ลืมรหัสผ่าน
 สมัครเข้าเรียน
ค้นหา
ดู: 860|ตอบกลับ: 19

เพราะรัก..จึงเปลี่ยนได้ ? 48 - ตอนพิเศษ ?

 มาแรง [คัดลอกลิงก์]

โสด

   ศาสตราจารย์เอื้ออาทร
อาจารย์พิเศษ
ถ้าหากว่าซ้ำต้องขออภัยนะครับและขอโทษเจ้าของเรื่องด้วยนะครับเพราะว่าคัดลอกมาอีกที
ความเดิมตอนที่แล้ว

                       “ก็ดีเหมือนกัน  พวกเราทั้งหมดออกไปคุยกับแม่ของวีข้างนอกรอหมอไปพลางๆก่อนก็ดี

ปล่อยให้เด็กๆเค้าดูแลกันไปก่อนเจ้ากลมันเพิ่งฟื้น..ให้มันได้พักผ่อนดีแล้ว ตกลงตามนี้แหละ...คุณแม่ลูกวีนำทางไปเลยค่ะ”  พูดจบแม่ผมก็เข้ามาพยุงยายพาเดินนำออกไปก่อน แม่กลเข้าไปลูบหัวมันบนเตียงช้าๆก่อนจะเดินตามออกไป น้าก้อง น้องกลอยก็ทยอยตามออกไป พ่อกลหันมามองผมกับกลมันนิ่งๆไม่พูดไม่จา แล้วก็หันหลังออกไปจากห้องเป็นคนสุดท้าย..?
Part  48
คำรักที่รอคอย...

