ถ้าหากว่าซ้ำต้องขออภัยนะครับและขอโทษเจ้าของเรื่องด้วยนะครับเพราะว่าคัดลอกมาอีกที
ความเดิมตอนที่แล้ว “พี่โรล”ไอ้เนมเรียกกูเสียงเบาเพราะตอนนี้ในโรงหนังคนเงียบมากแต่ละคนกำลังลุ้นกับเรื่องราวในหนังอยู่ ขนาดไอ้จ๊ะที่ไม่ค่อยจะชอบเรื่องแบบนี้เท่าไหร่ยังนั่งดูแบบตาไม่กระพริบเลย
“ไม่ได้เป็นไรครับ”กูพูดแล้วจับมือมันมาวางที่ขากูพร้อมกับเอนหัวไปซบไหล่มันแล้วหลับตาลงหนังจบเมื่อไหร่กูค่อยลืมตาตื่นขึ้นมาละกัน ตอนที่ 109
“มาไม”กูถามไอ้มี่ที่ยืนหน้าหล่อกวนสนตีนกูอยู่ที่หน้าบ้าน ยังๆยังมีหน้ามายิ้มกรุ่มกริ่มใส่อีก นี่มึงยังไม่สำนึกในความผิดของตัวเองอีกรึไง หายการติดต่อจากกูไปตั้งหลายวันอยู่ดีๆก็โผล่หัวมาแบบนี้มันหมายความว่ายังไง กูจะไม่เคืองมากขนาดนี้เลยถ้าเมื่อวันนั้นกูไม่ได้เห็นมันไปยืนแรดๆกับผู้หญิงที่ไหนก็ไม่รู้หน้าโรงหนัง
“คิดถึง”ดูมันพูดดิ หน้าตานี่ไม่ได้สำนึกเลยสักนิด กูที่ทั้งหงุดหงิด ทั้งงอน ทั้งน้อยใจตีหัวรวนอยู่ในหัวยุ่ง
ไปหมด
“มากไหม”กูถามกลับ ทำหน้านิ่งสุดๆ
“มากดิ โรลลี่เป็นอะไรอ่ะ ทำไมถามแบบนี้ล่ะ”ไอ้มี่พูดเสียงงอนๆขึ้นมาทันที
“พอเหอะมี่ เลิกทำแบบนี้สักที มึงทำอะไรมึงย่อมรู้อยู่แก่ใจ กูไม่ได้โง่รักมึงจนลืมหูลืมตาหรอกนะ”กูพูดนิ่งๆแบบไม่ใส่อารมณ์ร่วมลงไปเลยสักนิด อดไม่ไหวแล้วแม่งตัวเองผิดแล้วยังมาทำหน้าระรื่นใส่อีก คิดว่าโง่มากนักรึไง แต่ถ้าจะเลิกกันกูก็ขอให้เลิกกันแบบดีๆอย่าเกลียดกันถึงขั้นมองหน้ากันไม่ได้อีกเลย
“โรลลี่”มันเรียกชื่อกูแบบอึ้งๆ
“จะคบกับใครอีกกี่คนกูไม่เคยว่า แต่ขอร้องช่วยเลิกกับกูก่อน กูอายนะถ้าคนจะมองว่ากูโง่ที่ยอมโดน
ผู้ชายหลอก”
“โรลลี่รู้ตัวไหมว่าพูดอะไรออกมา”เสียงไอ้มี่เข้มขึ้นมาทันที
“รู้ดิ กูไม่ได้เมานิ”กูพูดพยายามไม่จ้องหน้ามันให้มากที่สุด
“ถ้ารู้ตัวแล้วพูดออกมาทำไม หรือโรลลี่มีคนใหม่ ใช่ไหมถึงพูดออกมาแบบนี้ ห๊ะ”มันตะคอกถามกูกลับมาทันที
“ใครกันแน่ที่มีใหม่”กูถามกลับนิ่งๆ
“พูดแบบนี้หมายความว่าไง โรลลี่เปิดประตู”มันเสียงเข้ม
“ไม่ ไม่ต้องเปิด กูจะคุยมันทั้งแบบนี้แหละ เคลียร์ๆไปให้จบจะเลิกแล้วต่อกันไป”กูพูดพร้อมกับเงยหน้าขึ้นมองฟ้า ไอ้น้ำตาเหี้ยมึงจะไหลออกมาทำไมตอนนี้เนี่ย
“ไม่คุย ไม่เลิกด้วย โรลลี่เปิดประตู บอกว่าให้เปิดประตูไง”ไอ้มี่เริ่มพูดเสียงดังขึ้นเรื่อยๆ สีหน้ามันตอนนี้ทั้งบึ้งและหงุดหงิดต่างกับกูที่พยายามทำให้เรียบนิ่งที่สุด
“ไม่เปิด มึงมีอะไรอยากพูดก็พูดดิ กูจะยืนนิ่งๆ ฟังมึงพูดเงียบๆ ไม่เถียงด้วย”
“ไม่เอา บอกว่าให้เปิดไง”เสียงดังขึ้นกว่าเดิมเป็นเท่าตัว
“เปิดทำไม เปิดแล้วได้อะไร ยังไงก็ต้องเลิกกันอยู่ดี”
“พูดซ้ำอยู่ได้ว่าเลิกอ่ะ อยากเลิกมากนักรึไง เป็นบ้าอะไรขึ้นมาอีก”ไอ้มี่พูดแบบเก็บอารมณ์ตัวเองไม่อยู่ จะพุ่งเข้ามาหากูลูกเดียว ดีที่กูไม่ให้มันเข้าบ้านมา ไม่งั้นโดนบีบแขนแตกแน่
