◊ C h a p t er 1 6 ◊
แ ผ ล
แสงแดดอ่อนๆ หลุดลอดเข้ามาตามซอกผ้าม่านคนนั่งเอนหลังอยู่ที่อาร์มแชร์ข้างเตียงกระพริบตาถี่ๆ ก่อนจะเปิดเปลือกตาขึ้นพอสติกลับมาก็รุดเข้าไปหาร่างบนเตียง เพื่อเช็คลมหายใจเป็นรอบที่ร้อยเห็นจะได้…
ยังหายใจ
เขาถอนหายใจเล็กน้อยก่อนจะหันไปดูเวลา…7 โมงกว่า…
เจ้านี่ต้องกินอาหาร…
แต่ถ้าจะไปซื้อก็ต้องให้อยู่คนเดียวแต่ถ้าตื่นมาก็ต้องกิน….
ระหว่างที่ซีขมวดคิ้วครุ่นคิดอยู่เสียงออดที่หน้าประตูก็ดังขึ้น เขาคลายปมที่หว่างคิ้วแล้วเดินไปคว้ากุญแจรถก่อนจะเดินไปเปิดประตูให้กับคนที่มาได้จังหวะ
“คิว ฝากเจ้านั่นหน่อย” เขาว่าขึ้นหลังจากเปิดประตูแล้วพบคนที่คิดไว้แล้ว
คนมาใหม่เลิกคิ้วสงสัย “ไปไหน?”
“ซื้ออาหาร”
คิวหรี่ตามองคนตรงหน้าแต่ซีไม่สนใจเดินเบี่ยงตัวออกจากห้อง เขามองตาม ก่อนจะถอนหายใจแรงๆ เมื่อประตูปิดลงพร้อมกับเจ้าของห้องที่ออกไปแล้ว
คิวลูบหน้าตัวเองอย่างเหนื่อยๆแล้วเดินไปนั่งที่โซฟา เปิดทีวีดูข่าวผ่านๆ อย่างไม่ได้ใส่ใจนักจนสะดุดลงที่ข่าวหนึ่ง…
“ในเช้าของวันที่ xxเดือน xx ปี xxxx เจ้าหน้าที่ได้ทำการเข้าไปตรวจเช็คโรงงานผลิตอุปกรณ์ก่อสร้าง
บริเวณ xx ที่ได้มีคนแจ้งเข้ามาว่าเมื่อคืนมีการต่อสู้ใช้อาวุธปืนจากเสียงแล้วคาดเดาว่าอาวุธมีปริมาณมาก
และหลังได้เข้าตรวจ พบว่ามีร่องรอยการใช้อาวุธปืนจริงมีลูกกระสุนตกตามพื้นและเจาะเข้าตามผนังและ
วัสดุโดยรอบมีศพนอนเกลื่อนอยู่จำนวนมากรวมไปถึงเจ้าของธุรกิจที่นอนเสียชีวิตอยู่ในห้องนอนของตนเอง
จากการชันสูตรศพแล้วเสียชีวิตเพราะศีรษะหักนอกจากนั้นกล้องวงจรปิดไฟล์บันทึกพร้อมอุปกรณ์ควบคุม ได้ถูกทำลายและไม่พบเบาะแสร่องรอยของผู้กระทำ
แต่ทางเจ้าหน้าที่ได้พบหลักฐานการค้ามนุษย์ของนายxxx ซึ่งธุรกิจผลิตอุปกรณ์ก่อสร้างดังกล่าวเป็นเพียง ฉากบังหน้าธุรกิจมืดผิดกฏหมายนี้คาดว่ามีความสอดคล้องกับคดีเด็กถูกลักพาตัวในช่วงที่ผ่านมา
โดยมีประชาชนนำบุตรชายของตนทยอยมาเข้าแจ้งความตั้งแต่เมื่อเช้าวันนี้”
