"แข่งแข" เล่าประสบการณ์ขนหัวลุกจากห้องผีสิง
ฉันเป็นคนไม่กลัวผีเลยสักนิดเดียว เพราะเชื่อว่าคนเราหรือสิ่งมีชีวิตต่างๆ เมื่อตายไปแล้วก็จบกัน เหมือนเปลวเทียนที่ดับแล้วดับเลย ไม่มีวิญญาณ มีแต่สมองที่ทำให้เรามีชีวิต จะสุขหรือทุกข์ก็ขึ้นอยู่กับการกระทำของเราเอง บาปบุญก็คือผลของการกระทำ ไม่มีชาตินี้ชาติหน้า
บ้านของฉันอยู่ที่ประจวบคีรีขันธ์ แต่มาทำงานในกรุงเทพฯ เลยต้องเช่าอพาร์ตเมนต์อยู่
จำได้ติดใจว่าอพาร์ตเมนต์ใกล้ที่ทำงานนั้นหายากเหลือเกิน ไปที่ไหนๆ ก็บอกว่าเต็มจนฉันเหนื่อยแล้วนะ...ในที่สุดก็มาได้อพาร์ตเมนต์แห่งหนึ่งเขาบอกว่ามีห้องว่างคนเช่าเดิมเพิ่งออกไป
ไม่ว่าจะพูดยังไงฉันก็ไม่เชื่อหรอกค่ะ เพราะเมื่อเขาพาฉันขึ้นไปดูห้องนั้น พอเปิดประตูเข้าไปก็รู้สึกได้ถึงกลิ่นอับๆ ที่แสดงว่าไม่มีคนอยู่มานานแล้ว อาจเป็นเดือนๆ หรือเป็นปีก็ได้ แต่ห้องนี้ดูน่าอยู่ไม่ใช่น้อย มิหนำซ้ำยังมีโต๊ะ ตู้ เตียงและทีวีอยู่ครบ
ฉันมีความรู้สึกแปลกๆ ว่าห้องนี้มีใครสักคนกำลังอาศัยอยู่จริงๆ ไม่ได้ย้ายไปไหน ฉันขนลุกซู่อย่างไม่มีเหตุผล...อาจจะคิดไปเองก็ได้!
หลังจากเข้าอยู่เรียบร้อยแล้ว ฉันรู้สึกว่าใครๆ แถวนี้มองฉันแปลกๆ บางวันแม่ค้าส้มตำถามว่า "เป็นไงน้อง นอนสบายดีเหรอ?"
ฉันนอนสบายดี แต่ประสาทสัมผัสยังบอกว่ามีใครอยู่ในห้องด้วยตลอดเวลา บางครั้งก็ได้ยินเสียงเข้าห้องน้ำ ฉันประหลาดใจ แต่ก็คิดว่ามันเป็นเสียงสะท้อนจากห้องข้างๆ
แต่แล้วคืนหนึ่งฉันก็ฝันประหลาด จะว่าฝันก็ไม่เชิง มันเหมือนครึ่งหลับครึ่งตื่น และที่เกิดเหตุก็บนเตียงนี่แหละ!
เตียงนี้เป็นขนาดควีนไซซ์ นอนคนเดียว กลิ้งไปกลิ้งมาได้สบาย เหมาะสำหรับคนนอนดิ้น แต่ฉันไม่ใช่ ฉันเป็นคนนอนท่าไหนก็ท่านั้นแทบตลอดคืน เลยชอบนอนริมเตียงที่ติดห้องน้ำ มันลุกเข้าห้องน้ำยามดึกได้สะดวกดี
คืนนั้น ขณะนอนเคลิ้มใกล้จะหลับ ก็มีใครคนหนึ่งมายืนชิดขอบเตียง และพยายามดันฉันให้กระเถิบเข้าไปตรงกลาง...
ฉันถูกดันจนไปนอนกลางเตียงจริงๆ แล้วใครคนนั้นก็ล้มตัวลงนอนที่ของฉันแทน!