“เออกูเป็นบ้า แต่ที่กูต้องมาเป็นบ้าแบบนี้ไม่ใช่เพราะมึงรึไงที่เป็นต้นเหตุ มึงมันเหี้ย เหี้ยมาก เหี้ยที่สุด กูทั้งโง่และบ้าที่มารักคนอย่างมึงไง”กูพูดพร้อมกับพยายามกลั้นทั้งเสียงสะอื้นและน้ำตาที่กำลังจะไหลออกมา กูสัญญากับตัวเองว่าจะต้องไม่ร้องไห้ให้ไอ้มี่เห็นแล้วกลับมาสงสารกูอีกเป็นอันขาด
“ทำไมอะโรลลี่ ทำไมถึงเป็นแบบนี้ ทั้งที่ทุกอย่างกำลังดีมาตลอด เพราะอะไรอะ”
“อยากรู้ใช่ไหมว่าเพราะอะไร เพราะมึงไง มึงหายไปโดยขาดการติดต่อจากกู กูโทรไปมึงไม่รับสาย รับสายบ้างก็พูดจาเหวี่ยงใส่ โอเคกูรับได้เข้าใจว่าทำงานอยู่อาจจะเครียด แต่ที่กูรับไม่ได้คือมึงนอกใจกูไปดูหนังกับผู้หญิงอีกคนโดยที่ปล่อยให้กูฟุ้งซ่านคิดมากเรื่องมึงอยู่คนเดียวโดยที่ไม่รู้อะไรเลย อึก”ทั้งที่ตั้งใจแล้วว่าจะไม่ร้อง
ไม่แม้แต่อยากส่งเสียงออกมาให้เห็น แต่ทำไมกูยังร้องไห้ออกมาอีกจนได้
“ขอโทษ”ไอ้มี่พูด กูมองหน้ามันแล้วสั่นหัวเหมือนไม่อยากฟัง
“ขอโทษทำไม มึงไม่ผิดนิ กูเข้าใจเว้ยว่ามึงคงเบื่อกูแล้ว อยากกลับไปหาสาวๆพวกนั้นอีก กูเข้าใจแต่ช่วยเลิก
กับกูก่อนได้ไหม มึงก็รู้ว่ากูหวงมึงมากขนาดไหน”
“ไม่ใช่โรลลี่กำลังเข้าใจผิด พี่ไม่ได้เบื่อและไม่เคยคิดที่จะเบื่อด้วย แต่ที่หายไปเพราะต้องทำงานจริงๆพี่แค่อยากเร่งทำงานส่งให้เสร็จจะได้มีเวลามาหาโรลลี่บ่อยๆเหมือนเดิม พี่แค่ไม่อยากให้งานมันผิดแล้วต้องแก้ซ้ำไปมาหลายรอบ พี่รู้ว่าโรลลี่น้อยใจที่พี่หายไป ข้อความหรือโทรหาทุกคืนแบบเมื่อก่อนก็ไม่มีแต่เพราะพี่รู้ว่าถ้าพี่โทรมาอ้อนโรลลี่เหมือนทุกครั้ง มันยิ่งจะทำให้พี่คิดถึงโรลลี่มากขึ้นกว่าเดิมและพี่ก็จะต้องแพ้ทางมาหาโรลลี่เหมือนเดิม”ไอ้มี่พูดอธิบายออกมา ฟังเหมือนดูดีแต่ก็ยัง
“ทำไมมาหากูนี่มันแย่มากนักรึไง ถึงต้องพยายามห้ามใจ”กูถามกลับแบบหงุดหงิด
“เพราะรู้สึกดีมากต่างหากพี่ถึงไม่อยากมา อาจจะดูเหมือนเว่อร์แต่พี่คิดแบบนั้นจริงๆ พี่อยากให้สมาธิของพี่
จดจ่ออยู่กับงานจริงๆไม่อยากวอกแวก โรลลี่ก็รู้ว่าถ้าโรลลี่มาเรื่องอื่นของพี่ก็ไม่สำคัญทันที”ไอ้มี่พูดเสียงอ่อยเหมือนคนที่กำลังแก้ตัวเวลาตัวเองทำผิด
“หึ ฟังดูดีเนอะ แล้วผู้หญิงคนนั้นของมึงล่ะ”กูถามต่อทันที
“คนไหน”มันเงยหน้าถามงงๆ
“อะไร มึงหลายคนรึไง”กูเริ่มหงุดหงิดขึ้นมาอีกแล้วนะ ทำไมถึงชอบทำพิรุธให้กูระแวงแบบนี้วะ
“ไม่ใช่ซะหน่อย ไม่มีใครซักคน ถ้าจะมีก็มีโรลลี่คนเดียวนี่แหละ”มันพูด
“หรอ แล้วไอ้คนที่มึงไปดูหนังด้วยวันนั้นนะใคร”กูถาม
“วันไหนอีกอะ”ดูมันกวนตีนกูดิ ไหนจะไอ้หน้าตาซื่อๆเหมือนไม่รู้เรื่องของมันจริงๆอีก
“จิมมี่!”กุเรียกชื่อมันเสียงดังพร้อมกับเขวี้ยงก้อนหินแถวนี้ใส่มันอย่างหงุดหงิด
“ก็พี่ไม่รู้จริงๆหนิ วันๆอยู่แต่กับงานและก็หนังสือ แทบจะไม่ได้ออกไปไหนนอกจากม.กับห้อง”มันพูด
“เหอะ แล้วเมื่อวันก่อนที่กูเห็นอะไร ยืนคุยกระหนุงกระหนิงจีบกันตอนรอซื้อตั๋วดูหนังอ่ะ”