                     หลังจากที่ทุกคนพากันทยอยออกไปหมดแล้ว เหลือผมสองคนอยู่ตามลำพัง ผมตัดสินใจ
นั่งบนเตียง   เอียงหน้าสบตากลสิทธิ์นิ่งๆ น้ำตาที่คลอหน่วยเราทั้งคู่ แม้จะมีวาวน้ำบังตาอยู่ ผมกับมองเห็น
กลสิทธิ์ได้ชัดเจน มันเองสบตาผมตอบ ก่อนจะยื่นมือมาคว้ามือผมไปกุมไว้ทั้งสองข้าง  
                         ผมมีเรื่องมากมายอยากจะบอกให้มันรู้ ทั้งเรื่องที่แม่และพี่น้องผมรู้เรื่องของเราแล้ว และเรื่อง
ที่ผมรักมัน เข้าแล้วเต็มเปา ทีแรกคิดว่าจะรอให้มันออกจากโรงบาลเสียก่อน แล้วค่อยเล่าให้มันฟังในบรรยากาศดีดี
                         แต่ตอนนี้..ผมนึกหวงแหนเวลาที่สูญเสียไปแต่ละวินาที เพราะรู้แล้วว่า...อะไรก็ตามถ้าตั้งใจ
ทำแล้วไม่ควรรออีกต่อไป ไม่ต้องคิดเยอะ สิ่งที่เราต้องการแสดงออก..กับคนที่เรารัก ไม่ต้องสนเรื่องสถานที่บรรยากาศหรือสร้างเงื่อนไขให้ตัวเองอีกต่อไป   
                        ตราบใดที่ยังมีเค้าคนนั้นอยู่ตรงหน้า พร้อมจะรับฟังเราอยู่แล้ว ไม่ว่าสถานที่นั้นมันจะคือที่ไหน
ต่อให้เป็นป่าช้าหรือในสุสาน เป็นโลเกชั่นที่เลวร้ายสุดโต่ง ไม่เข้าบรรยากาศโรแมนติกกับการบอกรักเป็น
อย่างมากอย่าได้สนใจอีกเลย ดูอย่างหนังไททานิคสิ สุดท้ายความรักของแจ็คกับโรส ต้องพรากจากกันชั่วนิรันดร์ ท่ามกลางทะเลน้ำแข็งมันเศร้าโศรกเสียใจแค่ไหน แล้วผมหละ..จะต้องรอทำไม ทำให้ซึ้งถึงสัจจธรรม
ข้อหนึ่ง ‘เวลาไม่เคยคอยใคร’   
                         ยอมรับว่า..ที่ผ่านมาเวลาเราจะพูดคุยกันในเรื่องหัวใจ ผมกับกลมักอยู่ในสถานที่ไม่น่าสวีทเสียทุกครั้งในรถเสียเป็นส่วนใหญ่ และทุกครั้งเต็มไปด้วยรอยน้ำตา ทั้งสุข ทุกข์ เศร้าเคล้ากันมาตลอด แต่อย่าลืมคราบน้ำตาที่ได้คือความจริงใจที่มิได้เสแสร้ง คงดีกว่ารอยยิ้มและเสียงหัวเราะอย่างมีความสุข หากมันเป็นเพียงแค่การหลอกลวง
                      เหมือนตอนนี้ที่ผมกำลังจะบอกรักมัน..บนเตียงคนไข้ในโรงบาล...ทั้งที่ก่อนหน้าคิดไว้ว่าจะพูดในสวน  หรือสถานที่ดีดีที่มีคุณค่าให้น่าจดจำ ไม่เอาแล้วครับผมรอไม่ได้อีกแล้ว หากพ่อเกิดเอาตัวมันกลับ
แล้วไม่มีใครคัดค้านแกได้ผมยังจะมีโอกาสได้พูดอีกหรือ   
                         จำเป็นต้องยึดติดสถานที่อีกหรือไม่ ในเมื่อเนื้อแท้แล้วผมแค่ต้องการให้มันรู้ว่า ‘ผมรักมัน’  
ต้องรีบพูดเดี๋ยวนี้ตอนนี้ รอไม่ได้แล้วกวี นี่คือเสียงหัวใจของผม ที่เตือนให้รู้ว่าผมควรพูดเสียที ก่อนที่จะไม่มีโอกาสอีกเลย
                          “กล...กูมีเรื่องสารภาพกับมึง”  มันมองหน้าผมนิ่งๆ หัวคิ้วเริ่มจรดเข้าหากันแล้ว เพราะน้ำเสียง
จริงจังของผม คงทำให้คิดว่าผมจะพูดเรื่องซีเรียสแน่ๆ แต่มันก็ไม่ได้ถาม เพียงยักหน้าให้พร้อมรอฟังทันที
ผมรีบบอกมันไปแบบไม่ต้องมีพิธีรีตองกันแล้ว เอาเนื้อๆเน้นๆ...ตามเสียงของหัวใจล้วนๆ ไม่ต้องหวาน ไม่ต้องเลิศหรู..ง่ายๆ ชัดๆเข้าใจตรงๆ
                       “กูรักมึง!...กูอยากบอกว่ากูรักมึง..รักมากเลยว่ะกล”  พูดจบ..มันอึ้งเบิกตาคมกว้าง มือที่กุมมือ
ผมขณะนั้น เผลอบีบอย่างแรงจนรู้สึกได้ ริมฝีปากล่างสั่นระริก ก่อนจะพูดกับผมมาว่า
                           “กูฟังไม่ผิดใช่ไหมวี?...มึงรักกู..รักกูแล้วใช่ไหม?”   ผมเห็นท่าทางตื่นเต้นออกอาการทั้งสีหน้า
และแววตาของมันนั้น พาลน้ำตาไหลลงอาบสองแก้ม ทั้งที่เพิ่งแห้งไปอยู่หยกๆ  
                           ความรู้สึกตอนนี้บอกตรงๆ โกรธตัวเองมาก ผมงี่เง่าอยู่ได้ตั้งนาน ปล่อยเวลาผ่านไปอย่างเปล่าประโยชน์มัวแต่สับสนตัวเองอยู่ได้ ทำไมถึงได้ให้มันรอฟังคำรักของผมมานานขนาดนั้น  มันพูดต่อ
                          “กูรอฟังคำนี้มาสองปีกว่า สุดท้ายกูก็ได้ยินจากปากมึงจนได้ แม้มันจะนานมากสำหรับคนอื่น
แต่กูอยากบอกว่า..ขอบคุณ...ขอบคุณมากวี...ที่มึงตอบรับความรู้สึกกู....คุ้มค่ามากที่ได้รอ...ต่อให้รออีกนานแค่ไหนสุดท้ายได้หัวใจมึงมา กูยินดีรอเสมอ..
                              รู้ไหมวี?...สิ่งที่กูกลัวมาตลอด...ไม่ใช่คนรอบข้างหรือสังคม ที่คอยจ้องดูถูกเหยียดหยามตัวกู
เพราะดันมีเมียเป็นผู้ชาย แต่กูกลัวและไม่เคยหยุดกลัวได้เลย  คือกลัวมึงไปแต่งงานมีครอบครัวตะหาก..
เพราะมึงเป็นผู้ชาย กูกลัวมึงไม่รัก...หากวันหนึ่งมึงไปจากกู...เพื่อไปใช้ชีวิตกับคนที่มึงรัก...กูกังวลและคิดมาตลอด ถึงไม่เคยปล่อยมึงให้คลาดสายตา กูไม่เคยทิ้งมึงให้อยู่คนเดียว     
                          ไม่เคยปล่อยมึงไปกับเพื่อนในมหา’ลัย ถ้าไม่มีกูไปด้วย กูไม่เคยไว้ใจใครทั้งนั้นที่เข้าใกล้มึง
เพียงเพราะกูเห็นแกตัว...กูกลัววี...กูยอมรับตรงๆเลยว่า...ตราบใดที่ยังไม่รู้ว่ามึงรักกูหรือไม่   
                          มันทำให้กูคิดเสมอว่าสักวัน..มึงอาจจะมีผู้หญิงดีดีเข้ามาในชีวิต เพราะมึงหน้าตาดีนิสัยดี..อัธยาศัยน่าคบ ใครเห็นใครก็ชอบ มึงเป็นคนมีน้ำใจ..เสน่ห์ของมึงตรงนี้แหละ...ที่ทำให้กูทั้งรักทั้งหวง สองปีที่อยู่ด้วยกันมา  กูถึงเฝ้าตามติดมึงตลอด กูรู้ว่ากูทำไม่ถูก..ที่ปิดกั้นจนมึงแทบไม่มีเพื่อนสนิทเลย กลับเป็นเพื่อนกูกลายเป็นเพื่อนมึงซะงั้นมึงใช้ชีวิตตามตารางตลอด..เรียน...ซ้อมบอล...กลับหอ..เป็นแบบนี้มาสองปีกว่า..  
                         กูรักมึงมาก...จนไม่รู้จะพูดยังไงให้มึงเข้าใจ ว่ารักมึงมากแค่ไหน รักของกูมันคืออะไร ทั้งรัก
ทั้งหวง ทั้งเห็นแก่ตัว...แต่วันนี้ พอมึงออกปากบอกรักกู...รู้ไหม?..หัวใจกูทั้งดวงถูกปลดแอก....ซึ่งกูแบกไว้ตลอดสองปีมาแล้ว รู้สึกโล่งสบาย...จนมันพองคับอกกูแล้ว...คำว่ารักของมึง..ช่วยปลดแอกในใจกูออกทันที
                         กูบอกเลยนะวี..มึงกำจัดความกลัวให้กูแล้ว ยังช่วยไถ่โทษความผิดในใจกูด้วย กับสิ่งที่เคยทำกับมึงไว้ กูทำกับมึงปางตาย ทำลายศักดิ์ศรีของมึง ยัดเยียดเป็นผัวมึง มัดมือชกบีบคั้นมึงทุกอย่าง
                       คำว่ารักของมึงวันนี้ มีค่ากว่าคำว่าได้ให้อภัยกูเสียอีก มึงปลดปล่อยความผิดที่กินใจกูมาตลอด
ออกให้แล้ว  เพียงคำพูดสามคำที่มึงบอกกู ‘มึงรักกู’  กูรอฟังคำนี้มาตลอดสองปีกว่า..สุดท้ายกูก็ได้ยินมัน...   
                       เคยกลัวว่าสักวันมึงจะไปจากกู เมื่อเจอคนที่มึงรัก กูกลัววันนั้นที่สุด...หลอนกูมาตลอด...
กลัวจริงๆ...ดงตีนดงมือ..มีดปืนระเบิดกูลุยมาหมด ยังไม่รู้สึกกลัวเท่ากับเสียมึงเลย....ขอบคุณอีกครั้ง...ที่รักกู...
ทั้งที่กูไม่คู่ควรกับมึงสักนิด...แต่มึงยังยอมมอบใจให้กู..รักมึงว่ะวี...รักมาก.”
                        ผมปล่อยโฮ...แบบไม่เกรงใครได้ยินแล้ว ไม่อายเลยด้วยซ้ำ..ถ้าหากจะเข้ามาเห็นผมสภาพนี้
