ทำความรู้จักกับชิปประมวลผล Intel Core i Gen 4 [Haswell]

sirisa

ชิปประมวลผลหรือซีพียูนั้น ถือได้ว่าเป็นส่วนที่สำคัญที่สุดของคอมพิวเตอร์ โดยในขณะนี้ทางผู้ผลิตชิปประมวลอันดับหนึ่งก็พร้อมแล้ว กับ Intel Core i Gen 4 (Haswell) ซึ่งนับได้ว่าเป็นชิปประมวลผลรุ่นล่าสุดที่ทรงประสิทธิภาพการทำงาน พร้อมทั้งยังประหยัดพลังงานมากกว่าเดิม ที่มีการพัฒนาต่อยอดมากจาก Intel Core i Gen 3 (Ivy Bridge)

สำหรับ Intel Core i Gen 4 (Haswell) กับชิปประมวลผลรุ่นใหม่ ที่ออกแบบมาใช้งานกับคอมพิวเตอร์และโน้ตบุ๊กที่ต้องการประสิทธิภาพการทำงานที่สูง หรือเครื่อง Ultrabook ที่เน้นความบางเบาของตัวเครื่องและการใช้งานที่ยาวนาน แน่นอนว่าช่วยทำให้ผู้ใช้งานอย่างเราๆ ทั้งความรวดเร็ว ราบรื่น สะดวกสบายในการทำงานมากยิ่งขึ้น  นอกจากนี้ยังมาพร้อมกราฟิกการ์ดภายในที่ตอบสนองได้ดีกว่าเดิม รวมไปถึงคุณสมบัติต่างๆ ก็มีมาอย่างครบครัน จึงทำให้ Intel Core i Gen 4 (Haswell) นี้เป็นชิปประมวลผลรุ่นใหม่ ที่มีความโดดเด่นในทุกๆ การใช้งานอย่างแท้จริง

ประสิทธิภาพโดยรวมเพิ่มขึ้น 15%ด้วยเทคโนโลยีการผลิตและสถาปัตยกรรมของชิปประมวลผลที่ทันสมัยมากยิ่งขึ้น ทำให้ชิปประมวลผล Intel Core i Gen 4 (Haswell) นั้น มีประสิทธิภาพในการทำงานมากกว่ารุ่นก่อนหน้าถึง 15% ด้วยกัน ทำให้สามารถประมวลผลหรือทำงานได้รวดเร็วขึ้น ด้วยคุณสมบัติการเปิดและปิดที่มีความเร็วไม่เกิน 3 วินาที รวมไปถึงยังรองรับการ Overclock ได้ดีกว่ารุ่นก่อนๆ นอกจากนี้ยังมีคุณสมบัติที่น่าสนใจอื่นๆ ดังนี้
Intel Smart Response Technology : ด้วยเทคโนโลยีนี้ทำให้การทำงานระหว่าง SSD และฮาร์ดดิสก์ปกติ มีความราบรื่น ทำให้การบู๊ตเครื่องเพื่อใช้งานมีความเร็วขึ้นมากกว่าเดิม 40%   อีกทั้งยังเปิดการใช้งานแอพพลิเคชั่นมีความรวดเร็วมากกว่า 2 เท่าอีกด้วย เมื่อนำไปเทียบกับฮาร์ดดิสก์แบบเดิมๆ
Intel Smart Connect Technology : เทคโนโลยีนี้จะเป็นตัวช่วยให้เราไม่พลาดการติดต่อใดๆ จากการเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตออนไลน์ สำหรับการใช้งานโซเซียลมีเดีย ที่แม้ Ultrabook หรือคอมพิวเตอร์จะอยู่ในโหมด Stand By ก็ตาม ในส่วนของตัวเครื่องก็จะยังเชื่อมต่อ และใช้พลังงานแบตเตอรี่ไปเล็กน้อยเท่านั้น
Intel Rapid Start Technology : เทคโนโลยีนี้จะทำให้เครื่อง Ultrabook โน้ตบุ๊ก และคอมพิวเตอร์ของเรากลับมาทำงานด้วยความว่องไวจากโหมด Sleep โดยใช้เวลาไม่เกิน 3 วินาทีเท่านั้น เรียกได้ว่าแแบไม่ต่างจากการใช้งานสมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ตในปัจจุบันเลยทีเดียว