“เห็นด้วย”มันพูด
“เออดิ มึงคิดว่าใครมาบอกกูรึไง”กูถามกลับ
“ก็ถ้าเห็นแล้วทำไมไม่เดินเข้าไปหาล่ะ ถึงว่าพี่มองเห็นแวบๆนึกว่าคิดถึงจนเบลอเห็นแต่โรลลี่ไปหมด”มันพูดแล้วส่งยิ้มหวานๆมาให้
“เว่อร์ ไม่ต้องพูดมาก ยังไงมึงก็ผิดอยู่ดี”กูพูดเสียงห้วนขมความอายในตัวเอง
“ผิดอะไรอีกอ่ะ พี่ไม่ได้นอกใจโรลลี่ซะหน่อย ส่วนผู้หญิงคนนั้นที่โรลลี่เห็นก็เป็นเพื่อนที่คณะ พอดีวันนั้นเราออกมาเอาของกันแล้วมันก็อยากดูหนังมันเลยชวนพี่ขึ้นมาซื้อตั๋วแค่นั้น พี่ไม่ได้ไปนั่งดูกับมันเลยนะ”ไอ้มี่พูดและรีบแก้ตัวเหมือนกลัวกูเข้าใจผิด
“หึ”กูแสยะยิ้มแบบไม่เชื่อไปให้มัน
“หึ อะไรอ่ะ พี่ไม่ได้ผิดอะไรสักนิด”
“ไม่ผิดมาก เดี๋ยวกูหายไปแบบที่มึงกับกูบ้างเอาไหม ลองดูไหมมี่”
“ไม่เอาครับ โรลลี่หายงอนพี่นะ พี่คิดถึงโรลลี่มากเลยนะ อยากกอดหอมแก้มจะแย่”มันพูดพร้อมกับเดินเข้ามาประตูรั่วแล้วทำหน้าทำตาอ้อนตีนแบบสุดๆ
“ช่วยไม่ได้มึงทำตัวมึงเอง แล้วนี่มึงมาหากูทำไมเนี่ย”กูถามต่อ เริ่มรู้สึกไม่ไหวล่ะ ขืนยืนนานกว่านี้กูได้แพ้ทางยกโทษมันแน่ๆ ทั้งที่ใจจริงตอนนี้กูก็ไม่โกรธมันสักเท่าไหร่ละ ไม่รู้ซิเหมือนใจกูบอกให้เชื่อสิ่งที่ไอ้มี่พูดออกมาทั้งหมด ทั้งที่บางอื่นมันอาจจะกำลังโกหกกูอยู่ก็ได้
“ก็งานเสร็จแล้วอีกอย่างจะเอามาของมาให้โรลลี่ด้วย”มันพูด
“ของอะไร”
“ก็ของขวัญที่โรลลี่สอบติดไง ตอนแรกก็ว่าจะให้อย่างอื่นกะว่าจะเก็บไว้ให้โรลลี่ตอนวันเกิดพี่ แต่พี่คิดไม่ออกว่าจะให้อะไรโรลลี่ดีเลยเอาอันนี้มาให้”มันพูดหน้าเศร้าก่อนจะยื่นของสิ่งนั้นมาให้ผ่านประตูรั่วบ้าน เป็นสมุดวาดรูปปกแข็งสีดำธรรมดาไม่ได้มีลวดลายสวยงามอะไรเหมือนสมุดวาดรูปปกแข็งทั่วไปที่เห็นตามร้าน แต่ภาพด้านในนี่แหละที่เอากูอมยิ้มขึ้นมาทันที หน้าแรกเป็นรูปที่กูกับไอ้มี่ถ่ายคู่กัน ทั้งรูปฟิล์มปกติและรูปสติเกอร์ ส่วนหน้าที่สองเป็นข้อความที่ไอ้มี่เขียนมาให้กูเต็มหน้ากระดาษ ส่วนแผ่นอื่นหลังจากนนี้ก็เป็นภาพวาดด้วยดินสอ มันวาดจำลองสถานที่และเหตุการ์ณต่างๆระหว่างกูกับมัน โดยเขียนวันที่และเวลากำกับไว้ที่มุมกระดาษแต่ละแผ่น
“ความคิดดีนิ”กูพูดหลังจากดูผ่านๆจนหมดเล่ม ปลื้มมากนะเนี่ย หายโกรธแล้วกู
“โรลลี่อ่ะอย่าพูดแบบนี้ดิ พี่ตั้งใจมากเลยนะ พี่เริ่มวาดตั้งแต่วันแรกๆที่เราคบกันเลย หายโกรธเหอะนะ
เปิดประตูให้พี่เข้าบ้านนะ นะๆ”ไอ้มี่พูดอ้อนวอนเป็นเด็กๆเลยอ่ะ กูเห็นหน้าหมาหงอยของมันแล้วนึกหมั่นไส้ รู้ว่ากูชอบให้มันอ้อนนี่อ้อนใหญ่เลยนะ แต่เสียใจวะครั้งนี้กูเอาจริง อยากหมางเมินกูก่อนเองนะ
“ไม่ ไม่เปิดกูง่วงแล้ว จะไปนอนแล้วด้วย ส่วนมึงก็กลับไปนอนบ้านตัวเองซะ”กูพูดหน้าตาย ไอ้มี่ทำหน้าประท้วงกูทันที
“ไม่เอาอ่ะ โรลลี่อย่าเล่นแบบนี้ดิ”มันโวยวายเป็นเด็ก มีกระทืบเท้าและจิ๊ปากแบบขัดใจด้วย
“ไม่ได้เล่น กูพูดจริงทำจริงด้วย อาทิตย์นี้กูมีสอบทั้งอาทิตย์ ฉะนั้นกูต้องใช้เวลาส่วนใหญ่อ่านหนังสือ ถ้ามีมึงมาอยู่ด้วย กูก็ไม่ได้อ่านหนังสือดิ”กูพูด
