C h a p t e r 2 6
❖
ด ว ง ใ จ
หลังจากใช้เวลาค่อนข้างมากกว่าปกติในการเดินทางกลับคอนโด ซีก็พาสเปเชียลเข้าไปนอนในห้องแล้วปล่อยให้ยูโรนอนอยู่ตรงโซฟาตรงห้องรับแขก ก่อนจะเดินเข้าห้องนอนเล็กไปดูอาการของ 3 บุคคล ที่น่าเป็นห่วง
พอเข้าไปในห้องก็เจอเอ็กซ์กำลังนั่งพื้นพิงขอบเตียงที่มีอาร์มินและอัลฟานอนนิ่งอยู่ข้างบน
“ไหวมั้ยเอ็กซ์?”
เอ็กซ์เงยหน้าขึ้นมองคนมาใหม่ช้าๆการหายใจของเขาติดขัดเล็กน้อย
“อืม ต้องใช้เวลา”
“ขึ้นไปนอนบนเตียงเถอะ”
เอ็กซ์พยักหน้าแล้วเริ่มขยับตัวขึ้นไปนอนตรงที่ว่างข้างๆอัลฟา เหลือบตามองเจ้าแมวตัวเล็กที่ยังหลับสนิทอยู่
“เขาจะเป็นอะไรมั้ย..” เอ็กซ์พึมพำแผ่วเบาแต่ยังพอให้ซีได้ยิน
สำหรับเอ็กซ์แล้วเขาคิดว่าอาการของคนที่น่าเป็นห่วงที่สุดในตอนนี้คงเป็นอัลฟา เพราะซาไลย์อย่างเขากับอาร์มินมีระบบเลือดที่เยียวยาตัวเองได้ หากไม่ถึงกับสิ้นลม การพักสักหน่อยจะเป็นการรักษาตัวเองที่ดีที่สุดแล้ว…แต่กับอัลฟาไม่ใช่
“เจ้านั่นหยุดเคลื่อนไหว” เอ็กซ์ว่าแล้วมองไปทางเบต้าที่ถูกวางอยู่ตรงโซฟา “แสงสีขาวนั่นมาจากมัน”
“อย่าเพิ่งคิดเลย นอนก่อนเถอะถ้าเป็นห่วงนักก็เริ่มจากหายให้สนิทก่อน”
“อืม นายก็ไปพักเถอะ ขอบใจมาก”
ซีพยักหน้ารับแล้วเปิดประตูหายออกจากห้องไป หลังจากที่ประตูปิดลงแล้วคนที่ยังมีสติอยู่เพียงคนเดียวในห้องก็หันไปหาร่างข้างๆ ขยับดึงตัวเล็กๆ เข้ามากอดเอื้อมมือไปคว้ามือของอีกฝ่ายมากดจูบที่หลังมือเบาๆ ย้ำๆ หลายๆ ที แล้วเอาหน้าแนบหลังมือนิ่งอยู่อย่างนั้นก่อนจะหลับตาลงช้าๆ
เขาได้แมวตัวเดิมกลับมาแล้ว…
ช่วงบ่ายของวันถัดมาคนบนเตียงทั้ง 3 ที่มีสภาพร่อแร่ที่สุดก็ยังไม่ฟื้น
สเปเชียลที่ลืมตาตั้งแต่ตอนเที่ยงก็รีบลุกพรวดพราดจากเตียงจนหัวหมุนเพราะหน้ามืดได้ซีรีบคว้าเอวดึงไว้ก่อนจะได้ลงไปกองที่พื้น
ทั้ง 2 เปิดประตูออกมาจากห้องนอนใหญ่ก็ไม่พบยูโรนอนอยู่ที่โซฟาแล้ว
หากแต่ไปเจอเจ้าตัวนั่งนิ่งที่ในห้องเล็กบนหัวอัลฟามีผ้าชุบน้ำวางอยู่ คิดว่ายูโรคงเป็นคนเข้ามาดูอาการ ได้สักพักแล้ว
