C h a p t e r 2 2 ❖
จั บ ตั ว
‘พี่เอ็กซ์ตาดุมากนะครับ มากๆ แบบขนลุกเลย’
‘ยิ้มบ้างนะครับ ยิ้มกว้างๆ เลย’
“พี่เอ็กซ์…ไปนอนกัน’
‘พี่เอ็กซ์…ฮึก...ไม่อยาก…อึก…นอนกับแอลแล้วเหรอ...ฮือ...ไม่อยากให้แอล...ฮืก..กอดแล้วเหรอครับ’
‘แอลไม่อยากนอนคนเดียว ไม่อยากนอนกับยูโรด้วย’
‘ไม่อยากให้พี่เอ็กซ์นอนกับพี่คนนั้นไม่อยากให้อยู่ห่างๆ แอล ไม่อยากให้เขยิบหนี ไม่อยากไปหมด’
‘พี่เอ็กซ์...จูบหน่อย’
‘แอลให้พี่เอ็กซ์ป้อนได้มั้ย’
‘พี่เอ็กซ์กอด’
‘ไว้แอลหายแล้วพี่เอ็กซ์ค่อยไปไม่ได้เหรอ’
‘อย่าเข้ามา!’
ไม่รู้ทำไมทั้งที่ตอนนี้ปวดหัวจนสมองแทบจะแตกออกเป็นเสี่ยงๆอยู่แล้ว แต่ก็ยังอุตส่าห์ได้ยินถ้อยคำที่ฝังลึกในความทรงจำขึ้นมาไม่หยุด
มันดังก้องพรั่งพรูออกมาเรื่อยๆ ราวกับจะตอกย้ำถึงสิ่งที่ผ่านไปแล้วจนถึงเสียงสุดท้ายที่ได้ยิน…
เสียงเดียวกับที่เอ่ยออดอ้อนเสียงคุ้นเคยที่เปลี่ยนเป็นแข็งกร้าวตวาดลั่นพร้อมปรากฏใบหน้าท่าทางถอยหนีของคนตรงหน้า เขาพอจะเข้าใจความรู้สึกของซีแล้ว…
และเริ่มจะเข้าใจว่าสเปเชียลเคยรู้สึกยังไงเวลาที่ถูกใครเกลียดในเผ่าพันธุ์…เกลียดตัวตนของตัวเอง
หากแต่ตอนนี้เขาคงแย่กว่ามาก เพราะตอนที่เขาเกลียดและพยายามฆ่าสเปเชียล…สเปเชียลไม่ได้รักเขา และเขาก็ไม่ใช่ซี แต่คนตรงหน้าที่กำลังทำร้ายเขาอยู่ตอนนี้คือ…อัลฟา...
เจ้าแมวตัวเล็กที่เคยคลอเคลียอยู่ในอกในอ้อมกอดเขาทุกคืน
ความเจ็บปวดแบบที่ไม่เคยได้รับมาก่อนกำลังจู่โจมเขาอย่างหนักทั้งทางกายและทางใจ เจ็บจนยืนไม่ไหว เหมือนถูกบีบสมองมือหนาที่เคยแข็งแรงทำได้แค่กุมศีรษะตัวเองอย่างทรมาน เข่าข้างนึงทรุดลงยันพื้นไว้ไม่ให้ตัวเองล้มลงไปนอน
เขายังสบตากับอัลฟาอยู่ดวงตาหรี่เล็กลงแต่ไม่อาจหันเบนหนีไปทางไหนได้ ราวกับมีแรงดึงดูดในแววตา แข็งกร้าวของเจ้าตัวเล็กตรงหน้า เหมือนดวงตาคู่นั้นจะมีพลังมากเกินกว่าปฏิเสธ นัยน์ตาข้างสีฟ้าเข้มของอัลฟาฉายแววประกายวูบวาบในความรู้สึก
เอ็กซ์พยายามจะลุกขึ้นยืนเมื่อเห็นน้ำใสคลอหน่วยจนไหลออกมาจากขอบดวงตาของอัลฟา แต่ความทรมานที่มีมากเกินไปทำให้ไม่อาจขยับตัวได้อย่างที่ใจคิด และก่อนที่จะได้คิดทำอะไรต่อก็มีมนุษย์ร่างใหญ่พอๆกับเขารุดเข้าจับตัวอย่างรวดเร็วทั้งซ้ายขวา แต่ไม่ว่าเขาจะสะดุ้งตกใจแค่ไหนก็ไม่อาจละสายตาไปจากการประสานกับดวงตาสองสีของอัลฟาได้ เหมือนถูกควบคุมอะไรบางอย่างในร่างกาย ปลายประสาทชาวาบ เจ็บปวด รวดร้าว…จนทรมาน…