“เห้ยไม่เอาดิ โรลลี่ทำไมเป็นคนแบบนี้วะ ก็โรลลี่สอบติดแล้วอ่ะจะมานั่งเครียดอีกทำไม”
“ติดแล้วยังไง ก็กูอยากจบด้วยเกรดสวยๆอ่ะ ทำไมมึงมีปัญหารึไง”
“โรลลี่ใจร้ายโคตรอ่ะ”
“เพิ่งรู้รึไง กลับๆไปได้ล่ะ กูจะต้องขึ้นไปอ่านหนังสือก่อนนอนอีกนิดหน่อย”กูพูดแล้วแกล้งหันหลังทำท่าจะเดินหนีมันเข้าบ้านมา
“พรุ่งนี้ล่ะ”ไอ้มี่ตะโกนตามหลังมา
“พรุ่งนี้ทำไม”กูหันไปถาม หน้ามันเศร้าได้อีก เห็นแล้วสะใจชะมัด
“ถ้าพรุ่งนี้มาหา โรลลี่จะยอมให้กอดไหม”มันถามกล้าๆกลัวๆ
“อยากกอดกูรึไง”กูถามกลับ ไอ้มี่มองหน้ากูแล้วพยักหน้ารัวทันที
“จูบด้วย”ดูมันก็แล้วกัน นี้ขนาดยังไม่ได้คืบมันจะเอาศอกแล้วเลย
“ไม่วะ พรุ่งนี้กูสอบคงจะเครียดมาก คงไม่มีอารมณ์มายืนกอดจูบกับใคร”กูพูดหน้าตาย
“ใครที่ว่านั่นแฟนโรลลี่นะ!”เสียงห้วนมาเลยเว้ย ทำหน้าย่นคิ้วขมวดได้อีก น่ารักอ่ะ ทำไมกูชอบตอนมันเป็นแบบนี้จังวะ
“อ้าวหรอ เกือบลืมไปแล้วนะเนี่ยว่าตัวเองมีแฟน”ขอประชดให้รู้สึกผิดสักหน่อยเหอะ
“ขอโทษครับ”มันก้มหน้ายอมรับผิด ขัดกับหน้าตาภายนอกของมันจริงๆแล้วยิ่งเสือกเจาะคิ้วแบบนี้ยิ่งดูขัดกับท่าทางหงอยๆแบบนี้เข้าไปใหญ่
“หึหึ กลับบ้านไปได้แล้วไป ยืนให้ยุงดูดเลือดอยู่ได้”กูพูดอย่างเป็นห่วง ไอ้มี่เงยหน้าขึ้นมองหน้ากูนิดหน่อย
“ฝันดีนะครับ รักโรลลี่นะ”ไอ้มี่พูดเสียงอ่อยก่อนจะหันหลังเดินไปที่รถ กูยิ้มมุมปากแล้วตะโกนตามหลังมันไป
“พรุ่งนี้กูไม่หยิ่งให้หอมก็ได้”ไอ้มี่ที่กำลังจะขึ้นรถหันกลับมายิ้มโชว์เขี้ยวเสน่ห์ใส่กูทันที
“หมั่นไส้เว้ย”ไอ้โรมพูดแซวกูทันทีที่กูเดินยิ้มร่าเริงเข้ามาในบ้าน
“หึหึ มึงกูดีใจจัง”กูวิ่งเข้ามานั่งเบียดไอ้โรมบนโซฟาพร้อมกับเอาหน้าตัวเองบี้ลงกับหัวไหล่มันแรงๆ ฮาตัวเองโคตรอ่ะ เมื่อกี้ตอนคุยกับไอ้มี่กูโคตรเก๊กขรึมมากอ่ะ ไม่อยากยิ้มหรือหัวเราะให้มันเห็นเดี๋ยวแม่งก็ได้ใจอีกอ่ะ
“ประสาทแล้วน้องกู”ไอ้โรมพูดแล้วผลักหัวกูอย่างหมั่นไส้
“ดีใจอ่ะมึง มันมาง้อกูแล้ว มันให้นี่กูมาด้วย มึงอ่ะกูเขิน”ฮ่าๆทำไมกูเหมือนคนบ้าได้มากขนาดนี้วะเนี่ย กูยื่นสมุดวาดรูปที่ไอ้มี่ให้กูเมื่อกี้ให้ไอ้โรมดู
“ใช่ได้เหมือนกันเว้ย ความคิดดีๆ”ไอ้โรมพูดพร้อมกับผลิกหน้าอื่นดูไปเรื่อยๆบางเหตุการณ์ที่กูเหมือนจะลืมๆไปแล้วไอ้มี่ก็วาดขึ้นมาให้กูนึกจำขึ้นมา อย่างเช่นเรื่องที่กูกับมันไปทะเลาะกันที่จตุจักร เรียกว่าคราวนั้นต่างคนต่างไม่มีใครยอมใคร มันไม่มาง้อกูพอๆกับที่กูไม่สนใจมีน นั่งก๋วยเตี๋ยวกันคนละโต๊ะ พอมาเห็นรูปที่มันวาดแล้วกูก็นึกฮาขึ้นมา
“มึงมันบอกผู้หญิงคนนั้นไม่ใช่แฟนใหม่มันด้วย”กูพูดบอก
“นั่นไง กูว่าละน้องคนนั้นที่มันมาด้วยหน้าคุ้นๆ รู้สึกว่าจะมีแฟนเป็นผู้หญิงเหมือนกันด้วยนิ”ไอ้โรมพูดบอก
