แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย non07 เมื่อ 2023-7-18 09:41
0 R+ a( S3 }+ @5 t
! S% q$ m4 G+ N) Tเรื่องเสียวแก๊งมัธยม : วันทองสองรัก...ฉันรับไม่ไหว $ V! Z7 M; K& x- H8 Q% l' r' O
0 B4 C: z0 t" Y6 b* z C/ B u5 W: k& ]
J5 v$ }0 u1 ?6 d/ [“เรื่องนี้เป็นอาจมีเนื้อหาความรุนแรง เพศ และการใช้ภาษาที่เกี่ยวข้องกับเด็กและเยาวชนที่อายุไม่ถึง 18 ปี” 4 H0 j; f9 ]; L! F! h
“ไม่เหมาะสมสำหรับผู้รับชมทั่วไป โปรดใช้วิจารณญาณ” . . -เรื่องนี้เป็นเรื่องแต่งจากประสบการณ์ของผมเอง อาจมีผิดพลาดประการณ์ใดขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยครับ- . . “ความเสียวก็เหมือนขนม ยิ่งกินยิ่งอม เราจะเริ่มติดใจ” . . แนะนำตัวละคร . . “จอห์น” พระเอกสุดหล่อของเรื่อง . . “จอห์น” เป็นเด็กหนุ่มอายุ 18 ปีที่เกิดในครอบครัวไทย-อังกฤษ เนื่องจากธุรกิจของพ่อแม่ในอังกฤษ เขาต้องเติบโตมาพร้อมกับพี่เลี้ยงเด็กและคนขับรถ เมื่อพ่อแม่ของเขาไม่อยู่ เขาพบสิ่งปลอบใจในการออกกำลังกายและเล่นบาสเก็ตบอลเป็นประจำ ในที่สุดก็กลายเป็นผู้เล่นดาวเด่นของโรงเรียนชายล้วนชื่อดัง เขาเป็นเพื่อนซี้กับเจมตั้งแต่ม.1 และพวกเขาก็มีสายสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้น “จอห์น” สูง 185 ซม. และหนัก 65 กก. “เจม” เพื่อนพระเอกสุดคูล . . “เจมิไน” แต่เพื่อนๆมักเรียกว่า “เจม” เป็นเพื่อนสนิทของ จอห์น และเป็นประธานนักเรียนของโรงเรียนชายล้วนชื่อดัง ไม่เพียงแต่เขาเท่เท่านั้น แต่เขายังเป็นนักปิงปองชั้นแนวหน้าอีกด้วย ทำให้เขาเป็นที่นิยมในหมู่เพื่อนๆ หน้าตาที่ดูดีโดดเด่นของเขาทำให้เขาติดอันดับ 1-10 หนุ่มสุดฮ็อตของโรงเรียนซึ่งจัดอันดับโดยแก๊งนางฟ้า “เจม” สูง 185 ซม. และหนัก 60 กก. เป็นศูนย์รวมความสมบูรณ์แบบของเด็กหนุ่มมัธยมปลาย (สั้นๆ Perfect!!!) “ดิว” เพื่อนสนิทพระเอกสุดหล่อ . . . “ดิว” กัปตันทีมบาสเก็ตบอล วัย 18 ปี อยู่บ้านใกล้กับ “จอห์น” แถมยังเป็นเพื่อนร่วมห้องที่ฉลาดและมีความสามารถซึ่งเป็นประธานชมรมบาสเก็ตบอลด้วย ความสามารถทางวิชาการของเขาเป็นที่เลื่องลือ เขาชนะการแข่งขันทางวิชาการมากมาย แม้กระทั่งเหรียญทองโอลิมปิค ดวงตาอันใสซื่อของดิวและ ใจดีทำให้เขาเป็นที่รักของครูหลายคนในโรงเรียน อย่างไรก็ตาม เขามักจะมีปัญหากับสมาชิกในสภานักเรียนซึ่งนำไปสู่การทะเลาะวิวาทกันบ่อยครั้ง(ซึ่งผมก็ไม่รู้ว่าทำไม) ความสูง 190 ซม. และน้ำหนัก 68 กก. ดิวเป็นคนรูปร่างที่สง่างามทั้งภายในและภายนอก แม้จะประสบความสำเร็จมากมายแต่เขาก็ยังคงอ่อนน้อมถ่อมตนและพร้อมเสมอที่จะยื่นมือช่วยเหลือผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือ
* d; _( r" u, d1 c$ p! ~+ J“อายุน้อยร้อยเมีย” คือฉายาของผม ใช่ครับผมชื่อ จอห์น ลูกครึ่งไทย-อังกฤษ-จีน อายุ 18 ปี ตอนนี้เรียนอยู่มอปลายปีสุดท้ายแล้ว เป็นคนชอบทำกิจกรรมกับเพื่อนในโรงเรียนมาก ทั้งในร่มและนอกร่ม(หึหึหึ) แต่ที่เล่นจริงๆจังๆก็บาส กับว่ายน้ำ เรื่่องเรียนก็ไม่ด้อย แข่งกันชิงที่1 ที่2กับไอ้ประธานนักเรียนขี้เก๊กเพื่อนสนิทของผม 9 ` L! x5 U0 Y8 E2 K4 I
พ่อเป็นชาวอังกฤษ ส่วนแม่ผมคนไทยเชื้อสายจีน ทั้งคู่พบรักกันตอนเรียนที่มหาลัยออกซ์ฟอร์ดด้วยกันแล้ว ก็ตามแม่ผมกลับมาอยู่ที่ไทย จากนั้น”จอห์น”น้อยคนนี้ก็ถือกำเนิดขึ้นมา ได้ 5 ขวบ คุณปู่ของผมท่านก็จากไปอย่างสงบ แต่ทรัพย์สินมรดกอันมากมายของท่านก็ยกให้ลูกชายเพียงคนเดียวนั่นก็คือพ่อผมนั่นเอง . แต่มีเงื่อนไขเดียวคือต้องกลับมาอยู่ที่อังกฤษ ทำให้พ่อและแม่ต้องเดินทางไปดูแลธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ทั่วทั้งยุโรป ทำให้ไม่มีเวลามาดูแลผม จะพาไปอยู่ด้วยกันก็ลำบาก เพราะยังเล็กแถมเค้าเดินทางบ่อยจึงทิ้งผมไว้ที่ไทย และทำให้ผมรู้สึกโดดเดี่ยว แม้จะมีพี่เลี้ยง คนขับรถ แม่นม อาเจ็กกับอาซิ้มก็มาเยี่ยมเป็นครั้งคราวก็ไม่เพียงพอที่จะเติมเต็มความรู้สึกที่ขาดหายไปได้ . “เฮ้ย..พอก่อน!! นี่ไม่ใช่ละครสั้นคุณธรรมทำไมมันมีแต่ดราม่าวะ เดี๋ยวคนอ่านก็ปิดหนีไปหมดหรอก นี่มันแนวเลิฟคอมเมดี้ ใสใสวัยรุ่นชอบ รีบๆเข้าเรื่อง จะได้เอากันซะที” “กุกำลังเล่าอยู่ไอ้ห่านี่ ผมขอหาอะไรยัดปากเมียผมก่อนนะ ” (อ่อก..อ้อก#%@&฿ตับ..ตับ อ้าาา) . “TWO HOURS LATER…” “แฮ่กๆ โอเค มาเล่ากันต่อ” . พอทั้งสองท่านไปดูแลธุรกิจในหลายประเทศเลยไม่ค่อยได้กลับมาที่ไทยสักเท่าไร ผมจึงอยู่คนเดียวในบ้านซะเป็นส่วนใหญ่ แต่มันก็ทำให้ผมมีอิสระในการใช้ชีวิต กล้าเสี่ยง ลองทำหลายสิ่ง โดยไม่ต้องกังวลว่าที่บ้านจะโอเคไหม ทำให้ผมมีเรื่องสนุกๆมาเล่าให้ฟังดังเช่นเรื่องแรกที่ผมจะเล่านี้เป็นช่วงที่ผมเพิ่งจะขึ้นม.4 มาใหม่ๆ . วันศุกร์ที่ 8 เดือนกันยายน พ.