C h a p t e r 3 0
❖
บุ ก
เจ้าของนัยน์ตาสีน้ำข้าวยังคงตะลึงงันก้อนเนื้อในอกด้านซ้ายกำลังเต้นแรงอย่างรู้สึกได้ เมื่อเรื่องราวดำเนินมาผิดทาง...
ภาพที่ปรากฏบนจอมอนิเตอร์ขนาดใหญ่ในห้องเป็นภาพของบุคคลที่เขาคิดว่าจะได้เจอเมื่อบินกลับไปที่องค์กรของตัวเองในอังกฤษ
ซาไลย์ทั้ง 3 เด็กที่เคยอยู่ในความดูแลคนที่ร่างกายมีเลือดพิเศษไหลเวียนอยู่ และที่น่าตกใจกว่านั้นคือ อติกานต์ และ...มิเกล
อติกานต์กลับมาเมื่อไหร่และลูกน้องคนสนิทที่เหมือนบุตรบุญธรรมของเขา...หักหลังเขางั้นเหรอ?
คิ้วสีอ่อนขมวดกันเป็นปมสีหน้าเคร่งเครียดอย่างกังวล ทุกอย่างเกิดขึ้นเร็วไม่ทันตั้งรับอุปกรณ์ไม่พร้อม คนไม่พร้อมทุกอย่างถูกจัดเตรียมไว้ที่องค์กร และเขาควรจะได้ใช้ร่างลอว์เรนที่ตอนนี้ถูกทำลายไปแล้วหยิบยกอ้างมาเป็นข้อต่อรองกับอัลฟา ให้ส่งตัวสเปเชียลและซาไลย์มา…
วินาทีนี้เหมือนโชคชะตากำลังเล่นตลกเมื่อเทพีแห่งชัยชนะที่เคยคิดว่ายืนอยู่ฝั่งเดียวกับเขามาตลอดอันตธานหายไป
“คุณไคลด์ครับ พวกเขากำลังบุกเข้ามาที่ส่วนในห้องควบคุมจะให้ผมทำยังไงต่อครับ?!”
ไคลด์หันไปมองลูกน้องที่มีสีหน้าตื่นตระหนกด้านหลังนิ่งๆ ตอนนี้คนที่ยืนคุมอยู่ทางส่วนนอกนอนระเกะระกะอยู่ที่พื้นกันหมดแล้ว...
หนีไปตอนนี้ไม่ทันแล้ว
“เปิดระบบฉุกเฉินแล้วให้คนส่วนในที่เหลืออยู่ทั้งหมดตามฉันไปที่ห้อง SOS”
ไคลด์ว่าเสียงเรียบแล้วเดินไปที่โต๊ะทำงานกดปุ่มบริเวณใต้โต๊ะเพื่อกรอกรหัส
เมื่อเลขทั้ง4ตัวปรากฏขึ้นตรงหน้าจอเล็กๆด้านข้างโต๊ะตรงกลางก็แยกออกปรากฏอุปกรณ์ควบคุมขนาดพอดีมือหน้าตาประหลาด
ให้คนมองหยิบขึ้นมาใส่กระเป๋าแล้วเดินนำลูกน้องของตนไปทางห้องที่ได้จัดเตรียมไว้ในเวลาที่เกิดเหตุการณ์ฉุกเฉินเช่นนี้ เขาคงต้องลองเดิมพันกับผังแปลนประหลาดที่สร้างขึ้นมาแม้จะใช้งานได้ไม่เต็มที่แล้วก็ตาม…
กับห้อง SOS ที่เป็นไพ่ใบสุดท้ายที่มีอยู่
ถ้าวันนี้เขาไม่ตาย…พวกมันก็ต้องเป็นของเขา
ออด ออด ออด ออด!
