ลืมรหัสผ่าน
 สมัครเข้าเรียน
ค้นหา
ดู: 461|ตอบกลับ: 9

ลูกแก้วมังกร รามูนจ้าวแห่งสายลม ??? 5

[คัดลอกลิงก์]

โสด

   ศาสตราจารย์เอื้ออาทร
อาจารย์พิเศษ
ถ้าหากว่าซ้ำต้องขออภัยนะครับและขอโทษเจ้าของเรื่องด้วยนะครับเพราะว่าคัดลอกมาอีกที
ความเดิมตอนที่แล้ว


                          สุดท้ายแล้วแม้จะได้พบกับรามูนอีกครั้งแต่เหมือนพี่เขยของตนสร้างกำแพงและมีพลังบางอย่างทำให้ไม่สามารถจับเข่าพูดคุยเหมือนคนทั่วไปคงต้องรออีกสักระยะ คิดว่ายังไงครั้งหน้าก็ต้องได้เจออีกแน่?
Part  5
ผมคือมังกร?

                 ‘มังกร’ ชื่อนี้พ่อให้ซินแสตั้งให้ ความหมายคือสัตว์เทพผู้มีพลังควบคุมธาตุทั้งสี่ ดิน น้ำ ลม ไฟ
และสรรพสิ่งที่เกี่ยวข้องกับธรรมชาติซึ่งต้องพึ่งพาลมหายใจของมังกรเกื้อหนุนให้เกิดสมดุลกันช่วยสร้างความอุดมสมบูรณ์ให้เกิดขึ้น ภาษาจีนเรียกกันว่า ‘ชี่’  หมายถึงลมหายใจของมังกรตามหลักฮวงจุ้ย
                พ่อซึ่งใครๆเรียกท่านว่า ‘อินทรีย์’ เป็นผู้นำคนแรกของวิริยะทรัพย์  ท่านตั้งใจให้ผมสืบทอดธุรกิจโดยระบุในพินัยกรรมชัดเจน เดิมทีผมไม่เคยรู้มาก่อนว่าธุรกิจของพ่อมีทั้งบนดินและใต้ดิน อย่างหลังคือสาเหตุที่ทำให้ผมต้องเดินเข้าสู่วงการมาเฟียกระทั่งทุกวันนี้
                อาดลภัทรน้องชายแท้ๆของพ่อ ซึ่งผมไม่รู้สึกผูกพันเหมือนเครือญาติทั่วไปพึงมีต่อกันสักเท่าไหร่ แม้แต่พ่อเองยังไม่มีเวลาให้ครอบครัว หลังจากแม่ตายไปตอนผมอายุแค่ 5 ขวบ มีเพียงพี่หงส์ฟ้าที่เป็นทั้งพี่ทั้งแม่คอยดูแลผมอายุเราห่างกัน 15 ปี จนกระทั่งอายุได้ 9 ขวบพวกเราก็ถูกย้ายเข้ามาอยู่ในคฤหาสน์วิริยะทรัพย์ ตั้งแต่นั้นชีวิตผมก็เปลี่ยนไป ถูกฝึกให้กลายเป็นมังกรเตรียมขึ้นนั่งบัลลังก์แทนพ่อ โดยที่ผมไม่มีทางเลือกเลยด้วยซ้ำ  
               ชีวิตขาดอิสระแตกต่างจากเด็กรุ่นเดียวกัน มีเพียงเพื่อนรุ่นน้องคือพยัคฆ์ลูกอาคมการ์ดมือขวาของพ่อ ที่เป็นเพื่อนคนเดียวซึ่งผมสนิทด้วย พออายุ 12 พี่หงส์ฟ้าก็หายสาบสูญไปอย่างไร้ร่องรอย ชีวิตผมเหมือนตัวคนเดียวนับแต่นั้นเป็นต้นมา ที่ยังมีลมหายใจอยู่ก็เพราะหน้าที่ได้แต่รอให้ถึงเวลาคืนสู่เถ้าถ่านเหมือนพ่อกับแม่ซึ่งถูกลอบสังหารไปแล้วทั้งคู่ ตัวผมเองก็คงไม่ต่างหรอกรอแต่ว่าวันนั้นจะมาถึงเมื่อไหร่
                มังกรที่ใครต่างคาดหวังให้ผมเป็น พวกเค้าไม่รู้หรอกว่ามังกรตัวนี้มันรู้สึกเดียวดายแค่ไหน สุดท้ายก็ต้องอยู่ให้ได้และต้องอยู่อย่างเข้มแข็งด้วยเพื่อปากท้องลูกน้องอีกนับหมื่นชีวิต ที่ต้องกินต้องใช้ภายใต้การดูแลของผมในฐานะประธานใหญ่วิริยะทรัพย์ หลังจากพ่อถูกลอบสังหารก็เข้ารับตำแหน่งทันทีจนถึงปัจจุบัน ผมนั่งบริหารงานต่อจากพ่อมา 5 ปีแล้ว  อันตรายมีมารอบด้าน ทั้งศัตรูจากธุรกิจและกลุ่มนักฆ่ามืออาชีพ ถึงผมจะผ่านการฝึกทักษะป้องกันตัวมาแล้วก็เถอะ ไม่ได้หมายความว่าจะเก่งกาจโหด-เอี้ย-มเท่ากับพวกมัน ยังไงเสียยังคงต้องอาศัยการ์ดคอยดูแลอารักษ์ขาไม่ต่างจากพ่อเคยเป็นมาแม้แต่นิดเดียว  มาถึงวันนี้ผมรู้แล้วว่าความสุขของคนเราขอเพียงมีข้าวกินอิ่มท้องไม่อดยากก็น่าจะพอแล้ว ผมอยากใช้ชีวิตแบบคนปกติคงจะมีความสุขไม่น้อยไม่ต้องเดินอยู่ภายใต้อุ้งมือมัจจุราชเหมือนอย่างทุกวันนี้
                         มังกรเมื่อมันได้ขี่หลังเสือแล้วคงยากจะกลับไปสู่จุดเดิม เหลือทางเลือกเดียวคือต้องเดินหน้าต่อไปไม่รู้ว่าจุดจบจะมาถึงเมื่อไหร่ ทุกวันนี้โชคดีมากที่ยังมีลมหายใจอยู่ ‘ชี่’ลมหายใจของมังกรที่ต้องดูแลอภิบาลให้กับสรรพสิ่ง แล้วตัวของมังกรมันเองละจะมีสิ่งใดมาคอยอภิบาลมันได้บ้างผมยังไม่พบสิ่งนั้นเลย