จากการปรือตามอง ฉันเห็นว่าเป็นผู้หญิงผมยาวมาก รูปร่างผอม ขาวซีด เกือบเป็นหนังหุ้มกระดูก เธอนอนหงายแน่นิ่งอยู่ครู่หนึ่งคล้ายจะหลับใหล...แต่แล้วจู่ๆ เธอพลิกตะแคงเข้ามาหาพลางชูข้อมือข้างซ้ายขึ้นมาให้ฉันดู
คุณพระคุณเจ้าโปรดช่วยลูกด้วยเถิด! นี่มันเกิดนรกจกเปรตอะไรขึ้นมา?
มันเป็นแผลลึกเปิดอ้าอย่างน่าสยดสยองที่สุด เลือดข้นเหนียวเหม็นเน่าหยดลงใบหน้าฉัน...หยดแล้วหยดเล่าราวกับจะไม่มีวันสิ้นสุดลงเลย!
...และแล้ว เลือดแดงฉาน เหม็นคาวคละคลุ้งก็ไหลนองเตียงจนกลายเป็นแอ่งเลือดในชั่วพริบตา เธอหัวเราะเสียงแหบโหย แลบลิ้นยาวๆ ออกมาเลียเลือดที่ใบหน้าฉันกินด้วยอาการหิวโหยเต็มประดา
นี่มันฝันบ้าบออะไรกัน ตั้งแต่เกิดมาฉันไม่เคยฝันเห็นผีเลยเพราะไม่เชื่อว่าผีมีจริง!
ร่างที่เป็นผีตายซากชัดๆ อ้าปากปะหงับๆ พลางส่งเสียงแหบแห้งน่าขนลุกขนพองออกมาว่า "เราอยู่ด้วยกันนะ...ดีจัง!"
รู้สึกเลยว่ากลิ่นเหม็นเน่ายังอยู่ หัวใจเต้นโครมครามเหมือนเสียงกระหน่ำกลอง ฉันเหนื่อยมากเหลือเกิน...เหนื่อยจนหลับผล็อยไปเมื่อไหร่ไม่รู้ตัว
มาลืมตาตื่นอีกทีก็รุ่งเช้าแล้ว...ลุกโผเผไปล้างหน้าสีฟัน อ่อนเปลี้ยเพลียแรงเหมือนเพิ่งผ่านการต่อสู้ดุเดือดชนิดเจียนอยู่เจียนตายมาหยกๆ นึกถึงภาพและเสียงอุบาทว์เมื่อคืนก็หวิดสะดุ้ง เหลียวซ้ายแลขวาด้วยความหวาดระแวง
อยู่ไม่ไหวแล้วค่ะ รีบแต่งตัวลวกๆ ออกจากห้องเขย่าขวัญสั่นประสาทสุดขีดด้วยความหวาดกลัวชนิดใจหายใจคว่ำ
...แม่ค้าส้มตำก็เล่าเรื่องทั้งหมดให้ฟัง!
ห้องที่ฉันอยู่นั้น มีผู้หญิงเอาคัตเตอร์กรีดข้อมือเพราะอกหัก ศพนอนท่วมเลือดอยู่บนเตียง ส่งกลิ่นคาวคละคลุ้งอยู่สองวันกว่าจะมีคนพังประตูเข้าไปเห็นภาพน่าขนพองสยองเกล้าสุดขีด
"ผีของเธอดุเหลือเกิน เจ้าประคุณเอ๋ย" แม่ค้าส้มตำยกมือท่วมหัว"ใครที่มาเช่าอยู่เจอดีจังๆ ต้องเผ่นทุกราย จนห้องนี้ปิดตายมาเกือบหกเดือนแล้ว"
นี่เป็นครั้งแรกที่ฉันกลัวผีจนต้องบอกเลิกเช่า ยอมเสียค่าเช่าล่วงหน้าสามเดือนแล้วรีบไปหาที่อยู่ใหม่ คราวนี้อยู่กับเพื่อนค่ะ...คิดแล้วขนหัวลุกนะคะ! บรื๋ออออ...
ขอบคุณ แหล่งที่มาหนังสือพิมพ์ ข่าวสด