◊ S p e c i a l C h a p t e r ◊
ลู ก ช า ย
“ม่ามี๊!” เสียงคุ้นหูดังมากจากนอกห้องพร้อมเจ้าตัวที่รี่เข้ามาหา เสียงออดอ้อนของลูกชายคนเดียวของแพรพรรณ...เสียงที่ได้ยินเมื่อไหร่ก็ต้องยิ้มกว้างทุกครั้ง
“ว่าไงเรา มาอ้อนแบบนี้จะเอาอะไรครับ?”
สเปเชียลโอบรัดรอบเอวแม่ของตนอย่างที่ชอบทำ “เปล่าน้า สเปอยากชวนแม่ไปเที่ยวต่างจังหวัดสัก 2-3 วันจังเลย”
ใบหน้าหยอกล้อเอียงสบตา “ไม่รู้พ่อกับแม่จะมีเวลาให้รึเปล่า”
อ้อนกันแบบนี้แล้วแม่จะใจแข็งไหวได้ยังไงล่ะ
แพรพรรณยิ้ม หัวเราะน้อยๆ แล้วขยับลูบหัวลูกชาย “โอเคๆ สเปอยากไปไหนเมื่อไหร่ตามใจเลยครับ ครั้งนี้ให้สเปจัดการเลย”
เนื่องจากตอนนี้เป็นช่วงโค้งสุดท้ายสำหรับการปิดเทอมแบบยาวที่สุดในชีวิตของซีและสเปเชียลแล้ว และคุณพ่อคุณแม่ท่านก็งานยุ่งตลอดช่วงที่ผ่านมาเดินทางไปต่างจังหวัดบ่อยจนแทบไม่ได้เจอหน้ากันเท่าไหร่พอเห็นอาทิตย์นี้ไม่มีงานอะไรและประจวบเหมาะกับใกล้ถึงวันแม่แล้วสเปเชียลเลยคิดอยากไปเที่ยวต่างจังหวัดที่มีอากาศดีๆ วิวทิวทัศน์สวยๆ ไม่มีเรื่องงานหรืออะไรมากวนใจสัก2-3วัน
สุดท้ายเลยถือโอกาสสรุปว่าจะออกเดินทางเช้าวันที่10 และกลับเช้าวันที่ 13
“ไปไหนดีอ่ะซี ไปทะเล ภูเขา เขื่อน หรือไปไหนดี”สเปเชียลว่าพลางนั่งเปิดนิตยสารและอินเตอร์เน็ทดูไปเรื่อยอยู่บนเตียงอย่างสนุก
ซีมองอาการแบบนั้นก็เดินเข้าไปยกตัวสเปเชียลขึ้นนั่งตักคนถูกอุ้มไม่ได้ว่าอะไร ยังคงสนใจหน้าจอตรงหน้า ไล่สายตาตามรีวิวสถานที่ต่างๆ อย่างสนใจ
“ไปมัลดีฟเมืองไทยกันมะ” สเปเชียลเอี้ยวตัวหันไปหาซี
ฝ่ายคนถูกถามก็อดไม่ได้ที่จะยื่นหน้าลงไปจุ้บเบาๆที่ปากสีสดที่ขยับขึ้นลงไม่หยุด
“ตอบสิ!” สเปเชียลพูดขึ้นด้วยใบหน้าขึ้นสีระเรื่อหลังจากซีถอนปากออกไป
“ที่ไหน?”
“นี่ไงๆ มัลดีฟเมืองไทย กาญจนบุรี” พอถูกถามกลับสเปเชียลก็ยิ้มร่าหันไปเลื่อนแล็ปท็อปให้อีกฝ่ายดู ขยับเลื่อนหน้าจอลงเรื่อยๆอย่างตื่นเต้น
“สวยใช่ม้า น่าไปมากๆ จะได้ไปเล่นน้ำตกด้วยไงแล้วดูนี่นะ ที่- ฮึ้ย! ช่วยคิดก่อนสิ!”
สเปเชียลยังคงนำเสนอกาญจนบุรีต่อเรื่อยๆ ขณะเปิดรูปภาพสถานที่ให้ซีดูพลางขยับหนีปากที่ขยันกดจูบ ที่ข้างแก้มเขาอย่างไม่รู้จักเบื่อ
“ไปไหนก็ได้ทั้งนั้นแหละ” ซีว่าเสียงแผ่วแล้วเริ่มล้วงมือเข้าไปใต้เสื้อสเปเชียลที่กำลังดิ้นขลุกขลักไปมา ไม่หยุด
“อย่าซนดิมึง จะเดินทางมะรืนนะ คุยกับพ่อแล้วเร็ว!”