“เป็นไงบ้างยูโร” สเปเชียลเดินเข้าห้องมาแล้วเอ่ยปากถามปราดตามองคนและซาไลย์ที่ยังหลับตาสนิท อยู่บนเตียง
“อาร์มินกับพี่เอ็กซ์อุณหภูมิปกติดีครับแต่แอลตัวร้อน”
สเปเชียลเดินไปจับตัวอัลฟาแล้วก็ต้องสะดุ้งตกใจเมื่ออุณหภูมิร่างกายสูงจนน่าตกใจ ซีเดินเข้าไปข้างๆ สเปเชียลแล้ววางมือบนหัวทุยๆ สีเข้มของอีกฝ่ายโยกเบาๆ
“เอ็กซ์กับอาร์มินจะเป็นไรมั้ย” สเปเชียลเอ่ยปากถาม ขมวดคิ้วอย่างกังวล
“ไม่เป็นไรหรอก ซาไลย์ไม่ป่วยถ้าไม่ตายก็คือไม่ตาย นี่คงจะเหนื่อย ให้ร่างกายมันฟื้นฟูตัวเองก่อน”
“อืม…”
RRrrrrrrr
RRRrrrrr
“เดี๋ยวกูมา”
สเปเชียลเอ่ยปากแล้วเดินไปตามเสียงโทรศัพท์ของเขาที่วางอยู่นอกห้องนอน
ซีมองตามไปก่อนจะมาสะดุดอยู่ที่ยูโรที่จ้องเขาอยู่ตั้งแต่แรกแล้ว พอยูโรเห็นซีสบตากับมาก็แอบสะดุ้งนิดๆแล้วเบนสายตาหนี
“กลัวอะไร” ซีเอ่ยปากถามเมื่อรู้สึกถึงแรงเต้นของหัวใจที่เร็วผิดปกติของอีกฝ่าย
“ครับ?! เอ่อ...”
“…กลัวซาไลย์รึไง”
“ปะ…เปล่าครับ ไม่ได้กลัว”ยูโรละล่ำละลักตอบอย่างประหม่า
“หรือว่าเกลียด”
“เปล่านะครับ! เอ่อ ไม่ได้เกลียดครับ”
“อือ”
เสียงครางในคอจากอาร์มินเรียกให้ทั้ง 2 หันขวับไปมอง แล้วซีก็สืบเท้าเข้าไปหาแล้วนั่งลงข้างเตียงทันที
“เป็นไงบ้าง?”
“มึนหัวครับ” อาร์มินค่อยๆ ยันตัวลุกขึ้นตามแรงประคองของซีแล้วเอนหลังพิงหัวเตียง
“เจ็บตรงไหนอยู่มั้ย?” ซีเอ่ยถามแล้วเอื้อมมือไปลูบหัว “พี่ขอโทษ”
“ไม่เป็นไรครับ แล้วพี่เอ็กซ์ล่ะ พี่เอ็กซ์-”
“ชู่ว”
ซีส่งเสียงให้อีกฝ่ายเงียบเมื่อเห็นว่าอาร์มินเอ่ยถามไม่หยุดอย่างกังวล แล้วปรายตาไปข้างเตียงให้คนกังวล หันมองตามก่อนจะถอนหายใจด้วยความโล่งอก
“พี่เอ็กซ์ตื่นรึยังครับ”
“ตอนกลับมายังมีสติ แต่ตอนนี้ยังไม่ตื่นเลยคงต้องรอสักพัก ร่างกายได้รับสารแปลกปลอมเข้าไปมาก คงต้องใช้เวลา”
“แล้วเจ้าเด็กบ้านี่ล่ะ”
“อาการบอกไม่ได้เลย”
อาร์มินนิ่งเงียบมองอัลฟาที่นอนซุกเอ็กซ์อยู่ข้างตนมีผ้าขาวปิดอยู่ที่หน้าผาก
“อุณหภูมิกายสูงชะมัด ทำผมร้อนไปด้วยเลย” อาร์มินบ่นไม่จริงจังนักแล้วเอื้อมมือไปแตะที่หลังคออัลฟา
“ร้อนชะมัด!”