                       นี่คือสาเหตุที่ผมไม่ยอมมีครอบครัว ไม่อยากให้ลูกเมียต้องทุกข์ใจคอยกังวลว่าผมจะกลับบ้านตอนไหน จะได้เจอหน้ากันเมื่อไหร่บาดเจ็บมาด้วยหรือไม่ สิ่งเหล่านี้แม่ของผมท่านสัมผัสกับมันมาแล้ว ช่วงสุดท้ายของชีวิตแม่อยู่กับการรอคอยจนตายจาก ถ้าหากผมจะมีครอบครัวแล้วละก็ ขอทิ้งทุกสิ่งยอมอยู่อย่างงูเขียวดีกว่า ไม่ต้องมาเป็นมังกรที่บินอยู่บนฟ้าแต่รอบกายมีเพียงความโดดเดี่ยวเช่นนี้ สู้เป็นงูเขียวมีความสุขกับธรรมชาติยังรู้สึกดีเสียอีก นึกแล้วมังกรยังต้องอิจฉางูเขียวแล้วสิ
                 “อือ!” เผลอครางออกมาจนได้ รู้สึกปวดแผลมากๆน่าจะระบม ถึงแม้จะทำความสะอาดพันแผลมาเรียบร้อยแล้วแต่ตอนนี้กลับรู้สึกปวดเอาเรื่องแล้วเหมือนกัน  มัวแต่จมอยู่กับภวังค์ความคิด
                  “เจ้านายไหวไหมกลับเลยดีกว่า  เดี๋ยวสั่งอานนท์กับคงเทพไปรับคุณลูกแก้วตามไปจะดีกว่าไหมครับ?” พยัคฆ์เพื่อนคนเดียวที่ผมมี และยังเป็นการ์ดข้างกายให้ผมด้วย ออกความคิดขึ้น
                 “ไม่ดีกว่าเดี๋ยวก็ถึงแล้ว ติดต่อคุณสมรบอกให้ลูกแก้วลงมารอข้างล่างเลยเถอะ” ผมปฏิเสธ ไม่อยากเสียเวลาจะถึงแล้วแวะรับเลยดีกว่า
                 “ครับ”  พยัคฆ์รับคำหน้านิ่ง ก่อนจะหันกลับไปกดโทรศัพท์บอกคุณสมร  ผมรู้ว่าพยัคฆ์ดูแลเอาใจใส่ผมดีมากทั้งที่อายุอ่อนกว่าผมเสียอีก  กลับพยายามทำตัวเป็นพี่ชายผมซะงั้น แต่อย่างน้อยก็ยังระวังคำพูดทุกครั้งเมื่ออยู่ต่อหน้าลูกน้องไม่เคยทำตัวตีเสมอผมเลย เขาจะเรียกชื่อผมก็ต่อเมื่ออยู่กันส่วนตัว  หากมีคนอื่นอยู่ด้วยจะเรียกผมเจ้านายตลอด บ้างครั้งอดคิดไม่ได้ว่าผมเป็นต้นเหตุให้เขาไม่มีเวลาส่วนตัว ทั้งที่พยัคฆ์น่าจะได้ใช้ชีวิตหาความสุขให้ตัวเองบ้าง นึกแล้วก็เห็นใจจริงๆ
                          พอรถจอดที่เฉพาะประธานบริษัทฯ การ์ดซึ่งขับตามหลังมา มีอานนท์ คงเทพ สิงขร และภูธร ก็ลงไปตามลูกแก้วอย่างรู้หน้าที่ โดยผมนั่งรออยู่ในรถเพราะตอนนี้แค่แวะมารับลูกแก้วก็จะรีบกลับไปพักเลย
                         ไม่ถึงห้านาที ร่างกำยำสูงใหญ่เกินมาตรฐานคนปกติเด่นกว่าใครก็เดินนำออกมาด้วยท่าทาง
ร้อนรนพอสมควร ใบหน้าหล่อคมอดนึกอิจฉาเครื่องหน้าของหลานตัวโข่งของผมไม่ได้ ดวงตาเข้มของเจ้าตัวฉายชัดถึงความกังวลคิดว่าคงรู้แล้วผมถูกยิง น่าจะลูกน้องบอกไปแล้วครับ
                       “เป็นยังไงบ้างอามังกร?”
                      “โอ๊ะ! อืม”  ผมสะดุ้งโหย่ง ก็พอโผล่หัวเข้ามาประตูมาได้ไอ้ตัวดีถือโอกาสจับแขนผมข้างที่เจ็บเพื่อจะตรวจอาการทำยังกะเป็นหมอซะเอง ทั้งที่กลัวเลือดจนขี้ขึ้นหัว เล่นเอาปวดจี๊ดขึ้นมาเลยทีเดียว
                     “ขอโทษครับ ผมไม่รู้ว่าแผลอยู่ข้างนี้”  แววตาสำนึกผิด ทำเอาอดสงสารไม่ได้ ลูกแก้วโตมาในสังคมปกติไม่มีเล่ห์เหลี่ยม นึกจะพูดหรือทำอะไรความรู้สึกฉายชัดบนตาคมสวย อ่านได้ไม่ยากสำหรับความคิดของเจ้าหลานตัวโข่งของผม
                      “ไม่เป็นไรเราไม่รู้นี่ว่าแผลอาอยู่ข้างนี้ เอาเถอะไม่เป็นไรหรอก เดี๋ยวเห็นเลือดจะพานเป็นลมอีก”  ผมเปลี่ยนเรื่อง นำจุดอ่อนของเจ้าตัวขึ้นมาพูด ทำเอาหน้าคมเข้มแดงเรื่อขึ้นทันตา บอกแล้วเจ้าเด็กโข่งซึ่งแทบไม่อยากเชื่อว่าจะอายุ 22 ดูพฤติกรรมเหมือนเด็กม.ปลายเสียมากกว่า ออกอาการเขินทันทีเมื่อผมจี้จุดเข้าให้
                     “ผมห่วงอาจนลืมนี่ครับ แล้วใครทำอารู้ตัวพวกมันไหม?” เจ้าตัวยกมือเกาหัวแก้เก้อ ก่อนจะถามถึงพวกที่ลอบทำร้ายผมต่อ
                   “ไม่รู้ครับช่างเถอะอย่าไปสนใจเลย ว่าแต่เราละเรียนรู้งานไปถึงไหนแล้วหืม?” ผมไม่อยากพูดถึงปัญหาที่เผชิญอยู่ให้ลูกแก้วฟัง อยากดึงเค้าให้ออกห่างจากเรื่องพวกนี้ให้มากที่สุด อย่างน้อยพี่หงส์จะได้
