อันว่าตุ๊กตาตัวเล็กตัวน้อยนั้น อย่าได้นึกว่าฝรั่ง เป็นต้นคิดประดิษฐ์ขึ้นมาเมื่อไม่กี่ร้อยปีมานี้นะครับ ความจริงแล้วอายุอานามของตุ๊กตาย้อนหลังไปจนถึงยุคไอยคุปต์สมัยปี 1900 ก่อน ค.ศ. ก็กว่าสามพันแปดร้อยปีเศษแล้วนั่นแน่ะ ชาวไอยคุปต์โบราณ เขานิยมปั้นตุ๊กตาเพื่องานพิธีกรรมสำคัญๆ ด้วย พิธีกรรมอันสำคัญยิ่งยวดของชาวไอยคุปต์ เห็นจะได้แก่พิธีศพนั่นเอง ในงานฝังศพบรรจุศพของคนใหญ่ คนโตที่มีกะตังค์จึงมักนิยมบรรจุตุ๊กตาพิธี หรือ ritual doll เข้าไว้ในห้องบรรจุศพด้วย ตุ๊กตาเหล่านี้เรียกว่า “ชวาบติ” (shwabti) บ้าง “เซอร์ดับ” (Serdub) บ้าง มีความหมายต่างกันคนละจุดประสงค์เลยเชียว คือ ชวาบตินั่นเป็นตุ๊กตาคนรับใช้ที่ให้ไปรับใช้คนตายในโลกหน้า แต่ "เซอร์ดับ" เป็นตุ๊กตากลประกอบด้วยเดือยกลไกกระเดื่องต่างๆ ให้สามารถทิ่มแทงคนที่บุกรุกสุสานจนเท่งทึงได้
นอกจากไอยคุปต์ซึ่งมีอารยธรรมความเจริญก่อนหน้าใครแล้ว จีนก็เป็นชาติเก่าแก่อีกชาติหนึ่งที่ทำตุ๊กตาให้ลูกหลานเล่นตุ๊กตาสมัยราชวงศ์ถัง ซึ่งทำด้วยดินเผาที่น่าจะแตกหักทำลายได้ง่ายกลับอยู่ยงคงกระพันมาจนถึงยุคนี้ แสดงว่าสมัยนั้นนิยมทำตุ๊กตาดินเผากันมากมายเหลือเกิน บรรจุลงไปในฮวงซุ้ยก็มาก เป็นส่วนหนึ่งของพิธีศพเช่นกัน
อินเดีย, ญี่ปุ่น, อินเดียนแดงตลอดจนถึงคนไทยโบราณ ล้วนทำตุ๊กตาขึ้นเป็นของสำหรับผู้ใหญ่พอๆ กับเป็นของเด็ก สำหรับเด็กนั้นตุ๊กตาเป็นของเล่น แต่ว่าสำหรับผู้ใหญ่ตุ๊กตาเป็น “ของจริง” เพราะเอาไปใช้ในพิธีการอันเอาจริงเอาจังหลายอย่าง ซึ่งส่วนใหญ่หนักไปในทางพิธีไสยเวท เช่น ตุ๊กตาเสียกบาลของไทยสมัยสุโขทัย เป็นต้น คนโบราณไม่จำกัดว่าตุ๊กตาต้องเล่นเพราะเด็กผู้หญิงเท่านั้น เขาให้ตุ๊กตาแก่เด็กชายพอๆ กับให้แก่เด็กผู้หญิงด้วย ชาติโบราณอย่างจีน ญี่ปุ่น อินเดีย ตลอดจนอินเดียนแดงหลายเผ่าล้วนให้ตุ๊กตาแก่เด็กผู้ชาย แต่รูปร่างของตุ๊กตาจะทะมัดทะแมงกว่าตุ๊กตาสำหรับเด็กผู้หญิง เด็กผู้ชายจะได้รับตุ๊กตาทหารบ้าง นักรบบ้าง ในขณะที่เด็กหญิงได้ตุ๊กตาเพศเดียวกันที่สะสวยอ่อนหวานว่ากันว่าตุ๊กตาเป็นศูนย์รวมแห่งจินตนาการของเด็กชายเด็กหญิงพอๆ กัน นอกจากนี้ยังเป็นเพื่อนเล่น, เป็นที่ระบายอารมณ์เวลาโกรธ, เป็นที่เกิดของความคิดสร้างสรรค์ แก่เด็ก และที่สำคัญก็คือสำหรับเด็กผู้หญิง ตุ๊กตาช่วยกระตุ้นสัญชาตญาณความเป็นแม่ให้เพิ่มขึ้นโดยไม่รู้ตัว เมื่อเติบโตขึ้นจนถึงวัยมีเหย้ามีเรือน สัญชาตญาณนั้นก็ทำให้ เธอรักและผูกพันต่อลูก ท่านที่สนใจศิลปกรรมกรีกโรมันคงนึกในใจ ว่าตุ๊กตาสำหรับเด็กกรีกและโรมันไม่มีกะเขาบ้างเหรอ?...มีแน่นอน มากเสียด้วย ตุ๊กตากรีกเก่าที่สุดมีอายุประมาณ 3,200 ปี พบที่เกาะครีต ทำด้วยดินเผาอย่างประณีต ส่วนตุ๊กตาโรมันในยุคแรกๆ นั้นเป็นดินเผาเหมือนกัน พบในหีบศพของเด็กหญิงจากตระกูลขุนนางผู้มั่งคั่งของโรม มีอายุราวๆ ศตวรรษที่ 2 ก่อนคริสตกาลหรือราว 2,100 ปีมาแล้ว เป็นตุ๊กตาดินเผาที่มีเครื่องประดับเป็นทองคำแท้สวมอยู่ด้วย นับว่าเป็นตุ๊กตาที่มีค่าที่สุดตัวหนึ่งเท่าที่พบมา เมื่อเวลาผ่านไปตุ๊กตาก็พัฒนาตัวเองไปด้วย ในฐานะของเล่นเด็ก ตุ๊กตาจะมีรูปร่างและแต่งกายตามสมัยนิยม ในยุคกลางตุ๊กตามักทำด้วยไม้แกะ ตกแต่งด้วยเสื้อผ้าอาภรณ์ ตามแฟชั่นของสาวน้อยยุคนั้น สมัยเรอเนสซองส์ ตุ๊กตาก้าวหน้าไปอีกนิดหนึ่งครับสำหรับเด็กหญิงในตระกูลสูง หรือร่ำรวยจะ สั่งทำตุ๊กตาที่มีหน้าตาเหมือนเจ้าของ ซึ่งไอเดียนี้ย้อนกลับมาฮิตอีก มีคุณแม่รายหนึ่งซึ่งมีลูกสาวน่ารักมากหลายคน เธอจึงทำตุ๊กตาหน้าเหมือนลูกสาวเปี๊ยบออกขาย เรียกว่า “ตุ๊กตาฝาแฝด”ปรากฏว่าขายดิบขายดีทีเดียว นอกจากนี้ ตุ๊กตายังพัฒนาไปมีบ้านของตนเอง เรียกว่าบ้านตุ๊กตา ซึ่งเหมือนบ้านจริงๆ ย่อส่วนลงมาเหลือขนาดกระจิ๋ว พร้อมด้วยตุ๊กตาตัวกระจิ๋วอยู่ในบ้านด้วย
ฝรั่งโดยเฉพาะชาวยุโรป มีความเชื่ออีกอย่างหนึ่งว่า ตุ๊กตาชายหญิงอาจเป็นสัญลักษณ์ แห่งความอุดมสมบูรณ์ และการมีครรภ์ได้ ดังนั้น ท่านผู้อ่านจึงอย่าแปลกใจ ที่เห็นเค้กแต่งงานของคู่สมรสฝรั่ง เขาทำตุ๊กตาบ่าวสาว ไว้ตรงยอดขนมเค้กด้วย ที่ทำยังงั้นไม่ใช่ให้เป็นของประดับสวยๆ เท่านั้น แต่มีความหมายว่า ขอให้คู่สมรสจงสมบูรณ์ พูนสุขและตั้งครรภ์เร็วๆ ไงล่ะ
|