◊ C h a p t er 1 5 ◊
เ ลื อ ด
ซีบุกเข้ามาจนเกือบจะถึงห้องในสุด..เขาได้กลิ่นสเปเชียล ระหว่างมาเขาทำร้ายคนไปไม่น้อยตายไปก็เยอะ หนีไปก็มาก…. ลูกปืนช้ากว่าเขา…หากโดนก็เพียงแค่เฉี่ยวไม่ก็ฉากๆ ไป แต่ก่อนจะพวกมันจะได้รัวลูกปืนใส่เขาก็ลดจำนวนไปมาก…
ตายก่อนจะรู้ตัวซะอีก
พวกใจเสาะ….พอเห็นเพื่อนตัวเองอยู่ๆก็ล้มลงไปอย่างไม่ทันตั้งตัวหันไปอีกทีก็นอนตายอยู่ข้างๆ ซะแล้ว...และเกิดขึ้นติดๆ กันเรื่อยๆ
ก็โวยวายปอดแหกวิ่งหนีกันชุลมุน
ตัดกำลังไปได้เยอะทีเดียว
มนุษย์มักกลัวสิ่งที่มองไม่เห็น และอธิบายไม่ได้…
พอหลังจากลอบฆ่าให้พวกมันตื่นกลัวและหนีกันหัวซุกหัวซูนจนคิดว่าปริมาณที่เหลืออยู่สามารถเก็บได้หมดไม่หลุดรอดไปแน่จึงเริ่มบุกเข้าไปซึ่งๆ หน้า ไอ้พวกที่เหลืออยู่คือพวกใจแข็งจริงๆน่าเสียดายที่ต้องมาตาย….ไม่สิ
มันสมควรตายแล้ว
เมื่อเขามาถึงสิ่งที่ให้เขาช็อคกว่าห่ากระสุนปืนก็คือภาพที่เห็นตรงหน้าหลังจากที่เขาเปิดประตูห้องที่คิดว่าเป็นห้องที่มีคนที่เขากำลังตามหาอยู่เข้าไป
คนคุ้นตากำลังเงื้อมือปักคมมีดเข้าที่เนื้อของตัวเอง!
ระหว่างที่อุ้มสเปเชียลไว้ในแขนนัยน์ตาสีทองเหลือบมองต้นขาที่ชุ่มไปด้วยเลือดของอีกฝ่าย ก็ต้องส่ายหน้า…
เด็กนี่มันใจเด็ดจริงๆ ทั้งใจร้อนใจหนัก…..คนแบบนี้ใจน่ากลัว ไม่ควรเข้าใกล้
แต่ไม่รู้เมื่อไหร่ที่เขาเริ่มวางตาจากเจ้าพิเศษคนนี้ไปไม่ได้
ความรู้สึกแบบนี้….เขาไม่เข้าใจ
แผลที่ขาคงลึกพอสมควร….เล่นแทงซะไม่มีสติยั้งแบบนี้
กลิ่นที่โชยเข้าจมูกจางๆกลิ่นที่โดดออกมาจากกลิ่นคาวของเลือด….กลิ่นยา
เหตุผลที่แทงขาตัวเองนี่เดาได้ไม่ยากเลยนะ……
จะมีซักกี่คนที่จะระงับอาการจากยาด้วยการแทงเนื้อตัวเองซะครึ่งคมมีดแบบนี้..
ถึงได้บอกว่าเด็กพิเศษนี่….อันตราย
เขาอุ้มสเปเชียลมาจนถึงจุดที่คิวรออยู่บริเวณโรงงานไม่มีใครแล้ว ไม่ได้กลิ่นสิ่งมีชีวิต ไม่ได้ยินเสียงมนุษย์…..ที่เหลืออยู่ตายไปหมด ไอ้พวกที่หนีไปก็คงไม่กลับมาในเร็วๆ วันนี้….รวมทั้งเด็กๆ ก็หนีไปหมด แล้วด้วย
เขาไม่ได้มีความคิดจะช่วยเด็กพวกนั้น….มันไม่เกี่ยวกับเขา
แต่พอเขาบุกเข้าไปพวกชุดดำที่เฝ้าอยู่ทุกแห่งก็แตกตื่นกรูกันออกมาดูว่าเกิดอะไรขึ้นหลังจากเหตุการณ์ทั้งหมดเกิดขึ้น พวกเด็กๆก็อาศัยจังหวะหลบหนีกันออกไป….