สบายใจ อุตส่าห์เลี้ยงซะใสซื่อไม่มีจริตในแววตาสักนิด พี่หงส์คงต้องการให้หลานผมใช้ชีวิตปกติทั่วไป ฉะนั้นผมควรทำตามความตั้งใจของพี่เค้า หากเราได้พบหน้ากันจะได้ไม่ถูกตำหนิเอา
                     “วันนี้คุณสมรให้ผมศึกษาเกี่ยวกับเอกสารโครงการที่เก็บไว้ในห้องของอา เธอยังบอกอีกว่าจะคุยกับอาให้ ว่าผมสามารถเริ่มทำหน้าที่เป็นเลขาของอาได้แล้ว” ท่าทางดีใจจนออกนอกหน้าเมื่อเปลี่ยนมาพูดเรื่องงานทำเอาผมเผลอยิ้มตามไม่ได้ เดิมทีก็รู้สึกแปลกกับพฤติกรรมที่ไม่สมกับรูปร่างหน้าตา แต่พอเริ่มเข้าใจอุปนิสัยกับเป็นอะไรที่ชวนให้ผมนึกเอ็นดูไปเหมือนกัน  คงเพราะกิริยาที่ไม่ปิดบังความรู้สึกของลูกแก้ว ซึ่งผมเองไม่สามารถเป็นแบบนั้นละมั้ง พอมาเห็นคนที่ฉายมุมนี้ออกมาอย่างเป็นธรรมชาติจึงทำให้ผมรู้สึกสบายใจและผ่อนคลายอย่างไม่มีสาเหตุ
                       “อืมงั้นเราก็สามารถไปนั่งทำงานในห้องอาแล้วสินะ ยังไงช่วงนี้คงต้องให้เราไปทำงานตามลำพัง รออีกสองสามวันขออาพักรักษาอาการบาดเจ็บสักหน่อย ถึงกลับไปทำงานตามปกติ ส่วนเรื่องที่อาบาดเจ็บเราไม่ต้องไปบอกใครล่ะ แม้แต่คุณสมรเองก็เหมือนกัน เดี๋ยวอาบอกเองว่าอาติดงานด่วน”  ผมคิดไว้แล้วว่าคงต้องรักษาตัวที่บ้านอย่างน้อยสองสามวัน  น่าจะดีขึ้น ถึงแม้ร่างกายผมจะแข็งแรงไม่ค่อยป่วยมาก่อน  แต่แผลโดนยิงก็เล่นเอาปวดล้าไปทั้งหัวไหล่แทบจะยกแขนไม่ขึ้นแล้ว  ที่ทนนั่งปั้นหน้านิ่งอยู่ได้ ก็อาศัยยาแก้ปวดที่หมอให้ทานก่อนหน้า ซึ่งผมทานปริมาณไม่มากไม่งั้นจะง่วงนอน กะรอให้ถึงบ้านเสียก่อนค่อยทานเพิ่มให้หลับยาวเลยทีเดียว หมอบอกไม่แน่คืนนี้อาจมีไข้ซึ่งเกิดจากอาการบาดเจ็บ จัดยาแก้ไข้ให้ผมมาด้วยต่างหาก
                      “ไม่เอา ถ้าอาพักฟื้นที่บ้านผมจะขออยู่คอยดูแลอาเอง ผมรู้วิธีดูแลคนป่วยด้วยนะแม่สอนผมมา ความจริงผมเป็นเลขาของอาก็ต้องมีหน้าที่ดูแลรับใช้ใกล้ชิดสิ จริงไหม?” เออเอากับลูกตื้อตาใสเขาสิ  มาลูกนี้ผมก็ไปไม่เป็นเหมือนกัน เล่นยกทั้งเหตุทั้งผลแถมการันตีความสามารถตัวเองมาพร้อมสรรพ  
                   “กะจะเริ่มงานเลยหรือหืม?”  ผมยังไม่รับปาก กลัวจะเห็นแผลเข้า กลายเป็นผมต้องมาดูแลเจ้าตัวแทนละไม่ว่า
                  “ก็ใช่สิครับ เริ่มตั้งแต่วินาทีนี้เลยดีกว่า ตอนนี้คุณอาปวดมากใช่ไหมเล่าอย่าฝืนอีกเลยผมรู้น๊า!”  นั่นทำมารู้ดีอีก
                   “รู้ได้อย่างไรท่าทางอาออกอาการขนาดนั้น?” ผมก็ยังหน้านิ่งถามกลับไป  แม้ลูกแก้วจะเดาถูกก็เถอะยอมรับปวดมากจริงๆ หาเรื่องคุยกับเจ้าตัวเพื่อให้ลืมความรู้สึกตรงนี้ไปบ้างช่วยได้ไม่น้อย
                  “ก็ต้องรู้สิครับ กระสุนมีเขม่านั่นแหละทำให้เกิดอาการบวมและอักเสบ คนที่ได้รับบาดเจ็บเกิดอาการไข้จับเอาได้ ไม่แน่คืนนี้อาเองก็อาจมีไข้ขึ้นสูง คงต้องคอยดูแลเช็ดตัวลดไข้ให้เป็นระยะไม่งั้นเกิดช็อคขึ้นมาจะแย่เอาได้นะครับ” พูดพร้อมสีหน้าท่าทางจริงจังเสียด้วยสิ แถมยกเหตุผลซึ่งเป็นเรื่องจริงตามที่หมอแจ้งไว้ก่อนด้วย ท่าจะไม่ใช่ราคาคุยเสียแล้วมั้ง
                 “อืมพี่หงส์สอนละเอียดขนาดนี้เชียว?” ผมยังคงพูดด้วยน้ำเสียงเรียบเลยปกติ ไม่แสดงอาการใดๆแม้จะรู้สึกปวดมากขึ้นเรื่อยๆ นี่ก็ใกล้ถึงบ้านแล้ว ผมรู้ว่าพยัคฆ์กำลังสนใจฟังคำสนทนาของผมสองคนอยู่ นั่นคือลักษณะของการ์ดที่ดี หูฟังแต่นิ่งไม่มีพิรุธและต้องเก็บความลับเก่งอีกด้วย
