C h a p t e r 2 8
❖
ชิ้ น ส่ ว น
อัลฟาหน้าซีดเผือดลงอย่างเห็นได้ชัดเมื่อหันมาแล้วเจอร่างหนาของผู้เป็นพ่อยืนเท้าแขนอยู่ตรงกรอบประตู
ความกะทันหันนี้น่ากลัวเกินกว่าจะรับมือ... เขายังไม่พร้อมที่จะพูด ไม่ทันได้เตรียมใจเลยด้วยซ้ำ!
ยูโรลอบกลืนน้ำลายเมื่อรู้ตัวว่าตนเองเป็นคนจุดชนวนระเบิดอย่างไม่ทันคาดคิด
“เอ่อ...พอดีเจออากานต์ที่หน้าคอนโดพอดีเลยขึ้นมาพร้อมกันน่ะครับ”
คนเริ่มกลัวความผิดจากการกระทำที่ไม่ได้ตั้งใจให้ส่งผลแบบนี้เอ่ยปากขึ้นเมื่อทั้งห้องเงียบกริบ แม้ว่าตัวเองจะตะลึงไปกับคำพูดของเพื่อนแค่ไหน แต่การที่เขาเป็นคนพาอติกานต์ขึ้นมาทันได้ฟังประโยคเมื่อครู่มันก็เป็นเรื่องน่าต่อยอยู่ดี...
“อัลฟา...ลงมานี่”
อติกานต์มองอัลฟาที่ยังถูกอุ้มอยู่ในอ้อมกอดของชายร่างสูงตรงหน้านิ่งๆแล้วเอ่ยปากเสียงเรียบ ให้คนเป็นลูกรีบสะกิดแขนเอ็กซ์เพื่อบอกให้ปล่อยตัวเองลงก่อนจะก้าวขาเข้าหาพ่อเร็วๆ
“แด๊ด...คือว่า-”
“เล่าเรื่องทั้งหมดมา” อติกานต์ว่าเสียงแข็งแบบที่คนฟังก็ต้องกัดปากกลั้นน้ำตา
หลังจากทุกเรื่องราวในอดีตอันขมขื่นที่ผ่านมาตลอดช่วงเวลาหลายปี ได้ถูกเรียงร้อยออกมาเป็นถ้อยคำกลั้วน้ำตาของเด็กหนุ่มวัยสิบปีของเมื่อ 6 ปีที่แล้ว
ท่ามกลางความเงียบงันและตกตะลึงของผู้เป็นพ่อและพี่ชายเจ้าตัวเล็กเริ่มกดดันและเม้มปากแน่น อย่างเกรงกลัว
เพี๊ยะ!
ไม่ทันได้คิดอะไรออก มือหนาก็ยกขึ้นสูงฟาดเข้าที่ข้างแก้มนิ่มเต็มแรงทำเอาคนถูกตบหน้าชาและนิ่งงัน อย่างตระหนก
สเปเชียลเบิกตากว้างด้วยความตกใจในขณะที่เอ็กซ์ที่ยืนนิ่งอยู่ไม่ไกลก็รีบรุดเข้าหาอัลฟาทันที แต่ไม่ทัน จะถึงตัวร่างเล็กก็ถูกรวบเข้าไปกอดแน่นด้วยวงแขนของเจ้าของแรงตบเมื่อครู่เสียแล้ว
ชะงักมองอยู่ได้ไม่นานก็ได้ยินเสียงสะอื้นไห้เล็ดลอดมาจากอ้อมกอดของอติกานต์
อัลฟาตัวสั่นระริก กอดและซุกตัวฝังลงไปในอกของพ่อ ความอบอุ่นที่ราวกับจะบ่งบอกว่าเรื่องราวเลวร้ายทั้งหมดกำลังจะผ่านไปแล้ว
"อย่าทำแบบนี้อีก"
เสียงทุ้มที่ติดจะสั่นเล็กน้อยเอ่ยผะแผ่ว
"อย่าทำให้พ่อต้องกลัวขนาดนี้อีก…พ่อเสียลูกไปอีกคนไม่ได้แล้ว"
"แอลต้องไปเอามัมออกมา"อัลฟาว่าเสียงสั่น มือเล็กยังกอดพ่อไม่ปล่อย
เอ็กซ์มองใบหน้าที่มีรอยมือแดงประทับอยู่อย่างกังวล เรื่องราวที่ได้ฟังทั้งหมดทำเขาหนักใจเพราะมีข้อเท็จจริงอยู่อย่างที่กำลังจะทำร้ายคนรักของเขา ทำร้ายและทำลายความหวังที่เป็นแสงสว่างเพียงหนึ่งเดียว
และเขาเองก็ยังไม่แน่ใจว่าตัวเขาเองจะสามารถแทนที่ความหวังเหล่านั้นได้มั้ย
เอ็กซ์สบตากับซีและอาร์มินด้วยสีหน้าไม่บ่งบอกความรู้สึกแต่มีความวิตกฉายอยู่ในแววตาลึกๆ
ความกังวลในดวงตานั้นไม่ยากที่จะเข้าใจ...