เขารู้สึกถึงอะไรสักอย่างแทงเข้าที่ท่อนแขนความเย็นวูบไหลผ่านทั่วร่าง ทำเอาการมองเห็นเริ่มพร่าเลือนลงจนมองหน้าเจ้าแมวตัวเล็กไม่ชัด… เขาพยายามเปิดเปลือกตาที่หนักอึ้งเมื่อเห็นคนตรงนั้นล้มลงไปกองที่พื้น
แต่ไม่ทัน...ไม่นานทุกอย่างก็ดำมืด
อัลฟาล้มลงก่อนที่เอ็กซ์จะหมดสติยูโรที่นั่งอยู่ไม่ไกลเบิกตากว้างรุดเข้าหาทันที “แอล!” เขาช้อนหัวอัลฟาขึ้นมาแนบอกแล้วเขย่าร่างเล็กให้ตื่น ได้ยินเสียงไคลด์แว่วเข้าหู และคนหลายคนพาตัวพี่เอ็กซ์ขึ้นรถ
“มึงจะเอาพี่เอ็กซ์ไปไหน!”
ไคลด์เหลือบตากลับมามองยูโรเล็กน้อยแล้วหันไปทางมิเกล
“นายอยู่ดูแลอัลฟา พาเขากลับไปคอนโด”
“ครับ” สิ้นคำตอบรับคนเป็นเจ้านายก็สอกกายขึ้นรถไป มิเกลมองตามไปเล็กน้อยแล้วหันมาทางยูโรก่อนจะช้อนตัวอัลฟาขึ้นอุ้มเอง
“ผมต้องพาคุณอัลฟากลับ”
“ผมไปด้วย!”
คำที่อีกฝ่ายสวนกลับมาทันทีทำให้คนฟังต้องเลิกคิ้ว
“ผมไปด้วยนะครับพี่มิเกลเดี๋ยวรอผมเข้าไปเอาของแป๊ปเดียว” ยูโรเอ่ยย้ำคำแล้วรุดเข้าบ้านทันที ที่มิเกลพยักหน้า
เขารีบเดินเข้าห้องคว้าของใช้ที่จำเป็นเข้ากระเป๋าแล้วกวักมือเรียกเบต้าที่นั่งมองอยู่ให้ตามมา ก่อนจะเขียนโน้ตบอกแม่ไว้ว่าไปบ้านเพื่อน
ระหว่างทางยูโรยังคงเช็คอาการอัลฟาเรื่อยๆอย่างเป็นห่วง ตัวเริ่มร้อนอีกแล้ว
“คุณอัลฟาใกล้ถึงขีดจำกัดแล้วนะครับ”
เสียงทุ้มนุ่มที่เอ่ยขึ้นเรียบๆ ดังมาจากหลังพวงมาลัยให้ยูโรต้องรีบเงยหน้ามอง
“...ผมรู้...ผมอยากให้แอลมันหลุดจากวงจรนี้เสียที”ยูโรกำหมัดแน่น “ผมขอร้องล่ะพี่มิเกลเรื่องมันเป็นยังไงพี่ช่วยบอกผมทีเถอะครับ”
มิเกลเงียบ และมองตรงไปข้างหน้านิ่งๆหากแต่ยูโรคงไม่ได้เห็นคิ้วสีอ่อนที่ขมวดเข้าหากันจากทางด้านหลัง
เขาจึงคิดว่าอีกฝ่ายคงไม่สนใจจะต่อความเลยทำได้แค่หันไปมองอัลฟาอีกครั้ง มิเกลยังคงไม่พูดอะไร และขับเคลื่อนรถยนต์ต่อไปเรื่อยๆ
เรื่องนี้เดินทางมากไกลมากแล้วระยะเวลาการเดินทางมันยาวนานเกินไป แต่ตอนนี้เหมือนเจอทางกลับรถ...