ซีมองหน้าซีดๆ ของอาร์มินแล้วก็ขมวดคิ้ว
“นายต้องการเอนไซม์แล้วล่ะ”
“ครับ เดี๋ยวผมว่าจะออกไปข้างนอก” อาร์มินยิ้มบางๆ รับแล้วก้าวขาลงจากเตียงก่อนจะทรุดฮวบให้ซีคว้าแขนรั้งไว้
“จะตายอยู่แล้ว จะออกไปยังไง” เขาออกแรงดันอาร์มินให้นั่งลงบนเตียง
ซีขมวดคิ้วมองอาร์มินที่ยังคงตีหน้านิ่งใส่แล้วปราดตามองยูโรครุ่นคิดไปนิด
“ยูโร”
“คะ...ครับ?”
“ขอเอนไซม์หน่อยสิ”
“หะ?!” คนถูกขอสิ่งที่ไม่คาดคิดเบิกตากว้างอุทานอย่างตกใจแล้วเผลอเขยิบถอยหนีเล็กน้อย
“อาร์มินกำลังฟื้นฟู ร่างกายต้องการยา”
“แล้วทำไมต้องเป็นผมล่ะพี่?!”
“ก็ในห้องนี้มีมนุษย์แค่ 3 คนนาย อัลฟา สเปเชียล” ซีว่า “อัลฟาก็สภาพเป็นแบบนั้นถ้านายไม่ให้แล้วจะให้สเปเชียลทำเหรอ” สิ้นคำซีก็มองยูโรตาเขม็ง
อย่าได้ฝันว่าจะให้สเปเชียลเป็นคนนั้นและนั่นยูโรก็รู้ดีว่าแบบซีคงไม่มีทางยอม เขากลืนน้ำลายลงคอ อึกใหญ่แล้วเม้มปากแน่นอย่างเคร่งเครียด เหลือบมองใบหน้าซีดๆ ของอาร์มินแล้วก็ถอนหายใจก่อนจะเดินเข้าไปหาช้าๆ
ยูโรทรุดตัวลงนั่งข้างๆ เตียงแล้วยื่นมือไปข้างหน้าอาร์มินเล็กน้อย ให้คนผมขาวหันมามองด้วยสีหน้าเรียบๆไม่มีอะไรต่างจากเดิมยูโรยิ้มมุมปากกับอาการหน้าตายของอีกฝ่าย
“พี่ซีก็ออกไปก่อนสิครับ”
ยูโรหันมาบอกคนที่ยืนค้ำหัวอยู่ไม่ห่างให้อีกฝ่ายเลิกคิ้วเล็กน้อยเหมือนจะถาม แต่ก็ยอมออกไปแต่โดยดี
ยูโรเหลือบตามองตามซีจนพ้นประตูห้องไปแล้วหันไปมองเอ็กซ์กับอัลฟาที่ยังคงหลับสนิทอยู่ก็หันมาทางอาร์มินแล้วยื่นหน้าเข้าไปใกล้ๆ อาร์มินขมวดคิ้วเล็กน้อยก่อนจะประกบปากลงมาที่ปากคนตรงหน้าเร็วๆ
“อ้าวซี ออกมาทำไมกูกำลังจะเข้าไปพอดี”
สเปเชียลที่วางสายโทรศัพท์ได้ไม่นานกำลังหมุนตัวจะเดินกลับเข้าไปในห้องก็เจอซีเดินสวนออกมาก่อนพอดี
“ไว้ค่อยเข้าไป อาร์มินรับเอนไซม์อยู่”
ซีว่าแล้วดึงแขนสเปเชียลให้เดินมาที่โซฟาก่อนทรุดตัวลงนั่งแล้วคว้าเอวอีกฝ่ายให้ทิ้งตัวลงที่ตัก
แบบที่สเปเชียลเอี้ยวหน้าไปมอง
“รับเอนไซม์? จากใคร?!”
