดชีวิตก็ได้   อะไรก็เกิดขึ้นได้ทั้งนั้น....
                  "กูมีเรื่องสำคัญจะบอก..."พี่โตเอ่ย พลางสูดหายใจลึก ฝ่ามือนั้นเกลี่ยน้ำตาบนผิวแก้มผมเบาๆ แต่ก็ไม่ได้เอ่ยปากปลุกปลอบใดๆ
"ถ้ากูออกไปแล้ว...เนม กูจะไม่ติดต่อมาอีก"
              คำพูดนั้นทำให้เลือดในกายเย็นเฉียบ...
               "จะไม่มาเยี่ยม จะไม่ส่งจดหมายมาหา จะไม่..." ถ้วยคำโหดร้ายยังคงดำเนินต่อไปและก็คงจะเอ่ยต่อไปแล้ว
หากว่าโตไม่เห็นสีหน้าเจ็บปวดเหลือคณาของคนรัก และร่างของมันที่เขากอดไว้สั่นไหวขึ้นเรื่อยๆ
              แต่ถึงอย่างนั้นเสียงร้องไห้กลับไม่หลุดออกมาซักแอะ มันทำได้เพียงสะอื้นในลำคอเบาๆและน้ำตาไหลพรากเท่านั้น แต่มองแล้วกลับทำให้หัวใจอ่อนยวบและรู้สึกสงสารขึ้นมาอย่างรวดเร็ว  แต่ถึงสงสารแค่ไหน เรื่องที่ควรพูดก็ต้องพูด เรื่องที่ต้องทำ เขาก็ยังต้องทำ ไม่มาเยี่ยม ไม่มาหา ไม่พบหน้าพบทำ ทำเหมือนคนไม่รู้จัก..
               ทบทวนถ้อยคำที่แสนโหดร้ายและซึมซับเข้าสมองเงียบๆ ผมอยากจะตะโกนด่า ประณามให้พี่โตพูดอกมาตรงๆว่าเลิกตัวงี่เง่า เลิกร้องไห้แล้วลืมตากลับมาพบความจริง ในนี้คือคุก ในนี้ไม่มีผู้หญิง และผมเป็นเพียงของที่ทดแทนเพื่อขับแรงปรารถนาทางเพศ  และข้างนอก..ข้างนอกนั่นมันไม่ใช่แบบนั้น ที่สุดแล้วผู้ชายก็ต้องคู่กับผู้หญิง ต่อให้จะรักหรือรู้สึกอย่างไร พอออกไปแล้ว ก็ต้องกลับมาเป็นเหมือนเดิมอยู่ดี บอกกันตรงๆให้จำไว้แบบนี้ยังจะดีเสียกดว่า
               ผมจิกเล็บสั้นๆของตัวเองลบบนแขนแล้วกำแน่น เม้มปากปนสะอื้นด้วยไม่อยากจะทำอะไรให้พี่โตระคาย
ตา แต่คำพูดที่แสนโหดร้ายที่มาพร้อมอ้อมแขนอุ่นๆมันเหมือนกำลังจะฆ่ากันให้ตายอยู่รอมร่อ
               ถ้าจะไม่รักก็อย่ากอด ถ้าบอกว่าจะไม่เจอ ไม่มาหา ไม่อยากเห็นหน้า ก็อย่ามาทำปลอบใจกันแบบนี้!
                "รู้แล้ว" ผมกล้ำกลืนก้อนสะอื้นที่จุกค้างในลำคอให้ไหลลงไปพร้อมกับรับคำสั้นๆ
"รู้แล้วครับ ผมเข้าใจแล้ว..เข้าใจ...ดี....ผม......อึ่ก.."
              เสียงกลั้นสะอื้นที่ถูกกักเก็บเอาไว้อย่างยากเย็นทำให้คนฝืนใจเเข็งต้องอ่อนยวบอีกครั้ง โตถอนหายใจเฮือก
เอื้อมมือมาหาพร้อมกับดึงเจ้าคนขี้แยไปกอดไว้แน่น
               "ขอโทษ..."คำขอโทษนั้นดังอยู่ข้างหู แต่ถ้อยคำที่ไม่ได้ปฏิเสธหรือบอกปัดความเข้าใจใดๆทำให้หัวใจเจ็บร้าวยิ่งนัก
"ขอโทษที่ต้องทำแบบนี้ แต่มึงอย่าร้องไห้สิ"
