แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย thespace เมื่อ 2021-8-12 06:52
TW : ไม่อนุญาตให้ Copy ใดๆทั้งสิ้น *** เป็นเรื่องแต่งแนว เจ้านาย-ทาส มีเนื้อหาค่อนข้างโรคจิตรุนแรง (ฺBDSM) สนองกามและตัณหาล้วนๆ หากไม่ชอบแนวนี้ควรกดออก และรูปภาพไม่เกี่ยวกับเนื้อหา แค่นำมาประกอบเท่านั้น***
ตอนที่ 6
ถ้าพูดถึงมหาวิทยาลัยเราก็ต้องนึกถึงการเรียนเพื่อเอาใบปริญญาหรือใบเบิกทางของชีวิตในอีกขั้นหนึ่ง แต่สำหรับบางคน การเข้ามหาลัยก็เป็นการทำตามความฝันของตนเองเพื่อไปอยู่จุดสูงสุด นาย ธนพนธ์ หรือ เก้า ชายหนุ่มที่เกิดมาร่างกายอ่อนแอและตัวเล็กกว่าเด็กผู้ชายคนอื่นๆ เก้ามีความฝันที่อยากเป็นนักฟุตบอลมืออาชีพของประเทศ แต่สัดส่วนรูปร่าง รวมถึงฐานะครอบครัวไม่เอื้ออำนาจแก่ความฝันของเขาแม้แต่นิด สมัยที่ยังเด็กเก้ามักถูกเด็กรุ่นราวเดียวกันกลั่นแกล้งเสมอ ด้วยความที่เป็นเด็กที่ไม่สู้คนจึงโดนกระทำฝ่ายเดียวมาตลอด และได้ฉายา"ไอ้ตุ๊ด"เรื่อยมา เก้ารู้ตัวดีว่าตนเป็นผู้ชายทั้งแท่ง แต่ก็ยังไม่วายถูกล้อเรื่อยๆจนอยู่มัธยมต้น
เก้าฉายแววเรื่องกีฬามาตั้งแต่ไหนแต่ไร สกิลการเตะฟุตบอลของเขาถือว่าเป็นที่หนึ่งของชั้นเรียน แต่ก็ใช่ว่าเก้าจะมีเพื่อนผู้ชายเยอะเหมือนคนอื่นๆ เขากลับถูกกลุ่มเด็กผู้ชายในห้องลุมเกลียดเสียมากกว่า เมื่อไม่มีเพื่อนก็ไม่มีทีม เก้าไม่มีโอกาศได้เล่นบอลหรือซ้อมบอลนักเพราะตัวคนเดียว หากแต่เขาไม่เคยยอมแพ้ พัฒนาตัวเองเรื่อยมา ช่วงมัธยมปลาย เก้าออกกำลังกายอย่างนักฟิตหุ่นทุกวี่ทุกวันเพื่อเตรียมร่างกายกับโควต้าความสามารถด้านกีฬาของมหาลัยแห่งหนึ่ง เก้าก็ไม่ใช่คนหัวดีมากนัก จึงพยายามเอาดีเอาเด่นในเรื่องฟุตบอลให้ได้มากที่สุด
ภายในไม่กี่ปี เก้าได้กลายเป็นคนใหม่ ร่างกายกำยำมีทั้งกล้ามและซิกแพคไม่น้อยหน้าคนอื่นๆ แถมแต่เดิมเก้าก็มีใบหน้าที่หล่อเหลาอยู่แล้ว ทำให้เขากลายเป็นชายหนุ่มสุดฮอตในรั้วโรงเรียนตอนขึ้นชั้นม.6พอดิบพอดี เหมือนชีวิตของเก้าจะดีขึ้นแต่สวรรค์ก็เล่นตลก