เขารู้สึกว่าตัวเองโดนยิงถากไปหลายจุดจนเจ็บแสบนิดๆ ตามช่วงตัว
เขาเหลือบมองศพที่นอนเกลื่อนอย่างรังเกียจตอนอุ้มสเปเชียลออกมาพลางนึกไปถึงคนนอนไร้วิญญาณอยู่ข้างใน
เห็นเขาชัดแบบนั้นปล่อยไว้ไม่ได้
ยังไงก็ต้องตาย…
ระหว่างกำลังใช้ความคิดเพลินๆหลังจากวางเจ้าพิเศษเข้ารถและกำลังใช้ผ้าซับเลือดให้ เขาก็ต้องตกใจแทบช็อคไปจริงๆ
“ซี! เลือด!”
หางตาเห็นคิวรุดเข้ามาทางเขาอย่างไว
แต่เลือดของเขาหยดลงที่ต้นขาของสเปเชียลซะแล้ว…
“แม่งเอ้ย!”
เขาสบถออกมาเสียงดังอย่างลืมตัวพลันคว้าขวดน้ำมาราดตรงต้นขาของสเปเชียลจนหมดขวด…… แต่ไม่เป็นผล
ร่างของสเปเชียลกระตุกอย่างแรงตาเบิกกว้าง…แต่ไม่มีสติเขาอ้าปากหอบหนักอย่างคนหายใจไม่ออกเหมือนกำลังจะหมดลมหายใจและไม่นานก็เริ่มชัก…
เขาเบิกตามองภาพตรงหน้าอย่างทำอะไรไม่ถูก
เขาควรทำยังไง
“ซี พากลับคอนโดก่อน ค่อยว่ากัน”
เสียงของคิวเรียกสติเขาให้กลับมาเขาให้คิวไปขับรถก่อนจะอุ้มสเปเชียลขึ้นมา เสือกกายเข้าไปนั่งที่เบาะหลังกอดร่างสั่นกระตุกของสเปเชียลไว้….อาการชักแรงขึ้นเรื่อยๆจนเขาไม่กล้าออกแรงแขนต้านกลัวว่าแรงบีบเมื่อบวกกับแรงกระตุกจะทำให้กระดูกของอีกฝ่ายหัก
เมื่อคิวขับรถมาจอดที่ด้านในบริเวณจอดรถของคอนโดซีเปิดประตูลงจากรถทันทีก่อนจะเคลื่อนตัวอย่างเร็วชนิดที่มองไม่ทันเพื่อไปถึงห้องให้เร็วที่สุด
เขาวางร่างสเปเชียลลงที่เตียงนอนอีกฝ่ายยังชักไม่หยุด เขาเอาผ้ามากดซับแผลที่ต้นขาของสเปเชียลไว้……ลึกแบบนี้ควรเย็บ แต่ชักแรงขนาดนี้….ทำไม่ได้
ซีขยับช้อนตัวสเปเชียลมากอดเพื่อประคองร่างที่ยังชักไม่หยุดให้มีหลัก เขาควรทำไงดี…พาไปโรงพยาบาลไม่ได้…ไม่ช่วยอะไร
คนสุดท้ายที่เขาเห็นหลังจากเลือดซารายด์เข้าร่างกายไปก็มีอาการหนักแบบนี้ไปโรงพยาบาลก็รักษาไม่ได้ ไม่ว่าฉีดยาให้สลบหรือทำอะไรก็ไม่สามารถหยุดอาการของกายที่เกิดขึ้นได้เลยทำได้แค่มองคนชัก ร่างกระตุกติดต่อกันไม่หยุดจนหัวใจหยุดเต้นไป…. แต่จะให้ถอดใจมองดูเด็กนี่หมดลมเหมือนคนอื่นน่ะเหรอ
จะทำได้ยังไงล่ะ?!