“ยูโร”
“เฮ้ย!” สเปเชียลอุทานลั่นอย่างตกใจในคำตอบของซีเขาขนลุกเล็กน้อยเมื่อมีภาพในจินตนาการโผล่ขึ้นมา ในหัว
“แล้วใครติดต่อมา” ซีออกปากถามแล้วเอื้อมมือไปหยิบโทรศัพท์ในมือสเปเชียล
“อากานต์น่ะ พ่อแอล”
“...” ซีเงียบไม่ได้พูดอะไรยังรอฟังให้อีกฝ่ายพูดต่อ
“ไม่เกินพรุ่งนี้เช้าน่าจะมาถึงคอนโดโทรมาบอกแล้วก็ถามที่อยู่”
“อืม”
“กูเครียดว่ะ” สเปเชียลพึมพำเบาๆให้ซีกอดรัดแล้วโยกตัวเบาๆ อย่างเป็นห่วง
“เรื่องทั้งหมดมันเกิดอะไรขึ้น”
ซีเอ่ยถามบ้างแล้วปล่อยสเปเชียลให้นั่งลงที่เบาะข้างตัว
“กูก็ไม่แน่ใจเหมือนกันมิสเตอร์ไคลด์เป็นคนที่ทำงานพ่อกับแม่อัลฟา เป็นเหมือนญาติผู้ใหญ่ที่เห็นมา ตั้งแต่เด็กไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมเป็นแบบนี้ กูไม่ได้ไปอังกฤษมาหลายปีมากแล้วแล้วตลอดเวลาที่ติดต่อ กับแอลแอลก็ไม่เคยพูดถึงเรื่องมิสเตอร์ไคลด์ให้ฟังเลย แล้วกูก็ไม่ได้มีอะไรที่อยู่ๆ จะให้ต้องถามด้วย”
สเปเชียลร่ายยาวแล้วขมวดคิ้วแน่นก่อนจะเงยหน้าขึ้นสบตาซี
“แต่เมื่อช่วงปีที่แล้ว ช่วงที่กูเจอมึงใหม่ๆกูก็คุยกับแอลแล้วถามถึงเรื่องซาไลย์ กูถามเล่นๆ ว่า น้องอยากเจอมั้ยแต่แอลนิ่งไปแล้วก็บอกว่าอยาก แต่เสียงน้องแปลกไป ไม่ได้พูดเล่นอ้อนๆ เหมือนเดิมเหมือนช็อตแบบนิ่งไปนิดกูเลยสงสัยพอคุยไปสักพักแอลถึงได้หลุดมาว่าเกลียดซาไลย์...แล้วเหมือนจะมีแต่กูที่เผอิญรู้ด้วย”
“พี่ซี!”
ซีกับสเปเชียลลุกพรวดขึ้นทันทีที่ได้ยินเสียงยูโรเรียกมาจากห้องด้านในก่อนจะรีบก้าวเร็วๆ เข้าไปหา
“มีอะไรยูโร?!”
สเปเชียลพรวดเข้าห้องไปแล้วออกปากถามไปด้วยแต่ก็ต้องยืนงงเมื่อเห็นเหตุการณ์พิลึกตรงหน้า
ภาพที่ยูโรยืนทำหน้าปั้นยากอยู่ที่ข้างเตียงแล้วอาร์มินนี่ลุกขึ้นนั่งได้แล้วกับเอ็กซ์ที่ยันตัวขึ้นมองมาทางเขา
“เอ่อ…เอ็กซ์กับอาร์มินฟื้นแล้วเหรอเป็นไงบ้าง?”
เอ็กซ์ไม่ได้ตอบอะไรแต่เหลือบตามองอาร์มินที่ยังคงทำหน้าตายอยู่ ยูโรเม้มปากนิดๆก่อนเขยิบมายืนข้างๆสเปเชียลด้วยท่าทางประหลาดจนต้องมองตาม เขาขมวดคิ้วเมื่อเห็นเอ็กซ์ยังคงมองตามตัวเองอยู่
ให้ตายเหอะ…อยู่ๆ พี่เอ็กซ์ก็ลืมตาขึ้นมาเสียอย่างนั้น
ทำเอาตั้งตัวไม่ทันเผลอผละออกเร็วๆ จนเกิดเสียงจุ้บปากดังลั่นน่าอายชะมัด ฮึ้ย ขนลุก!