เก้าได้คบหากับผู้หญิงคนหนึ่งที่ชื่อว่าเฟิร์น ทั้งสองเข้ากันดีราวกิ่งทองใบหยก แต่ว่าเก้าสะเพร่าไม่ยอมใส่ถุงยางตอนขึ้นเตียงกับเฟิร์น ทำให้เธอตั้งท้องขึ้น ชีวิตของเก้าดิ่งลงอีกครั้งเพราะก้อนเนื้อในท้องของแฟนสาว แต่เขายอมรับผิดและจะรับผิดชอบทั้งชีวิตเมียและลูกด้วยตัวเอง แต่ฝั่งพ่อแม่ของเฟิร์นต้องการแค่เงินและอยากตัดขาดกับเขาทันที
หลังจบม.6 เก้าได้เข้ามหาลัยคณะศึกษาศาสตร์โควต้านักกีฬาอย่างที่ฝัน เขาเป้าหมายคือเรียนให้จบและเป็นนักบอลอย่างที่ฝัน ที่เขาเลือกเรียนมหาลัยเพราะอย่างน้อยจบมาสามารถเป็นครูพละได้ ส่วนแฟนสาวได้คลอดลูกชายตัวน้อยออกมาแล้ว แต่เขาไม่มีทางติดต่อกับเธอได้เลยเพราะถูกฝ่ายพ่อแม่แฟนตัดขาดไปแล้ว แต่เธอก็ยังหาทางส่งรูปมาให้เก้าดูเรื่อยมา…
เก้าถูกดึงตัวเข้าชมรมฟุตบอลของมหาลัยโดยอัตโนมัติ หลังเลิกคลาสทุกวันเขาจะต้องไปที่ห้องชมรมที่อยู่ใกล้กับสนามกีฬาของมหาลัย และวันนี้คือวันแรกที่เขาเปิดประตูเข้าไปในห้องชมรม "เอ่อ...สะ...สวัสดีครับ ผมเก้า ปี1" เด็กใหม่อย่างเก้าค่อนข้างประหม่าอย่างมาก เมื่อในห้องมีผู้ชายเป็นสิบๆคน ทุกคนล้วนหันมาจ้องที่เขาเป็นตาเดียว แม้เก้าจะเป็นผู้ชายแท้ๆยังรู้สึกเสียวสันหลังกับสายตาแต่ะคน "มาสักที เข้ามานั่งได้แล้ว จะได้เริ่มกันสักที" ชายคนหนึ่งกล่าวขึ้น จากนั้นทั้งห้องก็นั่งหันหน้าไปหาชายที่ว่า "ผมชื่อตั้ม เป็นอาจารย์และโค้ชของพวกคุณ เจอกันในม.เรียกผมว่าอาจารย์ แต่ในห้องชมรมนี้เรียกผมว่าโค้ชตั้ม" "ครับ" โค้ชตั้มเป็นทั้งศิษย์เก่าของมหาลัยและเป็นอดีตนักฟุตบอลระดับจังหวัด แต่เขาได้รับบาดเจ็บที่เข่าทำให้ย้ายตัวเองมาเป็นอาจารย์แทน แต่โค้ชตั้มก็ยังคงฝึกซ้อมฟุตบอลอยู่เรื่อยๆหวังสักวันจะสามารถวิ่งในสนามได้อีก ด้วยที่ยังหนุ่มยังแน่น รูปร่างระดับนายแบบ จึงมีหลายสโมสรจ้องจะดึงตัวไปเหมือนกัน "พวกปีสูงๆคงรู้กฏกันหมดแล้ว สำหรับพวกปีหนึ่ง ห้ามมาสายเด็ดขาดไม่งั้นผมจะย้ายคุณไปชมรมอื่น ห้ามกลับก่อนผมอนุญาต งดแอลกอฮอล์และห้ามพาเมียมาที่สนามหรือห้องชมรม เข้าใจไหม?" "ครับ" เด็กใหม่ในชมรมรับปากหนึ่งในนั้นคือเก้า เท่าที่เขามองดู มีปี1อยู่ไม่กี่คน ส่วนมากเป็นรุ่นพี่ปี2ขึ้นไปทั้งนั้น "วันนี้เราจะไปซ้อมที่สนามบอล...