โผล่เข้าซบไหล่กลสิทธิ์กอดมันไว้แน่น คำพูดทุกคำที่มันถ่ายทอดมานั้น เล่นเอาผมจุกเสียดแน่นหน้าอกไปหมด
                          กวี...มึงโชคดีมากแค่ไหน..ที่มีคนที่รักมึงมากถึงเพียงนี้..รอมึงรักตอบมาตลอด..โดยไม่เคย
เร่งเร้าเซ้าซี้เอาคำตอบเลย ผมรู้ที่มันไม่บังคับให้ผมรักมัน เพราะคำว่าไม่คู่ควรของมันเพียงคำเดียว มันเคยทำกับผมไว้มากมันจึงรอผมอย่างคาดหวัง ไม่กล้าที่จะเร่งรัดให้ผมรักมัน จะมีใครบ้ารอเอาความรักจากผมได้อย่าง
มันอีก คงหาไม่ได้อีกแล้วหละชาตินี้  
                       ผมปล่อยมันรอมาตั้งนานได้อย่างไรกัน พระเจ้า!..นี่ผมทำร้ายมันมานานถึงเพียงนี้ จนเกือบจะเสียมันไปถึงได้รู้ใจตัวเอง ใครที่เคยมองว่าผมเป็นคนฉลาด เป็นคนมองโลกในแง่ดี...จงดูเอาเถิด..
                        คนฉลาดมองโลกในแง่ดี...เกือบสูญเสียโอกาสที่ได้มอบความรักให้กับผู้ชายซึ่งรักผมมาก
ดูตอนนี้สิ..ใช่ผมจะน้ำตาไหลร้องคนเดียวซะเมื่อไหร่ กลสิทธิ์มันก็น้ำตาไหลอาบแก้ม ยังอุตส่าห์มีน้ำใจ
เอามือมาเกลี่ยน้ำตาให้ผมอีก มันช่างอบอุ่นนุ่มนวลกับผมจริงๆ ทั้งที่บุคลิกของมันออกจะขัดกันยิ่งนัก นิสัยออกจะห้าวมุทะลุโผงผาง..ดุเดือดเลือดพล่าน แต่สำหรับผมแล้ว..กลสิทธิ์อ่อนโยนเสมอ....
                        ไม่ต้องสนสถานที่ ไม่แคร์แล้วว่ามันคือห้องคนป่วยในโรงบาล เวลาเกือบชั่วโมงที่หมอเวรยังไม่มาตรวจ   เวลาที่ผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่ายกำลังคุยกันอยู่ที่ไหนสักแห่ง มีเพียงผมกับมันเท่านั้น ปลดปล่อยเถิดหัวใจรักทั้งสองดวงให้ถักทอสายใยรักอย่างแน่นหน้า อย่ายึดติดจารีตประเพณีวัฒนธรรมธรรมเนียมใดๆเลย เมื่อรัก
ก็คือรัก ไม่จำเป็นต้องแบ่งแยกเพศหรือเผ่าพันธุ์อีกต่อไป ปล่อยสถานภาพพันธะทั้งหลายทั้งปวงให้เป็นกฎของสังคมมันเถอะแต่กฎของหัวใจขอมีแค่เราสองคนก็พอ
                       ตอนนี้..ผมกอดมันไว้แน่นบนเตียงนั่นแหละ ร้องไห้สะอึกสะอื้น...ไม่คิดว่าผมจะทรมานมันนานขนานนั้นให้มันอยู่อย่างหวาดระแวงรอความรักของผมมาตลอดสองปีกว่า ไม่เคยคิดหาเหตุผล..ว่าทำไมมันถึงดันทุรังมารอผมเลิกซ้อมทุกเย็น  ไม่สนใจหาคำตอบ..ว่าทำไมมันชอบตามผมยังกะปาท่องโก๋ ไม่เข้าใจว่าทำไมมันไม่ยอมปล่อยผมไปสังสรรค์กับเพื่อนนักกีฬาหรือเพื่อนในคณะถ้าหากไม่ให้มันไปด้วย   
                         ไม่เคยเข้าใจอะไรสักอย่าง...ว่าทำไมผมถึงไม่มีเพื่อนสนิทเหมือนสมัยเรียนพาณิชย์
เพิ่งรู้วันนี้เองว่าเพราะอะไร ผมทำร้ายมันมากจริงๆ ผูกมัดมันไว้ให้เอาตัวมาผูกติดกับผม มันเองคงขาดอิสระ
และการใช้ชีวิตส่วนตัวไปเช่นกัน แทนที่จะมีโอกาสทำกิจกรรมกับเพื่อนๆ หลังเลิกเรียนเหมือนนักศึกษาทั่วไป
                          แต่มันกลับมาเตะบอลอยู่กับนักศึกษาฯในมหา’ลัยผม เพื่อรอผมเลิกซ้อม
ต้องคอยมานั่งรอผมในยิมเวลาซ้อมดึก จนบางครั้งโดนแซวว่ามันเป็นรูมเมทหรือเป็นพ่อผมกันแน่ที่คอยตาม
มาคุม แต่มันก็ยิ้มรับไม่ปฏิเสธหรือโมโหสักนิด   มันทนทำสิ่งเหล่านี้มาสองปีกว่า ทั้งที่ไม่ใช่ตัวตนมันเลย ไม่ใช่สิ่งที่กลสิทธิ์ในอดีตจะสามารถทำได้แต่มันกับทำได้อย่างเสมอต้นเสมอปลาย ไม่เอาเวลาไปหลีหญิง
หม้อสาวเหมือนแต่ก่อน...หากไม่ติดธุระจำเป็นจริงๆ มันไม่เคยที่จะไม่รอผมกลับหอด้วยกันทุกวัน กลกูผิดต่อมึงจริงๆ ที่ให้มึงรอ....มึงขอบคุณกู ที่บอกรักมึงสิ่งที่กูควรบอกมึงเช่นกัน
                             “อึก..อึก!..กูขอโทษ..ขอโทษที่ให้มึงรอมาตลอด..ขอโทษที่ทำให้มึงกลัว...กูไม่ชัดเจนพอ..
ทำให้มึงไม่มั่นใจ...ขอโทษจริงๆ กล..แม้วันนี้กูจะบอกมึงช้าไป...แต่ขอให้มึงรู้ไว้..คำว่ารักของกู...จะมีให้มึงคนเดียวตลอดไปไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น....ขอให้จำไว้เลยว่า...กูรักใครไม่ได้แล้ว..นอกจากมึง...ฮือๆ!.”
                             ใช่ครับ..ผมไม่ได้พูดเพราะอารมณ์ชั่ววูบ...แต่เพราะผมรู้ว่า..นับจากนี้ผมคงไม่สามารถรักใครแล้วจริงๆ  หากเราทั้งคู่ถูกกีดกันจากผู้ใหญ่..ไม่ให้คบกันต่อไป..เชื่อเถอะครับ..หัวใจดวงนี้ของ
กวี..สิงห์สุริยะ คงปิดตายไปชั่วนิรันดร์เพราะถ้าไม่ใช่ กลสิทธิ์  จิรัติกาล แล้วหละก็...ไม่มีใครสามารถเปิดหัวใจผมได้แน่นอน....?
                ถึงผู้อ่านที่รักทุกท่าน นี่คือส่วนหนึ่งที่มาของเรื่อง ‘เพราะรัก...จึงเปลี่ยนได้’  
กลเค้ายอมเปลี่ยนตัวตนเพื่อวีมากมาย แม้จะยังไม่ถึงคราวที่วีต้องเปลี่ยนแปลงตัวเองเพื่อพิสูจน์รักของเราก็ตาม
สำหรับกลเค้ายอมเปลี่ยนนิสัย เปลี่ยนพฤติกรรม เปลี่ยนหลายสิ่งหลายอย่างที่เกิดจากภายในเพื่อวี ถ้าเพราะกลไม่ได้รักวีมากแล้ว  เชื่อเถอะว่าไม่สามารถทำได้แน่นอน
              ในขณะที่วีเอง เปลี่ยนไหม?  ยอมรับว่าเปลี่ยนเหมือนกัน จนถึงตอนที่เปลี่ยนครั้งยิ่งใหญ่ในชีวิต  
คือเปลี่ยนจากชายกลายเป็นหญิง แต่เพราะรัก...จึงเปลี่ยนได้ รักคำเดียวจริงๆ ที่ทำให้คุณสามารถเปลี่ยนตัวตนคุณได้เพื่อคนที่คุณรัก และคุณจะรู้ว่าความสุขที่ได้ไม่ใช่เกิดจากการเปลี่ยน แต่คือความสุขที่เราทำให้คนที่เรารักมีความสุขและเราก็มีความสุขมากเช่นกันเมื่อเค้าคนนั้นก็รักเรามากด้วย
                                  วีอยากให้น้องๆ เพื่อนๆ พี่ๆ ที่กำลังประสพปัญหาเรื่องความรัก ชีวิตคู่อยู่ในขณะนี้
ที่มีโอกาสเข้ามาอ่านเรื่องของวี + กล ลองมองปัญหาของเราสองคนเป็นตัวอย่าง วีเชื่อว่าแม้มันจะแตกต่าง
ในเรื่องรายละเอียด..แต่หากทุกคนรักกันจริง เสียสละและทุ่มเทให้ด้วยความมุ่งมั่นเพราะรักแท้แล้ว อุปสรรคปัญหาทั้งหลายย่อมมีหนทางคลี่คลาย
จนได้ในที่สุด แต่อย่างน้อยพื้นฐานความรักที่ว่า..ต้องรักแท้รักจริง ไม่ใช่เพราะเกิดจากลุ่มหลง นึกสนุก ต้องการเอาชนะหรือใช้ทิฐิเป็นที่ตั้ง แสวงหาเพียงผลประโยชน์กันนะค่ะ เพราะผลที่ได้จากการกระทำ...มันจะไม่ใช่สิ่งที่น่าภาคภูมิใจทำให้จิตใจอิ่มสุขแน่นอนค่ะ ฝากแง่คิดตอนนี้ไว้ด้วยเช่นกัน
                             ‘รักคือรัก ไม่ต้องสวยหรู..ไม่ต้องมีราคา..ไม่ต้องรอเวลา..และอย่าปล่อยโอกาสดีดีที่จะแสดงความรักของคุณให้ผ่านไป เพราะเวลาไม่เคยคอยใคร สุดท้ายจะมานั่งถอนหายใจ และนึกเสียดายที่วันนั้น
ไม่ได้แสดงความรักอย่างที่ใจต้องการ ไม่ว่าจะเป็นความรักต่อพ่อแม่ ครูบาอาจารย์ บุคคลที่เราเคารพ เพื่อนสนิทญาติพี่น้อง และความรักสำหรับครึ่งชีวิตของเราเอง อย่ารอกันเลยนะค่ะ รู้สึกรักเสียแต่วันนี้
                                                         ก่อนที่คุณจะไม่มีโอกาสได้รักเลย’
Part  พิเศษ 3
กระทงสองเรา...

