เรื่องของเบนซ์ ตอนที่ 23
เรื่องของเบนซ์ตอนที่ 23“ไอ้โต้ บอลมา”“เฮ้ยบอล ไอ้เพื่อนยากแกจริงๆหรอนี่” เสียงโต้ร้องพร้อมรีบวิ่งมาหาผม“เป็นไงมั่งโต้ สบายดีมั้ย”ผมก็ดีใจที่เจอเพื่อนผมเริ่มมองดูความต่างว่าเพื่อนกับความรักมันเป็นสิ่งที่ต้องคู่ตามกันไป “นายไม่ยอมติดต่อมาเลยว่ะ”โต้ตำหนิผม อาจจะจริงของโต้ ผมก็ไม่ได้ติดต่อโต้จริงๆตั้งแต่เดินทางไปบ้านปู่
“เราขอโทษว่ะ มันไม่ค่อยมีเวลา”
“เออเวลาแกไม่มีให้เพื่อนหรอกมีแต่ให้ไอ้เบนซ์นั่นแหละลองไอ้เบนซ์ไม่เป็นไรดิแกก็คงไม่กลับมาหรอก”ผมพูดไม่ออกมันเลย มันก็จริงของโต้ถ้าเบนซ์ไม่เป็นอย่างนี้ผมก็คงไม่ได้มา
“จริงของนายเรายอมรับ”ผมตอบโต้ไปตรง ๆ
“บอล” ผมมองหน้าโต้แล้วผมก็พยักหน้ารับคำเรียก
“เราเสียใจด้วยนะเรื่องเบนซ์แต่โชคยังดีนะเบนซ์ไม่เป็นไรหายจนได้”
“โต้เบนซ์เขาไปมีอุบัติเหตุที่ไหน”
“อ้าว นายไม่รู้หรือ”
“ไม่เรายังไม่กล้าถามเลยนายบอกเราหน่อยดิ”
“มันเสียใจเรื่องนายนั่นแหละมันขับรถเร็วมากเลยนะตั้งแต่บอลไม่อยู่พวกเราเตือนมันแต่เบนซ์มันบอกมันอยากตายสุดท้ายมันก็ไปแหกโค้งที่เดิมแหละ”
“ทำไมถึงอยากตายล่ะโต้”
“ความรักไม่สมหวังเบนซ์คิดสั้นมันคิดว่าความรักมันไม่สมหวัง”
“ขนาดนั้นเชียว”
“คงไม่ต้องบอกนะว่าเบนซ์รักใคร”ผมก็เดาว่าเบนซ์รักผมนั่นแหละ เพราะเรื่องความรักระหว่างผมกับเบนซ์รู้เพียงโต้เท่านั้นส่วนเพื่อนคนอื่นไม่รู้จะมีเพียงแค่สงสัยเพราะผมกับเบนซ์ไม่เคยแสดงออกให้ใครรู้ว่ารักกันมีแต่แบบเพื่อน ๆ มากกว่า “ไปเข้าแถวก่อนวันนี้เป็นวันแรกของนายนะ”ผมก็เดินไปกับโต้เพื่อเข้าแถวเคารพธงชาติพวกพี่ๆน้องๆที่เคยทำกิจกรรมร่วมกันต่างมองดูผมผมรู้สึกเขินมากเพราะมันผิดปกติ“อายจังโต้เขามองเราจังว่ะ”
“ก็นายมันหล่อนี่ เขาก็มองดิ” ไม่ใช่มั้งผมคิดในใจเขาต้องสงสัยแน่ ๆ เลยว่าผมเป็นเกย์กลับมาก็เพราะเรื่องเบนซ์ผมไม่อายเขาหรอกแต่ผมเกรงใจที่เขาตั้งตามองขนาดนั้นเมื่อเคารพธงชาติเป็นที่เรียบร้อยแล้วก็เดินไปเข้าห้องเรียน เพื่อนรุ่นน้องหลายคนก็เดินตามผมมาถามผม