ถ้ามันยังทันล่ะก็...เขาเองควรจะทำอะไรสักอย่าง
เมื่อมาถึงที่ยูโรถูกใส่แว่นปิดตาขณะพาขึ้นไปบนห้องเปิดตามาอีกทีก็พบว่าเขามายืนในบริเวณห้องรับแขกของคอนโดแต่การตกแต่งด้านในนี่มันไม่น่าจะเรียกว่าคอนโดเลย เขาสบตากับเจ้าของที่นี่ด้วยแววตาไม่เป็นมิตรและไม่คิดจะเอ่ยถ้อยคำพูดคุยอะไร
ซึ่งนั่นทำให้มิเกลต้องเอ่ยปากแทน
“คุณยูโรขอมาอยู่ดูแลคุณอัลฟาครับ”
ไคลด์หันไปมองยูโรแล้วเบนสายตาไปทางอัลฟาที่ยังหมดสติอยู่ในแขนของมิเกลอีกครั้งก่อนจะพยักหน้า
เขามองอาการออกไคลด์รู้ดีว่าแม้อัลฟาจะไม่ได้พูดไม่ได้เล่าถึงประเด็นที่เขากำลังครุ่นคิดอยู่ แต่ท่าทางที่เจ้าตัวมีให้กับซาไลย์เพศชายตัวนั้น... มันค่อนข้างจะมีอะไรที่พิเศษไปกว่าความโกรธแค้นอย่างที่เคยเป็น
เห็นทีเรื่องคราวนี้คงไม่ง่ายเท่าที่คิดหากไม่รีบลงมือทำอะไรสักอย่าง เพราะอัลฟาเริ่มจะไม่ทำตามเขาเสียแล้ว
และเด็กข้างๆเขาอาจจะเปลี่ยนใจทำอะไรที่ตรงกันข้ามกับสิ่งที่เขาต้องการก็ได้ ยิ่งมีตัวแปรที่ส่งผลกับอารมณ์และสภาพจิตใจของอัลฟาอย่างยูโรมาอยู่ใกล้ๆ อีก…ไม่ดีแน่
“ฉันจัดเครื่องนอนและเสื้อผ้าเครื่องใช้ของเพื่อนเธอไว้ให้แล้ว”ไคลด์เอ่ยปากกับยูโร ก่อนจะหันไปหา คนสนิท
“มิเกล ดูแลพวกเขาด้วย”
“ครับ…คุณยูโรมาทางนี้เลยครับ”มิเกลรับคำแล้วผายมือไปทางประตูด้านซ้ายให้ยูโรออกเดิน
พอถึงที่หมายมิเกลก็เปิดประตูขนาดใหญ่ให้ทั้งยูโรเดินก่อนจะอุ้มอัลฟาตามเข้าไป
ห้องนอนที่มีขนาดกว้างใหญ่เหมือนที่คิดในหัวเตียงไม้สีเข้ม 4 เสา ตั้งอยู่ตรงกลางด้านในมีผ้าม่านมัดรวบสวยงามอยู่ด้านข้าง
มุมห้องด้านซ้ายติดกับหน้าต่างที่ยาวจากพื้นจรดเพดานมีโซฟาขนาดใหญ่และเก้าอี้นวมตั้งอยู่โทนสีขาวเทาสบายตาอย่างน่านอน
หากยูโรเพียงกวาดตามองอย่างไม่สนใจอะไรเขาวางเบต้าลงที่พื้นให้สุนัขโรบอทตัวเล็กสำรวจพื้นที่ใหม่
แล้วหันไปหาคนที่เดินไปวางตัวเพื่อนเขาที่เตียงแล้วสืบเท้าเข้าหา
มิเกลที่ง่วนอยู่กับอัลฟาเมื่อครู่จับผ้าห่มขยับคลุมตัวให้คนที่ยังไม่คืนสติก่อนจะหันมาทางยูโร
“ผมฉีดยาให้แล้ว อีกไม่กี่ชั่วโมงก็คงจะรู้สึกตัวสักพักผมจะมาเข้ามาดูใหม่นะครับ”
“ครับ”
“แล้วรบกวนอย่าให้คุณอัลฟาใช้พลังอีกนะครับ”