แต่ก่อนอื่นปี1ยกมือขึ้น" โค้ชตั้มกล่าว ทำให้เก้าและปี1คนอื่นๆยกมือ ทำให้เห็นว่ามีแค่3คนเท่านั้น "สองคนไปเติมน้ำใส่คูลเลอร์และยกไปที่สนามด้วย...อีกคนเตรียมผ้าขนหนูให้คนในทีม...แยกย้ายเปลี่ยนชุดแล้วไปสนามได้" เมื่อโค้ชตั้มกล่าวเสร็จทุกคนก็ลุกขึ้นไปเปลี่ยนชุดกันอย่างรวดเร็ว ด้านในมีห้องล็อกเกอร์ขนาดใหญ่เหมือนในหนังสำหรับเปลี่ยนชุด ต่างคนต่างถอดชุดนักศึกษาออกโดยไม่อายและสวมชุดบอลเหมือนเป็นเรื่องปกติ เก้าเหลือบเห็นเป้าแต่ละคนทั้งอูมทั้งใหญ่ โดยเฉพาะชายคนหนึ่งที่มีรอยสักที่แขน "มองไรวะ?" "เปล่าครับ" เก้ากะอักกะอ่วนตอบ "รีบๆเปลี่ยนชุดดิวะโค้ชไม่ชอบคนช้านะมึง...อย่างบอกนะว่ามึงอาย?...มีแต่ตุ๊ดเท่านั้นแหละที่อาย หรือมึงเป็น?" "เปล่าพี่ ผมแต่ยังไม่ชิน" "เหอะ! กูมาวันแรกก็โชว์ควยให้คนอื่นดูแล้ว มึงแม่งกระจอกชิบหาย" ชายหนุ่มส่ายหน้าเยาะเย้ยเก้าก่อนจะเดินออกไป ทำให้เก้าค่อนข้างหัวเสียอย่างมาก แค่โดนโค้ชสั่งให้เป็นเบ๊ก็น่าโมโหแล้ว ไม่เข้าใจว่าแค่ชมรมจะต้องจริงจังอะไรขนาดนั้น...
สรุปเก้าได้รับหน้าที่เตรียมผ้าขนหนูสำหรับเช็ดหน้าให้คนอื่น เพราะปี1อีกสองคนไปยกน้ำแล้ว หลังเขาเปลี่ยนชุดเสร็จก็ตรงไปยังสนามทันที แดดไม่แรงมากเพราะเลยช่วงบ่ายมาแล้ว แต่อากาศร้อนทำให้เหงื่อซกตั้งแต่ยังไม่เริ่มซ้อม ถ้าเสื้อที่ใส่ไม่ใช้ผ้าสำหรับเล่นกีฬา ตอนนี้คงรักแร้เปืยกหลังเปืยกเป็นวงไปแล้ว ไม่ทันจะได้ทำความรู้จักกับคนอื่นๆ โค้ชตั้มก็สั่งให้วิ่งรอบสนามคนละ5รอบเป็นการวอร์ม สนามของมหาลัยก็ไม่ใช่เล็กๆ กว่าจะวิ่งเสร็จก็เล่นเอาเหนื่อยพอควร โชคดีที่เก้าฟิตหุ่นมาดีจึงเหลือแรงพอให้ใช้กำลังต่อ แต่พอเก้าได้ขยับตัวนิดเดียวก็ถูกสั่งให้ไปทำนู้นทำนี่ตลอดเวลา