ศ 256X ท้องฟ้ามืดครึ้ม ส่งเสียงร้องคำรณเป็นระยะ..ระยะ เสียงละอองฝนกระทบเข้ากับหน้าต่าง..เปาะแปะ..เปาะ..แปะ อุณหภูมิรอบๆห้อง 25 องศา บรรยากาศเหมาะแก่การพักผ่อน ไม่นานนัก เสียงริงโทนจากมือถือที่อยู่ข้างเตียงก็ดังขึ้น…“จบที่เธอและฉันจะไม่เริ่มที่ใคร..ให้เธอทั้งหัวใจ..พิเศษ..พิเศษ..จนไม่เหลือที่ว่างให้ใคร…..” ผมค่อยๆลุกขึ้นสะบัดหัวเอาความง่วงออก แล้วหยิบมือถือขึ้นมาดู “ห่ะ..เบอร์ใครวะเนี่ย(กดรับ)..ฮัลโหล…ครับ” กดรับทั้งๆที่ขยี้ตาไปด้วย “ตื่นยังมึง..สายแล้วนะ” ใครวะเสียงคุ้นๆ “ครับ..ใครครับ” “กูเจมไง..ผัวมึงอะ” “ผัวก็เชี่ยและ..มีไรวะ โทรมาแต่เช้า…หาว…” ไม่เกรงใจคนนอนดึกเลยไอ้นี่ “เช้าไรครับ คุณชาย นี่จะ 7 โมงแล้ว” “ห่ะ..เออเดี๋ยววันนี้กูเข้าสายได้” “ได้ไงกูรอเข้าพร้อมมึง..รออยู่หน้าบ้านมึงเนี่ย” “จริงดิ” แล้วผมก็ลุกขึ้นไปดูที่หน้าต่างก็เห็นมันยืนถือร่มโบกมืออยู่ “เอองั้นบอกลุงตู่ให้เปิดรั้วเข้ามารอข้างในเลย กว่าจะอาบน้ำน่าจะหลายนาที” “เค รับทราบ” ทันทีที่ปลายสายวางผมก็บิดตัวไปมาก่อนจะลุกออกจากผ้าห่มหนาๆที่เป็นปราการเดียวในการห่อหุ้มร่างกายจากความเย็นของเครื่องปรับอากาศ อืมม..ผมลุกขึ้นไปที่กระจกขนาดเท่ากับตัว ติดกับบานประตูเสื้อผ้า มองดูเรือนร่างของตัวเองอย่างมั่นใจในสัดส่วนและแกนกายที่เคารพธงชาติ “วันนี้ก็ยังคึกคักเหมือนเดิมนะจอห์นน้อย” “อดทนไว้..อีกแค่ 3 วันนะก็จะครบ 30 วันแล้ว” ผมเตือนตัวเองถึงชาเลนจ์ที่ทำมาได้ถึง 27 วันแล้วว่าจะไม่ช่วยตัวเองเป็นเวลา 1 เดือน…ซึ่งมันเป็นคอนเทนต์ไวรัลใน Xik-Xok(18+) อยู่ตอนนี้ถ้าคุณทำสำเร็จให้ชักออกมาโชว์ว่าน้ำของคุณที่เก็บไว้มีเยอะมากแค่ไหน กำลังเป็นที่นิยมกันอยู่ตอนนี้รวมไปถึงในแอพนกฟ้า ผมเอามือมาลูบตัวขึ้นลงเพื่อระบายความอยากของช่วงล่างช้าๆ พร้อมกับส่วนแข็งที่ยื่นออกมากระดกขึ้นหัวชี้ฟ้า น้ำอยากไหลลงมาชี้ดิน ซี้ด..ผมรู้สึกเสียว อยากปลดปล่อยปราณวารีคลื่นน้ำพุทะลุทะลวงใจจะขาด ความต้องการยิ่งเพิ่มมากขึ้น ผมก็ใช้นิ้วหัวแม่มือถูตรงส่วนเนินอกสีชมพูเข้มลงแรงๆ อืออ..