◊ C h a p t er 2 6 ◊
ไ ม่ ใ ช่ แ ค่ เ อ น ไ ซ ม์
เวลามนุษย์ป่วยนี่เป็นยังไงนะ… ไม่มีแรง? โลกหมุน? ปวดเมื่อยตามเนื้อตัว? ตาลาย? หูอื้อ?
หรือหมดสติไปเลย?
มันจะเหมือนกับที่เขาเป็นตอนนี้มั้ยนะ…เขารู้สึกอึดอัดที่หน้าอก หายใจติดขัด หมดแรงและวิงเวียน เขากำลังจะแย่…
สเปเชียล….ฟื้นเถอะ
“ซี นายไม่ไหวแล้วล่ะ”
คิวเอ่ยปากบอกด้วยน้ำเสียงเหลืออดเขาทนไม่ได้ที่ต้องเห็นเพื่อนในสภาพแบบนี้ ทรมารตัวเองไปทำไม…
นี่เข้าวันที่ 5 แล้วที่ร่างกายของซีไม่ได้รับเอนไซม์
สเปเชียลยังคงไม่ฟื้น ไม่มีปฏิกิริยาใดๆทุกอย่างยังคงนิ่งสงบเหมือน 4 วันที่ผ่านมาแต่ยิ่งนานเท่าไหร่ ซีก็ยิ่งแย่ลงเท่านั้น
คิวเคยอ่านเจอในหนังสือว่าความรักเป็นเหมือนดาบสองคม...บางทีมันก็ดีกับเรา แต่บางทีมันก็ทำร้ายเรา
เมื่อก่อนซีเป็นซารายด์ที่ไม่มีจุดอ่อนไม่มีอะไรทำร้ายหรือส่งผลต่อจิตใจเขาได้ ความเป็นตัวตนของเขาสยบทุกอย่าง…แต่ตอนนี้เขามี
เขามีจุดอ่อน…และเป็นจุดอ่อนที่ร้ายแรงพอ
สเปเชียล
แกรก
ระหว่างที่ในห้องมีเพียงซีกับคิวอยู่เฝ้าสเปเชียลประตูก็เปิดออกพร้อมปรากฏตัวคนที่คาดไม่ถึงที่สุด
“เอ็กซ์?” คิวหันไปมองอย่างตกใจและลุกขึ้นเดินเข้าไปหา “นายมาทำอะไร”
เอ็กซ์สบตากับคิวไม่นานก็เบนสายตาไปที่ซีเขามองพิจารณาแล้วก็ต้องนึกอ่อนใจ…
ซีดเซียวไม่มีแรงแบบนี้เหมือนไม่ใช่นายเลยนะซี...
เอ็กซ์มองอยู่ซักพักก็เดินเข้าไปใกล้เตียงคิวรีบรุดมาขวางไว้ทันที
“แค่จะคุยกับซี ไม่ทำอะไรหรอก” เอ็กซ์เอ่ยบอกคนขวางเสียงเบา ซีหันมามองเมื่อเอ็กซ์มาหยุดอยู่ที่ข้างเตียงคนละฝั่งกับที่เขานั่งอยู่
“จะไปบุกองค์กร”
ซีเลิกคิ้วมองคนตรงหน้า “…………”
เอ็กซ์เหลือบตามองสเปเชียลที่นอนนิ่งอยู่ก่อนจะเบนสายตากลับมาหาซี “ต้องทำลายมันให้หมด”
“………….”
