C h a p t e r 3 1
❖
โ ต้ ก ลั บ
การแกล้งหลับเป็นอะไรที่เขาไม่ถนัดเอาเสียเลย สเปเชียลพยายามควบคุมคิ้วของตัวเองไม่ใช่ขมวดเข้าหากันและตั้งสติให้ไม่หลับตาแน่นผิดสังเกตุ พยายามผ่อนคลายกล้ามเนื้อใบหน้าและท่าทางให้เหมือนไม่ใช้แรงอย่างคนนอนหลับ
ยามหลับตานิ่งเขารู้สึกได้ถึงแรงขยับมีคนจับตัวเขาพาดบ่า อาการสั่นและกายคลอนขึ้นลงทำให้รู้ว่าเขากำลังถูกพาเดินขึ้นบันได มันยากมากจริงๆ ที่จะต้องหลับตาอยู่เฉยๆ ทั้งที่อยากรู้ใจจะขาดว่าตัวเองกำลังถูกพาไป ที่ไหนและคนที่ปกป้องเขาอยู่เมื่อครู่เป็นอย่างไรแล้วบ้าง
แต่หากเขาพลาดแน่นอนว่าจะต้องถูกทำให้หมดสติตามไปเป็นแน่ แม้จะยังไม่รู้ว่าจะสามารถช่วยเหลือและทำอะไรได้บ้างมั้ย แต่การที่มีสติอยู่แบบนี้ก็ย่อมดีกว่าหมดสติไปโดยไม่ได้รับรู้เรื่องราวรอบตัวเองแม้สักนิดอยู่แล้ว ใช้เวลาไม่นานก็รู้สึกได้ถึงแสงสว่างที่สามารถมองผ่านเปลือกตาที่ปิดสนิทได้
อุณหภูมิรอบกายลดต่ำลงจนสังเกตุได้ถึงเครื่องปรับอากาศและยังเสียงประตูที่ปิดลงเมื่อครู่อีก…เขาถูกพาเข้ามาให้ห้อง?
“เรียบร้อยแล้วครับ”
คนเป็นลูกน้องเอ่ยคำแล้วหอบหายใจเล็กน้อยจากความเหนื่อยที่แบกร่างไร้สติทั้ง2 จากชั้นใต้ดินขึ้นมาที่นี่
ไคลด์พนักหน้ารับแล้วเดินเข้าไปพิจารณาใบหน้าและดวงตาที่นิ่งปิดสนิทของมนุษย์และซาไลย์ที่เขาตามหา
ได้มาแล้ว...ได้มาในมือทั้ง 2 สิ่ง
เขามองร่างที่สลบแน่นิ่งและถูกมัดแน่นของคนที่เพิ่งถูกนำตัวมาวางนอนไว้ในห้องตรงหน้าก่อนจะยกยิ้มพอใจ
“เตรียมเครื่องบินส่วนตัวให้พร้อมเราจะเดินทางกันทันที”
เมื่อสิ้นคำลูกน้อง 2 คนที่ยืนรอคำสั่งอยู่ก็เดินออกจากห้องไปหลังจากที่คนเป็นเจ้านายกดรหัสปลดล็อคประตูให้แล้ว
ไคลด์เหลือบตามองสเปเชียลและเอ็กซ์ที่ยังคงไม่ฟื้นสติอีกครั้งแล้วขยับไปคว้ากล่องกำมะหยี่สีน้ำเงินเข้ม จากโต๊ะข้างๆ
แล้วสืบเท้าเข้าหาร่างทั้ง 2 เปิดฝากล่องขึ้นก็พบหลอดเข็มฉีดยาขนาดใหญ่วางเรียงอยู่ในช่องที่จัดทำขึ้นมาอย่างพอดี4 หลอด
ไคลด์หยิบหลอดแก้วตรงหน้าขึ้นมาไว้ในมือแล้วหันไปหาเอ็กซ์ก่อนจะเริ่มจรดปลายเข็มแหลมคม เข้าที่ต้นแขน
“พี่ซี…พอจะได้ยินอะไรมั้ยครับ?”