“พี่บอล ผมดีใจจังพี่กลับมาที่นี่อีก” เสียงที่ถามผมเป็นเสียงห้าวๆผมไม่คุ้นเสียงนี่เลยผมรีบหันหลังไปมองตามเสียงที่ถาม
“อ้าวน้องรู้จักพี่ด้วยเหรอครับ” ผมไม่ค่อยคุ้นหน้าเด็กคนนี้เลย
“รู้จักสิครับพี่บอลขวัญใจของพวกผมเลยนะ” เด็กอีกคนก็ตอบ
“พี่จำผมไม่ได้เหรอครับ” ผมรีบมองหน้าเขาที่เขาย้อนถามผมอีกครั้ง
“เอ้ เคยเจอที่ไหนนะ” ผมสงสัยมากแต่เด็กคนนี้เขาก็ยิ้มขำๆ ยิ่งทำให้ผมสงสัย ทำหน้าน่ารักมากดูเขาไร้เดียงสามากครับ
“พี่ครับ ผมเคยไปซื้อของก่ะพี่ที่ตลาดนัดไงครับ” ผมก็จำได้ทันทีเลยครับ เด็กคนที่ไปซื้อกางเกงใน
“พี่จำนายได้แล้วที่ไปซื้อกางเกงใช่ไหมครับ”ผมยิ้มให้เขา
“ใช่พี่ผมนึกว่าผมจะไม่เจอพี่แล้วนะ”เขายิ้มหวานใส่ผมแต่ก็งงนิดหน่อยกับคำว่าผมว่าจะไม่เจอพี่แล้วนะ
“เกือบจำไม่ได้แล้วนะตัวใหญ่ตัวสูงกว่าเดิมอีก”อีกอย่างก็หล่อกว่าเดิมด้วย
“พี่ครับตอนพักเที่ยงผมขอทานข้าวด้วยคนได้ไหมครับ” เพื่อนๆ เขาสองสามคนก็พูดเหมือนเขา
“ไว้คราวหลังนะครับวันนี้พี่ไม่ว่างเลยครับไว้มีโอกาสพี่จะมาร่วมทานข้าวกับน้อง ๆ นะครับ”
แล้วผมก็ต้องเดินตามหลังโต้เข้าห้องเรียนไป ปีนี้ผมอยู่ม.5 แล้วผมมองไปเห็นเก้าอี้ว่างอยู่ตัวหนึ่งผมก็ถามโต้“นั่นของเบนซ์ใช่ไหม”
“เออ ขอร้องแกอย่าเศร้าได้มะเดี๋ยวเบนซ์มันก็หายน่า”ผมก็พอทำใจได้บ้าง
“โต้เด็กสองสามคนนั่นใครวะ”ผมยังไม่รู้จักชื่อพวกเขา
“คนที่ถามนายน่ะไอ้เดย์เด็กมาใหม่พึ่งย้ายมาตอนเปิดเทอม
อยู่ม.2 ส่วนไอ้สามตัวนั่นก็แฟนบอลนายนั่นแหละไอ้โจ้เจดุมสามสหายนี่มันไปดูนายเตะบอลตลอด จำไม่ได้เหรอ”
“เราไม่เห็นจำได้เลยแต่เดย์เราจำได้เพราะเดย์เคยไปซื้อของที่ร้านเบนซ์เมื่อปีก่อน”ผมพูดตามความจริง
“อ๋อก็ตอนนั้นเด็กพวกนี้เขายังเด็กอยู่แต่ตอนนี้มันโตแล้วแม่งโคตรโตเร็ว ดูดิแต่ละคนสูงฉิบหาย”โต้บอกก็จริงของเขาครับ
“โต้ทำไมต้องมีฉิบหายด้วยล่ะ5555” ผมหัวเราะที่โต้พูด
“เฮ้ยไอ้บอล รอบนี้แกมาแปลกว่ะดูแกร่าเริงกว่าเดิมว่ะ”