                     “กล..ลุกได้แล้ว...ตกลงจะพาวีไปหรือเปล่า?..เอาไง..ไม่งั้นวีไปเองนะ”  ไม่ต้องแปลกใจหรอกครับ
ตอนนี้สรรพนามแทนชื่อไม่มีมึงกูอีกแล้ว  เหตุผลเพราะเรียนจบเป็นบัญฑิตมีงานทำเรียบร้อย ตอนนี้เราทั้งคู่
รอรับพระราชทานปริญญาต้นปีหน้า   
                          ผมได้งานประจำฝ่ายทรัพยากรบุคคลบริษัทฯใหญ่แห่งหนึ่ง เค้าเรียกสัมภาษณ์และรับผมเข้าทำงานในตำแหน่งอบรมเทรนนิ่ง เงินเดือนที่ได้รับไม่มากไม่น้อยเกินไป เรียกว่าผมพอใจทีเดียว จบมาไม่ถึงสองเดือนก็ได้งานทำไม่ต้องตกงานเตะฝุ่นจนร้องเท้าสึกกว่าจะได้งาน ที่สำคัญบริษัทฯนี้มีความมั่นคงสูง..ระบบบริหารดี และเค้าไม่ปิดกั้นประเภทที่สาม  เพราะวันสัมภาษณ์ผมบอกไปว่าผมมีแฟนเป็นผู้ชาย ไม่บอกไม่ได้หน้าตาผิวพรรณผมกำลังเปลี่ยนแปลง   
                              เค้าก็ให้โอกาสผมช่วยงานในแผนกอบรมพนักงาน เรียกว่าแผนกเทรนนิ่ง ทำมาร่วมแปดเดือนแล้วพี่ๆเพื่อนๆที่ร่วมงานน่ารักทุกคน ไม่มีใครแสดงท่าทีรังเกียจผมเลย คงเพราะผมไม่ได้เป็นคนมีกริยาวี๊ดว๊ายกรี๊ดกร๊าดด้วยละมั้ง  ปกติธรรมดาเหมือนเดิมนั่นแหละ
                                ส่วนกลทำงานบริษัทฯ นำเข้าอุปกรณ์การแพทย์  พวกหลอดแก้วหลอดทดลองรวมทั้งอุปกรณ์วิจัยในห้องแล๊ป ฯลฯ ประมาณนี้ ตำแหน่งฝ่ายเทคนิคติดตั้งและบริการหลังการขาย เนื่องจากกลเรียนไฟฟ้ามาก่อน แถมจบป.ตรี  ด้านบริหารการจัดการมาด้วย โดยรวมได้เปรียบคนอื่นเยอะ เพราะทั้งทฤษฏีและปฏิบัติกลสิทธิ์ทำได้หมด เงินเดือนมากกว่าผมอีกแหนะเดิมทีดูจะไม่เอาถ่าน ที่ไหนได้พอจบมากลสิทธิ์ไปไวกว่าผมซะงั้น
                               ดังนั้น..ผมกับกลจึงตกลงเรียกกันให้สุภาพ และเหมาะสมกับวัยวุฒิคุณวุฒิของเราในปัจจุบัน
ยิ่งตอนนี้ผมอยู่ระหว่างเตรียมร่างกาย  เตรียมความพร้อมก่อนการผ่าตัดแปลงเพศอีกปีกว่าๆด้วยแล้ว  
                                ทำตามสัญญาที่รับปากกับครอบครัวกลสิทธิ์ไว้...ในวันที่พวกท่านยอมให้ผมคบหากัน
ต่อได้แต่มีข้อแม้ว่าเมื่อผมเรียนจบ ต้องพร้อมที่จะเปลี่ยนแปลงตนเองให้เป็นผู้หญิงทั้งรูปร่างหน้าตาและร่างกาย เพราะถึงยังไงแล้วพ่อของกลแกทำใจไม่ได้ ที่จะเห็นลูกชายมีเมียเป็นผู้ชาย หากคิดจะอยู่กินด้วยกันจริงๆ
ต้องทำตามข้อตกลงที่ว่าโดยแกจะออกค่าใช้จ่ายให้ทั้งหมด และหลังจากทุกอย่างสมบูรณ์ลงตัวหมดแล้ว แกจะให้แต่งงานกันให้เรียบร้อยถ้าผมยอมรับเงื่อนไข ท่านก็ไม่ขัดขวางอีกต่อไป   
                              ข้อตกลงนี้ท่านให้เวลาคิดและเตรียมใจ..โดยยอมให้คบกันต่อได้ระหว่างที่ยังเรียนอยู่อีกสองปีที่เหลือแต่ต้องให้คำตอบท่านหลังจากเรียนจบทันที หากทำใจหรือยอมรับไม่ได้ ก็ต้องยอมเลิกแยกทางกันไป เพราะท่านถือว่าได้ยอมอ่อนให้พวกผมมามากแล้ว  นี่แหละคือที่มาที่ไปที่ทำให้ผมกลายเป็นหญิงเต็มตัว
                             อีกหกเดือนที่จะถึงนี้..ผมต้องเข้ารับการผ่าตัดเสริมหน้าอกก่อน ช่วงนี้หมอให้กิดยาฮอร์โมนเพศหญิงเพื่อปรับสภาพร่างกาย กินมาร่วมเก้าเดือนแล้ว เล่นเอานมขึ้นเต้าเท่ากระเปาะมือ เหมือนหน้าอกเด็กสาวอายุประมาณ 13-14 ปี  หัวนมขยายขึ้นเป็นไต เห่อ..เห่อ..เห่อ!...แรกๆแปลกๆพิลึก แต่เมื่อตัดสินใจแล้วก็ต้องลุยเดินหน้าอย่างเดียว เพื่อชีวิตรักของเราสองคน กลสิทธิ์มีความสุขมากสนุกทั้งปากทั้งมือ ไปคิดกัน
เอาเองนะ..?
                             ทั้งหมดที่เล่าให้ฟัง อยู่ภายใต้การดูแลของหมอโรงบาลดัง ซึ่งอาลพเป็นคนจัดการติดต่อให้ทุกอย่างหลังจากเข้าพูดคุยกับจิตแพทย์ตอบข้อซักถามขั้นต้นแล้ว ผมต้องเริ่มใช้ชีวิตเพื่อเตรียมความพร้อมอย่างน้อยสองปี  หากไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงหรือนึกเปลี่ยนใจขึ้นมา ยังแน่วแน่ยืนยันที่จะเป็นหญิงจริงๆ พร้อมกับที่ร่างกายปรับสภาพสมบูรณ์แล้วจึงจะเข้ารับการผ่าตัดใหญ่อีกครั้ง   สำหรับเรื่องนี้ไว้ไปอ่านในตอนปกติดีกว่านะครับ
                           “ตกลงเอาจริงหรือวี...แน่ใจนะว่าจะทำ”  มันย้ำผมอีกครั้ง
                           “เอ้า!...จริงดิ...เพื่อนเล่นเหรอครับคุณกล...ดูหน้าวีไว้นะ...พูดจริงทำจริงทุกเรื่อง” ผมชี้นิ้วเข้าหาตัวยืนยันไปด้วย ปั้นหน้าขึงขังให้อีก ทำเอายอดชายกลั้นยิ้มขำกับท่าทางเอาจริงของผม
เรื่องของเรื่องคือผมคิดไว้ว่าจะทำกระทงลอยเอง  ทุกปีที่ผ่านมาเรามักไปหาซื้อเอาในงานนั่นแหละแต่ปีนี้บังเอิญไปเจอแบบในหนังสือ เค้าใช้ใบกวนอิมหยกมาขดเป็นกรวยเล็กๆ ติดเข้ากับต้นกล้วยที่ตัดเป็นท่อนกลมๆ
                           ลายทางของใบกวนอิมหยกเวลาขดเป็นกรวย..แล้วนำไปติดซ้อนสลับฟันปลาไปเรื่อยๆ ซักสองสามแถวแลดูสวยงามแตกต่างจากกลีบกระทงทั่วไปที่เคยเห็น นอกจากนี้ในหนังสือยังบอกว่าใบกวนอิมหยกเป็นไม้มงคล หากนำมาทำกลีบกระทงช่วยให้เกิดมงคลแก่ชีวิต  
                            อีกอย่างกรวยกระทงที่ว่า..พอเรานำไปเรียงสลับฟันปลาไปเรื่อยๆ ได้สักสามสี่แถวแล้ว..มันเหมือนก้นหอยขม..เพราะมันจะกระดกส่วนกรวยแหลมๆ ชี้เรียงซ้อนกันไปเป็นชั้นๆ  คล้ายกับเกศาพระพุทธรูปในโบสถ์  แต่ละคำพูดที่เค้าบรรยายล้วนอุปมาอุปไมเกี่ยวกับมงคลดีดีทั้งน้านๆ...   
                             กอปรกับวันนี้ตรงวันอาทิตย์ด้วย ผมจึงตั้งใจมาก..ว่าจะไปหาซื้อใบกวนอิมหยกแถวปากคลองตลาดมาทำกระทงที่ว่า...คิดจะดัดแปลงจากแบบเค้านิดหน่อย ในแบบเค้าทำแค่ชั้นเดียว  แต่กวีโลภมากอยากได้บุญเยอะ  เลยกะทำอันเล็กๆ อีกอันวางซ้อนตรงกลางของอันใหญ่อีกที  แค่นี้ก็ได้กระทงสองชั้นแล้ว แถมสวยงามอีกตะหาก