ซีพยักหน้าส่งให้เอ็กซ์นัยน์ตาสีทองส่งตรงความแน่วแน่และพร้อมจะช่วยเหลืออีกฝ่ายในทุกกรณี
แววตาที่ทำให้คนสบกำหมัดแล้วก้าวขาเข้าใกล้เจ้าตัวเล็กเอื้อมมือไปแตะที่ข้างแก้มแดงก่ำเบาๆ
อติกานต์หันมองซาไลย์ที่เพิ่งได้พบอย่างสงสัยหากแต่ยังนิ่งเงียบไม่ได้พูดอะไร
"พี่เอ็กซ์?"
อัลฟาผละตัวออกจากอติกานต์แล้วหันมามองหน้าเอ็กซ์ที่มีสีหน้าผิดปกติก่อนจะเอ่ยเรียกชื่อแล้วก้าวเข้าหา
"อัลฟา"เอ็กซ์มองเสี้ยวหน้าหวานของอีกฝ่ายอย่างลำบากใจ ก่อนจะเอ่ยปาก
"เลือดของซาไลย์..." เขาเว้นช่วงไปรู้สึกเจ็บหัวใจเวลามองเข้าไปในดวงตา 2 สีคู่นั้นเขาสูดลมหายใจลึกๆ
"ชุบชีวิตคนไม่ได้"
"..."
บรรยากาศอื้ออึงและกดดันแผ่กระจายครอบคลุมทั่วห้อง สเปเชียลเม้มปากแน่น รู้สึกสงสารน้องขึ้นมาจับใจ
ในขณะที่อ้อมแขนแข็งแรงของเอ็กซ์ก็รวบร่างที่ยังนิ่งงันเข้ามากอดปลอบ
"อัลฟา..."มือหนาลูบไปมาที่แผ่นหลังของเจ้าตัวเล็ก "พี่อยู่ตรงนี้"
ถ้อยคำอบอุ่นนั้นสะท้อนก้องไปมาในหูเหมือนเป็นตัวขยายบ่อน้ำตาที่ค่อนข้างตื้นอยู่แล้วให้ตื้นมากขึ้นอีก
มือเล็กๆ ไขว่คว้ากอดประคองบ่ากว้างของเอ็กซ์แน่น ตัวเขาเองก็ไม่รู้จะคิดว่าตัวเองโชคดีแค่ไหนที่มีซาไลย์อย่างพี่เอ็กซ์อยู่ข้างๆ แบบนี้
“ไม่เป็นไร”
เอ็กซ์ยังคงย้ำคำปลอบเจ้าของอ้อมแขนแข็งแรงนี้เป็นที่พึ่งพิงที่ดีเสมอ แม้ในเวลาที่ใจจะสลายแบบนี้
อติกานต์หมุ่นคิ้วมองภาพซาไลย์ที่มีประเด็นจากการรับฟังเรื่องราวจากอัลฟากอดลูกชายตัวเองแน่นแล้วพูดปลอบประโลมย้ำๆ อยู่ข้างหู
นี่มีตรงไหนที่เขาไม่รู้มั้ยนะ?