เสียงร้องเตือนดังขึ้นก้องสถานที่ด้านในจนสะเทือนไปถึงแก้วดูฟังดูหลอนพิลึก ยิ่งบวกกับแสงสีแดงสว่างจ้าตาที่แวบขึ้นมาอย่างไม่ทันได้ตั้งตัวนี่ทำให้ต้องเผลอสะดุ้งจนตัวโยนอย่างช่วยไม่ได้
เอ็กซ์คว้าอัลฟาเข้ามาจนชิด แบบที่ซีและอาร์มินก็หันไปคนละทิศเพื่อดูการเคลื่อนไหวโดยรอบ
ไม่นานนักเสียงที่เหมือนกับจะเตือนภัยและแสงสีน่าหวาดกลัวก็หยุดลง
“มะ…เมื่อกี้อะไรน่ะพี่เอ็กซ์”อัลฟาเอ่ยปากเสียงสั่นจากหยุดนิ่งไป แสงสว่างวูบวาบแบบนั้นทำเขากลัว
เอ็กซ์รวบตัวเล็กๆของอีกฝ่ายเข้ามากอดปลอบเห็นใบหน้าไร้สีเลือดของอัลฟาแล้วเขาเองก็ใจไม่ดี
ไม่อยากต้องหวาดกลัวกับอะไรอีก
“พี่อยู่นี่”
สิ้นคำเอ็กซ์ ซาไลย์ทั้ง 3 ก็ชะงักกึกอย่างแรงจนคนรอบข้างสังเกตุได้ ทั้งยังมีสีหน้าเคร่งเครียดและดูเหมือนกำลังใช้สมาธิอย่างหนัก
“เป็นไรซี?!” สเปเชียลเป็นฝ่ายร้องแทรกความผิดปกตินั้นขึ้นมาก่อน
แต่คนถูกถามทำเพียงยกมือห้ามแล้วยังคงขมวดคิ้วแน่นนิ่งเงียบเหมือนกำลังฟังอะไรอยู่
“เสียงเครื่องกลอะไรสักอย่างขยับ…จากใต้พื้น” อาร์มินพูดขึ้นเรียบๆ ให้ทุกคนหันไปมองอย่างตกใจ
“สเปเชียลมานี่” ซีเอ่ยเสียงเข้มฟังดูเครียดไม่น้อยแล้วดึงแขนให้คนข้างๆขยับเข้าใกล้เขามากขึ้น
หากเกิดอะไรขึ้น…อยู่ด้วยกันไว้ย่อมดีกว่า
เอ็กซ์เองก็คว้าตัวอัลฟาขึ้นอุ้มแล้วเรียบร้อยทุกคนในตอนนี้มีอยู่ในสภาพที่วิตกกังวลไม่แพ้กัน
ตอนนี้รอบกายเงียบสนิทซ้ำยังมืดจนแทบมองอะไรไม่เห็น
อติกานต์เหลือบตามองไปรอบๆ หลังจากที่เงียบฟังเด็กๆพูดกันมาสักพักแล้ว เขาถอนหายใจแล้วขมวดคิ้วแน่นอย่างคนใช้ความคิด
“ระบบฉุกเฉิน…”
สเปเชียลหันไปมองหน้าอติกานต์เมื่อได้ยินเสียงพึมพำดังขึ้น “อะไรนะครับอากานต์?”
“อันตรายไม่น้อยแล้ว” มิเกลเป็นฝ่ายที่พูดสวนขึ้นมาแทน “ถูกแล้วครับคุณอติกานต์ นี่เป็นระบบฉุกเฉินตอนนี้คุณไคลด์คงจะไปอยู่ที่ห้อง SOS และดูการเคลื่อนไหว ของพวกคุณจากกล้องอินฟาเรดแล้วระบบควบคุมทุกส่วนของที่นี่อยู่ในห้องนั้น”
ประโยคยาวเฟื้อยที่ถูกเอื้อนเอ่ยมารังแต่จะทำให้คิ้วผูกกันแน่นขึ้นไปกว่าที่เป็นสถานการณ์กดดันแบบนี้…
มิเกลกวาดตามองที่พื้นรอบข้างแล้วส่ายหัว “ที่นี่มีกลไกที่พื้นอยู่มากคอนโดชั้นล่างนี้มีหลายจุดที่ถูกทำเป็นห้องกระจกขัง หากคุณเดินไม่ถูกคุณจะร่วงตอนนี้ที่คุณไคลด์ต้องการที่สุดคือคุณสเปเชียลและใครก็ได้ที่เป็นซาไลย์”