บิดสะโพกดันตัวไปข้างหน้า ย่อขาแล้วยืดตัวงัดเสยส่วนแกนกายที่ยื่นออกมาจนดีดเข้าหากล้ามท้องแข็งๆดัง ตั่บ ตั่บ ตั่บ …อ่าาา แม่งน้ำเอ่อจนล้นขนาดนี้เลยเหรอ ควงท่อนลำหมุนวนตามเข็ม 10ที แล้วสะบัดให้ตีกับหน้าขาแรง แปะ แปะ แปะ น้ำอยากแตกกระเซ็นไปทั่วกระจกแล้วหน้าขากับพื้นเป็นหยดๆ ยืด เยิ้ม ผมสูดหายใจลึกๆก่อนเปิดลิ้นชักดูห่วงรัดแกนกายสีดำ ,สีขาว และ เหล็ก อืมม..อาบน้ำเสร็จก่อนค่อยเลือกใช้ล่ะกัน ผมเข้าไปอาบน้ำล้างตัวจนสะอาด จอห์นน้อยตอนนี้ก็กำลังตึงได้ที่ จากน้ำอุ่นๆ ผมผิวปากเดินออกมาเปิดประตูห้องน้ำพร้อมกับเสยผมบริเวณหัวที่เปียกราวกับถ่ายทำเอ็มวี ก็เห็นไอ้เพื่อนรักส์ นอนเล่นมือถืออยู่บนเตียงของผม “เชี่ยย มึงเข้าห้องกูทำไมวะ” สายตาของไอ้หน้าหล่อก็มองร่างกายที่ไร้อาภรณ์ปกปิดจ้องไปที่ส่วนแกนกายของผมอย่างตาไม่กระพริบ จอห์นน้อยก็เสือ..กอยากทักทายอย่างนอบน้อมถมตน “ไฮ” แบบคนญี่ปุ่น ผงกหัว ขึ้นลง แถมปล่อยปราณวารีเป็นสายน้ำตกยืดๆ ท้าทายคนตรงหน้าไปอีก“เชี่ยเอ้ยย” ผมรีบวิ่งกลับเข้าไปในห้องน้ำ เวรล่ะเสื้อผ้าเอย ผ้าขนหนูเอย อยู่ข้างนอกหมด ทำไงดีวะเนี่ย ผมแง้มประตูโผล่แค่หัวไปหามัน แต่ร่างกายผมแนบชิดติดกระจกฝ้าของประตูห้องน้ำ “มึงเอาผ้าขนหนูในตู้มาดิ ชุดเสื้อพละด้วย” มันหาอยู่พักนึงก่อนจะหยิบมาให้ผม เห็นสายตามันมองมาแปลกๆ แต่ผมก็ไม่สนใจรีบใส่เสื้อผ้าจนเสร็จ “ป่ะ..มึง” มันก็บอกว่า “เดี๋ยวก่อน ..อ้าปาก.. เร็ว..” “เออ..” ผมทำตามมันอย่างหัวเสีย “หลับตาด้วย” ไรนักหนาวะ “เร็วดิ๊” มันทำเสียงอ้อนๆ เดี๋ยวถ้าไม่เด็ดจะตบให้ “เอ๊ะ..อะไรหวาน..หวาน” ผมค่อยๆลิ้มรสของหวานที่อยู่ภายใน อืมมม พอลืมตาก็เห็นไอ้เจมคนดี กำลังบีบหลอดช็อคโกแลตใส่ปากผมช้าๆ “ไงมึงอร่อยไหม เช้าๆต้องมีอาหารสมอง ให้สารเอ็นโดฟินหลั่ง ถึงแม้ว่าเอ็นมึงจะโด่จนกูฟินไปก็เถอะ ” พูดเสร็จก็พลางเหลือบตามองลงไปที่จุดยุทธศาสตร์ “เออ มีของเล็กไว้ใช้ ของใหญ่เอาไว้โชว์เคยได้ยินไหม” “แต่กูอยากใช้ของใหญ่มากกว่านะ” มันพูดเสร็จก็เอาหน้ามาใกล้ๆ ผมก็หวิวๆเหมือนกันนะ ไอ้รองประธานคนหล่อก็หอมแก้มดังฟอด “ห่ะ คือไรอะ” “หายโกรธกูนะ..เรื่องเมื่อวานอ่ะ” “อ้อ..