                  “ไม่ใช่แค่สอนอย่างเดียวนะครับ ตอนที่พ่อผมถูกยิงมาเราสองคนแม่ลูกก็ต้องดูแลพ่อ ถึงผมจะเห็นเลือดแล้วจะเป็นลมก็เถอะ พอหลังจากที่แม่ทำแผลเรียบร้อยแล้ว หน้าที่เฝ้าไข้เช็ดตัวให้พ่อผมก็ทำแทนแม่ทั้งหมด รับประกันเลยนะว่าผมทำได้แน่นอนครับ”  ที่แท้มัจจุราชเทพพระกาฬก็เคยโดนยิงเหมือนกัน
หรือนี่  อยากรู้จริงว่าใครกันที่มีฝีมือถึงกับสามารถยิงเจ้าหมอนั่นบาดเจ็บเอาได้  
                      “พ่อเราเคยถูกยิงมาก่อนด้วยเหรอ พอรู้ไหมว่าใครทำ?” ผมเบนหัวข้อเปลี่ยนมาคุยเรื่องของหมอนั่นแทน  หากมีข้อมูลของรามูนไว้หน่อยคงดีไม่น้อย คิดว่าลูกแก้วน่าจะบอกรายละเอียดได้เป็นพ่อลูกกันนี่นา
                      “ผมไม่รู้หรอกว่าใครทำเพราะพ่อไม่เคยเล่าอะไรให้ฟัง แม่เองก็เหมือนกันทั้งสองคนไม่อยากให้ผมเดินบนเส้นทางสายนี้  ผมเลยไม่รู้อะไรมากรู้ก็เท่าที่เห็นแหละครับ” กรรม! สรุปลูกแก้วก็ไม่มีข้อมูลของรามูนสินะ ช่างลึกลับจริงแม้แต่ลูกในไส้ยังไม่รู้รายละเอียด
                     “รูปร่างหน้าตาพ่อเราเป็นยังไง พอจะบอกอาได้ไหม?” ผมพูดจบเจ้าตัวดันหน้าแดงเขินซะงั้น
พาให้นึกหมั่นไส้อยากถีบหงายหลังจริงๆ นี่ผมถามถึงหน้าตาของพ่อ ไหงเสือกดันมาอายเสียเองเล่านั้น
                     “ผมกับพ่อเราคล้ายกันไม่น้อย แม่พูดเสมอว่าผมหน้าตาหล่อเหมือนพ่อ เมื่อก่อนพ่อโตกว่าผม ตอนนี้คิดว่าคงพอสูสีแล้วมั้งไม่รู้สิ เพราะไม่เจอกันมาตั้งหกปี” เออเป็นเอามากที่เขินนี่เพราะพี่หงส์บอกว่าหล่อเหมือนพ่อเลยดันเขิน ให้มันได้อย่างนี้สิเจ้าเด็กโข่ง?
                      อย่างหนึ่งที่รู้สึกคันปากอยากจะพูดชะมัด ว่าเรากับพ่อนิสัยโคตรคนละทางกันเลย แต่ก็ได้แค่คิดไม่งั้นต้องมีคำถามว่าผมไปเจอพ่อเค้ามาตอนไหนถึงวิจารณ์นิสัยออกมาได้ เรื่องจะยาวไปกันใหญ่
                      “งั้นเหรอ?” เลยตัดบท ถามต่อก็คงไม่ได้อะไร  อีกอย่างตอนนี้รถก็เลี้ยวเข้าถึงบริเวณบ้านแล้ว ได้เวลาพักผ่อนซะทีทนปวดหัวไหล่ยังกับจะหลุดแล้ว ไม่ติดมีเพื่อนคุยได้ทรมานน่าดูถือว่าลูกแก้วช่วยได้เยอะทีเดียว ที่ดึงความสนใจผมไม่ให้จดจ่ออยู่กับอาการปวดแผล
                       หลังจากแยกย้ายกันแล้ว  ผมก็กลับเข้าห้องกำลังคิดจะเปลี่ยนชุดใส่เสื้อคลุมแทนเสื้อผ้าที่สวมอยู่เพื่อให้สบายตัว จากนั้นตั้งใจจะกินยานอนหลับพักผ่อนเสียหน่อย  แต่..
                       “ก็อกๆ!”  เคาะประตูแบบนี้คงไม่มีใคร
                      “ว่าไงครับ?” ผมเปิดประตูถามทันที  หลังไอ้หลานร่างยักษ์ยืนอยู่หน้าห้อง ยังอยู่ในชุดทำงานดึงชายเสื้ออกนอกกางเกงมีพับแขนขึ้นเสมอข้อศอกปลดกระดุมบนอีกสองเม็ด  อวดเนินอกที่แน่นตึงไปด้วยกล้ามเนื้อสามารถคาดเดาได้เลยว่าภายใต้เสื้อเชิ้ตสีขาวตัวบาง ไอ้หลานชายร่างใหญ่มันซ่อนรูปแค่ไหน
                    “ผมขอเข้าไปหน่อยครับ?”  มียืนทำตาแบ๋วมองผมปริบๆ
                   “อืม เข้ามาสิ”  ปกติไม่ค่อยมีใครกล้าเข้าห้องผมมาก่อน  ในเวลาที่ผมอยู่บ้านถ้ามีเรื่องด่วนก็จะกดโฟนอินเข้ามาถามแทน ยกเว้นเด็กโข่งตรงหน้านี่แหละ  
                  “ผมมาช่วยอาเช็ดตัว อาจะได้รู้สึกสบายตัวแล้วค่อยทานอาหารรองท้องก่อนทานยาตามหลัง ผมแจ้งแม่บ้านให้ต้มข้าวต้มหมูเตรียมไว้ให้แล้ว”  หืม? ทำเอาผมอึ้งเหมือนกัน  จัดการหมดแล้วนั่น
                   “เออไอ้เรื่องอาหารรองท้องโอเคนะ เพราะอาจะได้ทานยานอนพักเลย แต่เรื่องเช็ดตัวนี่ไม่ต้องดีกว่ามั้ง?”  คือผมไม่ชิน บอกแล้วไงครับ ตั้งแต่อายุสิบสองเป็นต้นมา ไม่เคยมีใครมาทำอะไรแบบนี้ให้ผมอีกเลย
                   “ไม่ได้นะครับ อย่างน้อยอาควรทำความสะอาดเสียหน่อย ขืนหมักหมมอาจทำให้แผลติดเชื้อได้นะ”  แหนะ! มีเหตุผลซะงั้น