ทุกคนเงียบสนิท…ต่างฝ่ายต่างรู้ดีว่าไม่ควรก้าวเท้าขยับแม้แต่ก้าวเดียวในตอนนี้ เหมือนถูกผูกผ้าปิดตาแล้วมีคนดันหลังให้เริ่มเดินบนเส้นด้ายบางๆ แบบที่ข้างล่างเป็นหน้าผาสูงที่มองลงไปไม่เห็นพื้นอย่างไรอย่างนั้น
อติกานต์ครุ่นคิดหนักในใจ “ซีคนเดียวไม่พอ ซาไลย์อีกคนต้องอยู่กับสเปเชียลด้วย”
“แต่ถ้าถูกจับเมื่อไหร่ก็จะได้ทั้งหมดที่เขาต้องการเลยสิครับ?!”ยูโรเอ่ยปากสวนขึ้นมาแบบที่สเปเชียลก็หันหน้าไปมองนิ่งๆ
“ไม่ว่าพี่กับซีจะอยู่ด้วยกันหรือไม่สุดท้ายแล้วถ้าถูกจับไปจริงๆ การอยู่ด้วยกันย่อมดีกว่าแยก”
คนถูกหมายหัวกล่าวเรียบๆแล้วหันไปมองหน้าคนข้างกายอีกครั้ง แบบที่ซีเองก็สบตาตอบกลับมา
“เดี๋ยวผมกับซีจะอยู่ด้วยกันและคิดว่าเป้าหมายคงพุ่งตรงมาที่ผมไม่ผิดแน่” สเปเชียลหันไปพูดกับมิเกล และอติกานต์
“แต่…”
“ยังไงสิ่งที่เขาต้องการก็คือผมอยู่ดี…”
สเปเชียลเอ่ยขัดมิเกลที่เหมือนจะไม่เห็นด้วยขึ้นมา เสียงที่ไร้ซึ่งความลังเลนั้นทำให้คนฟังต้องถอนหายใจแล้วพยักหน้ายอมรับอย่างด้วยไม่ได้
มิเกลกวาดตามองคนรอบข้างจนครบทุกคนแล้วเอ่ยปากเสียงเข้ม “ฟังคำผมนะครับ ก้าวเดินระวัง มองหาที่ยึดจับไว้”
เขาเน้นย้ำทุกคำราวกับไม่ต้องการให้ตกหล่นสักใจความแล้วที่สำคัญ
“ถ้าหากตกลงไป…”
ไคลด์มองมอนิเตอร์ขนาดใหญ่ที่บนจอปรากฏภาพสีดำผสมแสงสีเขียว และร่างของคนขยับอยู่นิ่งๆ เหมือนกำลังพูดคุยอะไรกันอยู่แบบไม่ละสายตา
เขายกยิ้มพอใจเล็กน้อยเมื่อเห็นสเปเชียลและซาไลย์ข้างๆเดินอยู่ไม่ห่างกันนัก รอยต่อของกลไกลที่ปรากฏเป็นเส้นสีแดงจางๆในหน้าจอทำเขายกยิ้มและรอจังหวะที่จะมีคนเดินผ่านขึ้นไป
ตอนนี้ไม่มีอะไรสำคัญเท่า สเปเชียลและซาไลย์สักตัว…นอกนั้นกำจัดหมดได้ในทันที แล้วเขาก็ต้องยกยิ้มเมื่อยูโรเริ่มออกเดินมาในเขตเส้นสีแดงด้านซ้าย…
ตี๊ด!
“เฮ้ย!”
“ยูโร!”
“เสียงอะไร?! เกิดอะไรขึ้น?!”
“เหวอ!”
ปึง!
อยู่ๆ ก็มีเสียงสัญญาณดังขึ้นดังจนต้องยกมือขึ้นปิดหูแล้วก็ได้ยินเสียงยูโรร้องตามมาด้วยเสียงของอาร์มิน
เหตุการณ์ประหลาดในความมืดที่ทำให้ยิ่งน่ากลัวขึ้นไปอีก
เสียงประหลาดมากมายดังขึ้นติดๆ กันทำให้ทุกคนไม่กล้าแม้แต่จะก้าวเท้า เสียงสุดท้ายที่ได้ยินคือเสียงกระแทกดังๆจากที่ไกลๆ แล้วทุกอย่างก็เงียบลง
“ยูโร! ยูโรอยู่ไหนน่ะ อาร์มิน?!”