ที่ทำดีวันนี้เพราะเรื่องเทนัดเมื่อวาน ก็ว่าอยู่” (คือเรื่องมันเกิดขึ้นเมื่อวานตอนเย็นหลักเลิกเรียน มันนัดผมไปดูหนัง Super Hero ยิงใยได้ แต่อยู่ดีๆก็โทรมาบอกแคนเซิลว่าติดธุระที่บ้านด่วน แล้วผมก็เลยไปดูคนเดียว ที่พีคคือพอผมออกจากโรงเจอมันมากับน้องมิลล์ เออดีเนอะธุระที่บ้าน ผมก็เลยเดินชนมันแล้วก็กลับบ้านมาเลย ไม่ได้เสียใจนะ แค่รู้สึกแย่ที่มันโกหก ถ้าบอกกันก่อนว่ามีนัดกับสาวผมก็จะได้รู็ไม่ใช่โกหกแล้วให้กูรู้ความจริงเอง อันนี้ไม่ดีนะ อย่าไปทำกันล่ะ ผมมีเหตุผลพอ) “มึงให้อภัยกูนะ กูสัญญาจะไม่โกหกมึงอีก นี่กูเอาห่วงมึงไปอันนึงกูก็บอกตรงๆ เห็นไหม” แล้วมันก็โชว์ห่วงรัดเหล็กของผม “เอ้าไอ้สัดนี่ แบบนี้ขโมยแต่บอกยื้ม” “มึงเอาไปเลย กูให้ได้..แต่กูไม่ให้อภัยในตอนนี้ จบนะ” “นะ..นะคับ จอห์นคนหล่อ คนเท่ หำใหญ่ ” มันก็ยังคงง้ออยู่ ผมก็เริ่มขำในความพยายามของมัน “ไม่..กูไม่สำคัญ ยังไม่เท่าไร แต่มึงกลับโกหกกู สิ่งนี้คือกูรับไม่ได้วะ ไอ้เจม เรื่องเล็กยังทำได้ เรื่องใหญ่จะขนาดไหน” จริงๆมันก็เรื่องเล็กแต่อยากจะสอนมันเรื่องนี้คราวหลังจะได้ไม่ทำอีก ผมกับมันก็ออกจากบ้านไปพร้อมกันโดยให้ลุงตู่ขับรถไปส่งที่โรงเรียน แล้วมันก็ตามง้อผมต่อจนรถมาจอดที่โรงเรียน
วันนั้นเป็นวันฝนตกหนัก ตกทั้งวันตั้งแต่เช้า ทำให้กิจกรรมกลางแจ้งถูกยกเลิกทั้งหมด เพื่อนผมที่ดีอกดีใจได้ไม่นาน มาสเตอร์ “นุนิว” ก็ประกาศเรียกให้พวกเราไปรวมกันที่โรงยิม พอไปถึงมาสเตอร์ก็ปล่อยให้เล่นกันตามอัธยาศัย (เสมอต้นเสมอปลายจริงๆ ใครอยากรู้ประวัติแกเดี๋ยวไว้ผมค่อยเล่าให้ฟังวันหลัง) นี่แหละอาจารย์ดีเด่นที่นักเรียนต้องการ เรียนสนุก ลุกนั่งสบาย อาจารย์สอนตลก เด็กตกมากมาย 555+ มีอยู่หลายห้องเลยที่มีเรียนพละ พอมารวมกันก็คุยกันเสียงอื้ออึงตามประสานกกระจอกเข้ารัง แต่ล่ะห้องก็วิ่งเล่นกัน, จับกลุ่มตีป้อม ไต่แร้ง, ลงเรด, ตีแบดเล่นบาส ,ดูประการัง, ดูดิสนีย์ออนไอซ์, ปลูกป่า, นั่งสมาธิ, เยอะเนอะกูเนี่ย . คือมันวุ่นวายแบบตลาดสดเลย ผมที่อยากเล่นบาสก็เล่นไม่ได้ เลยไปนั่งแกร้วอยู่บนอัฒจันทร์ ดูความวุ่นวายภายในโรงยิมเพื่อคลายเครียด แต่กลับยิ่งเครียดหนักเมื่อเห็นไอ้เวรนั่นเดินชะเง้อไปมาเหมือนหาใครสักคน “แม่งเอ้ยวันนี้มันมีเรียนพละนี่หว่า” หวังว่ามันคงจะหาผมไม่เจอถ้าไอ้เพื่อนเวรบางคนของผมไม่เสร่อไปบอก