ยูโรที่คิดโวยวายในใจสะดุ้งเฮือกเมื่อสเปเชียลแตะตัวเข้าที่บ่า
“เป็นอะไรไปตกลงเรียกนี่คือจะบอกว่าเอ็กซ์ฟื้นแล้ว?”
“คะ...ครับ เอ่อ..งั้นผมออกไปนั่งที่โซฟาข้างนอกดีกว่าคนในห้องเยอะ อึดอัด”
ยูโรเอ่ยสะเปะสะปะแล้วเลี่ยงออกจากห้องไป แบบที่สเปเชียลก็ยังงงๆ อยู่ไม่น้อย แต่ก็เลิกสนใจแล้วหันไปหาคนบนเตียงแทน
“เอ็กซ์เป็นไงบ้าง”
“อืม ไม่เป็นไร”
เอ็กซ์ตอบรับ ยังคงจับจ้องใบหน้าของคนในอ้อมกอดไม่วางตา2แขนกอดรัดประคองกายของอัลฟาไม่ปล่อย
เขาก้มหน้าลงไปกดจูบไปกระหม่อมของเจ้าตัวเล็กค้างไว้อย่างนั้นให้สเปเชียลมองภาพตรงหน้าอย่างพูดอะไรไม่ออก อาการอ่อนโยนที่ไม่เคยเห็นจากเอ็กซ์ทำให้สเปเชียลรู้สึกแปลกๆ เล็กน้อย
“งั้นกูกับซีออกไปรอข้างนอกนะอ่างน้ำกับผ้าเช็ดตัววางอยู่ข้างๆ เตียง”
พอเอ็กซ์พยักหน้ารับ เขาก็ดันซีเดินออกจากห้องไปให้ในห้องเหลือแค่เอ็กซ์อัลฟา และอาร์มิน
“เป็นไงบ้าง” เอ็กซ์หันไปเอ่ยปากถามอาร์มินหลังจากให้ผ้าซับที่ใบหน้าและลำคออัลฟาไปแล้วรอบนึง
“ผมดีขึ้นแล้วครับ” คนถูกถามตอบรับ “พี่เอ็กซ์ล่ะ”
“ไม่เป็นไรเหมือนกัน”
เอ็กซ์ว่าแล้วขยับตัวลุกจากเตียงก่อนจะนิ่วหน้าเพราะอาการเจ็บยอกที่หน้าอก ให้อาร์มินรีบลุกจากเตียงเข้าหา
“พี่เอ็กซ์โอเคมั้ย?” คนเป็นห่วงเอ่ยถามอย่างกังวลแล้วย่อตัวลงที่พื้นเงยหน้ามอง
“แค่เจ็บ” เอ็กซ์เอ่ยตอบแล้วยกมือโบกไปมาให้อีกฝ่ายคลายกังวลลงแล้วมองใบหน้าของอาร์มินนิ่งๆ
“ขอโทษที่พี่ตะคอกไปเมื่อครั้งก่อน”
“…ไม่เป็นไรครับ”
“เจ็บมั้ย?”