เอ็กซ์มองดูคนบนเตียงแล้วก็รู้สึกใจกระตุกแปลกๆ เขาเอื้อมมือจะแตะที่ใบหน้าของสเปเชียล แต่ต้องชะงักมือไปเพราะสายตาดุๆ ของซี
“ตั้งใจจะชวน แต่ดูจากสภาพนายตอนนี้แล้วไม่ดีกว่า”เอ็กซ์พูดแล้วทำท่าจะหันตัวกลับแต่ก็ชะงักเท้าหยุดนิ่งไปอีก
“ไว้เด็กนี่ฟื้นแล้วจะมาเยี่ยมใหม่” เขาว่าแล้วเคลื่อนตัวออกจากห้องไปไวๆ
ซีกับคิวหันมองหน้ากันเมื่อได้ยินประโยคสุดท้ายจากเอ็กซ์
มาเยี่ยมเหรอ…หมอนั่นใช้คำว่า...มาเยี่ยม
“อึก”
“ซี!” คิวรีบรุดเข้ามาดูซีทันทีเมื่อซีเกิดอาการทรุดนิ่วหน้าเหมือนเจ็บปวดและขยำเสื้อบริเวณอกด้วยท่าทางทรมารลมกับเวลที่พึ่งเดินเข้ามาก็ต้องตกใจเมื่อเห็นภาพตรงหน้า
“ไม่เป็นไร” ซีหอบหายใจซักพักก็เอ่ยบอกเสียงอ่อนใบหน้าเต็มไปด้วยเหงื่อ
“มึงไม่ไหวแล้วล่ะซี มึงเลิกดื้อเหอะ” ลมขมวดคิ้วพูดด้วยความเป็นห่วง
เขาเองก็ทนดูสภาพซีแบบนี้มาหลายวันแล้วยิ่งพอรู้ว่าซีไม่ยอมรับเอนไซม์จากขอบฟ้าด้วยซ้ำ ยิ่งน่าเป็นห่วงเข้าไปใหญ่…
“เดี๋ยวก็ตายก่อนพอดี!”
“ไม่ตายง่ายแบบนั้นหรอก” ซีเอ่ยตอบไม่ยอมสบตา
คิวขมวดคิ้วแน่น “ไม่ตายตอนนี้ แต่ก็ทรมาร จะทนทำไม”
“นายไม่รับเอนไซม์แบบนี้ถ้าไอ้สเปรู้มันจะสบายใจมั้ย!”
“คิดว่าไม่นะ”
อยู่ๆ เสียงหนึ่งก็แทรกขึ้นมาเบาๆเบาเหมือนหูแว่วไป...
ลมกวาดตามองแล้วก็ไม่ได้มีใครพูด คิว ลม เวลมองหน้ากันอย่างประหลาดใจก่อนจะเบิกตากว้างหันไปทางสเปเชียล
รอยยิ้มอ่อนๆ ที่ปรากฏบนใบหน้าซีดขาวของคนบนเตียงพร้อมแพขนตาที่ขยับขึ้นลงนิดๆ คงเป็นภาพที่น่ามองที่สุดของซีตอนนี้แล้ว
ซีขยับตัวเข้ากอดสเปเชียลแน่นอย่างไม่นึกกลัวอีกฝ่ายเจ็บ
“โอ้ย”
แต่เขาก็ต้องรีบผละตัวออกมาเมื่อได้ยินเสียงประท้วงเพราะความเจ็บจากคนในอ้อมกอด
“ไอ้สเป!”
