บทนำ ‘ตำนานดอกกุหลาบของไทยเป็นบทพระราชนิพนธ์ละครพูดคำฉันท์ 5 องค์ในสมเด็จพระรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราวุธพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาล ที่6 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ ซึ่งทรงพระราชนิพนธ์ตามจินตนาการที่มีพระราชดำริขึ้นในพระราชหฤทัย
มัทนะพาธาเป็นเรื่องราวของเทพธิดามัทนา นางฟ้าผู้ที่มีรูปโฉมงดงามมากจนความงามนั้นส่งผลร้ายแก่ตนเองต้องถูกสาปให้จุติลงมาเกิดเป็นต้นกุหลาบต้นแรกบนโลกมนุษย์ เทพธิดามัทนาเป็นตัวละครเอกของเรื่องที่มีความสำคัญในการดำเนินเรื่องโดยสามารถแยกเป็นประเด็นต่างๆให้เห็นได้เด่นชัด ดังนี้ 1. บทบาทของเทพธิดามัทนาในมัทนะพาธา
1.1 บทบาทในการดำเนินเรื่อง
มัทนาเป็นตัวละครที่มีความสำคัญที่สุดในบทละครเรื่องมัทนะพาธานี้ เนื่องจากนางมีบทบาทมากในการเชื่อมโยงตัวละครอื่นๆให้เข้ามามีบทบาทในเหตุการณ์ความขัดแย้งที่มีสาเหตุมาจากความรักซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้ตัวละครในเรื่องนี้ล้วนแต่ได้รับความเจ็บปวดและเดือดร้อนเพราะความรักโดยเฉพาะ นางมัทนาที่มีชื่อมาจากคำว่า มทน ที่มีความหมายว่าความลุ่มหลงหรือความรัก เป็นตัวละครที่ได้รับความเจ็บปวดและเดือดร้อนจากความรักมากที่สุดเพราะนางมัทนาเป็นทั้ง “ผู้รัก” และ “ผู้ถูกรัก” แต่ก็ไม่สมหวังใน “ความรัก” สาเหตุของการที่มัทนาต้องเกี่ยวพันกับความรักมากมายเช่นนี้เพราะมัทนาเป็นนางฟ้าที่มีรูปโฉมงดงาม จนเทพบุตรสุเทษณ์ติดตาตรึงใจและใคร่จะได้นางเป็นชายา แต่มัทนาไม่เคยสนใจสุเทษณ์เพราะได้ตั้งปณิธานไว้ว่าจะครองคู่กับชายที่ตนรักเท่านั้นดังที่ปรากฏในความตอนหนึ่งของเรื่องความว่า
หม่อมฉันนี้เปนผู้ถือ สัจจาหนึ่งคือ
ว่าแม้มิรักจริงใจ ถึงแม้จะเปนชายใด
ขอสมพาศไซร้ ก็จะมิยอมพร้อมจิต
ความตั้งใจของมัทนาดังกล่าวทำให้สุเทษณ์โกรธมากเพราะเขาเฝ้าวิงวอนขอความรักจากนางเป็นเวลานานทั้งๆที่สุเทษณ์ในฐานะของหัวหน้าหรือผู้นำเหล่าเทวดาและนางฟ้าทั้งหลายอาจจะใช้อำนาจบังคับมัทนาก็ย่อมได้แต่การที่สุเทษณ์อ้อนวอนขอให้มัทนารับรักก็เพื่อเป็นการแสดงให้-เห็นว่าเขารักมัทนาอย่างจริงใจแต่เมื่อมัทนาปฏิเสธรักเขาโดยไม่มีเยื่อใยจึงทำให้เขาต้องใช้อำนาจสาปนางให้จุติลงมาเป็นต้นกุหลาบบนโลกมนุษย์เมื่อมัทนามาเกิดเป็นต้นกุหลาบยังโลกมนุษย์และสามารถกลายร่างเป็นหญิงสาวได้เมื่อถึงคืนวันเพ็ญเป็นเวลาหนึ่งวันหนึ่งคืนทำให้นางได้มีโอกาสพบรักกับท้าวชัยเสนและกลายร่างเป็นมนุษย์โดยไม่ต้องกลับไปเป็นต้นกุหลาบอีก ชีวิตคู่ของมัทนากับท้าวชัยเสนดำเนินไปด้วยดีจนกระทั่งท้าวชัยเสนพามัทนากลับมายัง นครหัสตินาปุระเมื่อความทราบถึงพระนางจัณฑีผู้เป็นมเหสีของท้าวชัยเสนพระนางจัณฑีจึงเกิดความโกรธและหึงหวงจึงวางอุบายกำจัดมัทนา