                     “อาไม่ได้หมายความแบบนั้น เพียงแต่อาพอทำได้ขอทำเองดีกว่า” ผมตอบกลับไป กลับโดนเจ้าเด็กเอาแต่ใจเดินเข้ามาจับแขนข้างที่ไม่เจ็บ ก่อนจะดึงให้ตามไปนั่งบนเตียงหน้าตาเฉย
                      “อาทำไม่สะดวกหรอก  มันจะสะอาดได้ยังไงในเมื่อแขนซ้ายอาใช้ได้ข้างเดียว  จะบิดผ้าชุบน้ำให้หมาดยังไม่ได้ด้วยซ้ำ อย่าดื้อสิครับโตแล้วว่าง่ายๆ นะ”  กรรม!  ฟังมันพูดกลายเป็นผมดื้อไปซะแล้ว
                   “เอาจริงสิ?”  ผมพูดจบเจ้าตัวยิ้มแฉ่ง  ก่อนจะหันหลังเดินเข้าไปในห้องน้ำ  ได้ยินเสียงเปิดปิดน้ำไม่ถึงห้านาที  ในมือก็ติดอ่างใส่น้ำพร้อมผ้าขนหนูเล็กแช่มาด้วยเรียบร้อย พอมาถึงก็เอามาวางบนโต๊ะหัวเตียง หันมายิ้มตาหยีให้ผมก่อนจะพูดขึ้นมาว่า
                   “มาผมช่วยถอดเสื้อให้”  ผมได้แต่พยักหน้า ก่อนเจ้าตัวจะมานั่งคุกเข่าลงบนพรมข้างเตียง แล้วค่อยยืนมือมาปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตที่ตอนนี้ด้านขวาเหลือแขนเสมอไหล่เพราะหมอใช้กรรไกรตัดออก  ส่วนบริเวณตั้งแต่สะดือเกือบถึงหน้าอกก็ขาดเป็นทางยาวเพราะรามูนฉีกมารัดห้ามเลือดให้ผม  
                     ตอนที่นั่งกันมาในรถผมใช้สูทคลุมเอาไว้ เจ้าตัวจึงไม่รู้ว่าสภาพเสื้อผมเป็นแบบไหน  แอบมีทำคิ้วย่นเหมือนจะสงสัยแต่ก็หุบปากไม่ถามลงมือปลดกระดุมที่เหลือไม่ถึงสามเม็ด  
                    "ดีนะที่หมอทำแผลมาดี ไม่มีเลือดซึมออกมา"  เจ้าตัวบ่นพึมพำ แหงล่ะขืนเห็นเลือดคงไม่มานั่งพูดอยู่นี่หรอก
                   “ผมเช็ดตัวให้ก่อนนะ”  พูดจบเอาเสื้อที่ถอดออกโยนทิ้งลงตะกร้าแล้วหันไปบิดผ้าขนหนูในอ่าง  เรียบร้อยแล้วนำมาบรรจงเช็ดหน้าให้ผมเป็นจุดแรก  รู้สึกแปลกๆเมื่อมือหนาใต้ผ้าขนหนูลูบไปตามแก้มผมอย่างเบามือ  ในขณะที่สายตาคนทำจ้องลึกเข้ามาในตาผมจะหันหลบก็ใช่ที่  จะจ้องตอบก็รู้สึกแปลกกับสายตาใสซื่อที่เต้นระริกจ้องสบมาไม่กะพริบ  ตัดสินใจหลับตาลงซะ  กลับรับรู้ต่อสัมผัสทุกการกระทำได้อย่างชัดเจน แม้กระทั้งลมหายใจอุ่นร้อนที่ออกจากจมูกโด่งซึ่งเป่ารดหน้าผมอยู่ตอนนี้  พานทำให้ต้องพลอยสูดเอาลมหายใจของเจ้าเด็กบ้านี่เข้าปอดไปด้วย  มือหนาคอยเกลี่ยไล้ไปทั่วหน้าผมอย่างบรรจงสมราคาว่าเจ้าตัวเคยดูแลเช็ดตัวให้รามูนมาก่อน  
                          ก่อนผมจะค่อยลืมตาขึ้นเมื่อรู้สึกว่าผ้าที่เปียกน้ำหายไปจากใบหน้าแล้ว ดันปะทะเข้ากับสายตาคมที่ฉ่ำเยิ้มจ้องผมเข้าอย่างจัง งานนี้เลยต้องจ้องตาดุกลับไป  ไม่อยากจะคิดว่าเจ้าเด็กนี้มันคิดอะไรกับผม
หรือเปล่า  เพราะแววตามันบ่งบอกเหมือนกับชายหนุ่มมองหญิงสาว พอผมทำตาดุจ้องตอบดันเสือกก้มหน้าคางเกือบชิดอก ก่อนจะหันไปเอาผ้าขนหนูขย้ำน้ำแล้วบิดขึ้นมาใหม่  งานนี้ไอ้เด็กบ้านี่มันเขินแบบไม่ปิดบังหูแดงหน้าแดงเถือกจนเห็นได้ชัด
                         “อาว่าพอก่อนเดี๋ยวอา..” พูดยังไม่ทันจบ  มันไม่สนใจจัดการจับแขนผมวนผ้าเช็ดให้อย่างเบามือเลยต้องหุบปากนิ่ง ส่วนเจ้าตัวไม่มีเงยหน้ามองผมอีกเลย เอาแต่ก้มหน้าก้มตาตั้งอกตั้งใจเช็ดทั่วแผงอกลำตัวทั้งด้านหน้าด้านหลังให้อย่างเอาใจใส่  ผมเลยปล่อยให้ทำต่อ อีกอย่างต้องยอมรับว่าลูกแก้วเช็ดตัวแล้วรู้สึกสบายตัวไม่น้อย
                        จากนั้นไอ้เด็กโข่งก็ลุกไปเปลี่ยนน้ำมาใหม่  กลับออกมามีจ้องหน้าผมอีก ทั้งที่ตัวเองยังหน้า
แดงเถือก พูดกับผมเสียงนุ่มขึ้นว่า
                       “อาขึ้นนอนบนเตียงสิ  เดี๋ยวผมจะเช็ดส่วนล่างให้” พอฟังแบบนี้ผมตั้งใจปฏิเสธทันที ถึงจะไม่ค่อยแน่ใจต่อสายตาที่เจ้าตัวมองผมก็เถอะ ไม่อยากฟันธง  เหมือนเจ้าตัวจะรู้ว่าผมต้องปฏิเสธรีบพูดขึ้นมา
ก่อนว่า