“หรอวะ แต่ไม่สนใจ มันทำให้กูคิดมากก่อนเอง สมน้ำหน้ามันละ”กูพูดขึ้นเพราะอยู่ดีๆก็เสือกนึกขึ้นมาว่านี่กูใจร้ายกับมันมากหรือเปล่า แต่ก็ช่างเหอะกูขอดัดนิสัยมันก่อนละกัน ถึงเหตุผลที่หายไปของจะฟังพอมีน้ำหนักอยู่บ้างแต่ยังไงมันก็น่าหงุดหงิดสำหรับกูอยู่ดี มันผิดเองนะที่เสือกดีและแทคแคร์กูดีมาตลอดแล้วอยู่ดีๆก็มาหายไปไม่บอกกล่าว กูจะโกรธนิดงอนหน่อยๆก็ไม่ผิด
“พรุ่งนี้มึงสอบเสร็จกันกี่โมง”ไอ้โรมถามขึ้นหลังจากที่มันนั่งดูรูปพวกกูอยู่นานสองนาน
“สิบเอ็ดโมงมั้งถ้ากูจำเวลาไม่ผิดนะ”กูบอก
“เสร็จแล้วจะไปไหนกันหรือเปล่า”ไอ้โรมถามอีก
“ไม่รู้ดิยังไม่แน่ใจ อาจจะไปมั้งถ้าไม่มีใครติดธุระ”กูบอก
“ธุระเหี้ยไร”
“ก็ธุระเรื่อยเปื่อยไง ไอ้นุก็อาจจะไปหาเมียมัน ส่วนไอ้แชมป์ก็น่าจะพาเด็กไปเที่ยวต่อ ส่วนกูถ้าไอ้เนมไม่มานัวเนียด้วยก็คงกลับบ้าน ส่วนน้องจ๊ะมึงอันนี้กูไม่รู้ มึงถามทำไม”
“เปล่า ถามเฉยๆ”มันพูด แต่หน้าตามึงมีพิรุธมากอ่ะ
“แน่ใจ ไม่ใช่ไปทำอะไรให้เพื่อนกูน้อยใจอีกใช่ไหม ทำไมมึงเป็นคนแบบนี้วะ”กูพูดบ่นไอ้โรมทันที
“อะไรของมึง กูเปล่าทำอะไรเลยนะเว้ย”มันร้อนรนแก้ตัวกลับมาทันทีเหมือนกัน
“โม้ๆ ไม่ต้องเลย มึงแม่งตลอดอ่ะ ก็รู้ว่าไอ้จ๊ะมันขี้งอน เวลาจะพูดอะไรมึงต้องคิดนานๆหน่อย ไม่ใช้พูดออกเปรี้ยงๆออกมาเหมือนตอนพูดกับกู”
“ห่าไรล่ะ ก็กูพูดแบบนี้มาตั้งนานละ เออหน่าเมียกูเดี๋ยวกูจัดการเอง ปล่อยงอนไปก่อนเจอหน้าค่อยจับง้อชุดใหญ่”พี่กู หน้ามึงตอนพูดโคตรมุ่งมั่นและหื่นมากไปไหน
“หึ พวกที่ชอบคิดว่าตัวเองแน่นี่เหี้ยจริงๆ”กูด่าไอ้โรมทิ้งท้ายก่อนจะเดินยิ้มอารมณ์ดีขึ้นมาบนห้อง กูล้มตัวลงนอนดูสมุดรูปภาพวาดของไอ้มี่อีกครั้ง ดูไปก็ยิ้มไป ทำไมกูเหมือนคนบ้าแบบนี้วะ
“ไงมึงมายิ้มแบบนี้ สะใจอะไรมาล่ะ”ไอ้นุถามระหว่างที่กำลังนั่งอ่านหนังสือรอสอบอีกหนึ่งวิชา
“โคตรๆอ่ะสัด แล้วนี่ไอ้จ๊ะกับไอ้แชมป์อ่ะ”กูถาม เพราะตั้งแต่ออกจากห้องสอบมากูยังไม่เห็นพวกมันสอง
ตัวเลย
“ไม่รู้ดิ กูออกมาก็ไม่เจอละ สงสัยไปเข้าห้องน้ำ”ไอ้นุบอก กูพยักหน้าเข้าใจแล้วหันมาอ่านข้อความล่าสุดที่ไอ้มี่มันส่งมา หลังจากเมื่อคืนที่กูไล่มันกลับบ้านไป มันก็เที่ยวโทรมาไม่รู้กี่สิบสายแต่กูไม่รับสักสาย จนมันเปลี่ยนวิธีเป็นส่งข้อความมาหาแทนแต่กูก็ไม่ได้ตอบกลับไปเหมือนเดิม ต้องทำให้รู้สึกบ้าง
[รีบกลับมานะรออยู่ที่บ้านแล้ว คิดถึง]
ไอ้มี่ส่งมาและก็เป็นข้อความสุดท้ายหลังจากนั้นมันก็ไม่ได้ส่งมาอีก พวกกูนั่งรอจนถึงเวลาสอบวิชาสุดท้าย
ของวันนี้ กว่าจะสอบเสร็จเล่นเอาเหนื่อยโคตรอ่ะ มีแต่ตัวหนังสือทั้งนั้นเลยแม่ง อ่านกันตาลาย ออกมาจากห้องปุ๊บก็เจอไอ้เนมมายืนยิ้มหวานรอกูอยู่แล้ว
“พี่โรลทำได้ไหม วันนี้เนมทำไม่ได้เลย”ไอ้เนมเข้ามากอดแขนคลอเคลียกูเฉกเช่นทุกวัน วันนี้หนักหน่อยก็ตรงที่มันทำหน้าเหมือนคนจะร้องไห้
“ทำไมถึงทำไม่ได้ มึงไม่ได้อ่านหนังสือเหรอ”กูถามพร้อมกับลูบหัวปลอบมัน