“เหรอเมื่อก่อนเราเป็นไงหรอ”ผมยังขำๆอยู่“ก็เมื่อก่อนแกดูเหงาเศร้าซึมไม่หัวเราะไม่ยิ้มแต่เป็นอย่างนี้ก็ดีแล้วเราจะได้ไม่ห่วงนาย จะได้ไม่เปลืองปากคอยถามว่าเป็นอะไร”ผมก็แปลกเหมือนกันว่าอะไรที่ทำให้ผมได้รับคำชมจากเพื่อนในวันนี้ พออาจารย์เดินเข้ามาผมกับโต้ก็ต้องหยุดเสวนากันตั้งใจเรียนขณะเรียนสมองผมก็หวนคิดเรื่องพี่กอร์ฟขึ้นมาที่พี่กอร์ฟว่าผมเรียนไม่เก่งเรียนแย่มันทำให้ผมอยากตั้งใจเรียนมากขึ้นเอาล่ะผมบอกตัวเองว่าต่อไปนี้บอลจะเป็นบอลคนใหม่ให้ได้แล้วผมก็ต้องตกใจเมื่ออาจารย์เรียกชื่อผม
“ชนานนท์” “ครับอาจารย์”
“ตั้งใจเรียนนะครับ” อาจารย์เดินมาแล้วก็มาลูบหัวผมอย่างเอ็นดูผมต้องมองหน้าอาจารย์ด้วยความแปลกใจว่าอะไรทำให้อาจารย์คนนี้เปลี่ยนไปเมื่อก่อนแกชอบดุด่าผมแกชอบว่าผมเสมอว่าหน้าตาก็ดี้ดีแต่การเรียนสู้ไอ้ตลกสายันไม่ได้เลยแต่วันนี้ผมได้รับคำสั่งอันเมตตา
“ว่าไงชนานนท์จะตั้งใจเรียนไหม”อาจารย์ทวนคำถามเมื่อดูผมยังไม่ตอบ
“ครับ ผมจะตั้งใจเรียน”ผมต้องน้ำตาซึมมันปราบปรื้มที่มีคนหวังดีต่อผมผมพึ่งรู้ก็วันนี้ว่าอำนาจแห่งความห่วงใยจากคนที่เราไม่คุ้นเคยหรือคนที่ไม่ถูกกับเราเวลาที่เขามอบความห่วงใยให้หรือความเมตตามันทำให้เราอึ้งน้ำตาไหลได้เหมือนกันครับ
“ชนานนท์” “ครับ”“ไม่มีอะไรที่คนเราทำไม่ได้นะเธอเก่งหลายอย่างแล้ว อย่างเล่นฟุตบอลโรงเรียนเราถ้าไม่มีเธอก็ขายหน้าเขาแพ้แล้วแพ้อีกเหมือนที่ผ่านมายังเหลืออีกหลายอย่างที่เธอต้องเจอในวันหน้าเธอต้องเอาอดีตมาเป็นครูแล้วอดทนกับสิ่งนั้นมันไม่มีอะไรยากหรอกเหมือนเธอเตะฟุตบอลบางทีทีมคู่ต่อสู้เก่งมากๆเธอยังหาทางเอาชนะเขาจนได้การเรียนก็เหมือนกันถ้าเธอลองคิดจะเอาชนะเหมือนแข่งกีฬาสิรับรองเธอต้องแตงฉานและเอาชนะมันได้แน่นอน”
“ครับขอบคุณอาจารย์มากครับ” คติที่สองที่สอนผมให้ต่อสู้ (ท่านผู้อ่านทุกคนก็ให้กำลังใจผมท่านรู้ไหมว่าคำพูดหรือข้อเขียนที่ท่านกลั่นกรองออกจากใจท่านผมได้รับมันและเสียงของท่านที่อวยพรผมให้กำลังใจผม มันก็ยังกึกก้องอยู่ในใจของผมเคียงคู่ไปกับคำที่พี่กอร์ฟพูดและอาจารย์พูดมันมีค่ามากสำหรับผมท่านผู้อ่านครับ ผมขอให้ท่านจงนำความเมตตาของท่านไปมอบไปส่งให้คนที่เขากำลังสับสน