ยูโรขมวดคิ้ว “ถ้าไม่ใช่เพราะเจ้านายพี่มันคงไม่ใช้หรอก” เขาประชดแบบที่คนถูกประชดก็นิ่งไป ถอนหายใจเล็กน้อย
“คุณยูโรรอคุยกับคุณอัลฟาก่อนดีกว่าครับ”
“…” ยูโรเบนสายตาหนีด้วยความหงุดหงิด
“สภาพจิตใจคุณอัลฟาตอนนี้บิดเบือนกำลังต่อสู้กับตัวเองอย่างหนักตั้งแต่คุณลอว์เรนจากไปมีบางอย่างในตัวคุณอัลฟาที่ถูกปิดตาย เขาเปราะบางกว่าคนปกติอยากให้คุณยูโรเข้าใจมากกว่าใบหน้ายิ้มแย้มที่แสดงออกถึงความสดใสที่เห็นอยู่นั้นนะครับ”
“...” ยูโรหันไปสบตากับแก้วตาสีมรกตนั้นแล้วเม้มปากแน่น
“แล้วทำไมพี่ไม่คิดจะช่วยมันล่ะ”
คำที่เอ่ยออกไปทำให้เขาเห็นแววสั่นไหวในดวงตาคู่นั้นของมิเกล และเหมือนเขาจะไปพูดจาทำร้ายอีกฝ่ายให้แล้ว ยูโรก้มหน้าลงอย่างรู้สึกผิด
“ขอบคุณพี่มิเกลนะครับที่ดูแล”
“ครับ แล้วผมจะแวะเข้ามาใหม่คุณยูโรพักผ่อนเถอะครับ” มิเกลว่าแล้วเดินออกจากห้องไป
ผ่านพ้นไปกว่า 2 ชั่วโมงและมิเกลก็เข้ามาดูได้ 2 ครั้งแล้วคนบนเตียงถึงได้สติ อัลฟารับยาและแก้วน้ำมาดื่มก่อนจะยื่นคืนให้คนส่งรับไป
“คุณอัลฟาอาการเป็นอย่างไรบ้างครับ?”
“เบลอครับ มึนหัว”
“นอนพักอีกสักหน่อยนะครับ สักพักคงจะดีขึ้น”มิเกลว่าแล้วขยับลุกจากข้างเตียง ทำท่าจะเดินออกไป
แต่เสียงเล็กที่แหบนิดๆของอัลฟาฉุดรั้งเขาไว้ก่อน
“พี่มิเกล…” เจ้าของชื่อหันมาสบตาแล้วพยักหน้าเป็นการตอบรับ
“คือ…คือว่า…” เจ้าตัวเล็กอึกอักหลุบตาลงอย่างลังเลแต่อีกฝ่ายที่รอฟังกลับรู้ดีว่าเจ้าตัวต้องการจะพูดอะไร
“ต้องการอะไรเพิ่มเติมหรือครับคุณอัลฟา” หากคนรู้ดีกลับไม่ได้เอ่ยออกไป
“เปล่าครับ…คือแอลแค่อยากรู้ว่า...มิสเตอร์ไคลด์พาตัว…เอ่อ” อัลฟาพูดไปคิดไปอย่างลังเล เขาควรจะพูดชื่อพี่เอ็กซ์ออกไปมั้ยนะ…
“…มิสเตอร์ไคลด์พาตัวเขาไปไว้ไหนครับ” และอัลฟาก็ตัดสินใจที่จะไม่เอ่ยเรียกชื่อของคนที่หมายถึงออกมา
“อ๋อ…” มิเกลหรี่ตาลงเล็กน้อยแต่ก็เพียงแวบเดียวเท่านั้นสีหน้าก็กลับมาเป็นปกติ
“เขาถูกนำตัวไปขังไว้ในห้องที่สร้างมาพิเศษส่วนด้านในครับ”
“ห้องที่ถูกสร้างมาพิเศษเหรอครับ?!” อัลฟาเผลอตัวถามสวนกลับไปอย่างรวดเร็ว ก่อนจะชะงักแล้วนิ่งรอคำตอบ
“ครับ ห้องกระจกเลเซอร์พิเศษ ระบบรักษาความปลอดภัยชั้นเลิศ”มิเกลเอ่ยปาก “มีอะไรอีกมั้ยครับ?”