“อัลฟา…แด๊ดพลาดอะไรมั้ย?”
เสียงของพ่อเหมือนไปปลุกเจ้าตัวเล็กออกจากโลกส่วนตัวเข้าอัลฟาหันมามองหน้าอติกานต์อย่างตกใจ
“อ่ะ…แด๊ด…คือ”
“นี่…เรากับ…” อติกานต์ออกปากแล้วลากสายตามองเอ็กซ์
“แด๊ด…แอลรักพี่เอ็กซ์”
สเปเชียลเผลอกัดริมฝีปากล่างอย่างไม่รู้ตัวตอนที่ได้ยินคำจากปากน้องชาย เหลือบมองสีหน้าที่ดูแล้วมีคำว่าช็อคแปะอยู่ตรงกลางหน้าผากของอติกานต์แล้วยิ่งต้องทำหน้าหวาดๆ เอ็กซ์ยังคงนิ่งสนิทกอดอัลฟาแน่น ไม่ปล่อย
ถ้าเทียบระหว่างเอ็กซ์กับซีดูซีจะมีความเข้าใจในมนุษย์มากกว่าเยอะจริง ๆ ตอนเขากับซีคบกันซียังเข้าใจว่าต้องขอเขากับพ่อแม่ แม้จะเป็นการขอที่โคตรจะดิบ แต่ก็ดีกว่านิ่งแล้วทำหน้าไม่ใส่ใจอะไรแบบนี้นะเห็นทีให้อัลฟากับเอ็กซ์จัดการคงล่มไม่เป็นท่า
“เอ่อ…อากานต์ครับ” สเปเชียลคิดทบทวนในใจแล้วก็พ่นลมหายใจออกยาว ๆ ก่อนจะเอ่ยปาก
ให้เจ้าของชื่อหันมามอง สีหน้ายังติดอึ้งอยู่นิดๆ “ว่าไงนี่มันอะไรกันสเป?”
“คือ…แอลกับเอ็กซ์ดูเหมือน…จะรักกันน่ะครับ”
“เดี๋ยวนะ” คนเป็นพ่อเอามือกุมขมับแล้วยกมืออีกข้างขึ้นห้ามคำพูดของอีกฝ่ายไว้
ความจริงก็คิดไว้แล้วว่ารูปร่างหน้าตาอย่างอัลฟาลูกชายคนเดียวของเขาคงจะไม่ดูแลผู้หญิงที่ไหนไม่ได้
ถึงจะมีหวังเล็ก ๆ ว่าอีกสัก 3-4 ปี รอให้เป็นหนุ่มสักหน่อยคงจะได้เลือดฝรั่งจากแม่สูงใหญ่กว่านี้ได้
แต่พอมาเจอความจริงในปัจจุบันนี่ก็เล่นเอาเขาช็อคไปเหมือนกัน ใครจะไปคิดว่าลูกชายเขาจะมารักกับผู้ชายที่ไม่ใช่แม้แต่มนุษย์?!
แต่เป็นซาไลย์เพศชายไปเสียอีก!