              "........." คำตอบของผมคือการเบือนหน้าหนี ไม่อาจคำพูดใดๆ
              พี่โตมองท่าทีผมแล้วถอนหายใจเฮือก
"ฟังกันก่อนสิเด็กดี..มันไม่ใช่อย่างที่คิดนะ"
             "แล้วแบบไหน...." ผมเงยหน้าขึ้นถามดวงดวงตาแดงก่ำ
"ทำไมถึงจะมาหา ไม่ติดต่อ ถ้าไม่รัก..."
                "เพราะรัก" คำพูดนั้นอุดปากผมได้ชะงัด
"เพราะรัก ถึงไม่มา เพราะรัก ถึงต้องอดทน ไม่ติตต่อ ไม่เห็นหน้า ไม่...จนกว่าทุกอย่างจะลงตัว"
                "ทุกอย่างมันคืออะไร?" ผมถามกลับเสียงเครืออย่างไม่เข้าใจ
                "ข้างนอก เนม...ข้างนอก "พี่โตบีบไหล่ผมแล้วถอนหายใจเฮือก คนของป๋า
                "ลำพังกูออกไป ก็อาจจะโดนพวกป๋ามันตามมาจัดการแล้ว แต่ถ้ากูมหามึง มึงอาจจะเจอดีอีก จริงอยู่ที่ว่าป๋ามันรู้จักพวกเราดีและรู้ว่าใครเป็นใคร ทำอะไร ยังไง แต่นั่นมันไม่เหมือนกัน ถ้ากูออกมาแล้วแล้งไม่สน ไม่แยแส พวกป่ามันจะวางมือจากมึง มาเล่นงานกูคนเดียว เพาะกูเป็นหัวหน้าใหญ่ ยิ่งทำท่าไม่สนใจมึงแค่ไหน พวกมึงก็จะปลอดภัยมากขึ้นเท่านั้น"
                   "แต่............." แบบนั้นแล้วพี่โตเล่ามันไม่โหดร้ายไปหน่อยหรือที่จะปล่อยให้พี่โตต้องเผชิญอันตรายคนเดียว
                  "กูเอาตัวรอดได้ ไม่รู้จักขาใหญ่แดนสิบสองรึไง" พี่โตยักไหล่ ทำหน้าทำตาเหมือนไม่แยแสต่อสิ่งที่จะเกิดกับตัวเอง แต่แววสั่นไหวในแววตาที่ปรากฏทำให้ผมรู้ว่ามันไม่ใช่แบบนั้น เพระยังหวาดหลัว เพราะยังเกรงกริ่ง ถึงได้ปกปิด ถึงได้ปกป้อง..ทั้งๆที่ทำไปแล้ว คนที่จะต้องลำบากคือตัวเอง
                   "แล้วเมื่อไหร่ ...." ผมเอ่ยถามอีกครั้งอย่างระทดระท้อ ถ้าเจอไม่ได้ พบไม่ได้ ติดต่อไม่ได้แล้วจะได้เจอกันตอนไหน ตอนที่ผมออกไปแล้วเหรอ? หรือตอนไหนกันแน่
                 "ตอนที่ป๋ามันตาย..."พี่โตเอ่ยเสียงเครียด "จนกว่าพวกมันจะถูกประหาร จนกว่ามันจะหายไปจากโลกนี้ ถ้ามันยังอยู่ เราจะไม่มีวันมีความสุข ต่อให้มึงออกมา แต่ถ้ากูไปหา คนที่อันตรายจะไม่ใช่แค่มึงกับกู แต่จะเป็นน้องมึง
แม่ ครอบครัวของมึง มึงยอมได้เหรอแนม จะให้เขามาเดือดร้อนอีกงั้นหรอ?"
                "........" ผมส่ายหน้า..แน่อยู่แล้วว่าไม่ แต่การรอคอยที่ไม่รู้เมื่อไหร่ มันช่างน่ากลัวเหลือเกิน
                 "กูสัญญา จะกลับมาหา"พี่โตกำมือผมแน่น ก่อนจะหันไปมองรอบกาย ฝ่ามือความสะเปะสะปะ เหมือนตามหาบางอย่าง ทำให้ผมขมวดคิ้วมุ่น