สเปเชียลกวาดตามองไปรอบๆ มันมืด…มืดมาก มืดจนมองไม่เห็นเงาดำลางๆ อะไรทั้งนั้น
ซ้ำยังยิ่งใจเสียเมื่อไม่ได้ยินเจ้าของชื่อที่ตนเรียกขานรับคงมีแค่มือใหญ่กอบกุมมือเขาอยู่ที่ทำให้รู้ว่าไม่ได้ อยู่คนเดียว
“คุณยูโรกับคุณอาร์มินตกลงไปแล้วครับ” เสียงมิเกลดังขึ้นไม่ไกล
“เอาไงต่อดีครับ” อัลฟาเอ่ยปากเสียงสั่นมือเล็กเกาะกุมเสื้อของเอ็กซ์แน่น แบบที่คนอุ้มก็กอดรัดตัวเล็กเพื่อส่งผ่านความรู้สึกปกป้องนั้น “เหมือนตาบอดเลยแบบนี้”
สเปเชียลบีบมือซีกลับไปพลางนิ่งคิด “ถึงขนาดนี้แล้ว ถอยไม่ได้แล้วล่ะ เดินต่อเถอะครับในเมื่อถ้าเขาอยากจะแยกพวกเรา หรืออยากจะทำอะไรก็ให้เขาได้ทำยังไงการเผชิญหน้ากับเขาก็สิ่งที่เราต้องการอยู่แล้ว”
เพราะเขาไม่ได้กำลังหนี แต่กำลังบุกเข้าไปหาดังนั้นไม่ว่าจะต้องผ่านอะไรไป เป้าหมายเดียวที่มีก็คือการได้เจอคนที่กำลังเล่นเกมโง่ๆแบบนี้อยู่
คิดได้แบบนั้นทั้งหมดก็เริ่มก้าวเดินอีกครั้งหากแต่คราวนี้แปลกประหลาดไปเมื่อผ่านไปนานนับหลายนาทีก็ยังไม่มีเสียงอะไรดัง ไม่มีความผิดปกติใดๆ เงียบจนเริ่มกังวล
“เอ็กซ์มึงอุ้มแอลอยู่รึเปล่า” สเปเชียลเอ่ยปากถามแล้วก็มีเสียงเอ็กซ์ตอบรับดังขึ้นไม่ไกลนัก
อติกานต์กับมิเกลเดินนำหน้าไปแล้วแต่เวลาขานเรียกก็ยังคงมีคนตอบรับอยู่ตลอด
“พี่เอ็กซ์” อัลฟาที่ถูกอุ้มอยู่พึมพำเสียงแผ่วที่ข้างหูเจ้าของอ้อมกอดที่กำลังได้รับอยู่
“หืม”
“พี่เอ็กซ์สัญญากับแอลนะ” เจ้าตัวเล็กเอ่ยปากและรู้สึกได้ว่าอีกฝ่ายหยุดเดิน “...พี่เอ็กซ์ต้องไม่ทำอะไรที่อันตรายพี่เอ็กซ์ต้องไม่เป็นอะไร และต้องไม่ทิ้งแอลไปอีกคน”
เอ็กซ์ฟังแล้วก็ยกมุมปากขึ้นเล็กน้อย รอยยิ้มบางๆที่คนในแขนไม่สามารถมองเห็น เขากดจมูกลง ที่กระหม่อมเจ้าตัวเล็กเบาๆ
“ไม่มีวันทิ้ง”
พอได้รับคำตอบแบบนั้นอัลฟาก็ซบหน้าลงที่อกอุ่นๆ ของเอ็กซ์แล้วยิ้มบาง
แต่ทันทีที่เอ็กซ์ก้าวเท้าเสียงสัญญาณก็ดังขึ้นอีกครั้งมีแรงสั่นสะเทือนที่ใต้ฝ่าเท้าของตัวเอง
อัลฟาเบิกตากว้างเมื่อรู้สึกว่าเอ็กซ์กำลังโคลงตัวไปมาอย่างยืนไม่อยู่เสียงรบกวนดังก้องจนปวดหัว
ตื๊ด ออด!
“เฮ้ย!”
“พี่เอ็กซ์!”
“แอล! กอดเอ็กซ์ไว้”
“อ๊ะ!”
“สเปเชียลจับ!”
“ซี!”