อาร์มินส่ายหน้าเหมือนใบหน้านิ่งๆนั่นจะมีรอยยิ้มปรากฏขึ้นเล็กๆ ที่มุมปาก อาร์มินสบตาคนที่เลี้ยงตัวเองมาตั้งแต่เด็กอย่างขัดๆไม่เคยเห็นพี่เอ็กซ์มีท่าทีอ่อนลงแบบนี้ แววตาดุดันเรียบเฉยคู่เดิมมีแววเหนื่อยล้าฉาบอยู่ให้เห็นเล็กน้อย อาจจะเป็นเพราะเขาทั้งคู่ไม่ค่อยจะถนัดเรื่องการแสดงออกทางความรู้สึกมากนัก
แม้จะรักกันแต่ก็ไม่เคยพูดหรือสัมผัสกันให้รู้
ซึ่งความจริงแล้วความผูกพันธ์ในรูปแบบของพี่น้องระหว่างมนุษย์กับซาไลย์อาจจะไม่ต่างกันอย่างที่คิด
“อาร์มิน”
เจ้าของชื่อเงยหน้าขึ้นมองอีกครั้งเมื่อได้ยินคนตรงหน้าเอ่ยปากเรียก
“ครับ”
“พี่ไม่ได้ชอบหรือรักมนุษย์”
“…” ถ้อยคำประหลาดที่ทำอาร์มินขมวดคิ้วแล้วเอียงคอเล็กน้อยอย่างสงสัย
“แต่…พี่รักอัลฟา” เอ็กซ์ว่าเสียงแผ่วแล้วเอื้อมมือไปลูบที่กรอบหน้าเจ้าตัวเล็กที่นอนหลับสนิทอยู่ข้างหลังเขา
“…” อาร์มินเม้มปากมองภาพตรงหน้าอย่างพูดอะไรไม่ออก
ความจริงแล้วเขาเป็นอีกซาไลย์ที่ไม่เข้าใจไอ้รักๆชอบๆ อะไรนั่นเท่าไหร่ แต่ตั้งแต่เกิดเรื่องเขาก็พอจะยอมรับอะไรได้บ้างแล้ว
“ผมรู้แล้วครับความจริงมนุษย์อย่างสเปเชียลนั่นก็ไม่ได้เลวร้ายอย่างที่คิดไว้ แต่กับเจ้านี่…”
อาร์มินว่าแล้วเหลือบตามองอัลฟาเล็กน้อยก่อนจะหันกลับมาสบตาเอ็กซ์อีกครั้ง
“ถ้ามันเกลียดซาไลย์ แล้วมันทำร้ายพี่เอ็กซ์ผมเองก็คงไม่อยู่เฉยๆ เพราะพี่ให้เหตุผลว่ารักอะไร นั่นหรอกครับ”
เอ็กซ์เลิกคิ้วฟังคำจากอาร์มินนิ่งๆยกยิ้มมุมปากอย่างที่อีกฝ่ายไม่ค่อยจะได้เห็นสักเท่าไหร่
แล้วเอื้อมมือไปลูบหัวอาร์มินเบาๆ
“ขอบคุณ”
อาร์มินชะงักไปกับสัมผัสที่ไม่ค่อยจะได้รับสัมผัสเดียวกับที่สเปเชียลเคยมอบให้เมื่อวันก่อน
“อื้อ…”
เสียงครางแหบพร่าแผ่วเบาที่ดังแทรกความเงียบระหว่างเอ็กซ์และอาร์มินขึ้นมา
ทำทั้ง 2 ซาไลย์หันขวับไปมองที่คนบนเตียงทันทีเป็นจังหวะต่อมาที่เอ็กซ์รีบก้มลงไปหาอัลฟาที่ปรือตาขึ้นมาเล็กน้อย
“อัลฟา” เอ็กซ์เรียกชื่อคนที่ยังดูเบลอไข้ข้างหูให้เจ้าของชื่อหันมามอง
นัยน์ตาสองสีปรือต่ำมองอย่างงุนงงให้เอ็กซ์รู้สึกวาบๆที่หัวใจ รู้สึกใจเต้นแรงกว่าปกติเมื่อเห็นท่าที และสีหน้านิ่งๆ ที่มองเขาอยู่
หรือจะกลับไปเกลียดเขาอีกแล้ว