คิวนั่งฟังข่าวด้วยท่าทีที่อ่านไม่ออกเขาจ้องเขม็ง แววตาไม่มีความขี้เล่นตามแบบฉบับเจ้าตัวอีกแล้วเขาปิดทีวีแล้วจมอยู่กับความคิดตัวเอง เวลาเดินต่อไปเรื่อยๆจนเรียกได้ว่าผ่านไปซักพัก...เจ้าของห้องก็ยังไม่กลับมา เขาเหลือบตามองไปที่ประตูห้องนอนชั่งใจเล็กน้อยก็จะลุกขึ้นเดินไปเปิดประตูนั่น
คิวเดินเข้าห้องนอน ตามองไปยังคนที่หลับตาพริ้มอยู่บนเตียง เขาถอนหายใจแล้วย้ายตัวเองมานั่งลงที่ อาร์มแชร์ จ้องเขม็งไปยังสเปเชียลอีกครั้ง…
เขาพิจารณามองคนตรงหน้าโดยละเอียดอย่างที่ไม่เคยมีโอกาสมาก่อน...จะมีซักกี่ครั้งที่เจ้าเด็กนี่จะมานอนหลับตรงหน้าเขา
คิวไล่สายตามอง...ตั้งแต่เปลือกตาที่ปิดสนิทรอบกรอบไปด้วยแพขนตาหนาสีดำเงา จมูกโด่งรั้นนิดๆ
กลีบปากสวยเผยอออกหน่อยๆ รูปร่างกล้ามเนื้อสวยอย่างพอดีรับกับหน้าเจ้าตัว...
ไล่สายตาไปได้ไม่นานก็สะดุดลงที่ตำแหน่งนึงเขาเบิกตากว้างก่อนจะขมวดคิ้วแน่นขยับตัวลุกขึ้นอย่างตกใจ แล้วสืบเท้าเข้าไปจับที่ต้นขาของอีกฝ่ายพลิกดู แผลที่ต้นขาหายไปไหน?!
“ทำอะไรน่ะคิว”
เฮือก!
ด้วยที่เขากำลังเพ่งสมาธิและครุ่นคิดกับเรื่องแผลของสเปเชียลอยู่นั้นทำให้เขาสะดุ้งตกใจกับเสียงทักของซี ที่กลับมาตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่ทราบ ซีเคลื่อนตัวมาจับแขนของคิว คิวหันหน้าไปจ้องนัยน์ตาสีทองของอีกฝ่าย ที่ตอนนี้กำลังฉายแววไม่พอใจ เขาถอนหายใจอีกครั้งเป็นครั้งที่ 3 ของวัน “ซี นายทำอะไรกับแผลของสเปเชียล”
ทำอะไร? จะทำอะไรได้
เขาลืมไปแล้วด้วยซ้ำว่ามีแผลน่าเป็นห่วงแบบนั้นอยู่!
ซีเลิกคิ้ว แล้วขยับปล่อยแขนอีกฝ่ายออก
“ดู”
คิวพูดแล้วชี้นิ้วไปทางต้นขาของสเปเชียลซีมองตามไปก่อนจะขมวดคิ้วแน่น แล้วหันมามองคิวที่มองเขาอยู่ก่อนแล้วคิวพยักหน้านิดๆ แล้วเดินออกมาจากห้องนอนโดยมีซีตามมาด้วย
“นี่มันไม่ตลกแล้วนะซี” คิวว่าแล้วนั่งลง “เด็กนั่นไม่ตาย แถมแผลยังหายเร็ว” “..................”
“ถ้าอย่างนั้นแสดงว่าเลือดของเขาเข้ากับเลือดซารายด์ได้”คิวพูดต่อด้วยน้ำเสียงจริงจัง
“แต่เด็กนั่นชัก แล้วก็เกือบหมดลม….อีกอย่าง” เขาเว้นช่วง
“มันก็แค่หยดเดียว”
คิวนิ่งคิดไปกับคำพูดของซี “งั้นต้องลองในปริมาณที่มากกว่านี้”
ซีหันขวับไปมองทันที “ไม่ได้”
“ทำไมไม่ได้?”