อัลฟาเอ่ยปากเสียงอ่อนบีบมือหนาที่เกาะกุมมือเขาอยู่แน่น
ตั้งแต่เกิดเหตุการณ์รวดเร็วกะทันหันเมื่อครู่แล้วมองไปรอบๆก็ทำให้รู้ว่าตอนนี้เหลือแค่เขาและซีอยู่ด้วยกันเท่านั้น
แม้ซีจะกัดฟันกรอดแล้วสบถแรงๆเพราะเด็กที่อยู่ข้างกายเขาหายไปแต่หากตอนนี้เขาทำได้เพียงดูแลอัลฟาให้ดีที่สุด สเปเชียลเป็นคนฉลาดและเก่งพอที่เขาจะมั่นใจว่าเจ้าตัวจะพยายามเอาตัวรอดได้…
ขอเดิมพันกับความเชื่อใจนี้แล้วเดินหน้าตาไปเพื่อไปเจอกันที่จุดหมายเดิม
“ได้ยินเสียงคนคุยกันตรงด้านนั้น” ซีเอ่ยปาก นัยน์ตาสีทองยังคงเพ่งไปยังทิศทางที่ว่าไว้ “ให้อุ้มมั้ย?”
อัลฟาส่ายหน้าหวือความมืดที่ทำให้มองไม่เห็นใบหน้าของอีกฝ่ายชัดเจน แต่ก็รับรู้ได้ถึงความเป็นห่วงที่ส่งผ่านมาทางคำถาม
“ไม่เป็นไรครับ พี่ซีเดินต่อเถอะ”
ซีจับมือคนตัวเล็กกว่าแน่นขึ้นแล้วก้าวเท้าเดินเขาไม่ได้ยินเสียงเครื่องจักรหรือระบบอะไรทำงานแล้ว
คิดว่าตอนนี้หลุมพรางพวกนั้นคงจะหมดลงและใกล้เข้าไปยังปลายทางขึ้นทุกที เขาเหลือบตามองเงาดำของคนตัวเล็กข้างๆ แล้วก็ลอบถอนหายใจ
ป่านนี้เอ็กซ์จะคลั่งไปรึยังนะ…
“พี่ซี! แสงไฟครับ!” อัลฟาเอ่ยปากด้วยท่าทางดีใจพยายามควบคุมเสียงให้เบาลง
ซีพยักหน้ารับและดึงตัวอัลฟาให้หลบอยู่ด้านหลังแสงไฟที่ส่องออกมาตามช่องของประตูอยู่ไกลลิบๆ
“...”
เขาไม่แน่ใจว่าในห้องนั้นจะมีอะไรรออยู่แม้ว่าระหว่างทางมาจะกำจัดคนของที่นี่ไปได้ไม่น้อยแล้ว
แต่ก็ไม่อาจคาดเดาว่าจะมีคนอีกจำนวนเท่าไหร่รออยู่หากบุ่มบ่ามเข้าไปตอนนี้จะไหวมั้ยนะ
“พี่ซี?” อัลฟาเงยหน้ามองแผ่นหลังเบื้องหน้าแล้วเอ่ยปากเรียกชื่อเจ้าตัวเมื่อเห็นอีกฝ่ายนิ่งเงียบไป “ไม่เข้าไปเหรอครับ”
“ชู่ว” ซีส่งเสียงในคอให้อีกฝ่ายเงียบ “พี่ได้ยินเสียงคน...”
‘ปล่อยนะเว้ย โอ๊ย!’
ซีเบิกตากว้างเมื่อเพ่งจนได้ยินเสียงด้านในห้องนั้นเขากัดฟันกรอดแล้วบีบมืออัลฟาแน่น นั่นมัน เสียงสเปเชียล! ไม่ทันให้อัลฟาได้เอ่ยปากถามอะไรถึงท่าทีผิดปกติที่เกิดขึ้นนั้น
ซีก็รวบตัวอัลฟาขึ้นแล้วเคลื่อนตัวเร็วจนเจ้าตัวเล็กในแขนหัวหมุนไปที่หน้าประตูห้องแล้วปล่อยอัลฟาลงยืนก่อนจะพยักประตูเข้าไปแรงๆ
ภาพที่เห็นตรงยามประตูบานใหญ่เปิดออกยิ่งทำให้เขาต้องขมวดคิ้วแน่นกัดฟันคำรามในคอ เมื่อสเปเชียลถูกฝ่ายนั้นจับล็อคคอแน่น อีกมือถือเข็มฉีดยาไว้จ่ออยู่ใกล้ๆ
เหลือบตาเห็นกล่องกำมะหยี่ด้านข้างที่บรรจุดหลอดเข็มฉีดยาที่มีเลือดสีแดงเข้มจนเกือบดำอยู่จนเต็มแล้ว 2 หลอด
“ปล่อย...” ซีกดเสียงต่ำคำรามขู่อย่างที่ไคลด์ก็ยกยิ้มเย็น