ประหยัดพลังงาน สูงสุดใช้งานได้ 9 ชั่วโมงIntel Core i Gen 4 (Haswell) ได้รับการออกแบบให้จัดการเรื่องของพลังงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยในส่วนของ Ultrabook หรือโน้ตบุ๊กที่ใช้ชิปประมวลผลนี้จะสามารถใช้งานได้ต่อเนื่องยาวนานจากพลังงานแบตเตอรี่ได้ถึง 9 ชั่วโมงด้วยกัน อีกทั้งยังปิดเครืื่องแล้วอยู่ในโหมด Stand By ได้นานถึง 10 ชั่วโมง ด้วยการลดอัตราการใช้งานพลังงานในโหมด Stand By ลง 20 เท่า นอกจาก
นอกจากนี้ Intel Core i Gen 4 (Haswell) ยังได้รับการดีไซน์เพื่อใช้งานกับ Hybrid Notebook หรือ Convertible Notebook ซึ่งปรับเปลี่ยนรูปแบบเป็นแท็บเล็ตพีซีได้อีกด้วย โดยชิปประมวลผลรุ่นนี้จะเลือกจัดการพลังงานอย่างเหมาะสมตามแต่อุปกรณ์และลักษณะการใช้งานของผู้ใช้อย่างอัตโนมัติ เพื่อให้ผู้ใช้งานอย่างเราๆ จะได้รับประสบการใช้งานที่คุ้มค่าและยาวนาน สำหรับการใช้งานนอกสถานที่ นับได้ว่าเป็นความโดดเด่นอย่างหนึ่งที่สำคัญของ Intel Core i Gen 4 (Haswell) ในเรื่องของการประหยัดพลังงาน

กราฟิกดีขึ้น สมจริงกว่าที่เคยIntel Core i Gen 4 (Haswell) มาพร้อมระบบการประมวลผลกราฟิกที่ดีขึ้นกว่าที่เคยมีมา ซึ่งถูกพัฒนาให้ทำงานได้ดีขึ้น ประมวลผลภาพ 3 มิติและวีดีโอความละเอียดสูงได้ดียิ่งขึ้น สวยงามยิ่งขึ้น และรวดเร็วมากกว่าเดิม 2 เท่า ทำให้รองรับกราฟิกต่างๆ ได้ยืดหยุ่น รวมไปถึงในการประมวลผลแปลงไฟล์วีดีโออื่นๆ ในรูปแบบที่แตกต่างได้มีความรวดเร็วมากกว่าเดิม ตัวอย่างก็คือ สามารถแปลงไฟล์ความละเอียดสูงความยาว 6 นาที เพื่อนำไปลง Youtube ใช้เวลาเพียง 12 วินาทีเท่านั้นเอง อีกทั้งด้วยกราฟิกประมวลผลใหม่นี้ยังสนับสนุนการเล่นเกมที่กินทรัพยากรได้มากยิ่งขึ้น หรือจะนำไปใช้งานระดับมืออาชีพอย่างการเชื่อมต่อหลายหน้าจอก็ทำได้แบบไม่ติดขัดใดๆ