“พอแล้วน่า ไปที่นั่นแหละ” ซีว่าแล้วก็เอื้อมมือไปพับหน้าจอลงแล้วขยับโถมน้ำหนักกดสเปเชียล ให้ล้มตัวลงนอน
โดยไม่ทันให้อีกฝ่ายได้มีโอกาสดิ้นหนี…
“ซีมึงยกอันนี้ไปก่อน เดี๋ยวกูยกกระเป๋ากูตามไป”
เช้าตรู่ของวันที่10สิงหาคมสเปเชียลตื่นแต่เช้าตรู่ผิดวิสัย
ถ้าไม่ใช่เป็นวันเดินทางคงไม่มีทางเห็นคนขี้เซาลืมตาตื่นมาจัดข้าวเตรียมของแบบนี้แน่นอน
หลังจากจัดเตรียมปิดกระเป๋าล็อคเรียบร้อยก็หันไปชี้กระเป๋า2 ใบข้างๆ ให้ซียกไปขึ้นรถ
“เดี๋ยวกูยกนี่ตามไป”
ซีหยิบกระเป๋า 2 ใบไว้ในมือแล้วเหลือบตามองเป้ใบใหญ่ที่สเปเชียลกำลังจะถือขึ้นมาก็เข้าไปคว้าขึ้นสะพายแทนแล้วเดินออกจากห้องไปให้คนถูกแย่งถือกระเป๋ามองตามยิ้มๆ
ตามใจกูมาก เดี๋ยวกูเสียนิสัยไม่รู้ด้วยนะ…
“แม่ครับ เรียบร้อยแล้วใช่มั้ยขาดเหลืออะไรอีกมั้ยครับ?” สเปเชียลเดินออกมาเห็นพ่อกับแม่ยืนอยู่ก็รีบเดินตรงเข้าไปถาม
“ไม่ต้องแล้วล่ะ เจ้าซีขนทุกอย่างขึ้นรถไปหมดแล้ว”อติวิชญ์หันมาตอบแล้วรุนหลังภรรยากับลูกชายของตนออกจากบ้านไปโดยมีเด็กในบ้านเดินตามหลังไปด้วย
“ไม่ให้พ่อเอาคนรถไปด้วยจริงๆ เหรอซี?” คนเป็นพ่อเอ่ยถามอีกครั้งเมื่อขึ้นรถกันหมดแล้ว โดยมีซีนั่งประจำที่คนขับและสเปเชียลนั่งข้างๆส่วนตนกับภรรยานั่งที่เบาะหลัง
“ไม่เป็นไรครับ” ซีตอบแล้วส่ายหน้านิดๆ
“ไม่เป็นไรหรอกครับพ่อ ให้ซีมันขับแหละไปกันแค่นี้ส่วนตัวดี”
เมื่อเห็นทั้งคู่ยืนยันแบบนั้นอติวิชญ์ก็พยักหน้ารับแล้วซีก็เริ่มเคลื่อนรถออกช้าๆ
“…เชียล…สเปเชียล”
“เป็นไงตื่นมั้ยซี” พ่อเดินกลับมาที่รถหลังจากที่เข้าไปเช็คอินกับแม่
เมื่อถึงที่พักสเปเชียลที่น่าจะเพลียจัดจากการตื่นเช้าหลับปุ๋ยตั้งแต่ขึ้นรถมาใช้เวลาเดินทางนานกว่าที่คิด คงเพราะคนส่วนมากก็ออกเที่ยวต่างจังหวัดเหมือนกัน
หลังจากที่ซีขนกระเป๋าไปให้พนักงานนำไปส่งที่ห้องแล้วก็กลับมาปลุกสเปเชียลแต่ไม่ว่าจะเรียกยังไงเด็กที่ยังหลับสนิทก็ไม่ยอมลืมตาตื่นสักที
“ไม่ตื่นครับ”
“เอาไงดีล่ะ ให้พ่อปลุกดีกว่ามา”
ซีส่ายหน้า “ไม่เป็นไรครับ” เจ้าตัวว่าแล้วขยับสอดมือเข้าที่ขาพับกับแผ่นหลังของสเปเชียลขึ้นอุ้ม
“ไปเถอะครับ”
พ่อชะงักไปนิดแล้วก็ตอบรับ “งั้นไปที่บ้านพักเลยแล้วกัน”
ซีอุ้มสเปเชียลเดินไปตามแพไม้ลอยน้ำเป็นทางพาดผ่านไปถึงห้องพักที่มีน้ำล้อมรอบ