“อย่าขยับจะดีกว่านะ” คนที่ถือเข็มฉีดยาแน่นเอ่ยปากเรียบๆด้วยท่าทางเป็นต่อ “รู้อะไรมั้ยว่าห้องนี้ชื่อว่า SOS”
ซีขมวดคิ้วแล้วจ้องเขม็งไปทางอีกฝ่ายหมายจะรุดเข้าไปทำร้าย หากแต่มือเล็กของอัลฟาจับแขนซีแน่นเหมือนจะปรามไม่ให้ขยับ
ไคลด์เหลือบมองมือของคนตัวเล็กข้างๆ เล็กน้อยก่อนจะเบนสายตากลับมาที่ซาไลย์ตรงหน้าอีกครั้ง
“มันถูกสร้างขึ้นมาเผื่อกรณีฉุกเฉินเครื่องมือทุกอย่างในห้องนี่ถูกควบคุมด้วยรีโมตสั่งการในมือฉันหากกดเมื่อไหร่ไม่ทันได้ตกใจนายก็คงจะลงไปกองที่พื้นแล้ว”
“ซี...อย่าขยับ”
สเปเชียลเปล่งเสียงออกจากปากด้วยความยากลำบากเพราะกำลังต่อสู้กับอาการอึดอัดจากการถูกรัดบริเวณลำคอ มือทั้ง 2 เกาะกุมจับอยู่ที่ท่อนแขนของไคลด์
เป็นอีกครั้งที่ซีต้องอดทนกัดฟันแล้วมองภาพบาดใจตรงหน้า เขากำลังคิดจะรุดเข้าไปฉีกเนื้อไอ้คนที่กล้าแตะต้องเด็กของเขาออกเป็นชิ้นๆ
“พี่ซี…ใจเย็นๆ ก่อนนะครับ”อัลฟาว่าเสียงสั่นแล้วเหลือบตามองร่างของเอ็กซ์ที่นอนนิ่งอยู่บนเตียงข้างๆน้ำตาคลอ
เจ้าตัวเล็กหลับตาปี๋แล้วส่ายหน้าไล่ความอ่อนแอที่กำลังถูกลั่นออกมาเป็นตาของตัวเอง
คราวนี้เขาต้องเป็นคนช่วยพี่เอ็กซ์
“มิสเตอร์ไคลด์ปล่อยพี่สเปเชียล”
ไคลด์เลิกคิ้วขึ้นอย่างลืมตัวเมื่ออัลฟาเอ่ยปากพูดแล้วจ้องตาเขานิ่งๆ ผิดวิสัยเด็กที่เคยคุ้นตามาหลายปี
“หึ…ปล่อยน่ะได้แต่หลังจากสูบเลือดออกมาจนพอใจล่ะนะ”
“ผมบอกให้ปล่อย!”
สิ้นเสียงตะโกนของอัลฟาไคลด์ก็กดรีโมทควบคุมในมือเลเซอร์ช็อทไฟฟ้าก็ฉายแสงแวบและเริ่มทำงาน
สัญญาณนั้นถูกเล็งเป้าเข้าที่อัลฟาและเป็นจังหวะเดียวกับที่เจ้าตัวเล็กใช้พลัง
ซีคว้าตัวอัลฟาแล้วกระโดดหลบแสงไฟฟ้าที่กำลังสาดลงมาได้หวุดหวิด
ทางไคลด์ล้มลงที่พื้นเพราะได้รับผลกระทบเล็กน้อยจากพลังเมื่อครู่เขาคว้าตัวสเปเชียลไว้แล้วดึงเข้าใกล้
กดรีโมทควบคุมอีกทีซึ่งคราวนี้ไม่พลาดอีกแน่นอน ซีกระตุกเมื่อถูกแรงของไฟฟ้าช็อตเข้าที่กลางลำตัว
เขาผลักอัลฟาออกจากรัศมีแล้วหลับตากัดฟันสู้กับอาการแปลบปลาบรุนแรงทั่วกาย
“พี่ซี!”
“ย-อย่าเข้ามา!” อัลฟาเบิกตากว้างกับภาพที่เห็นแล้วขยับตัวเตรียมจะลุกเข้าหาหากแต่ต้องชะงักเมื่อซีตะโกนห้ามกลับมา
ภาพตรงหน้าทำคนเข้มแข็งอย่างสเปเชียลน้ำตาคลอหน่วยขึ้นมาอย่างไม่รู้ตัว...ซีกำลังจะหมดสติอยู่แล้ว
“พะ..พอแล้ว จะเจาะจะสูบอะไรเอาไปให้หมดให้หมดทั้งตัวเลย” สเปเชียลว่าเสียงพร่าน้ำตาเริ่มไหลผ่านแก้มหนักขึ้น “หยุดไฟฟ้านั่นที”
“อั่ก!”