“แด๊ด…”
อติกานต์เงยหน้ามองลูกชายตัวเล็กที่ลงจากแขนเอ็กซ์แล้วเดินเข้ามาจับแขนเขาไว้
สีหน้าอ้อน ๆ ที่ดูกลัว ๆ นั้นทำเขาโกรธไม่ลงยิ่งรอยแดง ๆ ที่ข้างแก้มนั้นอีก
“เฮ้อ…เอาเถอะ” อติกานต์ถอนหายใจยาวแล้วยกยิ้มบาง วางมือแปะลงที่หัวทุย ๆ ของลูกชาย
ถึงอย่างไรซาไลย์ตรงหน้าก็ดูจะรักและดูแลลูกชายเขาได้ดีเหลือเกิน
“ไม่โกรธใช่มั้ยครับ...แอล16แล้ว แอลรักกับพี่เอ็กซ์ได้ใช่มั้ย”
อติกานต์ขมวดคิ้วเล็กน้อยเมื่อได้ยินคำถามกำกวมนั่น…ลูกเขายังไม่บรรลุนิติภาวะนะ
“ถ้าหมายถึงรักกันได้มั้ยแด๊ดก็ไม่ได้อยากห้ามหรอกนะ…แต่เรื่องสัมพันธ์ทางกายน่ะ”
คนเป็นพ่อว่าแล้วเหลือบมองซาไลย์ข้างหลังแต่เหมือนเจ้าตัวจะไม่ได้เข้าใจความนัยนั้น
“เดี๋ยวเราต้องนั่งคุยกันอีกทีนะแอล...” คำพูดสรุปที่ตามอาการถอนหายใจออกมานั้น คนฟังได้แต่ฟังหน้ารับ
อัลฟาเม้มปากแล้วช้อนตามองพ่อตนเอง “แด๊ด…แอลจะกลับอังกฤษ แอลจะไปหามัม”
“แอล..”
“ยังไงแอลต้องเอาตัวมัมกลับมา” พอเจ้าตัวเล็กคิดขึ้นได้ก็เริ่มพูดเรื่องนี้อีกรอบน้ำตาก็เริ่มรื้นอีกครั้ง “แด๊ดให้แอลกลับนะ”
“แอลกูว่า…” ยูโรที่ยืนฟังอยู่เอ่ยปากขึ้นหมายจะขัดเพราะความเป็นห่วงแต่ไม่ทันได้พูดจบก็มีคนแทรกขึ้นมา
“พี่ไปด้วย พี่จะกระทืบไอ้ไคลด์”
แต่ไม่ใช่อัลฟาอย่างที่คิดแต่กลับเป็นพี่สเปเชียลเข้าเสียนี่ ซีส่ายหัวเล็กน้อยกับนิสัยเดิม ๆ ของเด็กของเขา ไม่ต้องสงสัยว่าต่อให้แรงซาไลย์ฉุดก็เอาไม่อยู่…
“แต่พี่สเปเชียล ผมว่า อื้อ!”
ไม่ทันได้พูดขัดใครจบสักประโยคก็มีคนขัดเข้าเสียเองอีก เมื่อมือของคนข้างหลังคว้าหมับเข้าที่ปาก ปิดเสียมิดจนพูดอะไรต่อไม่ได้ อาร์มินรั้งใบหน้าของยูโรไว้นิ่ง ๆแล้วปล่อยมือให้หลวมกว่าเดิมเมื่ออีกฝ่ายเลิกดิ้น
“ให้พี่เอ็กซ์ตัดสินใจเอง”
“แล้วทำไมฉันต้องฟังนายด้วยวะ?” ยูโรแหวลั่นแบบที่อาร์มินก็ยังตีหน้านิ่ง
อติกานต์มองภาพตรงหน้าแล้วก็เงียบไป…ร่างของลอว์เรน หญิงผู้เป็นที่รักเขายังอยู่…อยู่กับคนที่ทำร้ายลูกเขา
“ยังไงก็ต้องกลับไป”
และประโยคนั้นของอติกานต์ก็เป็นเหมือนคำตัดสินใจทั้งหมดแล้ว… ◊ ◊ ◊ ◊ ◊ ◊ ◊ ◊ ◊ ◊ ◊ ◊ ◊ ◊ ◊ ◊ ◊ ◊ ◊
คืนนั้นอติกานต์กับอัลฟานอนที่ห้องนอนเล็กด้วยกันแล้วเอ็กซ์เข้าไปนอนที่ห้องนอนใหญ่กับซีสเปเชียล
เลยทำให้ยูโรมานอนคิดอะไรอยู่ที่โซฟาตรงห้องรับแขกคนเดียว
อาร์มินที่กลับมาจากข้างนอกเดินมาทิ้งตัวลงนั่งที่พื้นพรมพิงโซฟาตัวเดียวกับที่ยูโรนอนอยู่เงียบ ๆ
แบบที่คนนอนหลับตาเฉย ๆ ก็ลืมขึ้นมามอง
“กลับมาแล้วเหรอ”
อาร์มินเงยหน้ามองเมื่อได้ยินเสียงทักจากอีกฝ่าย “อืม”
“นายจะไปอังกฤษด้วยใช่มั้ย?” แล้วสุดท้ายยูโรก็เป็นฝ่ายเริ่มเปิดประเด็นพูดคุยก่อน
“ถ้าพี่เอ็กซ์ไปก็ไป”
“นายนี่ติดพี่สินะ”
คำที่คนพูดไม่ได้มีเจตนาอะไร กลับทำให้อาร์มินหันขวับไปมองทันที
“หมายความว่าไง”
“ก็ตามที่พูด”
“...”