สายตาก็มองไปรอบด้านพลางคิดไปถึงว่าพอเด็กในแขนลืมตาขึ้นเมื่อไหร่คงจะรีบวิ่งร่าออกไปดูแทบไม่ทัน
ถึงคนจะเยอะหน่อยแต่บรรยากาศก็ไม่ได้วุ่นวายน่าปวดหัวอะไร
“นี่บ้านเรา 2 คนพนักงานเอาของเข้าไปเก็บให้แล้ว” อติวิชญ์หยุดอยู่หน้าบ้านหลังนึงแล้วหันมาบอก
แพรพรรณเดินเข้ามาลูบหัวสเปเชียลที่หลับตาพริ้มอยู่ในอ้อมแขนของซี
“ให้สเปหลับจนพอใจก่อนแล้วกันนะซีพอตื่นแล้วค่อยโทรหาแม่ เดี๋ยวพ่อกับแม่จะไปนั่งเล่นที่ริมน้ำกัน”
“ครับ” ซียิ้มรับแล้วพาสเปเชียลเข้าห้องไป
แพรพรรณมองตามทั้งคู่เข้าไปก่อนจะหันมาหาสามีของตน “พออยู่กับซีแล้วสเปดูเป็นเด็กน้อยไปเลยนะคะคุณ”
“ก็เจ้าซีเล่นเอาใจจนติดนิสัยแบบนั้นน่ะสิปกติเห็นงอแงแบบนั้นที่ไหน”
“คุณก็...ให้ลูกทำตัวเป็นเด็กแบบนี้ตลอดไปก็ดีแล้วนี่คะ”
“เมื่อก่อนน่ะแค่กับคุณ”
“คุณก็หัดยิ้มให้มากกว่านี้สิคะ” แพรพรรณพูดแซวเสียงหวาน
อติวิชญ์ยิ้มให้กับเธอก่อนจะขยับโอบเอวบางเข้าชิดแล้วพากันเดินไปตามสะพานไม้ นานๆมาพักผ่อนแบบนี้ก็ดีเหมือนกัน…ผ่อนคลายขึ้นเยอะเลย
“งือ…” สเปเชียลค่อยๆลืมตาขึ้น มองไปรอบๆ แล้วก็ต้องหรี่ตาลงเพราะแสงที่สาดเข้ามากระทบ
“เฮ้ย!” แต่ก็ต้องดีดตัวขึ้นนั่งเมื่อหันไปเจอซีนอนกอดเอวตัวเองอยู่ข้างๆก่อนจะนิ่วหน้ากุมขมับเพราะลุกนั่งเร็วเกินไป
“ตื่นแล้วเหรอ?” ซีลืมตามองสเปเชียลด้วยสีหน้าติดจะง่วง
“นี่เราอยู่ไหนเนี่ย ทำไมกูมานอนในเนี้ย?”
“บ้านพัก…อุ้มมา” ซีว่าแล้วเอื้อมมือไปโอบให้สเปเชียลเอนตัวลงนอนอีกครั้ง
“หะ?! อุ้ม?”
“อืม”
“อื้อ! ซี!”
สเปเชียลเบิกตากว้างหน้าแดงก่ำเมื่อจินตนาการไปถึงภาพซีอุ้มตนมาถึงบ้านพักอุทานออกมาอย่างตกใจ
แต่ซีกลับไม่ได้สนใจท่าทางของอีกฝ่ายที่คุ้นชินทำเพียงกระชับอ้อมกอดแน่นขึ้นจนเจ้าตัวต้องดิ้นหนีสัมผัสอบอุ่นแบบนั้น อบอุ่นจนร้อนแล้ว!
“เคยบอกแล้วไงว่าอยู่ข้างนอกไม่ให้อุ้มกูน่ะหะ!”
“ปลุกไม่ตื่น” ซีเอ่ยปากทั้งที่ตายังหลับสนิท
“เขย่ากูเซ่ เขย่าแบบนี้น่ะ!” สเปเชียลว่าเสียงดังแล้วยกมือจับที่ไหล่ซีเขย่าแรงๆให้ดูเป็นตัวอย่าง
คนถูกประชดทำเพียงขยับยิ้มเล็กน้อยแล้วลืมตาขึ้นมาสบ “ตื่นแล้ว?”
สเปเชียลหยุดมือไปเมื่อได้สบกับนัยน์ตาสีทองคู่ตรงหน้า “เออ...ตื่นแล้ว เอ้อ!ออกไปดูข้างนอกดีกว่า”
ว่าแล้วก็สะดุ้งตัวขึ้นนั่งแล้วเตรียมจะกระโจนออกนอกห้อง แต่ไม่ทันได้กระโดดลงเตียงมือหนาก้โอบรวบเข้าที่เอวแล้วดึงเข้าหาตัว...