ปึง!
ไม่รู้ว่าตอนนี้เสียงอะไรเป็นเสียงอะไรและแยกไม่ออกแล้วว่าใครพูดอะไร แว่วเสียงของสเปเชียลและซี รวมไปถึงมิเกลและอติกานต์ที่ดังแทรกขึ้นให้ได้ยินแผ่วๆ ทุกอย่างเกิดขึ้นเร็วมากจนไม่ทันได้หายใจเอ็กซ์พยายามประคองตัวอัลฟาไว้ในอ้อมกอด แต่แรงสั่นที่มากเกินไปทำให้อัลฟาร่วงออกจากวงแขน
วินาทีที่เขาพยายามคว้าอัลฟาเข้าหาตัวเขาก็ตกลงไปเบื้องล่าง ความมืดมิดรอบกายมีมากเกินไปจนทำให้วิเคราะห์สถานการณ์ไม่ออก หากแต่เสี้ยวจังหวะสุดท้ายที่ตัวกำลังเคลื่อนลงต่ำเขาได้ยินเสียงซีและสเปเชียลดังเข้าหู สัมผัสหนักๆ กระแทกเข้าที่กลางตัวของเขา และ…เสียงปึงปังที่ดังสะท้อนอยู่ในสมอง ◊ ◊ ◊ ◊ ◊ ◊ ◊ ◊ ◊ ◊ ◊ ◊ ◊ ◊ ◊ ◊ ◊ ◊ ◊
“อึก...”
มืด...แต่ไม่เท่ากับเมื่อครู่ เห็นเป็นเงาลาง ๆเหมือนตอนเข้านอนแล้วปิดไฟแรก ๆ เจ็บนิดหน่อยตรงช่วงท้อง
“เป็นไงบ้าง?”
ยูโรสะดุ้งเฮือกเมื่อได้ยินเสียงคนพูดข้างหูอาจจะเพราะไม่ทันตั้งสติทำให้จำไม่ได้ในทันทีว่าเป็นเสียงของใคร
แต่พอผงะออกมาถึงได้จำทรงคนตรงหน้าได้
“อาร์มิน?!”
“อืม” อาร์มินขานรับขมวดคิ้วแล้วยันตัวเองขึ้นนั่งไม่ต้องบอกก็รู้ว่าตอนที่ตกลงมาจากข้างบนเมื่อครู่ใครเป็นคนกระแทกพื้น
“นายโอเคปะ? เจ็บตรงไหนมั้ย?”ยูโรเขยิบเข้าใกล้แล้วเอ่ยปากถามอย่างคนที่มองรายละเอียดอะไรไม่เห็น
“โอเค เจ็บนิดหน่อย”
“พี่มิเกลให้หาจุดเชื่อมต่อของผนังนายพอจะได้ยินอะไรมั้ย” ยูโรว่าขึ้นเมื่อนึกไปถึงคำบอกของมิเกลก่อนหน้านั้น
“อืม”
อาร์มินตอบรับในคอแล้วขมวดคิ้วพลางใช้สมาธิกระจายออกเป็นวงกว้างเพื่อฟังเสียงรอบกาย
“ทางขวามือฉันมีเสียงลม...ถ้าลองออกแรงทุบสักหน่อยน่าจะเจอทางเดิน”
ยูโรเบิกตาขึ้นเล็กน้อยเมื่อได้ยินแบบนั้น “งั้นลองทุบดูเลยมั้ย?! ขวามือนาย..”