                           เย็นนี้มีงานลอยกระทงตามวัดต่างๆ เพราะเป็นวันลอยกระทงประจำปี โดยเฉพาะวัดที่อยู่ติดแม่น้ำมีมหรสพการละเล่นเพียบ นี่หละคือที่มา ที่ผมปลุกยอดชายกลสิทธิ์..พาผมไปปากคลองตลาดเพื่อหาซื้อวัตถุดิบมาทำกระทง
                          กลสิทธิ์หลับยาวจะสิบโมงอยู่แล้ว ต้องรีบไปซื้อเดี๋ยวของเค้าขายหมด..จะไม่มีเอาให้
พอผมยืนยันขนาดนั้น..ยอดชายถึงยอมยุรยาทรพาผมออกจากนิวาสถาน..มายังปากคลองตลอดตามความต้องการของผมคนเดียว  ฮะ..ฮ่าๆ!
                           ตอนนี้เรามาเดินปุเลงปุเลงท่ามกลางฝูงชนยังกะหนอน ที่เบียดเสียดยัดเยียดมาซื้อดอกไม้
ใบตองเต็มพรืดไปหมด ก็นะเทศกาลลอยกระทง ปากคลองตลาดถือเป็นแหล่งที่คึกคักที่สุด..สำหรับพวกที่มาหาซื้อดอกไม้ไปทำกระทง ราคาไม่ต้องพูดถึง อัพแพงขึ้นกว่าปกติสองสามเท่าตัว   
                           ระหว่างเดินเบียดฝูงชนอยู่นั้น รถเข็นก็แหวกเส้นทางมาพร้อม เสียงตะโกนมาด้วย   
                                “วังเท้า..วังเท้า..วังเท้า..”  ยิ่งกว่าไซเลนด์ขอทางตำรวจอีก แค่คำสองคำเนี๊ยะ...
ช่างได้ผลยิ่งหนัก ใครต่อใครต่างพากันกระโดดหลบเป็นแถว เห่อ..เห่อ..เห่อ..เส้นใหญ่จริง...นายแน่มาก....
ปกติเรามักได้ยินกัน ‘ขอทางหน่อยครับพี่..ขอทางหน่อย’  หรือไม่สั้นๆ ‘ทางหน่อย..ทางหน่อย’ พอพูดแบบนี้..
คนไม่ค่อยหลบกันสักเท่าไหร่ เหมือนว่ามึงจะไปก็เรื่องของมึง หรือบางคนง่วนอยู่กับการเลือกของด้วย..ถึงจะได้ยินก็ไม่ค่อยสนใจ เพราะคิดว่าเรื่องของมึงกูไม่เกี่ยว ทำให้ขบวนชะงักติดขัดกันเป็นแถวยาวเหยียด   
                               พอเจอคนเข็นรถหัวใส เปลี่ยนคำพูดนิดเดียว ‘วังเท้า..วังเท้า’  แค่นี้กระโดดหลบกันให้ว่อง
ใครๆ ก็กลัวล้อรถบดเท้ากันทั้งนั้น นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า  ‘มนุษย์มักตื่นตัวเพราะกลัวเจ็บ....อิอิอิ!!!’
                               เมื่อได้วัตถุดิบตามที่ต้องการแล้ว..ก็พากันกลับคอนโดฯ ของเรา....ย้ำคอนโดฯของเรา
เพราะพ่อกับแม่ของกลออกเงินซื้อคนละครึ่ง เป็นห้องชุดสองห้องนอนสองห้องน้ำ ห้องครัว ห้องรับแขก ราคาสมัยนั้นไม่แพงมาก   สี่แสนกว่าบวกตกแต่งเพิ่มเติมก็ร่วมๆหกแสน (สมัยนี่ล้านกว่าเป็นอย่างต่ำ)  ท่านให้เป็นของขวัญกลสิทธิ์ที่เรียนจบภายในสี่ปีไม่มีเลท หนำซ้ำเกรดเฉลี่ย 3.55  เลขสวยอีกตะหาก   
                               ซึ่งประวัติการเรียนของกลสิทธิ์ที่เคยมีมา  ทั้งติดศูนย์ติด ร.  เกรดเฉลี่ยไม่เคยถึงสอง
แต่กลับสร้างปรากฎการณ์ซ๊อคญาติ จึงได้รางวัลคือคอนโดฯ ของเรา..ฮิฮิฮิ..ผมเหมาเอาซะงั้น ยังยึดสัญญาเดิมของเราในข้อที่สาม ‘ของๆกลสิทธิ์ ย่อมเป็นของๆกวี ของๆกวี ย่อมเป็นของๆกวี’  ฮ่าๆ!...ถ้ายังจำกันได้...สัญญาสามข้อใช้มาตลอด มีหย่อนให้บ้างเป็นบ้างครั้ง แต่ไม่ทุกข้อหรอกครับ  
                             เอ้า!...ยกตัวอย่างให้ก็ได้ เช่น..ห้ามเจ้าชู้มั่วผู้หญิงไรเงี๊ยะ กวีใจกว้างให้เที่ยวผู้หญิงได้บ้างนานๆครั้ง กะเพื่อนๆเค้านั่นแหละ สังคมคนทำงานมักมีการสังสรรค์บ้างเป็นธรรมดา พวกผู้หญิงบริการมีระดับประมาณนั้น.....แต่กลสิทธิ์เค้าไม่ค่อยเท่าไหร่  
                         ทั้งที่กวีเปิดไฟเขียวให้อะหนะ รู้ไหม?...คำตอบที่กลสิทธิ์พูดกับผมเค้าพูดอย่างไร  ‘นอนกับใครก็ไม่อิ่มสุขเท่านอนกับเมีย มันเต็มที่สุดๆ ลองไปนอนกับคนอื่นแล้วมันแปลกๆ เหมือนอารมณ์มันไปไม่ถึง’  ผมไม่เข้าใจหรอกว่าอารมณ์ไปสุดไม่สุดในความหมายกลสิทธิ์นะมันเป็นยังไง นึกอยากเคลียร์ให้หายสงสัย เลยลองถามไปว่า
                        “กล...วีอยากลองศึกษาดูบ้างอ่ะ...แบบว่า..คะ..คือ...วีอยากลองไปนอนกับคนอื่นดูบ้างได้ป่าว?
อยากรู้ว่าอารมณ์ไปสุดไม่สุดมันเป็นยังไง”  คิดดูเองเถอะครับ  ว่ากลสิทธิ์จะยอมไหม
                       สรุปคุยครั้งนั้นครั้งเดียวในชีวิต  เพราะผมไม่กล้าถามอีกเลย  กลัวพายุทอร์นาโดถล่ม  
อรึ้ย!...นึกแล้วขยาดไม่หาย สะโพกคราก...ลากขาไปทำงานไม่ได้อยู่สองวัน...ถึงได้คำตอบแล้วว่า...
อ๋อ!...มันเป็นแบบนี้นี่เอง...ไอ้อารมณ์ไปสุดไม่สุด...จบข่าว!
                        กระทงแสนงาม เพรียบพร้อมด้วยสรรพมงคล...สำเร็จลุล่วงได้ด้วยฝีมือผม...และ...กลสิทธิ์....
ต้องยกเครดิตให้ยอดชายเค้าด้วย   เพราะเค้าเป็นคนนั่งมวยกลีบติดแม็คส่งมาให้  ผมมีหน้าที่เอามาแปะติดกับต้นกล้วยใช้ตะปูเล็กแบบมีหัวยึดไว้อีกที    แรกๆไม่รู้สึกเจ็บมือหรอก  เสียบไปได้ไม่เกินสิบกลีบ  นิ้วหัวแม่มือแตกเลือดซิบเพราะดันช้ำจากการกดกลีบกระทง   วุ่นวายยอดชาย..หาพลาสเตอร์พันนิ้วให้ถึงกับทบกัน
สามชั้น  ไม่รู้สึกเจ็บนิ้วอีกเลยรู้งี้น่าจะเอามาพันซะแต่ทีแรก..เห่อ..เห่อ..เห่อ..เค้าถึงว่ารู้ผิดเป็นครู...แต่รู้เจ็บก่อนนี่สิ...ไม่ไหว...ระบมอ่า?
                       ทุ่มตรง....กระทงน้อยสองเรา  ก็ได้เวลานำไปลอยริมฝั่งคงคา  ไหว้สาขอสุมาพระแม่ท่าน  
ที่เราได้อาบได้กินได้ใช้น้ำมาตลอดทั้งปี  ชำระล้างสิ่งสกปรกต่างๆออกจากร่างกาย   ดังนั้นเพื่อเป็นการขอขมา
ให้ท่านอโหสิให้พวกเรา  ประเพณีลอยกระทงจึงเกิดขึ้น  สืบสานเป็นประเพณีอันดีงาม..ที่น่าอนุรักษ์ไว้  
น่าเลื่อมใสศรัทธาของคนไทย
                         ผมกับกลสิทธิ์   มาอยู่ท่ามกลางฝูงชนแน่นขนัดในงานวัดใหญ่แห่งหนึ่ง ที่จัดได้ยิ่งใหญ่เป็นประจำทุกปี  แถมด้านหลังยังติดแม่น้ำเจ้าพระยาอีกตะหาก   หลังจากเราพากันกราบไว้พระประธานในโบสถ์เรียบร้อยแล้ว   ก็ตรงดิ่งมายังท่าน้ำเพื่อลอยกระทงกัน    พอมาถึงผมจัดการล้วงกรรไกรตัดเล็บ  และกรรไกรตัดกระดาษออกมา...
                         ก่อนจะยกมือไหว้กลสิทธิ์ไปหนึ่งครั้ง   เพราะผมกำลังจะล่วงเกินคุณสามี  ตัดปลายเส้นผมบนหัวกลมัน  และตัดเล็บออกพอเป็นพิธีใส่ในกระทงสองเรา   ยอดชายก็จ้องหน้าผมตาหวานฉ่ำ  มีเอามือมาขยี้หัวผมซะงั้น   คงหมั่นไส้ระม้าง  ยิ่งตอนนี้ผมไว้ผมยาวเกือบถึงบ่าแล้ว...