“ตัวร้อนแบบนี้ในหนังสือบอกให้เอาผ้าเปียกมาเช็ดตัวหวะ” คิวเดินเข้ามาในห้องแตะมือลงที่ขาสเปเชียล อีกมือถือหนังสือไว้เล่มนึง…..ซีสะดุ้งเล็กน้อยเพราะไม่รู้ว่าอีกฝ่ายตามขึ้นมาเมื่อไหร่
เขาพยักหน้าลังเลเล็กน้อยแต่ก็เรียกให้คิวมาจับตัวคนชักไว้แทนก่อนจะไปหาอุปกรณ์มาเช็ดตัวและเสื้อผ้ามาเปลี่ยนให้สเปเชียล
เช็ดตัว?
เอ่อ….คือซารายด์ทั้ง 2
ถ้าน้องสเปตายละก็ไม่ต้องสงสัยเลยว่าตายเพราะอะไร
เลือดหมดตัว…
“ต้องบิดให้หมาด”
“หมาดกว่านี้ เอาแบบน้ำไม่หยด”
“อย่าเช็ดแรง! ซับๆ พอ”
“ถลอกกันพอดี”
“มีเขียนไว้ว่าใช้เจลเย็นวางที่ศีรษะ”
“เขาบอกว่าชักต้องระวังกัดลิ้นด้วยหวะเอาผ้ามายัดปากมั้ย”
ซีตวัดตาดุๆ มองไปที่อีกฝ่ายทันที…..มายัดตอนนี้จะทันมั้ย
เขาส่ายหน้า “ดูเหมือนจะหายใจไม่ออก ไม่ยัดดีกว่า”
ซีถอดเสื้อสเปเชียลออกเพื่อจะเปลี่ยนเสื้อผ้าที่เลอะคราบเลือดให้แต่จากแรงกระตุกทำให้ขยับได้อย่างไม่สะดวกนักเขาตัดสินใจฉีกเสื้อเจ้าตัวออกแล้วเช็ดตัว และกำลังจะขยับถอดกางเกงแต่ชะงักไปเมื่อหางตาเหลือบไปเป็นคิวมองอยู่ซีคว้าเอาผ้าห่มมาคลุมตัวสเปเชียลแล้วเอื้อมไปถอดกางเกงออกจากตัวสเปเชียล...ภายใต้ผ้าห่มผืนหนาคงมีแต่เพียงกางเกงชั้นในที่ปกปิดร่างเจ้าตัวไว้
พอเช็ดตัวเสร็จเขาก็ผละมาประคองสเปเชียลแทนคิวสเปเชียลยังคงสั่นกระตุกเป็นระยะ เปลือกตาปิดสนิทไปแล้วไม่เบิกตากว้างค้างอย่างเมื่อครู่
ต้องรอให้สงบกว่านี้ถึงจะใส่เสื้อผ้าให้ได้
เมื่อเห็นสเปเชียลไม่กระตุกหนักเท่าเดิมเขาก็คลายอ้อมแขนออกขยับมานั่งเฝ้าห่างๆ เพื่อให้เจ้าตัวหายใจ หายคอได้สะดวก
ผ่านไปหลายชั่วโมงสเปเชียลก็หยุดชัก…..ไม่ได้ยินเสียงหอบหายใจหนักๆ จากเจ้าตัวแล้ว
เหมือนไร้ชีวิต…
ซีตกใจถลาเข้าไปเอามืออังที่ใต้จมูกทันทีเขาถอนหายใจโล่งอก เมื่อได้รับลมอุ่นร้อนแผ่วๆ
เขาใจชื้นขึ้นมานิดนึง แต่ยังไม่วางใจ…จนกว่าคนตรงหน้าจะฟื้นสติ
ตลอดทั้งคืนเขานั่งเฝ้าสเปเชียลไม่ยอมหลับนอนคอยเข้าไปเอานิ้วมืออังใต้จมูกอีกฝ่ายเป็นพักๆ…..ตอนชักก็แรงซะแทบตายแต่พอนิ่งก็นิ่งเหมือนตายเช่นกัน…
คิวมองเพื่อนของตนเองนั่งเฝ้ามนุษย์อย่างสเปเชียลแบบนั้นก็ต้องขมวดคิ้วจ้องด้วยความประหลาดใจ…..