“อะไรเล่า จะออกไปข้างนอก” คนถูกรั้งเอี้ยวตัวไปมองด้วยสีหน้าไม่พอใจ
“รอก่อนเดี๋ยวไปด้วย” ซีว่าแล้วขยับตัวหยิบเสื้อที่วางพาดอยู่ข้างเตียงมาสวมแล้วพาเด็กข้างๆออกไปข้างนอก
“สวยชะมัด” สเปเชียลที่เดินพ้นประตูออกมาร้องเสียงใสสีหน้าดูพอใจและตื่นเต้นกว่าปกติ
ซีที่มองอยู่ข้างๆก็เผลอยิ้มตามกับท่าทางแบบนี้ไม่ได้
นอกจากแซลมอน...ต่อสู้...และเวลาอยู่กับแม่แล้วมีต่างจังหวัดสินะที่จะทำให้เด็กนี่มีอาการแบบนี้ได้...
สงสัยต้องพามาบ่อยๆ แล้วมั้ง
“ซีปลาสวยโคตร มานี่เร็ว”
สเปเชียลวิ่งต่อไปยังจุดที่มีปลาคาร์ฟหลากหลายสีสันนับร้อยพันตัวแหวกว่ายจนลายตาอยู่ด้วยอาการตื่นเต้น
“อ้าว ตื่นแล้วเหรอสเป” แพรพรรณส่งเสียงทักเมื่อเดินกลับมาแล้วเจอลูกชายยืนอยู่ที่สะพานไม่ไกล หน้าห้องนัก
“ตื่นแล้วครับ แม่ไปไหนมา”
“ไปนั่งริมน้ำตรงนั้นน่ะจ้ะ ลมเย็นมากๆ เลยดีที่วันนี้ฝนไม่ตก”
“เดี๋ยวพ่อจะพาแม่ไปพายเรือคายัค จะไปด้วยกันมั้ย”อติวิชญ์ที่เดินเข้ามาสมทบเอ่ยถามลูกชายขึ้น
“ผมอยากเล่นเจ็ทสกีครับ” สเปเชียลยิ้มตอบรับ
“งั้นก็ไปกับซีแล้วกันนะเดี๋ยวเสร็จแล้วค่อยกลับมานั่งกินข้าวที่ระเบียงกัน”
พ่อว่าแล้วก็พาแม่เดินไปสเปเชียลมองตามภาพนั้นไปยิ้มๆ
เห็นทีว่าครอบครัวของเขาจะไม่ได้มาเที่ยวนานเกินไปแล้ว
บรรยากาศแบบนี้ไม่ได้สัมผัสมานานแค่ไหนแล้วนะ...
หลังจากที่ซีใช้สายตากดดันพนักงานดูแลจนอีกฝ่ายต้องยื่นเสื้อชูชีพ2 ตัวให้ซีแล้วก้าวถอยหลังไปรอให้คน ขี้หวงเป็นคนช่วยสเปเชียลใส่เสื้อชูชีพเอง
แล้วพนักงานผู้โดนกดดันคนเดิมก็พาทั้ง 2 คนเดินมาที่จอดเจ็ทสกีและระหว่างทางก็พยายามเดินให้ห่างจากสเปเชียลที่สุดเท่าที่จะทำได้...
สเปเชียลเดินเลือกเจ็ทสกีอยู่พักนึงก็เลือกลำสีแดงแล้วชี้ไม้ชี้มือให้พนักงาน
ส่วนซีเองหลังจากที่ตั้งใจจะเข้าไปช่วยสเปเชียลขึ้นนั่งก็ต้องชะงักเมื่อเจ้าตัวไม่ได้ขอความช่วยเหลือพนักงานข้างๆแต่อย่างใด กลับกระโดดขึ้นนั่งที่เบาะอย่างชำนาญจนต้องเลิกคิ้วมอง
“มึง...แข่งกัน” สเปเชียลที่ขยับตัวนั่งให้ถนัดแล้วลองจับแฮนด์บังคับจนพอใจก็หันมาเอ่ยท้าซีด้วยน้ำเสียงติดจะกวน ซียิ้มมุมปากแล้วส่ายหน้าเบาๆ ก่อนจะเลือกเจ็ทสกีแล้วขึ้นนั่งลำสีน้ำเงินข้างๆ
“สเปเชียล” ซีเอ่ยเสียงเข้มเมื่อสเปเชียลทำท่าจะออกตัว
“ห่วงตัวเองเถอะมึงกูขับเจ็ทสกีแข็งกว่าถีบจักรยานซะอีก”
ซีส่งเสียงหึในคอเมื่อได้ยินประโยคแบบนั้นจากปากสเปเชียล...