                         ทุกครั้งที่ทำแบบนี้..ผมมักยกมือไหว้ขอโทษกลสิทธิ์ก่อนตลอด  ทำมาสามปีแล้ว  เป็นอันรู้กันว่าผมขออนุญาติตัดเส้นผม   แม่สอนผมมา...หากจะล่วงเกินสามีในที่สูง...อย่างน้อยควรยกมือขอโทษเค้าก่อน
เวลาเค้านอนหรือนั่งอยู่ก็อย่าก้าวขาข้าม   อ้อมได้ก็ให้เดินอ้อมไปเอา...
                          หากไม่มีทางผ่านไปจริงๆ   ให้บอกเค้าเว้นช่องให้หน่อย  อย่าก้าวขาข้ามเป็นอันขาดมันไม่ดี  
จะทำมาหากินไม่เจริญ  ชีวิตครอบครัวก็จะไม่รุ่งโรจน์  ‘คนล้มอย่าข้าม’  สุภาษิตโบราณท่านยังกล่าวไว้   
                         ยิ่งเป็นคนที่ได้ชื่อว่าเป็นสามีเป็นผัวเราแล้วทั้งคน...อย่าทำเป็นอันขาด....คำสอนของแม่ที่พร่ำบอกผมนะ..ในวันที่ท่านผูกข้อมือรับขวัญเราทั้งคู่ ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ผมถือปฏิบัติมาโดยตลอดจนถึงปัจจุบัน
(เอาไปใช้กันได้นะ..ไม่หวงลิขสิทธิ์)   กวีไม่เคยก้าวข้ามกลสิทธิ์อีกเลยครับท่าน  ทั้งที่ผมเคยคิดเหมือนกันว่าผมก็ผู้ชาย...ไม่ใช่ผู้หญิงสักหน่อย  ทำไมต้องถืออะไรขนาดนั้น                       
                        ความกระจ่างจากคำตอบของแม่...ท่านบอกผมว่า...หญิงหรือชายไม่เกี่ยว...ที่ต้องนำมาตรองก็คือ
ผมเป็นผัวหรือเป็นเมียของกลมันกันแน่...นั่นหละคือคำตอบสุดท้าย...อึ้งแดกไปหลายวิ....มารู้ทีหลังว่าแม่แกล้งหลอกถามผมด้วย..ว่าไอ้ที่ท่านทำหน้าที่เถ้าแก่สู่ขอลูกชายจากพ่อของกลสิทธิ์ให้ผมนั้น...ตกลงขอลูกเขยหรือลูกสะใภ้...ตอนนี้แม่คงได้คำตอบแล้ว....แห่ะ..แห่ะ...แห่ะ!...แม่ได้ลูกเขยเข้าบ้านจร้า!
                         ไม่ต้องอุตริถามกันนะว่า   แล้วถ้าสลับเป็นผัวเมียเปลี่ยนกันไปมา   ข้ามกันได้หรือเปล่า...จริงๆแล้วไม่ว่าผัวหรือเมีย..โบราณเค้าถือไม่ให้ก้าวข้าม   เพราะเราทุกคนคือคนเป็นที่ยังมีลมหายใจอยู่   มันดูไม่ดี..ทั้งมารยาทและความเหมาะสม  ไม่ควรกระทำเป็นอย่างยิ่ง...พอเข้าใจกันนะ..
                         ถึงคราวกลสิทธิ์เค้าเป็นฝ่ายตัดให้ผมบ้าง   แต่เค้าไม่ต้องไหว้ผมหรอกนะ...เพราะว่าผัวไม่ต้องไหว้เมีย...โบราณเค้าไม่ให้ผัวไหว้เมีย..แต่เค้าไม่ได้บอกไว้ว่า..ห้ามไม่ให้ผัวกลัวเมีย...เอิ๊ก!..  
                        หลังจากนั้น...เราช่วยกันจุดธูปจุดเทียน  ใส่เหรียญลงไปในกระทงห้าบาท พากันยกขึ้นจรดเหนือศรีษะตั้งจิตอธิฐานพร้อมกัน เรียบร้อยแล้ว กลสิทธิ์เป็นคนนำลงลอยในแม่น้ำเจ้าพระยา โดยมีกวียืนส่งกำลังใจลุ้นอยู่ใกล้ๆ   ดูผลงานกระทงน้อยของสองเรา  ลอยตุเรงตุเรงฝ่าคลื่นลมและกระแสน้ำห่างจากฝั่งออกไปช้าๆ  
                          วิบวับนวลตาด้วยแสงเทียนในกระทง  ทำให้หวนคิด  ชีวิตก็ไม่ต่างจากกระทง   
ลอยโต้คลื่นฝ่าลมตามยถากรรม  แต่ก็ต้องลอยไปให้ไกลที่สุด  สุดปลายทางตรงไหนไม่มีใครตอบได้  
หลายคนบอกสิ้นสุดที่ปากอ่าวไทย...อาจไม่ใช่ก็ได้เพราะต่อออกไปก็ยังเป็นทะเล...มันอาจจะลอยไปไกลข้ามทวีปถึงไหนก็ไม่รู้แต่ที่รู้ๆ....ไม่นะ...ไม่จริ๊งๆ
                         กระทงของสองเรา  ยังไปไม่ถึงไหนเลยด้วยซ้ำ   มีพรายน้ำโผล่มาจากไหนไม่รู้  
คว้ากระทงสองเราไป  ก่อนจะหยิบเอาเหรียญห้าบาทมาคาบไว้ในปาก..เสร็จเรียบร้อยโรงเรียนพรายน้ำ   
                          แต่..อ่ะ..อ่ะ..นั่น...เฮ้อ!...โชคดีหน่อย  พรายน้ำค่อยๆ ปล่อยกระทงสองเรา..ลอยไปตามกระแสน้ำเจ้าพระยาต่อไป  โล่งอก..คิดเสียว่าพรายน้ำคืออุปสรรคหนึ่งในชีวิต...ผ่านเข้ามาแล้วก็ผ่านไป...
ที่แน่ๆ...ลอยไปเถอะ..กระทงน้อย...ลอยไปให้ไกลสุดกู่...นำความรักของเราทั้งคู่ที่ได้อธิฐานไปกะกระทง  
ไปเข้าเฝ้าพระแม่คงคาให้ท่านอำนวยพรให้เราครองคู่กันตลอดกาลนานด้วยเทอญ......
                          พอเสร็จจากนั่น  พวกผมก็เตรียมตัวเดินกลับ  แต่จังหวะที่กำลังก้าวขาออกเดิน   
สายตาผมดันไปสะดุดพี่ผู้หญิงคนหนึ่งเข้า   แกมาคนเดียว   ทำผมทรงฟาร่า..(ชาวบ้านนิยมเรียกทรงนางงาม..
เพราะพวกประกวดนางงามเค้านิยมทำกัน  ไอ้ทรงแบบฟูฟ่องบานเต็มหัวนะ...สมัยนั้นอย่างฮิต)                     
                          แกกำลังถือกระทงจรดเหนือศรีษะก้มหน้าก้มตาตั้งจิตอธิฐานอย่างจริงจัง    แต่..ไฟจากเทียนไข
ดันลุกติดเข้ากับผมของแก  โดยที่เจ้าตัวก็ยังไม่รู้ตัว   กลุ่มควันกำลังเริ่มขยายอาณาเขต  และเริ่มลุกเป็นไฟ  
จังหวะที่ผมเห็น..มันเผาจากกลางกบาลแก  ผมรีบกระตุกแขนกลสิทธิ์  ชี้ให้มันดูทันที หากไม่มีใครเห็นหรือช่วยแกไว้ก่อนมีหวังหัวเหอหน้าเน้อได้โดนไฟไหม้เสียโฉมแน่ๆ
                         “กล..กล..ไฟไหม้หัวพี่เค้า”  มันหันขวับมองตามผมทันที   สติมันดียิ่ง  ไม่รอช้าเลย..
พุ่งพรวดถึงตัวพี่เค้าทันที   กระชากกระทงจากมือเค้าเฟวี้ยงลงพื้นซะไกล  เพื่อแยกไฟเทียนออกจากหัว
พี่แกก่อน  
                         “อึ๊บ!..แผล่ะ!..”  ไม่เหลือสภาพกระทงสวยงามให้เห็นอีกเลย
                         “ว๊าย!...ทำบ้าอะไรเนี่ยะ!.”  พี่แกเงยหน้าโวยวายมันทันที
                         “ไฟไหม้ผมพี่แล้วตอนนี้...” กลสิทธิ์สวนกลับซะดังลั่น  ตอนนี้ไฟเริ่มลามผมแกแผ่ขยาย
วงกว้าง  เพราะทรงฟาร่า  คิดว่าคงอัดสเปรย์มาด้วย  ไม่งั้นมันคงไม่ลุกเร็วแบบนี้  ไม่มีเวลาแล้ว   กลสิทธิ์จัดการรวบกอดแกทั้งตัว  พร้อมกับพุ่งกระโจนลงน้ำทันที
                         “ตูม!....”  ได้ผล...ไฟดับทันตาเห็น  