สำหรับชิปกราฟิกที่ติดตั้งมาใน Intel Core i Gen 4 (Haswell) จะประกอบไปด้วย 3 รุ่น ตามแต่ชิปประมวลผล โดยแบ่งออกเป็น HD4200, HD4400, HD5000 และ HD5200 (Intel Iris Pro) ซึ่งทั้งหมดนี้สามารถตอบสนองความต้องการในการใช้งานด้านความบันเทิงได้อย่างเต็มรูปแบบ พร้อมคุณสมบัติมากมาย ทำให้ผู้ใช้งานได้รับประสบการณ์ใช้งานด้านกราฟิกที่สุดยอด ด้วยเทคโนโลยีไม่ว่าจะเป็น
Intel Insider : กราฟิกใฟม่นี้มาพร้อมในชิปประมวลผล Intel Core i Gen 4 (Haswell) อย่างที่ไม่ต้องหาชิปกราฟิกจากที่อื่น
InTru 3D : สนับสนุนการแสดงผลภาพยนตร์และเกม 3 มิติ เพื่ออรรถรสในการรับชมที่เพิ่มขึ้น ในด้านความสมจริงและสวยงาม
Intel Quick Sync Video : คุณสมบัติช่วยในการแปลงไฟล์วีดีโอให้มีความเร็วรวดมากยิ่งขึ้น กว่ารุ่นก่อนๆ ถึง 25%
Intel HD Graphic : ด้วย HD5200 (Intel Iris Pro) จะทำให้เราสามารถเล่นเกมได้ประสิทธิภาพเทียบเท่าชิปกราฟิกแบบแยก
Intel Wireless Display : อย่างที่หลายๆ คนคุ้นเคยกับ WiDi ด้วยการเชื่อมต่อ การสตรีมมิ่งไร้สาย ระดับ Full HD ที่ 60fps

เชื่อมต่อไร้สายได้ง่ายขึ้นในส่วนของโน้ตบุ๊กและ Ultrabook ที่มีการใช้ Intel Core i Gen 4 (Haswell) ยังได้รับการพัฒนาต่อยอดให้เรื่องของการเชื่อมต่อไร้สาย Wi-Fi ไปอีกขั้น ให้มีความสามารถในการเชื่อมต่ออัตโนมัติที่รวดเร็วและเลือกที่จะเชื่อมต่อกับสัญาณที่มีความแรงหรือใกล้มากที่สุด ทำให้พร้อมอัพเดทข้อมูลอินเตอร์เน็ตอยู่ตลอดเวลาไม่ว่าจะเปิดเครื่องหรืออยู่ในโหมด Stand By ก็ตาม ซึ่งสามารถแจ้งเตือนเราได้ทุกสถานการณ์ แน่นอนว่าทำให้เราไม่พลาด อีเมลที่เข้ามาใหม่ หรือการที่ Facebook และ Twitter มีการแจ้งสถานะล่าสุดเข้ามาก็ตาม อีกทั้งยังประหยัดพลังงานมากกว่าเดิมถึง 10 เท่าด้วยกัน เรียกได้ทำให้เราใช้งานได้แทบไม่ต่างจากการใช้สมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ตทีเดียว จากเทคโนโลยีต่างๆ อาทิ
Net Detect : โน้ตบุ๊กและ Ultrabook จะสแกนหาการเชื่อมต่อ Wi-Fi ที่แรงที่สุดและน่าเชื่อถือที่สุด แล้วทำการเชื่อมต่อให้อัตโนมัติ
Windows 8 Connected Stand By : เครื่องคอมพิวเตอร์หากใช้งานร่วมกับ Windows 8 แล้ว จะทำให้ประสิทธิภาพดียิ่งขึ้น
ปิดท้ายด้วยการแนะนำโน้ตบุ๊กที่มาพร้อมชิปประมวลผล Intel Core i Gen 4 (Haswell) ที่มีจำหน่ายแล้วในไทย กับรุ่นที่มีความน่าสนใจครับ แน่นอนว่าในอนาคตจะมาให้เยอะกว่านี้อีกมากมาย

• DELL Inspiron N5421-V560409TH : Core i3 ราคา 16,900 บาท
• ASUS K450JF-WX013D : Core i7 ราคา 24,500 บาท
• HP Pavilion 15-e007TX : Core i7 ราคา 25,990 บาท
• LENOVO IdeaPad Y410P : Core i7 ราคา 31,900 บาท
• Acer Aspire V5-473PG : Core i7 ราคา 35,900 บาท
• MSI GE60 2OC-058XTH : Core i7 ราคา 38,900 บาท
• SONY VAIO PRO SVP13215SHS : Core i5 ราคา 38,900 บาท