แสดงว่าขี่จักรยานไม่เป็นสินะ อย่าให้อีกฝ่ายได้รู้เชียวว่าเขาคิดแบบนี้ในใจ
“ว่าแต่เคยขับมั้ยมึงอะ”
“หึ” ซีส่ายหน้าปฏิเสธนิดๆ แต่ยังคงยิ้มมุมปาก
“แล้วขับได้? ให้สอนก่อนปะ”สเปเชียลเอ่ยถามด้วยอาการที่ดูแล้วตั้งใจจะแหย่อีกฝ่ายเล่น
“ก็ลองดู”
จบคำนี้ไปเจ็ทสกี 2 ลำก็เคลื่อนตัวออกจากท่าช้าๆ
“แข่งกัน ใครถึงทุ่นตรงนั้นก่อนชนะ”
สเปเชียลเอ่ยปากท้า เมื่อเห็นซีพยักหน้ารับเจ้าตัวก็นับ 1-3 แล้วบิดลำเร่งออกตัวเร็วๆ
เจ็ทสกี 2 ลำวิ่งขนานฝ่าผืนน้ำไปด้วยความเร็วที่ไม่ด้อยกว่ากันนักสเปเชียลเหล่มองคนข้างๆ แล้วก็อมยิ้ม
เก่งเหมือนกันนี่...
ขับไปได้สักพักคนรอบข้างก็หยุดกิจกรรมหันมามองเจ็ทสกีสีแดงน้ำเงิน2 ลำกันหมด เมื่อลำสีแดงม้วนตัวกลางอากาศแล้วกลับลำมาตั้งตรงจมลงไปในน้ำครึ่งนึงก่อนจะลอยขึ้นมาเหมือนเดิม
ท่ามกลางเสียงเป่าปากและปรบมือจากรอบข้างที่มีคนมายืนดูกันเยอะขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่ทราบฝ่ายลำสีน้ำเงินที่ขับนิ่งๆ อยู่เมื่อครู่ก็เริ่มขับเอนซ้ายตวัดขวากระโดดพลิกลำตามอย่างไม่มีลำไหนยอมกัน
สเปเชียลเห็นแบบนั้นก็ยิ้มกว้างอย่างพอใจ
ไหนบอกไม่เคยขับไงวะ ไหงเล่นท่านี้ได้
สเปเชียลอาจจะลืมไป...ว่าซารายด์อย่างซีทำได้มากกว่าที่เขาคิด...ไม่เว้นแม้แต่การลอกเลียนแบบท่าทางการขยับร่างกายบนพาหนะทางน้ำอย่างเจ็ทสกีได้ตั้งแต่ครั้งแรกที่ได้เห็น
ผ่านพ้นไปเกือบ2ชั่วโมงทุกท่าทางการขับทุกเทคนิคที่ฝึกฝนมาสเปเชียลงัดมาใช้จนหมดไส้หมดพุง
ฝ่ายซีเองก็ทำตามได้อย่างไม่ขาดตกบกพร่องสักท่วงท่าไม่ว่าจะเป็นเร่งความเร็วหรือหักเลี้ยวกะทันหัน ม้วนตัวกี่ครั้งก็ไม่พลาด...
กลายเป็น 2 ชั่วโมงแห่งการแสดงโชว์ลีลาการเล่นเจ็ทสกีไปแล้ว
คนรอบข้างมากมายที่ยืนยิ้มปรบมือด้วยความตื่นเต้นและชื่นชมอยู่นั้นอาจจะเข้าใจไปว่าทางรีสอร์ทจัดโชว์นี้ขึ้นเพื่อเอนเตอร์เทนผู้เข้าพักก็เป็นได้...
“ให้ตายสิ ไหนมึงบอกครั้งแรก” หลังจากขึ้นมายืนบนแพมาด้วยเนื้อตัวชุ่มน้ำ
สเปเชียลก็สะบัดหัวเสยผมที่ปรกหน้าผากขึ้นไปแล้วหันมาเอ่ยถามอีกฝ่ายที่กำลังก้าวจากเจ็ทสกีขึ้นตามมา
“ก็ครั้งแรกไง”
พนักงานดูแลที่ยืนอยู่ใกล้ๆได้ยินแบบนั้นก็เบิกตากว้าง “ครั้งแรกเหรอครับคุณนี่ถ้าไม่ได้ยินผมต้องคิดว่าทั้ง2คนเป็นนักแข่งอะไรแบบนั้นแน่ๆ”
สเปเชียลยิ้มรับไม่ได้ตอบอะไรก่อนจะเดินนำซีออกมา “มึงแม่งโม้”
ซีเลิกคิ้ว “อะไร?”
“ครั้งแรกบ้าไร มึงเคยเล่นมาก่อนแน่ๆ”
“ก็บอกครั้งแรก ก็ดูนายแล้วทำตามนั่นแหละ”
สเปเชียลอ้าปากเตรียมจะเถียง แต่ไม่ทันได้เอ่ยคำเสียงเรียกของแม่ก็ดังขึ้น ทำให้ต้องรีบเข้าห้องไปอาบน้ำแต่งตัวออกมากินข้าวแทน
ถึงจะบ่นอย่างนั้นอย่างนี้...แต่สเปเชียลเองก็มีความสุขและสนุกไม่น้อยที่เจอคู่หูคู่ปรับที่ฝีมือไม่ด้อยไปกว่ากันแบบซี...