                 "ตามหา...."กำลังถาม แต่ฝ่ามือที่กำบางอย่างชูขึ้นมาทำให้ผมชะงัก
                พี่โตหยิบเส้นลวดเส้นยาวประมาณคืบหนึ่งขึ้นมาอย่างรวดเร็ว สบตาผม ก่อนจะดึงนิ้วหนึ่งของผมให้ยื่นไปหา สีหน้าตั้งอกตั้งใจนั้นทำให้ผมอยากรู้ว่าเขาจะทำอะไร ก่อนที่ปลายนิ้วนั้นจะเริ่มนำเส้นลวดนั้นมาขดรอบวงนิ้วผมเป็นวงกลม สอดเกี่ยวพันรั้งกันจนเหมือนแหวนวงหนึ่ง...
               แหวน...ที่ถูกสวมลงบนนิ้วมือของผม
           ผมหัวเราะ..มองแหวนงี่เง่าที่เกาะอยู่บนนิ้วของตัวเอง ทั้งที่ควรจะขันด้วยความสมเพช ไม่รู้เพราะอะไร ผมถึงได้..ร้องไห้ จะว่าเหมาะดีไหม นักโทษในคุก กับแหวนที่ทำมาจากเส้นลวดเล็กๆดูไร้ราคา
                 "สัญญานะ...กูสัญญา "สีหน้าของพี่โตก็บิดเบี้ยวด้วยความทรมารไม่ต่างจากผม ฝ่ามือนั้นสั่นไหว
"กูจะมาหา กูจะทำทุอย่าง จะปูทางให้มึงออกมาได้อย่างมีความสุข ไม่ต้องกังวลว่าจะถูกพวก-เอี้ย-นั่นลากไปไหน ไม่ต้องกลัวอะไรถ้าอยู่กับกู..กูสัญญานะเนม.."
                  เจ้าของคำสัญญาว่าแล้วก็กำมือผมแน่น ผมมองแหวนหลวมๆที่สวมนิ้วนางไม่ได้จนต้องเปลี่ยนมาสวมนิ้วก้อยแทน ผมมองเส้นลวดที่ถูกขดเป็นแหวนทุเรศๆบนนิ้ว อย่างชวนขัน ทั้งขนาดนี้ไม่พอเหมาะ สัมผัสสากระคาย เส้นลวดเหลือใช้และด้อยค่า แค่ลวดเส้นเล็กๆ...แต่ตอนนี้มันสำคัญกับผมเหลือเกิน
             ใบหน้าของคนที่กำมือผมไปบอกให้ผมเชื่อ บอกให้ผมรับฟังคำพูดของเขาจ้องเขม็ง แสงจันทร์สอดไล้ใบหน้าคมนั้นให้อ่อนโยนยิ่งนัก โดยเฉพาะกับรอยยิ้มที่มีให้ผมคนเดียวนั่น  ผมพยักหน้ารับ ยิ้มให้กับการรอคอย...
               อาจจะนาน...อาจจะต้องใช้เวลา แต่ว่า พี่โตก็ทำเพื่อผม เพื่อให้เราได้อยู่ท่ามกลางฟ้ากว้างด้วยรอยยิ้มและใช้ชีวิตอย่างไร้กังวล..
                    ผมหลับตาลงช้าๆ ใบหน้าซบลงบนไหล่หนาขณะที่ริมฝีปาหนาค่อยกดทาบทับ แนบชิดแสดงความรักอย่างลึกซึ้ง
              เสียงลมหายใจรินรดผิวไหล่แสดงถึงสัญญาณชีวิต ร่างที่กอดซบผมแน่นิ่งนั้นไม่เอ่ยคำใด ไม่มีท่าทีจะทำอะไรไปมากกว่ากอด..กอดที่แน่น ราวกับว่านี่เป็นวันสุดท้าย กอดที่หวังจะซึมซับไออุ่นของผิวกายให้ตราตรึงไว้ในใจ
              ผมเอนหลังผิงแผ่นหลังกว้าง เงยหน้าขึ้นมองพระจันทร์ที่ลออยู่บนฟ้า หัวอกที่ปวดแปลบยังคงบีบรัด ทั้งดีใจ
ทั้งเสียใจ แต่ผมก็ยังยิ้ม...ยิ้ม...ให้กับท้องฟ้าและดวงดาวที่จ้องมองตอบมาเช่นกัน ยิ้ม..พร้อมกับสัญญากับตัวเองอย่างหนักแน่นว่า จะรอคอย..