“รู้มั้ยสลบไป 5 วันเต็มๆ เลยนะ”
“เดี๋ยวกูโทรบอกพ่อแม่มึงก่อน”
คนในห้องยิ้มกว้างอย่างดีใจด้วยท่าทีเก็บอาการไม่อยู่ต่างคนต่างแย่งกันพูด ไม่นานคนที่เหลือก็ทยอยกันมา รวมทั้งพ่อแม่ของสเปเชียลด้วย หลังจากเช็คร่างกายทั้งหมดเรียบร้อยแล้วก็ต้องโล่งใจ…
เมื่อไม่พบความผิดปกติอะไรแผลในร่างกายก็หายเกือบสนิทแล้ว เหลือเพียงขาที่หักยังไม่สมานตัวดี
“สเปขอโทษนะแม่” สเปเชียลเอ่ยเสียงสั่นเมื่อคนเป็นแม่นั่งร้องไห้ลูบหัวตนอยู่
“ไม่เป็นอะไรก็ดีแล้วนะครับทีหลังอย่าทำแบบนี้อีกนะลูก”
“สเปขอโทษครับ”
“แม่มีหนูคนเดียวนะครับอย่าทำให้แม่เหมือนตายทั้งเป็นแบบนี้อีกนะ”
คนเป็นแม่ว่าเสียงพร่าก่อนจะขยับตัวโอบกอดลูกชายไว้แน่นพ่อที่ยืนอยู่ข้างๆ ก็ลูบหัวสเปเชียลด้วยใบหน้าที่มีรอยยิ้มอ่อนๆ ประดับอยู่
ไม่นานนักพ่อกับแม่ก็ออกไปปล่อยให้พวกเด็กๆได้คุยกัน
“ขอบคุณพวกมึงมากนะ” สเปเชียลหันไปหาเพื่อนรักทั้ง5และพี่ริวที่ยืนอยู่ด้านข้าง
“มึงไม่เป็นไรก็ดีละ หลับไปตั้ง 5 วัน คงไม่ง่วงไปนานเลยสิ”
“ทีหลังอย่าทำอะไรให้มันเกินตัวนักรู้มั้ย”
“มีอะไรก็บอกพวกกูสิ มึงปิดพวกกูแบบนี้น้อยใจนะเว้ย”
เสียงที่บ่งบอกถึงความน้อยใจออกมาจากปากลมอย่างไม่น่าเชื่อสเปเชียลได้ฟังแล้วก็อดหลุดขำออกมานิดๆไม่ได้
“พูดซะสาวน้อยเชียวไอ้ลม” “เออ กูมันสาว”
“แหนะ กูล้อเล่น ขอโทษจริงๆ นะพวกมึง”
“กูว่าพวกเราออกไปก่อนดีมั้ย…” ขอบฟ้าเอ่ยแทรกขึ้นมา ทุกคนในห้องเงียบแล้วหันไปทางซีที่นั่งอยู่ข้างเตียง
“เดี๋ยวผมกลับไปคอนโด” คิวพูดต่อ “ไว้มาเยี่ยมใหม่นะน้องสเปเชียล”
“งั้นเดี๋ยวพี่ก็กลับเลยละกัน” ริวว่าแล้วก็ลากขอบฟ้าออกจากห้อง
“กู 4 คนก็ขอตัวกลับก่อนแล้วกัน”เพียวเกาท้ายทอย พูดออกมาเหลือบตามองซีนิดๆ
“ไว้มาหาใหม่นะมึง” ข้าวปั้นเสริมก่อนทั้งหมดจะพากันออกจากห้องไป…
“…” เมื่อประตูปิดลงห้องก็เงียบกริบซียังคงนั่งนิ่งอยู่ข้างเตียง สเปเชียลเหลือบมองอีกฝ่ายแล้วก็ขมวดคิ้วกับสีหน้าที่ดูทรมารนั่น
“ซี...มึงไม่ได้เอนไซม์เลยสินะ”
“…”
“ทรมารตัวเองแบบนั้นทำไมน่ะ”
“หิวมั้ย”
ซีเงยหน้ามองสเปเชียลแล้วเอ่ยแทรกเปลี่ยนเรื่องขึ้นมาด้วยความเป็นห่วง
ก็อีกฝ่ายไม่ได้รับอาหารมา 5 วันแล้วนะ…ผอมลงตั้งเยอะ
สเปเชียลเลิกคิ้ว ขยับยิ้มอ่อน “หิวสิ แต่ไม่เท่ามึงหรอก”
“มานี่มา”
ซีมองคนเรียก ก่อนจะขยับตัวไปนั่งที่บนเตียงข้างๆสเปเชียล
“มีแต่คนโง่ที่ทำร้ายตัวเองรู้ปะมึง”
“อืม”
ซีขยับตัวสวมกอดสเปเชียลแน่น….