เมื่อท้าวชัยเสนหลงเชื่อกลอุบายที่พระนางจัณฑีใช้เพื่อกำจัดมัทนาแล้วจึงสั่งประหารมัทนาและศุภางค์ทหารคนสนิทของตนเพราะคิดว่าทั้งสองลักลอบเป็นชู้กันเหตุการณ์ทุกอย่างจึงเป็นไปตามแผนการของพระนางจัณฑีแต่ทหารที่ได้รับคำสั่งให้ประหารมัทนากับศุภางค์นั้นกลับปล่อยตัวทั้งสองคนไปเพราะทราบว่าทั้งสองไม่ได้มีความผิดและถูกให้ร้าย
มัทนากลับสู่ป่าหิมะวันและบำเพ็ญเพียรเพื่ออ้อนวอนให้สุเทษณ์ช่วยเหลือเมื่อสุเทษณ์มาถึงก็มาขอความรักจากมัทนาอีกแต่นางปฏิเสธโดยให้เหตุผลอย่างอ่อนหวานน่าเห็นใจว่า อันจะทรงพระกรุณา ณข้าฉะนั้น,
เป็นพระคุณดนุจะพรร- ณะนาบได้;
หากจะมีวิถิถนัด บขัดหทัย,
ทั้งจะใช้ณธุระใด บมีระอา,
แต่จะโปรดดนุและให้ คระไลนภา
เป็นพระบาทะบริจา- ริกาฉะนี้,
เกรงจะผิดพระนิติธรร- มะอันนะรี
เสพย์กะสองบุรุษะมี ฤใครจะชม เมื่อสุเทษณ์ได้ฟังเหตุผลรวมทั้งคำอ้อนวอนให้สุเทษณ์ช่วยให้นางได้ครองรักกับท้าวชัยเสนอีกเพราะท้าวชัยเสนเป็นชายเดียวที่นางรักและไม่คิดจะเปลี่ยนใจคำขอของนางทำให้สุเทษณ์บันดาลโทษะ จึงได้สาปให้นางเป็นต้นกุหลาบตลอดชั่วนิรันดร
บทบาทของมัทนาที่กล่าวไว้ข้างต้นตั้งแต่เป็น “ผู้ถูกรัก” มัทนาก็เริ่มได้รู้จักความทุกข์จากความรักเพราะมัทนาไม่อาจรับรักสุเทษณ์ได้จึงถูกสาปให้เป็นต้นกุหลาบ เมื่อมัทนาเป็น “ผู้รัก” ท้าวชัยเสนเริ่มแรกก็มีความสุขจนกระทั่งพระนางจัณฑีทราบเรื่องจึงใส่ร้ายนางด้วยความหึงหวงเพราะความรักที่พระนางจัณฑีมีต่อท้าวชัยเสนมัทนาจึงต้องเดือดร้อนเพราะความรักอีกครั้ง และเมื่อได้พบกับสุเทษณ์ที่มาขอความรักจากมัทนาอีกครั้งแต่เมื่อมัทนาปฏิเสธอีกมัทนาจึงต้องได้รับความเจ็บปวดจากความรักครั้งที่รุนแรงที่สุดเพราะนางต้องถูกสาปให้เป็นต้นกุหลาบตลอดไป นางจึง “ไม่สมหวังในความรัก”
เมื่อพิจารณาถึงบทบาทในการดำเนินเรื่องของมัทนาในเรื่องดังที่กล่าวมาแล้วจะเห็นว่าบทบาทที่ปรากฏของมัทนามีความสัมพันธ์กับความหมายของชื่อที่ว่าความลุ่มหลงและความรัก เพราะมัทนาทำให้ สุเทษณ์ลุ่มหลง ทำให้ท้าวชัยเสนหลงรัก และนางก็เจ็บปวดเพราะรักท้าวชัยเสน อีกทั้งยังทำให้ พระนางจัณฑีเกิดความหึงหวงเพราะความรักที่พระนางจัณฑีมีต่อท้าวชัยเสนมัทนาจึงต้องเดือดร้อนเพราะความลุ่มหลงและความรัก ซึ่งสอดคล้องกับความหมายของชื่อมัทนา ที่แปลว่า ความลุ่มหลง หรือความรัก นั่นเอง 1.2 ชะตาชีวิต
ชะตาชีวิตของมัทนาในมัทนะพาธานั้นนับว่าน่าสงสารมากเพราะชะตาชีวิตที่ต้องถูกทำร้ายทั้งที่นางไม่มีความผิดใดเลย เริ่มจาก
1. การที่เทพบุตร์สุเทษณ์มีความรักใคร่ในตัวเทพธิดามัทนามากแต่นางมัทนาไม่ใยดีต่อความรักของสุเทษณ์สุเทษณ์จึงเกิดความทุกข์ระทมใจและเกิดความกริ้วจึงสาปให้มัทนามาเกิดเป็นกุหลาบยังโลกมนุษย์
2.ข้ออนุญาตของคำสาปที่ให้มัทนากลายเป็นมนุษย์ได้ในคืนวันเพ็ญกลางเดือนเป็นเหตุให้ได้พบกับท้าวชัยเสนจนเกิดความรักต่อกันท้าวชัยเสนได้ขอและทำพิธีอภิเษกกับนางมัทนาทั้งที่ท้าวชัยเสนมีมเหสีอยู่แล้ว