                      “ผมจะทำให้เร็ว อาจะได้พักไวๆไงครับ”  พอเจอยืนยันแบบนี้ เลยตัดปัญหายกขาที่นั่งห้อยขึ้นไปนอนหงายหุบปากนิ่ง แต่สายตายังคงจับการกระทำของเจ้าเด็กโข่งอยู่ตลอด  เริ่มตั้งแต่ปลดหัวเข็มขัดรูดซิปกางเกง ดึงกางเกงผมลงถอดออกทางปลายเท้าเหลือเพียงกางเกงในสีขาวตัวเดียว  แล้วจึงหันไปบิดผ้าขนหนูในอ่างมาเช็ดตามหน้าขาผม ไล่ต่ำไปถึงน่อง ผมก็จ้องมองนิ่ง ในขณะที่เจ้าตัวไม่สบตาผมสักนิดก้มหน้าก้มตาทำให้อย่างเบามือทั้งที่หน้ายังแดงก่ำ กระทั่งผมต้องรีบเอามือยึดข้อมือเจ้าตัวไว้ทันที  เมื่อเด็กบ้าดันจับขอบกางเกงในผมเตรียมจะดึงลง
                         “ตรงนี้ไม่ต้องดีกว่า ไว้อาจัดการเอง” ผมพูดเสียงนิ่ง ยังเกร็งมือแน่นเพราะรู้สึกไอ้คนที่ต้องการจะดึงยังไม่ยอมผ่อนแรงลงสักนิด
                       “อย่าดื้อสิครับ  ยิ่งอาเคลื่อนไหวมากๆจะทำให้แผลระบมและอักเสบเข้าไปใหญ่ เราเป็นผู้ชายเหมือนกันไม่ต้องอายผมหรอก ปล่อยมือสิครับอา”  เอากับมัน มีจ้องผมอีกงานนี้จะถอดกางเกงผมให้ได้เลย
งั้นสิ  อยากจะสวนกลับเหมือนกันกูไม่ได้อายโว้ย! เจอไอ้หลานตัวแสบเล่นจ้องอย่างจริงจังไม่ยอมแพ้ ผมจึงต้องยอมปล่อยมือบิดหน้าหนีแม่งซะ อยากทำก็ทำช่างหัวมึง
                     จากนั้นผมก็ต้องสะดุ้งวาบ เมื่อรู้สึกว่าผ้าขนหนูชุบน้ำค่อยๆ บรรจงเช็ดน้องชายผมอย่าง
เบามือ  ยอมรับว่าเบามากเบาจนเกือบจะเป็นลูบไล้เสียด้วยซ้ำ พอเจอแบบนี้ไอ้ที่มันเคยสงบก็กลับไม่นิ่งเหมือนเดิม  เริ่มจะทำขายหน้าพ่อมันแล้ว  อะไรๆที่มันควรจะเป็นดันไม่เป็นเพราะเจอการเช็ดๆ ถูๆเข้าให้ เป็นใครก็ต้องมีบ้างแหละครับกิริยาตอบรับตามธรรมชาติ  แต่ผมก็ยังคงเฉยไม่อะไรยังไง  ไม่แม้แต่จะมองหน้าเจ้าตัวดีด้วยซ้ำที่กำลังปรนนิบัติเช็ดถูให้น้องชายผม รวมทั้งพวงแฝดซึ่งตอนนี้มันกำลังเคารพธงชาติเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
                       “เสร็จแล้วครับ ไม่คิดว่าอาจะอืม”  นรกจริง เสือกมีล้อผมทิ้งท้าย ก่อนจะหยิบเสื้อคลุมที่ผมแขวนเอาไว้หน้าตู้มาสวมให้ผมต่ออย่างตีหน้ามึนในขณะที่สายตาเจ้าตัวไม่ได้มึนตาม  ออกอาการวิบวับตลอดเวลา  
                     “เป็นเรื่องปกติของผู้ชาย อะไรที่ไม่คุ้นเคยไปสัมผัสมันก็ตื่นตัว  หรือเราไม่เคยเป็น?”  ผมทน
ไม่ไหว  สวนกลับไปหลังจากที่ยอมนิ่งมานานพอสมควร นึกอยากต่อยเปรี้ยงไอ้สายตาเหมือนยิ้มได้ที่ขยันส่งมาเสียจริง
                      “เหรอครับ แต่ผมไม่นะไม่ต้องรอให้มีอะไรมาสัมผัส แค่เจอคนที่ชอบเข้าละก็  น้องผมมันก็ตั้งแล้วครับ”  ผมเลิกคิ้วมองหน้ามันทันที  แม่งนั่นมันหื่นแล้วไอ้เด็กเวร  ขี้เกียจต่อปากต่อคำกับไอ้หลานที่ผมคิดว่ามันหน้าซื่อแต่ชักจะไม่ซื่อหรือมันซื่อจนไม่ปิดก็ไม่รู้  เลยไม่อยากคิดอะไรต่อ  
                     พอมันสวมกางเกงผ้าฝ้ายเนื้อบางให้เสร็จมันก็ลุกขึ้นยืน คราวนี้ผมอยากกระโดดถีบขาคู่จริงๆให้ตายสิ  ก็เป้ากางเกงมันดันนูนจนดันซิปแทบแตกแล้วนั่น  ไม่ต้องคิดว่าเกิดอะไรขึ้นให้ตายเหอะไอ้ที่มันบอกว่าเจอคนที่ชอบก็รู้สึกตั้งแล้ว มันคงไม่ได้หมายความตามที่พูดใช่ไหม ถ้าเป็นเช่นนั้นเวรแล้วสิ  ผมคงต้องระวังการใกล้ชิดกับไอ้หลานบ้านี่เสียแล้ว หลานผมมันคงไม่ได้เป็นเกย์ไปแล้วหรือ ถึงได้คิดกับผมซึ่งเป็นผู้ชายจนไม่ปิดบังความรู้สึกสักนิด นรกจริง?
                    พอมันกลับออกมาจากห้องน้ำทำตีหน้ามึน  ผมจำต้องปั้นหน้านิ่ง หลังเจ้าตัวกุลีกุจอให้ผมทานข้าวต้มรองท้อง โดยโฟนไปบอกคนรับใช้ให้ยกขึ้นมาให้  สรุปมันก็โฟนเป็นแต่ไม่ยักกดตอนมาเคาะ
ห้องผม  เสร็จจากทานยาที่มันจัดมาให้ผมกินเรียบร้อย  ผมจึงตัดสินใจบอกไปว่า