อาร์มินขมวดคิ้วแล้วลุกขึ้นยืนจ้องเขม็งไปที่อัลฟาอย่างรอท่า แต่ไม่นานก็ต้องถอนหายใจแล้วเดินออกจากห้องไปปล่อยให้ทั้ง2 ที่นั่งอยู่บนเตียงอยู่ด้วยกันตามลำพัง
ภาพสุดท้ายที่เห็นก่อนที่อาร์มินจะปิดประตูลง
คือภาพของเด็กตัวเล็กที่นั่งไหล่สั่นเอื้อมแขนขึ้นจนสุดมือเพื่อโอบรอบคอของอีกฝ่ายกอดคว้าไว้แน่น ไม่ปล่อย…
“พี่เอ็กซ์…ฮึก”
หลังจากเจ้าตัวเล็กกระพริบตาไล่ความมึนอึ้งในสมองออกไปได้แล้ว มองใบหน้าที่คุ้นเคยจนชัดเจนก็รีบผวาขึ้นกอดอีกฝ่ายไว้ทันทีแบบที่คนถูกกอดก็รีบประคองรับไว้แทบไม่ทัน
“แอลขอโทษนะครับ ฮือ..แอลรักพี่เอ็กซ์นะ ฮึก…แอลรักพี่เอ็กซ์ที่สุดเลยนะ”
เอ็กซ์หลับตาลงแล้วเอนหัวพิงกับศีรษะของอีกฝ่ายฟังคำปลอบประโลมจิตใจนั้นเรื่อยๆไม่หยุด
ประโยคที่เขาได้ยินอยู่เบาๆ เมื่อหลายวันก่อนในความคิดบัดนี้ดังก้องที่ข้างหูชัดเจนทุกถ้อยคำ
“แอลขอโทษ”
ความเปียกชุ่มบริเวณหน้าอกที่สัมผัสได้ทำเอ็กซ์ยิ่งกอดรัดคนรู้สึกผิดแน่นไม่ปล่อย เขารู้ดีว่าการเกลียดอะไรสักอย่างมันเป็นยังไงและการเลิกเกลียดมันก็ไม่ใช่เรื่องง่าย ยิ่งการรักสิ่งที่เกลียดยิ่งแทบเป็นไปไม่ได้
แต่ตอนนี้เขาทำได้และคนในอ้อมกอดเขาก็ทำได้แล้วเช่นกัน เขาไม่เคยโกรธ…กลับขอบคุณด้วยซ้ำ
ขอบคุณอะไรก็ตามที่เปลี่ยนบางอย่างภายในจิตใจทั้งเขาและเจ้าแมวในแขนนี่
ขอบคุณ...
อัลฟาผละตัวออกมาสบนัยน์ตาดุดันที่อบอุ่นคู่ที่ตนรักที่สุดอย่างเว้าวอน
สีหน้ารู้สึกผิดและดวงตาแดงก่ำของอัลฟาทำให้เอ็กซ์ได้แต่ก้มลงไปจุมพิตเบาๆย้ำๆ รอบรอยแดงบวมช้ำนั่นแล้วไล่ต่ำมาที่แก้มที่ขึ้นสีจัดจากพิษไข้และอาการร้องไห้
ไม่นานปากหยักลึกนั่นก็มาจรดประกบนิ่งแนบชิดอยู่ที่ริมฝีปากเล็กของอัลฟา สัมผัสอบอุ่นโหยหาที่ทั้ง 2มอบให้กันคุ้มค่าและเกินพอสำหรับช่วงเวลาแสนทรมานที่เพิ่งผ่านพ้นไป…
ที่ซึ่งได้ผ่านไปแล้ว…
ลิ้นนุ่มร้อนที่เกาะเกี่ยวกันไม่ปล่อยตามหยอกเย้ากันไม่ห่างสามารถบ่งบอกระยะเวลาที่ไม่ได้ใกล้ชิดแนบกายกันได้ดี ความรุนแรงที่แสดงออกมาทางสัมผัสหนักหน่วงและเร่าร้อนมากขึ้นเรื่อยๆ น้ำใสที่แลกเปลี่ยนภายในค่อยๆไหลผ่านมุมปากจนมาถึงคาง
ดั่งหยาดยาชุบฟื้นคืนพลัง…
ท่ามกลางอุณหภูมิเย็นๆ ในห้องนอนปรับอากาศเจ้าตัวเล็กยังคงซุกตัวอยู่ที่อกอุ่นๆ อันเป็นที่นอนของตัวเอง