นัยน์ตาสองคู่ประสานกันนิ่ง ไม่มีใครพูดอะไรออกมา แต่บรรยากาศแบบนี้เหมือนกับจะบอกเป็นนัยๆว่าใครหลบตาก่อนแพ้อะไรอย่างนั้น
แล้วการทำลายความเงียบครั้งนี้ก็แสนประหลาด เมื่อยูโรเอื้อมมือทั้ง 2 ข้างไปหาอีกฝ่ายให้อาร์มินเผลอสะดุ้งเล็กน้อย
ยูโรจับแก้มทั้ง 2 ข้างของคนตรงหน้าเบาๆแล้วขยับยกขึ้น จนเป็นรอยยิ้มประหลาดที่ทำให้คนกระทำอมยิ้ม
“ยิ้มแบบสร้างขึ้นมาอย่างนี้ก็ยังดูดีกว่าทำหน้านิ่งๆอีก”
“...”
คนถูกกระทำปล่อยให้อีกคนเล่นอยู่พักนึงก็ดึงมือที่จับแก้มตนอยู่ออกแล้วเบนสายตาหลบ ความเงียบเข้ามาคลุมอยู่รอบกายอีกครั้งแล้ว…
ยูโรท้าวแขนที่พนักโซฟามองหน้าอาร์มินอยู่แบบนั้นแบบที่ไม่ได้คิดอะไรในหัวเพียงแค่มองเฉย ๆ
แต่คนถูกมองกลับไม่ได้สบตากลับไป โฟกัสไปรอบๆ ห้องเรื่อยเปื่อย ไม่นานนักก็หันเหความสนใจกลับมาคนที่จ้องตนเองอยู่
“…นายนี่รักอัลฟางั้นเหรอ”
ยูโรเลิกคิ้วขึ้นแล้วยกยิ้มติดจะขำกับประโยคคำถามนั้น “เอาไรมาพูด แอลเป็นเพื่อน”
“เพื่อนคือรักไม่ได้?”
เขานิ่งไปกับคำถามต่อไปของอาร์มิน นิ่งคิดไปนิด…ซาไลย์ไม่เข้าใจเรื่องความรักสินะ
“เปล่าหรอก แค่ไม่ได้รักแบบนั้นฉันไม่ได้ชอบผู้ชาย” เว้นพี่สเปเชียลไว้คนนึงละกัน…ชอบมาตั้งแต่เด็กแล้ว นั่นมันกรณีพิเศษ
อาร์มินขมวดคิ้ว “จะเพศชายหรือหญิงมันเกี่ยวกันยังไง”
ใบหน้างุนงงที่หาดูได้ยากของคนหน้าตายตรงหน้าทำยูโรมองตาไม่กระพริบแล้วว่าตอบ
“สำหรับมนุษย์ผู้ชายมักต้องคู่กับผู้หญิงเราสร้างครอบครัว มีสัมพันธุ์และกำเนิดเด็ก” ยูโรอธิบายเรื่อยๆ แบบที่อีกคนก็นั่งฟัง เห็นท่าทางสนใจแบบนั้นก็ต้องถามกลับ “แล้วซาไลย์ล่ะ? นายไม่มีครอบครัวรึไง”
“...ที่แดนการกำเนิดตัวอ่อนเป็นระบบ ฉันไม่มีครอบครัวไม่มีพ่อแม่พวกเราอยู่กันเป็นเผ่า ตอนยังเล็กพี่เอ็กซ์เป็นคนคอยสอน”
“เลยรักพี่เอ็กซ์มากสินะ”
อาร์มินนิ่งไปคิ้วผูกกันแน่นขึ้นอย่างคนใช้ความคิด แล้วพึมพำในคอ “...เราไม่รัก”
แต่จะว่าอย่างนั้นก็ไม่ได้พูดได้ไม่เต็มปากอีกแล้ว เพราะพี่ซีรักสเปเชียลพี่เอ็กซ์รักอัลฟา ซาไลย์ผู้พี่ทั้ง 2 มีความรัก...