“...แล้วเขาจะฟื้นรึยังครับ”
“ผมก็ยังไม่ทราบ แต่ถ้าคุณอัลฟาอยากทราบเดี๋ยวผมจะมารายงานนะครับ”
“ขอบคุณมากนะครับพี่มิเกล” มิเกลพยักหน้าตอบรับคำขอบคุณของอัลฟาแล้วถอยออกจากห้องไป
“แอล” เมื่อประตูปิดลงยูโรที่นั่งอยู่ตรงโซฟาก็เอ่ยปากเรียกทันทีแล้วพยักหน้าให้อีกฝ่ายที่ลุกจากเตียงแล้วมานั่งข้างๆ อัลฟาลูบหัวเบต้าที่คลอเคลียอยู่ข้างขาก่อนจะทรุดตัวลงนั่งข้างๆ ยูโร
“ห่วงพี่เอ็กซ์ขนาดนั้นแล้วทำแบบนั้นทำไม”
“…”
“จะเล่าให้กูฟังได้รึยัง?”
“…” อัลฟาสบตากับยูโรนิ่งแล้วพยักหน้าลงเล็กน้อยแววตาจริงจังของเจ้าตัวเล็กทำให้คนรอฟังขยับตัวนั่งหลังตรงอย่างตั้งใจ
“พี่เอ็กซ์เป็นซาไลย์”
“…”
สิ้นคำอัลฟา ทั้งห้องก็ตกอยู่ในความเงียบทุกอย่างกริบไร้เสียง เหมือนคนฟังจะเผลอกลั้นหายใจ ยูโรขนลุกไปทั้งตัว นัยน์ตายังคงสบนิ่งกับอัลฟาเหมือนภายในห้องถูกหยุดเวลา ไม่มีการเคลื่อนไหวใดๆ อัลฟาเองก็นิ่งเงียบรอจนคนตรงหน้าตั้งสติได้เอง
“เอ่อ…เมื่อกี้กู…ฟังผิดปะวะ มึงบอกว่า...”
“พี่เอ็กซ์เป็นซาไลย์” อัลฟาต่อคำยูโรทันทีโดยไม่ต้องรอให้อีกฝ่ายเอ่ยไปจนจบ
นัยน์ตาสองสียังคงนิ่งและมั่นคงเหมือนว่าเวลาหลายวันที่ผ่านมาเพียงพอแล้วต่อความสับสนและฟูมฟาย
ยูโรลอบกลืนน้ำลายในขณะที่อัลฟาเบนสายตาไปทางเบต้าเขายังขนลุกไม่หาย
พี่เอ็กซ์คนนั้น…เป็นซาไลย์
“แล้ว…มึงไม่ดีใจเหรอที่เจอ”
“ไม่!” อัลฟาตะโกนลั่นแล้วลุกขึ้นยืน
เสียงตวาดลั่นทำยูโรสะดุ้งด้วยความตกใจคนตะโกนหอบนิดๆ เพราะแรงโทสะ ก่อนเจ้าตัวจะรู้สึกตัวแล้วทรุดลงนั่งเหมือนเดิม
“…มึงเกลียดซาไลย์เหรอ มึงไม่ได้ชอบมันเหรอ”
“ไม่...ไม่ใช่แล้ว ไม่ใช่มานานมากแล้ว”
“นี่มึง…” ยูโรเบิกตากว้างขึ้นหลังจากเงียบไปสักพักเหมือนว่าในหัวจะพยายามประติดประต่อเรื่องราวทั้งหมดอย่างสับสน
“มึงจะทำอะไร มึงช่วยไอ้ไคลด์จับตัวพี่เอ็กซ์เหรอ?!”
