บ้านหลังสุดท้ายของช่างไม้ มีช่างไม้คนหนึ่งอายุเริ่มมากขึ้น หวังว่าจะได้ใช้บั้นปลายของชีวิตในบรรยากาศที่งดงาม จึงได้ไปขอเกษียณตัวเองกับนายจ้าง นายจ้างไม่อยากเสียนายช่างฝีมือดีไป หวังจะให้เขาทำงานต่อ แต่ช่างไม้ก็ยังยืนกรานขอเกษียณตัวเองตามเดิม นายจ้างจึงพูดว่า "เอาอย่างนี้ ผมมีที่ดินว่างอยู่ติดทะเลสาบอยู่แปลงหนึ่ง ทิวทัศน์งดงามเป็นอย่างมาก แต่ขาดบ้านพักตากอากาศ ผมอยากให้คณสร้างบ้านหลังสุดท้าย โดยที่คุณต้องใช้วัสดุไม้ที่ดีที่สุด และใช้ฝีมือที่ปราณีตที่สุดในการสร้าง" ช่างไม้ก็ฝืนใจตอบตกลง จากนั้นช่างไม้ก็ลงมือสร้างบ้านไม้หลังสุดท้ายของตนเอง แตในใจกลับคิดว่า เดี๋ยวเราก็เกษียณแล้ว ถ้าทำออกมาไม่ดีนายจ้างไล่ออกก็ไม่มีอะไรเสียหายอยู่แล้ว แล้วทำไมต้องตั้งใจด้วยล่ะ ดังนั้นช่างไม้ก็ไม่ได้คัดเลือกไม้ที่แข็งแรงมาสร้างบ้าน แต่เลือกไม้ส่งๆ เป็นไม้คุณภาพต่ำจากภูเขา เขาไม่ใส่ใจว่าบ้านจะแข็งแรงหรือไม่ เพียงสักแต่ว่าสร้างให้เสร็จๆไป จนในที่สุดเขาก็ทาสีเพื่อให้ภายนอกดูสวยงามและปกปิด เขาคิดในใจว่า ขอให้ข้างนอกดูดีไว้ก่อน พอส่งงานได้ก็พอ โครงสร้างภายในจะเป็นอย่างไรก็ช่าง เจ้านายดูไม่ออกหรอก วันที่งานเสร็จ นายจ้างก็มาตรวจงาน ผลปรากฏว่าเเป็นที่พอใจอย่างมาก นายจ้างไม่ออกว่าขาดตกบกพร่องอะไรก่อนที่นายจ้างจะไปเขาตีไหล่ช่างไม้เบาๆ ควักกุณแจออกมาพวงหนึ่ง ยื่นส่งให้ช่างไม้แล้วพุโซ๋ษ " ตอนนี้บ้านหลังนี้เป็นของคุณแล้ว ผมขอบคุณมากที่คุณอยู่ทำงานกับผมมานานหลายปี นี่ถือเป็ของขวัญเกษียณที่ผมตั้งใจจะมอบให้คุณ"
อ่านจบแล้วนิทานเรื่องนี้ให้ข้อคิดอะไรแก่คุณบ้างครับ
ความเสมอต้นเสมอปลายนับว่าเป็นคุณธรรมอย่างหนึ่ง ผมหยิบยกมาจากหนังสือโปรดเล่มหนึ่งที่เพื่อนเคยสนิทซื้อให้ในวันเกิด อ่านจบแล้วเป็นกำลังใจให้ด้วยนะครับ
|