สิ้นหวังผมรับรองเลยว่าแรงแห่งความห่วงใยความเมตตามันมีอำนาจชุบชีวิตคนคนนั้นให้กลับมามีชีวิตที่มีค่าอีกครั้งมันเป็นสิ่งที่มีค่ามากซะกว่าการรักษาบำบัดด้วยยาหรือวัตถุต่างๆผมมองสิ่งนี้ว่ามันเป็นยาวิเศษผมก็ตั้งใจเรียนจนออดดังพักเที่ยง ผมก็ไปขออาจารย์ที่ประจำหน้าประตูโรงเรียนคอยดูคนเข้าออกหน้าผมโชคดีที่ท่านเข้าใจยอมให้ผมไป“อย่ามาสายนะต้องทันเข้าเรียนถ้าเธอมาสายอาจารย์จะช่วยเธอไม่ได้”
“ขอบคุณครับผมจะมาให้ทันครับ”ผมก็รีบวิ่งจากโรงเรียนไปโรงพยาบาลประมาณสองกิโลกว่าแล้วก็รับเอาอาหารจากแม่ค้าที่คุณแม่ท่านสั่งไว้ทุกวันที่ผมต้องวิ่งก็เพราะกว่าที่จะรอรถรอบเมืองแล้วไปลงที่โรงพยาบาล ผมวิ่งไปเร็วกว่าอีก“บอลนายวิ่งมาหรือ”
“อือ”
“ทำไมต้องวิ่งด้วยล่ะขี่รถก็ได้นี่”
“ไม่เป็นไรหรอกออกกำลังกาย”
“มันลำบากนะบอลเราว่านายอย่ามาเลยให้พยาบาลเขาป้อนข้าวเราดีกว่า”
“ไม่เอาบอลจะมาไม่ต้องพูดกินเร็วเข้าเดี๋ยวไม่ทันเรียนภาคบ่าย” ผมก็ยิ้มพูดบังคับเบนซ์ไม่อยากให้เขาพูดอีก
“บอลแล้วนายไมกินหรอ”
“เรากินแล้ว” ผมจำต้องโกหกอีกโชคดีที่ห้องนี้ไม่มีนาฬิกา
“บอล เบนซ์ถามหมอแล้วนะ”
“เรื่องอะไร”
“เรื่องเล่นเสียว”
“หมอว่าไงล่ะ”
“หมอบอกว่าได้แต่อย่าบ่อยนัก หมอว่าร่างกายเราแข็งแรงอยู่ถึงหลั่งน้ำได้”เบนซ์ทำท่าดีใจถ้าหากเขาขยับแขนได้คงกอดผมแล้วล่ะผมเลยไปกอดเขาก่อนหอมแก้มด้วย
“เบนซ์ นายโคตรหน้าด้านเลยว่ะกล้าถามหมอ”
“ก็ไม่อยากให้นายขัดใจเราไง”
“คร้าบต่อไปบอลจะไม่ขัดใจเบนซ์อีกนะ”ป้อนข้าวเสร็จก็ไปเรียนต่อ เวลาชั่วโมงหนึ่งผมทำเวลาได้ทุกครั้ง ตอนเย็นผมก็กลับบ้านเช่าหาข้าวปลาทานอาบน้ำ ซักผ้าเสร็จก็มานอนอยู่กับเบนซ์ผมทำอย่างนี้มาเกือบเดือนแล้วมีอยู่วันหนึ่งที่ผมวิ่งไปที่โรงพยาบาลแล้วฝนตกฝนตกอย่างหนักมากครับผมวิ่งร้องไห้ท่ามกลางสายฝนตั้งแต่โรงเรียนถึงโรงพยาบาลไปเอากับข้าวกับแม่ค้าพอจะวิ่งข้ามถนนไปโรงพยาบาลรถก็เฉียดผมผมล้มลงกลางถนนข้าวต้มที่ผมถือในมือกระแทกกับพื้นถนนจนแตกจากนั้นเสียงด่าจากคนใช้ถนนเขาก็ด่าว่าโง่ ผมไม่โกธรเขาหรอกครับผมไม่ดูให้ดีเองผมรีบลุกจับเอาอาหารที่ตกอยู่กับพื้นเอาส่วนที่มันไม่หกออกจากถุง แล้วรีบลุกขึ้นวิ่งต่อไปผมเกลียดฝนวันนี้ที่สุด“บอลนายเปียกหมดเลย” เสียงเบนซ์พูดแบบสั่นๆเบนซ์คงห่วงผม“บอลนายโดนรถชนหรือ”