ผมมองไปที่กลุ่มเพื่อนนั่งม้านั่งกันอยู่ 3 คนคือไอ้ดิว ไอ้ไททัน และไอ้ฟิว . “โคตรโชคดีเลยที่ฝนตก กุขี้เกียจอยู่พอดี มาๆไอ้ฟิว มาไต่แร้งกัน” “ไม่มีเสียงตอบรับจากหมายเลขที่ท่านเรียก” ไอ้ดิวที่กำลังแซวไอ้ไททัน “ไอ้เชี่ยฟิว มึงได้ยินกุไหมเนี่ย ฮัลโหลลล” แล้วไอ้ไททันก็เดินเข้าไปไอ้ฟิวที่กำลังดูมือถือแล้วใส่หูฟังไร้สายสีขาว ยี่ห้อผลไม้สีแดง ตัวใหม่ พอมันไปถึงตัวไอ้ไททันก็ร้องออกมา “เหยดด อย่างเด็ดอ่ะ กูดูด้วย ไอ้เจม มึงมาดูดิ” ชื่อแสลงก็ดังขึ้นให้ผมได้ยิน “เออ ก็เด็ดอยู่นะ” แล้วมันก็มองซ้าย มองขวา “ ว่าแต่ ไอ้จอห์นมันอยู่ไหนว่ะ” “โน่นไง นั่งเป็นพระเอก MV อกหักอยู่ตรงนั้นไง” มันชี้มาทางผมที่นั่งเก้าอี้สีฟ้าบนอัฒจันทร์ชั้นสอง “สัส กุแค่เบื่อๆไหมล่ะ ” “เรื่องของมึง กุดูต่อและ ซี้ด…เดี๋ยวมึงส่งลิงก์มาให้กูด้วยนะ เพื่อนรัก” “เออ…ไว้ดูพาทนี้จบก่อน” ไอฟิวพูดด้วยน้ำเสียงหงุดหงิด . ผมก็หยิบหูฟังสีดำขึ้นมาฟังเพลง แต่ไอ้ตัวดีก็เดินเข้ามานั่งข้างๆแล้ว . “มึงงง…” มันพูดด้วยเสียงสองเสียงสาม “อะไร” ผมตอบด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย “มึงยังโกรธกุอยู่เหรอ กุขอโทษ น้าาา ให้อภัยกูน้าาา” “เปล๊าา ไม่ได้โกรธ” ทำไมเวลาโกหกต้องต้องเสียงสูงวะ “โห..เสียงสูงขนาดนี้ กุไม่ได้ตังใจเทมึงจริงๆ ก็น้องมิลล์เขาบอกให้กูไปอ่ะ” “แล้วมึงจะมานัดกูเพื่อ…” ผมเริ่มมีน้ำโห “ก็กุนัดกับมึงก่อนไง แล้วน้องเขามาบอกกะทันหันอ่ะ” “อ้อ กุมันของตายใช่ไหมล่ะ เออ มึงจะไปไหนก็เรื่องของมึงเถอะ ไปหาน้องมิลล์ของมึงโน้น” ยิ่งพูดยิ่งทำให้มันดูแย่ ตกลงมึงโง่หรือโง่เนี่ย “ไม่เป็นแบบนี้สิ ที่รักคับ เค้าสำนึกผิดแล้ว” “เดี๋ยววันนี้ไปกินติมกัน เห็นที่รักบ่นอยากกินนี้ วันนี้เค้าเลี้ยงเอง” “เฮ้อออ” ผมถอนหายใจแล้วหันหน้าหนีมัน มันจับมือผมลูบไปมา “นะ นะ ไปกินไอติมกัน” แล้วมันก็ยิ้มทำตัวเป็นลูกแมว เอาหัวมาไถไหล่ผม “ไม่!!” ผมพูดเสียงดุ “ด้ายยย งั้นต้องง้อแบบนี้” “ฟอดดด” “เชี่ย จะหอมแก้มกุทำไมเนี่ย” “ก็มึงน่ารักอ่ะ แก้มก็นิ่ม มา..