Improbable 47 : ภายใต้ท้องฟ้าสีคราม
     เรื่องราวชีวิตในเรือนจำหลังจากนั้นไม่มีอะไรพิเศษมากนัก หลังจากผมกับพี่โตตกลงกันวันนั้น เราสองคนก็ตัวติดกันมากกว่าเดิม เหมือนจะพยายามใช้ช่วงเวลาที่อยู่ด้วยกันให้มากที่สุดก่อนจะออกไป..
       ในวันที่สิบสองสิงหาคม วันสุดท้ายที่พี่โตจะอยู่ในเรือนจำนี้ พวกเรานักโทษทุกคนเข้าร่วมกิจกรรมร้องเพลงสรรเสริญพระบารมีเนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษาตามปกติ ยามที่จุดเทียนชัยให้สว่างไหว ผมลอบมองเสี้ยวหน้าที่ตนเองรักใคร่ด้วยความใจหายแต่ขณะเดียวกัน แสงความมีชีวิตชีวาในแววตาของพี่โตก็ทำให้ผมอดยิ้มไม่ได้
         ผมมองเห็นพี่โตร้องเพลงด้วยสีหน้าเปี่ยมด้วยความสุขกว่าทุกครั้ง เสียงเพลงสรรเสริญพระบารมีออกมาจากปากของคนที่ผมรักดังกว่าทุกครา..และ มันเต็มไปด้วยความปลาบปลื้มภาคภูมิใจ
          ผมจ้องมองเปลวเทียวสว่างไสว ขอบตาร้อนผ่าวยามจ้องมองพระบรมฉายาลักษณ์ นึกถึงคำกล่าวที่ว่าในหลวงและองค์ราชินีจะคอยดูแลทุกคนบนผืนแผ่นดินไทย บัดนี้ผมเชื่อแล้วว่าคำกล่าวนั้นเป็นจริง
          เพราะความกรุณาปราณี เพราะโอกาสที่ถูกหยิบยื่นให้พวกเราด้วยความเมตตาของพระองค์ท่าน.
         โอกาส...ที่พวกเราจะกลับมามีศักดิ์ความเป็นมนุษย์เต็มเปี่ยมอีกครั้ง ไม่ต้องเป็นเพียงพวกขี้คุก พวกเดนคนไปตลอดชีวิต
          คืนนั้นเป็นคืนที่เต็มไปด้วยความอิ่มเอม ยามเดินเข้าห้องขังทุกคนมีแต่รอยยิ้ม ที่จริงเราควรจะฉลองกันยันเช้าเหมือนนักโทษคนอื่นๆ แต่พอสามทุ่มทุกอย่างกลับเงียบกริบ มีเพียงเสียงกระซิบกระซาบแสดงความยินดี และเมื่อพระจันทร์ลอยไปครึ่งฟ้า ก็เหลือเพียงผมและพี่โตนั่งแอบอิงกันเงียบๆ  เพื่อเก็บรักษาคืนสุดท้ายที่จะพบเจอกันให้ดีทีสุด
       แหวนลวดอันงี่เง่านั้นยังอยู่ติดนิ้วผมตลอดเวลา เช่นเดียวกับคำสัญญานั้นของพี่โต ผมบอกกับตัวเองแบบนั้น
เมื่อมองเห็นแผ่นหลังของร่างสูงนั้นเดินออกไปจากเรือนอนในเวลาเช้าตรู่ น้ำตาที่ไหลอาบแก้มควรจะเป็นเพียงน้ำตาแสดงความยินดี หากไม่มีเสียงสะอื้นลอดออกมาให้ขายหน้าตัวเอง  ผมก็ยังเป็นเช่นเดิม ใช้ชีวิตแบเดิม เชื่อมั่น..ทั้งที่ยังหวาดกลัว