ไม่ได้แข่งกับใครจนหืดแทบจะขึ้นคอแบบนี้มานานแล้วนะ...
บ่ายๆ ของวันที่ 12 หลังจากที่เมื่อวานพักผ่อนอยู่ในบ้านพักจนเต็มที่และเล่นกีฬาทางน้ำจนครบทุกรายการที่มีในรีสอร์ทแล้ว
เป้าหมายหลักของวันนี้ก็คือ…น้ำตกเอราวัณ
มาถึงนี่ทั้งทีไม่มาเที่ยวน้ำตกเอราวัณก็คงพลาดมากๆ แค่คิดถึงลมเย็นๆ เสียงน้ำตกฟังเพลินหู สายน้ำใสไหลรอบกายก็อดใจไม่ไหวแล้ว
“แม่ไหวมั้ยครับ” สเปเชียลที่วิ่งขึ้นบันไดไปตามทางหันมาถามแม่ของตนที่เหมือนจะหยุดเดินแล้ว
“ให้ผม...พาขึ้นมั้ยครับ?” ซีที่เดินตามหลังสเปเชียลหันกลับมาถามแพรพรรณ
ฝ่ายคนถูกถามก็ชะงักไปก่อนจะยิ้มกว้าง “ไม่เป็นไรดีกว่าจ้ะ หนักเปล่าๆ”
แพรพรรณคิดแล้วก็นึกขันเมื่อคิดภาพที่หนุ่มตรงหน้าจะช้อนตัวเธอขึ้นอุ้มเหมือนลูกชาย
สุดท้ายก็จบลงที่ซีขยับมาช่วยพยุงแต่ด้วยแรงที่มีมากของเจ้าตัวทำให้เหมือนจะแบ่งน้ำหนักตัวของอีกฝ่ายไปหมด
แพรพรรณเหลือบมองเสี้ยวหน้าคมของซีก็รู้สึกอบอุ่นอย่างบอกไม่ถูก...มีคน(?) แบบนี้มาดูแลลูกของเธอแทนก็หมดห่วง
คิดไปพลางเบนสายตามองพ่อลูกอีกคู่ที่กำลังพากันเดินขึ้นบันไดไปแล้วก็ยิ่งสุข
ใช้เวลากว่า5ชั่วโมงกว่าจะถึงน้ำตกชั้นที่7
ด้วยความที่สเปเชียลตื่นเต้นจัดแทบจะถลาเข้าหาน้ำตกตั้งแต่ชั้นแรกยันชั้นที่6
เดือดร้อนซีต้องคว้าตัวไว้แล้วลากเดินต่อพลางคอยพูดกล่อมข้างหู “ไว้ขากลับค่อยแวะ”
“ถึงแล้ว!” สเปเชียลร้องด้วยความดีใจทันทีที่เห็นน้ำตกชั้นบนสุดที่เป็นเป้าหมายหลักเตรียมตัวจะถอดเสื้อแล้วกระโจนลงน้ำ
หากแต่ซีคว้าหมับทันทีก่อนจะได้ชูมือที่จับชายเสื้อขึ้นเหนือหัว
“ไม่ต้องถอด ลงไปทั้งอย่างนี้”
“หะ?...แล้วไมมึงถอดได้วะ”สเปเชียลหันไปทางคนสั่งแล้วขมวดคิ้วนิดๆ ไล่สายตามองอีกฝ่ายตั้งแต่หัวจรดเท้า
“เฮ้ย!”
ตูม!
แต่ก็ไม่มีเสียงตอบรับนอกจากคนตรงหน้าจะขยับอุ้มขึ้นแนบอกแล้วกระโดดลงน้ำทันที
“แค่กๆ” สเปเชียลโผล่ขึ้นเหนือน้ำหลับตาปี๋ยกมือลูบหน้าแล้วไอเล็กน้อย “เล่นไรของมึงเนี่ย!”