ในที่สุดก็ฟื้น
ในที่สุดก็ลืมตา…
สเปเชียลเลิกคิ้วงุนงงเมื่ออีกฝ่ายกอดเขาไม่ปล่อยใบหน้าเขาฝังอยู่กับอกกว้างจนหายใจแทบไม่ออก แต่ดูจากแรงของซีแล้วก็ทำให้เขาใจหาย
เรี่ยวแรงหนักๆ ที่เคยมีหายไปหมด…เขายกมือดันอกซีเบาๆ แต่เจ้าตัวกลับไม่ขยับยังคงกอดนิ่งอยู่อย่างนั้น
“ซี เดี๋ยวก็ตายหรอก” สเปเชียลส่งเสียงอู้อี้ออกไปทำให้ซียอมผละตัวออกนิดๆ
“ไม่เอารึไงเอนไซม์ อื้อ..”
พูดยังไม่จบดีซีก็ประกบปากเข้ามาไวๆลิ้นหนาแทรกตัวเข้ามากวาดไปรอบๆ
ซีขยับร่างกายเข้าไปจนชิดกับตัวอีกฝ่ายปากประกบแนบไม่มีช่องว่างราวกับจะกลืนกินสเปเชียลเข้าไป
รู้สึกเต็มตื้นในอกเจ็บและแน่นเหมือนหายใจไม่ออก
คราวนี้ซีไม่ได้ผ่อนแรงมากนักความหนักของจังหวะมากกว่าที่แล้วๆ มา แต่ไม่ได้เจ็บแปลบจนลิ้นชาเหมือนแรกๆ
อาการติดๆ ขัดๆ หายไป เหมือนจะไหลลื่นมากขึ้นแต่ก็ทำให้สเปเชียลใจกระตุกเมื่ออีกฝ่ายโหมแรงเข้ามาจนต้องสะดุ้ง
ซีขยับเปลี่ยนองศาใบหน้าไปมาไม่หยุดไม่รู้ตั้งแต่เมื่อไหร่ที่สเปเชียลนอนราบลงไปกับเตียงทั้งๆ ที่ปากยังชิดติดกับซีไม่ห่างคนตัวใหญ่คร่อมตัวลงมาประกบปากย้ำๆ อย่างหวงแหน ก่อนจะส่งลิ้นเข้าไปกวาดรอบๆ อย่างกระหาย ยิ่งนานยิ่งหายใจติดขัดยิ่งนานยิ่งรู้สึกมึนหัว ยิ่งนานยิ่งรู้สึกร้อนๆ ที่ใบหน้าเสียงจ้วบจ้าบดังขึ้นก้องห้อง เวลาผ่านไปเรื่อยๆ แต่ไม่มีท่าทีว่าจะหยุดลิ้นร้อนยังคงทำงานต่อเนื่องอย่างไม่รู้จักเหนื่อยตวัดไปมาจนสเปเชียลเองก็เริ่มขยับตอบรับด้วยความลืมตัว น้ำใสๆ ไหลจากมุมปากลงไปตามลำคอซียังคงไม่ปล่อยให้เขาได้พักหายใจยังคงขยับรัวเร็วไม่ผ่อนจังหวะ
ตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้ที่สเปเชียลยกแขนขึ้นไปโอบรอบคอแกร่งของซีตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้ที่ซีขยับมือสอดรั้งตัวสเปเชียลเข้าไปกอดแน่นแทบไม่มีส่วนไหนที่ห่างกัน แนบชิดจนจะหลอมเป็นร่างเดียว
ซียังคงกระหน่ำจูบปากเล็กไม่หยุดริมฝีปากบดเบียดไปมาเพิ่มอุณหภูมิและพลังในร่างกายอย่างไม่มีสิ้นสุด
เขาละออกจากริมฝีปากสีสดนี้ไม่ได้...