“ถ้ามากกว่านี้ เด็กนั่นตายแน่”
คิวเม้มปาก กำหมัดแน่น ก่อนจะตะโกนออกไปด้วยโทสะ “ตายแล้วไงไอ้ตายมันไม่เท่าไหร่ แต่ถ้ามันไม่ตายล่ะ!”
ซีเหลือบมองตาขวาง
คิวชะงัก ก่อนจะหลับตาพยายามควบคุมอารมณ์
“ซี เรื่องนี้เรื่องใหญ่นะ”
“.....................”
“ถ้าเขา ‘เป็น’ แบบนั้นจริง” คิวลืมตามอง “เขาจะเป็นยิ่งกว่าอันตราย”
ซีก้มหน้านิ่ง หมุ่นคิ้วครุ่นคิดคิวมองท่าทีเพื่อนของตนเองแล้วก็ต้องถอนหายใจอีกครั้ง……ไม่ต้องบอกก็รู้ เด็กสเปเชียลนั่นพิเศษสำหรับเพื่อนเขา
“ซี”
“คิดอะไรอยู่”
“………….”
“เด็กนั่นเป็นอะไรสำหรับนาย”
“.................”
คิวหายใจออกแรงๆ ด้วยอารมณ์ “บอกก่อนที่จะต้องฆ่าเขา”
ซีเงยหน้ามองคิวทันทีที่ประโยคสุดท้ายจบเขาส่งสายตาดุดันไปให้คนพูด
คิวเห็นแบบนั้นก็ต้องลอบกลืนก้อนน้ำลายลงคอไปอย่างยากลำบาก
สายตาแบบนี้….สายตาของการล่าเหยื่อ
แก้วตาสีทองของซีดูเป็นประกายแววโรจน์ขึ้นมาแวบนึงตอนช่วงจังหวะที่ประสานสายตากัน
คิวนิ่งไปนาน…ก่อนจะพูดต่อเมื่อเห็นซีสงบลง
“ซี…”
ไม่ทันให้อีกฝ่ายพูดจบ ซีก็แทรกขึ้น “ไม่รู้เหมือนกันว่าเป็นอะไร”
“....….”
“อาจจะเป็นอย่างที่มนุษย์พูดกัน”
คิวหมุ่นคิ้ว “มนุษย์?”เขาเบิกตากว้าง “อะ..อย่าบอกนะว่า...”
“ใช่” ซีเงยหน้ามองคิวอีกครั้งด้วยแววตาหนักแน่นไม่มีอารมณ์ใดเจือปนอยู่ในนั้น
“ที่มนุษย์เรียกกันว่า รัก”
กริ๊ง!
ไม่ทันที่อีกฝ่ายจะได้โต้ตอบอะไรเสียงโทรศัพท์ของคอนโดก็ดังขึ้น คิวพยักเพยิดให้ไปรับ ซีจึงเดินไปยกโทรศัพท์แนบหู
“................”
((เอ่อ คุณซีคะ มีผู้ชาย 5 คนมาขอพบคุณซีค่ะเขามาถามเรื่องเพื่อนเขาอะไรซักอย่าง เขาบอกคุณซีทราบ))
ซีหมุ่นคิ้วนิ่งไป…5 คน?
‘อ่อ พวกเพื่อนเจ้านั่น’
“ให้ขึ้นมาได้เลย”
ซีวางสาย หันมามองเพื่อนของตนที่มองอยู่ก่อนแล้วคิวเลิกคิ้วขึ้นราวกับจะถามว่ามีอะไร
“เพื่อนของเจ้านั่นมากัน”
คิวพยักหน้า “งั้นกลับก่อนละกัน”เขาลุกขึ้น “เรื่องเมื่อกี้ไว้มาคุยใหม่”
คิวทิ้งท้ายไว้ก่อนจะออกจากห้องไปอย่างรวดเร็ว
อ๊อด อ๊อด อ๊อด อ๊อด!
ไม่นานนักเสียงออดก็ดังติดๆ กัน
‘พอกันทั้งกลุ่ม’ เขาคิดในใจก่อนจะเดินไปเปิดประตูให้พวกเพื่อนๆ ของคนที่นอนอยู่ข้างใน
“เจอสเปเชียลแล้วใช่มั้ย !”