“…”
“นี่มึงทำได้ยังไงวะแอลพี่เอ็กซ์เขาดีกับมึงมากนะเว้ย นี่มึง-”
“ยูโรไม่เข้าใจหรอก!” อัลฟาสวนกลับไปเสียงดังเมื่ออีกฝ่ายกำลังจะรื้อฟื้นความทรงจำของเขาขึ้นมา
“แอล…ทำไมวะ…มึงเคยชอบซาไลย์จำได้มั้ยมึงยังจำตอนที่เราฟังพี่สเปเชียลเล่าเรื่องพวกนั้นได้อยู่มั้ย”
ยูโรขมวดคิ้วแล้วเอ่ยปากไปเรื่อยๆ อย่างไม่เข้าใจเขายังจำได้ดีว่าตอนยังเด็กเวลาที่พวกเขานอนฟังเรื่องพวกนั้นด้วยกันมันสนุกแค่ไหน
“มันฆ่ามัม” ถึงประโยคนี้น้ำตาที่คลอหน่วยอยู่ก็หยดพรากลงมาทันที
ยูโรนิ่งอึ้งไปคำพูดนั้นทำให้เขาไม่เข้าใจเข้าไปใหญ่
“แอล คุณลอว์เรนตายเพราะใช้พลังมากไป…”
“ไม่ใช่! มัมตายเพราะพวกมันมัมใช้พลังปกป้องมนุษย์จากพวกซาไลย์ มัมสู้จนมัมต้องตาย! คนหลายคนต้องตายเพราะมันคนในโปรเจคที่ไปกับมัมวันนั้นตายเพราะมันทั้งหมด! และจะมีคนอีกมากที่ต้องตาย!”
“แอล...”
“เรื่องพลังนั่นแอลไม่สน แอลอยากช่วย!แอลไม่อยากให้เด็กคนไหนต้องเสียใจเพราะต้องเสียมัมไปเหมือนแอลอีก! อึก...”
อัลฟาตะโกนทั้งน้ำตาแล้วฟุบหน้าคงกับเข่าสะอื้น จนคนฟังที่ยังคงอึ้งอยู่ต้องรีบตั้งสติแล้วรุดเข้าไปกอดปลอบเจ้าตัวเล็กทันที
“แต่...อึก...แอลก็...ฮึก...รักพี่เอ็กซ์แอลรัก...แอลรักพี่เอ็กซ์” เสียงสั่นๆ และขาดเป็นห้วงของอัลฟายังดังขึ้น ไม่หยุด
“แอลฆ่าพี่เอ็กซ์ไม่ได้...ฮึก...แอล...ทำไม่ได้...อึก..พี่เอ็กซ์ตายไม่ได้...ฮือ”
อัลฟากำลังสติแตกอารมณ์ขึ้นลงสลับกันอย่างน่าตกใจ
ยูโรลูบหัวลูบหลังอัลฟา กดหัวทุยๆ ให้ซบลงที่อกของเขาเอ่ยปากกล่อมว่าไม่เป็นไรอยู่ข้างหู
แม้ในใจจะคิดฟุ้งซ่านและสับสนเต็มที สรุปคุณลอว์เรนตายเพราะซาไลย์? สรุปซาไลย์เป็นศัตรูกับมนุษย์?ซาไลย์ไม่ดีเหรอ?! ตกลงที่ผ่านมาแอลไม่ได้ฝึกพลังเพราะอยากเจออยากศึกษาซาไลย์แต่ต้องการจะทำลายล้างเผ่าพันธุ์พวกมัน?!
ไหนคุณกานต์บอกว่าคุณลอว์เรนเสียชีวิตเพราะพลังในกายย้อนทำร้ายตัวเองควบคุมไม่ได้จนสิ้นลมหายใจ
ตกลงนี่มันอะไรกันแน่…เรื่องทั้งหมดคืออะไรกันแน่
“อึก…”
“แอล? เป็นไรมั้ย?!”ยูโรผละออกมองหน้าอัลฟาเมื่อได้ยินเสียงครางแปลกๆ ในคอของเจ้าตัวเล็ก
พอเห็นสีหน้าเจ็บปวดดวงตาปิดสนิทมือกุมที่ขมับก็ต้องตกใจ
“ไม่เป็นไร แอลแค่ปวดหัว”
“ไหวมั้ย? ให้กูไปบอกพี่มิเกลเอาคนมาดูอีกรอบมั้ย”
“ไม่เป็นไรยูโร แอลไม่เป็นอะไรมาก”
“งั้นมึงไปนอน เดี๋ยวกินยาด้วยนะ”
ยูโรประคองอัลฟาไปที่เตียงแล้วเดินไปหยิบยาเม็ดสีฟ้าในกระเป๋าเป้ พร้อมหยิบน้ำจากในตู้เย็นเดินไปส่งให้
“ขอบคุณนะยูโร” อัลฟาพูดเสียงพร่าแล้วยื่นขวดน้ำคืนให้อีกฝ่ายรับมาแล้วลูบหัวเจ้าตัวเล็กเบาๆ
ยูโรมองอัลฟาด้วยความเป็นห่วงเขาไม่รู้หรอกว่าที่เจ้าตัวพูดเมื่อกี้มันจะอะไรแน่
แต่ที่เขามั่นใจคืออัลฟากำลังต่อสู่กับความคิดตัวเองอยู่...ความคิดที่แบ่งแยกเป็นสองฝั่งในใจ...