                   “เราไปพักเถอะ ขอบใจที่ดูแลอาอยากหลับแล้วสิช่วยปิดประตูให้ด้วยล่ะ”  พูดจบผมพลิกตะแคงปิดตาลงทันที ไม่สนใจว่าเจ้าตัวจะคิดยังไง  หูแอบได้ยินเสียงประตูปิดลงเบาๆ แสดงว่าลูกแก้วคงเดินออกจากห้องไปเรียบร้อยแล้วผมถึงเปิดเปลือกตาขึ้นครุ่นคิดอยู่คนเดียวถ้าความรู้สึกผมเดาไม่ผิดว่าลูกแก้วคิดกับผมเกินอาหลานผมคงต้องรักษาระยะห่างไว้เสียแล้ว กระทั่งปรือหลับเพราะฤทธิ์ยาแก้ปวดลงในไปที่สุด


นิสิตสัมพันธ์

กระทู้
9
พลังน้ำใจ
24560
Zenny
38464
ออนไลน์
2328 ชั่วโมง
โพสต์ 2013-5-23 22:35:29 | ดูโพสต์ทั้งหมด

มหาลัยซีเนียร์

กระทู้
0
พลังน้ำใจ
1430
Zenny
6827
ออนไลน์
291 ชั่วโมง
โพสต์ 2013-5-27 12:32:46 | ดูโพสต์ทั้งหมด
ขอบคุนครับ