ยิ่งได้ยิ่งต้องการ
ยิ่งสัมผัสยิ่งอยากเป็นเจ้าของ
ยิ่งลิ้มลองยิ่งหยุดไม่ได้
เขาอดทนรอมา 5 วันแล้ว
5 วันที่ผ่านมามันยิ่งกว่าความทรมาร…
ยิ่งคิดถึงมือเล็กๆ ที่โอบตนอยู่ ขยับปัดไปมาอย่างไม่รู้ตัวยิ่งทวีความต้องการในตัวเขาให้สูงขึ้นไปอย่าง ไม่รู้จักพอ
เขากดริมฝีปากบดแนบลงไปอย่างลืมตัวจนอีกฝ่ายสะดุ้งจึงผ่อนแรงลงเป็นแบบนี้ซ้ำไปซ้ำมา
ไม่รู้เวลาผ่านไปนานเท่าไหร่แล้ว...
รู้แต่ตอนนี้เขารับเอนไซม์พอแล้ว…พอที่จะหยุดแล้วละริมฝีปากออกมาให้เจ้าเด็กนี่ได้มีโอกาสหอบโกยอากาศเข้าปอด
แต่เขาไม่ทำ…
มีอะไรมากกว่านั้นที่ทำให้เขายังรู้สึกว่าไม่พอ
มือแกร่งของซีเริ่มไล้วนไปตามช่วงสะโพกของสเปเชียลโหมหนักตามแรงปรารถนา ทำให้อีกฝ่ายสะดุ้งเพราะความเจ็บและครางฮือในคอปลุกอารมณ์คนด้านบนในโหมลุกขึ้นอีกกระพือ แต่ไม่นานซีก็ขยับถอนปากออกช้าๆเมื่อสเปเชียลทุบหนักขึ้นที่แผงอก นัยน์ตาสีทองสบกับดวงตาสเปเชียลเขากระตุกมุมปากขึ้นนิดๆอย่างพึงใจ สเปเชียลหอบหายใจแรงจนเจ็บหน้าอก รู้สึกราวกับโดนดูดพลังออกไป…
เขาช้อนตามองอีกฝ่ายที่มองมายังเขาก่อนจะหลุบตาต่ำหลบ สายตาอ่อนโยนแบบนั้น นัยน์ตาสีทองคู่นั้น
เขา…ไม่กล้ามองนานๆ
กลัวว่าถ้ามองนานกว่านี้จะโดนเอาวิญญาณไป...
ไม่ทันหายใจเป็นปกติซีก็ขยับเข้ากอดสเปเชียลแน่นอีกครั้ง
“อะ…กอดทำไมเนี่ย” สเปเชียลขยับตัวดิ้นนิดๆ ริ้วสีแดงปัดผ่านข้างแก้มอย่างไม่รู้ตัวแต่เขาก็ต้องปิดปากเงียบ ขมวดคิ้วเมื่อรู้สึกถึงแรงสั่นน้อยๆ จากมือคนกอด
“มือมึงสั่นเหรอซี”
“…”
“มึงเป็นอะไร” สเปเชียลเอ่ยถามด้วยความเป็นห่วง
ผลข้างเคียงจากการอดเอนไซม์เหรอ?
ร้ายแรงรึเปล่า?
สเปเชียลคิดไปเรื่อยพลางขยับมือดันอกซีเพื่อจะมองหน้าอีกฝ่าย
แต่ก็ต้องหยุดการกระทำนั้นลงเมื่อได้ยินเสียงกระซิบแผ่วเบาที่ข้างหูแต่ดังชัดในถ้อยคำ และยังกังวานอยู่ในสมอง
“คิดถึง”
ฉ่า
“อะ…”
สเปเชียลอ้าปากค้างก่อนจะเม้มปากแน่นซุกหน้าลงกับบ่าซีทันที
เขารู้สึกเหมือนหน้าไหม้ยังไงยังงั้น
ไอ้บ้านี่มันพูดอะไรของมัน
แต่ถึงจะก่นด่าอีกฝ่ายอยู่ในใจ มือเล็กๆ ก็ขยับยกกอดตอบไปแล้ว…
|