                          “แอ๊ก!...แค็กๆ!.”  แกสำลักน้ำนิดหน่อย  แต่ก็กอดคอมันไว้แน่น  ดีอย่างน้ำบริเวณริมฝั่งไม่ลึกมากระดับอก  มันจึงค่อยพาแกกลับมาส่งขึ้นฝั่ง  โดยมีกองเชียร์ยื่นมือช่วยดึงแกขึ้น  ก่อนที่จะดึงกลสิทธิ์
ตามขึ้นมา  ไทยมุงนับร้อย   ผมรีบเข้าไปตรวจสอบความเรียบร้อยของสามีทันที  ว่าบาดเจ็บไรหรือเปล่า   
โชคดีกลสิทธิ์ไม่ได้รับบาดเจ็บไรเลย   ทุกอย่างครบบริบูรณ์ไม่มีส่วนไหนสึกหรอ    เพียงแต่สภาพเหมือน
ลูกหมาตกน้ำ   เปียกโซกไปทั่งตัว  
                               “ขอบคุณน้องมากนะค่ะ...ขอบคุณมากที่ช่วยพี่ไว้”  พี่ผู้หญิงพอตั้งสติได้ และเข้าใจเรื่องราวที่มาที่ไปทุกอย่าง   รีบกล่าวขอบคุณกลสิทธิ์  พระเอกขี่ม้าขาวทันที   มันก็ยิ้มรับแกไป   สภาพพี่แกผมกลางกบาลแหว่งหายไปกว่าครึ่ง  นี่ถ้าช้าอีกนิดคิดว่าผมทั้งหัวคงไม่เหลือ  แถมจะพาลเอาหูเหอหน้าตาแกเกรียมไปด้วยอีกตะหาก   
                                เหตุการณ์นี้...เป็นอุทาหรณ์สอนเตือนว่า   เวลาไปลอยกระทง   ระวังไฟไหม้ผมด้วย...
เพราะอุบัติเหตุเกิดขึ้นได้เสมอ...ทางที่ดีทุกคนไม่ควรประมาท....ไฟ!....
                               จากนั้นผมกับกลสิทธิ์ก็ขอตัว...ตรงดิ่งไปที่รถขับกลับคอนโดฯ ทันที  เพราะสภาพกลสิทธิ์ไม่มีทางจะเดินเที่ยวงานได้แล้ว   ระหว่างนั่งกันมา  รถดันติดโครตๆ  เพราะผู้คนต่างออกมาเที่ยวงานลอยกระทงกันทั้งนั้นกว่าจะขยับได้แต่ละทียังกะเต่าคลาน   กลสิทธิ์ก็พูดขึ้นว่า
                             “ขอโทษด้วยวี...ทำให้อดเที่ยวเลย”  อร๊าย!...ดูสิพระเอกของผม...ยังมีแก่ใจขอโทษผมอีก
ทั้งที่ไม่ใช่ความผิดของมันสักกะหน่อย
                             “จะมาขอโทษวีทำไม....วีต่างหาก..โคตรภูมิใจกลเลย...กลยอดมาก...พระเอกสุดๆ..ถ้าเป็นวี
ยังคิดไม่ออกด้วยซ้ำ..จะกล้ากอดพี่เค้ากระโดดลงน้ำหรือเปล่าหนะ...กลยอดจริงๆ นะ..”  พูดพร้อมกับยิ้มให้
มันไป  มันก็ยิ้มตอบผมมา   ก่อนจะพูดขึ้นว่า
                            “ก็มันไม่มีทางเลือก...มองเห็นไฟ..ก็นึกถึงน้ำ...ชั่วโมงนั่นมันไม่มีน้ำตรงไหนแล้วนี่..แม่น้ำ
นี่แหละดีที่สุด..ดับไฟชัวร์..น้ำเยอะดี...555!..” ผมก็พลอยหัวเราะตาม   แฟนใครว่ะ?...ตลกได้อีก  หลังจากหัวเราะเป็นที่พอใจกันแล้ว   กลสิทธิ์ก็พูดขึ้นอีกว่า
                           “ถึงไม่ได้พาวีเดินเที่ยวงาน   แต่อย่างน้อยก็ได้ลอยกระทงของเราก่อน...โชคดีหน่อย..
หากเกิดเรื่องก่อน..หมดอารมณ์ที่ตั้งใจลอยกระทงเลย ไหนจะไทยมุง  ไหนจะคนเยอะแยะ  ที่สำคัญตัวเปียกโซกแบบนี้กลคงหมดเสียอารมณ์ไปเหมือนกัน”
                          “อ้าว!...ทำไมหละ...เปียกก็ไม่เห็นเป็นไร   เรามาลอยกระทง...เราก็ลอยต่อได้นี่ จากนั้นก็ค่อยกลับ...วีไม่เห็นว่ากลต้องหงุดหงิดหมดอารมณ์ไรเลยนิ..ดีเสียอีก..กลทำความดีก่อนอธิฐานขอพร...พระแม่คงคาท่านอาจเมตตาให้พรกลคนแรกเลยก็ได้ใครจะไปรู้   คนลอยกระทงคืนนี้เป็นล้าน พระแม่คงกำลังจับฉลากเลือกให้พรคนจนหัวหมุนอยู่ก็ได้   แต่พอเป็นกลท่านอาจจะลัดคิวให้เป็นคนแรกเลยน้า...จริงไหม?”  ผมแหย่เล่นให้สนุกๆ
                          “จริงเหรอวี?...ถ้างั้นคืนนี้กลก็ไม่ผิดหวังแล้วสิ...ฮู้!..ดีใจจัง..งั้นเรารีบกลับคอนโดฯ  กันให้ไวดีกว่า...กลว่าเดี๋ยวถึงซอยหน้าจะเลี้ยวออกทางลัดไปเลย...จะได้กลับไปรับพรเร็วๆ”  อืม..พรอะไรของกลสิทธิ์เค้าหว่า?
                         “ปกติ..เค้าไม่ให้ถามคำอธิฐานของใคร...แต่วีสงสัยอะกล..พรอะไรที่กลขอกับพระแม่คงคา...
ไม่ต้องบอกหมดก็ได้...แค่แปลกใจมันเกี่ยวอะไรที่ต้องไปรับเอาที่คอนโดฯ”  อดไม่ได้ถามไปหละ...ก็บอกแล้วนิว่าไม่ต้องบอกหมด...แย้มให้รู้หน่อยก็ยังดี
“หึ..หึ...จริงๆ กลขอหลายข้อเหมือนกัน..แต่ที่ต้องไปรับที่คอนโดฯ  คือข้อที่กลขอ...
กลขอให้ได้ปัมปั๊มวีคืนนี้นะ”
                       “  - o - ”  หน้าผม..อึ้งไปเลย..ขออะไรของเค้าเนี่ยะ!
                      “ก็นะ..วีไม่ให้กลทำมาเป็นอาทิตย์แล้วอะ...กลขอเท่าไหร่ก็ไม่ยอมให้  เมื่อคืนวันเสาร์วีก็บอกว่า
วันนี้ต้องมาเดินซื้อของปากคลอง  ไม่อยากปวดตัว   เพราะต้องเดินเยอะ..ไหนจะนั่งทำกระทงอีก..แล้วยังต้องมาเดินในงานด้วย วีก็เลยไม่ยอมให้กล   กลก็เลยขอไปหนึ่งข้อ  ให้วีใจอ่อนยอมให้กลคืนนี้นะคร๊าบ”  
จบข่าว!...เห่อ..เห่อ...เห่อ...สิ่งที่กลสิทธิ์ขอไม่ใช่เรื่องตลก  เพราะผมไม่ยอมเขามาเป็นอาทิตย์แล้วจริงๆ  
                          อาทิตย์นี้ทั้งอาทิตย์  ผมมีกิจกรรมอบรมเวียนแผนก  และในกิจกรรม..มันต้องร้องต้องเต้น
ตามกระบวนการละลายพฤติกรรมโดยทั่วไป   หากยอมกลสิทธิ์  ผมคงร้องคงเต้นออกท่าทางได้ปกติหรอกนะครับเกิดคนพานำทำติดๆ ขัดๆ  แล้วพนักงานที่เข้าอบรมเค้าไม่หัวเราะกันตายเอาเหรอ   
                         ผมเลยให้งดกิจกรรมของเราไว้ก่อน   ไม่คิดว่ามันจะกลายเป็นหนึ่งในพรที่กลสิทธิ์ขอในวันลอยกระทง   แต่เอาเถอะไหนๆ มันก็ผ่านมาแล้ว  จริงๆ แล้วเมื่อคืนก็กะจะให้อยู่เหมือนกัน  เพราะเป็นวันเสาร์..แต่ก็อย่างที่กลสิทธิ์พูดแหละ..ผมต้องมาเดินซื้อของที่ปากคลอง  แถมยังต้องมาลอยกระทง  ไม่อยากให้ร่างกายมันขัดๆ นะ  เลยของดไปอีก   
                           ถึงเวลามอบรางวัลแห่งการทำดีแล้วละมั้ง    จริงๆ เรื่องนี้กลสิทธิ์ไม่น่าไปขอกับพระแม่คงคาด้วยซ้ำ...มันใช่เรื่องควรทำที่ไหนเล่า...ใครเค้าทำกัน..แต่ก็ว่าไม่ได้..ใครเค้าไม่ทำ...ยี่ห้อกลสิทธิ์นี่แหละ..ที่ทำไม่เหมือนใครเค้าหละ...ความจริงที่ถูกที่ควร..ต้องมาขอกับกวีถึงจะถูก... ‘เพราะคุณทำความดี’...กวีเลยจัดให้
                         “กล....คืนนี้วี..ให้กลทำก็ได้...แต่ห้ามเกินสอง..พรุ่งนี้วีต้องทำงานรู้ใช่ไหม?”  ผมตอบไปแบบอ๋อมๆแอ๋มๆหน้าก็เริ่มจะมุดแล้วเหมือนกัน