เขาว่าแล้วหันหลังไปทางทิศที่ว่าแล้วยกมือขึ้นคลำดูก็พบกำแพงขวางอยู่ แต่อาร์มินกลับดึงแขนที่กำลังจะลงมือเคาะของยูโรไว้
“แรงนายไม่ได้หรอก...มนุษย์ทำไม่ได้”
“งั้นนายลองดู” ยูโรว่าแล้วถอยเท้าหลบแต่อาร์มินยังคงนิ่งอยู่ ไม่นานก็ขยับตัวแล้วทรุดนั่งที่พื้นอีกครั้ง
“เฮ้ย เป็นไรเปล่าเนี่ย?!” ยูโรเห็นเงาลางๆของอาร์มินทรุดลงที่พื้นเลยรีบรุดเข้านั่งลงข้างๆ
ให้ซาไลย์ที่กำลังอ่อนแรงจากอาการที่ยังไม่หายดี และยิ่งมาเจอแรงกระแทกหนักๆ เมื่อครู่ซ้ำอีกพยายามเพ่งสายตามองหน้าของอีกฝ่าย
“อืม...เหนื่อยนิดหน่อย”
“งั้นนั่งพักก่อนแล้ว-”
“ฉันขาดเอนไซม์”
ไม่ทันที่จะพูดจบอาร์มินก็สวนคำขึ้นมาทำคนที่กำลังเอ่ยปากอย่างยูโรชะงักกึกแล้วเม้มปากแน่น
พลันเกิดความเงียบลอยผ่านระหว่างทั้ง 2 แต่เพียงชั่วอึดใจก็ถูกทำลายลงด้วยคนที่ถอนหายใจเล็กน้อย
แล้วโฉบปากกดลงที่กลีบปากของซาไลย์หน้านิ่งที่หอบหายใจนิดๆอย่างคนหมดแรงเร็วๆ
อาร์มินชะงักไปกับการจู่โจมที่ไม่ทันตั้งตัวบวกกับความมืดชนิดที่ต้องเพ่งสายตามอง ยิ่งทำให้กว่าจะรู้ว่าคนตรงหน้าเข้ามาใกล้ก็ตอนที่รู้สึกถึงสัมผัสที่แนบสนิทตรงริมฝีปาก และเรียวลิ้นที่แตะอยู่ตรงรอยแยกแล้ว
ปึง!
“โอ้ย! เชี่ยเจ็บ อ๊ะ!”
พอร่วงลงสู่พื้นเบื้องล่างสเปเชียลก็ร้องลั่นแล้วนิ่วหน้าหลับตาปี๋อย่างคนจุก แต่แล้วก็ต้องสะดุ้งเฮือกลืมตาโพลงแบบลืมเจ็บไปชั่วขณะเมื่อมีสัมผัสเย็นๆ มาแตะที่ต้นแขน
พอดูดีๆ ถึงได้รู้ว่าเขากำลังนอนทับร่างใครบางคนอยู่
“ชู่ว” เอ็กซ์ส่งเสียงเตือนให้อีกฝ่ายเงียบ “เสียงดังน่า”
“อ้าว กูหล่นลงมากับมึงเหรอวะ แล้วแอล!”
“อัลฟาไม่ได้ตกลงมาด้วย…”
“แล้วแอลจะอยู่กับใคร ไอ้ซีมันคว้าแอลไว้ทันมั้ยแอลจะตกลงไปคน-”
เอ็กซ์ยกมือขึ้นปิดปากปิดหน้าสเปเชียลในความมืดเมื่ออีกฝ่ายพูดเดาไม่หยุดเหมือนร้อนรนจนสติจะแตก
“ใจเย็นๆ หาทางออกจากที่นี่ก่อน”
สเปเชียลชะงักไปกับแรงมือที่ปิดปากเขาลามถึงจมูกอยู่นี่แล้วดึงมือที่มีแรงมหาศาลออกจากใบหน้า
“แล้วเจ็บตรงไหน?”
สเปเชียลเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อยเมื่อได้ยินอีกฝ่ายถามแบบนั้น ความมืดทำให้เขามองอะไรไม่เห็น รับรู้เพียงการเคลื่อนไหวของร่างตรงหน้าเป็นเงาดำๆ ไม่สามารถเห็นสีหน้าแววตาของคนที่กำลังสนทนาอยู่
และยิ่งประโยคคำถามที่ดูและจะเป็นห่วงก็ไม่เชิงจะอ่อนโยนก็ไม่ใช่แบบนี้ของเอ็กซ์ ยิ่งทำให้ต้องขมวดคิ้วเพราะความไม่คุ้น
“สเปเชียล?” เอ็กซ์เอ่ยย้ำชื่ออีกฝ่ายเมื่อเจ้าตัวไม่ตอบรับ
“อ้อ ไม่เจ็บเท่าไหร่ แค่จุกเล็กน้อย” สเปเชียลว่า แล้วก็นึกขึ้นได้ “แล้วมึงไม่เจ็บเหรอไง? ตัวมึงกระแทกพื้นตรงๆเลยไม่ใช่เหรอวะ??”