โดยเฉพาะรุ่นพี่ที่มีรอยสักที่แขนคนนั้นมักใช่งานเขาตลอด "ไอ้เด็กใหม่ ไปกดน้ำมาให้กูหน่อยดิ๊" ชายที่รอยสักชื่อ ขุน อยู่ปี4เป็นคนที่อยู่ชมรมมานานที่สุดในตอนนี้ แน่นอนว่าสกิลการเล่นบอลของเข้าเข้าตาผู้ใหญ่หลายคนมากๆ อนาคตทีมชาติอย่างแน่นอน นิสัยของขุนเรียกว่าดิบเถื่อนที่สุด เพราะเป็นคนแมนๆกล้าๆ จึงไม่มีใครกล้ายุ่งกับเขา แถมยังชอบใช่งานพวกรุ่นน้องในคณะและชมรมอีกต่างหาก มีหลายคนในชมรมที่ต้องลาออกไปเพราะทนนิสัยขุนไม่ได้ "ไม่ทันไรก็หาเบ๊แล้วเหรอวะไอ้ขุน" หลังเก้าเดินออกไป เพื่อนคนหนึ่งก็ที่ชื่อหมอกก็เดินเข้ามาคุย "เออ กูว่าไอ้นี่แม่งใช้งานง่ายวะ ดูติ๋มๆไม่สู้คน กูได้ทาสรับใช้ใหม่แล้ว" "เดี๋ยวแม่งก็ย้ายชมรมอีกหรอก" "กูว่าไม่ กูแอบอ่านประวัติมันมาแล้ว ความฝันมันคือนักบอล อยู่เป็นทาสกูยาวแน่ๆ" "น้ำครับ" ระหว่างที่ทั้งสองคุยกันเก้าก็เดินมาพอดี "เออ...แล้วก็ไปเอาผ้าเช็ดหน้ามาให้กูกับเพื่อนกูด้วย" "..." เก้าทำสีหน้าไม่พอใจแต่ก็ต้องยอมทำตามคำสั่ง เขาไม่อยากมีปัญหากับที่นี่ เก้าได้กลับได้ซ้อมกับคนอื่นๆอีกครั้ง ระหว่างนั้นขุนกับเพื่อนก็พากันกวนประสาทเขาอยู่ตลอด เช่นอยู่ดีๆก็เข้ามากอดคอแน่นทำเก้าเสียสมาธิไปหมด การเล่นแบบถึงเนื้อถึงตัวเก้าไม่ได้สนใจนัก แต่สำหรับชมรมนี่เขารู้สึกรังเกียจขึ้นมาเสียอย่างงั้น ขุนทั้งจับเอว จับก้นเขาตลอดเวลา ชอบมายืนใกล้ๆจนได้กลิ่นเหงื่อแสนอับ เขาโวยวายไม่ได้เพราะโค้ชตั้มจับตามองอยู่
เมื่อถึงช่วงพลบค่ำโค้ชตั้มก็สั่งให้ทุกคนกลับได้ แต่บอกว่าพรุ่งนี้จะเลิกดึกกว่านี้ให้เตรียมตัวเอาไว้ ปอนด์ที่รับหน้าที่เรื่องผ้าเช็ดหน้าคนในชมรม โค้ชตั้มสั่งให้เขาเก็บเอาไปซักและตากก่อนกลับ พวกรุ่นพี่ต่างโยนผ้าเช็ดชุ่มเหงื่อใส่เก้าที่นั่งอยู่ กลิ่นมันตีกันตลบอบอวนจนอยากอาเจียน ตอนนี้คนในชมรมกลับกันไปเยอะแล้ว เหลือไม่กี่คน ในขณะที่เก้าซักผ้าอยู่นั้นก็มีคนเดินเข้ามายืนด้านหลัง "ไงเด็กใหม่? เป็นคนใช้สนุกไหมวันนี้?" ขุนยักคิ้วกวนประสานเก้า "..." เก้าไม่ได้ตอบโต้อะไร แค่อยากรีบๆกลับหอสักที "กูพูดกับมึงอยู่นะ หูหนวกรึไง" ขุนตกแขนขึ้นมากอดคอเก้าอย่างที่ชอบทำ ก่อนที่เขาจะเอาผ้าชุ่มเหงื่อของตัวเองอุดจมูกของเก้า "อือ!...