        ระยะเวลาหลังจากนั้นยิ่งเลือนรางมากกว่าเดิม ผมจำได้แต่ตัวเองก็ทำตัวปกติไปเรื่อยๆ ใช้ชีวิตแบบฆ่าเวลาเพื่อจะออกไปข้างนอกมากว่าจะสนใจอะไรข้างใน ส่วนพี่โตก็ทำอย่างที่ว่าจริงๆนั่นคือไม่ได้ติดต่อหรือมีจดหมายมีหา หรือมาเยี่ยมอะไรทั้งนั้น ในขณะที่แม่ก็มาหาผมเรื่อยๆ  เเละเฝ้ารอคอยอย่างการได้ออกไปอย่างใจจดใจจ่อ พี่วิทย์กับพี่ทินซึ่งรับปากพี่โตก็คอยกดูแลผมจนกระทั่งพวกเขาออกไป ดังนั้นจึงเหลือเพียงพี่กันย์กับผมที่ย้ายมานอนเรือนนอนเดียวกัน
      ส่วนเรื่องของเมฆนั้น แม้เวลาผ่านไปเกือบปี เขาก็ยังนอนนิ่งอยู่บนเตียงเช่นเดิม..
      จำได้ว่าในวันที่พี่วิทย์ต้องออกไปจากหอ เขาขออนุญาตผู้คุมไปลาเมฆเป็นครั้งสุดท้าย ผมเองก็ขออนุญาตพัศดีไปดูอาการเช่นกันและถือโอกาสบอกลามันก่อนไปในตัว ฟังค่ำบอกอาการจากหมอด้วยหัวใจปวดหนึบ เมื่อได้มองแววตาร้าวไหวของพี่วิทย์ และสีหน้ารวดร้าวของพี่กันย์พี่มองเมฆนิ่งแล้วผมก็ได้แต่ภาวนา..ทั้งขอร้องและอ้อวนวอนให้มันฟื้นขึ้นมาเสียที
     สำหรับเรื่องของพี่กันย์กับพี่วิทย์ ผมก็ไม่รู้จะพูดยังไง เพราะสองคนนี้ดูจะไม่มีทางสานต่อความสัมพันธ์หรือคุยอะไรกันแบบปกติได้อีกแล้ว พี่วิทย์ยังคงสาดความเกลียดชังเข้าใส่พี่กันย์ไม่ยั้ง ขณะที่พี่กันย์นั้น ทำได้เพียงนิ่งเงียบและมีสีหน้าหมองเศร้า..
       ยังจำได้ดีว่าเมื่อวาน..ก่อนวันที่ผมจะออกจากที่นี่ ผมตัดสินใจอ้าปากถามสิ่งที่ค้างคาใจมานานให้รู้เรื่อง ผมอยากรู้ว่าพี่กันย์ตั้งใจจะทำอะไรกันแน่ในตอนนั้น เขาทำเพื่ออะไรกันแน่
       คำตอบมีเพียงรอยยิ้มขื่น คำพูดของพี่กันย์คือสิ่งนั้น และสุดท้าย ก็บอกผมเบาๆว่า กระสุนนัดนั้นไม่เพียงแต่จะทะลุขาของพี่วิทย์ แต่แท้จริงแล้วมันยังทะลุหัวใจของตัวเขาเองด้วย หรือจะพูดโง่ๆ ก็คือทำตัวเอง  เพราะฉะนั้น ถึงได้ไม่โต้เถียง แต่เอาแต่โทษตัวเองอยู่แบบนี้น่ะหรือ?
       ผมฟังแล้วก็ได้แต่ถอนใจ ตัดสินใจละอดีตไว้เพียงแค่นั้น ในเมื่อพี่กันย์พอใจจะบอกแค่นี้ผมก็คงพูดอะไรมากไม่ได้ เพราะดูเหมือนเจ้าตัวก็ได้รับผลของการกระทำที่เลวร้ายกว่ากระสุนนัดนั้นมากมายนัก
            แกร่ก....
              ประตูห้องเปิดออกทำให้ผมละจกภวังค์ ผู้คุมเดินเข้ามาหาผมด้วยรอยยิ้ม ผมยื่นเอกสารที่ตัวเองกรอกให้ฝ่ายนั้นรับไปดู ขณะที่มือกำประเป๋าเป้และข้าวของสัมภาระของตัวเองไว้แน่น ตอนนี้เป็นเวลาประมาณแปดโมงเช้า ผมทานข้าวแล้วก็ออกมาเดินเรื่องออกจากเรือนจำตามกำหนด  ตอนนี้ผมนั่งอยู่ห้องสำหรับนักโทษเตรียมตัวก่อนจะออกไปข้างนอก ฉะนั้นไอ้เนมเลยอยู่ในชุดปกติ กางเกงยีนส์ เสื้อยืดธรรมดาสิ่งของที่ไม่ได้สัมผัสมานานชวนให้หัวใจหวิวไม่น้อย