“เปล่านะเราหกล้ม”ผมหลอกเบนซ์
“แล้วนี่รอยอะไรหรือ” เบนซ์ชี้ใส่ที่หัวเข่าแขนที่เป็นแผลถลอกเสื้อกับกางเกงที่เป็นรอยขาดจะไม่ขาดได้ไงล่ะตัวผมลื่ไปกับถนนถ้ารถอีกคับเขาเบรกไม่ทันผมอาจจะตายก็ได้
“ก็หกล้มไงกินข้าวก่อนนะ”ผมก็เอาถุงข้าวต้มที่แตกใส่ถ้วยผมมาคิดเสียดายที่ผมไม่ยอมไปซื้อเอามาใหม่“อาหารวันนี้ไม่อร่อยนะเบนซ์” ผมบอกเบนซ์ตามตรงเพราะชิ้นเนื้อมันกระเด็นออกหมดเลย ผมตักข้าวต้มป้อนเบนซ์อยู่ๆเบนซ์ก็ร้องไห้สะอึกสะอื้นขึ้นมา
“เบนซ์อาหารไม่อร่อยหรือ”ผมไม่ทนที่จะบังคับน้ำตาได้
“เปล่าอร่อยมากเลย”
“แล้วร้องไห้ทำไม”
“บอลก็ร้องไห้ร้องทำไมล่ะ”
“เปล่าซะหน่อยเราไม่ได้ร้องน้ำฝนเข้าตาตางหากตาเลยแดง” ผมต้องรีบเอามือเช็ดน้ำตาทำลายหลักฐานแต่เบนซ์ไม่ยอมหยุดร้อง
“เบนซ์ไม่ร้องนะเราตกลงกันแล้วไงว่าจะเข้มแข็ง”
“ดูตัวนายดิ เลือดไหลแล้ว” เบนซ์คงสงสารผมแต่ผมก็หาเรื่องกลบเกลื่อนผมเช็ดน้ำตาแล้วคุยเรื่องสนุกเบนซ์ก็หยุดร้อง
“เบนซ์นายอย่าเป็นแบบนี้อีกนะ”
“ทำไม”
“ไม่ว่าเราจะเหนื่อยหรือจะเจ็บแค่ไหนเราก็ยินดีเราทำเพื่อคนที่เรารัก นายต้องตอบแทนเราด้วยการที่นายต้องหายแล้วเรากลับมาเป็นเหมือนเดิมอีกครั้ง”
“ได้เราจะรีบหายแล้วเราจะทำเพื่อนายบ้าง”
“ต่อไปเราสองคนต้องไม่ร้องไห้เราต้องเข้มแข็งรู้ไหม”
“ตกลง”ผมเชื่อสายตาของเบนซ์ว่าเบนซ์ต้องทำได้
“เราไปเรียนนะ”
“ไม่ฉีดยาก่อนหรือ” “ไม่เป็นไรหรอกเจ็บกว่านี้ก็เจอมาแล้วไม่เห็นเป็นไรเลย”
ผมก็เดินออกจากโรงพยาบาล วิ่งต่อไปดีนะที่ฝนหยุดแล้วผมร้องไห้ตลอดทางบอกเบนซ์ไม่ไห้ร้องแต่ผมก็ห้ามน้ำตาไม่ได้ เออน้ำตามันอาจจะเป็นเพื่อนที่ดีของผมก็ได้เพราะทุกครั้งที่ร้องไห้หยุดเมื่อไหร่ก็สบายใจได้ทุกครั้งไปถึงโรงเรียนเพือนๆก็รุมถามว่าไปโดนอะไรมาผมก็โกหกเขาว่าหกล้ม พอใกล้จะเลิกเรียนผมเริ่มเจ็บมากครับเดินกลับบ้านแทบไม่ไหวเลยแต่ผมก็ต้องไหวผมกลับบ้านไปทำกิจของผมเรียบร้อยผมก็มานอนกับเบนซ์พ่อแม่จะมาทุกเย็นผมไม่ค่อยสบายผมจึงหลับอยู่ข้างๆเตียงของเบนซ์ตื่นมาอีกทีก็แม่ปลุกให้ตื่น