“ไหนบอกจะติดต่อมา ! รอทั้งคืนจนจะบ้ากันอยู่แล้ว”
“ถ้าไม่มาจะโทรไปบอกเมื่อไหร่เนี่ย!”
“แล้วไหนเพื่อนฉัน !”
ซีถอนหายใจนิดๆ กับเสียงที่ดังอื้ออึงพร้อมกันในห้องเขาทำหน้าเซ็งก่อนจะพยักเพยิดไปทางประตูห้องนอนพวกที่โวยวายอยู่เห็นดังนั้นก็พากันกรูเข้าไป
“สเป !”
“สเปเชียลเป็นอะไร”
พวกลมเข้าไปล้อมสเปเชียลที่นอนนิ่งอยู่บนเตียงพลางจับดูตามตัวเมื่อไม่พบอะไรนอกจากแผลที่ข้อมือข้อเท้าและรอยช้ำมุมปากก็หันไปถามซีที่ยืนจ้องมานิ่งๆที่ประตู
“สลบไปเพราะเหนื่อย เมื่อวานเกิดเรื่องเยอะ”
ลมนิ่งไปเล็กน้อยก่อนจะถามต่อ “แล้วตกลงมันเกิดอะไรขึ้น”
“แก๊งลักพาตัว”
ขอบฟ้าเบิกตากว้าง “แล้วนายทำ-”
“เรื่องอื่นไม่ต้องถามต่อ” ซีพูดขัดขึ้นมาก่อนจะเดินออกจากห้องนอนไป
พวกเพื่อนๆ มองหน้ากันด้วยความสงสัยแต่ก็ละความสนใจจากซีมาที่สเปเชียล
“อึก…”
นั่งเฝ้าสเปเชียลอยู่ซักพักร่างบนเตียงก็ขมวดคิ้วขยับตัวเหมือนคนกำลังทรมาร ขอบฟ้าผุดลุกขึ้นไปจับตัวพลางเรียกชื่อเจ้าตัว
“สเป สเปเชียล?”
ข้าวปั้นลุกตามไปข้างๆ พร้อมกับที่เหลือ “ทำไม สเปตื่นเหรอ”
ขอบฟ้าส่ายหน้า “เปล่าหรอก แค่ละเมอมั้ง”
“อึก..อื้อ”
สิ้นคำสเปเชียลก็ขยับตัวดิ้นอีก พวกเขาตกใจส่งเสียงเรียกสเปเชียลหมายจะปลุกให้ตื่น เสียงเรียกดังออกไปข้างนอก จนเจ้าของห้องเดินเข้ามาดู
“เป็นอะไร”
เวลหันมามอง “สเปละเมอน่ะ”
ซีขมวดคิ้วนิดๆ ก่อนจะเดินแทรกวงล้อมเข้ามาดูสเปเชียลเขาเอื้อมมือลงไปแตะที่ข้างแก้มของคนละเมอเบาๆ พวกลมมองการกระทำของคนตรงหน้าด้วยความรู้สึกที่อธิบายไม่ถูก
บรรยากาศมันแปลกๆ นะ
“อื้อ…..อะ…อึก”
สเปเชียลขยับหน้าส่ายไปมา หน้าเหมือนทรมารมือปัดป่ายอย่างไร้ตำแหน่ง ซีขมวดคิ้วแล้วขยับตัวนั่งลง ข้างเตียงเขาจับตัวสเปเชียลดูแล้วหันไปถามขอบฟ้า
“ตัวร้อน…ต้องทำไง”
ขอบฟ้าที่ยืนจ้องภาพตรงหน้าอึ้งๆ อยู่ก็สะดุ้งเพราะเสียงของซี
“อะ…อ๋อ เช็ดตัวไงพวกอ่างน้ำไรงี้อยู่ตรงไหนล่ะ กล่องยาด้วยนะมีใช่มั้ย?” เขาหันหลังเตรียมจะไปหยิบพวกอุปกรณ์ก่อนจะนึกขึ้นได้หันมาถามคนเป็นเจ้าห้อง