“จริงนะ...ว้าว!..สุดยอด...ไม่เกินแน่นอน..สองก็สอง...พระแม่คงคานี่ศักดิ์สิทธิ์จริงๆ
ลัดคิวให้กลเหมือนวีว่าไว้เลย..ดีใจชะมัด..อย่างนี้ต้องฉลอง..รีบกลับกันดีกว่า” ไอ้บร้า!..พระแม่กวีตะหากที่ลัดคิวให้...ขอบคุณผิดคนหรือเปล่าเนี่ยะ...ชิส...แต่...หวาย...อายจัง..มาเล่าอะไรให้ฟังกันนี่...อูย!..อย่าล้อกัน


นะคร๊าบ!....

นิสิตสัมพันธ์

กระทู้
9
พลังน้ำใจ
24560
Zenny
38464
ออนไลน์
2328 ชั่วโมง
โพสต์ 2013-6-25 18:35:36 | ดูโพสต์ทั้งหมด

มหาลัยซีเนียร์

กระทู้
0
พลังน้ำใจ
1430
Zenny
6827
ออนไลน์
291 ชั่วโมง
โพสต์ 2013-6-27 14:01:41 | ดูโพสต์ทั้งหมด
ขอบคุนครับ

นิสิตสัมพันธ์

กระทู้
21
พลังน้ำใจ
16937
Zenny
6577
ออนไลน์
3027 ชั่วโมง
โพสต์ 2013-6-28 17:06:03 | ดูโพสต์ทั้งหมด

ขอบคุนครับ

พี่ว้ากตัวร้าย

กระทู้
0
พลังน้ำใจ
679
Zenny
156
ออนไลน์
324 ชั่วโมง
โพสต์ 2013-6-29 23:31:34 | ดูโพสต์ทั้งหมด
ขอบคุณคับ {:6_184:}

มาเฟียนักศึกษา

กระทู้
2
พลังน้ำใจ
3195
Zenny
1734
ออนไลน์
988 ชั่วโมง
โพสต์ 2013-6-30 16:19:55 | ดูโพสต์ทั้งหมด
ขอบคุณครับ

มหาลัยซีเนียร์

กระทู้
0
พลังน้ำใจ
1541
Zenny
6736
ออนไลน์
824 ชั่วโมง
โพสต์ 2013-11-24 16:52:17 | ดูโพสต์ทั้งหมด

มหาลัยซีเนียร์

กระทู้
1
พลังน้ำใจ
1612
Zenny
6474
ออนไลน์
812 ชั่วโมง
โพสต์ 2013-11-24 18:31:30 | ดูโพสต์ทั้งหมด

พี่ว้ากตัวร้าย

กระทู้
0
พลังน้ำใจ
574
Zenny
-139
ออนไลน์
359 ชั่วโมง
โพสต์ 2013-11-24 21:14:04 | ดูโพสต์ทั้งหมด
ขอบคุนครับ

มหาลัยซีเนียร์

กระทู้
0
พลังน้ำใจ
1456
Zenny
-96
ออนไลน์
698 ชั่วโมง
โพสต์ 2014-1-16 19:36:55 | ดูโพสต์ทั้งหมด

นิสิตสัมพันธ์

กระทู้
0
พลังน้ำใจ
43221
Zenny
14266
ออนไลน์
1963 ชั่วโมง
โพสต์ 2015-11-18 07:42:12 | ดูโพสต์ทั้งหมด
ขอบคุณครับ

นิสิตสัมพันธ์

กระทู้
0
พลังน้ำใจ
16568
Zenny
10383
ออนไลน์
1630 ชั่วโมง
โพสต์ 2015-11-18 08:48:46 | ดูโพสต์ทั้งหมด

ขอบคุณครับผม

นิสิตสัมพันธ์

กระทู้
209
พลังน้ำใจ
14088
Zenny
42724
ออนไลน์
1088 ชั่วโมง

สมาชิกระดับมรกตสมาชิกระดับแพลตตินั่มสมาชิกระดับทับทิมสมาชิกจีโฟกาย 100%สมาชิกระดับไพลินสมาชิกระดับเพชรสมาชิกระดับเพชรบริหารสมาชิกระดับเพชรคู่สมาชิกระดับตรีเพชร

โพสต์ 2016-4-25 19:40:47 | ดูโพสต์ทั้งหมด

ประธานนักศึกษา

กระทู้
745
พลังน้ำใจ
53236
Zenny
48733
ออนไลน์
11926 ชั่วโมง
โพสต์ 2016-4-25 21:27:31 | ดูโพสต์ทั้งหมด
น่ารักอะ ยอมทำทุกอย่างเพื่อคนรัก

พี่ว้ากตัวร้าย

กระทู้
1
พลังน้ำใจ
541
Zenny
585
ออนไลน์
28 ชั่วโมง
โพสต์ 2016-10-24 08:33:08 | ดูโพสต์ทั้งหมด
โชคดีที่เจอคนรักที่ดีทั้งสองคนนะ
ขอบคุณครับ

นิสิตสัมพันธ์

กระทู้
0
พลังน้ำใจ
25772
Zenny
21604
ออนไลน์
1006 ชั่วโมง
โพสต์ 2017-8-25 00:00:20 | ดูโพสต์ทั้งหมด
ขอบคุณนะครับ

นายกสโมสร

กระทู้
1
พลังน้ำใจ
159541
Zenny
289708
ออนไลน์
46421 ชั่วโมง
โพสต์ 2017-8-26 03:29:22 | ดูโพสต์ทั้งหมด
ขอบคุณ ครับผม

นิสิตสัมพันธ์

กระทู้
0
พลังน้ำใจ
34370
Zenny
27552
ออนไลน์
1783 ชั่วโมง
โพสต์ 2018-1-19 03:50:51 | ดูโพสต์ทั้งหมด
ขอบคุณครับ

ประธานนักศึกษา

โสด สุดดดด

กระทู้
0
พลังน้ำใจ
65832
Zenny
23628
ออนไลน์
10652 ชั่วโมง
โพสต์ 2018-1-19 23:37:38 | ดูโพสต์ทั้งหมด
น่ารักมากครับ
Every cloud has a silver l

ประธานนักศึกษา

กระทู้
0
พลังน้ำใจ
93009
Zenny
73434
ออนไลน์
2220 ชั่วโมง
โพสต์ 2021-9-25 08:11:14 | ดูโพสต์ทั้งหมด
ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง เข้าสู่ระบบ | สมัครเข้าเรียน

รายละเอียดเครดิต

A Touch of Friendship: สังคมจะน่าอยู่ เมื่อมีผู้ให้แบ่งปัน ฝากไวเป็นข้อคิดด้วยนะคะชาวจีโฟกายทุกท่าน
!!!!!โปรดหยุด!!!!! : พฤติกรรมการโพสมั่วๆ / โพสแต่อีโมโดยไม่มีข้อความประกอบการโพส / โพสลากอักษรยาว เช่น ครับบบบบบบบบ, ชอบบบบบบบบ, thxxxxxxxx, และอื่นๆที่ดูแล้วน่ารำคาญสายตา เพราะถ้าท่านไม่หยุดทีมงานจะหยุดท่านเอง
ขอความร่วมมือสมาชิกทุกท่านโปรดโพสตอบอย่างอื่นนอกเหนือจากคำว่า ขอบคุณ, thanks, thank you, หรืออื่นๆที่สื่อความหมายว่าขอบคุณเพียงอย่างเดียวด้วยนะคะ เพื่อสื่อถึงความจริงใจในการโพสตอบกระทู้ และไม่ดูเป็นโพสขยะ
กระทู้ไหนที่ไม่ใช่กระทู้ในลักษณะที่ต้องโพสตอบโดยใช้คำว่าขอบคุณ เช่นกระทู้โพล, กระทู้ถามความเห็น, หรืออื่นๆที่ทีมงานอ่านแล้วเข้าข่ายว่า โพสขอบคุณไร้สาระ ทีมงานขอดำเนินการตัดคะแนน และ/หรือให้ใบเตือนสมาชิกที่โพสขอบคุณทันทีที่เจอนะคะ

รูปแบบข้อความล้วน|โทรศัพท์มือถือ|ติดต่อลงโฆษณา|จีโฟกายดอทคอม

ข้อความที่ท่านได้อ่านในเว็บจีโฟกายดอทคอมนี้ เกิดจากการเขียนโดยสาธารณชน และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ หากท่านพบเห็นข้อความใดๆ ที่ขัดต่อกฎหมาย และศิลธรรม ไม่เหมาะสมที่จะเผยแพร่ ท่านสามารถแจ้งลบข้อความได้ที่ Link “แจ้งลบโพสนี้” ที่มีอยู่ใต้ข้อความทุกข้อความ หรือ ลืมพาสเวิดล๊อกอิน/ลืมชื่อที่ใช้สมัคร หรือข้อสงสัยใดๆแจ้งมาที่ G4GuysTeam[at]yahoo.com ขอขอบพระคุณที่ให้ความร่วมมือ

กรณีที่ข้อความ/รูปภาพในกระทู้นี้จัดสร้างโดยผู้ลงข้อมูลเอง ลิขสิทธิ์จะเป็นของผู้ลงข้อมูลโดยตรง หากจะทำการคัดลอก/เผยแพร่ ต้องได้รับอนุญาตจากผู้ลงข้อมูลก่อนนะคะ หรือลงที่มาไว้ด้วยค่ะ

©ขอสงวนสิทธิ์คอนเซ็ปต์,คำอธิบาย,หัวข้อ/หมวดหมู่เว็บ ห้ามลอกเลียนแบบ คิดเอาเองนะคะอย่าเอาแต่ลอก

GMT+7, 2024-11-24 19:10 , Processed in 0.136501 second(s), 27 queries .

Powered by Discuz! X3.5, Rev.8

© 2001-2024 Discuz! Team.

ตอบกระทู้ ขึ้นไปด้านบน ไปที่หน้ารายการกระทู้