“โย่ว คุณพ่อบ้าน เดี๋ยวนี้ทำไมมาที่มหาลัยคนเดียวล่ะไอเจ้านายของคุณมันหายไปนะซะล่ะ”
“คะ….คุณลีโอ” ผมตกใจเสียงของผู้ชายที่เป็นเพื่อนของคนที่ผมแอบรัก เล่นเข้ามาด้านหลังเงียบๆซะได้
“ไม่เห็นจะต้องตกใจขนาดนั้นเลยนี่นา” เขาพูด
“ไม่ตกใจสิครับ ที่แปลก คุณมาเงียบๆ แบบนี้” ผมตอบเขา
“หน้าตาดูเศร้าๆนะคุณเนี่ย อกหักมาหรือไงครับ”
“มันไม่ใช่ธุระกงการอะไรของคุณเท่าไหร่หรอก”
“หืม…. อย่าลืมสิว่าผมก็ชอบคุณอยู่นะ” เขาพูดแล้วดึงตัวผมเข้ามาโอบ
“ปล่อยเถอะครับ” ผมพยายามดิ้นเพื่อที่จะได้หลุดออกจากวงแขนของเขา
“ผมไม่ปล่อย ผมดูออกนะ ว่าคุณชอบไอฟรีซ แต่ว่าคุณเองก็รู้ว่ามันไม่ได้ชอบผู้ชาย มันเป็นไปไม่ได้หรอก นี่…มาคบกับผมเถอะ ผมมั่นใจนะ ว่าผมเองก็หน้าตาดีไม่แพ้มันหรอกจะไม่ทำให้คุณเสียใจเลยล่ะ….” เขาพูดประโยคสุดท้ายพร้อมกับจับหน้าผมเงยขึ้นในออมกอดของเขา
“ไม่มีทาง ผมเข้าใจความรู้สึกของคุณแต่ผมเองก็ถ้าไม่ใช่คนที่ชอบยังไงสำหรับผมก็เป็นไปไม่ได้” ผมตอบลีโอ
“ผมจะทำให้คุณเข้าใจว่า ถึงเป็นผมก็เป็นไปได้” สิ้นประโยคนี้ของเขาเขาก็ระดมจูบผม กลางโรงอาหาร ที่เราสองคนกำลังยืนคุยกันอยู่ผมพยายามดิ้นสุดแรงเกิด พร้อมชกเขาไปเต็มๆแรง
“คุณจำเอาไว้นะ คุณลีโอ ผมเข้าใจความรู้สึกของคุณที่มีให้ผมแต่คุณก็ต้องเข้าใจผมด้วย ถ้าคุณชอบผมจริงๆเขาไม่จูบก่อนที่จะได้ยินคำว่ารักของอีกฝ่ายหรอก คุณทำแบบนี้ก็เหมือนดูถูกผมนั่นแหละ ผมขอตัว” ผมพูดจบแล้วก็เดินออกห่างจากเขา พอคิดดูแล้วชีวิตเราจะเจออะไรที่มันแย่ไปมากกว่านี้ไหมเนี่ย เฮ้อ….
ณ ร้านกาแฟ
ผมรู้สึกเซ็งโลกมากจนกระทั่งมานั่งทำงานของมหาลัยที่ร้านกาแฟส่วนเรื่องงานก็ทำอยู่ที่บริษัทเดิม ท่านประธานเองก็ให้เงินเดือนเท่าเดิมผมเองมีเรื่องอะไรที่ต้องไม่สบายใจอยู่อีกรึเปล่า เงินก็พอใช้ เหลือเก็บเหลือเฟือเกรดก็ดี แต่ทำไมถึงทุกข์ใจได้ก็ไม่รู้ ถ้าเป็นคนอื่นป่านนี้คงสบายใจไปแล้วมากกว่าแต่เพราะว่าตัวเอง มัวแต่ต้องคิดเรื่องผู้ชายพรรคนั้น มันเลยหน้ารำคาญทั้งๆที่ทำให้เรารู้สึกเจ็บหัวใจมากมายถึงขนาดนี้แท้ๆแต่เราก็ไม่ได้รู้สึกดีใจเลยด้วยซ้ำ ที่ออกมาห่างจากหมอนั่นแต่มีอยู่เรื่องนึงที่สบายใจคือมันทำให้เราไม่ต้องตอกย้ำตัวเองว่ารักคนคนนั้นแค่ไหนจนมาถึงขนาดนี้แล้วยังไม่รู้เลยว่า ชอบคนแบบนั้นไปได้ยังไง ก็อย่างที่ลีโอบอกว่ายังไงมันก็เป็นไปไม่ได้แท้ๆ ให้ตายสิไม่มีสมาธิทำงานเลยแฮะ…. จะบ้าตาย แถมตอนนี้ยังรู้สึกเวียนหัวซะด้วยหรือว่าเราเองก็หักโหมมากเกินไปกันนะ นั่นสินะ ทำงานที่ทำงานพิเศษ แล้วก็ท่องหนังสือติดต่อกันแถมทำงานมหาลัยจนไม่ได้พัก กลับบ้านดีกว่าไหม
“คิดเงินด้วยครับ” ผมเรียกพนักงานร้านกาแฟเพื่อเชคบิล
“ทั้งหมด 129 บาทครับผม”
“นี่ครับ” ผมยื่นเงินให้พนักงาน แต่เอ๊ะ เวียนหัวจังเหมือนจะวืดลงไปเลย
“หะ เห้ยยย คุณลูกค้าครับ ไหวรึเปล่าครับ” พนักงานเริ่มสังเกตอาการผมที่ทรงตัวยืนแทบไม่อยู่
“พะ… ผมยังไหวไม่เป็นไรครับ” ที่จริงก็จะไม่ไหวนั่นแหละ แต่ตอนนี้ต้องฝืน อา…แต่ ไม่ไหวแฮะ
‘พรึ่บ’
‘หมับ’ ผมเข่าทรุดตัวเกือบจะลงไปนอนที่พื้น แต่ก็มีคนคนนึงมารับตัวผมเอาไว้โชคดีที่หัวไม่กระแทกพื้น
“ขอบคุณนะครับ เดี๋ยวผมจะเป็นคนดูแลเค้าเอง” เสียงที่ผมเหมือนจะโหยหาและ คุ้นเคยดังอยู่ข้างๆผม แต่ผมคิดว่า อาจไม่ใช่เขา มันเป็นไปไม่ได้หรอกที่เขาจะมาที่นี่ แต่ถ้าหากเป็นจริงขึ้นมา ผมก็ควรจะดีใจ…. รึเปล่านะ