ซีไม่ว่าอะไรกลับ ยิ้มมุมปากน้อยๆ แล้วว่ายออกไปไม่ไกลนักสเปเชียลก็ไม่ได้ตามไปโวยอะไร ละความสนใจไปที่พ่อกับแม่ที่นั่งหย่อนเท้าคุยเล่นกันอยู่ริมโขดหิน
ลมเย็นๆ และยอดไม้สีเขียวอ่อนเข้มโบกพลิ้วไปตามแรงพัด
บรรยากาศชวนยิ้มแบบนี้ช่างผ่อนคลายเสียจนลืมกรุงเทพไปเลยน้ำสีฟ้าใสแจ๋วมองแล้วรู้สึกสะอาดอย่างบอกไม่ถูก ให้ความรู้สึกบริสุทธิ์ไปทุกอณู
สเปเชียลกับซีว่ายน้ำเล่นกันพักนึงก็ไปนั่งเอนหลังให้น้ำตกไหลลงใส่หัวและตัวความแรงของน้ำและอุณหภูมิเย็นๆ ทำให้รู้สึกสบายใจ เคลิ้มๆ จะหลับ
ซีเองเหลือบมองอีกฝ่ายที่เปียกไปทั้งกายเสื้อสีขาวแนบเนื้อตัวจนเห็นไปซะทุกส่วนแบบนั้นทำเอาต้องขมวดคิ้วอย่างไม่พอใจ เมื่อหางตาเหลือบไปเห็นนักท่องเที่ยวและชาวต่างชาติเหล่ตามองมาทุกนาที
หากแต่ก็พยายามข่มอารมณ์ให้นิ่งไว้...เพื่อรอยยิ้มแบบนั้นของสเปเชียล
เด็กนี่กำลังสนุก...กำลังมีความสุข
คิดแล้วก็หายใจเข้าออกแรงๆ แล้วขยับตัวเข้าไปใกล้ใช้มือโอบไหล่คนกำลังเล่นน้ำอย่างเนียนๆ แล้วกวาดสายตาดุๆมองไปรอบๆ อย่างที่คนข้างๆ ไม่รู้ตัว
ซีเองไม่ได้สนใจสักนิดว่าสาวๆ ส่วนใหญ่ที่มองก็ใช่ว่าจะมองแต่สเปเชียลเสียเมื่อไหร่แต่เหมือนเจ้าตัวจะไม่ได้ใส่ใจ
เพียงแค่สายตาเหล่านั้นเหล่มองมาในอาณาเขตที่เด็กของเขาอยู่เขาก็ไม่พอใจเสียแล้ว...
“จะขึ้นยัง?”
สเปเชียลส่ายหน้าสายตายังจับจ้องอยู่ที่ปลาตัวเล็กตัวน้อยใต้น้ำ “ยังอ่ะ เดี๋ยวอีกแป๊ปจะชวนแม่ลงไปเล่นชั้นล่างต่อด้วย”
ซีได้ยินแบบนั้นก็ขมวดคิ้ว...
ท่าทางเด็กนี่คงจะไม่ยอมเลิกเล่นน้ำแล้วขึ้นไปเปลี่ยนชุดที่มันแห้งๆเร็วๆ นี้แน่
หลังจากใช้เวลาอยู่ที่น้ำตกจนเกือบหมดวันก็พากันกลับที่พัก
พอมาถึงอติวิชญ์ก็พาภรรยาของตนไปอาบน้ำแต่งตัวที่ห้องพักส่วนทางสเปเชียลก็ดึงซีออกมาอีกทาง
คนที่ตั้งใจจะกลับไปอาบน้ำก็เดินตามมาอย่างงงๆแล้วก็ต้องสงสัยหนักขึ้นไปอีกเมื่อเห็นอีกฝ่ายไปยืนคุยอยู่กับเจ้าหน้าที่โรงแรมด้วยสีหน้าดูมีความสุขอย่างบอกไม่ถูก ไม่นานนักก็เดินมาพร้อมถุงสีน้ำตาลในมือ...
“อะไร” คิดแล้วก็เอ่ยถามเมื่อเจ้าตัวเดินมาใกล้
“อ๋อ กูบอกให้เขาช่วยหาให้ตั้งแต่เช้าแล้ว”ว่าแล้วก็เปิดถุงยื่นให้ซีดูแต่เจ้าของนัยน์ตาสีทองกลับยิ่งทำหน้างงให้ต้องหัวเราะเข้าไปอีก
“เอาน่า เดี๋ยวระหว่างเดินกลับห้องจะอธิบายให้ฟัง”สเปเชียลเอ่ยน้ำเสียงกลั้วหัวเราะด้วยท่าทีที่ดูแล้วมีความสุขเสียเหลือเกินก่อนจะรุนหลังให้ซีเดินกลับห้องพัก
คืนสุดท้ายของการพักผ่อนแสนสุขก่อนเดินทางกลับกรุงเทพในเช้าวันพรุ่งนี้ ทั้ง 4 คนที่อาบน้ำแต่งตัวเรียบร้อยแล้วก็ออกมานั่งที่ระเบียงข้างๆบ้านพัก บรรยากาศตอนกลางคืนท่ามกลางน้ำที่ขยับไหวเบาๆ ลมเย็นๆและแสงไฟสีส้มนวลรอบด้านทำให้ยิ้มไม่หุบ
อาหารหลากหลายประเภทที่ไม่ได้มีราคาแพงเหมือนในภัตตาคารหรือร้านอาหารเลิศรส...