“ซี! หยุดเดี๋ยวนี้!จะเอาเลือดออกไปให้หมดเลยก็ได้ หยุดทำร้ายเขา!”
สเปเชียลน้ำตาไหลเป็นสายยามที่ซีนิ่วหน้างอตัวกับพื้นอย่างเจ็บปวด นัยน์ตาสีทองนั้นพยายามปรือขึ้นมองมายังเขาแต่ก็ต้องหลับลงแน่นเพราะอาการแสบกายที่กำลังรุมทำร้ายไปทั่วทั้วตัว
“ไม่ต้องบอกฉันก็ทำ” ไคลด์ว่าเสียงเรียบแล้วกดรีโมทควบคุมในมือเพื่อต่อสายไปถึงลูกน้องที่ออกไปเตรียมการเมื่อครู่ “กลับเข้ามามัดอัลฟาคนนึง”
ไม่นานนักก็มีชายชุดดำเปิดประตูเข้ามาแล้วรุดเข้าจับตัวอัลฟามัดเชือกจนแน่น
อัลฟามองพี่ชายกำลังน้ำตาไหลอาบข้างแก้มและเบนสายตามายังซีที่นอนหมดสติอยู่ที่พื้น
ทั้งยังคนรักที่นอนไม่ได้สติอยู่อีกด้านภาพที่ทำให้ทรมาณไปทั้งร่าง ภาพที่ทำให้รู้สึกเหมือนกำลัง จะแตกสลาย
เจ้าตัวเล็กกัดฟันกลั้นสะอื้นแล้วเงยหน้ามองไคลด์ที่กำลังเจาะปลายเข็มแหลมเข้าที่ต้นแขนสเปเชียล
แบบที่คนถูกทำร้ายก็นิ่วหน้าเพราะความเจ็บ
“มิสเตอร์ไคลด์...พอเถอะ ผมขอร้องอย่าทำร้ายครอบครัวผมมากกว่านี้เลย ผมขอล่ะ…อึก...ผม... ผมขอล่ะครับ”
“...ไม่อยากตามแม่เธอไปหรือไงอยากเจอมากไม่ใช่เหรอ”
ไคลด์ว่าเสียงเข้มยังคงจับจ้องที่หลอดแก้วในมือที่มีเลือดสีแดงสดเติมเต็มเข้ามามากขึ้นเรื่อยๆ ไม่วางตา
“ฉันก็อุตส่าห์วางแผนไว้แล้วหลังจากส่งลอว์เรนให้ไปรอที่โลกนั้นว่าจะพาเธอตามไปเมื่อไหร่”
อัลฟาเบิกตาที่เต็มไปด้วยน้ำกว้างขึ้นหลังจากได้ยินถ้อยคำบาดใจที่ราวกับจะทำให้โลกทั้งใบแตกสลาย
“…แกฆ่ามัม” เจ้าตัวเล็กพึมพำในคอแล้วกัดฟันกรอด
แบบที่คนเลือดเย็นก็หัวเราะแล้วเอ่ยปาก “เพิ่งจะรู้ตัวสินะ”
“แก!”
“จัดการ”
ฟึ่บ!
“ปล่อย! ปล่อยเดี๋ยวนี้นะ!”
อัลฟาตวาดลั่นอย่างโมโห แต่ก่อนที่นัยน์ตา 2สีที่แววไปด้วยน้ำตากำลังจะจ้องเขม็งเพื่อทำร้ายฝ่ายตรงข้าม
ไคลด์ก็เอ่ยเสียงเรียบให้ลูกน้องที่ยืนรออยู่ตวัดผ้าดำเข้าที่ตาของอัลฟาและผูกปิดจนแน่น คนถูกลอบปิดการมองเห็นชะงักไปแล้วโวยวายลั่นเมื่อกำลังถูกป้องกันทุกการตอบโต้
เขาทำอะไรไม่ได้เลย เขามันไร้ประโยชน์ที่สุด
“ฮึก...พี่..พี่เอ็กซ์..”