เอ้ย!" เก้าพยายามขัดขืนแต่สู้แรงขุนไม่ได้สักนิด "กูพึ่งเช็ดซอกไข่กับรักแร้มา กลิ่นโคตรหอม กูรู้มึงชอบ!" "ปล่อย...ดิวะ!" เก้าสลัดมือของขุนออกไปสำเร็จ ผ้าผืนนั้นจึงลอยตกพื้นไป "มึงสู้กูอ๋อ? หืม? ไอ้ขี้ข้า!" ขุนตบหัวเก้าไปหนึ่งที ก่อนจะพยายามรัดคอเก้าด้วยกล้ามแขนของตนทำให้เก้าไม่สามารถขยับได้เลย "พี่ปล่อยผมเหอะ จะกวนผมเพื่อ!?" "ก็มึงเป็นทาสรับใช้กู! กูจะทำยังไงกับมึงก็ได้" "ทาสบ้าไรวะ!...อือ!" เก้าถูกกดหน้าเข้าไปชิดกับรักแร้อัดดกดำของรุ่นพี่เอาแต่ใจ จมูกของเก้าสัมผัสกับรักแร้ใต้ร่มผ้าที่เปืยกชุ่ม กลิ่นอับและกลิ่นฉุนทำเอาเก้าดิ้นพล่านด้วยความรังเกียจ มีหยดน้ำส่วนหนึ่งที่ไหลมาแตะริมฝีปากเขาจนรับรู้ถึงรสชาติเค็มๆนิดๆ "มึงรู้ไหมมีแต่พวกตุ๊ดกะเทยอยากดมกลิ่นตัวกู เคยมีคนในชมรมแอบดมผ้าเช็ดเหงื่อของกูหลังซ้อม โดนกูแตะตูดร้องไห้เลยสัส โคตรฮา!" "อือออ!" ขุนใช้มือกุมที่เป้ากางเกงของเก้า ซึ่งมันมีความแข็งเล็กน้อยจากแรงเสียดสี แต่ขุนก็โมเมไปว่าเก้ามีอารมณ์ขึ้นมา นั้นยิ่งทำให้เขารู้สึกสะใจมากขึ้นอีก "ควยมึงแข็งวะ ดมรักแร้กูแล้วเงี่ยนเลยเหรอวะ" "ปล่อย!" ขุนสลัดตัวออกมาจนล้มลงกับพื้น "สรุปเป็นตุ๊ดอ๋อวะ?" "ตุ๊ดบ้านพี่ดิ! เล่นอะไรก็ไม่รู้ เหม็นชิบหาย" เก้าใช้มือเช็ดใบหน้าตัวเองลวกๆ เมื่อกี้ได้กลิ่นบุหรี่มาจากตัวของขุนนิดๆ สงสัยอีกฝ่ายจะสูบก่อนเข้าห้องชมรม "กูรู้มึงชอบ ควยมึงถึงแข็ง" "ก็พี่จับมันก็แข็งดิวะ" "อ้าวสรุปชอบให้กูจับเหรอวะ?" "ผมไม่ได้หมายความแบบนั้น" "กูได้ข่าวว่ามึงอยากเป็นนักบอล สารรูปแบบมึงคงยากวะ เป็นกระหรี่ขายตัวเหมาะกว่ากูว่า" "พี่ยุ่งไรด้วยวะ? อย่าเสือกได้ป่ะ" "มึงกล้าพูดเสือกกับกู? อยากหาชมรมใหม่ไหมไอ้สัส! กูทำให้มึงเด้งได้ตั้งแต่ตอนนี้เลย" ขุนก้มลงไปกระชากคอเสื้อของเก้าด้วยมือข้างเดียว ทำให้เก้าไม่กล้าเอ่ยปากพูดสักคำเพราะการได้มาอยู่ในมหาลัยนี้ชมรมนี้เป็นใบเบิกตาอีกอย่างของเขาเลยก็ว่าได้ แค่คิดว่าทนๆไปอีก1ปีเดี๋ยวขุนก็เรียนจบไม่เจอหน้าแล้ว "เงียบ?" "ขะ...