ข้าวของเครื่องใช้ประดามีที่เอาติดตัวไปด้วยในคุกก็ถูกจับยัดใส่กระเป๋า  เสียงพูดคุยข้างนอกนั่นอาจจะเป็นญาติที่มารับหรืออะไรก็แล้วแต่ ยังไงมันก็ชวนให้ตื่นเต้นมากอยู่ดี
            นั่งสับขารอไม่นานประตูก็เปิดออกอีกครั้ง ร่างของผู้คุมเดินเข้ามาก่อนจะยื่นใบสุทธิเพื่อรองรับว่าผมได้ชดใช้ความผิดจนหมดแล้วให้พร้อมกับตบไหล่เบาๆ
         "โชคดีนะ"
               ผมพยักหน้าไหว้รับคำอวยพรนั้นก่อนจะลุกขึ้น หยิบกระดาษเอกสารนั้นใส่กระเป๋าก่อนจะแตะมือลงบนประตู และผลักออกไป
            ผมกระพริบตาช้าๆ จ้องมองทางเดินออกจากเรือนจำซึ่งเป็นทางทอดยาวไม่มากนักให้เดินออก รถตำรวจสี่ห้าคันจอดประจำอยู่ริมกำแพงทางเข้า ด้านบนกำแพงยังมีรั้วลวดหนามและหอคอยสูงสำหรับสอดส่องตรวจตราดูความผิดปกติ ผมหันหลังไปมองที่ๆตัวเองอยู่มานับห้าปีด้วยสีหน้าหลากหลาย ประตูเรือนจำที่เปิดออกอีกครั้งถูกปิดลงแล้วด้วยฝีมือของผู้คุมที่ยืนประจำอยู่ ขณะที่สมองไพล่นึกไปถึงวันแรกที่เหยียบเข้ามาที่นี่
             อาจจะเป็นเวลานี้เมื่อห้าปีก่อนเหมือนกันรึเปล่า ระยะเวลาที่ผมต้องเข้าไปข้างในเพื่อชดใช้ความผิด พอคิดถึงความงี่เง่าของตัวเองเมื่อก่อนแล้วอดจะหัวเราะไม่ได้ ไอ้เนมเดินทอดน่องไปตามทางเดินโรยกรวดช้าๆ อย่างประสงค์จะคิดทบทวนเรื่องราวมากมายที่เกิดขึ้นกับตัวเอง
        เมื่อห้าปีก่อน ยามที่ผมเดินเข้ามาในเรือนจำนี้ด้วยท่าทีเศร้าซึม ผมยังเป็นเด็กน้อยอ่อนเดียงสา ไม่รู้ถึงความเลวร้ายของโลกใบนี้ และเอาแต่คร่ำครวญหวนไห้ถึงชะตากรรมอันน่ารันทดของตัวเอง
        ผมนึกถึงคนที่ผ่านเข้ามาในชีวิต นับแต่ผู้คุมคนแรกที่ตัวเองเห็นหน้า คนที่รุมทุบตีผม คนที่ด่าว่าผม พี่ๆที่อยู่เรือนนอนเดียวกัน พี่เบิร์ด พี่ทิน พี่กิต พี่วิทย์ พี่กันย์ อาจารย์ธีระ ป๋า ผู้พัน ลุงชาติ ไอ้เป้ ไอ้เมฆ และ..พี่โต
        เหล่าคนที่อยู่ในความทรงจำซึ่งบัดนี้ต่างก็ออกไปบ้างก็แตกกระซ่านกระเซ็นไปคนละทางชวนให้คะนึงหา โดยเฉพาะคนสุดท้าย ที่ทำให้ผมต้องยิ้มออกมาด้วยความเศร้าหมองที่ตกตะกอนอยู่ในหัวใจ
       ผมกระพริบตามองลูกกรงและลวดหนามที่อยู่เบื้องหน้าบอกตัวเองว่าถึงแม้ที่แห่งนี้จะเป็นเหมือนนรกแต่ก็มีหลากหลายอย่างแฝงอยู่ ทั้งความรัก มิตรภาพ และความเป็นเพื่อนเช่นเดียวกับกลโกง และเรื่องราวที่โหดร้ายและทารุณทั้งหลาย