และสิ่งที่หลุดออกจากปากเล็กที่กำลังสิ้นหวังนั้นก็เห็นทีจะมีแต่ชื่อของคนที่กำลังลอยวนไปมาอยู่ในความคิดไม่หยุด
…ลุกมากอดแอลที
ปัง!
พลั่ก! ตุบ! ฟึ่บ!
“โอ๊ย!”
“อั่ก!”
ผั่วะ!
หมับ
อัลฟาชะงักและหันซ้ายหันขวามองอย่างตระหนกเมื่อได้ยินเสียงประหลาดดังขึ้นรอบตัวไม่หยุด เขาอ้าปากค้างอย่างตกใจเมื่อมองอะไรไม่เห็น
แล้วก็ต้องสะดุ้งเฮือกเมื่อรู้สึกถึงสัมผัสอบอุ่นของอ้อมแขนที่โอบล้อมตัวเขาเข้าไปกอดและอกที่เขากำลัง ซุกอยู่ ไออุ่นที่ไม่ต้องเปิดตามองก็รับรู้ได้…
เจ้าตัวเล็กร้องไห้สะอื้นจนตัวโยนและคว้าร่างของคนที่กอดเขาอยู่แน่นทันทีเมื่อมือถูกแก้มัด
“ฮึก…พี่เอ็กซ์”
เอ็กซ์ปลดผ้าปิดตาให้อัลฟาแล้วกอดรัดเจ้าตัวเล็กโยกไปมาให้หายเสียขวัญ “ไม่เป็นไรนะ..พี่ขอโทษที่หลับนานไป”
“ฮือ…แอล..กลัว กลัวมาก”อัลฟาเอ่ยปากเสียงสั่นแล้วซุกตัวเข้าหาเอ็กซ์
หันไปเห็นพี่ชายตัวเองกำลังประคองศีรษะซีเข้าซบที่อกโดยมีอาร์มินและยูโรอยู่ข้างๆ ก่อนที่จะต้องชะงักกึกแรงๆ เมื่อเหลือบไปเห็นภาพที่อยู่เบื้องหลังเอ็กซ์ “แด๊ด!”
ภาพที่อติกานต์ยกเท้าเหยียบที่กลางอกของไคลด์ซ้ำยังจ่อปากกระบอกปืนเข้าที่กลางหน้าผากนิ่งโดยมี มิเกลยืนอยู่ไม่ไกล
“แอล” อติกานต์เอ่ยปากเรียกชื่อขานรับลูกชาย
แต่ตาคู่คมยังไม่ละไปจากใบหน้าของคนที่ทำร้ายภรรยาที่รักของตนจนถึงแก่ความตาย
ไคลด์จ้องตาคนเบื้องบนกลับไปอย่างไม่คิดหลบมุมปากที่เลือดไหลออกเป็นทางจากอาการบาดเจ็บที่ได้รับเมื่อครู่ หลอดแก้วที่บรรจุเลือดของสเปเชียลได้ไม่ถึงครึ่งหล่นแตกอยู่ไม่ไกล
เนื่องจากระหว่างที่กำลังสูบมันออกจากร่างเจ้าของนั้นประตูก็เปิดออกแรงๆ ปรากฏร่างของซาไลย์ผมเทาจนเกือบขาวที่รุดเข้าต่อยเขาเข้าแรงๆ อย่างไม่ทันตั้งตัว ซ้ำยังมีมิเกลและยูโรที่ตามเข้ามาซัดลูกน้องที่กำลังกักร่างอัลฟาอยู่จนล้มลงไปนอนนิ่งที่ฟื้น ไม่ต้องบอกรู้ว่าตอนนี้ลูกน้องของเขาคงถูกทำให้สิ้นสติไปหมด ทั้งตึกแล้ว ไคลด์ยกยิ้มให้กับความพ่ายแพ้ของตัวเองเมื่อเห็นอติกานต์เดินเข้ามา
เขาหลับตาปี๋หลังจากถูกอีกฝ่ายเหยียบเข้าแรงๆที่กลางลำตัววัตถุอันตรายสีดำเมื่อมจ่อมาที่หัวของเขา
นัยน์ตาเจ็บปวดระคนโมโหของอติกานต์ทำเขารับรู้ได้ทันทีว่าคนตรงหน้าเอาจริง แน่ล่ะสิ...ในเมื่องานนี้เดิมพันด้วยความตาย ถ้ามันไม่ตายคนที่ต้องตายย่อมเป็นเขา
“มีอะไรจะพูดมั้ย” อติกานต์เอ่ยเสียงเรียบให้คนถูกถามยิ้มหยัน
“จะยิงก็ยิง”
อัลฟาที่ยังเกาะเสื้อเอ็กซ์แน่นค่อยๆขยับตัวลุกขึ้นแล้วสืบเท้าเข้าหาพ่อของตนมองไปยังคนที่นอนอยู่ใต้เท้า อติกานต์
“มิสเตอร์ไคลด์ทำแบบนี้ทำไม ทำเพื่ออะไรผมเคารพและเชื่อใจคุณมาก เชื่อมาตลอด เชื่อ-” เจ้าตัวเล็กเอ่ยยาวด้วยเสียงสั่นๆก่อนจะชะงักคำพูดแล้วยกมือปาดน้ำตา “ทำร้ายผมขนาดนี้ทำไม”
ไคลด์เงยหน้ามองอัลฟาเล็กน้อยแล้วเบนสายตาหนี
“นายก็แค่มีในสิ่งที่ฉันต้องการ”
“แค่นี้ถึงกับต้องฆ่ามัมเลยเหรอครับ!”