“แต่รู้มั้ยว่ามนุษย์เป็นสิ่งมีชีวิตที่มีความรักเหลือเฟือเลยนะ”
ถ้อยคำที่ทำให้อาร์มินคลายปมที่หว่างคิ้วแล้วเลิกขึ้นเป็นเชิงถาม
ยูโรยิ้มบาง แล้วสบตากับคนตรงหน้า “มากพอที่จะแบ่งให้ซาไลย์ที่ไม่มีความรักอย่างพวกนายเลยล่ะมั้งดูอย่างพวกพี่ซีสิ”
อาร์มินกระตุกยิ้มแล้วส่ายหัวนิดๆสุดท้ายยูโรก็พูดประเด็นที่แย้งอยู่ในหัวเขาขึ้นมาจนได้
แต่ถึงอย่างนั้น…เขาก็คงจะหาอะไรมาเถียงไม่ขึ้นเสียแล้ว เพราะที่เห็นมาด้วยตาของตัวเองมันเป็นเช่นนั้นจริงๆ ความรักที่พี่เอ็กซ์มีต่อมนุษย์อย่างอัลฟา…
มันเป็นเรื่องที่แปลกใหม่สำหรับเขา แต่ก็ไม่อาจเถียงได้ว่ามันไม่ใช่เรื่องที่ยิ่งใหญ่จนทำให้ความรู้สึกข้างในสั่นไหวขึ้นมา
เพราะภาพที่พี่เอ็กซ์กอดรัดตัวเล็กๆ ของเจ้าเด็กบ้านั่นมันยังติดอยู่ในตาเขาชัดเจนทุกรายละเอียดอยู่เลย
พอเช้ากระเป๋าเดินทางทั้งหมดก็ถูกขนมาวางเตรียมไว้ที่ห้องรับแขก สเปเชียลที่ตื่นเช้าผิดปกติก็นั่งกินข้าวอยู่ที่โต๊ะอาหารมาสักพักเอ็กซ์ก็ตามออกจากห้องมา ซีเลยเดินไปเคาะประตูห้องเรียกอัลฟากับอติกานต์
ยูโรที่นั่งหน้าเครียด ๆ อยู่ที่ห้องรับแขกมาตั้งแต่เมื่อคืนลุกขึ้นบิดตัว “ลงไปร้านสะดวกซื้อนะ”
อาร์มินได้ยินแบบนั้นก็ลุกขึ้นบ้างให้คนที่ก้าวขาไปก่อนหันมามอง
“จะตามทำไม?” “จะลงอยู่แล้ว”
พอเห็นอีกฝ่ายทำหน้าตายจ้องมาแบบนั้นก็ได้แต่ถอนหายใจแล้วหมุนตัวเดินออกจากห้อง
“ถ้าหมดเรื่องแล้วนายจะไปไหน”
ยูโรเอ่ยปากถามขึ้นมาระหว่างที่ลิฟท์กำลังเคลื่อนตัวลงชั้นล่าง ไม่รู้เพราะห้องโดยสารที่เหลี่ยมนี่มันเงียบเกินไปรึยังไงไม่รู้เลยทำให้เขาเริ่มชวนคุยแบบนี้
“...ก็คงกลับแดน”
ยูโรจ้องไปที่ริมฝีปากที่ขยับขึ้นเล็กน้อยยามเอื้อนเอ่ยคำตอบของอีกฝ่าย ริมฝีปากที่ประกบอยู่กับปากเขา เมื่อวาน…นั่นจูบแรกเลยนะ จูบแรกก็ร้อนแรงแบบนั้นเสียแล้ว
คิดอะไรที่ทำให้หน้าร้อนขึ้นอยู่ดี ๆซาไลย์ที่มีขนาดตัวพอ ๆ กับเขาก็หันมาสบตา ทำเอาต้องรีบเอ่ยถามต่อเพื่อปกปิดอะไรบ้างอย่างที่เผลอคิดถึง
“กลับไปทำอะไร?”