เขาไม่เข้าใจ
พวกก็ไม่ใช่ทำไมต้องดูแล…เขาไม่มีสัญชาตญานให้ช่วยเหลือมนุษย์
“ซี คุยด้วยหน่อย” คิวยืนมองซักพักก็เอ่ยขึ้น
ซีเหลือบมองเพื่อนตนเอง สลับกับคนสิ้นสติบนเตียงก่อนจะขยับตัวลุกออกจากห้องนอน
คิวเดินตามมานั่งข้างๆ ซีที่โซฟา “ถามจริง ช่วยทำไม”
“………...”
“โดนเลือดซารายด์เข้าไปแบบนี้จะรอดรึป่าวก็ไม่รู้”
ซีหันขวับมองเพื่อนของตนตาขวาง
คิวชะงักไปนิด ก่อนจะถอนหายใจเบาๆ “อาการหนักแล้วนะซี”
“………...”
“ปกติเราปกป้องพวกพ้องตามสัญชาตญาน เดิมก็ไม่ได้มีความรักใคร่พิศวาสแต่นี่พวกก็ไม่ใช่….ซ้ำยังเป็นมนุษย์” เขาขมวดคิ้วเว้นช่วงไปนิด “ยิ่งกว่านั้นโดนเลือดซารายด์เข้าไปชักขนาดนั้นความจริงต้องตายแล้ว แต่นี่ไม่”
“…………”
“ซี เด็กนั่นอันตราย”
ซีขมวดคิ้วนิดๆ “แล้วไง”
“แล้วไง? นี่นายคิดอะไรอยู่ซี”
ซีหลับตาลงเอนหลังพิงเบาะราวกับเหนื่อยแสนเหนื่อย “ไม่รู้”
“ไม่รู้ล่ะซี ไม่ได้อยากก้าวก่ายความคิดหรอกนะแต่นี่มันผิดสังเกตุมันผิดปกติ ที่นายทำมันแปลก…….ที่ผ่านมาก็ไม่ได้สงบนักยิ่งมีเด็กนี่เข้ามาอีก”
คิวลุกขึ้น “วันก่อนจับกระแส‘เขา’ได้ใกล้ๆ นี้……คิดว่าไม่ใช่บังเอิญแน่”
เขาว่าแล้วหันหลังเดินไปที่ประตูแต่ก่อนจะเดินออกไปเขาก็หันมา
“เลิกเลี้ยงมนุษย์ได้แล้ว....”
คิวพ่นลมหายใจออกแรงๆ “พรุ่งนี้จะเข้ามาใหม่”
ในระหว่างที่พวกเขา 2 คนเหมือนจะเพ่งจุดสนใจไปที่เรื่องอื่นโดยไม่ได้สนใจอีกส่วนนึงที่สำคัญ…..แผลที่ต้นขาของสเปเชียล และไม่ทันได้สังเกตุ…
ตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่ทันทราบที่เลือดจากรอยลึกด้วยคมมีดหยุดไหลและแผลค่อยๆสมานตัวเข้าหากัน…
|