ไคลด์หันกลับมามองอัลฟาด้วยสีหน้าเรียบนิ่ง “ถ้าลอว์เรนไม่ขัดขวางฉันเรื่องราวมันก็คงไม่เป็นแบบนี้!”
“แต่คุณไคลด์หลอกคุณลอว์เรนก่อนนะครับ” มิเกลที่ยืนนิ่งอยู่ข้างๆ เอ่ยปากขึ้น ให้ไคลด์หันขวับไปมอง
“แล้วไง? ถ้าฉันจะหลอกลอว์เรนให้ช่วยจับซาไลย์มันจะผิดตรงไหนในเมื่อมันก็แค่เผ่าพันธุ์นึงบนโลก! ก็แค่สัตว์ประเภทนึงเท่านั้น เราก็แค่ใช้ประโยชน์จากมัน!”
“ไม่!ซาไลย์ก็เป็นสิ่งมีชีวิตที่ไม่ได้ด้อยไปกว่ามนุษย์ ซ้ำยังจะดีกว่าด้วยซ้ำคุณมันเลวที่สุด!”
อัลฟาตวาดลั่นน้ำตาไหลเป็นสายด้วยความรังเกียจคนตรงหน้า ถ้อยคำสกปรกที่ได้ยินทำเขาขนลุกจนต้องหันหน้าหนีแล้วรุดเข้าไปกอดเอ็กซ์แน่น มิเกลหลับตาลงกำหมัด ก่อนจะคุกเข่าลงข้างๆ ไคลด์
“ที่ผ่านมาคุณรับผมมาอุปการะเลี้ยงดูผมให้ที่อยู่ ให้การศึกษา” มิเกลเอ่ยปาก สบตาสีน้ำข้าวของไคลด์นิ่งๆ“ถึงคุณจะไม่ได้เห็นผมเป็นลูกเลี้ยงมาแค่เป็นเครื่องมือทำงาน...” เขาก้มหน้าลงนิ่งไปไม่นานก็เงยหน้าขึ้นมองอีกครั้ง “แต่ผมก็เคยเรียกคุณว่าพ่อในใจบ่อยๆ”
ไคลด์ขมวดคิ้วเล็กน้อยแล้วหันหน้าหนีมิเกลให้คนที่เพิ่งพูดจบหลับตาลงแล้วยกยิ้มบางก่อนจะขยับตัวลุก
หันไปทางอติกานต์ที่ยังถือปืนแน่นจอหาที่กลางหน้าผากของไคลด์สีหน้าโกรธจัดจนน่ากลัว
“คุณอติกานต์ครับ…ขอความกรุณาช่วยลงมือกับผมก่อนเถอะครับ”
อติกานต์หันขวับไปมองมิเกลทันทีที่ได้ยินประโยคประหลาดนั้น ซึ่งไม่ได้ผิดไปจากคนทั้งห้องรวมไปถึงตัวไคลด์เองด้วยที่จ้องมิเกลไม่วางตาอย่างแปลกใจ
“เธอพูดอะไรมิเกล” อติกานต์เอ่ยปากเสียงเครียด
“ถ้าคุณจะยิงคุณไคลด์ ผมก็คงต้องขัดขวางที่ผมช่วยพวกคุณมาถึงที่นี่ก็เพราะผมไม่อยากทำอะไรให้ผิดพลาดอีกแล้วแต่จะให้ผมยืนดูคุณฆ่าเขา...ผมก็คงทำไม่ได้ในฐานะ…ลูก”
คำที่ทำเอาอติกานต์ขมวดคิ้วมองคนตรงหน้าอย่างสงสารขึ้นมาจับใจ เขาเข้าใจสิ่งที่มิเกลคิดดี รู้อยู่แล้วว่าจะเกิดเรื่องเช่นนี้ แต่ก็เลือกที่จะทำและตายไปด้วยกันตามเจตนาที่ตั้งใจในฐานะที่อีกฝ่ายเป็นผู้มีพระคุณ
มือที่จับปืนของอติกานต์กำแน่นขึ้นไปอีกเมื่อเจอสถานการณ์บังคับเช่นนี้
“ขอร้องล่ะครับคุณอติกานต์…ก่อนที่ผมจะต้องทำร้ายคุณ”
อติกานต์จ้องตามิเกลกลับไปปืนยังคงยกจ่อไปทางไคลด์ไม่เปลี่ยน แต่สายตาที่แน่วแน่เหมือนตัดสินใจมาเนิ่นนานแล้วของมิเกลก็ทำให้เขาหนักใจ
มิเกลกำหมัดแล้วถอนหายใจ “งั้นผมต้องขอโทษด้วย”
พลั่ก!