“เนมอ่านนะ แต่ข้อสอบยากเกินเนมปวดหัว คณิตเนมก็ทำไม่ได้เหมือนกันอ่ะ เกรดเนมตกแน่เลย”มันพูดเสียงสั่นๆเหมือนคนจะร้องไห้ เห็นมันบ้าๆบอๆแบบนี้แต่ไอ้เนมมันจริงจังกับเรื่องเรียนมากนะ ร้องไห้ตลอดเวลาทำข้อสอบไม่ได้
“คิดมากหน่า มึงบ่นเกรดตกทีไรกูเห็นแม่งก็สูงขึ้นกว่าเดิมทุกที”กูพูดปลอบและตบแก้มมันเบาๆ
“แต่ครั้งนี้เนมว่าตกจริงแน่ๆ ฮือๆเนมเหมือนจะร้องไห้เลย”
“อ่อนี่แค่เหมือนใช่ไหม กูนึกว่ามึงร้องแล้ว”กูพูดแซวเพราะตาไอ้เนมตอนนี้แดงเหมือนคนร้องแล้ว
“บ้า…เนมไม่ร้องหรอกเดี๋ยวพี่เสือด่า มันชอบหาว่าเนมขี้ร้อง ทำอันนู้นอันนี้หน่อยไม่ได้ก็ร้อง ชิส์ ใครจะไปเหมือนมันล่ะ แข็งแรงถึกทึน”ไอ้เนมพูดบ่นงอนๆ กูชอบมองหน้ามันเวลามันเล่าเรื่องระหว่างมันกับพี่เสือให้กูฟัง หน้าตามันดูมีความสุขมาก เหมือนเด็กที่สดใส น่ารัก ขี้อ้อนอยู่ตลอด กูมาคิดๆดูถ้าตอนนั้นกูกับไอ้เนม
เราถล่ำลึกกันไปมากกว่านี้ ไม่รู้ว่าตอนนี้กูกับมันจะมานั่งยิ้มกันอยู่แบบนี้หรือเปล่า เนมมันน่ารักใครอยู่ใกล้
ก็ชอบแต่มันก็มีความแรงของมันอยู่ในตัวเหมือนคนปกติที่มีทั้งด้านดีและด้านเลว
“แล้วมึงรักไหม”กูถามกลับ
“บ้า…ก็รักดิ ไม่รักเนมจะยอมให้มันด่าเหรอ”ไอ้เนมตอบหน้าแดงแบบอายๆ
“หึหึ กูเห็นมึงยิ้มได้มีความสุขแบบนี้กูก็ดีใจ กูชอบนะเวลามึงยิ้ม มึงหัวเราะ มึงน่ารักมากสำหรับกูรู้ตัว
หรือเปล่า”
“อื้อ…พี่โรลอ่ะ เป็นไรเนี่ยอยู่ดีๆก็มาพูดแบบนี้กับเนม”ไอ้เนมพูดหน้าแดงมันเหมือนจะทำหน้าไม่ถูก ไม่รู้ว่า
จะยิ้มหรือายดี
“ก็อยากพูดอ่ะ กูรักมึงนะ มีอะไรให้นึกไว้เสมอว่ากูอยู่ข้างมึง เข้าใจไหม”กูพูดพร้อมกับลูบแก้มนิ่มๆของไอ้เนมด้วยมือทั้งสองข้าง จบม.6ไป กูกับไอ้เนมคงไม่ได้มีโอกาสมานั่งคลอเคลียนัวเนียกันแบบนี้อีกแล้ว หลังจากนี้
กูก็คงต้องเริ่มต้นปรับตัวเข้ากับสังคมใหม่ๆที่กว้างขึ้น ส่วนไอ้เนมก็กำลังจะกว้างขึ้นมาเป็นพี่ใหญ่ของโรงเรียน ถึงตอนนั้นกูก็คงไม่ได้มานั่งให้มันอ้อนแบบนี้บ่อยๆ
“อึก…พูดทำไมอ่ะ เนมร้องไห้เลย เนมก็รักพี่โรลนะ”มันกอดคอกูแน่นพร้อมกับพูดบอกปนเสียงสะอื้น กูยิ้มและหอมแก้มมันเบาๆ
“ขี้ร้องหน่า มึงจะขึ้นม.6แล้วนะ เลิกขี้แงได้แล้ว ลุกขึ้นเดี๋ยววันนี้กูพาไปซื้อของขวัญ”กูพูดแล้วลุกขึ้นยืนพร้อมดึงมือไอ้เนมให้ลุกขึ้นตาม
“ของขวัญอะไร ยังไม่ถึงวันเกิดเนมซะหน่อย”
“ของขวัญตามอารมณ์ กูอยากให้หรือมึงจะไม่เอา กูจะได้ซื้อให้ไอ้มิ้นคนเดียว”
“หึ ไม่เอาอ่ะ เรื่องไรล่ะ ไปๆไปซื้อของขวัญกัน อิอิ”ดูความตอแหลบวกแรดอ่อนๆของไอ้เนมมันก็แล้วกัน
เมื่อกี้ยังร้องไห้งอแงอยู่เลย พอรู้ว่าจะได้ของหน่อยปรับเปลี่ยนอารมณ์ร่าเริงทันที
“มึงนี่ป๋าเนอะ”ไอ้จ๊ะพูดขึ้นระหว่างที่กำลังยืนรอไอ้เนมเลือกตุ๊กตาหมีอยู่ในร้าน มันต้องเลือกสองตัว ของตัวเองนึงและอีกตัวนึงก็ของไอ้มิ้นมัน ขืนซื้อให้ไม่เหมือนกันกูนี่แหละที่จะซวย
“ก็กูรักมึงอ่ะ”กูตอบ
“หึ รักมากกว่าคนที่รอมึงอยู่ที่บ้านไหม”