3.เมื่อท้าวชัยเสนนำนางมัทนาเข้ามายังนครแล้ว ทำให้นางจัณฑีมเหสีองค์เก่าไม่พอใจจึงคิดหาทางกลั่นแกล้งจนทำให้ท้าวชัยเสนเข้าใจนางมัทนาผิดและเป็นเหตุให้นางมัทนาต้องออกจากเมืองไปอยู่ป่ากับพระมุนีตามเดิมทั้งที่มัทนาไม่มีความผิดใด
4.มัทนาได้รับความทุกข์อย่างหนักจากการวางอุบายของพระนางจัณฑีเมื่อนางกลับไปอยู่ป่านางพยายามอ้อนวอนเทพบุตร์สุเทษณ์เพื่อขอร้องให้ช่วยดลใจท้าวชัยเสนให้มารับตัวนางกลับเข้าเมืองแต่เมื่อสุเทษณ์ลงมาจากสวรรค์กลับมาขอความรักจากนางเมื่อนางปฏิเสธสุเทษณ์เกิดความกริ้วจึงสาปให้นางกลายเป็นต้นกุหลาบชั่วนิรันดรท้าวชัยเสนมาถึงก็สายไปเสียแล้ว
จุดที่สำคัญของเรื่องเกี่ยวกับชะตาชีวิตของมัทนาอยู่ที่คำสาปของสุเทษณ์ด้วยคำสาปนั้นได้มีข้ออนุญาตให้ต้นกุหลาบกลับกลายร่างเป็นมนุษย์ได้เป็นเวลาวันหนึ่งกับคืนหนึ่งในคืนวันเพ็ญและถ้าแม้นว่านางมัทนามีความรักใคร่ในชายใด ก็อนุญาตให้คงรูปเป็นมนุษย์อยู่ได้ตลอดไปข้ออนุญาตนี้เป็นการให้โอกาสให้มัทนากลับกลายร่างเป็นนางงามมีชีวิตจิตใจและมีความรักได้ฉะนั้นเมื่อได้กลายร่างเป็นมนุษย์ในคืนวันเพ็ญและได้พบกับท้าวชัยเสนความรักก็บังเกิดขึ้นด้วยข้ออนุญาตในคำสาปของสุเทษณ์นี้เอง ทำให้ชะตาชีวิตของมัทนาดำเนินต่อไปจนถึงตอนจบของเรื่องซึ่งเป็นแบบโศกนาฏกรรม
ชะตาชีวิตของมัทนานี้ดำเนินไปตามชะตากรรมที่มีสาเหตุมาจากความลุ่มหลงและความรัก
ชะตากรรมที่มีสาเหตุมาจากความลุ่มหลงก็คือตอนที่สุเทษณ์เกิดความลุ่มหลงในความงามของมัทนา แต่มัทนาไม่รักตอบมัทนาจึงถูกสาปให้มาเกิดเป็นกุหลาบยังโลกมนุษย์ ทั้งที่มัทนาไม่มีความผิด
ชะตากรรมที่มีสาเหตุมาจากความรักก็คือ ด้วยความรักของพระนางจัณฑีที่มีต่อท้าวชัยเสน จึงเกิดความหึงหวงและเกิดความอิจฉาริษยาจนต้องวางอุบายใส่ร้ายมัทนา จนเป็นเหตุให้มัทนาต้องถูกสั่งประหารชีวิตทั้งที่นางไม่มีความผิดและด้วยความรักที่มั่นคงของมัทนาที่มีต่อท้าวชัยเสนก็เป็นเหตุให้มัทนาต้องถูกสาปเป็นต้นกุหลาบชั่วนิรันดร
จะเห็นได้ว่าทั้งที่มัทนาไม่ได้มีความผิดใดเลยแต่ชะตาชีวิตก็ดำเนินไปตามชะตากรรมที่ผู้อื่นเป็นผู้ลิขิตและทำร้ายโดยที่ทุกอย่างมีสาเหตุมาจาก ความลุ่มหลงและความรักนั่นเอง’ “เฮ้ยเป็นอะไรวะ มัท” “อะไรกูเป็นอะไร” “มึงร้องไห้” “เอ้ยจริงดิ”มัทตกใจและรู้สึกถึงความเปียกที่แก้มมัทใช้แขนเสื้อนักเรียนเช็ดคราบน้ำตาที่ไร้สาเหตุ “ร้องไห้ทำไมมัท” “กูอินกับตัวละครในหนังสือมั้ง” “เอออย่ามัวแต่ร้องไห้จนไม่ได้ทำรายงานนะโว๊ย” “เออรู้แล้วนะสิน” สินเดินจากไป มัทก็มาทำรายงานต่อระหว่างทำรายงานไปก็มีบ่อยครั้งที่มัทคิดเรื่องตัวละครเรื่องมัทนะพาธาจนมัททำรายงานเสร็จก็เดินไปเก็บหนังสือของห้องสมุดจนมาถึงหนังสือเรื่องนางในวรรณคดีก็หยุดคิดบางอย่างแล้วเดินไปหาบรรณารักษ์ “สวัสดีครับผมขอยืมเรื่องนี้ครับ” |