มิเกลวาดแขนขึ้นหมายจะสับเข้าที่ต้นคอของอีกฝ่ายหากแต่ยูโรรุดเข้าไปคว้าตัวมิเกลไว้แน่น ให้คนถูกหยุดการกระทำหันมาชกเข้าที่ใบหน้าของยูโรจนเจ้าตัวลอยหวือไปไกล อาร์มินเห็นแบบนั้นก็เคลื่อนตัวไปคว้าร่างยูโรไว้ก่อนที่จะกระแทกเข้ากับขอบโต๊ะ แล้วเข้าไปจับตัวมิเกลที่กำลังเริ่มออกแรงแบบไม่ไว้หน้าไว้
ปึง! พลั่ก! ตุบ!
มิเกลยกเท้าถีบเข้าที่กลางอกของอาร์มินจนอีกฝ่ายจุกไป อาร์มินนิ่วหน้าเล็กน้อยยามกระแทกเข้ากับพื้น ร่างกายเขายังไม่ฟื้นตัวเต็มที่
อติกานต์เห็นเหตุการณ์ที่เริ่มจะท่าไม่ดีก็หันปากกระบอกปืนไปทางมิเกลทันที
“มิเกล!”
ปัง!
“คุณไคลด์!”
ท่ามความตกตะลึงกับสิ่งที่เกิดขึ้นเร็สจนไม่ทันได้ตั้งตัว ไคลด์ก็ล้มลงไปนอนที่พื้นโดยมีมิเกลคว้าตัวไว้ เขานั่งลงแล้วประคองหัวของคนถูกยิงไว้ที่ตัก
มิเกลเหลือบตามองรอยแดงที่เริ่มขยายวงกว้างขึ้นเรื่อยๆบริเวณช่องท้องของไคลด์ ก่อนจะหันมามองหน้าที่เริ่มซีดไม่มีสีเลือดด้วยความตระหนก
“คุณทำแบบนี้ทำไม! เข้ามาขวางทำไม?!”
“อึก…” ไคลด์ยกยิ้มบางเขาพยายามอ้าปากจะพูด หากแต่ไม่มีเสียงอะไรเล็ดลอดออกมาจากลำคอ
กระสุนพุ่งเข้าที่จุดสำคัญ…เขากำลังจะตาย
“คุณมัน..” มิเกลเม้มปากสะกดกลั้นน้ำตาที่เอ่อขึ้นมาคลอหน่วยอยู่อย่างสุดความสามารถ
วินาทีก่อนที่ไคลด์จะหลับตาลงมิเกลก็น้ำตาหยดทันทีเมื่ออ่านปากของอีกฝ่ายได้ความว่า…
‘พ่อขอโทษ’
นี่คงเป็นครั้งแรกที่อีกฝ่ายแทนตัวเองว่าพ่อกับเขาและ…มันคงเป็นครั้งสุดท้ายด้วยเช่นกัน
อติกานต์มองเด็กหนุ่มตรงหน้าอย่างเห็นใจเขาไม่ได้อยากให้มันเป็นเช่นนี้ แต่เขารู้ดีว่าสุดท้ายแล้วเขาต้องพรากชีวิตของไคลด์ไป
ลอว์เรนเป็นผู้หญิงที่เขารักสุดชีวิตเปรียบเสมือนดวงใจ เหมือนวิญญาณอีกครึ่งหนึ่ง และคนตรงหน้าเอาเธอไปจากเขา ไม่มีเหตุผลใดที่เขาจะไปทำแบบนี้ อติกานต์กำหมัดแน่นแล้วเบนสายตาหนีจากภาพตรงหน้า
เนิ่นนานหลายนาทีที่ไม่มีใครกล้าเอ่ยปาก ปล่อยให้มิเกลหลับตาลงปล่อยน้ำตาให้ไหลเงียบๆ อยู่อย่างนั้น โดยไม่ส่งเสียงอะไรรบกวน
“มิเกล” เมื่อผ่านไปจนคิดว่านานพออติกานต์ก็เอ่ยปากเรียกชื่อคนที่นั่งน้ำตาไหลอยู่เบื้องล่างทั้งที่ยังไม่หันไปมองหน้า
“ครับ?”