คราวนี้อาร์มินเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อยแล้วครุ่นคิดในใจ…ถามแบบนี้จะตอบยังไง? ก็แค่...
“หมดเรื่องที่ต้องทำแล้วก็กลับ…มนุษย์ยังมีบ้านให้อยู่ พวกเราก็มี”
“พี่ซีพี่เอ็กซ์ยังอยู่นี่เลยไม่ใช่รึไง?”
อาร์มินส่ายหน้าแล้วเบนสายตากลับไปที่ตัวเลขดิจิตอลสีแดงด้านบนประตูอีกครั้ง
“พี่ซีออกจากแดนมานานมากแล้วพี่เอ็กซ์ออกมาตามหาพี่ซีกับ…ทำลายมนุษย์” เขาเว้นช่วงไป “แต่ตอนนี้ไม่รู้”
ยูโรเงียบไปกับประโยคสุดท้ายของคู่สนทนา ถ้อยคำอันตรายที่พูดออกมาแบบสบายๆอย่างนั้นมันฟังดู น่าขนลุกยังไงไม่รู้
อาร์มินเหลือบสายตามองคนข้างๆ เล็กน้อยแล้วเอ่ยปากต่อ“ส่วนฉันไม่เคยอยู่ที่ไหนนอกจากแดน นี่เป็นครั้งแรก และคิดว่าจะกลับไปมีอาร์รออยู่”
“มีอาร์?” ยูโรเอ่ยชื่อแปลกหูที่เพิ่งได้ยินเป็นครั้งแรกกลับไปเหมือนต้องการคำอธิบายเพิ่มเติม
อาร์มินพยักหน้าแล้วเดินออกจากลิฟท์เมื่อห้องโดยสารจอดลงที่ชั้นล่างเรียบร้อยแล้ว
“แฝด”
“นายมีแฝดด้วย?!” ยูโรที่เดินตามมาข้างหลังร้องออกมาอย่างประหลาดใจแค่คิดว่ามีซาไลย์หน้าแบบนี้ 2 คนก็ต้องหลุดยิ้มแล้ว “แล้วหน้าตายแบบนี้รึเปล่า?”
อาร์มินหันขวับมามองคนที่หลุดพูดอย่างที่คิดในใจไปฝ่ายคนที่เผลอพลั้งปากก็ชะงักเล็กน้อยแล้วทำหน้า ไม่รู้เรื่อง ทางคนถูกหลอกด่าก็ระบายลมหายใจเบาๆ อย่างไม่ถือสา “ไม่ มีอาร์พูดมาก”
ยิ่งได้ยินแบบนี้ยิ่งน่าสนใจเข้าไปใหญ่ ชักอยากจะเห็นใบหน้าและท่าทางที่เหมือนคนข้างหน้านี้ขยับปากพูดเยอะๆ สักครั้ง
และระหว่างที่กำลังเดินผลักประตูคอนโดออกไปร้านสะดวกซื้อข้างๆยูโรก็ต้องเบิกตากว้างด้วยความตกใจอีกครั้ง
เมื่อเห็นบุคคลท่าทางคุ้นๆ กำลังนั่งทรุดใช้เข่ายันพื้นอยู่ที่ด้านล่างบริเวณตีนบันได และจะไม่ร้องเสียงดังด้วยความตกใจเลยถ้าคนคนนั้นไม่ใช่…
“พี่มิเกล?!”
|