มา ขอหอมอีกสัก 2-3 ที” ไม่พูดเปล่ามันหอมเพิ่มอีก 2 ที ทำเอาผมใจอ่อนเลย (เรื่องหอมแก้มจูบกันเป็นเรื่องปกติในโรงเรียนชายล้วนนะครับ ไม่ใช่แฟนก็ทำแทนกันได้ ^^) “เออๆ มึงบอกแล้วนะว่าจะเลี้ยง” (จะเอาตูดให้หมดเลยเอ้ยให้หมดตูด) “ค้าบบ ว่าที่ประธานพูดคำไหนเป็นคำนั้น” “ได้ข่าวว่าเมื่อกี้เพิ่งเทไอ้จอห์นไปหาสาวไม่ใช่รึไงวะ” เสียงไอ้ดิวดังขึ้นมา แล้วหันมามองตาขวางใส่ไอ้เจม “จอห์น ไปกับกุ วันนี้มึงนัดกับกุแล้ว ว่าจะเลี้ยงชาบูกุ” แล้วจับมือขวาผมไว้ “เอ้า กุไปนัดมีงวันไหนอ่ะ กุจำไม่ได้” ผมนี่เอ๋อเลย “สัสเอ้ย แม่งโคตรมั่วเลย ที่รักกุบอกว่าไม่เคยนัดกะมึง ปล่อยมือที่รักของกุได้แล้ว” อยากจะแหมมมไปถึงดาวอังคาร “กุไปเป็นที่รักของมึงตอนไหนเนี่ย ตู่ชิบหาย” “สัส โดนด่าว่าเห้X ยังไม่เจ็บเท่านี้” ดิวรีบเสริม “มึงก็ไม่ต้องเสือXสักเรื่องดิวะ…ไอ้เชี่ยดิว!!” น้ำเสียงไอ้เจมเริ่มดุดัน…(ไปต่อกันเอาเอง) “พอ พอทั้งคู่นั่นแหละ” อะไรครับเนี่ย อยู่ๆก็รู้สึกมีคุณค่าขึ้นมา -*- “ได้..กุจะหยุด..จอห์น แต่มึงต้องไปกับกุ” “อ้าวไอ้สัส กุนัดก่อน มันก็ต้องไปกับกุสิ” . (เอ้าเพลงมา...อย่าเลยยย อย่าบอกให้ฉันเลือกเลยย….อยากเก็บเธอเอาไว้ทั้งสองโคนนน) เสียงเพลงนี้เข้ามาในหัวเลย หรือว่าเมื่อเช้าเก้าเท้าซ้ายออกมาจากบ้านวะ ทำไมมันวุ่นวายขนาดนี้ . “เหยดดดดด..พวกเราเกิดศึกชิงนางวะ ระหว่างรองประธานนักเรียนหน้าหล่อกับประธานชมรมบาสสุดเท่ มึงว่าแม่นางวันทองจะเลือกใคร” ไอ้เชี่ยน..ไททันตะโกนให้เพื่อนๆมามุงดู “วันทองพ่องงงสิ” “ตอนจบกุไม่ยอมโดนตัดหัวหรอก อย่างกุต้องเป็นฮ่องเต้มีสนมเป็นร้อยว้อยย” ข้างล่างได้เสียงเฮอากันตัดมาบรรยากาศข้างบนทั้งสองคนไม่ตลกไปกับมุขของผม โอเคๆตั้งสติ แล้วรีบแก้ไขปัญหานี้ไปก่อน ฮึบ “เอ่อ ดิว..มึงฟังกุนะ คือไอ้เจมมันชวนกุก่อนอ่ะ ส่วนเรื่องชาบูเอาไว้วันหลังนะ” ผมพูดกับมันด้วยน้ำเสียงจริงจัง (แต่ความจริงแค่ไม่อยากเลี้ยงชาบูมัน ถ้ามันบอกว่ามันจะเลี้ยงผมคงตัดสินใจอีกแบบนึง) . ฮั่นแน่ รู้นะท่านผู้อ่านมองว่าผมขี้งกอ่ะ คุณ..คิด..ถูกแล้ว ไอ้เชี่ยเจม ยิ้มร่าราวกับว่ามันเป็นผู้ชนะศึกเท็นไฟว์เท็น น่าตบมากไม่เหลือเค้ารองประธานนักเรียนสุดเนี้ยบ ยักคิ้วกวนไอ้ดิวไปอีก สงสัยอยากแดกตีน ตีนไก่เหรอ ตีนกูเนี่ยแหละ…แฮร่ 5 บาท 10 บาทก็เอาวะ โทษทีวันนี้ผมดีดไปหน่อย . “แต่..มึงบอกว่าจะเลี้ยง…วันเกิดกูไง” ผมพูดด้วยน้ำเสียงเศร้าๆ “ห่ะ วะ วันนี้..