รุ่นน้องจูเนียร์

กระทู้
0
พลังน้ำใจ
152
Zenny
625
ออนไลน์
49 ชั่วโมง
โพสต์ 2013-1-26 04:37:44 | ดูโพสต์ทั้งหมด

ประธานนักศึกษา

กระทู้
0
พลังน้ำใจ
82500
Zenny
34257
ออนไลน์
11974 ชั่วโมง
โพสต์ 2013-1-28 00:08:18 | ดูโพสต์ทั้งหมด
ขอบคุณคับ
                                                            

ประธานนักศึกษา

อยากเต้น..ก็เต้น ซิค่ะ!!

กระทู้
491
พลังน้ำใจ
61077
Zenny
251866
ออนไลน์
3272 ชั่วโมง

สมาชิกจีโฟกาย 100%สมาชิกระดับแพลตตินั่มสมาชิกระดับทับทิมสมาชิกระดับไพลินสมาชิกระดับมรกตสมาชิกระดับเพชรสมาชิกระดับเพชรบริหารสมาชิกระดับเพชรคู่สมาชิกระดับตรีเพชรสมาชิกระดับมงกุฎ

โพสต์ 2013-2-11 19:19:30 | ดูโพสต์ทั้งหมด
ขอบคุณมากๆครับ

มหาลัยซีเนียร์

กระทู้
0
พลังน้ำใจ
1430
Zenny
6827
ออนไลน์
291 ชั่วโมง
โพสต์ 2013-4-20 17:40:43 | ดูโพสต์ทั้งหมด
ขอบคุนครับ

มหาลัยซีเนียร์

กระทู้
0
พลังน้ำใจ
1310
Zenny
187
ออนไลน์
140 ชั่วโมง
โพสต์ 2013-5-2 16:57:13 | ดูโพสต์ทั้งหมด
ขอบคุณครับ

พี่ว้ากตัวร้าย

กระทู้
0
พลังน้ำใจ
829
Zenny
2023
ออนไลน์
150 ชั่วโมง
โพสต์ 2013-5-25 20:34:50 | ดูโพสต์ทั้งหมด

ประธานนักศึกษา

กระทู้
2
พลังน้ำใจ
86252
Zenny
62117
ออนไลน์
4844 ชั่วโมง
โพสต์ 2013-10-24 20:31:59 | ดูโพสต์ทั้งหมด

มหาลัยซีเนียร์

กระทู้
0
พลังน้ำใจ
1541
Zenny
6736
ออนไลน์
824 ชั่วโมง
โพสต์ 2013-11-26 06:31:22 | ดูโพสต์ทั้งหมด
ขอบคุณมากนะ

มหาลัยซีเนียร์

กระทู้
0
พลังน้ำใจ
2982
Zenny
3815
ออนไลน์
608 ชั่วโมง
โพสต์ 2015-7-18 08:35:23 | ดูโพสต์ทั้งหมด

ประธานนักศึกษา

กระทู้
0
พลังน้ำใจ
90143
Zenny
39622
ออนไลน์
5751 ชั่วโมง
โพสต์ 2015-7-21 04:10:23 | ดูโพสต์ทั้งหมด
ขอบคุณครับ
  หวาดดีคราบบ หวัดดีปี 2017

นิสิตสัมพันธ์

กระทู้
0
พลังน้ำใจ
43221
Zenny
14266
ออนไลน์
1963 ชั่วโมง
โพสต์ 2015-9-20 09:26:49 | ดูโพสต์ทั้งหมด
ขอบคุณครับ

มาเฟียนักศึกษา

กระทู้
7
พลังน้ำใจ
3577
Zenny
4315
ออนไลน์
654 ชั่วโมง
โพสต์ 2015-9-20 22:47:58 | ดูโพสต์ทั้งหมด

นิสิตสัมพันธ์

กระทู้
209
พลังน้ำใจ
14088
Zenny
42724
ออนไลน์
1088 ชั่วโมง

สมาชิกระดับมรกตสมาชิกระดับแพลตตินั่มสมาชิกระดับทับทิมสมาชิกจีโฟกาย 100%สมาชิกระดับไพลินสมาชิกระดับเพชรสมาชิกระดับเพชรบริหารสมาชิกระดับเพชรคู่สมาชิกระดับตรีเพชร