มหาลัยซีเนียร์

กระทู้
0
พลังน้ำใจ
1338
Zenny
8250
ออนไลน์
245 ชั่วโมง
โพสต์ 2013-6-7 23:33:24 | ดูโพสต์ทั้งหมด
ขอบคุณครับ

มหาลัยซีเนียร์

กระทู้
1
พลังน้ำใจ
1612
Zenny
6474
ออนไลน์
812 ชั่วโมง
โพสต์ 2013-12-9 10:29:33 | ดูโพสต์ทั้งหมด
ขอบคุนคราบ

มหาลัยซีเนียร์

กระทู้
0
พลังน้ำใจ
1456
Zenny
-96
ออนไลน์
698 ชั่วโมง
โพสต์ 2013-12-11 17:52:53 | ดูโพสต์ทั้งหมด

มหาลัยซีเนียร์

กระทู้
0
พลังน้ำใจ
1541
Zenny
6736
ออนไลน์
824 ชั่วโมง
โพสต์ 2013-12-15 14:23:49 | ดูโพสต์ทั้งหมด

ประธานนักศึกษา

กระทู้
15
พลังน้ำใจ
57929
Zenny
27377
ออนไลน์
21899 ชั่วโมง
โพสต์ 2016-1-13 15:37:52 | ดูโพสต์ทั้งหมด

นิสิตสัมพันธ์

กระทู้
209
พลังน้ำใจ
14088
Zenny
42724
ออนไลน์
1088 ชั่วโมง

สมาชิกระดับมรกตสมาชิกระดับแพลตตินั่มสมาชิกระดับทับทิมสมาชิกจีโฟกาย 100%สมาชิกระดับไพลินสมาชิกระดับเพชรสมาชิกระดับเพชรบริหารสมาชิกระดับเพชรคู่สมาชิกระดับตรีเพชร

โพสต์ 2016-5-20 14:17:15 | ดูโพสต์ทั้งหมด
แต่ลูกแก้วน่ารักนะ

นิสิตสัมพันธ์

กระทู้
0
พลังน้ำใจ
25772
Zenny
21604
ออนไลน์
1006 ชั่วโมง
โพสต์ 2017-8-20 22:54:36 | ดูโพสต์ทั้งหมด
ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง เข้าสู่ระบบ | สมัครเข้าเรียน

รายละเอียดเครดิต

A Touch of Friendship: สังคมจะน่าอยู่ เมื่อมีผู้ให้แบ่งปัน ฝากไวเป็นข้อคิดด้วยนะคะชาวจีโฟกายทุกท่าน
!!!!!โปรดหยุด!!!!! : พฤติกรรมการโพสมั่วๆ / โพสแต่อีโมโดยไม่มีข้อความประกอบการโพส / โพสลากอักษรยาว เช่น ครับบบบบบบบบ, ชอบบบบบบบบ, thxxxxxxxx, และอื่นๆที่ดูแล้วน่ารำคาญสายตา เพราะถ้าท่านไม่หยุดทีมงานจะหยุดท่านเอง
ขอความร่วมมือสมาชิกทุกท่านโปรดโพสตอบอย่างอื่นนอกเหนือจากคำว่า ขอบคุณ, thanks, thank you, หรืออื่นๆที่สื่อความหมายว่าขอบคุณเพียงอย่างเดียวด้วยนะคะ เพื่อสื่อถึงความจริงใจในการโพสตอบกระทู้ และไม่ดูเป็นโพสขยะ
กระทู้ไหนที่ไม่ใช่กระทู้ในลักษณะที่ต้องโพสตอบโดยใช้คำว่าขอบคุณ เช่นกระทู้โพล, กระทู้ถามความเห็น, หรืออื่นๆที่ทีมงานอ่านแล้วเข้าข่ายว่า โพสขอบคุณไร้สาระ ทีมงานขอดำเนินการตัดคะแนน และ/หรือให้ใบเตือนสมาชิกที่โพสขอบคุณทันทีที่เจอนะคะ

รูปแบบข้อความล้วน|โทรศัพท์มือถือ|ติดต่อลงโฆษณา|จีโฟกายดอทคอม

ข้อความที่ท่านได้อ่านในเว็บจีโฟกายดอทคอมนี้ เกิดจากการเขียนโดยสาธารณชน และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ หากท่านพบเห็นข้อความใดๆ ที่ขัดต่อกฎหมาย และศิลธรรม ไม่เหมาะสมที่จะเผยแพร่ ท่านสามารถแจ้งลบข้อความได้ที่ Link “แจ้งลบโพสนี้” ที่มีอยู่ใต้ข้อความทุกข้อความ หรือ ลืมพาสเวิดล๊อกอิน/ลืมชื่อที่ใช้สมัคร หรือข้อสงสัยใดๆแจ้งมาที่ G4GuysTeam[at]yahoo.com ขอขอบพระคุณที่ให้ความร่วมมือ

กรณีที่ข้อความ/รูปภาพในกระทู้นี้จัดสร้างโดยผู้ลงข้อมูลเอง ลิขสิทธิ์จะเป็นของผู้ลงข้อมูลโดยตรง หากจะทำการคัดลอก/เผยแพร่ ต้องได้รับอนุญาตจากผู้ลงข้อมูลก่อนนะคะ หรือลงที่มาไว้ด้วยค่ะ

©ขอสงวนสิทธิ์คอนเซ็ปต์,คำอธิบาย,หัวข้อ/หมวดหมู่เว็บ ห้ามลอกเลียนแบบ คิดเอาเองนะคะอย่าเอาแต่ลอก

GMT+7, 2024-11-24 19:37 , Processed in 0.104198 second(s), 27 queries .

Powered by Discuz! X3.5, Rev.8

© 2001-2024 Discuz! Team.

ตอบกระทู้ ขึ้นไปด้านบน ไปที่หน้ารายการกระทู้