ขนาดตอนที่โวยวายเสียงดังใส่เขาเขายังรู้สึกได้ถึงความขัดแย้งในตัวเองที่อีกฝ่ายแสดงออกมา
พูดอย่างนึง แต่ในใจกลับมีอีกอย่างที่ต่างไป
เขาได้แต่หวังว่าพายุในใจของอัลฟาคงจะสงบลงได้ในเร็ววันนี้
“พักซะ เดี๋ยวก็ดีขึ้นตอนนี้ร่างกายมึงไม่ไหวแล้ว อย่าไปซ้ำมันอีก เข้าใจมั้ย”
อัลฟายิ้มจาง แล้วพยักหน้ารับ
เขาเองก็รู้ดีว่าร่างกายตอนนี้ถึงขีดจำกัดแล้วหากใช้มากกว่านี้ในเวลาใกล้ๆ กัน...เขาอาจจะตายได้
แต่ตอนนี้เขาสับสน ข้อมูลในหัวตีกันจนยุ่งประมวลผลมั่วไปหมด ร่างกายกับจิตใจตอนนี้สวนทางกัน
ในวินาทีที่ขาดสติเขาเผลอทำร้ายพี่เอ็กซ์...
ก๊อก ก๊อก
“ผมมิเกลครับ”
“เข้ามาได้เลยครับ”
แกรก
ยูโรที่นั่งมองดูอัลฟาหลับสนิทอยู่ข้างๆหันไปมองเมื่อได้ยินเสียงเคาะประตูดังขึ้นพร้อมเสียงรายงานตัวเหมือนเคยจากด้านนอก พอเขาขานรับแล้วมิเกลก็เปิดเข้ามา
“คุณอัลฟาหลับแล้วเหรอครับ?” มิเกลเอ่ยถามเมื่อหันไปเห็นคนที่ตั้งใจจะเข้ามาหานอนนิ่งอยู่บนเตียงด้านในอีกครั้งแล้ว
“ครับ พี่มิเกลมีอะไรบอกผมไว้ก่อนได้นะ” ยูโรลุกขึ้นแล้วสืบเท้าเข้าหา
เขาไม่ได้เกลียดมิเกลเหมือนที่เกลียดไคลด์เขารู้ดีว่ามิเกลเป็นคนดี เขาสัมผัสได้ อีกฝ่ายอายุห่างจากเขาราว 6 ปี เป็นเหมือนพี่ชายที่ดูจะใจดีอยู่ลึกๆเห็นกันมาตั้งแต่อยู่ที่อังกฤษแล้ว
แม้คำพูดคำจาจะซับซ้อนและดูเป็นทางการไปเสียมาก แต่ก็ทำให้เขารับรู้ได้ไม่ยากว่ามีความหวังดีซ่อนอยู่ในถ้อยคำเหล่านั้นไม่น้อย
“หรือถ้าไม่สะดวกจะมาใหม่ตอนอัลฟาตื่นแล้วก็ได้นะแต่ผมไม่แน่ใจว่าเจ้าตัวจะตื่นสักกี่โมง”
“ไม่เป็นไรครับ ผมฝากเรื่องไว้เลยก็ได้ไม่ใช่ความลับอะไร”
ยูโรได้ยินแบบนั้นก็พยักหน้ารับรอฟัง
“ผมจะมารายงานว่าเขาฟื้นแล้วครับ” มิเกลเอ่ยบอกเสียงเรียบๆ
ยูโรชะงักไป สีหน้าตระหนกเล็กน้อย แล้วหันขวับไปมองอัลฟาที่ยังคงหลับสนิทอยู่ก่อนจะหันมาทางมิเกล
“งั้นผมขอตัว”
“เอ่อ…พี่มิเกล” ในขณะที่มิเกลกำลังจะหมุนตัวกลับนั้นก็ต้องชะงักแล้วหันกลับมาอีกครั้งเมื่อคนข้างๆ เอ่ยปากต่อ
“ผมขอไปหาเขาได้มั้ย”
|