“หึหึ เหี้ยรักคนละแบบเว้ย ของแบบนี้มันเทียบกันไม่ได้”กูพูดแล้วหัวเราะเบาๆ
“เหอะ ไอ้สัด แล้วนี่จะไปไหนต่อ กูว่าป่านนี้จิมมี่คงหงุดหงิดจะบ้าตายแล้วมั้ง”
“ปล่อยมัน อยากทำกูก่อนทำไม รอนิดรอหน่อยแค่นี้ไม่ตายหรอก”
“ปากดีมากอ่ะสัด”
“แน่นอน กูน้องไอ้โรมหนิ เออใช่..เมื่อวานมันถามกูว่าสอบเสร็จกี่โมงกูนึกว่ามันจะมารับมึงกลับซะอีก”กูพูด ไอ้จ๊ะเบ้ปากแล้วทำหน้างอแบบงอนๆทันที
“พี่มึงเป็นคนแบบนี้แหละ ชอบทำให้กูเป็นบ้า แม่ง..ถามเหมือนสนใจแต่ก็เย็นชาเหมือนเดิม”
“หึหึ ไม่หรอกมั้ง พี่กูร้อนจะตายมึงก็รู้หนิ”กูพูดแล้วทำหน้าเจ้าเล่ห์ให้ไอ้จ๊ะมันคิดลึกไปไกลๆ
“สัดวะแม่ง กวนตีนกูทั้งพี่ทั้งน้องจริงๆ”ไอ้จ๊ะและผลักหัวกูแบบหมั่นไส้ก่อนจะเข้าไปช่วยไอ้เนมเลือกตุ๊กตาหมีในร้าน ซื้อหมีให้ไอ้เนมเสร็จกูก็ต้องมาส่งมันที่บ้านอีกเหมือนทุกวันแล้วค่อยนั่งรถย้อนกลับบ้านตัวเอง
“ไปไหนมา กวนตีนนักนะมึง”ไอ้โรมพูดแล้วเข้ามาตบหัวกูทันที
“กวนตีนเหี้ยไร มันอยู่ป่ะเนี่ย”กูถามแล้วบุ้ยปากไปทางด้านบน
“อยู่ดิ ไม่รู้แม่งป่านนี้เป็นลมตายแล้วมั้ง เรียกให้มากินข้าวก็ไม่กิน”
“หึหึ แล้วมึงกินข้าวยังเนี่ย”
“กินแล้วดิ ให้รออะไรอีกอ่ะ”
“เออๆไม่คุยกับมึงล่ะ ขึ้นห้องไปแกล้งเด็กดีกว่า”กูพูดอย่างอารมณ์ดีพร้อมกับเดินขึ้นมาบนห้องด้วยท่าทางที่สบายสุด
“หึหึ”กูหัวเราะเบาๆเมื่อเปิดประตูเข้ามาแล้วเห็นไอ้มี่นอนหลับกอดหมอนข้างกูสบายอยู่บนที่นอน กูเดินมาหยุดที่ข้างเตียงแล้วค่อยๆก้มหน้ามองใบหน้าไอ้มี่ตอนนี้ที่กำลังหลับ เห็นจิวเล็กๆที่คิ้วมันแล้วนึกหมั่นไส้เบาๆ ที่มันบ้าไปเจาะมา เลยเอามือไปลูบผ่านเบาๆและไม่คิดว่ามันตื่น
“ทำไมกลับช้า”ไอ้มี่จับมือกูแน่นแล้วลืมตาขึ้นมาจ้องหน้ากูแบบงอนๆ
“มาทำไม”กูไม่ตอบแต่เลือกที่จะถามกลับแล้วทำหน้านิ่งๆแบบสุดๆ
“ก็โรลลี่บอกให้มา”มันพูดเสียงอ่อยทันที
“กูบอกตอนไหนมิทราบ มึงอย่ามา แล้วก็ลุกขึ้นมาจากที่นอนกูด้วย”กูพูด
“โรลลี่เป็นอะไร ทำไมยังไม่หายงอนอีกอ่ะ”ไอ้มี่พูดเสียงเหวี่ยงนิดๆ
“กูไม่ได้งอนหนิ จะให้หายได้ยังไง”
“ถ้าไม่งอนแล้วทำไมต้องเฉยชาแบบนี้ด้วย ยิ้มให้สักนิดก็ไม่มี”มันก้มหน้าก้มตาพูดแบบน้อยใจก่อนจะลุกขึ้นเดินผ่านกูไปนั่งที่โต๊ะคอม
“กูผิดอีกงั้นซิ”กูพูด
“……………………”ไอ้มี่ไม่ตอบก้มหน้าก้มตางอนกูลูกเดียว กูหันไปมองท่าทางของมันตอนนี้แล้วนึกหมั่นไส้
“ถ้าจะมาแล้วนั่งเงียบงอนแบบนี้มึงกลับไปเลยไป”กูพูดขึ้น ชักหงุดหงิดมันขึ้นมาจริงๆล่ะ ทั้งที่ตัวเองผิดก่อนแท้ๆยังจะเสือกมางอนกูกลับอีก
“กลับก็ได้”ดูมันพูดดิ จะกวนตีนกูรึไงวะ
“เออ กลับไปเลยนะ แล้วไม่ต้องกลับมาอีกด้วย อยากไปก็ไปเลย”เอาดิ คิดว่างอนเป็นคนเดียวรึไง พูดเสร็จกูก็เดินเข้าห้องน้ำเพื่อที่จะล้างหน้าล้างตาให้หายโมโหซะหน่อย คิดแล้วมันน่าหงุดหงิดไหม กูที่ว่าต้องโดนง้อเสือกกลายเป็นต้องมาง้อมาซะงั้น