ขอโทษ" เพียะ!! ขุนตบหน้าเก้าไปหนึ่งที "พูดดังๆ มีหางเสียง!" "ขอโทษครับ!" "เหอะ! ทาสก็ยังเป็นทาสอยู่วันยังค่ำ" ขุนยอมปล่อยคอเสื้อของเก้าให้เป็นอิสระ เก้าจึงลุกขึ้นไปซักผ้าต่อให้เสร็จ แต่อยู่ๆถุงเท้าคู่หนึ่งก็ถูกโยนมาใส่มือของเขา "ซักถุงเท้าให้กูด้วย" "เฮ้ย! ของพี่ พี่ก็ซักเองดิ" "เป็นแค่คนใช้ก็หุบปาก…แล้วทำตายที่สั่งก็พอ ไม่รู้สถานะตัวเองรึไง?" ขุนกระซากคอเสื้อของเก้าจากด้านหลังอีกรอบ ทำให้เก้าเงียบปากและซักถุงเท้าเหม็นๆของรุ่นพี่ด้วยความหงุดหงิด เมื่อเสร็จเก้าจึงเดินออกมาจากห้องน้ำเพื่อนำผ้าไปตากบนราวในห้องชมรม เขามองรอบๆพบว่าคนอื่นไม่อยู่แล้ว เหลือแค่เขากับรุ่นพี่โสโครกคนนี้เท่านั้น ขุนเดินมายืนข้างๆขยับคอเสื้อพัดไล่ความร้อนและดูเก้าตากผ้าไปด้วย เขาตั้งใจจะกวนประสานรุ่นน้องคนนี้หนักๆจะได้ไม่กล้าต่อปากต่อคำกับเขาอีก และดูเหมือนอ้างเรื่องชมรมขึ้นมามันจะได้ผล เพราะเก้าค่อนข้างเห็นความสำคัญในการอยู่ชมรมนี้มาก "กูชื่อขุน จำไว้ด้วย" "อือ" "พูดกับคุยต้องใช้คำว่าครับ" "ครับ!" "ห้ามตะโกน" "ครับ" "กลิ่นเหงื่อมึงโคตรเหม็นสาปเลยว่ะ อาบน้ำครั้งล่าสุดเมื่อไหร่วะ?" ขุนใช้จมูกฟุดฟิดที่เสื้อบอลของเก้า "พี่จะดมเพื่อ? ก็ผมพึ่งซ้อมเสร็จเหมือนพี่อะ กลิ่นตัวพี่หอมตายแหละ" "เหม็นไม่เหม็นไม่รู้ แต่มึงดมแล้วแข็งไม่ใช่รึไง" "เลิกพูดเรื่องนี้สักที จะอ้วก" เก้าพูดตัดบท อะไรคือการที่ผู้ชายสองคนคุยเรื่องควยแข็งกับกลิ่นตัวของกันและกันในห้องชมรม อย่างกับโรคจิตทั้งคู่ ขุนหัวเราะเยาะรุ่นน้องคนนี้เบาๆก่อนจะเดินไปที่ล็อกเกอร์เพื่อเปลี่ยนชุดกลับ เขาถอดเสื้อบอลสีแดงออกจนเผยกล้ามเนื้อและซิกแพครอนงาม มีไรขนที่ใต้สะดือลงไปที่หัวเหน่า หน้าตรึงแน่นเหมือนเคยเล่นกล้ามมาก่อน