โพสต์ 2016-5-26 02:22:28 | ดูโพสต์ทั้งหมด
หลุดพ้น

นิสิตสัมพันธ์

กระทู้
0
พลังน้ำใจ
43221
Zenny
14266
ออนไลน์
1963 ชั่วโมง
โพสต์ 2016-6-21 18:40:52 | ดูโพสต์ทั้งหมด
ขอบคุณครับ
ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง เข้าสู่ระบบ | สมัครเข้าเรียน

รายละเอียดเครดิต

A Touch of Friendship: สังคมจะน่าอยู่ เมื่อมีผู้ให้แบ่งปัน ฝากไวเป็นข้อคิดด้วยนะคะชาวจีโฟกายทุกท่าน
!!!!!โปรดหยุด!!!!! : พฤติกรรมการโพสมั่วๆ / โพสแต่อีโมโดยไม่มีข้อความประกอบการโพส / โพสลากอักษรยาว เช่น ครับบบบบบบบบ, ชอบบบบบบบบ, thxxxxxxxx, และอื่นๆที่ดูแล้วน่ารำคาญสายตา เพราะถ้าท่านไม่หยุดทีมงานจะหยุดท่านเอง
ขอความร่วมมือสมาชิกทุกท่านโปรดโพสตอบอย่างอื่นนอกเหนือจากคำว่า ขอบคุณ, thanks, thank you, หรืออื่นๆที่สื่อความหมายว่าขอบคุณเพียงอย่างเดียวด้วยนะคะ เพื่อสื่อถึงความจริงใจในการโพสตอบกระทู้ และไม่ดูเป็นโพสขยะ
กระทู้ไหนที่ไม่ใช่กระทู้ในลักษณะที่ต้องโพสตอบโดยใช้คำว่าขอบคุณ เช่นกระทู้โพล, กระทู้ถามความเห็น, หรืออื่นๆที่ทีมงานอ่านแล้วเข้าข่ายว่า โพสขอบคุณไร้สาระ ทีมงานขอดำเนินการตัดคะแนน และ/หรือให้ใบเตือนสมาชิกที่โพสขอบคุณทันทีที่เจอนะคะ

รูปแบบข้อความล้วน|โทรศัพท์มือถือ|ติดต่อลงโฆษณา|จีโฟกายดอทคอม

ข้อความที่ท่านได้อ่านในเว็บจีโฟกายดอทคอมนี้ เกิดจากการเขียนโดยสาธารณชน และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ หากท่านพบเห็นข้อความใดๆ ที่ขัดต่อกฎหมาย และศิลธรรม ไม่เหมาะสมที่จะเผยแพร่ ท่านสามารถแจ้งลบข้อความได้ที่ Link “แจ้งลบโพสนี้” ที่มีอยู่ใต้ข้อความทุกข้อความ หรือ ลืมพาสเวิดล๊อกอิน/ลืมชื่อที่ใช้สมัคร หรือข้อสงสัยใดๆแจ้งมาที่ G4GuysTeam[at]yahoo.com ขอขอบพระคุณที่ให้ความร่วมมือ

กรณีที่ข้อความ/รูปภาพในกระทู้นี้จัดสร้างโดยผู้ลงข้อมูลเอง ลิขสิทธิ์จะเป็นของผู้ลงข้อมูลโดยตรง หากจะทำการคัดลอก/เผยแพร่ ต้องได้รับอนุญาตจากผู้ลงข้อมูลก่อนนะคะ หรือลงที่มาไว้ด้วยค่ะ

©ขอสงวนสิทธิ์คอนเซ็ปต์,คำอธิบาย,หัวข้อ/หมวดหมู่เว็บ ห้ามลอกเลียนแบบ คิดเอาเองนะคะอย่าเอาแต่ลอก

GMT+7, 2024-11-24 21:48 , Processed in 0.116498 second(s), 27 queries .

Powered by Discuz! X3.5, Rev.8

© 2001-2024 Discuz! Team.

ตอบกระทู้ ขึ้นไปด้านบน ไปที่หน้ารายการกระทู้