วันเกิด มึงเหรอ” เชี่ยเอ้ย ภาพความจำไม่อาจจะลบมันไป ยิ่งนานเท่าไรยิ่งจดจำ ช่วงต้นปีมันจัดงานเลี้ยงวันเกิดให้ผม ทั้งเค้ก ทั้งจองลานโบว์ลิ่ง คาราโอเกะ อือหือ น่าจะหมดเกือบแสนได้ ผมเลยจะขอตอบแทนมันด้วยการเลี้ยงชาบู (เอิ่ม ก็ค่าขนมเหลืออยู่แค่นี้ ไม่เลี้ยงลูกชิ้นมันก็บุญแค่ไหนแล้ว ) . ถ้ามันบอกว่าวันนี้เป็นวันเกิดมันตั้งแต่แรกผมคงไม่ต้องลำบากใจขนาดนี้ โอ้ยยย ผมหันไปมองหน้าไอ้เจมที่ยังคงยิ้มแก้มปริ . “เจม นัดของมึง เอาไว้พรุ่งนี้นะ กุขอโทษ…” ผมไหว้ขอโทษมันแล้วก็รีบหนีไปที่ห้องเปลี่ยนเสื้อผ้า ท่ามกลางเสียงแซวของไอ้พวกเวรข้างล่างที่ล้อผมอยู่ ยกนี้ประธานชมรมบาสนำไปก่อน 1 แต้ม ผมจับมือไอ้ดิวไปด้วยกลัวว่าเดี๋ยวแม่งจะเกิดศึกแย่งนางวันทองจริงๆ พอไปถึงห้องเปลี่ยนเสื้อ ไอ้ดิวที่กำลังงงๆว่าทำไมผมถึงเปลี่ยนใจ ก็ถามขึ้น “ทำไมมึง..ถึงยอม มากับกูล่ะ” “ทีวันเกิดกุมึงยังจัดให้กุซะใหญ่โตได้” แล้วผมก็พูดไปสะอึกไป “มึงรู้ไหมว่าไม่เคยมีใครจัดงานวัดเกิดให้กุเลย วันเกิดกุทุกปีพ่อแม่กุไม่เคยอยู่ อย่างมากก็แค่คอลมาสุขสันต์วันเกิดอ่ะ” ผมพูดไปก็รู้สึกแย่ไป . “ไม่เป็นไร กุอยู่นี่แล้ว กุจะอยู่อวยพรมึงทุกปีเลย แถมจะจัดงานให้ใหญ่กว่าเดิมอีก” “ถ้ามึงไม่เหลือใคร มองมาที่ตรงนี้ มึงยังมีกูอยู่เสมอนะ..จอห์น” มันพูดเสร็จก็กอดผม แล้วน้ำตาที่ผมพยายามกลั้นไว้ก็ไหลออกมา ผมปล่อยโฮออกมาใส่ไหล่ซ้ายอันอบอุ่นของมัน”“ฮึก..มึง..พูด…ฮึก..แล้ว..นะ สัญ..ญา..ได้ไหม” “ได้ กูสัญญา” แล้วมันก็ลูบหัวผมใหญ่ ยิ่งลูบก็ยิ่งร้องไห้ ไอ้เชี่ยดิวเอ้ย กุอายคนคนเค้า (แบบนี่สินะที่เค้าเรียกว่า “เซฟโซน”) . . ผมเงยหน้ามาก็เห็นใบหน้าอันหล่อเหลาแบบที่ไม่เคยรู้สึกว่ามันหล่อขนาดนี้มาก่อน หัวใจก็เต้น ตึกตักๆ ดังโครมครามจนแทบทะลุหน้าอกออกมา ดวงตาที่แสนอบอุ่น จมูกมันโด่งขนาดนี้เลยเหรอ ทำไมปากมันน่าจูบจังวะ แล้วสายตาของเราทั้งคู่ก็จ้องกันเหมือนกับต้องมนต์สะกด ใบหน้าของเราทั้งคู่ก็ค่อยๆเข้าหากันราวกับมีแม่เหล็กดูดอย่างช้าๆ ระยะห่างของลมหายใจเริ่มสั้นลง สั่นลง จนในที่สุด…..กล้องค่อยๆเลื่อนไปที่โคมไฟ… . . .
# `) a; a; g# j9 h
4 }( l- M0 b# w9 J8 kติดตามตอนอื่นๆได้ที่นี่ครับ
8 \% A7 P( b5 |
|