“เดี๋ยวไปหยิบให้ มารอเช็ด” เขาว่าพลางขยับตัวลุก
ขืนให้ซีเช็ดให้อีก มีหวังกะแรงไม่ค่อยถูกครั้งแรกก็แดงเป็นแถบ ครั้งนี้คงได้ถลอกแน่…
'คุณปู่คับ ซารายด์ชุบชีวิตคนได้จริงรึป่าวครับ'
เด็กน้อยวิ่งเข้าไปหาคนเป็นปู่ที่ห้องทำงานอย่างทุลักทุเลเพราะความหนักของหนังสือเล่มหนาในมือ
ชายชราหันมามองท่าทีของหลานชายก็ต้องอมยิ้มก่อนจะคว้าตัวเด็กน้อยขึ้นมานั่งตัก
'อืมเขาบอกว่าเลือดซารายด์กินหรือฉีดเข้าร่างกายแล้วจะเป็นอมตะนะ'
'จริงหรอครับ งั้นถ้าคุณปู่ฉีดคุณปู่จะเป็นอมตะรึป่าวครับ' เด็กน้อยยิ้มร่า เอี้ยวหน้ามอง
'ฮ่ะๆ ปู่ไม่อยากเป็นอมตะหรอก'
'อ้าว คุณปู่ไม่อยากอยู่กับสเปเหรอครับ'
ชายชราขยี้หัวเจ้าตัวดีอย่างหมันเขี้ยว 'เป็นอมตะไม่ดีหรอกนะ สเปอยากเป็นเหรอ'
'อื้อ! สเปอยาก'
ชายชรายิ้มอ่อนให้เด็กน้อยตรงหน้าแล้วเอื้อมมือไปลูบแก้มยุ้ยของหลานชายแผ่วเบา
'ไม่ใช่ทุกคนจะได้เป็นหรอกนะ'
'แต่ก็ไม่แน่...'
“สเป”
“สเป”
“ไอ้เป”
“สเปเชียล!”
เฮือก!
ภาพปู่ที่รักหายวับไปแทนที่ด้วยภาพเพดานที่ไม่คุ้นตาและรอบๆ มีเพื่อนๆ ครบองค์ยืนอยู่ ใบหน้าดูดีใจ ส่งเสียงเรียกชื่อเขาไม่หยุด
“อะ…พวกมึง…มาได้ไง”
สเปเชียลหมุ่นคิ้วหรี่ตาเพราะไม่ชินแสงก่อนจะเอ่ยถามเสียงพร่า
“ไอ้บ้า พวกกูนั่งเฝ้ามึงมาวันนึงเต็มๆ แล้วนะไม่ฟื้นซะที นี่ก็ละเมออะไรไม่รู้มาซักพักละ” ลมเอ่ยบอกด้วยน้ำเสียงโล่งอก
ขอบฟ้าขยี้หัวสเปเชียลเบาๆ “ไม่เป็นไรละนะมึง”
“ถ้าไม่ตื่นนี่กะจะเอาไปไว้ในโลงแก้วละนะ”เวลว่าขำๆ
ข้าวปั้นยกยิ้ม “แม่มึงโทรหากู บอกว่าติดต่อมึงไม่ได้ แต่บอกให้ละว่าอยู่บ้านกูไม่ต้องห่วงนะ”
เพียวขยับตัวนั่งลงข้างๆ “หิวมั้ยมึง”
สเปเชียลยิ้มอ่อนให้กับความห่วงใยของเพื่อนตัวแสบทั้งหลาย “ใจมากนะพวกมึง”
เขาชะงักไปนิด “แล้วกูกลับมานี่ได้ไง”
ความรู้สึกสุดท้ายที่เขาจำได้คือความเจ็บแปลบหลังจากปักคมมีดเข้าเนื้อของตัวเอง
ลมถอนหายใจยาวๆ กระตุกยิ้มบาง
“ซีไปพามึงกลับมา”
|