“ไม่เป็นไร” เอ็กซ์ตอบรับแล้วลุกขึ้นยืนเพ่งสมาธิไปรอบๆแล้วก็ต้องขมวดคิ้ว“ได้ยินเสียงระบบเครื่องอะไรสักอย่างทำงาน”
“ระบบอะ-”
ตี๊ด!
ฟึ่บ!
หมับ!
“เฮ้ย! เอ็กซ์?! มึงทำอะไรของมึงเนี่ย”
“อึก..”
“เอ็กซ์?! อะไรวะ?! เกิดไรขึ้น?!”
ไม่ทันที่สเปเชียลจะได้พูดจนจบอยู่ๆ ก็มีเสียงสัญญาณน่ารำคาญที่เกิดขึ้นซ้ำๆดังขึ้นอีก แสงสีแดง ในความมืดที่ส่องเป็นสายเป็นภาพสุดท้ายที่สเปเชียลเห็น ก่อนที่เอ็กซ์จะรุดเข้ามาคว้าตัวเขาเข้าไปกอดแล้วทรุดตัวหมอบลงบังทุกทัศนวิสัย จากที่มืดอยู่แล้วตอนนี้มองไม่เห็นแม้แต่เงาอะไรนอกจากอกของอีกฝ่าย
สเปเชียลเอ่ยถามเสียงดังไม่หยุดด้วยความตกใจเมื่อคนที่กำลังกอดตัวเองอยู่ไม่ตอบคำถามก่อนหน้า
หากแต่กายสะดุ้งเป็นระยะและมีอาการเหมือนเจ็บปวดทั้งยังเสียงครางในคอที่ฟังแล้วไม่น่าจะปกตินั่นอีก
เอ็กซ์ยังคงกอดสเปเชียลแน่นและใช้ร่างตัวเองบังไว้จนมิดเขากัดฟันแล้วเอ่ยเสียงแผ่ว
“ปืนยาสลบ…”
คนฟังเบิกตากว้างเมื่อรู้ว่าอีกคนกำลังอดทนกับความเจ็บปวดและฤทธิ์ยาที่เจอมาหลายครั้งแล้วอยู่ เพื่อปกป้องเขา สเปเชียลพยายามจะดิ้น แต่อ้อมแขนแข็งแรงก็ออกแรงรัดตัวเขาไว้แน่นหนา
“อย่า…ใกล้จะจบแล้ว”
เอ็กซ์ว่าขึ้นเพื่อปรามคนตัวเล็กที่ใจร้อนเป็นไฟให้หยุดขยับตัวสติเขาเริ่มติดๆ ดับๆ แล้ว เหมือนพื้นเอียง เหมือนห้องหมุน
“จะไม่ไหวแล้ว...นายก็ต้อง..ต้องแกล้งทำเป็นสลบเหมือนกัน…อย่าให้มันรู้ว่ามีสติ ระ…อึก..”
“เอ็กซ์!”
สเปเชียลร้องลั่นเมื่อคนที่กำลังร่ายยาวอยู่หยุดชะงักคำพูดไปเสียดื้อๆแล้วเอนตัวล้มลงข้างๆ เขา
เอ็กซ์ปรือตามองคนที่กำลังส่งเสียงร้องเรียกชื่อเขาไม่หยุดแล้วจะอ้าปากเอ่ยย้ำคำ แต่หนังตาและปากก็หนักเกินกว่าจะใช้งานแล้วสุดท้ายความมืดที่มากกว่าที่เป็นก็เข้ามาเยือน สเปเชียลพยายามเพ่งมองใบหน้าของคนที่นอนนิ่งอยู่ที่พื้นแต่ก็มองเห็นแค่เพียงเงาดำๆ เท่านั้น
เขาพยายามตั้งสติให้มากที่สุด…
สเปเชียลไม่ได้ลุกขึ้นนั่งเขาเพียงแต่หลับตาลงแล้วนับเลขในใจ เพราะตอนนี้เสียงก้อนเนื้อในอกข้างซ้ายมันเต้นแรงและดังมากเหลือเกินมากจนเขาได้ยินออกมาข้างนอกแบบนี้…
เขาได้ยินเสียงเหมือนมีคนกำลังมา
|