คลอเคลียถูศีรษะไปมาอย่างขี้อ้อนให้คนที่เป็นฝ่ายนอนนิ่งแนบชิดขยับยิ้มอย่างรักใคร่เอ็นดู
บรรยากาศอบอุ่นลอยอวลทั่วห้องราวกับหลายวันที่ผ่านมาไม่มีอะไรเกิดขึ้นเหมือนสิ่งเหล่านั้นไม่เคยมีอยู่จริง
เอ็กซ์นอนโอบหลังลูบตัวอัลฟาอย่างที่คนถูกลูบก็ขยับบิดไปมาอย่างสบายตัว
อ้อมกอดที่อบอุ่น วงแขนที่คิดถึงเป็นการนอนหลับที่สนิทที่สุดในรอบหลายวันที่ผ่านมา
แค่ได้ไออุ่น อุณหภูมิร่างกายและเสียงหัวใจเต้นในจังหวะที่คุ้นเคย
การพักผ่อนก็เป็นไปอย่างราบรื่นและทำให้อาการไข้จากผลข้างเคียงในการใช้พลังทุเลาลงเรื่อยๆ อย่างรวดเร็วในเวลาอันสั้น
“พี่เอ็กซ์”
เสียงแผ่วๆ ที่ทำให้เจ้าของชื่อผละตัวออกเล็กน้อยแล้วก้มหน้าลงมองอีกฝ่ายเลิกคิ้วเป็นเชิงถาม
“แอลรักพี่เอ็กซ์”
เอ็กซ์ยิ้มรับถ้อยประโยคที่เจ้าแมวตัวเล็กเอื้อนเอ่ยมาหลายสิบร้อยครั้งตั้งแต่ลืมตาตื่นราวกับจะส่งมาเพื่อแทนคำขอโทษ
อัลฟาเริ่มเม้มปากแล้วมองหน้าเอ็กซ์เพื่อรอการตอบรับ…การตอบรับที่เป็นคำพูด…
คนรอฟังขยับตัวยกไปจุ้บเบาๆ ที่ริมฝีปากหยักของคนด้านบนไวๆแล้วผละตัวออกมามองหน้าอีกครั้ง
“แอลรักพี่เอ็กซ์นะครับ”
เอ็กซ์ยิ้มรับอีกเมื่อเห็นเจ้าตัวเหมือนจะเริ่มงอแงเขาขยับหน้าตามไปจุ้บที่ริมฝีปากเล็กอีกครั้งอย่างลอกเลียน
แต่หากไม่ได้ทำให้คนรอการตอบรับที่ชัดเจนพอใจ อัลฟาหมุ่นคิ้วเล็กน้อย ให้คนมองประหลาดใจในอาการที่คาดไม่ออกนั่น
“เป็นอะไร?” เอ็กซ์ว่าแล้วลูบแก้มอัลฟาอย่างเบามือ
“พี่เอ็กซ์รักแอลมั้ย…”
เมื่อสิ้นหวังในการรอฟังเจ้าตัวก็เอ่ยปากถามเสียงแผ่วในคอ แต่สิ่งมีชีวิตหูดีจัดอย่างซาไลย์ก็ได้ยินชัด ถ้อยทุกคำ
เอ็กซ์หัวเราะในคอแล้วขยับตัวลุกขึ้นพิงหัวเตียงนิดๆ คว้าเอวอัลฟาดึงเข้าหาตัวกอดรัดตัวเล็กๆ แน่นขึ้นกว่าเดิมแล้วโน้มหน้าลงไปหาจนปากชิดติดอยู่ที่ข้างหู
“รัก...รักนะอัลฟา”
สิ้นเสียงทุ้มนุ่มบอกรักของเอ็กซ์อัลฟาก็น้ำตารื้นขึ้นมาทันที มือเล็กขยุ้มเสื้ออีกฝ่ายแน่นแล้วกดดวงหน้าลงที่แผงอกหนา เขารู้ดี…รู้ดีว่าพี่เอ็กซ์รักเขามากแค่ไหน
มากเท่าที่ซาไลย์จะเรียนรู้ความหมายของคำว่ารักได้
และเขาก็จะรัก…รักสิ่งมีชีวิตตรงหน้านี้เท่าที่มนุษย์จะรักใครคนนึงได้มากที่สุดเช่นกัน
|