“อะ อื้อ…”ตกใจมากอ่ะกู ไม่ทันได้ตั้งตัว ออกมาจากห้องน้ำปุ๊บกูก็โดนมือดีมันลากเข้ามาจูบปากทันที และกูที่เสือกโหยหาจูบแบบนี้กับคนนี้ของกูอยู่แล้วเลยเคลิ้มได้ง่ายๆแบบไม่ต้องคิดอะไรมาก ไอ้มี่พากูเดินจูบมาล้มตัวลงบนที่นอนพร้อมกับมือที่พยายามจะปลดกระดุมเสื้อนักเรียนกูออก
“อะ อื้อ มี่ อย่ากัด อื้อ”กูครางเจ็บเล็กน้อยเมื่อไอ้มี่มันใช้ฟันคบกัดหัวนมกูเบาๆผ่านเสื้อนักเรียนที่ใส่
“ไม่เอา อย่าเพิ่ง”กูพูดและจับหัวไอ้มี่ที่กำลังไซร้ลงต่ำไปเรื่อยๆจนถึงขอบกางเกง มันใช่มือแกะเข็มกลัดและปลดตะขอกางเกงกูออกได้แบบไม่ยากของแบบนี้คนมันเคยๆ
“ทำไมอ่ะ”ไอ้มี่เงยหน้าถามกูตาละห้อย
“มึงยังมีคดีอยู่”กูพูด ไอ้มี่ชักหน้าหงุดหงิดใส่เล็กน้อยแล้วลุกขึ้นนั่งแบบขัดใจ
“โรลลี่ไม่แฟร์อ่ะ พี่คิดถึงจะแย่อยู่แล้วนะ”ไอ้มี่หันมาพูดบอกกูที่นอนยิ้มอยู่เหมือนเด็กที่โดนขัดใจ
“………………..”กูเงียบไม่พูดตอบโต้ใช้สายตาอย่างเดียว
“ทีแบบนี้ละมาคิดถึง รู้รึยังตอนกูคิดถึงมึงมากๆมันเป็นยังไง”กูพูดแล้วลุกขึ้นมานั่งข้างๆมันพร้อมกับเอามือไปลูบไล้ไปตามโครงหน้าที่โคตรจะได้รูปของมัน เพราะหน้าตาแบบนี้ซินะที่ทำให้กูอดระแวงไม่ได้จริงๆ กูเป็นแบบนี้มาตั้งแต่ไหนแต่ไรจะให้เปลี่ยนก็คงไม่ได้ แต่ก็ใช่ว่ากูจะระแวงไปซะทุกเรื่อง กูแค่ระแวงมากบางครั้งถ้ามันทำตัวให้น่าสงสัย
“แก้แค้นว่างั้น”ไอ้มี่พูดเคืองๆ
“หึ ไม่เคยเหอะ”กูพูดกวนตีนนิดๆ
“ครับๆเชื่อก็ได้ แต่พี่ไม่ได้ตั้งใจจะหายไปจริงๆนะ”มันพูดแล้วทำหน้าตาจริงจังขึ้นมาแบบให้กูมั่นใจ
“หึ กูไม่ว่านะเว้ยถ้ามึงจะตั้งใจจะทำงานจนลืมกูบ้าง แต่อย่าลืมจนสนิทได้ไหม อย่าทำให้กูรู้สึกว่าถ้าไม่มีมึงกูก็อยู่ได้ กูยังไม่อยากรู้สึกแบบนั้น ไม่ต้องโทรหาก็ได้แค่ข้อความสั้นๆให้กูรู้ว่ามึงยังไม่ลืม แค่นี้เอง”
“ขอโทษนะ ทั้งที่สัญญาแล้วว่าจะไม่ทำให้เสียใจอีก แต่ก็ทำจนได้”ไอ้มี่พูดพร้อมกับรวบกูเข้าไปนั่งคร่อมตัก
กูยิ้มให้มันนิดหน่อยก่อนจะซบหน้าลงบนบ่าของมัน
“อย่าสัญญาเลยเดี๋ยวมึงก็ทำอีก”กูพูดแล้วจูบปลายคางมันหนึ่งทีเบาๆ
“ไม่สัญญาก็ได้ แต่พี่จะทำให้โรลลี่รู้สึกเอง โอเคนะ”ไอ้มี่พูดแล้วก้มหน้าลงมาจุ๊บปากกู
“ให้มันได้อย่างที่ปากพูดละกัน กูจะรอดู”กูพูดยิ้มๆ
“งั้นไม่ต้องรอ ทำให้รู้สึกเลยละกัน ว่าพี่ไม่เคยลืมโรลลี่แม้แต่วินาทีด้วย”ไอ้มี่พูดก่อนจะก้มหน้าลงมาจูบปากอีกครั้งอย่างอ่อนโยน กูไม่รู้ว่าเรื่องต่อจากนี้ระหว่างกูกับมันจะมีอะไรเปลี่ยนแปลงมากน้อยขนาดไหน
แต่ ณ.ปัจจุบัน ตอนนี้เวลานี้ ไอ้มี่อยู่กับกู มันกับกูกำลังจูบ เรากำลังแนบกายลึกซึ่งแบบที่คนรักกันเขาทำกัน ใจของมันเป็นกูพอๆกับที่ใจของกูก็เป็นของมันแต่เพียงผู้เดียว หลังจากนี้อีกสองสองเดือนกูอาจจะเลิกกับมันก็ได้ใครจะรู้ แต่ถ้าไม่เลิกล่ะ กูกับมันก็คงจะคบกันไปเรื่อยๆ คบกันไปจนกว่าที่ใจของเราไม่ได้เป็นของกันและกัน
***********************************THE END
|