รวมทั้งรอยสักที่แขนช่วยเพิ่มความเซ็กซี่และน่าหลงใหลแก่เพศตรงข้ามเอามากๆ ภาพตรงหน้าอยู่ในสายตาของเก้าจนหมด ชายหนุ่มรุ่นน้องไม่รู้ตัวเลยว่าตนเองกำลังจ้องหุ่นของรุ่นพี่ตาไม่กะพริบ ทุกอย่างมันช่างดูดีและดึงดูดให้จ้องมอง ขนาดเป็นผู้ชายเหมือนกันเก้ายังรู้สึกอิฉจาหุ่นแบบนั้น "มองอะไรไอ้ทาส ชอบหุ่นกูอ๋อ?" "ปะ…เปล่า" "ก็กูเห็นอยู่ว่ามึงจ้องกู อยากเห็นกูถอดกางเกงว่างั้น?" "คะ…โคตรมั่ว" "อะดูให้เต็มตา" ขุนยิ้มเจ้าเล่ห์ใช้มือลูบเป้ากางเกงบอลโชว์ ท่อนเอ็นที่อ่อนตัวเริ่มแข็งทะลุออกมานอกกางเกงจนเก้าตาโต "กูอะฉายาขุน9นิ้ว รู้เปล่า?" "…" เก้ากลืนน้ำลายไม่รู้ตัว แม้อีกฝ่ายจะไม่บอก แต่เขาก็พอจะเดารูปร่างและขนาดของดุ้นอันนั้นออก เพราะมันแข็งโด่ออกมมจนกางเกงบอลแทบปริ การที่ขุนใช้มือกำรอบวง ทำให้เขารู้ว่ามันทั้งใหญ่และยาวสมฉายา9นิ้วจริงๆ "อยากจับไหมไอ้ทาส" "พี่จะบ้าเหรอ! ใครจะอยากจับหำพี่วะ!" "กูไม่บอกใครหรอก กูให้โอกาสมึงแล้วนะ ให้จับฟรีๆเลย มามะน้องเก้า" "แม่ง!" เก้าสถบในใจ ไม่เข้าใจตัวเองว่าทำไมเขาถึงต้องจ้องดุ้นอันไม่ละสายตาไปไหน เขาสับสนและห้ามตัวเองไม่ได้ที่จะเดินเข้าไปหาเป้าของรุ่นพี่อย่างจำนน "ยื่นมือมาจับเลยอีตุ๊ด กูจะเก็บความลับอย่างดี จับเลยสัส" "…" เก้าหลงคมรมของขุนหัวปักหัวปำ ยื่นมือไปสัมผัสลำควยยาวใหญ่นอกกางเกงบอลผ้าลื่นทันที เก้ารับรู้ถึงท่อนเนื้อที่แข็งและร้อนอุ่น ส่วนขุนก็กระดกควยเบาๆต้อนรับมือของรุ่นน้อง "ของกูใหญ่ไหม" "ยะ…ใหญ่ โคตรใหญ่เลย" "ชอบไหมอีตุ๊ด มึงวาสนาโคตรดีที่ได้จับควยกู…แต่แค่จับคงน่าเสียดายแย่" "…" "…ลองดมดูดิ" "หะ?…พะ…พี่บ้ารึเปล่า ผมไม่ใช่ตุ๊ดนะ" "เอาน่าาาา ลองดูไม่เสียหาย กูไม่บอกใครหรอก" "พี่แม่งโคตรโรคจิต!" "กูให้โอกาสมึงครั้งสุดท้าย จะดมควยกูหรือไม่ดม?" "…" เก้าเริ่มขมวดคิ้วสับสนตัวเองอีกครั้ง ทั้งๆที่เขาเคยมีอะไรกับผู้หญิงจนมีลูกด้วยกันแล้ว ยังหัวใจเต้นกับสิ่งที่รุ่นพี่คนนี้พูดได้ยังไง? แต่ว่ากลิ่นตัวของขุนก็ใช่ว่าจะเหม็นทุเรศขนาดนั้น