แต่กลับอร่อยกว่ามากเพียงเพราะ...คนที่นั่งกินอยู่ด้วยกันตอนนี้
หลังมื้ออาหารที่ดำเนินไปอย่างช้าๆไม่รีบร้อนราวกับอยากให้เวลามันหยุดเดินไปก่อนในช่วงจังหวะพิเศษแบบนี้...
เมื่อทุกคนหยุดมือและเริ่มนั่งชมบรรยากาศกันสเปเชียลก็ใช้ศอกสะกิดซีให้หยิบของในถุงออกมา ส่งมาถือไว้ในมือคนละ 2 พวง แล้วทั้ง 2 คนก็ค่อยเขยิบคลานเข้าหาคนเป็นแม่ แพรพรรณที่เหลือบมาเห็นพวงมาลัยในมือของคนตรงหน้าก็ยิ้มกว้างอย่างปลื้มใจ
“มันอาจจะไม่ค่อยสดเท่าไหร่นะครับเผอิญมันอยู่มาตั้งแต่เช้า” สเปเชียลว่าแล้วยกมือเกาท้ายทอยอย่างประหม่า
“เนื่องในโอกาสที่วันนี้เป็นวันแม่สเปกับซีเลยเอาพวงมาลัยมากราบครับแล้วสเปก็อยากถือโอกาสกราบขอบคุณและขอโทษในสิ่งที่แม่เคยทำให้สเปและในสิ่งที่สเปเคยทำไม่ดีสเปขอให้แม่มีความสุขมากๆ สุขภาพแข็งแรงอยู่กับสเปไปนานๆแม่คือแม่ที่พิเศษที่สุดสำหรับสเปเลยนะครับ สเปภูมิใจและดีใจที่สุดที่ได้เกิดมาเป็นลูกชายของแม่”
ว่าแล้วสเปเชียลกับซีก็ก้มลงกราบที่ตักของแพรพรรณแล้วสเปเชียลก็ลุกขึ้นหอมเข้าที่ข้างแก้มขาวของแม่ตนเต็มฟอด
แล้วทั้งคู่ก็ไม่ลืมที่จะหยิบพวงมาลัยอีกคนละพวงหันไปกราบพ่อต่อ
“ถึงจะไม่ใช่วันพ่อ สเปก็อยากอวยพรให้พ่อนะครับ”
พ่อรับพวงมาลัยจากเด็กตรงหน้าทั้ง 2 พวงแล้วลูบหัวทั้งคู่ “เจอแต่สิ่งที่ดี คนที่ดี เข้ามาในชีวิต”
สเปเชียลไหว้รับและถอยออกมาส่งยิ้มให้พ่อและแม่ทางฝ่ายซีก็ทำตาม แต่ด้วยความไม่คุ้นชินจึงทำตัวไม่ค่อยถูกนัก
แพรพรรณที่เห็นแบบนั้นก็อมยิ้มแล้วเอ่ยเรียกซีให้เข้ามาใกล้ๆ
“ซีขยับมาหาแม่มา”
คนถูกเรียกหันไปหาแล้วค่อยๆ ขยับเข้าใกล้
“แม่ไม่รู้หรอกนะว่าซีโตมาแบบไหนหรือซารายด์จะดำเนินชีวิตยังไง”
แพรพรรณยิ้มให้กับท่าทางวางตัวไม่ถูกของซีแล้วยกมือลูบแก้มอีกฝ่าย ซียิ้มแล้วพยักหน้าเอียงรับสัมผัสอ่อนโยนแบบนั้น
“แต่ตอนนี้ซีเป็นลูกชายอีกคนของแม่แล้วนะยินดีต้อนรับเข้าสู่ครอบครัวของเราจ้ะ”
แพรพรรณอ้าแขนรับตัวใหญ่ๆ ของซีเข้ามากอดแต่เหมือนซีจะออกแรงมากไปหน่อย... คนเป็นแม่ยิ้มกว้างแล้วอ้าแขนไปทางสเปเชียลเพื่อรับตัวเข้ามากอดอีกคน โดยไม่ลืมที่จะหันไปมองสามีของตนให้ขยับเข้ามาสวมกอดด้วยกัน... ความอบอุ่นแบบนี้หาไม่ได้แล้วจากที่ไหน
สเปเชียล...คือสิ่งที่พิเศษที่สุดในชีวิต
แต่เหมือนว่าตอนนี้...ฉันจะมีลูกชายสุดวิเศษเพิ่มมาอีกคนแล้วล่ะ
ขอบคุณที่มาเป็นลูกของแม่นะ...ซี สเปเชียล...
End
จบ ภาค 1 ครับ
|