“บอล ลูกต้องไปฉีดยานะลูก”ผมงัวเงียมาผมก็ต้องเดินตามพ่อกับแม่ที่จูงแขนผมแต่สุดท้ายผมก็เข่าอ่อนโดนพ่ออุ้มผมรู้สึกตัวอยู่นะครับแต่ไม่อยากพูดขัดท่าน มันรู้สึกไม่มีแรงจะทำอะไรเลยผมเห็นท่านทั้งสองร้องไห้ท่านคุยกับคุณหมอว่า ไม่รู้ว่าผมโดนรถชนแต่ได้ยินมาจากแม่ค้าเพราะแม่ไปจ่ายค่าอาหารพอดี
“คุณครับเด็กคนนี้วิ่งมาทุกวัน แกขยันดีนะนอนพักสักครู่ก็คงหายจากพิษไข้ครับ”
ผมก็สบายใจเพราะพรุ่งนี้เป็นวันเสาร์ผมคิดในใจว่าผมเป็นไข้หรือนี่แล้วก็หลับไม่รู้เรื่องอะไรเลยมันเพลียไปทั้งตัวตาก็ไม่อยากลืมมารู้สึกตัวตอนเช้าเพราะเบนซ์ปลุกผม
“บอล บอล ตื่นหรือยังน้อ”
“เบนซ์ให้บอลนอนสิลูกให้บอลพักผ่อนบ้าง”
“เบนซ์อ้าวบอลมานอนนี่ได้ไง”ผมงงมากครับเมื่อลืมตามาเห็นตัวเองนอนที่เตียงคนไข้
“บอลลูกเป็นไข้นะลูกแม่เอาข้าวมาป้อนลูกแล้วทานยาจะได้หายเร็วๆ”
พ่อจูบที่หน้าผากผมแล้วแม่ก็มาป้อนข้าวแล้วสิ่งที่ผมต้องแปลกใจมากที่สุดคือมือของเบนซ์มาจับที่แก้มผม
“เบนซ์แขนเบนซ์หายแล้ว”ผมดีใจที่สุด
“ใช่เบนซ์หายแล้วนะ”
“กิน ข้าวก่อนลูกแล้วค่อยคุยกันเออบอลพี่กอร์ฟโทรมาพรุ่งนี้พี่เขาจะเดินทางมา เรื่องบ้านของบอล” ผมไม่ตอบเพราะผมดีใจเรื่องที่เบนซ์มีอาการดีขึ้นแต่ผมลุกไม่ขึ้นเพราะมันยังเจ็บตามตัวอยู่มาก
“บอลอีกไม่กี่วันเบนซ์ก็จะได้ออกจากโรงพยาบาลแล้วนะลูก”
“จริงหรอครับ”
“จริงสิลูกแล้วเบนซ์เดินได้บ้างแล้วหมอพึ่งจะผ่าเอาเผือกออกตะกี้เนี่ย” แม่พูดคงดีใจเหมือนผม
--------------------- จบตอนที่ 23 --------------------
ขอบคุณครับ ขอบคุณครับ ขอบคุณครับ ขอบคุณครับ เย้
ขอบคุณคับ ขอบคุณมากครับ ขอบคุณมากครับ บ้านใหม่ งานใหม่ ชีวิตใหม่
น้องเดย์เปิดตัวแล้ว
คิดถึงครับ ขอบคุณครับ ขอบคุณครับบ ขอบคุณครับ. ขอบคุณครับ ขอบคุณครับ
ขอบคุณครับ ขอบคุณมากครับ ขอบคุณครับ ยิ่งอ่านยิ่งเพลินอ่ะ มาเล่ามาเร็ว ๆ นะ ขอบคุณครับ
หน้า:
[1]
2