ถึงมันจะแปลก แต่ก็ไม่ได้แย่อะไร เขาเริ่มอยากรู้แล้วว่ากลิ่นที่เป้ากางเกงของขุนจะขนาดไหน บางทีมันอาจจะหอม…ก็เป็นได้ "หึ! ปากบอกไม่ใช่ตุ๊ดแต่คุกเข่าตรงหน้ากูคืออะไรวะ?" "…" เก้าเหมือนสติไม่ได้อยู่กับตัว ไม่ได้ยินเสียงที่ขุนพูดแม้แต่นิด เขาคุกเข่าระหว่างขาของชายหนุ่มรุ่นพี่ ก่อนจะค่อยๆยื่นใบหน้าเข้าไปแตะจมูกบนท่อนเอ็นที่แข็งรออยู่ สูดกลิ่นความเป็นชายเข้าเต็มปอด มันทั้งเหม็นและฉุนกว่ารักแร้ของขุนอย่างมาก เก้าไม่สามารถอธิบายออกมาเป็นคำพูดได้แต่เขากลับรู้สึกดีกับฟีโรโมนของเพศเดียวกันเสียอย่างงั้น เก้าไม่รู้ตัวเลยว่าจู๋ของตัวเองเริมแข็งขึ้นมาเล็กน้อย ในขณะที่จมูกยังคอยสูดดมกลิ่นควยของรุ่นพี่อย่างห้ามตัวเองไม่ได้ "เป็นไงบ้างวะ ไอ้ทาส" "อืมมม…โคตรฉุน…ได้กลิ่นฉี่กับกลิ่นบุหรี่ด้วย" "ชอบไหมวะ?" "…" เก้าไม่ได้ตอบออกมา แต่ที่เขายังไม่ยอมถอยออกไปจากเป้ากางเกงของขุนคงเป็นคำตอบได้ แฉะ!!! เสียงชัดเตอร์บนหัวทำให้เก้ารีบถอยออกมาอย่างรวดเร็ว พร้อมเสียงหัวเราะของรุ่นพี่อย่างขุน "ฮ่าๆๆ มึงแม่งกระหรี่ดีๆนี้เอง กูถ่ายตอนมึงดมควยกูไว้เรียบร้อยแล้ว" "อะ…อะไรวะ! พี่ทำแบบนี้ทำไม" "ทำไมกูจะทำไม่ได้? กูจะส่งรูปนี้ไปให้คนทั้งชมรมยังได้" "ยะ…อย่านะพี่ ผมขอร้อง" "ถ้างั้นมึงก็ต้องยอมเป็นทาสกู และเรียกกูว่าเจ้านายทุกครั้ง" "ตะ…แต่คนอื่น…" "คิดดีๆนะอีตุ๊ด แล้วเจอกันพรุ่งนี้…ถ้าทำตัวด้ กูอาจจะให้ดมควยกูอีก" "…" เก้าหัวใจเต้นแรงอีกครั้งเมื่อขุนพูดประโยคนั้นออกมา เขามองขุนเดินออกไปจากห้องชมรมด้วยความสับสนที่สุดในชีวิต เมื่อครู่เขาทำอะไรลงไป…เหมือนเป็นการตัดสินใจที่ผิดพลาดที่สุดเลยก็ว่าได้ ไม่นานเก้าก็เสร็จธุระและกลับหอตนเอง โดยเขาไม่รู้เลยว่ามีชายคนหนึ่งแอบอยู่ในห้องชมรม ได้ยินและเห็นสิ่งที่เขาทำกับขุนทั้งหมด…
---โปรดติดตามตอนต่อไป -- เกริ่นเยอะอยู่เพราะเริ่มเนื้อเรื่องใหม่ 5555555 ส่วนนายปอนด์พักไว้ก่อนคิดไม่ออก มาน้ำแตกกับเรื่องของนายเก้ากันนะ
|