“อาต้องขอโทษด้วย” แน่นอนว่ามิเกลไม่ใช่คนที่ควรรับกรรมเช่นนี้
คนถูกขอโทษขมวดคิ้วฉับแล้วปาดน้ำตาออกเบาๆวางศีรษะของคนที่ขึ้นชื่อว่าพ่อลงที่พื้นช้าๆ ก่อนจะลุกขึ้นเต็มความสูงแล้วเดินเข้าใกล้อติกานต์
“ผมต่างหากที่ต้องขอโทษ ขอโทษที่ทำร้ายคุณลอว์เรนทำร้ายคุณอัลฟา และทำร้ายคุณอติกานต์ ทำร้ายครอบครัวของคุณ…ผมขอโทษครับ”
อติกานต์หันมองคนตรงหน้าแล้วยกมือลูบหัวมิเกลเบาๆ “อาให้อภัยเรา อาไม่โกรธไม่ถือโทษในสิ่งที่เราทำ”
“ขอบคุณครับ”
มิเกลเอ่ยเสียงแผ่วน้ำตาไหลอย่างน่าสงสารให้อติกานต์รวบตัวเด็กหนุ่มเข้ามากอด แล้วลูบที่หลังไปมาอย่างผู้ใหญ่ปลอบเด็ก
ความจริงแล้วมิเกลก็เป็นแค่เด็กคนนึงที่ทำทุกอย่างตามคำสั่งของผู้ที่ตนมองว่าเป็นพ่อ เด็กที่น่าสงสาร และขาดความรักอย่างมิเกลเติบโตมาได้แบบนี้และคิดได้ขนาดนี้นับเป็นเรื่องที่ดีมากแล้ว
“ไม่เป็นไร…มาอยู่กับอานะ”
มิเกลยกมือกอดหลังของอีกฝ่ายตอบเขาหลับตาลงปล่อยน้ำตาให้ไหลออกมาอย่างไม่คิดจะกลั้นไว้อีกแล้ว
ทรมานและเนิ่นนานพอแล้วกับเหตุการณ์เลวร้ายหลายสิบปีนี้
อัลฟาละสายตาจากภาพตรงหน้าขึ้นมองเอ็กซ์ให้คนถูกมองรู้สึกตัวแล้วก้มหน้าลงมาสบตา นัยน์ตาดุๆ คู่สีเงินส่องประกายความอบอุ่นจางๆ แบบที่เจ้าตัวเล็กก็รู้สึกถึง
“พี่เอ็กซ์เจ็บตรงไหนมั้ย”
เอ็กซ์ยิ้มบางแล้วส่ายหัวให้อัลฟากำมือเอ็กซ์แน่น
“แอลกลัวแทบตายว่าพี่เอ็กซ์จะไม่ฟื้นกลัวจะไม่ได้เห็นหน้าพี่เอ็กซ์อีก กลัวไปหมดทุกอย่างเลย ตอนถูกปิดตา” เจ้าตัวเล็กเอ่ยปากไม่หยุดอย่างเด็กที่กำลังฟ้องให้คนฟังหัวเราะในคอด้วยความรักใคร่
“แอลรักพี่เอ็กซ์ รักพี่เอ็กซ์มากนะ”
เอ็กซ์พยักหน้าคว้าตัวอัลฟาเข้ามากอดแน่นแล้วกดจูบที่กลุ่มผมนุ่มเบาๆ ก่อนจะเอ่ยคำตอบรับ
“รักมากนะอัลฟา”
จากนี้…เรื่องร้ายๆ มันจะผ่านไปแล้ว
|